สาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นนาค

เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาค
จำพวกอัณฑชะ



พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรมทั้งสอง
(กรรมทั้งสองอยาง คือ กรรมทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล)
ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า
พวกนาคที่เป็นอัณฑชะ มีอายุยืน มีวรรณะงาม
มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า
โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ.
เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้
ที่นอน ที่พัก ประทีป และอุปกรณ์แห่งประทีป
เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย
ของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ.

ดูกรภิกษุ ข้อนี้แล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
ให้บุคคลบางคนในโลกนี้เมื่อตายไป
เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ.
(เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคที่เป็นชลาพุชะ
สังเสทชะและโอปปาติกะ พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสคล้ายๆกัน)
(ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๐๑-๓๐๒/๕๒๕-๕๒๘)​

นาคเป็นสัตว์เดรัจฉาน

ก็โดยสมัยนั้นแล นาคตัวหนึ่งอึดอัด ระอา เกลียดกําเนิดนาค
นาคนั้นได้มีความดําริว่า ด้วยวิธีอะไรหนอ เราจึงจะพ้นจากกําเนิดนาค
และกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน.
ครั้นแล้วได้ดําริต่อไปว่า สมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้แล
เป็นผู้ประพฤติธรรม ประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย์ กล่าวแต่
คําสัตย์ มีศีล มีกัลยาณธรรม หากเราจะพึงบวชในสํานักสมณะ
เชื้อสายศากยบุตร ด้วยวิธีเช่นนี้ เราก็จะพ้นจากกําเนิดนาคและ
กลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน.



ครั้นแล้วนาคนั้นจึงแปลงกายเป็นชายหนุ่ม แล้วเข้าไปหา
ภิกษุทั้งหลายขอบรรพชา ภิกษุทั้งหลายจึงให้เขาบรรพชาอุปสมบท
สมัยต่อมา พระนาคนั้นอาศัยอยู่ในวิหารสุดเขตกับภิกษุรูปหนึ่ง.
ครั้นปัจจุสสมัยแห่งราตรี ภิกษุรูปนั้น ตื่นนอนแล้วออกไป
เดินจงกรมอยู่ในที่แจ้ง ครั้นภิกษุรูปนั้นออกไปแล้ว พระนาคนั้น
ก็วางใจจําวัด วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง.
ครั้นภิกษุรูปนั้นผลักบานประตูด้วยตั้งใจจักเข้าวิหาร
ได้เห็นวิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เห็นขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง
ก็ตกใจ จึงร้องเอะอะขึ้น.
ภิกษุทั้งหลายพากันวิ่งเข้าไปแล้วได้ถามภิกษุรูปนั้นว่า
“อาวุโส ท่านร้องเอะอะไปทําไม ?”
ภิกษุรูปนั้นบอกว่า “อาวุโสทั้งหลาย วิหารนี้ทั้งหลังเต็มไป
ด้วยงู ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง”
ขณะนั้น พระนาคนั้นได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงนั้น แล้วนั่งอยู่
บนอาสนะของตน.
ภิกษุทั้งหลายถามว่า “อาวุโส ท่านเป็นใคร ?”
น. “ผมเป็นนาค ขอรับ”
ภิ. “อาวุโส ท่านได้ทําเช่นนี้เพื่อประสงค์อะไร ?”

พระนาคนั้นจึงแจ้งเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแก่พระผู้มีพระภาค
ลําดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ใน
เพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วได้ทรง
ประทานพระพุทธโอวาทนี้แก่นาคนั้นว่า :-

“พวกเจ้าเป็นนาค มีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้
เป็นธรรมดา ไปเถิดเจ้านาค จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ ๑๔
ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นแหละ ด้วยวิธีนี้ เจ้าจักพ้นจาก
กําเนิดนาค และจักกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน”.
ครั้นนาคนั้นได้ทราบว่า ตนมีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้
เป็นธรรมดา ก็เสียใจหลั่งน้ําตา ส่งเสียงดังแล้วหลีกไป.

ลําดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า :-
ภิกษุทั้งหลาย ! เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพ
ของนาค มีสองประการนี้คือ :-
เวลาเสพเมถุนธรรมกับนางนาคผู้มีชาติเสมอกัน ๑
เวลาวางใจนอนหลับ ๑
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล เหตุแห่งความปรากฏ
ตามสภาพของนาค ๒ ประการ.
ภิกษุทั้งหลาย ! อนุปสัมบัน คือ สัตว์เดรัจฉาน
ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้สึกเสีย.
(มหา. วิ. ๔/๑๗๕/๑๒๗)





กําเนิดนาค ๔ จําพวก



ภิกษุทั้งหลาย ! กําเนิดของนาค ๔ จําพวกนี้.
๔ จําพวก เป็นอย่างไรเล่า ? คือ :-

(๑) นาคที่เป็นอัณฑชะ (เกิดในไข่)




(๒) นาคที่เป็นชลาพุชะ (เกิดในครรภ์)




(๓) นาคที่เป็นสังเสทชะ (เกิดในเถ่าไคล)




(๔) นาคที่เป็นโอปปาติกะ (เกิดผุดขึ้น)



ในนาค ๔ จําพวกนั้น
นาคที่เป็นชลาพุชะ สังเสทชะและโอปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็นอัณฑชะ.
นาคที่เป็นสังเสทชะและโอปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็นอัณฑชะและชลาพุชะ.
นาคที่เป็นโอปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็นอัณฑชะ ชลาพุชะ และสังเสทชะ.
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล กําเนิดของนาค ๔ จําพวก.
(ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๙๘/๕๑๙)​

 

ขอบคุณมากค่ะ ...

 

ตำนานพญานาคในพุทธศาสนา


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=V9hLSBP9P14]ตำนาน พญานาค ^_^ @เมืองพญานาคราช - YouTube[/ame]

 

ขอคุณครับได้ความรู้มากเลยครับ

 

ทำไมก่อนบวชต้องบวชนาคก่อน หลาย ๆ คนคงจะเข้าใจว่าเป็นเพราะสมัยพระพุทธกาลมีพญานาคตนหนึ่งอยากจะบวช จึงแปลงกายเป็นมนุษย์แล้วบวช จากนั้นก็ถูกจับได้ว่าเป็นพญานาค พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่านาคเป็นอภัพสัตว์ จะบรรลุมรรคผลไม่ได้ จึงมิสามารถบวชได้ พญานาคจึงเสียใจมากแล้วจากไป(ในคัมภีร์มหาวรรค แห่งพระวินัยปิฎก เขียนไว้แค่นี้ส่วนที่เหลือเป็นการเล่าเสริมขึ้นมา) จากนั้นพญานาคจึงขอให้ฝากชื่อของตนไว้กับคนที่จะบวชใหม่ เพื่ออุทิศผลบุญกุศลมาให้แก่ตนซึ่งบวชไม่ได้ เพราะเหตุนี้คนบวชใหม่จึงถูกเรียกว่า “นาค” สืบมา
แท้จริงแล้วเรื่องเล่าดังกล่าวไม่ใช่เหตุผลเลย เวลาคนบวช พระคู่สวดจะถามว่า “มนุสโส สิ” แปลว่า “ท่านเป็นมนุษย์หรือ?” นาคต้องตอบว่า “อามะ ภันเต” ใช่ครับ ถ้าเป็นพญานาคก็บวชไม่ได้ชัวร์
นาค นอกจากจะแปลว่า งูใหญ่ แล้วยังแปลว่า ไม่มาสู่ความประพฤติชั่ว เป็นลักษณะของคนดี พระจะบวชให้เฉพาะนาคเท่านั้น คนชั่ว ๆ เป็นนาคไม่ได้ เพราะฉะนั้นทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า “บวชนาค = บวชคนดี”

 

ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ

 

เรื่องละเอียดและลึกอย่างนี้ ไม่มีในตำราที่สังคายนากัน เป็นบูรพาจารย์ต่างๆรจนากันขึ้นภายหลังทั้งสิ้น.....
...พระอานนท์มิใช่คอมพิวเตอร์ที่จะสามารถจดจำรายละเอียดต่างๆได้หมด.....คือนอกจากพระไตรปิฏกแล้ว คัมภีร์วิวิสุทธิมรรค ก็น่าจะใช้เป็นแนวทางได้ดีเช่นกัน

 

ผมว่าคอมพิวเตอร์จำแย่กว่าคนอีก พอโดนไวรัสนะครับหายหมดเลย โดยเฉพาะ folder.exe เล่นเอาแทบแย่

 

เรื่องอำนาจบุญของท่านที่บำเพ็ญบารมีมาถึงระดับนั้นแล้ว เอาความคิดของเราไปประเมินไม่ได้หรอกครับ 84000 พระธรรมขันธ์ท่านยังจำได้หมด คิดว่าท่านจะลืมอะไรได้อีกครับ

 

ขอบคุณมากๆค่ะ

 

ขอบคุณนะคะ

 

ได้รับความรู้มากเลยครับ

 

พญานาค ประเภทที่ 3และที่4 จัดว่าเป็นพญานาคที่มีอิทธิฤทธิ์ พญานาคชนิดที่สามและสี่กำเนิดในเถ่าไคล ในคุ้งน้ำ ถ้ำ และหน้าผา เป็นนาคที่จะต้องถือศีล ปฏิบัติตามแบบประเพณีของเชื้อชาติตระกูลนาค
ส่วนประเภทที่สี่ จะเป็นโอปาติกะพญานาค กำเนิด ในเมืองบาดาล ใจกลางมหานที หรือมหาสมุทร หรือเมืองพญานาคและถ้ำแก้ว อันเป็นทิพย์ มีอิทธิฤทธิ์ ด้วยบุญบารมีเก่า

โดยมาก พญานาค จะมีการเลื่อนขั้น ตามบุญบารมี เริ่มต้นด้วยการเกิดเป็น
1งูเล็ก
2งูใหญ่
3นาคราชประเภท1
4นาคราชประเภท2
5นาคราชประเภท3
6นาคราชประเภท4

ตั้งแต่ข้อ1-4จัดอยู่ในภูมิ สัตว์เดรฉาน
ตั้งแต่ข้อ5-6 จัดอยู่ในสัตว์เดียรฉานเทพหรือชั้นจาตุมหาราชิการ มีท้าววิรุฬปักษ์เป็นหัวหน้าปกครองครับ

อีกนิด ผมขอแยกประเภทของพญานาคราช ตามภูมิประเทศของการอยู่อาศัย ได้เป็น4ชนิดดังนี้

1 นาคราชอาศัย เมืองบาดาล สะดือทะเล
2 นาคราชอาศัย เมืองบาดาล สะดือแม่น้ำ
3 นาคราชอาศัยในเขตป่าดงดิบ เป็นเมืองนาคราช
4 นาคราชอาศัยในถ้ำ และภูเขาใต้ถ้ำหรือภูเขาจะเป็นเมืองบาดาล เป็นเมืองนาคราช

ทั้ง4ประเภทที่กล่าวมา นั้นมีพญานาคาช หลายชนิดอาศัยอยู่มีหัวหน้าปกครองทุกดินแดนที่เขาอยู่ อนึ่งที่กระผมกล่าวเช่นนี้ก็เพราะอดีตก็เคยเกิดเป็นพญานาค ครับ ขอกล่าวสรุปเพียงแค่นี้ครับ สาธุครับ

 

ขอเสริมอีกนิดครับ ตรงถิ่นอาศัยแห่งนาคราช ข้อสาม ที่อาศัยในเขตป่าดงดิบ ก่อไม้ใหญ่ โพลงหญ้า โพลงไม้ใหญ่ และโพลงดินใหญ่ เป็นเมืองนาคราช แต่ในแถบบริเวณดังกล่าว จะต้องมีหนองน้ำหรือบ่อน้ำหรือสระน้ำ

ธรรมชาติของนาคราช คือต้องอาศัยน้ำในการชำระกายของตน พร้อมด้วย นาคราชมีพิษ ที่ร้อนดุจไฟ การลงเล่นน้ำของนาคราชและการคายพิษ เพื่อรักษาสมดุลของกายธาตุของนาคราชจึงเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติอุปนิสัยข้อหนึ่งครับ

 

อยากฟังเรื่องราวอีกเยอะๆ ค่ะ...ชอบจัง

 

========

สวัสดีครับ คุณmukmik จำผมได้หรือเปล่าครับ ผมTPCไงครับ พอดีว่าเห็นมีคุยกันเรื่องนาคราช ก็เลยขอร่วมแชร์ด้วยครับ

 

จำได้สิคะ...ยังคิดอยู่เลยว่า หายไปไหนซะนาน...
(อยากฟัง ประสบการณ์ เรื่องเล่า อีกเยอะๆ ค่ะ)

 

ชอบหนังเรื่อง....มณีสวาท....มากๆๆๆๆๆๆๆๆจริงๆเรื่องนี้ทำดีมากๆ

 

อยากฟังเรื่องราวเกี่ยวกับนาคอีกเยอะ ๆ เลยครับ กำลังอินกับละครมณีสวาท

 

เล่าอีกสิค่าาา แพนอยากฟัง...