ปัญหาการมีอยู่จริงของพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาฮินดู

..... คุณ sirius galaxy คุณน่าจะรู้นะว่า พระพุทธเจ้าก็ดี พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี พระธรรมและพระอริยสงฆ์ก็ดี เป็นของสูงไม่ควรล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ หรือด้วยประการใดๆ ทั้งมีเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ตาม เพราะกรรมนี้จะตามติดคุณเหมือนเงาตามตัวทุกภพชาติ และถ้าคุณปรารถนาพุทธภูมิ ถ้าคุณตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ในศาสนาคุณจะเต็มไปด้วยเดียรถีย์ เหมือนในปัจจุบันนี้ ต่อให้เป็นวิริยาธิกะก็ตาม การไม่คบคนพาล การเข้าไปหาสนทนากับบัณฑิตผู้เชื่อกรรมและผลของกรรม การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา ๓ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด การศึกษาใดๆ ที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อการสร้างพระโพธิญาณ อย่าปรารถนาในการเล่าเรียนเลย แต่สิ่งใดจักเพิ่มพูนบารมี ๑๐ ให้งอกงามก็จงหมั่นทำดูในมงคล ๓๘ นั่นแหละทางของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายควรดำเนินตาม แม้จะเป็นการเริ่มต้นของการปรารถนาพุทธภูมิ ถ้าเดินตรงทาง เดินถูกทาง การบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศก็จะเต็มเร็ว ไม่เนิ่นช้า

 

ก็ให้มั่นฝึกสมาธิบ่อยๆ
มีวสีการเข้าฌาณ ประคองฌาณ และออกฌาณ
ตัดนิวรณ์ห้า ลดความสงสัยในการปฏิบัติ
แต่ทุกอย่างก็ต้องอาศัยปัญญา ไม่ใช่สักแต่ใช้คุณวิเศษ

 

พระโพธิญาณ คืออะไรหรือท่าน
แล้วที่บอกว่า โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ
สองอันนี้ มันแตกต่างกันอย่างไรหรือละท่าน

พอดีใจใฝ่พระโพธิสัตว์ อยากเดินทางสายนี้
ขอให้ท่านเมตตา ชี้แนะด้วยเถอะนะท่าน
หากมีประสบการณ์ตรง ก็โปรดเล่าสู่กันฟังด้วยนะขอรับ

 

อั่น.ที่ว่าว.ว่า..ฌาณ..อั่นนี้..บ่.

 

แล้วจะทำอย่างไรถึงจะรู้ได้ว่านิมิตรที่ปรากฏนั้นจริงหรือไม่จริงครับ

 

ว่าวหลายเด้่อ
ชอบหลาย มีให้บ่
ของข้อยก็มี เอาไปบูชาบ่

 

นิมิต ปลอม จินตนาการเอาเอง
นิมิต แท้ ไม่ได้จินตนาการ เกิดขึ้นเอง ด้วยอำนาจจิต
จิตเป็นธาตุรู้ มีคุณวิเศษ เป็นอมตะ เด้อ

 

..อื๊มมมมมม ขอบคุณท่านที่ถามกระผม แสดงว่าท่านไม่ใช่คนที่ค้านอะไรจนหัวชนฝา..

 

แม้ ปากหวานเชียว
ยินดีให้คำปรึกษานะจ๊ะ ฟินเลยเรา

 

..ถ้าหากจะว่า"ไม่ใช่จำเขามา"เห็นทีก้อคงจะไม่ได้หรอกนะ เราก้อต้องมีครูบาจารย์เป็นต้นแบบบอกสอน เป็นที่ประพฤติปฎิบัติตาม จะมองข้ามท่านไปก้อไม่ได้ เพราะเรามิไม่ได้เป็นผู้คิดเองได้ตั้งแต่เริ่มแรก เราก้อต้องยกย่องเทิดทูนให้เครดิตความสำคัญกับท่านนะคร๊าบบบบบ.. เอาหล่ะ ๆ ผมจะพูดในส่วนที่ผมรู้และเข้าใจ และมั่นใจ และเป็นส่วนที่เกิดกับกระผมแบบไม่ได้จำเค้ามาอย่างท่านว่า

 

..มันก้อต้องอวยกันหน่อยยยย เด๊ี๋ยวจาาาว่าเราไม่อ่อนน้อมยินดีต่อกันเลยยยน่ะท่าน.. 555+

 

ยินดี รับฟังครับ
ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน
ไม่มีผิด ไม่มีถูก
มีแต่ขอแสดงความเห็น ข้อวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประมวลผล
เชิงตรรกะ ไม่เชื่องมงาย หรือศรัทธาอย่างไร้เหตุผล

 

..ฌานนั้นเป็นอุบายที่ทำให้จิตสงบเป็นสุข บางท่านว่าคือการเพ่งมองดูนิมิตเพื่อหวังความสงบเพียงอย่างเดียว โดยมิได้ใช้ปัญญาประกอบพิจารนาเพื่อความสงบด้วย ทำภาวนาเพ่งมองเพียงเพื่อหวังความสงบสุขปิติอย่างเดียว จิตยินดีพอใจชอบใจในนิมิตหรือคำบริกรรมภาวนานั้นๆ สงบสุขรวมเป็นหนึ่งแน่วแน่อยู่ในอารมณ์ของฌาน พูดง่าย เป็นสมถกรรมฐานหวังความสงบใจเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ใช้ปัญญญาพิจารนาไตรลักษณ์"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"..

 

เรียบเรียงให้ใหม่
ฌาน เป็นสมถะ เป็นกำัลัง เพื่อความสงบ นิ่ง และว่าง
นิมิต บริกรรม หรือท่องบ่น และการเพ่ง เป็นการเตรียมในขั้นตอนเจริญสมาธิ ก่อนเข้าสู่องค์สมาธิ อ่อน กลาง แก่
การภาวนา มี 3 ลักษณะ 1) สติภาวนา 2) สมาธิภาวนา และ 3) ปัญญาภาวนา
องค์สมาธิ ประกอบด้วย องค์ฌาน 1 - 4 ฌานสมาบัติ (5 - 8)
องค์ฌาน ผ่าน วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอกคตา และอุเบกขา
เวลาเข้าองค์ฌาน อินให้มาก ตีบทให้แตก ที่เรียกว่า จิตจด จิตเคล้าในอารมณ์
จิตมีปิติ จิตมีสุข จิตเป็นหนึ่งเดียว แล้วไปตัดที่อุเบกขา (รับรู้ได้แต่เฉยๆ)
วัตถุประัสงค์ของการเจริญกรรมฐาน ก็เพื่อ เป็นกำลังและเป็นบาทให้กับวิปัสสนา
ไตรลักษณ์ อยู่ในปัญญาภาวนา รวมถึงการเห็นอริยะสัจสี่ เข้ากระแสพระพุทธเจ้าได้
จะต้องเห็นอริยะสัจสี่เต็มกำลังแล้ว

ค่อยๆ สรุปรวบยอดอีกครั้ง

 

..ส่วน"ญาณ"นั้นแตกต่างจาก"ฌาน"คือ ญาณ คือ ปัญญาความรู้เห็นเข้าในสัจจะธรรม รู้ผิด รู้ถูก รู้ควร รู้ไม่ควร รู้จักกรรม ผลของกรรม รู้จักความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ หาที่พึ่งอันแท้จริงไม่ได้ในโลกนี้ รู้จักหนทางวิธีที่จะทำให้ผ่อนคลายบรรเทาจากและพ้นจากทุกข์ทั้งปวงไปได้ แม้มิได้"ฌาน"บุคคลก้อสามารถมี"ปัญญาญาณ"ได้ คือมี"สัมมาทิฐิ"ความเห็นชอบอันถูกต้องนี้ก้อจัดว่าเป็น"ปัญญาญาณ"อย่างหนึ่ง แต่อาจจะละเอียดหนักแน่นต่างกันตามกำลังของแต่ละบุคคล แต่หากว่าบุคคลนั้น มีทั้งฌาน+ญาน โอโฮ!!!!!! บุคคลนั้นดังเสือติดปีก มองอะไรไปเข้าใจโหม๊ดดดดด มีทั้งฤทธิ์ มีทั้งปัญญา 555+ ทั้งยังจะพอกเพิ่มพูน ด้วยทั้งสองสิ่งอุดหนุนส่งเสริมกัน 555+ หายากหว่ะ..

 

..อื้มมมมมม สาธุ สาธุ.. พูดได้ไม่ผิดเลยยยยย (อวยกันหน่อยยยยยย 555+) ไม่ธรรมดา

 

อั่น..ที่ว่าว..เข้า.ประคอง.ออก.อาศัยอั่นนี่บ่.

 

อ้าว มวยจบไปซะแล้วหรือนี่?..
ว่าแต่สงสัยว่าทำไมนิมิตแต่จะคนแต่ละครูบาอาจารย์(น่าจะปุถุชน) ไม่ค่อยจะตรงกันสักเท่าไหร่ อันไหนจริงอันไหนคลาดเคลื่อนก็ไม่อาจจะไปแยกแยะได้เลย..

 

เอาแค่ในศาสนาฮินดู เรื่องราว ชีวประวัติของเทพ ยังมีได้หลายแบบ

แต่ความจริงแท้มี 1 เดียว แสดงว่า สร้างขึ้นมาเองหรือเปล่า

 

..เฮ้้ เฮ้ เฮ้ อันนี้มันไม่เคลียร์และไม่ใช่หว่ะ 555+ ทฎษฎีอมีบา จิตแบ่งตัว 555+ รีบ รีบ มาเคลียร์ 555+..