โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    สวัสดีครับคุณคะรุทา คุณto2504 สบายกันดีไหมครับ
    สวัสดีครับคุณ ดอกข้าวสบายดีนะครับ
    มีอะไรหนักหนาสาหัสขนาดนั้นหรือครับ
     
  2. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    กระทู้เดียวแต่ สนทนาได้หลากหลายดียาวนานดี หวังว่าคงได้สาระธรรมกันเพิ่มขึ้นน่ะครับ
    โมทนาๆ ....
     
  3. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    20-04-2013, 10:40 PM
    1เฟื้อง
    สมาชิก

    1เฟื้อง's Avatar

    วันที่สมัคร: Jan 2013
    ข้อความ: 16
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 65
    ได้รับอนุโมทนา 51 ครั้ง ใน 11 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0
    1เฟื้อง will become famous soon enough

    สวัสดีครับ
    สวัสดีครับ คุณ ainteerati

    ผมกำลังติดตามอ่านเรื่องของคุณอยู่
    ต้องบอกว่า สนุก และมหัศจรรย์มากครับ
    ผมได้อ่านตอนหนึ่ง ชื่อว่า "จิตมาร"
    รู้สึกติดใจเรื่องการเดินธาตุ 4 มาก
    อยากสอบถามเพิ่มเติมว่าการเดินธาตุ 4 นั้น
    ต้องฝึกแบบไหนครับ
    ขอคำแนะนำในพื้นฐานนิดๆ ก็ได้นะครับ

    เจอลิ้งค์อันนี้มา ไม่รู้พอใช้ได้ไหม
    http://palungjit.org/groups/%E...8%A5-1788.html
    __________________
    ...กลัวให้น้อยกว่าที่กล้า ศรัทธาให้มากกว่าที่เห็น...
    สวัสดีครับก่อนอื่นขอออกตัวไว้ก่อนนะครับเพราะไม่ค่อยมีความรู้มากเท่าไร
    จากลิ้งค์ที่แปะมาก็ถือว่าบอกรายละเอียดมากพออยู่ครับเพราะธาตุ4นี้
    ตามตำราก้มีบอกไว้เป้นปริศนาเท่านั้น
    การฝึกเริ่มจาก
    1ตั่งธาตุ
    2หมุนธาตุ
    3รวมธาตุ
    4สลายธาตุ
    แต่เท่าที่เห็นผ่านตาผมเองมาจะเห็นเขาบอกไว้ถึงรวมธาตุ
    การตั่งธาตุ หมุนธาตุ รวมธาตุ ในลิ้งค์ที่แปะมานั้นมีอยู่ครับ
    แต่วิชาธาตุ4นี้ผู้ฝึกหากไม่ได้มีคนเก่งหรือคูรอาจารย์ที่ดีๆค่อยคุมก็มีโอกาศ
    ธาตุแตกหรือมารแทรกได้ง่ายๆครับ
     
  4. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    สวัสดีครับ
     
  5. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230

    สบายดีค่ะ คุณคม เป็นงัยบ้างสบายดีมั้ย ไม่มีอะไรแปลก ๆ มาเล่าให้ฟังบ้างเนอะ
     
  6. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เห็นอยู่กระทู้โดนของแหม๊บๆมาอยู่นี่ซะละ นึกว่าโดนของไปซะแร้วว

    เอ นิมนต์พระอาจารย์ทีโอพิมพ์คาถาตัดจิตอีกที เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่เค้า
    โดนของมั่ง เผื่อจะได้บรรเทาเบาบางบ้าง เป็นกุศลผลบุญที่ได้มาโดยไม่ได้
    เสียเงินคร้าบ
     
  7. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    คาถาตัดจิต

    จิตตัง มหาจิตตัง นะกันตัง มหาจิตติ

    ท่องไปเรื่อย ๆ สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองโดนของ หรือถูกรังควานจากวิญญาน หรือจิตใด ๆ ที่เราไม่ประสงค์อยากจะติดต่อ ท่องคาถานี้แล้ว เค้าจะไม่เห็นเรานะจ๊ะ
     
  8. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ดีครับ แต่น่าสงสารวิญญาณ อุตส่าห์ยื่นมือจะมาจับตัวก็โดนตัดแขนทิ้งหมดเลย
    ใครท่องน๊อ วิญญาณติดตาม4ตัวโดนตัดแขนเรียบวุธ เฮ้ออ ใครเลี้ยงกุมารก็อย่าท่อง
    ละกัน ประเดี๋ยวติดต่อกุมารไม่ได้พาลจะเอาหุ่นเค้าไปทิ้งซะเปล่าๆ โทษฐานเรียก
    แล้วไม่ขานรับ เจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ดูแลก็อยู่ในข่ายนี้นะ ท่องเสร็จติดต่อไม่ได้เลยเชียว
    ให้คนที่เค้าไม่อยากจะติดต่อใครๆท่องจะดีกว่า
     
  9. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    อันนี้ผมขออนุญาตคุณคมเอามาแปะไว้ที่กระทู้นี้เพราะเอาไปตอบตรงกระทู้เค้าก็กลัว
    ว่าเค้าจะลบกระทู้ทิ้งไป สิ่งที่ไปเห็นมาก็จะหายไปกับสายลม

    พอดีอ่านกระทู้ของคุณ tat_gun ที่ถามถึงวิธีฝึกของหลวงปู่โอภาสี
    ผมก็เลยอยากจะรู้จึงขออโหสิกรรมท่านเข้าดูตามวาระ ก็เลยจะเอามาเล่าตามที่เห็น
    ส่วนจะถูกหรือไม่ถูกก็พิจารณาตามภูมิธรรมของแต่ละท่านก็แล้วกัน

    สิ่งแรกที่เห็นก็คือเข็ม1เล่ม วางขวางในระดับสายตา โดยส่วนปลายแหลมอยู่ตรง
    หน้าเราพอดี บัดนั้นเองในจิตเราก็ระลึกถึงพ่อที่กล่าวว่าแม้ดวงจิตของคนเราก็เล็กเท่า
    ปลายเข็มฉะนี้

    ต่อมาเมื่อสิ้นเสียงที่เกิดในใจ ก็มีภาพเก๋งจีนปรากฏต่อหน้า โดยเน้นส่วนหลังคามา
    ให้เห็น กล่าวคือสันหลังคามี6สัน เป็นเส้นโค้งขึ้นไป ตรงกลางที่เห็นเป็นลูกแก้วกลมๆ
    พอเราเห็นถ้วนทั่วทั้งสันหลังคาดุจดั่งเราเหาะอยู่แล้วมองลงมา เสียงในใจเราก็ปรากฏ
    อีกว่า สันหลังคานั้นเปรียบเหมือนอายตนะทั้ง6นั่นเอง เมื่อเราไล่จากภายนอกอันคือ
    ส่วนปลายคือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไล่เข้าไปก็จะเจอกับพุทธะอันคือดวงแก้วตรงกลาง
    ถ้าเลยไปก็จะไปสู่อายตนะอื่นๆ เรียกว่าถ้าจิตซัดส่ายก็จะไม่เจอพุทธะ ให้บีบจิตโดยการ
    กำหนดที่จุดใดจุดหนึ่งในจิตใจ แล้วเพ่งโดยไม่ให้คลาดเคลื่อนไปไหนเลย

    ตรงนี้เองเมื่อเราเกิดการเข้าใจถึงนิมิตที่หลวงพ่อทำให้เห็น ภาพลูกแก้วตรงกลางก็แปร
    เปลี่ยนเป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ในท่ายืน เราเองก็มองไม่ชัดว่าเป็นท่านไหน เพราะเมื่อจะ
    มองให้ชัด ภาพท่านก็หายไป นิมิตนั้นก็หายไป

    เมื่อนิมิตหายไป จิตใจเราตอนนั้นเกิดความเศร้าเสียดายในนิมิตว่าหลวงพ่อให้เห็นการ
    กำหนดจิตท่านเพียงเท่านี้หรอกหรือ ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงมาบอกว่า "มีก็เหมือนไม่มี
    ไม่มีก็เหมือนมี" เราจึงเข้าใจด้วยปัญญาว่า เราต้องรวบรวมจิตไปตรงภาพนิมิตเก๋งจีนตรง
    ดุมแก้วนั้นเพ่งให้จิตเล็กเท่าปลายเข็ม รวมรวมอายตนะทั้งหลายไปให้จิตรวมตรงกลาง
    กลางของทั้งหมดในส่วนของห้องก่อนที่จะเกิดการปรุงแต่ง

    ครานี้เกิดเป็นดวงแก้วประกายพรึกขึ้น เก๋งจีนมาปรากฏอีกครั้งโดยจิตของเราที่เราเพ่งนั้น
    เป็นตรงดวงแก้วตรงดุมพอดีไม่คลาดเคลื่อนเลย ภาพนั้นสวยงามมาก เสียงก็ปรากฏอีกว่า
    แค่นี้พอแล้ว

    สรุปว่า วิถีจิตที่ผมตามดูหลวงพ่อโอภาสีท่านกำหนด ท่านก็ใจดีมีเมตตามาทำให้
    ผมเห็นสภาวะของท่านตามนี้ ส่วนจะตรงตามหลักไหนหรือไม่ผมไม่รู้เพราะความรู้น้อย
    ขออนุโมทนาในพระคุณครูบาอาจารย์ที่แนะนำสั่งสอนข้าพเจ้า กรรมล่วงเกินอันใดที่
    ผมกระทำแล้วด้วยเจตตานก็ดีไม่เจตตนาก็ดีผมขออโหสิกรรมนั้นต่อพระคุณท่านเทอญ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 04.jpg
      04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.6 KB
      เปิดดู:
      46
  10. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    ทักทายกันจ้า ท่านจิโป และคมน์นะจ๊ะ
     
  11. sorakran2007

    sorakran2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +945
    คิดถึงกระทู้นี้ครับ
     
  12. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    สวัสดีครับคุณNakraksa คุณsorakran2007 สบายดีกันไหมครับ ไม่ได้เจอนานมีอะไรมาเล่าสู่กันฟัง บ้างไหมครับ
     
  13. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    เอ่อ ไม่รู้จะเล่าไรดีอ่ะ งง แหะแหะ
     
  14. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    :cool::cool: ทักทายจ้า ทุกคน คิดถึงน๊า...
    เย้ๆๆดีใจ คุณจิโป กลับมาแว้ววววว
     
  15. kenzoo2522@hotmail.c

    kenzoo2522@hotmail.c Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +99
    ท่านจิโป การบำเพ็ญในสายอนุตรธรรมนั้น คือการบำเพ็ญในแนวทางโพธิสัตย์ใช่หรือไม่ครับ? การบำเพ็ญในสายนี้เน้น..การสร้างบุญบารมีเพื่อค้ำจุนเกื้อหนุนเหล่าสัตว์ทั้งหลายใช่หรือไม่?(เช่น การย้ายบุญบารมีเราไปให้ผู้อื่น การรับวิบากกรรมแทนเหล่าสัตว์
    เป็นต้น ) เพราะฉะนั้น..ผู้บำเพ็ญในสายนี้จึงมักยากจน ทุกข์ระกำลำบาก เพราะไม่ได้ใช้บุญบารมีตนเองในช่วงมีชีวิต จนเป็นเหตุให้ย้ายบุญย้ายบาปโดยไม่ยุติธรรม ขอคำชี้แนะด้วยนะครับ
     
  16. ขุนพล.

    ขุนพล. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +162
    ไม่ตอบเป็นข้อๆนะครับแต่จะตอบรวมๆ
    การบำเพ็ญอนุตรธรรมนั้นมีมานานมากๆ ก็สังเกตุจากการใหว้ท่าประสานมือก็
    เปลี่ยนมาหลายครั้งจนมาเป็นท่ารากบัวในยุคนี้ ส่วนจะเป็นแนวทางของพระโพธิ
    สัตว์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่ที่ตัวคนรับธรรมเอง คนรับธรรมจะปฏิบัติยังไงให้พ้นทุกข์
    ถ้าคนปฏิบัตินั้นๆปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ของการเวียนว่ายตายเกิดก็จะไปพระนิิพ
    พาน แต่ส่วนมากจะไปได้แค่พระโพธิสัตว์
    ปกติคนที่รับธรรมสายนี้นั้นจะยากจนครับ เห็นมาหลายเคส แรกๆรวยมาก
    คิดว่าชาตินี้จะไม่จน ก็กลายเป็นจนทันตาเห็น ทั้งนี้ก็เป็นเหมือนคุณเปิ้ลนั่นล่ะ
    กล่าวคือ คนรับธรรมสายนี้นั้นจะเป็นเหมือนว่าให้เห็ฯจิตที่สะอาด สว่างไสวดัง
    ว่าจะพ้นแล้ว สำเร็จแล้วมาก่อน คนรับธรรมต้องไปรักษาสภาวะนั้นเอาไว้เอง
    ด้วยการละกิเลสทั้งหลาย เรียกว่าให้ก่อนบำเพ็ญทีหลัง
    ตานี้เมื่อคุณเปิ้ลรับมาก็คิดว่าเฮ้ยย ตูพ้นแล้วละม้างเนี่ย เห็นทางสำเร็จรำไรๆ
    มะรอมมะร่อตรงหน้า คาดว่าบำเพ็ญอีกนิดหน่อยแค่นั้นเอง อรหันซ้ายกับหันขวา
    จะไปไหนเสีย.. ครานี้ก็เริ่มจะไปช่วยคนละ คนไหนเดือดร้อนก็อธิฐานจิตส่ง
    พลังไป คนไหนบ่นว่าเหงา ใจคุณเปิ้ลก็เหมือนจะขาดรอนๆด้วยความสงสารเขา

    เอาละสิ ตานี้บารมีที่สร้างสมมาแต่ครั้งหลังก็เริ่มหมด เริ่มหดหายเพราะไปช่วย
    เค้าแล้ว เค้าก็ไม่ได้นึกขอบคุณ นึกอนุโมทนาเลย ซ้ำร้ายบางคนก็ไม่รู้ตัวด้วย
    ซ้ำไปว่าคุณเปิ้ลช่วย ตรงนี้เอง คนที่รับธรรมสายนี้จึงจนลงๆฮวบๆ คิดว่าช่วย
    เค้าแล้วจะได้รับตอบมาเยอะๆ เหมือนสุภาษิตที่ว่า "ยิ่งให้ก็ยิ่งได้รับมาขึ้น"
    แต่อนุตรธรรมกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย สุภาษิตนี้ใช้ไม่ได้ผลกับสายนี้เพราะ
    ตัวเองไม่ได้เอาบารมีตัวเองมาสร้างเพื่อให้จิตได้สภาวะแบบนั้นไง
    เปรียบเหมือนว่า ท่านให้รถยนต์คุณเปิ้ลมาคันนึงแต่ไม่ให้เงินเติมน้ำมัน
    คุณเปิ้ลก็มีรถยนต์โก้ๆ ใครอยากไปไหนคุณเปิ้ลก็อาสาไปส่ง เงินเติมน้ำมัน
    เค้าก็ไม่ช่วยเลย คุณเปิ้ลก็ควักเนื้อ ก็จนลงๆ
    แต่ในสายพระพุทธเจ้าตรงๆ เป็นการสร้างจิตตัวเองจากต่ำสุดไปสูงสุดด้วย
    ตัวของเราเอง นั่นคือ ท่านแนะแนวทางว่าคุณเปิ้ลทำธุระกิจนี้แล้วจะรวย คุณ
    เปิ้ลก็ทำไป จนมีเงินซื้อรถยนต์ขับเอง ในตอนนั้นคุณเปิ้ลจะไม่เดือดร้อนใน
    การหาค่าน้ำมันเลย ใครอยากไปไหนก็ไปส่งได้ฟรีๆ เพราะตัวเองมีลู่ทาง
    ในการหาเงินนั่นเอง เงินไหลเข้ามาเรื่อยๆ

    ส่วนการย้ายบุญย้ายบาปนั่นคือการใช้รถยนต์ไปส่งเค้านั่นเอง ถ้าเดินทาง
    สายอนุตรธรมต้องฉลาดในการใช้ครับ การช่วยคนต้องขอบารมีพระโพธิสัตว์
    ท่านใดท่านหนึ่งช่วย เรียกว่า เรา้เป็นคนกลางบอกท่านช่วย ท่านจะช่วยรึไม่
    ช่วยอันนั้นเราไม่รับปาก คนที่มาขอให้ช่วย หรือเราอยากจะไปช่วยเค้าเอง
    ก็อย่าไปอธิฐานช่วยด้วยตัวเรา แต่ให้เป็นการบอกกล่าวให้ท่านช่วยแทน
    ฉลาดในการทำบุญก็ได้บุญเยอะ ไม่ขาดทุน มีทางไปเป็นเทวดาเป็นอย่างต่ำ
    มีความละเอียดในการทำบุญ เช่นถวายข้าวพระก็คิดว่าท่านฉันท์แล้วจะเผ็ดใหม
    ถ้าเผ็ดจะทำไงมีน้ำฉันท์ใหม๊ คิดทางสำรองใว้ เรียกว่าละเอียดในการทำบุญ
    ไม่ใช่ถวายแตงโมลูกนึงยัดใส่บาตรไปเลย ท่านจะหนักจะเป็นยังไงเรื่องของ
    ท่านแบบนี้ก็มีนะ.
    สรุปว่านะคุณเปิ้ล ตั้งหลักใหม่ให้ได้ก่อน คิดถึงสภาวะจิตตอนที่รับธรรม
    ไปกำหนดตรงนั้น แล้วทำต่อจนติดต่อกับทางทิพย์ได้แบบชัวร์ๆ ติดต่อได้ใน
    ทุกครั้งที่เราอยากทำ แล้วจะช่วยใครก็พูดคุยขอให้ท่านช่วย ไม่ใช่ทำอะไร
    ด้วยตัวเราเอง มันจะยุ่งไปกันใหญ่ครับ คุณเปิ้ลอ่านมากตาลายก็นอนพักสายตา
    ไปเลยก็ดีครับ จะได้นึกทบทวน ทบทวนการปฏิบัตินะ อย่าคิดถึงผม เพราะผม
    มะว่างงงง...
     
  17. pannatee

    pannatee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +65
    ......................
    อนุโมทนาสาธุค่ะ...ขออนุญาตนำไปใช้เป็นวิทยาทานน่ะค่ะ...
     
  18. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ผมเอาไปท่องบ้างดีก่า :boo:
     
  19. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    กระทู้ตก :cool:ดันกระทู้จร้า
     
  20. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ไม่เห็น พี่ TO2504 มาเล่านิทานให้ฟังเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...