สุดยอดการ์ตูนพระพุทธศาสนา(ยิ่งใหญ่กว่าภาคแรก) แห่งปี 2014 จากผู้สร้าง onepiece/dragonball/pokemon/digimon/gundam

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย ญี่ปุ่น, 28 พฤษภาคม 2013.

  1. ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +564
    หวังว่าภาค 2นี้คงได้ฉายในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบนะครับ ขอให้ผู้หลักผุ้ใหญ่มีจิตใจเปิดกว้างอนุญาตนำมาฉายอย่างเป็นทางการ เพื่อพี่ๆน้องๆลูกๆหลานไทยจะได้รับชมการ์ตูนที่ดีบ้าง
    http://www.digitaljournal.com/img/4/5/4/4/9/2/i/1/4/9/o/buddha2.jpg

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=VH4UqY1wWLc]Osamu Tezuka's Buddha 2 Movie - English Subbed Trailer - YouTube[/ame]
     
  2. coool

    coool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +455
    ไม่เรียกว่า "สุดยอดการ์ตูนพระพุทธศาสนา" เพราะเนื้อหาบางส่วนยังมั่ว ไม่อิงด้านพุทธประวัติและคำสอน ถ้าดูสนุกเอามันส์ผมไม่เถียง เพราะผมดูการ์ตูนแนว onepiece/dragonball มาตั้งแต่เด็กบอกได้เลยว่าการ์ตูนเหล่านี้สนุกเท่านั้น ที่สำคัญ ต่อไปในอนาคตข้างหน้าพุทธศาสนาจะถูกบิดเบือนไปทีละน้อยเพราะการ์ตูนเหล่านี้
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
  4. ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +564
    ขอให้เปิดกว้า่งทางความคิดนะครับถ้าคุณคิดแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ ไม่มีใครเค้าเกิดทันหรอกครับประวัติพุทธกาลอาจเป็นไปได้ทั้งนั้น ขอยกตัวอย่างนะครับ เอาแค่ตัวอย่างเดียว เจ้าชายสิทธิถัตถัทธะ อาจจะมีแฟนเป็นจอมโจรเพื่อเป็นคนคอยคุ้มครองพระพุทธเจ้าก็เป็นได้ เพราะสมียก่อนอันตรายเยอะ อีกอย่างผมว่าเป็นสุดยอดแล้วละครับ ตั้งแต่ทำมาผมว่าาเวอรชั่นนี้สนุกสุดประทเศไหนทำออกมาก็ไม่เวริ์กรวมทั้งไทยด้วย เพราะคือการ์ตูน ผมแล้วละที่สุดยอด การที่บอกว่าเนื้อหาบิดเบือน ถ้าคิดแบบนี้จิตใจไม่เปิดกว้างไม่เป็นไปในแนวทางพุทธครับ คนไทยคิดแบบนี้ยังไงครับไม่ยอมรับมิติใหม่ถึงไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควรทำให้เจริญช้าต้องมีจิตใจเปิดกว้างและเสรีถึงจะพัฒนาได้ ไม่ใช่ยึดติดกรอบเดิมๆ ไม่ใช่ว่าให้ไปให้ความสำคัญกับสิ่งไม่ดีใหม่ๆไม่ใช่ แต่เป้นสิ่งที่ดีใหม่ๆควรมีจิตใจเปิดกว้างครับ ใครคิดได้ไม่ได้ก็แล้วแต่บุญกรรมนะครับ ขออนุโมธนาสาธุ ครับ ^^ นี้พูดกัยแบบตรงๆแบบเสรีเลยครับ ^_____^
     
  5. ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +564
    เสริมนิดหนึ่งนะครับ สิ่งที่บิดเบือนตอนนี้ของพระพุทธศาสนาในไทยมีอยู่มากและมากกว่านี้ด้วยครับ ผมว่านะถ้าเปรียบพระพุทธศาสนาก็คล้ายกับพระจันทร์ในยามค่ำคืน ที่ส่องสว่าง ลงมา เมื่อ เราพบแหล่งน้ำ บนพื้นผิว หลายแหล่งเราจะเห็นภาพสะท้อนจากพระจันทร์นี้เช่นกัน ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ก็เปรียบเหมือน ภาพสะท้อนของพระจันทร์

    จงอย่ายึดติดในสิ่งที่ได้รัับการปลุกฟังในสิ่งที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เกิด จงเปิดใจกว้างและจะเข้าใจความจริงด้วยตนเอง
     
  6. ติชด๋าวเถื่อง

    ติชด๋าวเถื่อง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +61
    ครับ เข้าไม่ได้บิดเบียนหรอกครับ แต่เข้าสร้างตามความเข้าใจหรือตามคัมภีร์พระไตรปิฏกของเขาครับ เพราะพุทธประวัติ แต่ละประเทศต่างกันเยอะครับ เช่นของอินเดียก็ออกแนวธรรมดา ของไทยอิทธิฤทธิ์เยอะหน่อย และของพวกมหายานก็มีตัวประกอบมากมาย เช่น มีโพธิ์สัตวืเยอะหน่อย เทวดามากหน่อย วันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานก็ไม่ตรงกันครับ แต่ทุกชาติทุกนิกาย ก็แสดงให้เห็นเหมือนกันก็คือ ความเป็นมหาบุรุษ มหาศาสดาผู้หมดกิเลส เหมือนกับทุกฉบับครับ
     
  7. coool

    coool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +455
    ก็มีจำพวกบัวใต้น้ำอย่างคุณไง พุทธศาสนาถึงได้บิดเบือนไปทีละนิด ปากก็บอกว่าใจแคบไม่เปิดกว้างทางความคิดทำให้โลกไม่พัฒนา พูดเหมือนเป็นสูตรสำเร็จสำหรับการแย้งที่ไร้เหตุผล ถ้าเปิดรับความคิดแบบผิดๆ เอาสีข้างเข้าถูอย่างคุณ อนาคตข้างหน้าสิ่งที่เราเรียนรู้จากพระไตรปิฎกทั้งสามหมวดคงไม่มีความหมาย ไม่เช่นนั้นพระมหากัสสปคงไม่ทำสังคยานาครั้งแรก คงไว้ซึ่งพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า เพื่อธำรงรักษาพระธรรมวินัยเอาไว้ไม่ให้สูญหายหรือวิปลาสคลาดเคลื่อนไป วันนี้คุณอาจดูการ์ตูนเรื่องนี้เป็นสุดยอดสำหรับโอตาคุอย่างคุณ แต่อนาคตอีก20-30 ปีจากนี้ไปละ เด็กๆจะซึมซับสิ่งที่บิดเบือนทีละน้อยจนคิดว่าเป็นจริงเพราะคนโบราณก่อนหน้านั้นสร้างเอาไว้คงเป็นไปอย่างนั้นจริงๆ คุณคงไม่มีโอกาสกลับจากขุมนรกขึ้นมาแก้ไขอะไรได้แล้ว ที่ผมกล่าวไว้หากคุณไม่เข้าใจก็สุดแต่บุญกรรมของคุณเช่นเดียวกันหวังว่าจะเห็นแจ้งธรรมะบ้าง (ผมก็กล่าวตรงๆ แบบเสรีเหมือนกัน ) ผมจะคัดลอกเนื้อความบางตอนของปฐมเหตุแห่งการสังคยนามาให้อ่าน

    "พระมหากัสสปเถระได้ทราบข่าวปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วได้ 7 วัน ขณะที่ท่านกำลังเดินทางอยู่ ณ เมืองปาวาพร้อมด้วยหมู่ศิษย์จำนวนมาก เมื่อได้ทราบข่าวนั้น เหล่าศิษย์ของพระมหากัสสปะซึ่งยังเป็นปุถุชนอยู่ ได้ร้องไห้คร่ำครวญกัน ณ ที่นั้น จึงมีพระภิกษุบวชเมื่อแก่องค์หนึ่ง ชื่อว่าสุภัททะ ได้กล่าวขึ้นว่า "หยุดเถิด หยุดเถิด ท่านอย่าร่ำไรไปเลย พระสมณะ นั้นพ้น (ปรินิพพาน) แล้ว เราจะทำอะไรก็ได้ตามพอใจ ไม่ต้อง เกรงบัญชาใคร" พระมหากัสสปะได้ฟังเช่นนั้น คิดจะทำนิคคหกรรม (ทำโทษ) แต่เห็นว่ายังมิควรก่อน และดำริขึ้นว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานเพียง 7 วัน ก็มีผู้คิดที่จะทำให้เกิดความแปรปรวน หรือประพฤติปฏิบัติให้วิปริตไปจากพระธรรมวินัยเช่นนี้ จึงควรจะทำการสังคายนาและจะชักชวนพระเถระผู้เป็นพระอรหันต์ทั้งหลาย ซึ่งล้วนทันเห็นพระพุทธเจ้า ได้ฟังคำสอนของพระองค์มาโดยตรง เป็นผู้รู้คำสอนของพระพุทธเจ้า และได้อยู่ในหมู่สาวกที่เคยสนทนาตรวจสอบกันอยู่เสมอ รู้ว่าสิ่งใดที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้มาประชุมกัน เพื่อช่วยกันแสดง ถ่ายทอด รวบรวม ประมวลคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วตกลงวางมติไว้ จากนั้นท่านจึงเดินทางไปยังเมืองกุสินาราเพื่อเป็นประธานในการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ

    การทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ 1 จึงได้จัดขึ้นที่ถ้ำสัตบรรณคูหา เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ตามคำปรารภของพระมหากัสสปเถระ โดยมีพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นองค์อุปถัมภ์ ใช้เวลาในการสังคายนารวบรวมพระธรรมวินัยอยู่ 7 เดือนจึงแล้วเสร็จ โดยในครั้งนั้น พระมหากัสสปเถระเป็นประธานทำสังคายนา พระอานนท์เป็นองค์วิสัชชนาแสดงพระธรรมวินัยในหมวดพระสุตตันตปิฎก (ธรรมเทศนา) และ พระอภิธรรมปิฎก (คำสอน) พระอุบาลีเถระ เป็นองค์วิสัชชนาพระวินัยปิฎก ซึ่งแนวการวางระเบียบพระธรรมวินัยในครั้งนั้นจัดเป็นรูปแบบที่เรียกว่า พระไตรปิฎก และยังคงมีการรักษาสิ่งที่ได้จัดรวบรวมในครั้งปฐมสังคายนาอยู่ในพระไตรปิฎกฉบับเถรวาทโดยไม่มีการปรับแก้มาจนปัจจุบัน "
     
  8. Artorius

    Artorius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +313
    coool ถูกต้องแล้ว ตามนั้น ในกรอบนอกกรอบ ต้องขึ้นอยู่กับความถูกต้อง ความจริงเป็นพื้น ไม่ใช่มีไว้แอบอ้างเพื่อสนองความคิดความต้องการของตัวเอง
     
  9. phataravudh

    phataravudh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +2,440
    เอาศาสนามาหากิน
     
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ในการ์ตูนดิฉันว่าเขาคงจะอิงจาก พระไตรปิฏกฉบับของอินเดีย เพราะพระพุทธเจ้าตาสีเขียวด้วย ซึ่งตรงตามแปลบาลี คำว่าเนตรสีนีลละ ภาษา อินเดีย แปลว่า ตาสีฟ้าหรือสีเขียว แต่ไทยเรามาแปลเป็นสีดำ จะรอดูท่าทางจะสนุก คงทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องพระพุทธประวัติอย่างคร่าวๆได้ไม่มากก็น้อย


    คนที่ไปว่าเขาเนี้ย พูดอย่างกับตัวเองเกิดยุคพุทธกาลมาแล้วอย่างนั้น ไดู้การ์ตูนเรื่องนี้จนจบแล้วหรือยังจึงมาวิจารณ์ ในโลกนี้มีคนมากมายที่ไม่รู้จักเคยได้ยิน แม้กระทั้งว่าศาสนาพุทธคืออะไร ก็ไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ คนพวกนั้นคงไม่มีโอกาสมานั่งอ่านพระไตรปิฏกกระมัง ต่การ์ตูนเรื่องนี้แหละจะทำให้คนมากมายรู้จักศาสนาพุทธขึ้นมาบ้าง พูดจาเหมือนอิสลาม ถ้าศาสนามีการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาก็จะไม่่ใช่ศาสนาเดิม ใครจะไปรู้อนาคต บางทีคนเราอาจจะย้าไปอยู่ดาวอื่น และอาจจะมีศาสนาใหม่ ในวันนั้น ไม่ใช่สิทธิ์ อะไรสำหรับพวกเรายุคนี้จะไปตัดสินว่าคนยุคนั้นจะเข้าใจศาสนาพุทธถูกต้องตามสมัยพุทธกาลหรือไม่ หน้าที่ ของเราคือกาไปนิพพาน ส่วนลูกหลานอีกร้อยปีพันปีข้างหน้าก็ต้องปล่อยให้ไปตามกรรมและวาระของแต่ละสรรพสัตว์เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2013
  11. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    ปัจฉิมโอวาท

    คำสอนครั้งสุดท้าย หมายถึง ปัฉิมวาจา คือ พระดำรัสสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนจะปรินิพพานว่า "วยธมฺมา สงฺยารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ" แปลว่า "สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดาท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ ตนและประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด"
     

แชร์หน้านี้

Loading...