ทำไมฝรั่งรวย เจริญกว่าบ้านเรา

เพราะทำวิหารทาน คือเสียภาษีด้วยความเต็มใจ ไม่หลบไม่เลี่ยงภาษี ฉะนั้นจะเป็นแบบเขาต้องช่วยเสียภาษีตามความเป็นจริงด้วยนะครับ ทุกบาททุกสตางค์นำไปใช้จ่ายเพือส่วนรวม เพื่อพัฒนาประเทศ พระพุทธเจ้ายังบอกนี่ครับ ทรัพย์ที่ได้มาส่วนหนึ่ง ต้องทำราชพลี คือ เสียภาษี ส่วนใครที่ยักยอก กินเงินหลวง คอรัปชั่น เอาเข้ากระเป๋าตนเอง อย่าอิจฉาเขาเลย นรกรออยู่ ข้างหน้าแน่นอน เอาเงินโกงไปทำบุญ สร้างวัดร้อยวัด สร้างเจดีย์ทองคำ อานิสงส์ยังไม่ถึงสลึง

 

จากการที่สังเกตุดู เห็นว่าเค้ามีเมตตาและอภัยทานที่สัมผัสได้ รวมทั้งการคิดบวกและไม่คิดโกง ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ฉะนั้นคนส่วนใหญ่ของประเทศเค้าเป็นคนดีประเทศเค้าถึงเจริญและก้าวหน้าแบบรูปธรรม การสอนและอบรมเด็กก็สอนแบบตรงและให้เคารพสิทธิและเสรีภาพของตนเองและผู้อี่น เมื่อเด็กเติบโตมาจึงมีคุณภาพและเดินตามรอยผู้ใหญ่ที่ดีจึงเป็นคนดีและมีคุณภาพ

 

ในฐานะที่ผมอยู่อเมริกานะผมว่าภาษีแพงมากๆนะครับ คนที่สามารถเลี่ยงได้ก็รวยไปเลยนะครับแต่ที่นี่เขาเลี่ยงตามเกมส์ไม่รุกติกครับวิธีนึงในการเลี่ยงคือต้องเป็นหนี้(เครดิต,รถ,บ้าน) ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเลี่ยงนะครับแต่กฎหมายประเทศนี้มันแรงมากๆคนเข็ดหลาบ
เรื่องเขาทำไมเจริญกว่าเรานั้นคงเปนเรื่องของจิตใจน่ะล่ะครับฝรั่งเขาโกหกไม่เป็นไม่เนียนโกหกแล้วรู้ง่ายมากครับคนที่นี่ซื่อมากครับ เรื่องการให้อภัยก็มากกว่าเราของเขาคือถ้าขอโทษแล้วคือจบ แต่ยังไงเขาก็อบอุ่นไม่สู้ไทยหรอกครับ ถ้าไม่นับเรื่องศีลข้อ5ฝรั่ง,โดยส่วนมากนั้น,มีมากกว่าเราโดยไม่ได้ถือศีลแต่ก็อาจจะมีเรื่องฆ่าสัตว์เช่นตกปลายิงกวางบ้าน,ข้อ2นี่น้อยเพราะติดคุกและมีประวัติเสียทำงานไม่ได้ตลอดชีวิต,ข้อ3. ไม่นอกใจครับแต่เขาถือว่าเซ็กเปนเรื่องปกติแต่ที่นี่เขาป้องกันครับแต่เปิดเผยข้อ4น้อยมากครับ
แปลกนะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธแต่ทำไมตุ้ดกระเทยเกย์ทอมเยอะจัง?!(แปลว่าคนเจ้าชู้เกิดในไทยเยอะ) เด็กเสียตัวก่อนวัยอันควรตั้งเยอะ!?

 

เห็นด้วยกับทุกท่านที่กล่าวมาข้างต้นครับ

 

ดีใจที่เข้ามาแล้วยังไม่เจอพวกองุ่นเปรี้ยว ประเภทที่บอกว่าเราดีสุดฝรั่งแม่งเลวอย่างนั้นอย่างนี้

ต้องยอมรับความจริงข้อนึงครับว่า ไม่ใช่แค่ฝรั่งหรอกครับที่รวยกว่าเรา เจริญกว่าเรา มันรวมถึงชาติที่เจริญแล้วและกำลังจะเจริญตามไป เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อาจจะต้องรวมเวียดนาม มาเลเซียด้วยในนาทีนี้ สิ่งที่แตกต่างระหว่างไทยกับประเทศเหล่านั้นมีเพียงเรื่องเดียวครับ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นั่นคือจิตสำนึกต่อส่วนรวมครับ

ไม่ว่าจะวงการไหนในประเทศไทย ตำรวจ ทหาร ศาล ผู้พิพากษา ข้าราชการส่วนกลาง ข้าราชการท้องถิ่น นักการเมือง รัฐมนตรี ไปยันกรรมกร คนขับรถเมล์ ฯลฯ สิ่งที่เราเห็นก็คือ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง ขาดจิตสำนึกในการทำหน้าที่ตัวเองต่อส่วนรวม บางคนก็ลืมไปแล้วว่าหน้าที่ตัวเองจริง ๆ คืออะไร ประเทศไทยเราถึงได้เน่าและเน่าต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ

ไม่ใช่ว่าคนไทยหลบภาษีเก่ง ไม่ใช่ว่าจัดเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้า เราจัดเก็บภาษีได้ดีเลยล่ะ แต่การนำเงินภาษีไปใช้นั่นคือปัญหา ผมถามว่าถ้างานราคา 1000 บาท มีเงินลงไปที่งานแค่ 100-200 บาท ที่เหลือ 800-900 บาทกินกันโดยคนในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง แล้วงานมันจะเสร็จได้อย่างไร หรือเสร็จอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร

ตราบใดที่ผู้มีอำนาจในไทย ไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดก็ตาม ไม่ว่าข้าราชการ ตำรวจ ทหารคนใดก็ตาม ยังคงเห็นเงินภาษีประชาชนเป็นเพียงผลประโยชน์ส่วนตน ยังคงเห็นเงินภาษีประชาชนเป็นการต่อยอดเพื่อนำเงินนอกมาถลุงเพิ่ม เราคงไม่ได้เห็นประเทศไทยเป็นประเทศ "กำลังพัฒนา" เร็ว ๆ นี้ เพราะเรากำลังพัฒนามาร่วม 50 ปีแล้ว และเรากำลังพัฒนาต่อไปอย่างไม่เห็นแววว่าจะพัฒนาได้ยังไง เราก็จะได้เห็นการก่อสร้างสาธารณประโยชน์ใหญ่ ๆ ที่ล่าช้า เช่น รถไฟฟ้า เราจะได้เห็นถนนที่แม่งพังตลอด ซ่อมมันทั้งปี เช่น แถวศรีนครินทร์ หรือสะพานลอยข้ามแยกที่ซ่อมแล้วซ่อมอีก (ราดบาง ๆ แต่จ่ายแพง ๆ กินกันบ่อย ๆ) หรือไม่ก็กล้องวงจรปิดที่มีแต่กล่องเปล่า (แล้วบอกว่าติดแล้ว) กันเรื่อยไปครับ นี่ยังไม่นับเรื่องการจัดซื้อ GT-200 สุดห่วยของทหารในประเทศเราอีก แดกกันอิ่มหนำ ทหารชั้นผู้น้อยจะตายไปกูไม่สน ขอกูรวยไว้ก่อน นี่แหละ ไทย

 

เราแข่งกับ มาเลเซีย เมื่อ 15 ปีที่แล้ว
เรายังพอแข่งกับ เวียดนาม เมื่อ 8 ปีที่แล้ว

ตอนนี้ ทั้งคู่แซงเราไปแล้วครับ

ปัจจุบัน เรากำลังแข่งกับพม่าครับ อีกหน่อยก็มีแนวโน้มจะได้ไปแข่งกับ กัมพูชา ต่อครับ

 

ตามความเข้าใจของผม(อาจผิดก็ได้)ถ้าว่าตามหลักภูมิศาสตร์ประเทศแถบยุโรปฝรั่งทั้งหลายจะค่อนข้างหนาวต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่แปรปรวนโหดร้าย ถ้าอยู่นิ่งเฉยไม่ทำอะไรอาจแข็งตายอดตายได้จึงต้องคิดใช้ปัญญาเอาชนะธรรมชาติ สร้างที่อยู่วัตถุต่างๆให้แข็งแรงทนกับสิ่งแวดล้อมได้และแน่นอนหลายๆสิ่งไม่สามารถทำคนเดียวเก่งคนเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งต้องคิดร่วมคิดต่างได้แล้วมาสรุปผลร่วมกัน ในขณะที่บ้านเราสภาพที่ตั้งมีความอุดมสมบูรณ์"ในน้ำมีปลาในนามีข้าว"สภาพอากาศสิ่งแวดล้อมภัยธรรมชาติน้อยกว่า จัดได้ว่าสบายกว่าไม่จำเป็นต้องดิ้นรน ต่างคนต่างทำก็ได้และหลายๆช่วงถึงกับขัดแข้งขัดขากันเองผิดกับอย่างพวกฝรั่ง ชาวพาราบ้านเราในสมัยก่อนจึงมีเวลาร้องรำทำเพลงยามว่างและฟังธรรมะเข้าวัดเข้าวา ดูอย่างสมัยอยุธยาเรามีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมากทั้งในด้านศาสนาหรือถาวรวัตถุผมก็ว่าไม่ได้ด้อย เพียงแต่มาสะดุดก็ช่วงรอยต่อเสียกรุงกับรัตนโกสินทร์เท่านั้น สรุปว่าถ้าด้านวัตถุก็จริงที่ฝรั่งไปไกลกว่าด้วยว่าฝรั่งนั้นเป็นนักคิดนักประดิษฐ์แต่ในช่วงสมัยนึงก็ใช้ความเจริญที่ว่าในการเอาเปรียบชาติที่เจริญทางวัตถุน้อยกว่าตัวเองในยุค"ล่าอาณานิคม"และปัจจุบันก็ยังมีแนวคิดนี้อยู่ชาติมหาอำนาจบางชาติก็ยังทำอยู่เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ชาติของตนเอง ในขณะที่ทางเอเซียและบ้านเราไปเน้นทางจิตใจด้วยอิทธิพลของศาสนาต่างๆที่มีให้ยึดถือปฏิบัติกันอย่างหลากหลาย ผมเคยอ่าน(น่าจะเป็นต่วยตูนนะจำไม่ค่อยได้แล้ว)"ความสุขของคนตกปลา"มีฝรั่งคนนึงพี่แกน่าจะเป็นพ่อค้าม่ายก็ทำอุตสาหกรรมประมง ได้หยุดยาวไปเที่ยว ณ ประเทศสารขัณฑ์แห่งนึงแกก็ไปเห็นนักตกปลาคนนึงนั่งตกปลาอย่างไม่ยี่หระว่าปลาจะได้หรือไม่ได้ปลา อยู่ริมแม่น้ำตั้งนานร่วมค่อนวันเข้าไปแล้วก็ไม่เห็นว่าจะได้เสียที จนกระทั่งอดรนทนไม่ไหวด้วยความเป็นพ่อค้าหาแต่กำไรมาตลอดเลยเดินเข้าไปหาและพูดถามขึ้น"สูทำอะไรอยู่ได้ตั้งนานไม่เห็นได้อะไรเลย"พอนักตกปลาท่านนั้นได้ยินก็ตอบไปว่า"ตกปลาอยู่ไม่เห็นเหรอ"ย้อนถามเข้าอีก พ่อค้าฝรั่งจึงถามต่อไป"ใช้แค่เบ็ดคันเดียวจะไปได้อะไร ทำไมไม่ใช้แหหรืออวนละจะได้ปลามากๆ"นักตกปลาได้ฟังก็เลยย้อนถามไปบ้าง"ได้ปลาไปเยอะๆไปทำอะไร กินก็ไม่หมด"พ่อค้าฝรั่งก็ตอบ"ก็เอาไปขายซิ จะได้มีเงินมากๆไง"ฝรั่งเฉลย นักตกปลาถามต่อ"มีเงินมากๆไปทำไม"ฝรั่งก็ว่า"จะได้มีความสุขไงหละ"นักตกปลาจึงตอบไปว่า"ผมก็มีความสุขอยู่แล้วนี่ไง"ว่าแล้วก็นอนคอยปลาติดเบ็ดต่อไป ความรวยของฝรั่งก็อาจจะไม่ได้หมายถึงความสุขเสมอไป บ่อยครั้งที่ได้เจอข่าวฝรั่งสำลักความสุขที่ได้คิดค้นเกมแปลกมาตอบสนองกิเลสสนองความเจริญทางด้านวัตถุอย่างไร้สติ สนองความอยากสุดท้ายจบลงด้วยความตายก็มี หรือวันดีคืนดีมีคนคลุ้มคลั่งถือปืนบ้างมีดบ้างมากราดยิง หรือแอบเสียบเฉือนลูกกระเดือกคนที่ผ่านไปผ่านมาในมุมมืดอย่างไม่มีเหตุผล มีทั้งเป็นเด็กหรือคนที่เก็บกดจากสภาวะสังคมเป็นมุมมืดของตะวันตก ซึ่งอันนี้น่าเป็นห่วงด้วยว่าค่านิยมอย่างชาวตะวันออกกำลังถูกครอบงำด้วยอิทธิพลของสื่อทำให้ไปเห็นดีเห็นงามกับวัตถุบูชาเงิน ละทิ้งความดีคุณค่าแห่งศาสนาค่อยๆเลือนไปใครยึดถืออยู่ถูกมองอย่างล้าหลัง บ้างก็ปฏิบัติกันแบบผิดๆเชื่อผิดๆ จนผมได้ยินมาจากพระอาจารย์(จำไม่ได้)กล่าวว่า ในอนาคตพระอาทิตย์ซึ่งก็คือศาสนาพุทธจะไปเจริญงอกงามในชาติตะวันตก ทั้งนี้ด้วยความที่พวกนี้เป็นนักคิดปัญญาชนที่ถึงที่สุดแห่งความเจริญทางวัตถุแล้ว ก็จะเห็นเองว่าสมควรแล้วหรือยังที่จะหาแก่นแท้ของความสุขที่อยู่ภายในมากกว่า ซึ่งเขาก็จะไปค้นพบกับของดีที่พวกเรามีอยู่ ณ เวลานี้ก็คือพระพุทธศาสนาอันยิ่งใหญ่แห่งพระบรมศาสดานั่นเอง ส่วนเราๆนั้นผมว่าน่าเป็นห่วงว่าช่างห่างไกลความเป็นพุทธะเสียจริงๆ ผมไม่ห่วงว่าพวกฝรั่งจะรวยกว่าเจริญกว่าในทางวัตถุนะ แต่ห่วงว่าเราจะไปเอาเยี่ยง(วัตถุ)อย่างเขาแล้วห่างไกลจากศาสนา ซึ่งหากเป็นผมถ้าต้องรวยแล้วเจริญแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ไปวัดฟังธรรมหรือปฏิบัติธรรมละก้อ ผมขออยู่อย่างชนิดมีออเดอร์เข้ามาบ้างลุ้นบ้างอดบ้างอย่างนี้ดีกว่าไม่งั้นเสียดายอุตส่าห์ได้เกิดมาพบพุทธศาสนาทั้งที พลาดไปก็แย่ละ

 

ละเหี่ยใจจริงๆๆ

 

โอ้ย-.-ประเทศไทยเจ้าขา กินกันกระจายยย...

 

อย่าเอาเรื่องการเมืองมาพูดกันเลยครับ นี่เว็ปพระพุทธศาสนา ผมไม่อยากให้พวกสีเสื้อโน้นสีนี่มาด่ากัน ในบอร์ดเหมือนเว็ป Mthai เห็นแล้วอนาจพี่น้องกันทั้งนั้น อาจไม่ถูกใจขออภัยด้วยนะครับ
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นจะตามสนองผู้่กระทำ

 

ผมว่า เพราะฝรั่งเขามีอิทธิบาท๔ ในเรื่องความเจริญในด้านนั้นๆกันมากมากกว่าครับ

 

เท่าที่ดิฉันรู้จักฝรั่งมา เขามีจิตใจสูงกว่าคนบ้านเราคะ คุณลองเอารูปดาราไทยที่ทำศัลยกรรมแล้วสวยแล้วไปให้เขาดูคู่กับรูป สาวชาวบ้านนอก ฝรั่งทุกคนจะแยกไม่ออก และบอกสวยทังคู่ เพราะเขามีจิตไม่ริษยาดูถูกคน มองอะไรก็งามไปหมด และเขาเมตตาต่อสัตว์มากๆ ดิฉันเป็นชอบตุ๊กตาเคยสั่งซื้อจาก อาร์สตีสคนหนึ่ง เชื่อไหมเขากันเองมาก คุยไปคุยมาเขาถูกใจ เขาเลยบอกจะทำตุ๊กตาให้ดิฉันฟรีๆ และ เด็กฝรังทุกบ้านเขารักพ่อแม่มาก ดิฉันเห็นเขาปฏิบัติต่อพ่อแม่อย่างเช่น พ่อนั่งอยู่ ลูกก็เดินมาถามเองเลย ว่า จะดื่มอะไรไหม ชาหรือ กาแฟ เห็นเป็นงี้ทุกบ้าน และไม่ค่ยมีคนเถียงพ่อเถียงแม่ด้วย เด็กอายุ 15 เขาก็ไป ทำงานพิเศษกันทุกคนขนาด บางบ้านที่ดิฉันรู้จัก แม่ของเด็กทำอาชีพ เกี่ยวกับกฏหมาย ซึ่ง ดิฉันมีสัญญาให้เขาช่วยเรื่องบ้านดิฉันกับธนาคาร ผู้หญิงคนนี้รวยมากแม่เป็นอดีตทูต ส่วนพ่อมีเชื้อจ้าว บ้านของเขาใหญ่ยังกับวัง ลูกเขาอายุแค่ 15 เป็นเด็กผู้หญิงยังไปทำงานหารายได้พิเศษ ปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์ กับจดหมายตามบ้าน ผิดกับเด็กผู้หญิไทย ที่ดิฉันอ่านในกระทู้ พ่อแม่ก็จนอยู่แล้ว ยังมีลูกขี้เกียจ สร้างแต่ปัญหา และก็ท้องกะผู้ชายไปทำแท้ง ดิฉันบอกได้คำเดียวว่า คนฝรั่งขนาดอายุน้อยๆ มีคุณภาพกว่าคนไทยมา เด็กเขาผู้หญิงทำได้หมด ตั้งแต่ปักผ้า งานกุลสตรีไปจนถึงซ่อมไฟ โบกปูน ทำบ้าน

 

เห็นด้วยกับท่านครับอย่างยิ่งยวด

 

ถาม : พวกฝรั่งเขาไม่ได้ทำบุญในพุทธศาสนา ทำไมเขาจึงมีทรัพย์สินเยอะ ?
ตอบ : อย่าลืมว่าเราเห็นแค่ชาตินี้ ฝรั่งเขามีการให้ทานเป็นปกติ ในเมื่อเขาให้ทานเป็นปกติ ผลทานก็ย่อมเกิดโภคสมบัติต่าง ๆ สมบูรณ์บริบูรณ์อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่ามีแต่พระพุทธศาสนาของเราเท่านั้นที่ให้ทานแล้วจะให้ผล เรื่องของความดีจะเป็นคนศาสนาไหนก็ตาม ถ้าทำก็ให้ผลอยู่แล้ว

ถาม : ให้ทานคนไม่ดีกับให้ทานกับพระอรหันต์ต่างกันใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ต่างกัน สำคัญตรงที่คุณได้ทำหรือเปล่า ? ถ้าคุณมัวแต่รอพระอรหันต์แล้วจึงค่อยทำ ชาติหน้าบ่าย ๆ คงจะมีโอกาส
__________________

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ - หน้า 2 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

.

 

เห็นด้วย กับคุณพงพัน แต่ผมมีความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ใช่ว่าประเทศฝรั่งทุกชาติจะรวย ซึ่ชาติที่รวย ก็มีไม่กี่ประเทศ ส่วนใหญ่ก็เป็นชาติมหาอำนาจเสียส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ฝรั่งที่รวยๆ ส่วนใหญ่ เขาเชื่อมั่นในตนเอง เชื่อในผลของสองมือเขามากกว่า ต้องมาเชื่อหรือโทษชะตาของชีวิต พูดง่ายๆว่าฝรั่งไม่บนบานศาลกล่าวอะไร แต่เชื่อมั่นจากสองมือของตัวเองมากกว่า แต่หันมามองบ้านเรา ส่วนใหญ่เรามักจะบอกว่าเป็นผลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากกว่าความสามารถของตัวเอง เช่นไปบนบานที่นั่นนี่ก่อนสอบ พอสอบได้ ก็บอกว่าท่านอวยพรให้เรา สรุปฝรั่งเชื่อใน 5 สัมผัสของตัวเอง ในขณะที่ไทยเรา เชื่อในสัมผัสข้อที่ 6 มากที่สุด ฝรั่งเชื่อแค่กายหยาบที่ทำได้ ในขณะที่คนไทยเรา เชื่อว่ากายละเอียดมีอำนาจสูงสุด แต่อีกมุมนึง ผมก็มองว่า ฝรั่งเป็นชาติแห่งวัตถุ ที่สร้างมาเพื่อยั่วกิเลส ให้คนไทยอย่างเรา ยึดวัตถุมากกว่าศีลธรรม เป็นมารอย่างนึงสำหรับผู้จะสำเร็จมรรคผลในยุคนี้ เป็นตัวรบกวนสมาธิอย่างดีเลยแหล่ะ จะเห็นว่าคนไทยเราสมัยก่อนมีอภิญญากันอย่างมากมาย แต่มายุคนี้สิ โดน ipad iphone ฯลฯ ล่อลวงกันหมดแล้ว

 

ตอนนี้ฝรั่งหลายประเทศในยุโรปเและอเมริกาเจอวิกฤตเศรฐกิจหลายบริษัทเริ่มปิดกิจการ ผู้คนตกงาน บ้านโดนยึด หมดเนื้อหมดตัว คนที่มีงานทำก็ถูกรีดภาษีมากขึ้น นี่แค่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น หลายๆประเทศไม่ใช่ประเทศเล็กๆในยุโรปด้วยนะที่ผ่านมาเห็นว่าดูดีเจริญก้าวหน้าพอดูลึกๆ สะสมซ่อนหนี้หลงใช้จ่ายเกินตัว หลายสิบปีจนหนี้ท่วมหัว ตอนนี้เริ่มจะปิดไม่อยู่ซอนไว้ไม่ไหว เข้าทำนองช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด

 

ฝรั่งเค้าเน้นเรื่องพัฒนาวัตถุมาตลอดครับ ส่วนเรามาเขวอยากเป็นเหมือนฝรั่งทีหลังเค้าก็เลยต้องเป็นผู้ตามด้านวัตถุเค้าไป เน้นครับตามด้านวัตถุ

 

เรื่องอภิญญาดิฉันก็ขอเถียงคะ เราส่วนใหญ่คิดกันว่าเราเมืองพุทธ พูดกันแต่ปากพระองคฺ์นั้นองค์นี้มีอภิญญา แต่มีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ ดิฉันเคยเห็นฝรั่งที่มีอภิญญาสูงเยอะแยะมากมาย อย่าง คุณ ลิซ่า วิลเลี่ยม กับ แดริก โอลกีวี่ ที่เก่งทีสุดในโลก เก่งกว่าทั้ง คุณ ริว และคุณ เจน เพราะ ทั้งสองคนนี้ สามารถ บอกได้ แม้แต่ชื่อ คู่สนธนาที่ไม่รู้จักกันมาก่อน สามารถ บอกได้ ว่า รูป ในซอง เป็นรูปอะไร
คุณลิซ่า เป็น คน มะกัน ส่วนแดริก คนยุโรป ค่าลิซ่าตรวจญาณที ถึง 850 ดอลล่า และไม่กัก วิชาด้วย.... เธอเปิดสอน โรงเรียนทิพยจักษุ แบบ มีสถานที่ให้ไปเรียน หรือใครไปไม่ได้ก็มี เรียนออนไลน์ แต่ไม่ฟรี ต้องเสียเงินเข้าครอสเรียนซึ่งแพงมาก แต่รับประกัน จบหลักสูตรได้ทิพยจักษุทุกคน ที่ประเทศดิฉันอยู่ มีคนไปเรียนกับแก มาแล้วมาเป็น หมอญาณทิพแบบจดทะเบียนมากมาย มาออก ในที ทางโทรศัพท์ ตอนกลางคืน พวกนี้รู้หมด ศัตรูเราน่าตาเป็นไง มีปัญหาเรื่องอะไรมา เขาจะได้ยิน ทันที เหมือนผีมาบอก ดิฉันยังคิดว่าจะเก็บเงินไปเรียนกะเขามั้ง

ถ้าสนใจอยากเรียน ก็ลองเข้าไปดูในเวปของเธอได้คะ ส่วนดิฉันตอนนี้กำลังเก็บเงินยู่ เพราะอยากเรียนอยู่เหมือนกัน เพราะเห็น คนในประเทศดิฉันที่เขาไปเรียนกัน เขาได้ตรงนี้จริงๆ ดิฉันว่า ญาณโลกีร์ แบบฝรั่งนี้ก็ดีนะคะ เขามีการตรวจสอบใครจริงไม่จริง ก่อนจะได้ประกาสนียบัตรมาหากินได้เขาต้องทดสอบเยอะและยากมากๆ อย่างเช่น เอา ของอย่างหนึ่งไปซ้อนไว้ในหลังรถคันนึงในเซียนกง จากรถเป็น ร้อยๆคัน ในสิบนาที คุณจะต้องหาของนั้นให้เจอ ถ้าไม่เจอก็สอบตก
ของไทยเรามีแต่ฌาณหลอกเต็มไปหมด อย่างเวป รักไร้พ่ายอะไรนั้นนะ ที่คุณเจนเป็นสังกัดอยู่

คุณ ลิซ่า

http://www.lisawilliams.com/


คุณ แดริก โอลกีวี่

http://www.derekogilvie.com/