สาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นนาค

นาคราชมี4ชนิดหลักๆด้วยกัน และจากภูมิประเทศที่อยู่อาศัย แหล่งกำเนิด จึงกล่าวได้ว่านาคราชนั้นมีหลายเผ่าพันธ์มาก แต่ละเผ่าพันธ์วรรณะก็ต่างกัน ลักษณะของรูปร่างหน้าตา หงอน เขี้ยว เกล็ด สีผิว ความยาวลำตัว ความใหญ่ รวมทั้งแก้วมณีนาคราชอันเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ ของแต่ละเมืองหรือแดนนาคราชก็เช่นกันครับ และมณีนาคา หรือมณีนาคราชนั้น ในเมืองบาดาลหรือเมืองๆหนึ่ง จะมีเพียงไม่กี่องค์ มณีนาคราชเป็นของส่วนรวม มีนาคราชส่วนหนึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษา เป็นสมบัติตกทอดกันมา ของเมืองบาดาลหรือเมืองนาคราชนั้นๆ

มณีนาคราชอีกส่วนหนึ่งเป็นแก้วมณีที่มหาเทพหรือเทพประทานไว้ให้ บางส่วนก็มีผู้มีบุญบารมีฝากไว้ให้ช่วยรักษา เมื่อถึงเวลาแก้วมณีเหล่านั้นต้องกลับคืนสู่เจ้าของ นาคราชเหล่านั้นก็จะต้องนำมาถวายให้กลับคืน อย่างเช่น ลูกแก้ววิเศษของหลวงปู่ทวด เป็นต้นครับ

 

เรื่องลูกแก้ววิเศษของ ลป.ทวด เคยได้ยิน ได้อ่านมาเหมือนกันค่ะ สุดยอดมากๆ เลย

 

พูดถึง แก้วมณีนาคา ขอกล่าวเสริมอีกว่า ทุกดินแดนแว่นแคว้นแห่งนาคราช จะมีประดับไว้เป็นของศักดิ์สิทธิ์คู๋บารมีและเป็นของศักดิ์สิทธิ์ประจำเผ่าพันธ์ตระกูลของเหล่านาคราชเมืองนั้นๆ
ซึ่งอย่างในอดีตชาติที่กระผมเคยเกิดอยู่ในเมืองบางดาล กลางมหาสมุทร คือจะมีสะดือมหาสมุทร คือส่วนที่ลึกที่สุดเข้าถึงยากที่สุด เป็นส่วนที่มีธรรมชาติสวยงามมาก สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ประะดิษฐาน พระพุทธรูป มณีนาคาและอัญมณีอื่นๆ ซึ่งจะมีนาคราชดูแลรักษา รวมทั้งในเวลาที่เป็นดิถีฤกษสำคัญก็จะมีการทำพิธีบูชา พระพุทธเจ้า พระรัตนตรัย ตลอดจนบูชาแก้วมณีนาคาครับ แก้วมณีนาคาจึงเป็นของล้ำค่าศักดิ์ มีอานุภาพดีงามมากมายหลายประการ

ในเมืองบาดาลในการกระทำพิธีกรรมต่างๆ จะมีนาคราชผู้เป็นพ่อพราหม์ นำกระทำพิธี ซึ่ง ผมจะขอเอ่ยพระนามว่า พ่อปู่ฤษีพุฌชงค์ หรือบางท่านรู้จักในนามปู่ฤาษีนาคราชพรามหมุนี เป็นต้นครับ ท่านจะเป็นอาจารย์ของเหล่านาคราชหรือพยานาคทั้งหลายในแคว้นดินแดนนั้นๆครับ

 

พอจะเล่าเรื่องราวของท่าน "ปู่ฤษีพุฌชงค์ หรือปู่ฤาษีนาคราชพรามหมุนี " ให้ฟังหน่อยได้มั้ยค่ะ อยากฟังค่ะ

 

"ปู่ฤษีพุฌชงค์ หรือปู่ฤาษีนาคราชพรามหมุนี "

คือพญานาคราช ผู้ถือพรมหจรรย์ เป็นเวลายาวนาน มีสมาธิแก่กล้า มีวิชาคงแก่เรียน ท่านจะเก่งในกสิน น้ำ ดินและกสินไฟ จะภาวนาเข้าฌาณเป็นปกติ ในการภาวนาเข้าฌาณของท่าน จะมีนาคราชบริวาร คอยคุ้มครองแผ่พังพาน
ปู่ฤษีพุฌชงค์ จัดได้ว่าท่านเป็นจอมมุนีนาถ พระองค์หนึ่งในบรรดา บรมครูปู่ฤษี 108 พระองค์ บารมีของท่านจัดอยู่ในบารมีเทพชั้นรูปพรหม และอรูปพรหมก็มี ปูฤษีพุฌชงค์ มีหลายภาค หลายพระองค์ เป็นพระนามทั่วไปที่ใช่เรียก แทนปู่นาคราชผู้มี ฌาณบารมีสูงเป็นผู้ถือพรหมจรรย์ และคงแก่วิชาอาคม เป็นผู้รอบรู้ในไสยเวทย์ครับ
ท่านจะเป็นผู้นำทำพิธิกรรมต่างๆของเหล่านาคราช เป็นที่นับถือ และเป็นครูอาจารย์ครับ
ปกติ ปู่ฤษีท่านจะมีกายเป็นมนุษย์แก่ชรา ผมยาวขาวแซมดำหรือขาวล้วน มวลเก็บผมเรียบร้อย ด้วยบารมีที่ปฏิบัติมา จะไม่คืนกลับร่างไปเป็นนาคราชอีก แต่อุปนิสัยบางประการยังเคยชินเหมือนนาคราช ท่านจะนุ่งชุดขาวห่มขาว มีไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ สีดำทำจากไม้กัลปังหา มีประคำไข่มุขหรืออัญมณีสีขาวหรือดำเป็นต้นครับ ครับ

 

=========
ปู่ฤษีพุฌชงค์ (ปู่ฤาษีนาคราชพรามหมุนี)... ปู่ฤาษีภุชงค์นาคราช...ปู่ฤษีพุฌชงค์ มุจลินทร์....ทั้งสามเป็นพระนามเรียกที่ต่างกันแต่ จัดอยู่ในภูมิเดียวกันครับ เพราะหมายถึงนาคราชผู้ทรงศีล ทรงพรหมจรรย์ สร้างบารมีมานานมากครับ เป็นผู้คงแก่วิชาอาคม คงแก่สมาธิฌาณครับ

 

นาคราชมีร่างกายเป็นกายหยาบเหมือนมนุษย์เราไหมครับ

 

นาคราชมีอิทธิฤทธิ์ มาก การนิรมิต ให้มีร่างกายหรือกายหยาบเหมือนมนุษย์ นั้น สามารถทำได้เสมือนกับของมนุษย์ ครับ จึงไม่แปลกว่าแม้ในสมัยก่อน หรือในทศชาดกเรื่อง พระภูริทัตนาคราช ก็มีว่าพระนางสมุทรชา ธิดาของพระเจ้าธตรฐอยู่กับนาคราชร่วมฉันสามีภรรยา และสามารถมีบุตรร่วมกันได้ครับ แต่ความเป็นนาคราชก็ยังคงเหมือนเดิมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ธรรมชาติของนาคราชก็เช่นกัน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ

 

แล้วพญาครุฑละครับ ท่านเป็นยังไงมั่งครับ

 

อยากรู้ด้วยคนหนอ....

 

อันนี้ต้องรอให้คนเคยเกิดเป็นครุฑมาตอบจะดีไหมหนอ อิอิ

ก็จะมีพระสูตรกำเนิดครุฑเหมือนกันครับ ซึ่งเนื้อในพระองค์ท่านจะตรัสคล้ายๆกันเลย ดูลายละเอียดได้ในนี้ครับ

http://download.watnapahpong.org/data/books/pobpoom_20130130.pdf

 

กําเนิดครุฑ ๔ จําพวก
ภิกษุทั้งหลาย ! กําเนิดของครุฑ
(สุปณฺณ)
๔ จําพวกนี้.
๔ จําพวก เปนอยางไรเลา ? คือ :-
(๑) ครุฑที่เปนอัณฑชะ
(เกิดในไข)
(๒) ครุฑที่เปนชลาพุชะ
(เกิดในครรภ)
(๓) ครุฑที่เปนสังเสทชะ
(เกิดในเถาไคล)
(๔) ครุฑที่เปนโอปปาติกะ
(เกิดผุดขึ้น)
ในครุฑทั้ง ๔ จําพวกนั้น
ครุฑที่เปนอัณฑชะ ยอมนํานาคที่เปนอัณฑชะไปได
นํานาคที่เปนชลาพุชะ สังเสทชะและโอปปาติกะไปไมได.
ครุฑที่เปนชลาพุชะ ยอมนํานาคที่เปนอัณฑชะและ
ชลาพุชะไปได นํานาคที่เปนสังเสทชะ โอปปาติกะไปไมได.
ครุฑที่เปนสังเสทชะยอมนํานาคที่เปนอัณฑชะ
ชลาพุชะและสังเสทชะไปได นํานาคที่เปนโอปปาติกะไปไมได.
ครุฑที่เปนโอปปาติกะ ยอมนํานาคที่เปนอัณฑชะ
ชลาพุชะ สังเสทชะและโอปปาติกะไปได.
ภิกษุทั้งหลาย !
นี้แล กําเนิดของครุฑ ๔ จําพวก

 

ตามพุทธวัจน พระองค์กล่าวไว้เช่นนั้น หากพูดถึงครุฑ หรือพญาครุฑ ผู้เป็นเดียรฉานเทพ อันเป็นสัตว์พาหนะของพระนารายน์ นั้น ความจริง ขอกล่าวเพิ่มเติม ในฐานะที่กระผมเคยเกิดเป็นเทพเคยรับใช้พระนารายน์ และเคยเกี่ยวพันธ์กับท่านพญาครุฑว่า

กำเนิดแห่งพญาครุต ยังแบ่งแยกได้ดังนี้ตามตระกูลแห่งปักษาหรือนก นั่นเองครับ
1 นกหรือปักษา ขนาดเล็ก เช่น นกกระจิบ นกกระจอกเป็นต้น
2 นกขนาดปานกลาง เช่นนกกระจาบขึ้นไป
3 นกขนาดใหญ่ เช่น นกเป็ดน้ำ นกกระยางอื่นๆ
4 พญานก นกยักษ์ ได้แก่ พญาแร้ง พญาอินทรีย์ พญาปักษี เป็นต้น
5 พญาครุต ที่เกิดในเถ้าไคล ในหนาผาและถ้ำที่สูง มีอิทธิฤทธิ์เบื้องต้น
6 พญาครุฑ ที่เกิดในอากาศวิมานทิพย์ [โอปาติกะ] มีอิทธิฤทธิ์มากหรือตามกำลังบุญบารมี สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เช่นเดียวกับพญานาค ครับ

เหตุที่งูกับ นก หรือ พญานาคกับพญาครุฑ ไม่ค่อยจะลงรอยหรือถูกชะตากันก็เกี่ยวเนื่องด้วย กรรมในอดีตที่ร่วมสร้างกันไว้มานานแสนนาน อันเกี่ยวกับ การดำรงชีวิตการทำมาหากิน เพราะทั้งนาคและครุฑ แย่งอาหารกัน คือ ปลาในมหานที กินเป็นอาหาร แต่ ครุฑบางตัวที่ดุร้าย จะกัดกิน นาค เป็นอาหารด้วย เนื่องจากพญาครุฑได้รับพรจากพระนารายน์ จึงมีฤทธิ์มากและมีชัยชนะเหนือนาคราช มีแต่นาคราชบางตนเท่านั้นที่สั่งสมบุญบารมีไว้มาก หรือมีวิชาอาคมมากจากที่ตนปฏิบัติก็อาจจะมีชัยชนะเหนือนาคราชได้ แก้วมณีนาคราชก็เป็นอาวุธอย่างหนึ่งที่สามารถป้องกันอันตรายจากพญาครุฑได้ ด้วยอำนาจของแก้ววิเศษครับ

 

มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

 

เรากล่าวด้วยความรู้อันเกิดจากฌาณนิมิต หากผิดพลาดไม่ถูกต้องสิ่งใดขอท่านทั้งหลายจงแสดงเหตุ หรือรายละเอียดเพื่อความกระจ่างด้วยครับ กระผมยินดีรับฟังและแก้ไขเพื่อสิ่งที่ถูกต้องครับ สาธุ