เตือนเรื่อง โรคระบาด !!!!!!!!!!!! - โรคที่อาจมาหลังน้ำท่วม

เตือนระวังท้องเสียจากแบคทีเรีย ตายแล้ว2

โดยทีมข่าว INN News 21 ตุลาคม 2550 15:37:44 น.





ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคท้องร่วงอย่างรุนแรง จากเชื้อแบคทีเรีย “เอลธอร์ โอกาว่า”

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมคณะ เดินทางติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอุจจาระร่วงอย่างแรง ของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งพบผู้ป่วยในปีนี้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยได้เยี่ยมอาการของผู้ป่วยที่นอนรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น 3 ราย ซึ่งรักษาหายแล้วแต่อยู่โรงพยาบาลต่อ เนื่องจากมีโรคประจำตัว และเดินทางไปตรวจเยี่ยม ต.บึงเนียม อ.เมือง ซึ่งพบผู้ป่วย 7 ราย และตรวจเยี่ยมการควบคุมความสะอาดของตลาดบางลำพู ในเขตเทศบาลขอนแก่น เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ หรือเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค จากการเฝ้าระวังโรคติดต่อทางอาหารและน้ำในปี 2550 พบประชาชนป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงอย่างแรง 633 รายใน 23 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ผลการตรวจพบว่า เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย “เอลธอร์ โอกาว่า” (Eltor ogawa) เชื้อนี้ปล่อยพิษที่เรียกว่า เอ็นทีโรท็อกซิน (enterotoxin) มีพิษต่อลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงเฉียบพลัน อาจเสียชีวิตภายใน 2-3 ชั่วโมงหากไม่ได้รับการรักษา แหล่งต้นตอของเชื้อมากจากการกินอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบก้อย หอยแครงลวก ขอให้ประชาชนกินอาหารสุกและสะอาด สำหรับ 5 จังหวัดที่มีผู้ป่วยอุจจาระร่วงรุนแรงมากที่สุดได้แก่ ตาก 262 ราย รองลงมาคือ ขอนแก่น 221 ราย ระนอง 76 ราย นครสวรรค์ 20 ราย และมหาสารคาม 17 ราย อีก 18 จังหวัดที่เหลือพบผู้ป่วยประปราย

 

เตือนภัยแบคทีเรีย เอลธอร์โอกาว่า ทำท้องเสียรุนแรงตายภายใน2-3ชม.

กระทรวงสาธารณสุขเผยผลการเฝ้าระวังโรคติดต่อทางอาหารและน้ำในปี 50

พบ ปชช.ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงอย่างรุนแรง 633 รายใน 23 จ. เซ่นสังเวยชีวิตแล้ว 2 ราย พบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เอลธอร์ โอกาว่า ชี้มีพิษต่อลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงเฉียบพลัน อาจเสียชีวิตภายใน 2-3 ชม. หากไม่รับการรักษา พบสาเหตุจากอาหารที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ อย่าง ก้อย หอยแครงลวก ออกโรงเตือนให้ประชาชนกินสุกปลอดภัยที่สุด

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่โรงพยาบาลขอนแก่น จ.ขอนแก่น

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะ เดินทางไปติดตามสถาน การณ์การแพร่ระบาดของโรคอุจจาระร่วงอย่างแรง ของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งพบผู้ป่วยในปีนี้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยได้เยี่ยมอาการของผู้ป่วยที่นอนรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น 3 ราย ซึ่งรักษาหายแล้วแต่อยู่โรงพยาบาลต่อ เนื่องจากมีโรคประจำตัว และเดินทางไปตรวจเยี่ยม ต.บึงเนียม อ.เมือง ซึ่งพบผู้ป่วย 7 ราย และตรวจเยี่ยมการควบคุมความสะอาดของตลาดบางลำพู ในเขตเทศบาลขอนแก่น เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์หรือเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค

นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า

จากการเฝ้าระวังสถานการณ์การป่วยจากโรคติดต่อทางน้ำและอาหารในปี 2550 นี้ พบประชาชนป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงอย่างแรง ซึ่งมีอันตราย ทำให้เสียชีวิตได้จากการสูญเสียน้ำในร่างกาย ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงวันที่ 21 ต.ค. 50 ทั่วประเทศพบแล้ว 633 รายใน 23 จังหวัด เป็นคนไทย 446 ราย พม่า 185 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนไทยทั้งคู่ เริ่มมีรายงานผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2550 เป็นต้นมา โดย 5 จังหวัดที่มีการระบาดมากที่สุดได้แก่ ตาก 262 ราย รองลงมาคือขอนแก่น 221 ราย ระนอง 76 ราย นครสวรรค์ 20 ราย และมหาสารคาม 17 ราย อีก 18 จังหวัดที่เหลือพบผู้ป่วยประปราย

นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อว่า

จากการตรวจวิเคราะห์เชื้อที่เป็นต้นเหตุของโรคอุจจาระร่วงอย่างแรงครั้งนี้ พบเกิดจากเชื้อเอลธอร์ โอกาว่า (Eltor ogawa) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรีย พบได้ทั่วโลก ไม่ใช่เป็นเชื้อโรคใหม่ ติดต่อกันได้จากการรับประทานอาหารและน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน โดยเฉพาะอาหารดิบหรือปรุงแบบสุก ๆ ดิบ ๆ ทั้งอาหารทะเลและอาหารทั่ว ๆ ไปเช่นก้อยเนื้อ น้ำตก มีความเสี่ยงอันตรายสูงที่สุด

หลังจากที่เชื้อเข้าสู่ร่างกายประมาณ 2-3 วัน ร้อยละ 75 ของผู้ได้รับเชื้อ จะไม่มีอาการป่วยแต่แพร่เชื้อต่อได้

เชื้อจะออกมากับอุจจาระ อีกร้อยละ 25 มีอาการป่วย โดยเชื้อจะปล่อยพิษที่เรียกว่าเอ็นทีโรท็อกซิน (enteroto xin) ออกมา ทำให้เกิดอาการ ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำอย่างเฉียบพลันจำนวนมาก โดยไม่มีอาการปวดท้อง อาจมีอาเจียนร่วมด้วย ส่วนใหญ่ไม่มีไข้ หากไม่ได้รับการรักษาจะมีอัตราตายสูงถึง ร้อยละ 50 โดยจะเสียชีวิตภายใน 2-3 ชั่วโมง แต่หากได้รับการรักษาทันที ซึ่งขณะนี้มียารักษาให้หายขาด อัตราตายจะต่ำกว่าร้อยละ 1 จึงต้องให้การดูแลอย่างเข้มงวด.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกในอินโดฯเพิ่มเป็น89ราย

โดยทีมข่าว INN News 24 ตุลาคม 2550 10:44:14 น.





เด็กอินโดนีเซียวัย 4 ขวบ เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดนกอีก 1 ราย นับเป็นรายที่ 89 แล้ว

อินโดนีเซียพบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดนกอีกนับเป็นรายที่ 89 เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นเด็กหญิงวัย 4 ขวบจากเขตตังเกอรัง ทางด้านตะวันตกของกรุงจาการ์ตา โดยเด็กเสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีไข้สูง วึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจหาสาเหตุแน่นอนที่ทำให้เด็กเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต รอบบริเวณบ้านของเด็กมีไก่ป่วยตาย 4 ตัว

 

เตือนภาคธุรกิจรับมือหวัดใหญ่-หวัดนก ติดคนสู่คน แนะเตรียมระบบทำงานอยู่ที่บ้าน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 ตุลาคม 2550 15:15 น.


หวั่นการระบาดใหญ่ของไข้หวัดนก/หวัดใหญ่ ส่งสัญญาณเตือนกลายพันธุ์จากคนสู่คนคน สธ.หนุนภาคธุรกิจวางแผนรับมือ เกรงธุรกิจเป็นอัมพาต โดยเฉพาะสาธารณูปโภค ลั่นไม่เวอร์เกิดขึ้นเมื่อไหร่บ้านเมืองวุ่นวาย ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก แนะให้ทำงานอยู่กับบ้านส่งงานทางอีเมล์ ปรับระดับการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพแก้ปัญหา

วันนี้ (24 ต.ค.) นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังการสัมมนาการเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจในการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ว่า ขณะนี้ภาครัฐมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนกอย่างเต็มที่ มีการซักซ้อมในระดับต่างๆ หลายครั้ง ขณะที่ภาคธุรกิจยังเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างทำ เมื่อมีการระบาดใหญ่ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมด้วยเช่นกัน ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้วโดยจะขยายการสัมมนาให้ความรู้ในระดับภูมิภาคเชิญ ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติการที่รับผิดชอบงานด้านบุคลากร ความมั่นคง และด้านการจัดการภาวะเสี่ยงของบริษัทต่างๆ มาร่วมประชุม เพื่อเป็นบุคลากรแกนนำที่จะนำไปวางแผนรับมืออย่างเหมาะสมในบริษัทของตนเอง โดยมีวิทยากรเป็นที่ปรึกษาทั้งการเตรียมแผนการ และการซักซ้อม ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจสามารถที่จะดำเนินกิจการต่อไปโดยที่ไม่ยุติชะงัก

นพ.ธวัช กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในรอบศตวรรษที่ผ่านมาทั่วโลกได้เกิดการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ถึง 3 ครั้ง ในแต่ละครั้งมีผู้ป่วยและเสียชีวิตนับล้านคน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก เนื่องจากต้องมีการจำกัดเขตการเดินทางเข้า-ออก ในพื้นที่ระบาดของโรค บุคคลากรป่วยขาดงาน นักเรียนหยุดเรียน บางแห่งป่วยมากจนต้องปิดหน่วยงาน โรงเรียน สถานพยาบาลให้บริการได้ไม่ทั่วถึง เนื่องจากผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์เองก็เจ็บป่วย ที่ผ่านมาวิกฤตการณ์ข้างต้นต้องใช้เวลาปีเศษจึงจะคลี่คลายลง ดังนั้น ถ้าองค์กรธุรกิจใดไม่ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ก็ต้องปิดตัวลงเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• รัฐเคนทักกีผวา "ซูเปอร์บั๊ก" ระบาด สั่งปิดทำความสะอาด ร.ร.23 แห่ง

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 29-10-2550 | 11:23 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ไพค์ เคาน์ตี ซึ่งเป็นเขต 1 ในรัฐเคนทักกีของสหรัฐฯ สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่ทั้ง 23 แห่งในวันนี้ สาเหตุจากเหตุผวาการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียดื้อยา "ซูเปอร์บั๊ก"
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างการเปิดเผยของนายโรเจอร์ แวกเนอร์ สารวัตรโรงเรียนของไพค์ เคาน์ตี ว่า เขาตัดสินใจสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมดในพื้นที่วันนี้ เพื่อให้โรงเรียนทุกแห่งทำความสะอาดทุกพื้นที่ในโรงเรียน เช่น ห้องเรียน โรงอาหาร ห้องน้ำ ล็อกเกอร์ ทางเดิน สนามเด็กเล่น สนามกีฬา และรถรับ-ส่งนักเรียน เพื่อป้องกันการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรียเอ็มอาร์เอสเอ (MRSA) หรือที่เรียกกันว่า "ซูเปอร์บั๊ก" ซึ่งเป็นแบคทีเรียตระกูลสเตฟิโลคอคคัส ที่ดื้อยา
คำสั่งดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนราว 10,300 ราย มีขึ้นหลังจากเด็กนักเรียนรายหนึ่ง ถูกตรวจพบว่า ติดเชื้อแบคทีเรียเอ็มอาร์เอสเอ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งต้านยาปฏิชีวนะเมธิซิลลิน ซึ่งเป็นยาตระกูลเดียวกับยาเพนนิซิลลิน รายงานระบุว่า แบคทีเรียชนิดนี้สามารถบำบัดได้ด้วยยาปฏิชีวนะชนิดอื่นๆ แต่ถ้าผู้ติดเชื้อเข้ารับการบำบัดรักษาไม่ทันการอาจเสียชีวิตได้
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table id="table2" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="990"><tbody><tr><td valign="top" width="7">
</td> <td valign="top" width="983"> ไข้หวัดนกระบาดอีกใน 2 จังหวัดของเวียดนาม
วันที่ 01 พฤจิกายน 2550 - เวลา 16:17:29 น

กรมสุขภาพสัตว์แห่งชาติของเวียดนามเปิดเผยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมว่า ได้ตรวจพบการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในจังหวัดอีก 2 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนัมดินห์ ทางภาคเหนือหลังมีเป็ด 210 ตัวล้มตายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนการระบาดอีกแห่งเกิดขึ้นที่ฟาร์มในจังหวัดตราวินห์ แถบสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีเป็ดล้มตาย 400 ตัว และผลตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช5 เอ็น1 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีความเสี่ยงสูงที่ไข้หวัดนกจะกลับมาระบาดอีกครั้งในประเทศ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=9313&catid=6

</td></tr></tbody></table>

 

บังกลาเทศพบ H5N1 ระบาดทางภาคเหนือ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">2 พฤศจิกายน 2550 17:22 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์บังกลาเทศเปิดเผยวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ได้ฆ่าทำลายไก่จำนวนเกือบ 6,000 ตัว หลังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 ในฟาร์มอีก 3 แห่งทางภาคเหนือของประเทศ
ทั้งนี้บังกลาเทศได้ตรวจพบการระบาดของไข้หวัดนกครั้งแรกใกล้เมืองหลวงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อในคน

 

2007-11-14 04:18:13 - Biological Hazard - Philippines

<CODE>GLIDE CODE: BH-20071114-14125-PHL
Date & Time: 2007-11-14 04:18:13 [UTC]
Area: Philippines, Province of Zamboanga del Norte, ,


<FIELDSET style="BORDER-RIGHT: maroon 1px solid; BORDER-TOP: maroon 1px solid; FONT-WEIGHT: bolder; FONT-SIZE: 10px; VERTICAL-ALIGN: middle; BORDER-LEFT: maroon 1px solid; COLOR: white; BORDER-BOTTOM: maroon 1px solid; FONT-STYLE: normal; FONT-FAMILY: Verdana,Geneva,Arial,Helvetica,sans-serif; BACKGROUND-COLOR: red; TEXT-ALIGN: center; FONT-VARIANT: normal; TEXT-DECORATION: blink">!!! WARNING !!!</FIELDSET>

Description:

Health officials confirmed the capillariasis outbreak in several villages of the town of Zamboanga del Norte where more than 70 people, including children, have reportedly died. Dr. Raymund Nadela, municipal health officer, expressed alarm over the health situation in some villages, saying that the capillaria worm (Capillaria philippinensis) attack "is now an outbreak." Based on random tests of wastes from 326 residents in the area, 81 people have been found positive for the disease, Nadela said. Emeliano Villalon, chair of Barangay Moyo, said that since he was elected in late October [2007], a total of 31 adults and 9 children have died of capillariasis. Villalon said 38 others died from April to August [2007]. But Nadela said he could not "outrightly say those who died earlier were confirmed to have capillariasis. We labeled them as deaths with suspected capillariasis," he said.

Nadela said the victims got the disease from eating freshwater fish and shrimps from the nearby rivers of Siayan. "These shrimps and fish are carrying this type of worm known as capillaria, a microscopic worm that gets into the intestine and eats up all the nutrition of the person," he said. Maria Teresita dela Cruz, information officer of the Department of Health in Western Mindanao, said some people in the province "love to eat kinilaw and there is a particular fish from the river which they love to eat raw with vinegar." Dela Cruz said other than Siayan town, the health department received the same report in the village of Femagas in Katipunan town. "But we don't have clear records as of this moment," she said.<SCRIPT><!--D(["mb","\u003cbr\>\n\u003cbr\>\nVirgilio Lumawas, 43, a farmer of Moyo village, survived capillariasis but still complained of diarrhea. Nadela said patients found with capillaria worms showed symptoms like diarrhea, extreme abdominal pain that leads to anemia, and muscle wasting. &quot;People think that they have gas pains, but the pain becomes excruciating coupled with a gurgling sound, then the patient could hardly eat or sleep,&quot; Nadela explained. Siayan Mayor Wilfredo Suasico said he became alarmed by the deteriorating health situation &quot;when I keep on signing for approval request letters and solicitations for coffins.&quot; Since October [2007], Suasico said, he had granted the release of funds for the purchase of 32 coffins intended for the villages of Moyo, Dinuyan, Poblacion Lopot, Polayo, Balunukan and Baloc.\u003cbr\>\n\u003cbr\>\nThe outbreak and the hardest hit, according to Nadela, is Moyo village where, Suasico said, a total 24 coffins were delivered last month [October 2007]. Nadela said that aside from capillariasis, the town was noted for the presence of lymphatic filariasis or elephantiasis, an abnormal growth of the lymphatic nodes due to a mosquito-borne disease that attacks the blood, and leprosy. Although the cases of filariasis and leprosy have been taken care of since 2 years ago, Nadela still considers the diseases serious in some villages of Siayan.\u003c/font\>\n \u003cbr\>\n\u003cbr\>\n\n \u003cb\>Number of deaths:\u003c/b\> 70 persons\u003cbr\>\n\n \n \n \u003cb\>Infected:\u003c/b\> 81 persons\u003cbr\>\n\n \u003cb\>Damage level:\u003c/b\> Heavy\u003cbr\>\n\n \n \n \u003cb\>Affected Foreign Citizen:\u003c/b\> No information!\u003cbr\>\u003cbr\>\n \u003cbr\>\n Not confirmed information!\u003cbr\>\n \t\u003cb\>Partner:\u003c/b\> ProMed\u003cbr\>\n\n \u003c/code\>\n \u003cbr\>\n \u003c/td\>\u003c/tr\>\n \u003ctr\>\u003ctd\>\n \u003csmall\>\n \u003cdiv style\u003d\"font-family:Arial,Helvetica,San Serif;font-size:8pt;font-weight:normal;color:#808080\"\>\u003cb\>Unscrubscribe AlertMail service:\u003c/b\> \u003ca href\u003d\"http://levlista.rsoe.hu/cgi-bin/mailman/listinfo/hisz-alertmail-eng\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\>",1]);//--></SCRIPT>

Virgilio Lumawas, 43, a farmer of Moyo village, survived capillariasis but still complained of diarrhea. Nadela said patients found with capillaria worms showed symptoms like diarrhea, extreme abdominal pain that leads to anemia, and muscle wasting. "People think that they have gas pains, but the pain becomes excruciating coupled with a gurgling sound, then the patient could hardly eat or sleep," Nadela explained. Siayan Mayor Wilfredo Suasico said he became alarmed by the deteriorating health situation "when I keep on signing for approval request letters and solicitations for coffins." Since October [2007], Suasico said, he had granted the release of funds for the purchase of 32 coffins intended for the villages of Moyo, Dinuyan, Poblacion Lopot, Polayo, Balunukan and Baloc.

The outbreak and the hardest hit, according to Nadela, is Moyo village where, Suasico said, a total 24 coffins were delivered last month [October 2007]. Nadela said that aside from capillariasis, the town was noted for the presence of lymphatic filariasis or elephantiasis, an abnormal growth of the lymphatic nodes due to a mosquito-borne disease that attacks the blood, and leprosy. Although the cases of filariasis and leprosy have been taken care of since 2 years ago, Nadela still considers the diseases serious in some villages of Siayan.

Number of deaths: 70 persons
Infected: 81 persons
Damage level: Heavy</CODE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.จับตาโรคไข้หวัดนก หวั่นคืนชีพปลายฝนต้นหนาว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2550 12:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สธ.กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเริ่มหนาวเย็นลง อาจทำให้เชื้อไวรัสไข้หวัดนกหวนกลับมาระบาดได้อีก ย้ำเตือนประชาชน หากมีสัตว์ปีกป่วย ตายผิดปกติ ขอให้แจ้งอาสาสมัครสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที อย่านำมาเชือดกินอย่างเด็ดขาด และหมั่นล้างมือฟอกสบู่ หลังจับหรือสัมผัส สิ่งของ

วันนี้ (17 พ.ย.) นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สภาพอากาศในไทยเริ่มเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว อากาศหนาวเย็นลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เชื้อไวรัสเจริญเติบโตได้ดีที่สุด โดยเฉพาะไวรัสไข้หวัดนก แม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่พบการติดเชื้อในคนติดต่อกันมาเป็นเวลา 14 เดือนเศษก็ตาม แต่ประมาทไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถมองเห็นเชื้อโรคได้ ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เฝ้าระวังผู้เจ็บป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดบวม ปอดอักเสบ ให้ซักประวัติการสัมผัสสัตว์ปีก หรือประวัติสัตว์ปีกที่บ้านตายผิดปกติทุกราย เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ทันท่วงที

"ในระดับหมู่บ้าน ได้ประสานความร่วมมืออาสาสมัครสาธารณสุขกว่า 800,000 คน เฝ้าระวังสัตว์ปีกตายและการเจ็บป่วยของประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบทุกวัน และขอความร่วมมือประชาชนทุกคน หากมีสัตว์ปีกในบ้านหรือใกล้เคียงป่วยตายผิดปกติ ห้ามนำมาเชือดกินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมีความเสี่ยงติดเชื้อไข้หวัดนกสูง ขอให้แจ้งอาสาสมัครสาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเก็บซากสัตว์ไปตรวจหาเชื้อว่าเป็นไข้หวัดนกหรือไม่ ซึ่งจะสามารถวางแผนป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ"ปลัดสธ.กล่าว

นพ.ปราชญ์กล่าวต่อว่า สำหรับความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยหากมีผู้ป่วยติดเชื้อโรคไข้หวัดนก ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้สร้างห้องแยกปลอดเชื้อในโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียงขึ้นไปจนถึงโรงพยาบาลศูนย์ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นการเฉพาะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยพบผู้ป่วยเช่นกาญจนบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ มีครบทุกแห่งแล้ว

นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้สำนักระบาดวิทยา ได้เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดบวมที่รักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ในข่ายการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกด้วยทุกวัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 – 15 พฤศจิกายน 2550 สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานทั้งหมด 2,036 ราย ยังไม่พบการติดเชื้อไข้หวัดนก

"ในการป้องกันโรคไข้หวัดนก ขอให้ประชาชนล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งหลังหยิบจับสิ่งของแล้ว และไม่ควรคลุกคลีกับสัตว์ปีก โดยเฉพาะเด็กเล็ก เนื่องจากการติดเชื้อไข้หวัดนกมักติดเชื้อโดยทางตรงคือการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่มีเชื้อหรือป่วย และติดจากการสัมผัสมูลสัตว์ปีก น้ำมูก น้ำตา น้ำลายของสัตว์ที่ป่วย โดยหลังติดเชื้อประมาณ1-3 วัน จะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ หากประชาชนรายใดมีอาการดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ปีก ได้แก่ ผู้เลี้ยง ฆ่า ขนส่ง ขนย้าย ขายสัตว์ปีก หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับซากสัตว์ปีก ให้รีบไปพบแพทย์และบอกประวัติการสัมผัสสัตว์ปีกให้แพทย์และพยาบาลทราบ อย่าปิดบังเด็ดขาด เนื่องจากจะมีผลเสียต่อการดูแลรักษา"นพ.ธวัชกล่าว

สำหรับสถานการณ์การป่วยด้วยโรคไข้หวัดนกทั่วโลก ในปี 2550 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 12 พฤศจิกายน 2550 นี้มีรายงานใน 7 ประเทศได้แก่ กัมพูชา จีน อียิปต์ อินโดนีเซีย ลาว ไนจีเรียและเวียดนาม ป่วยรวมทั้งหมด 72 ราย เสียชีวิต 48 ราย โดยมากที่สุดที่ประเทศอินโดนีเซีย ป่วย 38 ราย เสียชีวิต 33 ราย รองลงมาคืออียิปต์ป่วย 20 ราย เสียชีวิต 5 ราย และประเทศเวียดนามป่วย 7 รายเสียชีวิต 4 ราย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2">
</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td colspan="3">

• อังกฤษยืนยันหวัดนกระบาดในฟาร์มแห่งใหม่

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 20-11-2550 | 09:20:27 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ลอนดอน 20 พ.ย.- โฆษกกระทรวงเกษตรอังกฤษแถลงยืนยันว่า พบไข้หวัดนกระบาดในฟาร์มสัตว์ปีกแห่งที่ 2 เป็นฟาร์มที่อยู่ในเขตอันตรายที่ทางการตั้งขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้ฆ่าไก่งวงทั้งหมดในฟาร์มดังกล่าว ที่อยู่ทางตะวันออกของอังกฤษแล้ว
ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรอังกฤษแจ้งเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กำลังฆ่าไก่งวงในฟาร์ม 4 แห่ง ที่ใช้คนงานชุดเดียวกันกับฟาร์มเรดเกรฟปาร์ค ซึ่งเป็นฟาร์มที่ทางการยืนยันว่า พบไข้หวัดนกระบาด เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานสัตวบาลอังกฤษ เตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะพบไข้หวัดนกระบาดในฟาร์มอื่น ๆ อีกในเร็ว ๆ นี้ และว่าไข้หวัดนกที่ระบาดในอังกฤษ เป็นสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงอย่างมาก กับที่ระบาดในสาธารณรัฐเช็ก และเยอรมนี ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา.
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• พบหวัดนกระบาดเพิ่มในซาอุฯ

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 21-11-2550 | 03:05:48 ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ซาอุดีอาระเบีย 21 พ.ย.-มีรายงานพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ในตลาดค้าสัตว์ปีก นอกกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย
หนังสือพิมพ์อัล-วาทาน ของซาอุดีอาระเบีย ตีพิมพ์ภาพถ่ายของคณะเจ้าหน้าที่ กระทรวงเกษตรที่สวมชุดสีขาว และหน้ากากรัดกุมอยู่ภายในตลาดค้าสัตว์ปีกแห่งหนึ่ง ทางใต้ของกรุงริยาด ซึ่งมีรายงานพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์มรณะเอช 5 เอ็น 1 หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ได้ฆ่าทำลายสัตว์ปีกภายในตลาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในเบื้องต้นแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่เพิ่งฆ่าทำลายสัตว์ปีกกว่า 50,000 ตัว ในฟาร์มแห่งหนึ่งในเขตอัล-คาร์จ ทางใต้ของกรุงริยาด หลังพบว่ามีนกกว่า 1,500 ตัว ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย ได้สั่งห้ามนำเข้าสัตว์ปีกอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกระบาดเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• พบผู้ประสบภัยพายุไซโคลนบังคลาเทศตายจากโรคท้องร่วง

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 21-11-2550 | 12:18:58 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> บังกลาเทศ พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคท้องร่วงอย่างรุนแรง ในพื้นที่ประสบภัยพายุไซโคลน ขณะที่ ประชาชนหลายพันคน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย
หน่วยงานบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศกำลังพิจารณาคำร้องขอ ของรัฐบาลบังกลาเทศ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พายุไซโคลนซิดร์ที่พัดเข้าถล่มพื้นที่แถบชายฝั่ง ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และประสบกับความหิวโหย ขณะที่มีรายงานเด็ก 2 คนเสียชีวิตด้วยโรคท้องร่วงอย่างรุนแรงในเขตปาตัวคารี ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลยังไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้
ด้านกองทัพบังกลาเทศซึ่งระดมกำลังทั้งทางเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินและเรือ ก็สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่ห่างไกลได้แล้ว หลังใช้เวลานาน 5 วัน
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• ป่วย-ตายกว่า 451 คนเพราะไข้ริฟท์ แวลเล่ย์ในซูดาน

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย คม ชัด ลึก [ 23-11-2550 | 09:31 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ไข้ริฟท์ แวลเล่ย์ระบาดในซูดาน มีผู้ป่วยและเสียชีวิตแล้วรวม 451 คน
(23พย.) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยวานนี้ว่า การระบาดของไข้ริฟท์ แวลเล่ย์ในซูดานทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 164 คน และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อล้มป่วยเพิ่มอีกกว่า 221 คน ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มเป็น 451 คนแล้ว ขณะที่ WHO เริ่มได้รับแจ้งเรื่องการระบาดของโรคเมื่อ 18 ตุลาคม แต่เพิ่งแน่ใจว่าเป็นโรคนี้เมื่อต้นเดือนนี้
ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยและเสียชีวิต อยู่ในรัฐเวสต์ ไนล์ ,ซินนาร์ และเกซาร่า แต่ก็มีผู้ติดเชื้อประมาณ 48 คนในรัฐคาร์ทูม ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตไป 3 คนแล้วด้วย ตามปกติโรคนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรงมีอัตราผู้เสียชีวิตเพียงร้อยละ 1 แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ ชนิดที่มีเลือดออก อัตราผู้เสียชีวิต จะเพิ่มเป็นร้อยละ 50 ส่วนใหญ่โรคนี้ระบาดสู่มนุษย์ ผ่านทางการสัมผัสเลือด และชิ้นส่วนของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือถูกกัดโดยยุงที่ติดเชื้อ ปัจจุบัน ยังไม่พบวิธีรักษาโรคนี้ แต่ WHO ระบุว่า เจ้าหน้าที่ซูดานทำงานได้รวดเร็ว ในการแจ้งเตือนประชาคมนานาชาติ ซึ่งช่วยในการสกัดกั้นการระบาดของโรค และการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ
เจ้าหน้าที่พบโรคนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 ขณะเข้าตรวจสอบโรคระบาดของแกะในฟาร์มแห่งหนึ ่งในแถบริฟท์ แวลเลย์ ของเคนย่า และนับจากนั้น โรคนี้ก็ระบาดอยู่ในแถบซับ-ซาฮาร่า กับแอฟริกาเหนือ
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

ฮ่องกงพบนกติดเชื้อไข้หวัดนกอีก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">25 พฤศจิกายน 2550 15:10 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี-เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฮ่องกงกล่าวเมื่อวันเสาร์(24 พ.ย.)หลังจากนำนกกระยางป่วยที่พบในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเขตเมืองใหม่ของฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์(18พ.ย. ไปตรวจสอบ ห้องปฏิบัติการวิจัยได้ยืนยันผลแล้วว่านกตัวดังกล่าวติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1

พร้อมกันนี้ กรมการเกษตร ประมง และการอนุรักษ์ได้ออกมาเตือนในรายงานให้ประชาชนระวังการสัมผัสนกป่าและสัตว์ปีก ซึ่งในปีนี้ ฮ่องกงพบนกที่ป่วยและตายจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 หลายสิบตัว และตั้งแต่ปี 2003 เชื้อไข้หวัดนก H5N1 คร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกไปแล้วกว่า 200 ราย

ทั้งนี้ มีรายงานตรวจพบการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกเป็นครั้งแรกของโลกในฮ่องกง เมื่อปี 1997 ซึ่งขณะนั้นได้คร่าชีวิตประชาชนไป 6 ราย.

 

จีนศึกษาพบเชื้อไข้หวัดนกสามารถถ่ายทอดแม่สู่ลูก! <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">
</td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> ไชน่าเดลี่ - จากการศึกษาภายใต้การนำของกู่เจียง ผู้อำนวยการคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ขั้นพื้นฐาน ในเครือของมหาวิทยาลัยปักกิ่งระบุว่า สตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 สามารถถ่ายทอดเชื้อมรณะดังกล่าวให้แก่ลูกน้อยในครรภ์ได้ อย่างไรก็ตามการค้นพบดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าโรคระบาดในโลกจะเป็นเช่นนี้เช่นกัน

โดยจากการศึกษาเนื้อเยื่อของศพหญิงมีครรภ์วัย 24 ปี ที่เป็นเหยื่อสังหารของไวรัสไข้หวัดนก กู่พบว่าเชื้อไวรัสสามารถติดต่อผ่านรกไปยังตัวอ่อนในครรภ์ได้ โดยตรวจพบเชื้อ H5N1 ในทางเดินอาหาร สมอง เซลล์เม็ดเลือด ทางเดินหายใจของเหยื่อทั้งสอง และยังพบเชื้อในตับและปอดของทารกในครรภ์ด้วย

กู่กล่าวว่าโครงการวิจัยของเขา ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาเนื้อเยื่อจากชายวัย 35 ปีที่เสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสตัวเดียวกัน นับเป็นโครงการศึกษาอันดับที่ 8 ของโลกในประเภทการศึกษาลักษณะดังกล่าว

“ปัจจุบันยังไม่พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกกลายพันธุ์จนสามารถระบาดจากคนสู่คนได้” กู่กล่าว

ด้านเกรกอรี่ ฮาร์ทล์ โฆษกจากองค์การอนามัยโลก (WTO) กล่าวว่าการถ่ายเชื้อไวรัสจากแม่สู่ลูกอ่อนในครรภ์ไม่ใช่กรณีของการติดเชื้อจากคนสู่คน