ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธเจ้าองค์ดำ สูง ๑๐๘ ฟุต เมืองนาลันทา ประเทศอินเดีย

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย มะขามหย่อง, 27 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. มะขามหย่อง

    มะขามหย่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +423
    วัดไทยนาลันทา ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธเจ้าองค์ดำ สูง ๑๐๘ ฟุต เมืองนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย

    ประวัติความเป็นมาของโครงการ

    โครงการสร้าง พระพุทธรูปองค์ดำ พุทธชยันตีเฉลิมราช สูง ๑๐๘ ฟุต (ประมาณ ๓๐ เมตร) ด้วยหินทรายแดง จากเมืองจูนาร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นหินชนิดเดียวกันที่สร้างเสาอโศกนั้น จะใช้หินจำนวน ๑,๙๙๙ ก้อนๆ ละ ๘๕๐ กิโลกรัม ขนาด ๔x๖ ฟุต พร้อมทั้งสร้าง พุทธสถานธัมมิกราช เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา สูง ๑๕ ฟุต ห่างจากวัดไทยนาลันทาประมาณ ๔๐ กิโลเมตร ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยมี พระพรหมวชิรญาณเป็นประธานสงฆ์ และมีพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระธรรมทูตจากทั่วโลก และคณะอุบาสกอุบาสิกา รวมเป็นจำนวน ๒๕๐ รูป/คน เข้าร่วมในพิธี ได้ทำการซื้อที่ดินโดย มูลนิธิวัดไทยนาลันทา The WatThainalanda Foundation ซึ่งมี ดร.พระมหาพัน สุภาจาโร เป็นประธานมูลนิธิ มีพระเทพโพธิวิเทศ เป็นประธานที่ปรึกษา พระมหาพิรุฬ พทฺธสีโล เป็นกรรมการ และมีชาวอินเดียอีก ๔ ท่านเป็นเลขานุการและคณะกรรมการ จดทะเบียนเลขที่ ๙๘๕ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ ที่เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย จำนวนที่ดิน ๒๒ ไร่ (๘.๖๒ เอเคอร์) เป็นจำนวนเงิน ๑๐ ล้านบาท และมอบโอนที่ดินแล้วในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างแล้วเสร็จ ๔ – ๕ ปี และใช้ค่าก่อสร้างอีกประมาณ ๓๐ ล้านบาท

    ประวัติพระพุทธเจ้าองค์ดำ

    ประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้าองค์ดำ หรือที่ชาวอินเดียเรียกขานว่า หลวงพ่ออ้วน หรือหลวงพ่อน้ำมัน(โมต้าบาบา /เตลิยะบาบา) นั้น จากบันทึกของรามปิล่า สิงห์ ผู้ช่วยอำนวยการสำนักงานท่อเที่ยวอินเดีย ทำให้เราได้ทราบว่า พระพุทธรูปพระพุทธองค์ดำนี้ สร้างขึ้นโดย ท่านธรรมปาล ในสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือระหว่างปี พ.ศ. ๑๓๕๓ – ๑๓๙๓

    พระพุทธรูปองค์ดำนี้เป็น พระพุทธรูปองค์เดียวที่นับว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดที่รอดพ้นจากการทำลายของศาสนาอื่น เมื่อครั้งมหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาพุทธศาสนาได้ถูกทำลายลง ราวปี พ.ศ. ๑๗๖๖ และถูกฝังอยู่ใต้เศษอิฐ และหินที่ทับถมอยู่ใต้แผ่นดิน เป็นเวลานานเกือบ ๗ ศตวรรษ หรือประมาณ เกือบ ๗๐๐ ปี
    จากการบันทึกของท่าน ตารนาท ธรรมสวามินปราชญ์เขียนเอาไว้ว่า พอกองทัพมุสลิมยกทัพกลับไปแล้ว พระ นักศึกษา และพระอาจารย์ ที่มหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา ซึ่งเหลืออยู่ประมาณ ๗๐ องค์ ก็พากันออกมาจากที่ซ่อน ทำการสำรวจข้าวของที่ยังหลงเหลืออยู่ รวบรวมเท่าที่จะหาได้ ปฏิสังขรณ์ตัดทอนกันเข้าก็พอได้ใช้สอยกันต่อมา และ ท่านมุทิตาภัทร รัฐมนตรีของกษัตริย์ในสมัยนั้นได้จัดทุนทรัพย์จำนวนหนึ่ง ส่งไปจากแคว้นมคธ เพื่อช่วยเหลือซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัดวาอารามที่นาลันทาขึ้นมาใหม่แต่ก็ทำได้บางส่วนเท่านั้น

    แต่แล้ววันหนึ่ง ได้มีชูชก ๒ คนเข้ามาวางอำนาจ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลทางศาสนา ล่วงมาเป็นเวลา ๑๒ ปี ชูชกทั้งสองได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาขึ้น และคงคิดว่าเพียงพอแล้วที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป จึงได้รวบรวมเศษไม้แล้วก่อไฟขึ้น พร้อมทั้งขว้างปาดุ้นฟืนที่ติดไฟไปตามสถานที่ต่างๆ โดยรอบ จนกระทั่งเกิดไฟลุกไหม้ไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยนาลันทา ก็เป็นอันแหลกลาญเป็นผุยผง สุดที่จะทำการซ่อมแซมปฏิสังขรณ์ให้คืนดีได้ดังเดิม มหาวิทยาลัยนาลันทา อันเลื่องชื่อลือนาม ก็เป็นอันสิ้นสุดลง ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า มาตั้งแต่บัดนั้น

    การค้นพบนาลันทา

    ในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย นักโบราณคดีจำนวนมากได้มาสำรวจขุดค้นพุทธสถานต่างๆ ในอินเดียโดยอาศัยบันทึกของท่านเฮี่ยนจัง คนแรกที่มาสำรวจ คือ ท่าน ฮามินตัน (Lord Haminton) ใน พ.ศ. ๒๓๕๘ แต่ไม่พบ ได้พบเพียงพระพุทธรูปและเทวรูป ๒ องค์เท่านั้น ซึ่งสถานที่พบอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเพียง ๑ กิโลเมตรเท่านั้น

    ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๐๓ นายพลคันนิ่งแฮม ได้มาสำรวจหลังจากที่ได้ศึกษา และอ่านบันทึกของพระถังซัมจั๋ง พระจีนที่เคยเดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยนาลันทา เป็นเวลาถึง ๑๔ ปี โดยได้บันทึกเหตุการณ์ และสถานที่สำคัญต่างๆ เอาไว้อย่างละเอียด ก็ปรากฏว่าได้ค้นพบพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยนาลันทาพอดี ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงกองดินสูงเท่านั้น ต่อมาจึงได้ขุดสำรวจตามหลักวิชาการโบราณคดี มหาวิทยาลัยก็ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง และตรงหน้ามหาวิทยาลัยนาลันทาได้มีพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่เก็บรวมรวมโบราณวัตถุที่ขุดพบในมหาวิทยาลัยนาลันทา
    ในบรรดาพระพุทธรูปที่ขุดพบทั้งหมดนั้น พระพุทธเจ้าองค์ดำองค์เดียวเท่านั้นที่มีความสมบูรณ์ที่สุด มีเพียงพระนาสิก และองคุลีของพระหัตถ์ขวาเท่านั้นที่หักบิ่นเล็กน้อย

    ความสำคัญของเมืองนาลันทาสมัยพุทธกาล

    นาลันทา เป็นชื่อเมือง ๆ หนึ่งในแคว้นมคธ อยู่ห่างจากพระนครราชคฤห์ประมาณ ๑ โยชน์ (ประมาณ ๑๖ กิโลเมตร) ณ เมืองนี้มีสวนมะม่วง ชื่อ ปาวาริกัมพวัน (สวนมะม่วงของปาวาริกเศรษฐี) ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับแรมหลายครั้งคัมภีร์ฝ่ายมหายานกล่าวว่า พระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นอัครสาวก เกิดที่เมืองนาลันทา แต่คัมภีร์ฝ่ายบาลีเรียกถิ่นเกิดของ พระสารีบุตรว่า หมู่บ้านนาลกะหรือนาลันทคาม

    นาลันทามีความสำคัญมาแต่ครั้งพุทธกาล เห็นได้จากกรณีที่พระสารีบุตรบันลือสีหนาท ประกาศความเลื่อมใสของตนในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้าว่า

    "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคอย่างนี้ว่า ไม่เคยมี จักไม่มี และย่อมไม่มีสมณะหรือพราหมณ์ผู้อื่น ซึ่งจะมี ปัญญาในทางพระสัมมาสัมโพธิญาณ ยิ่งกว่าพระผู้มีพระภาคเจ้า"

    เนื่องจากพระสารีบุตรต้องการประกาศความเลื่อมใสของตนในเมืองนาลันทาเพราะว่าเมืองนาลันทาเป็นศูนย์การศึกษาแม้ในครั้งพุทธกาล เป็นศูนย์รวม นักปราชญ์นักวิชาการ พระสารีบุตรซึ่งเป็นเลิศทางด้านปัญญาประสงค์ จะประกาศให้เหล่านักวิชาการแห่งนาลันทา รับรู้ความยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมโพธิญาณของพระผู้มีพระพุทธเจ้า

    หลักฐานที่แสดงถึงความสำคัญ ของนาลันทาอีกอย่างหนึ่ง คือ การที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพรหมชาลสูตร ประกาศทิฏฐิ ๖๒ และทรงแสดงเกวัฏฏสูตร แสดงภาวะนิพพานซึ่งเป็นจุดหมายสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนา ทิฏฐิ ๖๒ เป็นประเด็นที่เจ้าลัทธิต่างๆ อภิปรายกันไม่รู้จบ เพราะเป็นประเด็นเชิงอภิปรัชญา ไม่มีใครรู้จริง แต่อภิปรายกันตามความคิดเห็น พระพุทธองค์ทรงแสดงให้บรรดาเจ้าลัทธิรู้ว่า วัตถุประสงค์และประโยชน์ของทิฏฐิเหล่านี้คืออะไร มีขอบเขตเพียงไร อานิสงส์ที่เกิดจากการแสดงพระสูตรทั้ง ๒ นี้มี ๒ ระดับ คือ
    ระดับวิชาการ พระพุทธองค์ทรงประกาศให้รู้ว่า อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณครอบคลุมภูมิปัญญาทุกระดับ ทิฏฐิ ๖๒ ซึ่งเป็นเรื่องเชิงวิชาการ เป็นปรัชญา พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้ง แต่ไม่ประสงค์จะอภิปรายตอบข้อสงสัย เพราะไม่มีประโยชน์ และจะกลายเป็นประเด็นให้เจ้าลัทธินำไปกล่าวอ้างในที่ต่างๆ ว่า พระพุทธองค์ตรัสอย่างนี้ อย่างนี้

    ระดับอุดมการณ์ พระพุทธองค์ทรงประกาศภาวะยิ่งใหญ่แห่งนิพพานว่า เป็นที่ดับสนิทของมหาภูตรูป เป็นที่ดับสนิทแห่งนาม ภาวะที่เรียกว่านิพพาน นี่แหละคืออุดมการณ์สูงสุดแห่งการปฏิบัติในพระพุทธศาสนา


    ***โครงการพัฒนาวัดไทยนาลันทา เมืองนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย มีดังนี้
    ๑. โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติ ระหว่างวันที่ ๑-๓๐ พฤษภาคม
    ๒. โครงการสร้างเสนาสนะสงฆ์วัดไทยนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
    ๓. โครงการสร้างพระพุทธรูปองค์ดำ สูง ๑๐๘ ฟุต (ด้วยหินทรายแดง เมืองจูนาร์)
    ๔. โครงการสร้างพุทธสถานธัมมิกราช สูง ๑๕ ฟุต (ฐานพระพุทธเจ้าองค์ดำ)
    ๕. โครงการสร้างที่พักและห้องน้ำสำหรับชาวพุทธผู้มาแสวงบุญ ณ พุทธสถานธัมมิกราช
    เพื่อให้โครงการพัฒนาวัดไทยนาลันทา ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอเรียนเชิญชาวพุทธผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันเป็นเจ้าภาพบริจาคตามกำลังศรัทธา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    รายการร่วมเป็นเจ้าภาพและวัตถุมงคลที่ระลึก

    ๑. เจ้าภาพหินทรายแดง ขนาด ๔x๖ ฟุต (รับเหรียญที่ระลึกจำนวน ๑เหรียญ และบรรจุเหรียญจารึกชื่อตระกูลใต้ฐานพระพุทธเจ้าองค์ดำ ๑ เหรียญ) ก่อสร้างจำนวน ๑,๙๙๙ ก้อน ก้อนละ ๙,๙๙๙ บาท
    ๒. พระกริ่งพระพุทธเจ้าองค์ดำ (รุ่น ๑) สร้างจำนวน ๒๒,๕๕๕ องค์ๆละ ๔๙๙ บาท
    ๓. เหรียญอาร์มพระพุทธเจ้าองค์ดำ (รุ่น ๑) เนื้อพ่นสีทรายทอง หน้ากากองค์พระสีดำ สร้างจำนวน ๒๒,๕๕๕ องค์ๆ ๒๙๙ บาท
    ๔. เหรียญอาร์มพระพุทธเจ้าองค์ดำ (รุ่น๑) สร้างจำนวน ๒๒,๕๕๕ องค์ๆ ๑๕๙ บาท

    ติดต่อได้ที่

    พระครูปริยัติธรรมวิเทศ (ดร.พระมหาพัน สุภาจาโร) Phramaha Phan Thaekrathoke
    วัดไทยนาลันทา เมืองนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
    ชื่อบัญชี พระมหาพัน สุภาจาโร
    เลขที่บัญชี 1464090313 บัญชีสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร
    Wat Thai Nalanda, P.o.Nalanda 803111, Bihar India
    Tel: +91-9430839412, +91-9973653192
    E-mail: p_bodhagaya@yahoo.co.in/ watthainalanda@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2013
  2. มะขามหย่อง

    มะขามหย่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +423
    เหรียญที่ระลึก
    พระกริ่งพระพุทธเจ้าองค์ดำ (รุ่น ๑)
    และเหรียญอาร์มพระพุทธเจ้าองค์ดำ (รุ่น ๑)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2013
  3. sindhus

    sindhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    2,522
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอร่วมทำบุญสร้างพระพุทธเจ้าองค์ดำ วัดไทยนาลันทา ประเทศอินเดีย
    โอน 159 บาท เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ PHRAMAHA PHAN
    วันที่ 4 มีนาคม 2556

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. tooktik2

    tooktik2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +736
    ร่วมบุญด้วย1100บาทครับโอนเมื่อวันที่2มีนาคม2556เวลาประมาณ5โมงเย็นครับ
     
  5. มะขามหย่อง

    มะขามหย่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +423
    อนุโมทนา สาธุด้วยนะคะ
    รบกวนส่งอีเมลล์ พร้อมชื่อ และหลักฐานการโอนไปที่ให้ทางวัดด้วยนะคะ
    ^^
     
  6. มะขามหย่อง

    มะขามหย่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +423
    อนุโมทนา ด้วยคะ สาธุๆๆ
    รบกวนส่งอีเมลล์แจ้งกับทางวัดด้วยนะคะ ^^
     
  7. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    ข้าพเจ้าและน้องนาง +ทิวากร+เทวานิน ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธเจ้าองค์ดำ สูง ๑๐๘ ฟุต เมืองนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย

    จำนวน 50 บาท

    เลขที่บัญชีผู้รับโอน 146-4-09031-3
    ธนาคารผู้รับโอน ธ.กรุงเทพ - BBL
    ชื่อบัญชีผู้รับโอน PHRAMAHA PHAN
    จำนวนเงิน (บาท) 50.00
    วันที่ได้รับยอดเงินโอน 28/05/2013 17.30 น.
    วันที่ตัดยอดเงินจากบัญชี 27/05/2013
    หมายเลขอ้างอิงรายการ tmbi35518114
     

แชร์หน้านี้

Loading...