ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. BeforEnd

    BeforEnd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +209
    เว็บทดสอบความเร็วเน็ต Speedtest.net - The Global Broadband Speed Test
    เอามาโพสต์ทำไมครับ เช็คสมองบ้างนะครับ คุณหนุมาน
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนต์ “The Impossible”

    [​IMG]

    นาโอมิ วัตส์ หนีตายสึนามิถล่มใน “The Impossible” ฉากมหาวิบัติในแท็งค์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!

    สร้างจากเหตุการณ์ที่โลกไม่เคยลืมเลือน วันที่ 26 ธันวาคม 2004 มหาวิปโยคที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญของโลก เมื่อแผ่นดินไหวขนาด 9 ริคเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเข้าชายฝั่งใน 14 ประเทศของทวีปเอเชีย กว่า 2 แสนชีวิตต้องสูญเสียไปภายระยะเวลาเพียงแค่พริบตาเดียว และในประเทศไทยก็มีผู้เสียชีวิตกว่าห้าพันคน และยังสูญหายอีกกว่าสองพันคน มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์นั้น จนไปโดนใจผู้กำกับชาวสเปน ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า ที่ขอหยิบยกเรื่องจริงของครอบครัวนักท่องเที่ยวครอบครัวหนึ่งที่มาเที่ยวประเทศไทยและต้องประสบเหตุการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมานำเสนอเป็นภาพยนตร์เรื่อง The Impossible

    “มีเรื่องราวของผู้คนหลายชีวิตที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์สึนามิ ปี 2004 แต่ผมคิดว่าไม่มีเรื่องไหนที่จะสมบูรณ์มากกว่าครอบครัวนี้ พวกเราใช้เวลาพัฒนาความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เพราะเราต้องการทำให้คนดูเป็นห่วงและอยากเอาใจช่วยพวกเขาให้รอดไปได้ นี่ไม่ใช่หนังหายนะบล็อคบัสเตอร์ทั่วไป ผมอยากทำให้มันมีความสำคัญกว่านั้น” บาโยน่ากล่าว

    [​IMG]

    บทบาทสำคัญตกเป็นของนักแสดงชั้นนำ ยวน แมคเกรเกอร์ (จาก สตาร์วอส์ เอพิโซด1-3) และ นาโอมิ วัตส์ (จาก เดอะริง) ที่มารับบทสามีภรรยาที่พาลูกๆ มาพักผ่อนที่เมืองไทยทำให้ทั้งคู่ต้องมาถ่ายทำที่สถานที่จริงอย่างเขาหลักและเกาะพีพี โดยเฉพาะโรงพยาบาลตะกั่วป่า ที่เป็นจุดศูนย์กลางของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อถ่ายทอดความสมจริง

    The Impossible (ดิ อิมพอสสิเบิ้ล) มาถ่ายทำในประเทศไทยกว่า 80% ส่วนที่เหลือก็ไปถ่ายทำในสเปน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากสึนามิถล่มก็ได้ไปถ่ายทำกันในเมืองอาลีคานเต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของแท็งค์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยในฉากนี้ทั้งนักแสดงสาว นาโอมิ วัตส์ และ ทอม ฮอลแลนด์ ที่รับบทเป็นลูกชายคนโต ก็ต้องถ่ายทำกันยาวนานถึง 6 อาทิตย์ โดย เธอก็ได้พูดถึงความรู้สึกในการเข้ามาแสดงว่า “ฉันรู้ทันทีตั้งแต่อ่านบทภาพยนตร์ถึงแค่หน้าที่สาม ว่ามันต้องเป็นอะไรมากกว่าหนังหายนะ มันเป็นเรื่องราวของครอบครัวที่ทำให้คุณรู้สึกว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในพวกคุณทันที”

    [​IMG]

    The Impossible (ดิ อิมพอสสิเบิ้ล) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริง เรื่องราวของ มาเรีย (นาโอมิ วัตตส์) และ เฮนรี่ (ยวน แม็คเกรเกอร์) และลูกชายทั้งสามคน ที่เดินทางมาพักผ่อนชายทะเลในประเทศไทย แต่เช้าวันที่ 26 หลังคืนวันคริสต์มาส สวรรค์บนดินก็แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้าย เมื่อคลื่นยักษ์สูงเท่าตึกสามชั้น พุ่งเข้าถล่มทุกสิ่งทุกอย่างแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ความเป็นความตาย

    [​IMG]

    The Impossible เตรียมงานสร้างกว่า 2 ปี และถ่ายทำกันเป็นเวลา 25 สัปดาห์ทั้งในสเปนและไทย โดยมีฉากสำคัญมากกว่า 60 ฉาก โดยหนังเปิดกล้องในสตูดิโอที่เมืองอัลลิคานเต้ ก่อนที่จะย้ายมาถ่ายทำที่เกาะภูเก็ต ประเทศไทย ซึ่งหลายแห่งก็เป็นสถานที่ที่เคยเกิดสึนามิ เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้กำกับ ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า ต้องการที่จะทำให้มันมีความสมจริงและยังให้ความเคารพมากที่สุด

    ในขณะที่ช่วงเริ่มต้นของหนังถูกถ่ายทอดด้วยความรุนแรง เมื่อคลื่นน้ำที่บ้าคลั่งซัดใส่มนุษย์ตัวเล็กๆ แต่ช่วงเวลาต่อจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่แตกต่าง ซึ่งก็คือเรื่องราวของความกล้าและความหวัง นาโอมิ วัตตส์ อธิบายว่า “หนังที่สร้างจากเรื่องจริงเป็นเรื่องยากและง่ายในเวลาเดียวกัน มันง่ายที่จะเข้าไปสัมผัสกับความจริง แต่มันก็คือแรงกดดันเพราะเรากำลังเล่าเรื่องของคนที่มีชีวิตอยู่จริง มันจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำด้วยความเคารพให้มากที่สุดท่าที่จะทำได้”

    ยวน แม็คเกรเกอร์ เสริมต่อว่าพวกเขาพยายามสร้างเพื่อเป็นเกียรติ ไม่เพียงแค่ครอบครัวนี้แต่ยังรวมถึงทุกคนที่เผชิญหน้ากับเหตุการณ์สึนามิด้วย “เมื่อคุณเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันก็คือความรับผิดชอบกับคนที่คุณรับบท ไม่เพียงแค่นั้นผมก็ยังรู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบต่อทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิด้วย ผู้คนจำนวนมากล้มตาย และหลายคนที่มีชีวิตรอดมาบอกเล่าเรื่องราว ผมจะไม่ยอมให้ใครมาบอกว่าเราหาผลประโยชน์จากความสูญเสีย โดยใช้สึนามิเป็นฉากหลัง นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการทำ”

    บาโยน่า ยืนยันที่จะถ่ายทำในสถานที่จริง รวมถึงการได้ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิจริงๆเข้ามาแสดงในหนัง โดยสถานที่ที่สำคัญที่สุดก็คือรีสอร์ต เดอะ ออร์คิด ที่ครอบครัว เบลอน ได้เดินทางมาพักผ่อนในช่วงคริสต์มาส ซึ่ง มาเรีย เบลอน ก็ได้ร่วมเดินทางกับทีมงานไปยังรีสอร์ตแห่งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เธอผ่านฝันร้ายครั้งนั้น

    มาเรีย เล่าถึงความรู้สึกของเธอที่ได้กลับไปที่รีสอร์ตแห่งนั้นว่า “ไม่เพียงแค่ฉันไปที่ เดอะ ออร์คิด ฉันยังกลับไปนั่งตรงจุดที่ฉันถูกคลื่นน้ำซัดอีกด้วย ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงการกินอาหารเช้า การพักผ่อนของนักท่องเที่ยว และพนักงานรีสอร์ตที่กำลังจัดการให้ทุกอย่างเป็นระเบียบ ลำดับเหตุการณ์ในหนังเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในทุกรายละเอียด มันเป็นเช้าที่งดงามที่สุดวันหนึ่ง แต่จากนั้นชีวิตของทุกคนก็เปลี่ยนไปในเวลาแค่ไม่กี่นาที หลังจากที่ฉันกลับมาที่ เดอะ ออร์คิด ฉันก็คุยกับคนท้องถิ่นที่รอดจากเหตุการณ์สึนามิ มันเป็นประสบการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับทุกคน และฉันคิดว่า ฮวน ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมกับการถ่ายทอดทุกอย่างลงบนแผ่นฟิล์ม”

    วัตตส์ รู้สึกเห็นใจครอบครัว มาเรีย และชื่นชมในความกล้าหาญของเธอ ในการกลับมายังสถานที่ที่มอบประสบการณ์อันเลวร้ายให้กับเธอ “สำหรับฉันแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่เครื่องบินแล่นลงสนามบินภูเก็ต ความรู้สึกและบรรยากาศก็ทำให้คุณรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ แต่สำหรับ มาเรีย ที่กลับมาพร้อมครอบครัว และได้สัมผัสกับประสบการณ์นั้นอีกครั้ง มันเหมือนกับกระบวนการที่เธอต้องการมอบบทสรุปให้กับตัวเอง”

    [​IMG]

    เพื่อที่จะสร้างฉากสึนามิถล่ม The Impossible ก็ต้องใช้ทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คถึงหกทีม และใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการสร้างฉากที่กินเวลา 10 นาที ที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของหนัง เมื่อคลื่นยักษ์กระหน่ำเข้าใส่ชายฝั่งทะเลตะวันตก โดยทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค เฟลิกซ์ เบอร์เจส และ พอล คอสต้า ก็รับหน้าที่ในการสร้างตัวละครที่สำคัญที่สุดอย่างคลื่นสึนามิ ซึ่งสำหรับ เบอร์เจส หนทางเดียวในการสร้างก็คือการใช้น้ำของจริง เขาเผยว่า “ไม่ว่าเทคโนโลยีของเราจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน แต่น้ำที่สร้างจากเอฟเฟ็คก็จะไม่มีความสมจริงมากพอ”

    การตัดสินใจนี้ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของการถ่ายทำ โดยทีมงานก็ต้องใช้น้ำจำนวนกว่า 35,000 แกลลอนในแต่ละวัน โดยทีมงานของ เบอร์เจส ก็ได้สร้างระบบที่ทำให้กระแสน้ำมีความรุนแรง โดยที่ไม่ทำให้นักแสดงในเรื่องได้รับอันตราย “แนวทางแรกของเราก็คือการสร้างทางน้ำไหลประมาณ 60 เมตร แต่เราก็ตัดสินใจที่จะทำทางน้ำไหลประมาณ 10-15 ห้าเมตรต่อหนึ่งฉาก เพื่อให้นักแสดงมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยพวกเราก็ถ่ายทำกันประมาณร้อยช็อตสำหรับฉากสึนามิ”

    [​IMG]

    ทีมงานก็ยังถ่ายทำฉากที่สมาชิกครอบครัวถูกกระแสน้ำพัดไปคนละทิศละทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเรีย ที่ถูกน้ำดูดและทำให้เธอได้รับแรงกระแทกจากทุกสิ่งทุกอย่าง โดยทีมงานก็ถ่ายทำกันในแท้งค์น้ำประมาณเดือนครึ่ง เบอร์เจส เล่าถึงประสบการณ์ว่า “พวกเราถ่ายทำฉากน้ำท่วมโดยแบ่งออกเป็นสองกอง ทีมงานถ่ายทำใต้น้ำเป็นอะไรที่ซับซ้อนและลำบาก แท้งค์น้ำที่เราใช้มีความใหญ่ประมาณ 100 x 80 เมตร สิ่งที่ยากเกี่ยวกับการถ่ายทำฉากสึนามิก็คือ น้ำที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วและไม่สามารถคาดเดาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเคลื่อนไหวตลอดเวลา คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะไปในทิศทางไหน”

    การถ่ายทำกับน้ำมีความโหดและรุนแรง และคนที่ได้รับประสบการณ์ตรงมากที่สุดก็คือ นาโอมิ วัตตส์ โดยเธอก็เล่าถึงความรู้สึกว่า “มันเป็นความท้าทายมากที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับฉัน ฉันไม่ได้อยู่ในวัยเดียวกับ ทอม มันจึงไม่ใช่เรื่องปกติที่ฉันจะต้องถูกเหวี่ยงไปมาด้วยกระแสน้ำแบบนี้ มันเป็นงานที่ยากในระยะเวลาหนึ่งเดือน ฉันจำได้ว่า ฮวน บอกให้ฉันพูดบทระหว่างที่ถ่ายทำ แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้เพราะน้ำมันทั่วทั้งร่างของฉัน”

    สำหรับผู้ออกแบบงานสร้างมือรางวัลออสการ์ ยูเจนิโอ คาบาเรลโล่ เศษซากที่หลงเหลือหลังจากเหตุการณ์สึนามิก็คือความท้าทายที่สุดของเขา เขาเล่าว่า “ตอนเริ่มแรกโจทย์ที่ผมคิดว่ายากก็คือการสร้างฉากสีนามิ แต่เรื่องเซอร์ไพรซ์สำหรับผมก็คือสิ่งที่หลงเหลืออยู่หลังจากน้ำได้ผ่านไปแล้วต่างหาก พวกเราพยายามทำตามแนวทางเก่า คือการทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตรงนั้นจริงๆ แทนที่จะใช้เอฟเฟ็ค”

    ความพยายามของ คาบาเรลโล่ ก็คือการสร้างกราวน์ซีโร่ของความเสียหาย ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง เศษไม้ และร่างของมนุษย์ทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งก็กินพื้นที่เท่ากับแปดสนามฟุตบอล โดยสิ่งที่ยากที่สุดที่เขาคาดไม่ถึงก็คือการสร้างซากต้นไม้ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งบริเวณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิต มาเรีย และ ลูคัส เอาไว้

    คาบาเรลโล่ เผยถึงการสร้างต้นไม้ของ มาเรีย ว่า “ฉากที่ท้าทายที่สุดฉากหนึ่งก็คือต้นไม้ของ มาเรีย มันเป็นฉากที่ใหญ่และลำบากในการถ่ายทำ เนื่องจากน้ำมีระดับสูงอยู่แล้ว เราจึงต้องสร้างแท่นที่ตั้งของต้นไม้ให้มีความสูงขึ้นไปอีก มันเป็นเรื่องทางเทคนิกที่ซับซ้อน เพราะต้นไม้นี้ก็เหมือนกับหัวใจของเรื่องราว ซึ่งเราก็ต้องควบคุมสภาพแวดล้อมตรงนั้นให้ได้เนื่องจากนักแสดงของเราต้องอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น โดยจากฐานต้นไม้ของ มาเรีย ไปจนถึงยอดก็มีความสูงประมาณ 7 เมตร กิ่งก้านของมันก็ถูกทดสอบหลายครั้งเพื่อความปลอดภัย เพื่อที่พวกเขาจะขึ้นไปอยู่และเล่าเรื่องที่เราต้องการเล่า”

    [​IMG]

    คาบาเรลโล่ เสริมต่อว่าสิ่งที่สำคัญในการสร้าง The Impossible ก็คือคนท้องถิ่น ที่ให้ความช่วยเหลือในการสร้างอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนักแสดงสมทบที่ต้องสัมผัสกับประสบการณ์นั้นอีกครั้ง “หลายคนที่ทำงานกับเราคือคนในพื้นที่ และหลายคนก็สูญเสียสมาชิกครอบครัวไปจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผมจำได้ว่าคนขับรถแท็กซี่ที่มาส่งเราที่ เดอะ ออร์คิด เขาเห็นสิ่งพวกเรากำลังเตรียมงาน เขายืนนิ่งอยู่สองนาทีและส่ายหัว เขาบอกว่าตัวเองเสียภรรยาที่ทำงานในโรงแรมไป มันเหมือนกับว่าเขาย้อนเวลากลับไปสัมผัสถึงสิ่งนั้นอีกครั้ง ในขณะเดียวกันโรงพยาบาลที่เราเข้าไปถ่ายทำก็เช่นเดียวกัน นางพยาบาลและคุณหมอหลายคนต่างก็มีประสบการณ์ กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่เดินทางมาที่นี่”

    ทีมงานได้ไปถ่ายทำกันในโรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งถือเป็นที่ที่ มาเรีย พักฟื้นร่างกาย รวมถึงเป็นศูนย์กลางที่พักพิงหลังเหตุการณ์สึนามิของจริง โดย คาบาเรลโล่ และทีมงานก็เปลี่ยนให้มันกลับไปเป็นแบบนั้นอีกครั้ง “ฉากที่มีความซับซ้อนและสำคัญก็คือฉากในโรงพยาบาล พวกเราได้สร้างฉากในโรงพยาบาลที่ มาเรีย เข้าไปรักษาจริงๆ พวกเราได้ดูภาพและหลักฐานอ้างอิงที่ เพื่อสร้างความโกลาหลและความสมจริงในชั่วโมงแรกหลังจากเหตุการณ์สึนามิ”

    [​IMG]

    ผู้กำกับภาพ ออสการ์ เฟาร่า ต้องการให้ผู้ชมได้ซึมซับถึงบรรยากาศในประเทศไทย และต้องการทำให้อารมณ์ของภาพมีความสดใสและเต็มไปด้วยแสงสว่าง เขาพูดถึงแนนวทางการถ่ายทำว่า “ตัวละครของเราต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา พวกเราต้องถ่ายทำทั้งในและนอกน้ำ ด้วยเครน กล้องใต้น้ำ กล้องมือถือ พวกเรามีทีมงานกล้องสามทีม เพราะเราต้องการจับภาพทั้งบนบก ใต้น้ำ และบนอากาศในเวลาเดียวกัน”

    ด้วยความที่ธรรมชาติของหนังและตัวละครมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา มันจึงถือเป็นความท้าทายในเรื่องเทคนิกการถ่ายทำ เฟาร่า เล่าว่า “ผมต้องการควบคุมอารมณ์และแสงสว่างระหว่างการถ่ายทำ เพื่อทำให้ช็อตที่นำมาต่อกันมีความสอดคล้องและต่อเนื่องกันมากที่สุด โดยทีมงานของเราก็สร้างสลิงค์ชนิดพิเศษในการถ่ายทำฉากที่ วัตตส์ ต้องอยู่ใต้น้ำ มันเป็นการถ่ายทำที่ลำบากเนื่องจากเธอต้องหมุนตัวอยู่ภายในน้ำ และน้ำก็ไม่ได้ใสแจ๋วเหมือนน้ำจากสระ มันเป็นงานที่ต้องการอาศัยความร่วมมือกันระหว่างทีมงานและตัวนักแสดง”

    เฟาร่า อธิบายต่อว่า “พวกเราต้องควบคุมความหนาแน่นและกระแสน้ำ เพื่อที่จะควบคุมภาพที่เราถ่ายทำว่าจะออกมายังไง คุณต้องอยู่ใกล้กับตัวละครตลอดเวลาเพื่อที่จะจับเอารายละเอียดของเธอ พวกเราให้ นาโอมิ วัตตส์ นั่งเก้าอี้เคลื่อนไหวได้ที่เราเรียกว่า “จิราทุตโต้” ที่มีกล้องติดอยู่กับมัน ทำให้กล้องจับภาพของเธอเอาไว้ได้ทุกช็อต เราต้องการที่จะมอบความรู้สึกของการเดินทางจากแสงสว่างไปสู่ความมืดมิดให้กับคนดู มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวในการได้สัมผัส แต่มันก็เป็นความสำเร็จที่งดงามในเรื่องของเทคนิกที่นำมาถ่ายทอด”

    เนื้อหาโดย: TumYu

    ที่มา นาโอมิ วัตส์ หนีตายสึนามิถล่มใน “The Impossible” ฉากมหาวิบัติในแท็งค์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เหตุการณ์ต่างๆได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขไปจากเดิม !!!

    [​IMG]

    มณีส่องแสง สมาชิก

    (เป็นสาสน์และความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

    ....วันดวงตาสวรรค์เปิดเต็มที่...หรือวัน ที่ประตูพิภพเปิด..๙ เดือน ๙ ปี ๒๕๕๕....เดือน ๑๑ ปี ๒๕๕๕ เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่โลกใบใหม่ รหัส..เกิดก่อนเกิด..เป็นการเตือนมนุษย์เพื่อให้จิตมนษย์ ได้ตื่นรู้..และเตรียมตัว รหัส..ตายก่อนตาย..สติ และกรรมฐานจะสามารถทำให้ทุกคนรอด..

    ลองไปดูและอ่านข่าวสารที่ หลายที่ลงไว้ เกี่ยวกับ ฐานทัพใต้ดินของกลุ่มองค์กรลับที่(อินลูเมเนติ) ถูกทำลาย หลายจุดนั้น ..ว่าใครกันนะที่สามารถมีอำนาจและพลังมากมายขนาดนั้นที่สามารถจัดการ ทุกอย่างได้โดยที่ไม่ทิ้งร่องลอยและหลักฐานได้ ...และความจริง ...ทางองค์กรลับนั้น..พวกเขายึดโลกใบนี้ได้แล้ว ๗๐ % ..เหลืออีกแค่ ๓๐%... แต่พวกเขาก็ทำไม่สำเร็จ เพราะผู้ที่มีอำนาจลึกลับได้ถูกตามตัวเจอและถูก กระตุ้นให้(รู้ตื่น)..และเครียร์ด้วยตัวของผู้ที่มีอำนาจลึกลับ และก็ได้ทำการในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี และได้ยึดกลับโลกใบเก่านี้กลับมาได้แล้ว และทำการล้างและเครียร์ต่อสายใหม่ และจัดระบบสร้างโลกใบใหม่เรียบร้อยแล้ว..(ในภาคจิตวิญญาณและภาคจักรวาล)...

    และตอนนี้ระบบทุกอย่างนั้นจัดเสร็จแล้ว..โลกใบใหม่ถูกสร้างเสร็จแล้ว ในภาคจิตวิญญาณและภาคจักรวาล...ตอนนี้คงเหลือแต่การจัดระบบต่อภาคมนุษย์และ รอแค่เวลาการประกาศตัวตน หรือการเปิดเผยตัวตนและความจริง....องค์จิตจักรวาลนั้นเป็นเพศหญิง..อยู่ที่ สภาแกแล็คซี่แอนโดรมีด้า....(ระบบทางโลกมนุษย์ในปัจจุบันมิต่างจากหนังเรื่องสตาร์วอล์ ที่เคยมีสงครามจักรวาลเกิดขึ้น..และทางสภาแกแล๊คซี่แอนโดรมีด้ามาทำหลักฐานไว้มากมายยังโลกมนุษย์...)

    เพื่อนๆ แปลกแต่จริง เมือถึงเวลาแห่งการล้างหรือเครียร์ระบบ โลกเก่า เข้าสู่โลกใบใหม่ (แม่เหล็กโลก)..เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่า ..จริงแล้ว (แอนแลตติค ที่ทุกคนทั่วโลกพยายามตามหานั้น และได้มีหลายคนและหลายหลักฐานว่าจะกลับมาและโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในยุคนี้นั้น ..เป็นความจริง..และก็จะมาโผล่..ที่ "แผ่นดินไทย"..ของเรานั้นเอง เมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง...

    กรุงเทพนั้นภายในปีนี้น้ำจะท่วมหนักกว่าเดิม สองเท่า (ทุกอย่างแก้หรือช่วยไม่ได้เพราะเป็นภาวะกรรมและระบบการล้าง)..จุดใหญ่ที่จะมาล้างในพื้นที่กรุงเทพฯ..คือ..พหลโยธิน วิภาวดี ถ.กำแพงเพชร ราชประสงค์ เยาวราช สำเพ็ง ปากคลองตลาด มาบุญคลอง(กำแพงสูงกั้น)...(แต่เรามิได้มาทำให้แตกตื่นนะ และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้กระมั่ง..เหตุจะเกิดไม่เกินภายในสองเดือน..) สาเหตุจากฝนและน้ำป่าที่มีมาก และไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ฝนจะตกทางเหนือกับอีสานมาก และน้ำก็จะล้นเขือนลำตะคลอง...

    และหลังจากที่น้ำท่วมกรุงเทพ ภายในปีนี้ ก็จะมีแผ่นดินยุบตามมา..และก็คงถึงเวลาแห่งการ ย้ายเมืองหลวงใหม่...(เพราะดวงเมืองของกรุงเทพนั้นหมดตั้งแต่ ปี ๒๕๔๙ แล้ว แต่ที่อยู่มาได้เพราะได้มีการต่อและแก้แล้วทางภาคจิตวิญญาณ คงรอแต่ภาคมนุษย์เท่านั้นก็คือการย้ายเมืองหลวงใหม่และการตั้งเสาหลักเมืองใหม่นั้นเอง)...ระบบทุกอย่างเป็นไปตามวัฐจักรแห่งการเปลี่ยนแปลง..เช่นเมืองหลวงแห่งแรกคือ..สุโขทัย อยุธยา กรุงธน และกรุงเทพฯ(กรุงรัตนโกสินทร์)..นั้นเอง..(เป็นสาสน์และความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา ดูและอ่านเล่นๆก็มิเห็นเป็นไร แต่ถ้าหากสิ่งที่เรามาส่งสาสน์จะให้นำหลักฐานมาโชว์ก็คงจะยากเพราะ.."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด")

    เราก็อยากให้เป็นเช่นนั้น มิต้องการให้เมืองไทยหรือกรุงเทพนั้น น้ำท่วมเลย แต่เราก็พยายามถามว่ามีวิธีแก้ไหม ท่านก็บอกว่า ..ในปีนี้มันเป็นภาวะกรรม และระบบการล้าง...ที่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนและแก้ไขได้ เพราะมันถึงเวลาแล้ว (จากที่อดีตเคยพยายามยับยั้งและแก้ด้วยหลายฝ่าย โดยเฉพาะด้วยพระบารมีขององค์พ่ออยู่หัว)...และอีกอย่าง ก็เพราะมันถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและการตื่นของ" องค์ท้าวพญานาค" ที่ตื่นมาทำงานนั้นเอง(ปีที่แล้วแค่กระดิกหาง)..แต่จริงแล้วถ้าหากผู้มีบารมีและผู้ที่มีอำนาจลึกลับไม่ช่วย แผ่นดินไทยก็คงไม่ต่างจากที่หลายฝ่ายหรือหนังสือหลายตำราได้เขียนไว้ว่า แผ่นดินไทยมิเหลือและเสียหายหลายจุดมาก แต่นี้ถือว่า การเกิดครั้งนี้น้อยที่สุด จาก ร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ ห้าเปอร์เซ็นต์เองคะ

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ การนำไปสู่ การเริ่มต้นแห่ง ยุคศิวิไลย์..ที่แท้จริงนั้นเอง...หลังจากที่แผ่นดินไทยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งภัยธรรมชาติ และ ระบบการเมืองแล้ว..เราบอกได้เลยว่าสุดยอดและดีสุด..และแผ่นดินไทยมีแต่ขยายไม่มีหดหรือหายไปไหน จากอดีตที่แผ่นดินไทยเรานั้นแผ่นดินหายไป ๑๔ จุด ..จะกลับคืนมาหมด แต่ว่า ต่างประเทศ เช่น พม่า เขมร มาเลเซีย ฯลฯ แผ่นดินจะหดและหาย...ส่วนแผ่นดินไทยขยายกลับมาเป็นขวานทองเล่มใหญ่เหมือนเดิม...และหลังจากสงครามโลกครั้งที่ ๓ ลาวจะมารวมกันตั้งรัฐบาลกับไทย(ไทยกับลาวกับมาเป็นพี่น้องกัน อย่างเช่นพญานาคในอดีตที่เคยเป็นเพื่อนกันและก็กลับมาคืนดีและกลับมารักกันเหมือนเดิม)....

    ปล. ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แผ่นดินไทยถือว่า การเกิดภัยพิบัตินั้น น้อยที่สุดกว่าทุกประเทศทั่วโลก (เพราะผู้ที่มีพลังอำนาจลึกลับได้ "รู้ตื่น"และช่วยอีกส่วนหนึ่งนั้นเอง..แต่ไม่เกิดก็ไม่ได้เพราะมนุษย์ได้ทำกรรมหนักเหลือเกิน ..)..และมนุษย์ก็หลงลืม หน้าที่ของตน..ไปยึดติด กับอำนาจและเงินตรา..

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เกิดก่อนเกิด-พรแปดประการ.349475/

    หมายเหตุ

    ข้อมูลของคุณมณีส่องแสงนี้ ตรงกับที่อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ได้เคยบอกเอาไว้ว่า กรุงเทพและภาคกลาง จะไม่จมน้ำทะเลอย่างถาวร เพราะแผ่นเปลือกในบริเวณนี้จะยกตัวสูงขึ้น ทำให้ได้พื้นที่กลับคืนมาในที่สุด (แต่อาจจะกินเวลาหลายปีกว่าที่จะได้พื้นที่ที่จมน้ำทะเลกลับคืนมา) และถ้าทวีปแอตแลนติสที่จะกลับคืนมาตรงบริเวณประเทศไทยเป็นจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่แผนที่โลกใหม่ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ที่เคยแสดงเอาไว้ว่าภาคกลางและภาคอีสานของไทย ไม่ได้สูญหายไปตามคำทำนาย ที่มีมาแต่ดั้งเดิมนั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2013
  4. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2556 เกี่ยวกับเรื่องพระมหาชนกยังไงหรือจ๊ะคุณเกษม ขอข้อมูลหน่อยจ๊ะ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ข้อมูลอยู่ในกระทู้ ตามรอย"พระมหาชนก" หน้าที่ 19 ข้อความที่ 370 ครับ
     
  6. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    ขอบคุณจ้า
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ใช้ใจมอง มากกว่าตา ก็จะได้พบความจริงค่ะ..

    [​IMG]

    มณีส่องแสง สมาชิก

    วันศุกร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ (เวลา ๑๘.๓๘น)

    ยอดที่เหลือจากการจัดระบบตามขบวนการแล้วเพื่อนำพาไปสู่โลกยุคใหม่(ศิวิไลย์)...

    คำสั่งประกาศรหัส...ประชากรทั้งโลกคงเหลือ...4,294,967,295 คน +

    ส่วนประเทศไทยประชากรจะคงเหลือ ประมาณ 43 ล้านคน(มีเศษได้แต่ไม่เกิน 43 ล้านคน)..

    ยอดจำนวนนี้ผุ้มีหน้าที่มารายงานหลังจากที่เราเล่านิทาน เกิดก่อนเกิด จบวันที่ ๒๖ กค. ๕๕ (เขามารายงานวันที่ ๒๗ กค. ๕๕ ตอนเที่ยงคืน น้้นเอง)...

    ลองดูโพสนี้เป็นส่วนประกอบกำคำที่เราเอ่ยว่า เวปพลังจิตมีอาถรรพ์นะคะ บอกไว้ก่อนคนที่โพสเรื่องอาถรรพ์เราไม่รู้จักแต่เขาเคยไปปะคารมณ์กับเรามานั้นเอง(และเรื่องยอดคนที่เวปพลังจิตก็จะมีคนรู้บ้างเพราะเราเคยบอกก่อนที่จะมีโพสนี้โผล่มาคะ)..

    http://palungjit.org/threads/ความลึกลับแห่งเว็บพลังจิต-โพสต์ที่มีคนไม่เห็นด้วยมากที่สุด.386898/

    เหมือนเดิม...

    คำสั่งเปิดเชื่อมเข้าสู่ระบบ เพื่อเป็นมิติเอกฉันท์สู่ภาคโลกมนุษย์โดยเร็วดุจสายฟ้าฟาด...

    ๑. พระพิรุณมหาเทวาธิราช = มืด ฟ้า มัว ดิน + แสงจากสวรรค์ + รายงานความเป็นไปของมนุษย์ + ประกาศคำพิพากษา + จัดกระบวนการล้างบาง...

    ๒. เทพีแห่งความรัก = อเธน่า + ผุ้บรรจุพลังแห่งความศรัทธา + รวมพลังแห่งดวงดาว + ดาว ๕ แฉก + สามัญปุถุชน + เท่าเทียมกัน + เปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจ + หินพลังศรัทธา...

    ๓. สิทธิเสรีภาพ = ผุ้คนล้มตายบาดเจ็บ + การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ + ชำระล้างและจัดเก็บ + จัดกระบวนการสู่โลกใหม่ + ยุคพระศรีอริยเมตรไตรย...

    ๔. นกยูง = การอวยพร + จัดระเบียบโลกใหม่ + กำจัดซึ่งความชั่วร้าย ทั้งหลายในแผ่นดิน + ธงชาติไทยโบกสะบัด...

    อีกจุดหนึ่งที่เราอยากให้เพื่อนได้พิจารณาและนำมาพิจารณากับโพสนี้ด้วยคะ...

    ✿.`..¸.•*° ƸӜƷ¸.♫¸.♫ ๙++++++++===

    เปิดรหัสคำสั่งการณ์ประกาศ..."พระสันตปาปาองค์สุดท้าย ตามคำทำนายของนอสตราดามุส"....

    ตัวอย่างคร่าวคัดลอกมาคะ..

    หากความลับฟาติมานี้เป็นเรื่อง สิ่งสุดท้าย ท้ายที่สุด อันเป็นคำสอนทั่วๆ ไปแล้ว แม่พระคงไม่จำเป็นต้องลงมาจากสวรรค์มาบอกแค่คำสอนพื้นๆ ธรรมดาๆ เป็นแน่ แต่แม่พระหมายถึง สิ่งสุดท้าย ที่ประกาศ ดาเนียล ได้กล่าวว่า จะเกิดขึ้นคือ อวสานกาล และในความลับฟาติมาข้อ 3 ยังได้กล่าวถึง การทิ้งความเชื่อซึ่งเซ็นต์พอลได้พูดถึงการทิ้งความเชื่อครั้งใหญ่ (ใน จม.ฉบับที่ 2 ที่มีไปถึงชาวเทสะโลนิกาว่า การกบฏการทรยศหรือการทิ้งความเชื่อครั้งใหญ่ (The gress Apostasy) จะเกิดขึ้นก่อนที่ลูกแห่งความพินาศ มนุษย์ใจบาปหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ปรปักษ์พระคริสต์ (Antichrist) จะปรากฏโฉม4.หลังจากพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์แล้ว บรรดาพระสังฆราชพระสงฆ์ นักบวชชายหญิงและฆราวาสอีกมากมายก็จะสิ้นชีวิตไปคนแล้วคนเล่า เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ซึ่งชาวคริสต์เรียกว่าการเบียดเบียนครั้งใหญ่ที่เป็นระบบ ซึ่งมีจุดประสงค์จะถอนรากถอนโคนพระศาสนาจักรคาทอลิก โดยการบงการของแอนตี้ไครสต์ นั่นก็คือประมุขของรัฐบาลโลก (หนึ่งเดียว) และประมุขของศาสนา (หนึ่งเดียว) ซึ่งจะเป็นจริงได้ด้วย การจัดระเบียบโลกใหม่ โดยเรียกร้องให้แต่ละประเทศสละอธิปไตยของตนให้แก่รัฐบาลโลกหนึ่งเดียว และมอบการปกครองทางสงฆ์แก่ศาสนาที่จะรวมกันเป็นศาสนาหนึ่งเดียวทั่วทั้งโลก นี่ก็คือ ยุคแอนตี้ไครสต์ครองโลก ขอยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เช่น ใครจะซื้อและขายจะต้องมีหมายเลข 666 ที่ข้อมือ โดยการฝังไมโครชิพ หรือชาวคริสต์คาทอลิกจะร่วมพิธีบูชามิสซาฯ จะต้องหลบไปที่ใต้ดิน

    ยุคแอนตี้ไครสต์ครองโลก ,ซึ่งชาวคริสต์เรียกว่าการเบียดเบียนครั้งใหญ่ที่เป็นระบบ ซึ่งมีจุดประสงค์จะถอนรากถอนโคนพระศาสนาจักรคาทอลิก โดยการบงการของแอนตี้ไครสต์ นั่นก็คือประมุขของรัฐบาลโลก (หนึ่งเดียว) และประมุขของศาสนา (หนึ่งเดียว)

    แอนตี้ไครสต์ นี่คือใครต้องถึงกับถอนรากถอนโคนพระศาสนาจักรคาทอลิก และเป็นประมุขของรัฐบาลโลก (หนึ่งเดียว) และประมุขของศาสนา (หนึ่งเดียว)

    http://palungjit.org/threads/พระสันตปาปาองค์สุดท้าย-ตามคำทำนายของนอสตราดามุส.303094/

    ฟ้าผ่าวาติกัน หลังโป๊ปสละตำแหน่ง - Voice TV

    เปิดคำสั่งรหัส..โลกนี้ลุกร้อนเป็นไฟ ดับที่ใจพ้นทุกข์เอ่ย....

    เปิดคำสั่งรหัส..ไม่มีดี ไม่มีชั่ว (ความรัก เมตตา เกื้อกูล และอภัย)...

    เปิดคำสั่งรหัส..."บพิตรใจหาญกล้า บำเพ็ญพาพสกนิกรไป สู่โลกโลกุตระไซร์ ศรีวิไลย์ใจข้ามพ้น(ใจสีทอง)....

    ประกาศคำสั่ง...เปิดศูนย์ปฎิบัติ ๒๐ ภพชี้ชะตา เชือมต่อ พระมหาชนก + เวปพลังจิต + เฟสบุ๊ค + แผ่นดินไทย....= เทพีวิทตอเรีย(ไนกี้) ..เชื่อมต่อบรรเลงเพลง..น้ำซึมบ่อทราย..

    http://th.wikipedia.org/wiki/ไนกี้_(เทพปกรณัม)

    เปิดเชื่อมรหัส.."เกิดชาตินี้นั้นมีกรรม เป็นทั้งแม่พระผู้สร้างและผุ้ทำลาย ตอนวัยรุ่นเหนือยแทบตาย แต่สุดท้ายกลับสบายเหมือนฝันเอ่ย"...

    เปิดเชื่อมรหัส.."คนเราหากมองข้ามสิ่งที่ใกล้ตัว แต่กลับมองหาสิ่งที่ไกลตัวจะกี่ปีก็หาพบไม่"...

    เปิดเชื่อมรหัส.."เพชรที่ถูกซ่อนน้อยคนนักถึงจะมองเห็นใช้ใจมองถึงจะดูเป็นแสงร่มเย็นผ่องอำไพ"...

    ประกาศคำสั่งเปิดรหัส..."สัจจะ คือ ธรรม ที่สูงสุด ณ. ภพนี้มนุษย์ผุ้ใดยึดมั่นถือมั่นในสัจจะ..เท่านั้นถึงจะเข้าถึง ตัวตน เราได้อย่างแท้จริง..

    "อัฐดาสีทอง อันเรืองรองอยากให้มนุษย์ให้มนุษย์ได้ทอดตามอง และจะค้นพบ ..อิสรายุติ..."...(ไอส วา ดะห์ + เพชรอุมา)...

    ประกาศคำสั่งเชื่อมเปิดรหัส.."บ้านเมืองเรา เราต้องรักษา ..เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว"....

    ประกาศคำสั่ง..ผู้มีหน้าที่ในกาคจิตวิญญาณทั้งภาคมนุษย์และจิตวิญญาณรวมทั้ง ต่างดาว โปรดทำหน้าที่ด้วยความซื่อตรงและยุติธรรม รวดเร็วปานสายฟ้าฟาด ..คำสั่งประทับตา...พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน พลิกผืนน้ำ ...(ตะเกียงวิเศษ)..โอมเพี้ยง...ฟ้าผ่า เปรี้ยง..โอม..มะลึก กึกกึ๊ย...

    เปิดเชื่อมรหัส...ทำดีฟ้าคุ้มครอง ทำชั่วแผ่นดินสูป + ตาดีได้ตาร้ายเสีย

    คำสั่งการณ์โปรด..๒๐ ภพชี้ชะตาโลกมนุษย์เปิดเชื่อมรหัส...ขอมอบดอกไม้ความรักความสุข สัจจะ อโหสิกรรม สติสละ ให้กับผุ้ที่ทำหน้าที่โดยซื่อสัตย์ รวดเร็ว และผุ้ที่มีหน้าที่และผุ้ที่พร้อมจะมาร่วมสร้างบารมีกับเรา ทุกอย่างสำเร็จแค่เพียงใจคิด จริงดังปากว่า อนุโมทนาสาธุ โอมเพี้ยง สาธุ สาธุ สาธุ...

    ✿.`..¸.•*° ƸӜƷ¸.♫¸.♫

    สัจจะ อโหสิกรรม
    ดวงตาสวรรค์ ผุ้รู้ ผุ้ตื่น ผุ้เปิดเผย
    ดอกบัวสวรรค์
    666<999
    เกิดก่อนเกิด ตายก่อนตาย
    สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ
    บริสุทธิ์ ๑

    แสงธรรมส่องนำทางปวงประชาอยู่เป็นสุข

    "ใจ สือ ใจ"

    ............."ไอส์ วา ดะห์ + เพชรอุมา".............

    "เจ้าหญิงแอนโดรมีดร้า..เพพีความรัก ...เทพีวิคทอเรีย"

    ..❤
    ¯`•.•´¯) (¯`•.•´¯)
    *`•.¸(¯`•.•´¯)¸.•´
    ¤ º° ¤`•.¸.•´ ¤ º° ¤

    ปล. สิ่งต่างๆรายละเอียดเราได้เขียนซ่อนปริศนาไว้หมดแล้ว หาก "ใช้ใจมอง มากกว่า ตา ก็จะได้พบความจริงคะ..

    เหมือนเดิมคะ ..ขออนุญาติเจ้าของกระทู้และขอขอบคุณเจ้าของกระทู้และเวปพลังจิต และขอบพระคุณสำหรับกำลังใจทุกดวงคะ และขออนุญาติเจ้าของโพสและหนังสือพิมพ์ไทยโพสและเจ้าของเพลงลิขสิทธิ์ น้ำบ่อทรายด้วยคะ...

    นี่คือ กิจ..สัจจะ หน้าที่ ของเราคะ เปรียบเหมือนนิยายน้ำเน่าของเรา และก็เปรียบเหมือนละครเดิมๆ ที่เราต้องมาเล่นซัำๆซาก จนแบบว่าน่าเบื่อคะ ...(สำหรับเรา)...เป็นความคิดเห็นส่วนตัว โปรดพิจารณาคะ (ถึงเวลาเราจะมาลบให้คะ หากมีเหตุจะเกิดภัยพิบัติหรืออะไร ๆ ก็แล้วแต่ สิ่งที่เราเปิดและบอกได้ หรือมีสือ สัญญาณที่ดีเราจะมาแจ้งเขียนนิยายน้ำเน่าเตือนและบอกกล่าวความจริงให้ฟังคะ..

    แต่ก็มีคร่าวๆ เกี่ยวกับ ประเทศจีน แต่..เมื่อไร ค่อยว่ากันอีกครานะคะ.....ขอบพระคุณคะ ..สู้สู้

    นิดหนึ่ง..อุกาบาตการเปลี่ยนแปลงระบบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเริ่มตอนนี้จะเปรียบนัยยะ คล้ายๆ เพลง ..น้ำซึมบ่อทราย(ปริศนานัยยะคะ)...

    เราก็ขอพูดเหมือนเดิม ว่า เศรษฐกิจต่อจากนี้จะเปรียบเหมือน "ยุค ฟองเบียร์"..และเป็นไปแบบ.."ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ"...นั้้นเอง...

    (ตายก่อนตาย...สติ และกรรมฐาน จะนำพาให้รอด)...

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=PsYeZcyJqHQ]น้ำซึมบ่อทราย - เอก สุระเชษฐ์ - YouTube[/ame]

    เมื่อโลกใบนี้ 'สูงสุดคืนสู่สามัญ' | ไทยโพสต์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตัวเรา..มีชื่อจริงว่า...ณัฐนารี !!!

    [​IMG]

    Ornouma สมาชิก

    ขอถามคุณมณีส่องแสงเกี่ยวกับการเลือกตั้ง Pope คนใหม่ "Peter of Rome" ความเกี่ยวพันระหว่างฝ่ายมืดฝ่ายสว่าง Antichrist, Illuminati มีความสําคัญกันอย่างไรใน(นิยาย)คะ

    "ยุคแอนตี้ไครสต์ครองโลก ขอยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เช่น ใครจะซื้อและขายจะต้องมีหมายเลข 666 ที่ข้อมือ โดยการฝังไมโครชิพ หรือชาวคริสต์คาทอลิกจะร่วมพิธีบูชามิสซาฯ จะต้องหลบไปที่ใต้ดิน"มีความสัมพันธ์กับข้อความนี้ใช่ไหมคะ

    "เปิดเชื่อมรหัส..ปิรมิท แปลความหมาย ..คว่ำได้หงายได้ = รหัส.. 666<999"

    ติดตามคุณมณีส่องแสงมาหลายตอน ขอบคุณมากค่ะ จะติดตามต่อไปค่ะ

    ZincOxide สมาชิก

    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น ในฐานะคนนอนไม่หลับคนหนึ่ง

    เปิดเชื่อมรหัส..ปิรมิท แปลความหมาย ..คว่ำได้หงายได้ = รหัส.. 666<999

    เครื่องหมายคู่รักคู่แค้นกับคริสตจักรยุคแรกๆ ก่อนถูกกลืนและยังโดนยัดเยียดข้อกล่าวหาว่าเป็น ลัทธินอกรีต-บูชาซาตาน-ต่อต้านคริสตจักร-บิดเบือนสาสน์จากพระเจ้า นี่คือ หนึ่งในสัญลักษณ์ของพวกเพเกิน(Pagan)

    ส่วนตัวเลข 666 และ 999 เป็นเรื่องของการหมุนและมุมมอง ครับ

    มณีส่องแสง สมาชิก

    ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด
    วันเสาร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ( เวลา ๘.๕๖ น.)

    ......พลังจิตทั้งสองท่่านแรงมากๆ เมื่อคืนเราถึงเรารับตลอดแต่เป็นพลังจิตที่สื่อมา เป็นพลังสีขาวใส เปรียบเหมือน ดาว ๕ แฉก สีขาวที่ลอยอยู่บนอากาศ(ดาว ๕ แฉก คือ พลังแห่งสันติ)..นั้นเอง..(และเมื่อคืนบนท้องฟ้า ก็มีแต่พลังสีขาว ของดาว ๕ แฉก อยู่บนท้องฟ้าค่ะ)....

    เหมือนเดิม..คุณ.ZincOxide + คุณ Ornouma มาปลุกเราตื่นอีกแล้วคะ เรากะว่า ..จะหนีไปนอนหลับแบบยาวสักกะหน่อยหลังจากเปิดระบบยอดประชากรแล้วคะ...

    ต้นเรื่องคร่าวๆ...

    ที่เราเคยเล่านิทาน..เกิดก่อนเกิด พร ๘ ประการ(เวปพลังจิต)..หลังจากที่เราทำพิธีสร้างรูปหล่อและบวงสรวงองค์พระเอกาถวายไว้ที่วัดวรเชษฐ์อยุธยาเรียบร้อยแล้ว และจัดระบบภาคจิตและภาคจักรวาลเรียบร้อยแล้วนั้นเองคะ เราทำพิธีบวงสรวงและสร้างรูปหล่อองค์พระเอกาทศรสขนาดเท่าองค์จริง เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฏาคม ๒๕๕๕ (มีหลักฐานหรือไปถามพระที่วัดวรเชษฐ์ได้คะ)คร่าวๆคะ..

    ประวัติตามจริงตัวตนเราเขียนไว้ที่นิทาน ...เกิดก่อนเกิดแล้วคะ...

    บอกให้ใหม่ก็ได้สำหรับผุ้ที่ไม่ได้ไปอ่าน...

    ตัวเรา..มีชื่อจริงว่า...ณัฐนารี

    เกิดที่จ. พิจิตร (เมืองชาลาวัณ)...อนาคตคือ เมืองใหม่..(เป็นถิ่นกำเนิดของของยุคสุดท้ายของขอมที่หนีล้นและสิ้นสุด..แต่ตามกฎ..คือสิ้นสุดสุดไหนก็จะกำเนิดกลับมาจุดเดิมๆคะ)

    ครอบครัวเรามีอาชีพเป็นเกษตกรรม อาชีพหลักบ้านเราคือ ทำนา(รากหญ้าเต็มขั้น)

    ตัวเรามีพี่น้องทั้งหมด ๗ คน เราเป็นลูกสาวคนที่ ๖ (ชาย ๒ หญิง ๕)

    เราเกิดในหมู่บ้านชนบทมิได้เกิดในตัวเมือง เกิดมากับครอบครัวที่พอมีอยู่มีกิน แต่ช่วงน้้นก็จะไม่มีไฟฟ้าใช้(พูดตามตรงชีวิตคนบ้านนอกอย่างไรเราก็ผ่านและพบเจอมาแล้วนั้นเองคะ)...

    ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่มีความสุขและอบอุ่นมาก พี่น้องและทุกคนรักใคร่ จิตใจดีใฝ่ธรรม(ตระกูลเราถูกปลูกฝังเรื่องการทำความดี และมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผือแผ่)...

    ตัวเราเรียนแค่ขั้น ปวส. (ปริญญาตรียังไม่จบ ไปลงสมัครเรียนไว้ที่ บ้านสมเด็จฯ..แต่เรียนได้แค่สองเทอม เพราะเราตัดสินใจด๊อป ไปทำกิจการคือ นำจักรไปลงทำกิจการเย็บเสื้อผ้าที่จ.พิจิตร บ้านเราเพื่อนำรายได้สู่ชนบท)..

    ตัวเรา คือ ผู้บุกเบิกทำเสื้อเหลือง(ตราสัญญาลักษณ์ ๖๐ ปี รายแรกๆของประเทศไทย และเป็นผู้ที่บุกเบิกทำเสื้อรายแรกของประเทศไทยในการใส่ออกมาเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์) ..แต่เราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับ เสื้อเหลืองและแดง..

    ครั้งแรกที่เราทำเสื้อเหลืองก่อนวันครองราชย์คือ ..เสื้อสีเหลืองคอโปโล และพิมพ์หลังเสื้อว่า..."ขอทำดีเพื่อในหลวง"...ซึ่งผุ้ที่ริเริ่มกับเราในการสั่งซื้อเพื่อไปใส่ในงาน ๕ ธันวา นั้นก็คือ คุณเพียร หยงหนู (แห่งสหภาพฯไฟฟ้านครหลวงนั้นเอง)..และหลังจากนั้นเราก็ได้ทำเสื้อมากมายกับ สหภาพฯ เกือบทุกหน่วยงาน แต่ผุ้ที่เป็นตัวบุกเบิกให้เราและเป็นพี่สาวและพี่ชายที่ใจดีมากๆที่นำพาและแนะนำให้เราได้รุ้จักที่สหภาพฯเกือบทุกจุดก็คือ พี่ กิตติ กับพี่อารยา แห่งสหภาพฯ องค์การเภสัช..(เรามีตัวตนเพราะเรามีเปิดบริษัทชื่อว่า ..หจก. นารีผล ..แต่ตอนหลัง หลังจากที่เราถูกตามตัวเจอเมื่อ มีนาคม ๕๒ เราก็ต้องชะลอและต้องจบฉากจากการทำกิจการส่วนตัวและต้องมาทุ่มกับกิจทางโลกทางธรรมแทน เพราะเวลาถูกบีบนั้นเองคะ)...

    หากจะพูดว่า เสื้อเหลือง (๖๐ ปีครองราชย์ฝีมือเราเสียส่วนใหญ่ใช่ไหม เราก็ตอบว่าใช่ เพราะเรากระจายงานไปสู่ชนบทและตามแหล่งชุมนุมชนมากมายในการให้พวกเขาได้เย็บและมีรายได้ และตอนที่เรารับงานเสื้อ ๖๐ ปี ตอนนั้นเราได้ไปจุดธูป กลางแจ้ง ๑๖ ดอกและบอกกับฟ้าดินเป็นพยานว่า เราจะขอทำเสื้อเหลืองเพื่อ พ่อหลวง และทำให้คนไทยได้รับรู้ถึงพระบารมีพ่อหลวงและให้คนไทยได้กลับมาสวมใส่เพื่อชื่มชมและปรองดองกันคะ..ตอนนั้นคือเราคิดแค่นั้นคะ)..และก็ตั้งจิตว่าเราจะขายเสื้อในราคา ๑๒๕ บาท เพื่อประชาชนรากหญ้าก็มีใส่ได้ด้วย..

    นี่คือ ประวัติส่วนตัวเราคร่าว ตอนนี้เราก็ยังอยู่ในเมืองไทย (เราถึงบอกว่า วิทยาศาสตร์ หรือ ภาษาอังกฤษ หรือ พิธีกรรมเราก็ไม่เป็น แต่เรารับรู้ก็เพราะว่า ..เรานะถูกตามตัวเจอ และสิ่งที่ทำให้เรา หูตาสว่างก็คือ ...

    "เวปพลังจิต นี่เลยคะ ทุกเรื่องมีหมด ...เราต้องขอขอบคุณทุกๆท่านในเวปพลังจิตที่ทำให้เราได้รับรู้และรับความรู้มากมาย ทุกเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็น คุณเกษม คุณหนุมาน ผู้นำสาร คุณFalkman..ฯลฯ..จะพูดว่าทุกๆท่านในเวปพลังจิตนั้นคือ อาจารย์ของเราก็ได้คะ ..และก็เรื่องที่มีผุ้ทีี่นำเรื่อง องค์กรลับมาโพสด้วยคะ...(ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกๆท่านด้วยคะ ที่ทำให้เด็กบ้านนอกอย่างเราได้รับรู้และตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ คะ...)....

    หากถามว่าตอนแรกเรารู้เรื่องอะไรพวกนี้ไหม...???

    ก็ขอตอบว่าไม่เลยคะ..ลองนึกดูสิเหมือนคนบ้านนอกเข้ากรุงจิตก็มุ่งแต่ทำธุรกิจ และก็มีไปทำบุญตามปรกติ (คนชอบทำบุญทำทาน) ก็แค่นั้นคะ...

    ก็ที่บอกคะ หลังจากที่ถูกตามตัวเจอที่ วัดวรเชษฐ์ ที่อยุูธยาคะ..เดือน มีนาคม ๒๕๕๒..เพราะมีน้องคนหนึ่งไปฝากสาสน์ไว้ที่ หลวงพ่อดร.สิงห์ทน โดยกล่าวว่า ให้ช่วยตามหา "ผุ้หญิงคนหนึ่งที่มีดอกบัวที่หน้าผาก" ก็ประมาณนั้นคะ..

    (น้องคนนี้มีหน้าที่ตามหาเรา เขามุ่งมั่นตามหาเราตั้งแต่ปลายปี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๘ และมาเจอเราปี ๒๕๕๒ เราก็ต้องขอขอบใจน้องสาวคนนี้มากๆที่อดทนและมุ่งมั่นมากๆคะ เพราะน้องคนนี้มีความอดทนมากและปิดความลับที่เก่งๆมากๆและสู้ตามหาเราไปทุกจุดเพื่อให้ได้พบกับเราให้ได้ การตามหาตัวตนของเราแม้นแต่พ่อแม่ครอบครัวเขาก็ยังไม่รู้ เพราะมันคือ ลับสุดยอด เพราะเขาต้องตามตัวเราให้เจอก่อนฝ่ายตรงกันข้าม เพราะมีหลายฝ่ายตามหาเรานั้นเอง)...คร่าวๆคะ

    ตอนน้้นเราได้ไปครั้งแรกที่ วัดวรเชษฐ์อยุธยา กับคนจีนสองคน(คนหนึ่งคือ เจ้าของบีทาเก็น ครั้งแรกที่เขาเข้าวัดคะ) และก็หลานชายเรา ที่ไปเพราะมีพี่ที่เราเคารพชวนไปเป็นเพื่อนพี่เขาจะไปทำพิธีบวงสรวงเจดีย์เพื่อบูชาพระนเรศวรนั้นเอง..

    และหลังจากนั้น เราก็ยาวเลย ...แต่ก็ประมาณว่า มิได้เชื่ออะไรมากมาย แต่ก็หยุดไม่ได้ ตอนแรกก็เป็นนักแกะรอยหรือนักแกะปริศนาก่อนนั้นเองคะ..

    และมารู้ตอนหลังที่เราต้องเกี่ยวข้องกับวัดวรเชษฐ์เพราะ ..

    มีเจดีย์หนึ่งที่สร้างหากมองตรงๆ อยู่ซ้ายมือ ที่เกตุด้วนนั้นคือ เจดีย์ของพระธิดาอุทุมพร (ที่พระเอกาทศรส สร้างไว้ให้และเก็บความลับมากมายไว้คะ และตั้งจิตไว้ว่าหากถึงเวลาแห่งการบรรจบสักวันหนึ่งเราก็ต้องเวียนและเดินมาพบที่นี้เหมือนกันคะ)..และอีกอย่างมีเจดีย์หนึ่งอยู่ขวามือเล็ก ๆ นั้นคือ เจดีย์บรรจุหินพลังศรัทธา ซึ่งเป็นหินที่นำมาจาก สภาแกแล๊คซี่แอนด์โดรมีดร้าคะ...(ในอดีต เจ้าหญิงแอนโดรมีดร้าเคยมาทำหลักฐานไว้เกี่ยวกับจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ)..

    ในอนาคต ที่วัดวรเชษฐ์ อยุูธยา จะเป็นศูนย์รวมของพลังแห่งความศรัทธาคะ จะแทนที่ "ชเวดากอง พม่า จะถูกย้ายมาไว้ที่เมืองไทยที่อยุธยาคะ"...เพราะในอดีต ชเวดากองก็ถูกสร้างมาจากความร่วมมือของ ต่างดาว ก็เกี่ยวข้องกับทานพ่อซิริอุส กับเจ้าหญิงแอนโดรมีดร้าเหมือนกันคะ เพราะตะก่อนนี้ก็จะเป็นเจดีย์ไม่ใหญ่แบบนี้(ชเวดากองแต่ทางพม่ามาสร้างเพิ่มคะ)..จุดที่ชเวดากองนั้นก็ซ่อน พลังแห่งความศรัทธาและเป็นจุดเชื่อมต่อกับมิติเหมือนกันคะ เมือ่ปี ๒๕๕๕ ต้นปี มกราคม เราได้เดินทางไปอีกคราและไปทำพิธีย้าย พลังแห่งความศรัทธา ดินน้ำลมไฟ ..มาบรรจุไว้ที่เมืองไทยหมดแล้วคะ (ทั้งที่ พระธาตุอินทร์แขวน หรือ หงษาวดี หรืออีกหลายจุด เพราะอดีตเราก็เกี่ยวข้องกับพม่าด้วยคะ...(มันหลายภพคะ)...

    และมาถึงที่คุณ Ornouma ถาม..

    ขอเกริ่นคร่าวๆไว้ก่อนนะคะ แล้วยังไงวันนี้จะมาเล่านิยายน้ำเน่าของเราให้ฟังต่อเกี่ยวกับ มนุษย์ต่างดาว และองค์กรลับ สันตะปะปา และประเทศที่ถูกหลุมดำ ดูดเก็บแล้วว่ามีประเทศไหนบ้างคะ..

    ช่วงแรก นั้นที่เราทำกิจ เรารับรู้แต่ว่า กลุ่มองค์กรลับ(มืด) นั้น ได้ทำการจัดระบบของเขาเพื่อครอบครองโลกใบนี้ได้สำเร็จไปแล้ว ๗๐% เปอร์เซ็นต์..

    และองค์กรลับ(มืด) ก็ได้บันทึกและลงสารระบบพวกเขาว่า จะต้องลดประชากรโลกให้เหลือ แค่ ๑๐% ตามที่หลายท่านนำมาลงที่ เวปพลังจิต(นี่คือ เรื่องจริงคะ)...

    และก็ที่เราบอกคะ ว่าเรานะต่อสู้มาเยอะและมันคือ การต่อสู้หลายรูปแบบทั้งภาคพลังจิตและภาคมนุษย์ แต่มันมิใช่แค่เรืององค์กรลับแต่มันทุกเรื่องคะ..เพื่อการประกาศความจริง ว่า..ใครตัวจริงใครตัวปลอมนั้นคือ หลักใหญ่ๆ...คะ

    (ก็ไม่ต่างจากคนไทยปัจจุบันคะ ...ที่มีหลากหลาย ทั้งมืด และ สว่าง ..จริง ปลอม คละเคล้ากันไป ..นิยายน้ำเน่าเราก็ไม่ต่างจากการขึ้นศาล และนำหลักฐานไปแสดงและอุทรณ์ คะ..ยกตัวอย่างเช่น ..เราให้ชายคนหนึ่งได้ดูแลและทำนาบนที่ดินของเรา นานเกินสิบปี และชายคนหนึ่งอยู่มาวันหนึ่งก็ไปบอกกับศาลว่า ..เขาคือเจ้าของที่ดินโดยแท้จริงนั้นเองคะ)...เหมือนกันเลยคะ และตระกูลเราก็เจอมาแล้ว ประมาณว่าใจดีคะ..แต่สุดท้ายก็ "บัวแล้งน้ำ" นั้นเองคะ..

    แต่ท่านที่ตามหาเรา นั้นตามเรามาเพื่อ

    ๑. ประกาศความจริงให้โลก จักรวาล เอกภพ ได้ตื่น และรับรู้ความจริง "ตัวจริง ตัวปลอม"

    ๒. เพื่อแก้ไข และสานต่อสิ่งที่ดี (สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอดถึง ๕,๐๐๐ ปีนั้นเอง)..

    ๓. เพื่อมาแก้ไม่ให้ประเทศไทย และโลกเราเป็นดังพุทธทำนายนั้นเองคะ...

    คร่าวๆ...

    แต่ที่สำคัญ ..ทางภาคจิตวิญญาณ หรือภาคจักรวาล เราได้ต่อสู้มาจนชนะหมดทุกจุดแล้ว ก็อย่างที่เราบอกไงคะ ว่า..ตอนนี้เราต้องมาแสดงบทบาทกันในภาคมนุษย์นั้นเองคะ...

    ส่วนสัญญาลักษณ์เลข 666 หากแปลอีกนัยยะหนึ่งก็คือ ค่าแปลพลังงานคะ ที่ทางท่าน เกษม เคยนำของอาจารย์ท่านหนึ่งมาลงไว้คะ(หากเราค้นห้าลิ้งค์เจอจะมาแปะไว้ให้คะ และประเทศที่ถูก 666 ครอบไว้แล้วก็คือ สหรัฐฯ และแถบยุโรปคะ พวกเขาถึงแย่ แย่ แย ก็เพราะกรรมคะ...)...

    รหัส...666

    เปิดคำสั่งเชื่อมรหัส...666 ตอนนี้ขอฝากโพสอ่านความหมายนัยยะ คร่าวๆ เกี่ยวกับค่า แปลพลังงานของ รหัส..666 ไว้ก่อนคะ..
    http://palungjit.org/threads/f178/f2/%E0%B8...88.351985/

    แล้วจะมาเล่านิยายน้ำเน่าให้ฟังต่อนะคะ..

    นิยายน้ำเน่าภาคต่อไปมันจะเปรียบเหมือนหนังไทยสองเรื่องมาบรรจบกันคะ..ลองพิจารณาดูนะคะ (มันจะโยง พร ๑๐ ประการมาบรรจบ รหัส..ทองคำขาว)...และโยงถึงเรื่อง พระมหาชนก ถึงตอนที่สำคัญ สำคัญ สำคัญ ...(ปริศนาซ่อนอยู่แค่ หนังสองเรื่องนี้คือ นัยยะ)....

    รหัส....
    ๑ บ้านทรายทอง
    ๒ วันนี้ที่รอคอย...

    นี่แหละคะ คือ ตอนจบของแผ่นดินไทย + โลก + จักรวาล + เอกภพ...สันติภาพบังเกิด จบแบบสมบูรณ์แบบนั้นเอง...

    เหมือนเดิม ขอขอบคุณเจ้าของโพสและเวปพลังจิตและกำลังใจจากเพื่อนๆทุกกำลังใจคะ...(ทั้งหมดคือ ความคิดเห็นส่วนตัวและเป็นนิยายน้ำเน่าของเรา โปรดพิจารณาและทั้งหมดคือ สัจจะ(หน้าที่) ของเราคะ หากถึงเวลาเราจะมาลบให้นะคะ)...

    ปล. เราขอร่วมอนุูโมทนาสาธุบุญ กับคุณมะลิดำ ด้วยนะคะ ที่ร่วมทำบุญกับเวปพลังจิต(เราขออนุญาติเกาะบุญกับคุณมะลิดำด้วยนะคะ)..แต่เราก็ไม่รู้จัก คนที่ตั้งเวปพลังจิตมาหรอกนะคะ แต่เราก็รับรู้ว่า เขาก็มีบุญคุณกับเราให้เราได้ทำหน้าที่คะ...ขอบคุณอีกครั้งคะ...

    16-02-2013, 01:49 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ตามรอย-พระมหาชนก.248273/page-77
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  9. เกิดมาลุย

    เกิดมาลุย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +344
    อ้างถึง คุณมณีส่องแสง ตามข้อความด้านล่างมีบางอย่างอ่านแล้วมันขัดแย้งกัน ก็ต้องเข้ามาถามซักหน่อยครับ....

    แต่ท่านที่ตามหาเรา นั้นตามเรามาเพื่อ

    ๑. ประกาศความจริงให้โลก จักรวาล เอกภพ ได้ตื่น และรับรู้ความจริง "ตัวจริง ตัวปลอม" จริง ๆแล้วภาคจักรวาล เค้าก็น่าจะรู้อยู่แล้ว ส่วนบนโลก ก็จะบอกกลุ่มไหนล่ะครับ มีหลายกลุ่มจัด พูดกว้า...ง มาก

    ๒. เพื่อแก้ไข และสานต่อสิ่งที่ดี (สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอดถึง ๕,๐๐๐ ปีนั้นเอง).. อันนี้เหล่าพุทธผู้มีบารมี เหล่าพระโพธิสัตว์ และเหล่าพุทธภูมิ และอื่น ๆ ท่านก็ลงมาทำเป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็อนุโมทนาบุญด้วยครับที่มาช่วยกันทำให้พระพุทธศาสนา ดำรงคงอยู่ได้ครบตามพุทธทำนาย

    ๓. เพื่อมาแก้ไม่ให้ประเทศไทย และโลกเราเป็นดังพุทธทำนายนั้นเองคะ...
    ส่วนข้อนี้น่าสงสัย... คือพวกท่านเปลี่ยนพุทธทำนายได้หรือ และการที่ท่านมา มาเพื่อทำให้ดีขึ้นหรืออย่างไร

    ผมไม่ได้มาเพื่อภาระกิจใด ๆ ของโลก ทำแค่เรื่องของตนเอง และก็ได้แต่เฝ้ามองความเป็นไปโลกเท่านั้น....
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การตื่นรู้...ทำตามสัจจะและหน้าที่ของตน !!!


    มณีส่องแสง สมาชิก

    (เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

    มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ทุกดวงจิต ก่อนที่จะลงมาจูติหรือเกิดยังโลกมนุษย์ ได้ตั้งสัจจะและมีหน้าที่ลงเพื่อมาร่วมกันสร้างบารมีและมาช่วยกันนำพาให้โลกใบนี้สวยงามและสันติภาพก่อเกิด

    สันติภาพก่อเกิด (แต่มนุษย์เหล่านี้ก็หาได้ทำตามสัจจะและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายลงมา(น้อยคนที่จะ ตื่นรู้ และทำตามสัจจะและหน้าที่ของตน) มิผิดหรอกนะ ที่เบื้องบนนั้นได้ใช่ระบบในการทดสอบมนุษย์ โดยการที่นำ "อำนาจ และเงินตรา"มาล่อให้มนุษย์ติดกลับและติดบ่วง และนั้นก็คือ ระบบของเบื้องบนที่ทำการเช่นนั้น เพื่อจะได้คัดและเก็บกลับมนษุย์ได้ง่ายขึ้น..พวกเราจะโทษกลุ่มองค์กรลับหรืออีกฝ่ายก็มิได้หรอกนะ เพราะพวกเขาก็มีหน้าที่ของเขา ..เพราะระบบ น้้นก็ต้องมีสองฝ่าย หรือสองสิ่งให้เปรียบเทียบกันเสมอ..เช่น มีเทพ ก็ต้องมีมาร..มีขาวก็ต้องมีดำ...

    (อำนาจและเงินตรา)..ต่อไปในอนาคตข้างหน้า ก็ประมาณปี ๒๕๕๖ ระบบการเปลี่ยนแปลงได้ก่อเกิด หลังจากที่ทางกลุ่มองค์กรลับ ได้ถูกทำลาย (และแพ้สงครามโลกครั้งที่ ๓) แล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็จะกลับเนื้อและตัว และขอมาทำงานช่วยและรับใช้ (เพื่อแท้จริงแล้วพวกเขาก็ต้องการ..ผุ้นำแห่งแสงสว่าง)...และในอนาคตหรือโลกใบใหม่นั้น ระบบทุนนิยมจะหายและหมดไปจากโลก และโลกยุคใหม่ก็มีแต่...(ปลดอาวุธทั่วโลก...ไม่มีคนจน...และไม่มีคนเลว)

    ..ดวงดาวที่มาช่วยในการเครียร์และสร้างโลกใบใหม่นี้คือ...ดาวม้าบิน ดาวธนู ดาวลูกไก่ ดาวซิริอุส ดาวแมงป่อง ดาวพลูโต(ดวงดาวหลักๆ)ที่ช่วยมาทำสงครามและช่วยมาสร้างโลก(แต่หัวหน้าใหญ่สุดคือ สภาแกแล็คซี่แอนโดรมีด้า) นั้นเอง...บอสใหญ่...อีกแป๊ปหนึ่งจะมาเล่านิทานให้ฟังนะคะ...(เพราะวันนี้เป็นวันแห่งการเปิดเผยความจริงบางอย่างที่ มนุษย์และผุ้ที่มีหน้าที่ ได้ตื่นรู้ และเตรียมตัวเพื่อจะได้ทำกิจและหน้าที่ตัวเองที่ได้รับมอบหมายมาเสียที)...

    ...ถ้าหากเราจะบอกความจริงก็คือ ในภาคจิตวิญญาณและภาคจักรวาลนั้น ระบบการสร้างโลกใหม่ได้จบและสร้างสำเร็จแล้ว และทางกลุ่มพวกนั้นก็ได้แพ้สงครามแล้ว ..แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างจะเป็นไปตามระบบที่วางไว้มิเปลี่ยนแปลงได้เลย(เพราะในการเครียร์ระบบทุกอย่างไม่ว่า จะจักรวาลหรือโลกหรือมนุษย์ต้องเครียร์จากระบบภาคจิต และจักรวาล ก่อนและถึงจะมาเป็นระบบภาคมนุษย์..(ถึงมีคำกล่าวไว้ว่า ..การรบที่น่่ากลัวที่สุดก็คือ การรบด้วยพลังจิตและปัญญานั้นเอง)

    ...และมีแค่คนเดียวในโลกและในจักรวาลที่สามารถกระทำการเช่นนี้ได้ เพราะผู้ที่มีพลังลึกลับผู้นี้ เป็นผู้ที่ถือ..และดูแล ..ระบบพลังงานทั้งหมดในโลกใบนี้และจักรวาล..และเป็นผุ้เดียวที่ควบคุมเวลาแห่งจักรวาล..และเป็นผู้เดียวที่เป็นเจ้าของทรัพย์ทั้งหมดในโลกมนุษย์...และมีอะไรที่มันเวอร์ๆ ..อีกมากๆ..ถึงให้คุณลองไปดูโพสบางคนที่โพสบอกว่า ฐานทัพใต้ดินขององค์กรลับ นั้นที่ถูกทำลาย ใครกันนะที่สามารถทำได้ขนาดนั้น แบบไม่มีการทิ้งล่องลอยและน่ากลัวมากๆ(และทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คือ ระบบ "หลุมดำ"..และ พลังแห่งแม๊กม่า"...นั้น

    ทางต่างชาติ และต่างดาว ต่างก็ตามหา บุคคลที่มีพลังลึกลับผุ้นี้อยู่ และพวกเขาเหล่านั้นได้มาที่เมืองไทยเมือสองปีที่แล้ว เพื่อมาตามหาบุคคลที่มีพลังลึกลับผู้นี้ว่าซ๋อนอยุ่ที่ใด แต่พวกเขาได้รับรู้แล้ว ว่าเป็นคนไทยและเกิดที่ประเทศไทย..และทุกวันนี้พวกเขาเหล่านั้นไม่ว่าจะมนุษย์หรือ พวกต่างดาวต่างก็ตามหากันว่า..เป็นใครและอยู่ที่ใด...แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะทำร้ายหรอกแต่พวกเขาก็อยากจะให้บุคคลลึกลับผู้นี้ ไปเป็นพวกเขาและไปช่วยเขา เพราะที่เราบอกไงว่า ..พวกเขาเหล่านั้นต่างก็ต้องการ "ผู้นำแห่งแสงสว่าง" นั้นเอง...

    วันนี้เราเขียน และวันนี้เราก็อาจจะลบข้อความทั้งหมดออกด้วยคะ..เพราะตัวเราอาจจะเป็นแค่เพียง คนส่งสาสน์หรือ(ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด)..เรามิต้องการให้ใครๆมาเชื่อในสิ่งที่เราเขียนหรือเล่า แต่มันอาจเป็นนิทานเรื่องเดียวในโลกหรือในจักรวาล ที่รอการติดตามและการอ่านและการเปิดเผยก็ได้นะคะ...

    ...ในอดีตที่นานมาแล้ว (แต่ก็ใช่ว่าจะต้นยุคกัลป์) เลยที่เดียว เราขอเล่านิทานแค่ประมาณช่วงครึ่งหนึ่งก่อนก็แล้วกันนะ...

    ในจักรวาลได้มีการทำสงครามกันเกิดขึ้น ..และได้มีการแก่งแย่งเพื่อที่จะชิงตำแหน่งเจ้าพิภพและของวิเศษที่ต้องการครอบครอง ...และในช่วงนั้นคือ ที่สภาแกแล็คซี่แอนโดรมีด้า นั้นก็เกิดความวุ่นวายกันเกิดขึ้น ..ทางฝ่ายกบฎนั้นต้องการที่จะครอบครองพลังงานของจักรวาลและทรัพย์ทั้งหมดยังโลกมนุษย์ และครอบครองเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าด้วย (และคนที่จะต้องเป็นเจ้าพิภพคนต่อไปก็คือ เจ้าหญิงแอนโดรมีด้า)และเกิดการสู้รบกันขึ้น...

    ส่วนทางเจ้าพิภพก็คือ ท่านซิริอุส(สายฟ้าฟาด) ได้เห็นแล้วว่า ทางพระธิดา(เจ้าหญิงแอนโดรมีด้า) จะไม่ปลอดภัย (เจ้าหญิงแอนโดรมีด้า นั้นคือ ธิดาองค์เดียวของ ท่านซิริอุส) ก็ได้ส่งเจ้าหญิงลงมาจูติยังโลกมนุษย์...และพร้อมกับให้ของที่สำคัญที่สุดติดตัวลงมาด้วย (เพื่อการป้องกันตัวและปกปิดตัวเอง ที่ไม่สามารถทำให้ใครก็ไม่สามารถรู้ไว้ว่า เจ้าหญิงเป็นใคร ถ้าหากเจ้าหญิงไม่ยอมที่จะเปิดตัวตนของตัวเอง)

    ..และแต่ก่อนที่เจ้าหญิงแอนโดรมีด้าจะลงมาจูติยังโลกมนุษย์นั้นได้ทำหลักฐานและนำของมาซ่อนไว้หลายจุด (และใช้โลกเป็นที่ทำสงครามและฐานทัพมาแล้วในอดีต)..ย้ำ นี่แค่นิทานกลางยุค แต่มิใช่ต้นยุค (เพราะมันต้องมีจุดที่ก่อนที่จะมีเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าอีกที่ต้องมาทำหน้าที่ สันติภาพบนโลก)...

    และยุคแรกที่เจ้าหญิงแอนโดรมีด้าลงมาเกิดนั้น ได้ลงมาจูติ เป็นพญานาค (และก็มีอีกหลายดวงจิตที่ต้องตามลงมาเกิดเพื่อมาดูแลและปกป้องเจ้าหญิง.)...ส่วนฝ่ายตรงกันข้ามนั้นก็ได้ลงมาจูติ ยังโลกมนุษย์เหมือนกัน แต่มาเกิดเป็น ...ยักษ์ และ พญาครุฑ....

    ...และช่วงต้นยุคของสายพญานาคนั้น ก็คือ ที่แผ่นดินไทย จุดนั้นเรียกว่า "ภูลังกา"..ที่ปัจจุบันอยู่ที่ จ.บึงกาษ หรือที่นั้นทุกคนขนานนามว่า ...สถานที่แม่กาเผือกหรือ สถานที่ของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์นั้นเอง...ถ้าหากมีเพื่อคนใดได้ไปที่นั้นและลองไปสังเกตุดูภูเขาที่นั้นมิใช่เป็นแค่ภูเขาธรรมดา แต่เป็นที่อยู่เดิมของต้นยุค..ที่รวมสายพญานาคและกินรี คนลับแลและอีกมากมายที่นั้นคือต้นกำเนิดของยุคขอมด้วย(และทางทางพญาสิงหราช ที่เคยดูแลไข่ฟองที่ห้านั้น อีกยุคท่านก็มาเกิดและมาทำหน้าที่เป็นผุ้ดูแลทรัพย์ของ เจ้าแห่งยุคขอมด้วย)

    ...และทางเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าและอีกหลายดวงจิตก็ได้มาจูติและซ๋อนอยู่จุดนั้น และทางฝ่ายศรัตรูก็ได้ มาตามหาและตามเจอ ก็คือ พญาครุฑ และยักษ์ และก็ได้ไปถล่มสถานที่แห่งนั้น เพื่อที่จะตามหาเจ้าหญิงแอนโดรมีด้า เพราะพวกเขาก็อยากจะได้และครอบครองเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าหรือ ดวงตาสวรรค์นั้นเอง(หรือดวงตาสวรรค์ ความจริงที่ทุกคนรับรู้ ที่พวกองค์กรลับเรียกคือ ดวงตาซาตาน...(มีที่มาที่ไปยาวถ้ามีโอกาสจะเล่าให้ฟังคะ) และทางสายพญานาคและสถานที่ภูลังกา นั้นก็ถูกทำลายราบคาบ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะตามหาหรือเจอเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าได้ไม่....

    ..และทั้งหมดต้นสายพญานาคนั้นก็ได้ย้ายถิ่นฐานนั้นไปตั้งรกรากใหม่ ที่ เกาะเสม็ด (หรือเรียกว่า เกาะแก้วพิศดาร)...ออ..ในช่วงที่เจ้าหญิงแอนโดรมีด้านั้น ได้เกิดเป็น พญานาค ได้มาเกิดเป็นธิดาลำดับที่ ๖๗ ของ องค์ปู่อนันตนาคราช...(มีชื่อว่า..ศรีวิกามุนี อนันตไลโลกนาศ เทวี ศรีธิดา อนันตนาคาลาโย)..และช่วงที่เกิดเป็นพญานาคนั้นเจ้าหญิงแอนโดรมีด้านั้นได้บำเพ็ญเพียรยาวนานมาก จน ..ดวงจิตหรือดวงแก้ว กลายเป็น.."แก้วเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง"..และ มีเศียรทั้งหมด ๑๖ เศียร ..มีร่างกายเป็นสีน้ำเงิน และตรงท้องเป็นสีรุ้ง..และญาณที่ได้ก็คือ.."ญาณ อนันตรสุริยจักรวาล โอพาส"...

    . ..และพอทุกภาคส่วนได้ย้ายรกรากมาเกิดอยู่ที่ เกาะเสม็ด หรือเกาะแก้วพิศดารนั้น (หรือต้นเรื่องพระอภัยมณี..)นั้นคือต้นสายของภพภูมิพญานาคเหมือนกัน เช่นท่านพระอภัยมณีนั้นก็คือ..องค์พญานาคที่ดูแลพระพุทธเจ้าตอนที่พระพุทธเจ้าสมณโคดม สร้างบารมี ที่เป็นพญานาค ๗ เศียร...และปู่อนันตรนาคราชนั้น ได้เกิดเป็นปู่ดำ (ถ้าหากเพื่อนๆได้ไปที่ เกาะเสม็ด ก็จะเห็นมีศาลของปุ่ดำอยู่ และก็จะมีลานหิน ที่เป็นเหมือนชั้นๆ ที่อยู่ที่หาดทรายแก้ว นั้นคือ ที่บำเพ็ญเพียรของท่านปู่ศรีสุทโธ(แต่ภพนั้นส่วนใหญ่บรรดาปู่ๆทั้งหลายจะบำเพ็ญเพียรเป็นปู่ฤาษี

    ..แต่..แต่ ...เจ้าหญิงแอนโดรมีด้า ..ในยุคนั้นเกิดเป็นใครทราบหรือไม่..เจ้าหญิงแอนโดรมีด้านั้นได้ ไปเกิด เป็น.."มณีเมขลา"..นั้นเอง..(ลุกแก้วที่อสูรหรือใครก็อยากจะได้และเป็นผู้ที่ช่วยมหาชนก)...(เราขอเล่าแค่คร่าวๆสำหรับนิทานเรื่องนี้)...และที่เกาะเสม็ดนั้น ตะก่อนนี้ เคยมีการสร้างเจดีย์ที่ใหญ่และสวยมาก ๆ เป็สนสถานที่ปฎิบัติธรรม (และตำแหน่งมณีเมลขาตอนนั้นคือ เจ้าแห่งนาคี หรือเจ้าแห่งพญานาค ..ส่วนต้นตะเคียนใหญ่ๆที่อยู่ที่เกาะเสม็ดนั้นอดีตก็คือ บริวาลของมณีเมขลาทั้งหมด..) และที่นี้ก็เป็นอีกจุด ที่ถูกทางพญาครุฑ กับพญานาคมาถล่มอีก ไม่เหลือ ทุกอย่างพังและสิ้นสลายอีก แต่พวกเขาก็ไม่อาจที่จะตามและหาตัวตนของเจ้าแห่งนาคีเจอ..(แต่พญาครุฑก็ได้ของคู่บารมีของ ..เจ้าหญิงแอนโดรมีด้าไปได้หนึ่งช้ิน(อันนี้ขอปิดไว้ก่อนว่าเป็นอะไร)...

    ...ความลับอีกอย่างที่เบื้องบนและทางสภาแกแล็คซี่ทำระบบป้องกันไว้แน่นหนาก็คือ ..ทางเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าหรือท่านพ่อซิริอุสนั้น ได้มอบหมายให้ ทางท่านปุ่อนันตนาคราชเป็นผุ้ดูแลและเฝ้าทรัพย์ทั้งหมดในโลกนี้..ส่วนทางปุ่ศรีสุทโธนั้น เป็นผุ้ที่ถือกุญแจ(แต่ก็มีเงื้อนงำ) เพราะจริงแล้ว กุญแจนั้นมีหลายดอก เพื่อป้องกันและระบบต่าง และทรัพย์ทุกจุดในโลกนี้ต่างก็ทำ รหัสไว้หมด...(และทุกคนและหลายภาคส่วนนั้น จะเข้าใจว่า ..ทางสายพญานาคนั้นร่ำรวยที่สุดและมีทรัพย์เยอะที่สุด แต่ข้อเท็จจริงแล้ว "ผุ้ที่เป็นเจ้าของดวงตาสวรรค์ หรือที่พวกองค์กรลับเรียกว่า ดวงตาซาตาน ..ต่างหากที่เป็นเจ้าของทรัพย์ตัวจริงและเป็นแต่เพียงผู้เดียวในโลกนี้)...พวกเขาเหล่านั้นถึงต่างก็ตามหาและต่างก็อยากเจอะเจอ..(ยังมีความลับอีกมากมายแต่เราขอเล่านิทานเป็นฉบับย่อๆ เพื่อให้เพื่อนได้เข้าใจระบบและอะไรบางอย่าง...)

    ..และจุดเด่นๆ..หลังจากที่ เกาะเสม็ด(หรือเกาะแก้วพิศดาร)ถูกถล่มแล้ว ก็ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ ราชบุรี(หรือที่จุดนั้นเรียกว่า หุบผาสวรรค์(ตะก่อนที่ตรงนั้นเป็นทะเลนะคะและเป็นเกาะแกร่ง ) ที่นั้นทั้งหมดก็ได้ ไปเกิดและรวม หลายเผ่าพันธ์กันมากมาย เป็นกินรี บ้าง คนธรรท์บ้าง พญานาคบ้าง..ฯลฯ...แต่อีกอีกนั้นแหละ ผลสุดท้ายก็ถูก พญาครุฑและ ยักษ์ ตามไปถล่มอีกแล้ว..(น่าสงสารจังเลย)..ขนาดปัจจุบันที่เราไปมีอยู่ช่วงหนึ่งเราได้ไปพบที่บนเขาเราก็นึกแปลกใจว่า เอ้ ..ทำไมพญานาคที่หลวงพ่อสร้างที่ หุปผาสวรรค์ ถึงถูกตัดหัวและหางเกลี้ยง(ที่ไหนได้ เพราะมีอดีตทีมาที่ไป ..เพราะที่หุปผาสวรรค์นั้นเพื่อนๆลองไปศึกษาดูนะคะว่ามีต้นสายปลายเหตุมาเช่นไร)

    ..แต่ละจุดที่เราเอ่ยถึง จะเป็นจุดที่ทางต่างดาวหรือสภาแกแล็คซี่มาทำหลักฐานและมาซ่อนบางอย่างไว้ทุกจุด...และมาอีกยุค(เราจะเล่านิทานเฉพาะยุคที่สำคัญนะคะ)..ก็คือ ไปเกิดในยุคของ...คลีโอพัตรา( ยุคนี้ เป็นยุคเด่นอีกยุคหนึ่ง)...ที่ทางองค์กรลับได้ทำสัญญาลักษณ์ ดวงตาบนปิรมิท(เพราะแท้จริงแล้ว ตำแหน่งอีกจุดหนึ่งของ คลีโอพัตรา ก็คือ...ตัวแทนแห่งดวงดาว ...และเจ้าแห่งพญามัจจุราช..ผู้มีดวงตาสวรรค์ ที่อียิปห์นั้นเปรียบหมายถึง..จุดแอบซ่อนพลังงานแห่งจักรวาล ... จุดพิกัดแห่งดวงดาว...ของสภาแกแล็คซี่แอนโดรมีด้า...ดวงดาวแห่งสันติภาพ(เจ้าหญิงแอนโดรมีด้า...ตัวแทนแห่งสภาแกแล๊คซี่ ..องค์จิตจักรวาล..ศูนย์รวมแห่งดวงดาว)

    ..พระอิศวร...พระนารายส์นั่งบัลลังค์พญาอนันตนาคราช..ฤาษีมหาพรหม..พระอินทร์ขี่ ช้างเอราวัณสามเศียร...ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ..

    ...พญานาคทุกภาคภพ ทั้งสวรรค์ บรรจบครบบาดาล

    พญาครุฑ ทุสยสต้องอดสู่

    ได้แต่ขู่อำนาจมีหาที่ไหน

    รีบหลีกลี้สัญจรไปไกลๆ

    พญานาคจะต้องเปล่งรัศมี..

    แก้วนาคี อยู่ที่ไหนหาให้ครบ..

    รีบบรรจบครบกันทั้ง ๗ สี...

    อำนาจจริง ยิ่งใหญ่ คือ สตรี...

    ๒๗ นี้ มีไว้คู่บารมี...

    (เทวะโพธิสัตย์นาคราช) รับบัญชาการ....นาคราชอวตาลขึ้นสู่มนุษย์โลก...

    ...รับใบเบิกทางแห่งมนุษย์โลก ..

    ..เศรียรสมุทรนาคราช..

    ..สืบทอดเจตนา...

    ...หมั่นทำความดี...

    ..ไตรภาคนาคราชสามภพ..

    ...นาคราชทิพจักษุ..

    ..บดินทร์(กษัตริย์)..

    ...นาคราชโสตจักรวาล...

    ..เจ็ดเศียร เจ็ดแสง เจ็ดสี เจ็ดมณี คุ้มครองกายเรานี้ไม่ให้มีภัย..ทำการใดๆ สำเร็จ ผลทุกประการ...

    (ภพนี้ เป็นภพที่สายพญานาคได้ขึ้นมา และมีหน้าที่ดูแลและปกป้องพระพุทธศาสนา ..ในอดีตนั้น การทำกิจและหน้าที่จะมีแค่สองภพหคือ สวรรค์ กับมนุษย์..แต่ภพนี้ จะเป็นภพที่ บรรจบสามภพ เพราะมีสายบาดาล คือ พญานาคได้ขึ้นมาทำหน้าที่ และภพนี้จะเป็นภพที่เหล่าบรรดา พญานาคได้พ้นคำสาปและสามารถที่จะบวชได้แล้ว...)

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เกิดก่อนเกิด-พรแปดประการ.349475/page-3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา !!!


    มณีส่องแสง สมาชิก

    ...อีกภพที่เด่น ก็คือ ยุคขอม...เจ้าหญิงแอนโดรมีด้า ได้กลับมาเกิดอีกเป็นเจ้านางขอมองค์แรก.ชื่อว่า แม่นางดวลโตน..เป็นผู้ที่สร้างเขาพระวิหาร (เขาพระวิหารนั้นทางต่างดาวและเทพเทวดา หลายสายมาช่วยกันสร้าง) ที่เขาพระวิหารนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นจุดที่ตั้งเพื่อ เป็นจุดพิกัดแกนกลางจักรวาลของโลก และจุดแรกแห่งการเปลี่ยนจากศาสนาฮินดู หรือพรามห์ มาเป็นพุทธก็คือ..ที่เขาพระวิหาร ที่แห่งนี้จะซ๋อน ธรรมจักรอันแรกไว้...และอีกส่วนที่เด่นยุคขอมก็คือ เจ้าหญิงแอนโดรมีด้าได้ มาเกิด เป็น นางกากี..และศพของเธอนั้นก็ถูกฝังไว้ ที่..นครวัต...(ตอนหลังถูกพญาครุฑรอบปลงพระชนน์)..เพราะพญาครุฑรักมากและถือว่า ถ้าหากเขาไม่ได้คนอื่นก็หมดสิทธิ์ เพราะทางคนธรรท์ก็ได้ไปลักพาตัวมา...(อย่าเชื่อเพราะมันอาจเป็นแค่นิทาน)...ส่วนศพของพระนางคลีโอพัตรานั้น ถูกเก็บและซ่อนไว้อย่างดี ยากที่ใครจะเข้าไปได้และหาเจอ เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลอย่างแน่นหนา และทำประตุค่ายกลๆไว้..(และทุกจุดมีรหัสไว้หมด)

    ..ส่วนอีกภพหนึ่ง..เราจะเสนอแต่ตัวละครที่เด่นๆนะ เพราะถ้าหากเล่าจริงๆ คงหลายเดือนกว่าจะจบนิทานเรื่องนี้...

    ...แม่จามเทวี..(ส่วนลูกชายคู่แฝดของแม่จาม ทั้งสองอดีตคือ..พระนเรศวร กับ พระเจ้าตาก)...

    ...พระสุริโยทัย...(เป็นดวงจิตเดียวกับ พระธิดาอุทุมพร..(ที่เป็นธิดาองค์เดียวของพระนเรศวร ที่หลายฝ่ายตามหา)

    ...พระนางเรือล่ม...

    ...ตัวละครหรือนิทานเรื่องที่เราเล่าหรือที่เราแต่งมานั้น ...เราอาจจะใช้ชื่อตัวละครเหมือนกับพระมหากษัตริย์หรือมเหสีแต่เรามิมีเจตนาจะหลบลู..ใดๆ เลย...

    ...การที่มนุษย์เราได้เกิดมานั้นต่างเกิดมาแล้วหลายภพหลายชาติ ..และหลายคนนั้น อาจจะเข้าใจว่า ตัวเองเป็นคนโน้นคนนี้..นั้นมิผิดหรอกนะ..เพราะ ในการแบ่งหรือโปรดบารมีของผุ้มี่มีบารมีมากนั้น สามารถที่จะแบ่งและไปโปรดบารมีให้กับมนุษย์ได้

    ..อย่างเช่น..องค์พระศรีอริยะเมตรไตรย นั้น ที่เราทราบมา ..ว่าท่านนั้นก็ได้ไปโปรดและแบ่งบารมีให้กับมนุษย์ที่มีจิตศรัทธาและไปสอนโปรดให้ แต่พวกคนเหล่านั้น จะได้รับบารมีที่ท่านไปโปรด ไม่เกิน ๑๐% ... และ

    ...ในโลกมนุษย์นี้..จะมีแค่คนเดียวและหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่เป็นดวงจิตแท้ๆ ของ..องค์พระศรีฯ...และศาสนาขององค์พระศรีฯนั้นจะมีอายุ อยู่ถึง..๒๔๙๐ ปี...และยุคองค์สมณโคดมนั้น..ได้หมดลงไปแล้วเมื่อ วันที่ ประกาศ พุทธยันตี ๒๖๐๐...

    ...และตอนนี้พวกเราทุกคนได้เข้าสู่ยุค พระศรีฯ แล้ว ทุกภาคส่วนหรือทุก ภาคภพต่างรวมตัวและตื่นรู้หมดแล้ว เพื่อรอทำหน้าที่...เพราะภพนี้ท่านลงมาทำหน้าที่ด้วยตัวของท่านเอง ในการคัดเลือกและแบ่งหน้าที่ เพื่อนำพาไปสู่โลกใบใหม่...

    และหลังจากที่หมดยุคพระศรีฯแล้ว.(เพราะโลกมนุษย์มีแต่สันติภาพแล้ว)..ที่เวลา ๒๔๙๐ ปี... ผู้ที่บำเพ็ญและได้รับการหลุดพ้นเข้าสู่ความว่างแล้ว ก็จะได้ติดตามองค์พระศรีฯ ไปอีกยุคข้างหน้าก็คือ...

    ...ยุคที่องค์พระศรีฯนั้นได้ไปจุติอยู่ ก็คือ จักรวาล..เพราะองค์พระศรีฯ ท่านต้องไปทำหน้าที่ต่อ ..โดยการที่ไปเป็น ..พระเจ้าจักรวาล ต่อ(ถ้าหากที่พวกคุณอ่านนั้น มีบางส่วนที่จริงก็คือ การที่องค์พระศรีฯท่านอายุยืนถึง แปดหมื่นปี และมีวิมานที่สวย นั้นคือ ภาคของพระเจ้าแห่งจักรวาล)...และพอองค์พระศรีฯ ท่านเครียร์ภาคจักรวาลจบแล้วว ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลหรือเอกภพ ก็จะเข้าสู่...สูญญาตา หรือ ความว่าง..เหมือนเช่นแลกเริ่มแห่งการก่อเกิดหรือการสร้าง...

    (รหัส..เกิดก่อนเกิด..มนุษย์หลายคนนั้น หลงคิดว่า ยังอีกนานกว่าจะเข้าถึงยุคของพระศรีฯ แต่ จริงแล้ว ..ท่าน มา... เกิดก่อนเกิด..)

    ...ภพนี้เป็นภพที่เรียกว่า "สองมือแม่ผู้สร้างโลก"...ภพนี้องค์จักรพรรดิ์นั้น จะเป็นทั้ง ผู้ล้างและสร้างอยู่ในองค์เดียวกัน (จะมีแค่ภพนี้ภพเดียว)..666<999 ...และ เป็นผู้ที่ สร้างโลกใบนี้มาตั้งแต่แรก พระแม่(หรือองค์จักรพรรดิ์ที่เราเอ่ยถึง ถึงต้องลลมาเป็นผู้เครียร์หรือล้างและสร้างด้วยมือ ท่านเองหรือบางคนจะเรียกว่า พระแม่ไกอาร์ (ต่างเป็นองค์จิตเดียวกัน)...

    ...และดวงจิตที่แท้จริงของพระแม่หรือทุกคนที่เราเอ่ยมาต่างเป็นองค์ดวงจิตเดียวของ..พระแม่อุมา(พระแม่อุมาคือ พระแม่ของต้นโลก ที่สร้างทุกสิ่งในโลกนี้ และพวกคุณรุ้หรือไม่ว่า ..ที่นิทานที่เราเขียนมานี้นั้น ที่เราเรียกว่า...ดวงตาสวรรค์นั้นแท้จริงแล้วเป็นของผุ้ใดเป็นต้นกำเนิด...)

    ...ต้นกำเนิดที่แท้จริงผู้ที่เป็นเจ้าของ "ดวงตาสวรรค์" นั้นก็คือ ...พระศรีอุมาเทวี..(พระแม่ผุ้สร้างโลกนั้นเอง) เป็นดวงตาที่สามของท่าน และเพื่อนทราบหรือไม่ว่า ดวงตาที่สามของพระแม่นั้น ถ้าหากเปิดเมือไร ความร้ายและรุนแรงนั้น มากกว่าดวงตาที่สามของพ่อศิวะมากกว่า สิบเท่า...

    ...เพื่อนสังเกตุหรือไม่ ในการเสด็จไปของผู้ที่พวกเราเคารพไปที่ ทุ่งมะขามหย่อง และไปที่อนุสาวรีย์(พระศรี สุริโยทัย)...

    เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ผู้ใดเป็นผู้ที่เรียบเรียง กลอนนารีขี่ม้าขาว..ก็มีแค่ผู้เดียวที่มีพระปรีชาสามารถที่สุด และมีพระบารมีมากที่สุดที่หาผู้ใดเปรียบได้...

    ...เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า "นารีขี่ม้าขาว"ตัวจริงนั้นเป็นผุ้ใด.. และคฑาที่แท้จริงนั้น คืออะไร และทำไมผู้ที่พวกเรารักนั้นถึงต้องแต่งชุดจอมทัพ ไปที่ "ทุ่งมะขามหย่องและมีคฑาติดอยู่ด้วย"...

    ...เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ ดวงจิตที่แท้จริงนั้น..ของพระนเรศวรคือ ท่านใด ที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพนี้..(ถ้าหากเพื่อนๆอยากทราบลองไปหาโพสข้อความที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยเอ่ยและกล่าวไว้ ว่า ใครคือ พระนเรศวรที่แท้จริงในภพนี้)...

    ...เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ ดวงจิตของท้าวศรีสุดาจันทร์นั้น เป็นดวงจิตเดียวกับมณีจันทร์... และอัฐทิของท้าวศรีสุดาจันทร์นั้น เก็บซ่อนไว้ที่ น้ำตกพริ้ว..ที่จันทบุรี ที่ เป็นเจดีย์เก่ามาก..

    ...เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วพระนเรศวรท่านมีมเหสีแค่เพียงผู้เดียวที่ แต่งงานกันทีีพม่า (มณีจันทร์นั้นมิใช่เป็นแค่คนที่หลงรักและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักและตัวของพระนเรศวรและอำนาจ)...

    ...เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ว่า พระนเรศวรมีพระธิดาแค่องค์เดียวก็คือ..องค์หญิงพระธิดาอุทุมพร ที่สิ้นและตรอมใจตายไปเมือ อายุ ๑๓ ขวบ

    ....เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ผู้ที่เก็บงำความลับและทุกเรื่องราวทั้งหมดก็คือ พระธิดาอุทุมพร และเป็นความหวังเดียวที่จะสามารถทำให้ทุกอย่างก่อเกิด....

    ...ภพนี้พวกเราทุกคน ต้องเกิดมาก็เพราะคำว่า...สัจจะ และอโหสิกรรม...

    ...ทุกสิ่งทุกอย่างมิต่างจากบทกลอนที่ถูกเรียบเรียงและแต่งไว้แล้ว ก็คือ กลอน "นารีขี่ม้าขาว"..นั้นเอง...(ทั้งหมดก็อาจเป็นแค่นิยายที่ถูกแต่งขึ้นมา ขอให้เพื่อนๆโปรดพิจารณาและคิดเสียว่าเป็นนิทาน)

    ...พระนเรศวรนั้นมิได้สิ้นพระชนน์เพราะ ไข้หรือฝี..แต่เป็นเพราะท่านถูกคุณไสย์.....ส่วนพระเอกาทศรศนั้นที่ท่านสิ้นเพราะ..ถุกลอบปลงพระชนน์จากคนใกล้ชิด...

    ...ภพนี้พวกเราทุกคนต่างเกิดมา เพื่อมาเครียร์และแก้กรรมและมาอโหสิกรรม เพื่อการนำพาไปสุ่ สันติภาพและการหลุดพ้นนั้นเอง...

    ...สิ่งเดี่ยวที่ พระนเรศวรท่านรอ ก็คือ รอเพียงพระธิดาองค์เดียวของท่าน จะยอมอโหสิกรรมให้ท่าน...และรอคอยว่าสักวันหนึ่งว่า "ทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกครา"...เพราะแท้จริงแล้ว เป็นเวลา ถึง สี่ร้อยกว่าปีนั้น ..ทั้งสองพระองค์ ก็คือ พระนเรศวรและพระเอกานั้นต่างก็ตามหาว่า แท้จริงแล้วศพและโลงศพของพระธิดาอุทุมพรนั้นถูกซ๋อนไว้ที่ใด...จนบัดนี้ก็ยังมิอาจตามหาได้พบไม่..(เพราะความลับทั้งหมดถูกซ๋อนไว้ที่โลงศพ)....

    ...และทางพระนเรศวรท่านก็ได้แต่หวังไว้ว่า สักวันหนึ่ง ..พระธิดาอุทุมพรนั้นจะ ยอมเปิดเผยตัวตนและยอมรับตัวตนเสียที..

    ...รักเจ้าเท่าชีวิน เพื่อแผ่นดินจำต้องไป

    ...ปกป้องชาติศาสน์ไว้ พ้งผองไพรเพื่อลูกหลาน

    ...หากแม้นชีพมิวาย พ่อจะกลับรับเจ้าคืน

    ...สู่ผืนแผ่นมาตุภูมิ ครองราชย์ศาสน์มั่นคง

    (นี่คือคำสัจจะที่พระนเรศวรได้ให้ไว้กับพระธิดาอุทุมพรและอีกคำก็คือ..(อดทนไว้พ่อจะมาช่วย)

    ...พระนเรศวรมหาราช..ทำเพื่อชาติ และบ้านเมือง นำพาซึ่งความรุ่งเรือง เอกราชกู้กลับมา สัญญาที่ให้ไว้ ยังจำไว้มเคยเลือน ทุกคำที่คอยเตือน สักวันหนึ่งจะกลับมา จะมอบอำนาจให้ หยิบจับได้มิเคยหวง สัจจะทีเคยทวงเป็นของเจ้าบัดนี้ไป

    พระธิดาอุทุมพร...ถอนหายใจใยโกรธแค้น ความห่วงแหน กลับมลายหายใจสิ้นสุดเศร้าใจกลั้นใจตาย มลายสิ้นน่าเศร้าใจ เหตุฉไหนพ่อไม่รัก "ฉันนะหนอ" ทนอดกลั้นเนินนานให้เฝ้ารอ พ่อหนอพ่อ ทำไมมาช้าจังเลย

    พระนเรศวร...พ่อขอโทษที่พ่อมาไม่ทัน เคยได้ลั่นวาจาตามคำขอ พ่อขอโทษที่ต้องทำให้เฝ้ารอ

    พระธิดาอุทุมพร...พ่อหนอพ่อทำอย่างนี้ได้อย่างไร ความในใจที่ลูกอยากบอกนั้นสุดซึ้ง เฝ้ารำพึงบอกความลับอยู่เสมอ

    พระนเรศวร...พ่อไม่อาจปิดบังเมือพบเจอ ชาตินี้เผลอได้พบกันอย่างแน่นอน ขอแก้ตัวความผิดพลาดในทุกสิ่ง จะไม่ทิ้งลูกนี้ไปไหนอีก จะเป็นปีกให้ลูกบินสู่ทางเดิน พ่อขอตั้งสัจจะและวาจา เป็นผุ้นำพาอำนาจให้ลูกมี ทรัพย์ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินทั้งผื่นนี้ จะยอมพลีมอบให้เจ้าทั้งหมดเอ่ย...อยากให้เจ้ายกโทษให้ "อโหสิ"..เครียร์ทุกสิ่งที่เคย ทำเรื่องเศร้าหมอง ให้อภัยในทุกสิ่ง อย่างครรลอง พ่อขอร้องให้ลูกนั้น "อโหสิกรรม"

    พระธิดาอุุทุมพร...โลงศพลูกนั้น เก็บซ่อนความลับไว้มากมาย บรรจุดาบคู่กายถวายให้ ถึงกายตายแต่ดวงจิตไม่ไปไหน ยังอยู่ใกล้พ่อที่รัก (จนวันตาย)

    ...พระนเรศวรนั้นได้แต่งงานเมือตอนอยู่ที่ พม่า กับพระธิดาของท่านนันทบุเรง และท่านบุเรงนองนั้นเป็นผุ้ที่ทำการแต่งงานให้(พระสุพรรณกัลยาก็ไม่ค่อยพอใจแต่ก็ขัดน้องมิได้)..และพระนเรศวรก็ได้มีธิดาหนึ่งองค์ ชื่อว่า "อุทุมพร"..และถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ทางพระนเรศวรนั้นได้กลับมาที่ผืนแผ่นดินไทยและก็ได้ให้คำสัจจะกับ พระมเหสี และ พระธิดาว่า เมือถึงเวลาจะกลับมารับเจ้าทั้งสองกลับไปผืนแผ่นดินไทย

    ...ช่วงที่ทำยุทธหัตถึนั้น เป็นจุดแห่งการเปลี่ยนและเศร้า เพราะ เมือพระนเรศวรได้ฆ๋ามหาอุปราชาสิ้นนั้น ทางมเหสีทราบเรื่องก็ทั้งเศร้าและโกรธและเครียส เพราะไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี เพราะอีกคนก็พี่ชายอีกคนก็สามี (เพราะพระมหาอุปราชาน้้นเป็นพี่ชาย)..(เจดีย์ที่สร้างที่พนมทวนนั้นเป็นเจดีย์ที่พระนเรศวรโปรดให้สร้างให้กับพระมหาอุปราชา เพราะในฐานะที่เป็นพระมหากษัตริย์และมีส่วนเป็นพี่ภรรยา...

    ...และทางมเหสีนั้นก็ได้ตัดสินใจ โดยการที่ได้ให้คนสนิทนำพระธิดาไปเก็บและซ๋อนตัวไว้ เพือปิดบังเพราะกลัวว่า พระธิดาจะได้รับอันตราย เพราะรู้แน่แท้ว่า ว่า หากท่านนันทบุเรงรู้จะต้องถูกลงโทษและทำร้ายแน่ ส่วนมเหสีนั้นพอนำพระธิดาไปเก็บและซ่อนตัวแล้ว ตัวมเหสีเองก็ได้ทำการ "ใช้กริสที่พระนเรศวรมอบให้แทงที่หัวใจตัวเองตาย"...

    ...ส่วนพระสุพรรณกัลยานั้น พอทราบว่า มเหสีสิ้นแล้วและมเหสีได้นำหลานไปซ่อนไว้ ก็นึกเป็นห่วงและสงสารน้องชาย(พระนเรศวร)ว่าทราบข่าวแล้วจะเป็นเช่นไร พระสุพรรณกัลยานั้นก็ได้ให้คนสนิทไปตามหาพระธิดาว่าซ่อนอยู่ที่ใด และก็เจอ และทางพระสุพรรณกัลยา นั้นก็ได้ฝากของสำคัญไว้กับพระธิดา (ปิ่น ชุด และสมุดบันทึกและที่ซ๋อนอะไรอีกมากมาย)..ให้ไว้กับพระธิดา ..และส่วนมณีจันทร์นั้นอดีตนั้น เป็นผู้ที่ทางท่านบุเรงนองให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ที่คอยดูแลและรับใช้พระสุพรรณกัลยา (มณีจันทร์น้้นแอบหลงรักพระนเรศวรมานานแล้ว แต่พระนเรศวรนั้นรักมณีจันทร์เป็นเพียงแค่น้องสาว..แต่บุญทิ้งนั้นสิที่รักมณีจันทร์ฉันชู้สาว)...

    ...ทางมณีจันทร์ได้โอกาสก็เลยขออาสาและขออนุญาติกับพระสุพรรณกัลยาว่า จะขอเป็นผู้ที่ดูแลและเลี้ยงดู "พระธิดาอุทุมพรเอง"..(ตอนนั้นพระธิดานั้นมีอายุแค่เพียง ๙ ขวบ และก็พึ่งมารู้ตอนหลังว่า พระมารดาสิ้น)

    ...และทางพระสุพรรณกัลยาก็อนุญาติ ส่วนทางพระนเรศวรนั้นได้เดินทางมาถึงที่พม่านั้นช้าไปเพียง ๕ วัน (วันที่พระมเหสีสิ้น).. และก็ได้ไปขอร้องให้พระสุพรรณกัลยากลับด้วยแต่พระสุพรรณกัลยาไม่กลับเพราะรู้ว่าถ้ากลับก็จะเกิดอะไรขึ้น..

    ..พระนเรศวรหลังจากที่นำพระธิดามาอยู่ที่แผ่นดินไทยแล้ว ก็มิได้บอกหรือกล่าวให้ใครทราบมีคนที่รู้แค่เพียงไม่กี่คนก็คือ...พระเอกา พระเถรคันฉ่อง มณีจันทร์ และทหารใกล้ชิดอีกคนที่พระนเรศวรได้ส่งมาเพื่อให้มาดูแลและมาสอนการรบ...

    ...ส่วนพระธิดานั้นเมือมาอยู่เมืองไทยก็หาได้อยู่นิ่งไหม เพราะใจนั้นก็ได้ตั้งสัจจะไว้กับพ่อว่า "จะขอรบกับพ่อ"..และก็ชอบแอบออกไปเป็นไส้ศึก..จนอยู่มาวันหนึ่งที่ถูกจับตัวได้..(แต่ทุกอย่างมีเงีือนงำ ที่เราบอก ก็คือมาจากจุดเดียวเพราะความหึงและหวง และอิจฉาและอยากได้ ของมนุษย์) และอีกจุดหนึ่งก็คือ ช่วงที่มณีจันทร์นั้นไปฟ้องกับพระนเรศวรว่า ทหารคนสนิทนั้นมาจับมือถือแขนพระธิดา และคิดชู้สาวกับพระธิดา ทำให้พระนเรศวรโกรธมาก และสั่งประหารชีวิตทหารนั้นทันที โดยที่มิฟังเหตุผลใดๆ... และนี้ก็คืออีกจุดหนึ่งที่ทำให้ พระธิดาเสียใจมาก ที่ พ่อนั้นมิฟังเหตุผลและไม่เชื่อใจในตัวของพระธิดา และพระธิดานั้นก็มิเหลือใคร เพราะทหารคนนี้เป็นคนที่พระธิดาสนิทและไว้ใจได้...

    ...จนตอนหลังที่ พระธิดานั้นถูกจับตัวและถูกกระทำ ..และก็เฝ้ารอ พ่อไปรับและไปช่วย..รอ รอ รอ..และจนสุดท้าย..พระธิดานั้นได้ตรอมใจตาย เมือตอนอายุได้ ๑๓ ขวบ...และพระธิดานั้นขอนอนรอความตายอยู่ในโลงศพ..(พร้อมกับใช้เลือดเขียนบรรยายถึงความรักและความเศร้าและเสียใจและบอกความลับมากมายให้กับผุ้เป็นผุ้พ่อได้รับรู้)...

    ...ตอนที่สำคัญก่อนที่พระธิดาจะสิ้นใจตาย ได้ตั้งสัจจะไว้ว่า ..ถ้าหากเกิดชาติหน้าหนใด ลูกจะไม่ขอกลับมาเกิดเป็นลูกสาวพ่ออีก เพราะพ่อโหดร้ายใจดำและไม่รักษาสัจจะกับลูก และพ่อก็ปกปิดตัวตนของลูก และไม่เชื่อใจลูก ท่านพ่อไม่ทำตามสัญญา ทั้งๆที่รู้ว่า ลูกนั้นมิเหลือใครเลยมีแค่ท่านพ่อคนเดียว...

    ...ส่วนตอนหลังนั้น หลังจากที่พระนเรศวรได้ทราบว่า พระธิดานั้นได้สิ้นใจตายเสียแล้วก็เศร้าและเสียใจมาก (พระเอกาก็รักหลานและสงสารหลานมาก)..และพระนเรศวรก็ได้แต่คร่ำครวญว่า พ่อขอโทษ ที่พ่อทำผิดและปิดบังตัวตนของลูก ..พ่ออยากให้ลูกอโหสิกรรมให้พ่อ และพ่อขอสัญญาว่า ถ้าหากชาติหน้าหรือภพหน้า ที่ลูกได้กลับมาเกิดบนแผ่นดินสยาม พ่อจะขอพลิกแผ่นดินตามหาลูก และพ่อจะขอทำตามสัจจะที่พ่อให้ไว้ในอดีตและพ่อก็จะไม่ปิดบังตัวตนของลูกอีกต่อไปและพ่อก็จะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่า เจ้าคือ ธิดาองค์เดียวของพ่อ และเป็นผู้ที่คอยช่วยพ่อและเป็นกำลังใจให้พ่อช่วงเวลาที่พ่อออกรบ..พ่อขออย่างเดียวขอให้ลูกอย่าได้ปิดบังตัวตนและหนีพ่อไปไหน และมาช่วยพ่อรบเหมือนดังที่เคยตั้งสัจจะไว้ให้กับพ่อเหมือนดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา...

    (พระธิดาอุทุมพรนั้นได้มอบของให้กับพระนเรศวรพกติดตัวไว้เพื่อดูแลและป้องกัน ก็คือ "พระเขี้ยวแก้ว"...ที่บางคนเรียกว่า ..."เพชรนิลดำ"..)

    ...และภพนี้ก็คือ การกลับมาอีกครั้งสำหรับ สองสิ่งก็คือ...สัจจะและอโหสิกรรม...

    ...และภพนี้พระนเรศวรก็ได้ตามหาพระธิดาอุทุมพรพบแล้ว และพระธิดาอุทุมพรนั้นก็ได้ทำตามสัจจะที่ให้ไว้ ก็คือ ช่วยรบและออกรบแทนพ่อ(แบบลับๆ)..(แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่พระธิดานั้นยังไม่ยอมรับก็คือ การเปิดตัวตนและยอมรับตัวตนและยอมอโหสิกรรม นั้นเอง)...

    ....แต่สิ่งหนึ่งที่ พระนเรศวรจะพร่ำกล่าวเสมอ...

    ...พ่อจะรอวันที่ลูกหญิงยอมอโหสิกรรม และยอมที่จะเปิดตัวตนและยอมรับตัวตนเสียที..และท่านก็จะไม่ยอมที่ ท้อและถอย ..ในการอธิฐานและศรัทธา ที่ท่านตั้งมั่นเสมอ...และท่านจะขอนั่งภาวนาให้มากกว่าเดิมเป็นสองเท่า..และท่านก็จะไม่ท้อและหมดหวังแห่งการ ..รอ ..และศรัทธา..เพราะสิ่งหนึ่งที่ท่านต้องการให้พระธิดาทำและเป็นก็คือ..."นารีขี่ม้าขาว"...(ผู้สร้างพลังแห่งศรัทธา ผุ้รวบรวมมวลชนสู่อนาคต ผุ้นำแห่งการหลุดพ้น ผู้เปลี่ยนแปลงประเทศ ล้างระบอบทุนนิยม )

    ...นารีขี่ม้าขาว..เป็นตัวแทนแห่งรากหญ้า นำประชาสู่จุดหมาย ทำหน้าที่จนวันตาย ยอมพลีกาย เพื่อบ้านเมือง..

    (ศพและโลงศพพระธิดาอุทุมพร นั้นซ่อนอยุ่ที่จ.ราชบุรี และทุกวัน ทุกเวลาพระธิดาก็ได้แต่พร่่ำและเพ้อและรอคอยหวังไว้ว่า สักวันหนึ่งพ่อจะไปรับและไปตามหาโลงศพของเธอเจอ และเธอก็รอผู้เป็นพ่อเพื่อจะไปรับเป็นเวลาล่วงเลยมาแล้วถึงสี่ร้อยกว่าปี)

    ..ปล. ตอนพระธิดาสิ้นนั้น ทั้งพระเอกาและพระนเรศวรนั้นต่างก็ตามหาศพพระธิดาไม่พบ..และทั้งสองนั้นก็ได้แต่ตั้งจิตและสัจจะไว้ว่า สักวันหนึ่งก็คงจะได้พบพระธิดา และก็ได้มีการสร้างเจดีย์ไว้องค์หนึ่ง (ที่นั้นจะเก็บของบางอย่างพระธิดาและทั้งสองก็คือพระเอกาและพระนเรศวรนั้น ได้ตั้งจิตไว้ว่า ถ้าหากวันเวลานั้นมาถึง ขอให้พระธิดาได้มาที่วัดแห่งนี้ ..นั้นก็คือ วัดวรเชษฐ์ เกาะนอก อยุธยานั้นเอง...

    ...(มันก็แค่เป็นนิทานบทหนึ่ง เป็นความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา)

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เกิดก่อนเกิด-พรแปดประการ.349475/page-3
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัว...


    มณีส่องแสง สมาชิก

    ...อดีตนั้นมิได้เป็นสิ่งที่หอมหวานกันหลอกนะ มันมีแต่ความเศร้าและทุกข์ เพราะสัจจะในอดีตมันยิ่งใหญ่และแรงกล้ามากๆ และเพื่อนรู้ไม่ว่า ..แท้จริงแล้วพระธิดานั้น อีกภพหนึ่งก็ได้ มาเกิดเป็นธิดาของพระเจ้าตาก และเป็นผู้ที่วางแผนการรบและเป็นคนที่ตั้งเสาหลักเมือง และเก็บงำความลับอีกมากมายในยุคพระเจ้าตากด้วย..(ในยุคน้ันพระธิดาถูกลูกชายของผู้ที่ขึ้นบัลลังค์ต่อจากพระเจ้าตาก ฆ่าตาย เพราะเหตุผลหลายอย่าง..เงือนงำมากมาย) .

    ...และแท้จริงแล้ว สำหรับแผ่นดินไทยนั้น ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาก็ไม่มีอะไรมากมายเลย..

    ...เป็นแค่การแย่งชิง ความเป็นใหญ่ในสองยุค ก็คือ ยุคของพระนเรศวร และ ยุคของพระเจ้าตากสิน..ต่างคนก็บอกว่า ยุคตัวเองดีและเด่นและเก่ง และก็อยากจะชนะซึ่งกันและกันนั้นอีกส่วนหนึ่ง..

    ..และกรรมอีกส่วนก็คือ ช่วงที่ ท้าวศรีสุดาจันทร์ถูกประหารได้ตั้งจิตและสาบแช่งไว้มากมาย

    ...ทั้งนี้ทั้งนั้นมนุษย์นั้นมิมีอะไรเลย นอกจาก คิดเห็นแต่ความสุขส่วนตัว และอำนาจ เงินตรา...

    ...ตะก่อนนี้พระธิดานั้นก็ได้ทำกิจหรือหน้าที่ ช่วยทางฝั่งพระเจ้าตากด้วย เพื่อปลดล๊อก คำสาปและคุณไสย์ และอะไรอีกมากมาย

    ...และก็ต้องมาช่วยฝั่งพระนเรศวร อีกในการเครียร์และแก้ จากร้ายให้กลายเป็นดี จากหนักให้กลายเป็นเบา และช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นได้เปลี่ยนจิตและใจ จากดำให้กลายเป็นขาว...

    ...เราไม่รู้หรอกนะว่า จริงแล้ว ผุ้ที่เป็นพ่อในอดีตทั้งสองเคยรับรุ้และรู้สึกบ้างไหมว่า คนที่เคยเป็นลูกสาวในอดีตและต้องกลับมาเกิดในภพนี้นั้น ต้องเหนือยและทุกข์เจ็บปวดเช่นไร ..จริงแล้ว ทุกคนและทุกฝ่ายมิมีใครผิดและถูกหรอกนะ แต่ทั้งหมดทั้งมวล เพราะทุกคนที่เกิดมาล้วนแต่มีกรรมเป็นตัวกำหนด

    ...ถ้าหากถามความรู้สึก ของผู้ที่เป็นธิดานั้น ทำใจลำบากไหม ตอบว่า "มากๆ "..เวลาที่ต้องไปพบกับฝ่ายพระเจ้าตาก ก็จะบอกว่าอย่าไปช่วยอีกฝ่ายหนึ่งนะให้หยุด ..และมาอีกฝ่ายหนึ่งพระนเรศวร (ท่านดีมาก ที่ให้ธิดาช่วยฝ่ายพระเจ้าตากสิน และช่วยปลดกรรมและช่วยเขาคนนั้นจากการถูกระทำคุณไสย์หมดเงินเยอะมาก เพราะต้องทำพิธีช่วยแก้..มากมาย)...แต่ที่พระธิดาต้องเหนือยกับฝ่ายพระนเรศวรนั้นมิใช่เรื่องอะไรเลย ก็คือ เรื่องปัจจัย ที่ทางฝั่งพระนเรศวร จนมาก (ทุกบาททุกสตางค์ในการเดินต้องออกและหาและก็เดิน และก็ทำอะไรอีกมากมายในการแก้และล้างคำสาป) และแถมถูกผู้คน ว่า ตำหนิ และกล่าวหาว่า เป็นคนที่หลอกลวงอีกมากมาย...แต่ก็ต้องทน ทน ทน

    ...และก็ได้แต่ ...อดทน อดทน และพูดกับตัวเองว่า "เราเกิดมาเพื่อมาใช้กรรม"..สักวันกรรมเราคงหมดและเราก็คงจะได้รับอิสระ

    ...และสิ่งที่พระธิดาหวัง และอยากให้ก่อเกิดโดยเร็วพลันก็คือ..."สันติภาพก่อเกิดในแผ่นดินสยาม สมเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองนั้นเอง"...(นิทานคะนิทาน)

    ...ในยุคพระเจ้าตากนั้นทางเมืองจีนได้นำทหารมาช่วยรบ จำนวนถึง ๗๐% และมิผิดหรอกนะที่อีกฝั่งจะรวยมากมาย ก็เพราะช่วงที่ทางจีนนั้นได้นำทหารและเงินมาช่วย และสร้างเมืองใหม่นั้นเอง..และอดีตคนต่างประเทศก็คือพ่อของพระธิดาอุทุมพรเหมือนกัน ในยุคนั้นพระธิดาอุทุมพรชื่อว่า (ปัทมา)...

    ...จริงแล้วยุคพระเจ้าตากนั้น ก็ดูน่าจะเจ็บใจเหมือนกันสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคนั้น เรื่องก็มีประมาณว่า...คนที่อยู่ต่างประเทศนั้น เป็นผู้คอยช่วยเหลือและเป็นเจ้าเมืองแห่งเมืองจีนและเป็นเพื่อนรักของพระเจ้าตากสินและได้นำทหารและเงินมาช่วยพระเจ้าตากสินในการทำศึกและมาสร้างเมืองหลวงใหม่ ส่วนปัทมานั้นแท้จริงเป็นลูกสาวแท้จริงของเจ้าแห่งจีน(ก็คือ คนที่อยู่ต่างประเทศ..ในอดีตปัทมา นั้น ได้เป็นผู้ที่ทำการวางแผนและบัญชาการรบและอยู่เบื้องหลังและนำทหารจีนมาช่วยพระเจ้าตากสินรบ)..และทางพระเจ้าตากนั้นรักปัทมามากและก็ได้ให้มาเป็นบุญบุญธรรม..

    ....แต่เหตุในอดีต นั้นมิมีอะไรมากก็เพราะ บางสิ่งบางอย่างก็คือ ผิดสัจจะกันนั้นเอง..และช่วงที่เจ้าแห่งจีนได้มาทวงเงินนั้น ก็มิได้กลับคืนหรอกนะ และตอนหลังนั้น ก็ได้ ถูกเผาและฆ่าตายและปล้นทรัพย์ทั้งลำเรือ..และทางเจ้าแห่งจีนที่เป็นเพื่อนของพระเจ้าตากก่อนสิ้นใจ ก็ได้ตั้งสัจจะและสาปแช่งไว้ (เพราะโกรธแค้นมาก ว่า เกิดชาติหน้าหนใด ก็จะกลับมาแก้แค้นและมาทวงทรัพย์ และแผ่นดิน(แต่จริงแล้ว เจ้าทางจีนนั้นมิได้ทำอะไรหรอกในการรบ มีแต่ลูกสาวคนเดียวที่กระทำการวางแผนทุกอย่าง)...

    ...แต่ตอนหลังที่พระเจ้าตากออกบวชนั้น ก็ได้ตั้งจิตอธิฐานไว้ว่า ทรัพย์ที่นำมาจากเพื่อนชาวจีนและที่คนจีนมาช่วยรบนั้น และถ้าหากเกิดชาติหน้าหนใดที่ คนจีนและเพือนได้กลับมาเกิดในแผ่นดินไทย ก็ขอให้ร่ำรวย และมีทรัพย์สินเงินทองกัน (สำหรับคนจีน เพื่อเป็นการตอบแทนที่ท่านมิได้คืนในยุคนั้น)...

    ...และนี้ก็เป็นจุดหนึ่งคือเหตุแห่งการ เผาบ้านเผาเมือง และการทะเลาะเบาะแว้งและเหตุต่างที่เกิดที่แผ่นดินไทย..

    ..แต่ความลับต่างๆนั้น ปัทมานั้นเป็นผุ้ที่เก็บไว้ทั้งหมด และพระเจ้าตากสินนั้นท่านยังมิได้ลงมาจูติหรอกนะ (คงมีแต่ภาคบารมีเท่านั้น ท่านก็ทำหน้าที่เปรียบเหมือนเป็นพระสยามเทวาธิราชอยู่)...

    ...สิ่งหนึ่งที่วันนี้ ที่เราขอเปิดและขอแจ้ง ก็เพราะว่า ..เรานั้นทนเห็น แผ่นดินไทย เป็นเช่นนี้มิได้อีกแล้ว เราอยากให้ทั้งสองฝ่ายได้มาบรรจบและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ...เพราะเราแค่อยากตะโกนและบอกว่า...

    ...พวกท่านรับรู้รู้ไหมว่า "แผ่นดินที่พวกคุณยืนและเหยียบย่ำกันอยู่ทุกวันนี้ เคยวิงวอนและร้องขอเรื่องใดๆ หรือไม่ แต่วันนี้เราอยากเป็นตัวแทนแห่งแผ่นดินร้องขอพวกท่านทุกผู้ทุกนามทุกฝักทุกฝ่ายว่า เราเจ็บปวดและเหนือยเหลือเกิน"

    ...และความจริงที่เราอยากจะบอกกับคนทางไกลว่า ..จริงแล้วคุณรุ้หรือไม่ว่า มีใครที่แอบช่วยคุณอย่างจริงใจและจริงแท้ (คุณรุ้ความจริงหรือไม่ว่า ถ้าหากคนคนนี้ไม่ช่วยคุณไว้ ชีวิตหรือบางอย่างของคุณนั้นก็คงมิมีวันนี้...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ต้องช่วยท่านคนทางไกล ก็เพราะอดีตที่เราเคยให้ไว้กับท่านในอดีต และในฐานะที่อดีตเราเคยเป็นลูกสาวคนเดียวของท่าน...

    ...และเราขอส่งสาสน์ถึงคนทางไกลว่า ..ในช่วงหนึ่งที่เราเคยเข้าไปหาดวงจิตของท่านและช่วยท่านเมื่อวันที่ ๗ เดือน ๒ ปี ๕๔ นั้น เราเข้าไปช่วยเพราะตัวตนของท่านถูกกระทำคุณไสย์ และประมาณว่าให้สิ้นชีวิตไปเลย (และก่อนหน้านั้นเราก็ช่วยท่านลับๆโดยการแก้และล้างและเครียร์อะไรให้มากมาย)...

    ...และตัวตนดวงจิตของท่านคนทางไกลสัญญาและตั้งสัจจะไว้ว่า..

    มีความยินดีปรีดา ชนะทั่วหน้า ทั้งมวลชน สุขมากมายมีล้นพ้น ประชาชนทั่วแผ่นดิน...

    ...นี่คือคนทางไกลให้สัจจะไว้ เราขอทวงสัจจะจากดวงจิตของท่านคนทางไกลที่อดีตเคยเป็นพ่อของเรา

    ..คนทางไกลเคยรับรู้บ้างไหมว่า จริงแท้แล้ว ใครกันที่รักและหวังดี ทั้งท่านและน้องสาวของท่านโดยแท้จริง

    ..เราจะบอกความจริงให้ก็ได้ ท่านคนทางไกลรับรู้ไว้เสียด้วยว่า มีแค่คนเดียวในโลกเท่านั้นที่เป็นผุ้ที่ประเสริญที่สุด และเป็นผู้ที่มีจิตเมตตาและเป็นผู้ที่เป็นต้นแบบแห่งการโปรดและให้อภัย

    ...วันนี้ที่เรากล้าที่จะเอ่ยหรือเผยความจริงเพราะ "ความจริงเป็นสิ่งมิตาย"...เราก็ท่านคนทางไกลนั้นอาจจะเจอกันช้าไป เพราะทางฝั่งพระนเรศวรนั้นท่านตามตัวเราเจอก่อน ทางฝั่งพระเจ้าตาก ก็เลยมิได้เจอตัวตนของพระธิดา

    ....แต่กิจและงานแรกๆนั้นที่พระธิดาได้รับ คนทางไกลรู้รหรือไม่ว่า ..ท่านทางฝั่งพระนเรศวรนั้นกลับให้ทางพระธิดานั้นหาหนทางและทำพิธีทุกอย่างเพื่อช่วยให้คนทางไกลปลอดภัยและกลับมา แต่คนที่หมดเงินและเหนือยก็คือ ลูกสาวท่านในอดีตนั้นเอง(ที่มิได้รวยเหมือนท่านแต่ ก็ต้องทำและอดทน เพื่อสักวันหนึ่ง ..ท่านจะปลอดภัยและกลับมาช่วยแผ่นดินไทยและรากหญ้าให้อยู่ดีมีสุข..

    ...ท่านคนทางไกลรู้หรือไม่ว่า อายุขัยของท่านตอนนี้นั้น เหลือแค่ อีกสองปี ก็จะสิ้นแล้ว(แต่ทุกอย่างยังพอมีเวลาแก้ไขนะคะ)...วันนี้ที่เรายอมที่จะเปิดเพราะเราทนเห็นแผ่นดินไทยเป็นเช่นนี้มิได้อีกแล้ว เพราะคนทางไกลรู้หรือไม่ว่า ภัยพิบัตินั้นก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว

    ...และเราขอวิงวอนจากใจจริง เราอยากให้คนทางไกลได้พิจารณาสักนิด และรับรู้ไว้เถอะว่า ..ผุ้ที่รักและเป็นห่วงและจริงใจต่อลูกๆทุกคน นั้นมีแค่หนึ่งเดียวในโลก ...และเราก็คงทนเห็น ท่านต้องเหนือยและทุกข์ต่อไปมิได้อีกแล้ว ..เพราะความหวังของพวกเราๆท่านๆก็คือ ก็มิต่างกันหรอกนะก็ตือยากให้คนทางไกลได้กลับมาและมาช่วย รากหญ้าและมาพัฒนา ..ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจและเงินตรานั้นเป็นของนอกกาย และคนต่างประเทศที่ท่านคนทางไกลคบหรือรู้จักอยู่นั้น เขาก็มิหวังดีและจริงใจกับท่านคนทางไกลหรอกนะ

    ...แต่คนที่รักและห่วงและหวังดี กับท่านคนทางไกลและน้องสาวของคนทางไกลอย่างแท้จริงมีแค่คนเดียวในโลก...ก็คือ "พ่อหลวง"...

    ...นี่คือความจริงที่เราอยากบอก "ฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดพระแก้วมรกตเป็นพยาน"..

    ..."เราอยากเห็นคนไทยกลับมารักและมาสามัคคีกันเหมือนอดีตดังเช่นยุคของแม่จามเทวี...และถ้าเป็นไปได้...

    ..."ถ้าหากวาจาของเราศักดิ์สิทธิ์จริง เราขอให้ทุกภาคภพ และทุกดวงจิตที่คิดผิดอยู่ ขอให้กลับใจและเปลียนจิต จากดำให้เป็นขาว และหันมารักใคร่ ปรองดอง สามัคคีกัน เพื่อสันติภาพก่อเกิดในแผ่นดินสยามโดยเร็วและฉับพลัน"...


    ...สิ่งที่เราขอและตั้งจิตอธิฐานเราขอให้เป็นจริงดังปากว่า เพื่อเป็นของขวัญให้กับ..คุณทักษิณ ...ฟ้าชาย...พระราชินี..และพ่อหลวง(ผุ้ที่มีแต่ความเมตตาและอดทนเป็นเลิศ และผู้ที่ "เกิดมาในภพนี้เพื่อมาแก้และรับกรรมที่คนไทยและหลายฝ่ายในอดีตได้กระทำมา"...

    ...หยุดเถอะนะคะ ทุกฝ่ายและทุกภาคส่วน หมดเวลาแล้วแห่งการทะเลาะและแตกแยก เพราะ สิ่งที่พวกเราจะต้องเจอะเจอกันอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็คือ ภัยพิบัติและภัยสงคราม เราหันมารักใคร่ ร่วมมือ และอโหสิกรรมกันเถอะนะ (และเราขอเป็นตัวแทน ในการอโหสกรรม สำหรับทุกผุ้ทุกนาม)...

    ...ใจเรานั้น ก็อยากเห็นพ่อหลวง(ในยุคพระนเรศวร) ได้กลับ วัง

    ...อีกใจเรานั้นก็อยากเห็นพ่อคนที่อยู่ทางไกล(ยุคพระเจ้าตาก) ได้กลับ บ้านเกิด

    ...ส่วนชิวิตและจิตวิญญาณเรานั้น ได้มอบให้กับ พื้นดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเหล่าพญามัจจุราชไปแล้ว

    ...เพื่อแลก กับ "สันติภาพ ให้ก่อเกิด ที่แผ่นดินไทย และโลกมนุษย์"...

    ...และสิ่งที่เราได้พร่ำและร้องขอ แม้นแต่ชีวิตเราก็แลกได้ ก็คือ "เราอยากให้ทั้งสองยุค คือ ยุคของพระนเรศวร และ ยุคของพระเจ้าตากสิน ได้อโหสิกรรม และมาร่วมมือและร่วมใจ สามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อ "สันติภาพก่อเกิด ในแผ่นดินสยามโดยเร็วและฉับพลัน"


    ...ลองมองและพิจารณาดูสิคะ ว่าชีวิตทั้งสองนั้นแตกต่างกันหรือไม่ ..เราคิดว่า คนต่างแดนซะอีกที่ยังมีชีวิตที่มีสุขกว่ามากมาย ที่ยัง เดินทางไปโน้นไปนี่ได้ แต่พ่อหลวงท่านมิได้ไปไหนไกลได้เลย

    ...ท่านอายุมากแล้วนะคะ และตัวเรานั้นก็มีความจริงมากมายที่อยากจะบอกกับคนทางไกล สำหรับอีกหลายๆเรื่อง..

    ..เราเป็นห่วงท่านนะคะ คนทางไกล เพราะสาสน์ที่เรารับมานั้น "ท่านจะมีอายุขัยเหลือแค่สองปี หลังจากที่ ประตุพิภพเปิด" ..และนี่ก็ยังมิสายนะคะ สำหรับสิ่งดีๆ และการแก้ไข ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

    ...ปล. เราพูดอย่างใจจริงและเราก็มีหลักฐานและพยานบุคคลที่จะเอ่ยว่า คนที่รักและหวังดีกับท่านและน้องสาวของท่านนั้นมีอยู่แค่ คนเดียวในโลกที่อดทนและยอมรับความเจ็บปวดและทนทุกข์ทุกอย่างก็คือ ....คนที่เรานั้นเรียกว่า "พ่อหลวง"

    ...ทุกอย่างเป็นกฎ เมื่อไรที่พ่อหลวงได้กลับวัง ..ท่านคนทางไกลก็จะได้กลับบ้านหรือแผ่นดินไทย แต่ถ้าหากพ่อหลวงยังมิได้กลับวัง ...คนทางไกลก็มิอาจจะกลับแผ่นดินไทยได้เหมือนกัน....

    ...ทุกสิ่งที่เราพูดมิได้กล่าวปดหรือแอบอ้างใดๆ แต่ที่เราเอ่ยมานั้นล้วนเป็นความจริงแน่แท้ มิเคยโกหกแม้นแต่เรื่องเดียว (ฟ้าดินเป็นพยาน)...

    ...เมื่อวันที่ประตุพิภพเปิดนั้น ระบบจะเปลี่ยนเป็น "ตาดีได้ตาร้ายเสีย..ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"...และมิมีใครที่จะหนี เจ้ากรรมหรือนายเวร หรือพญามัจจุราชได้พ้น เพราะตอนนี้ ได้ย้ายนรก ไว้บนโลกมนุษย์แล้ว รอแค่การประทับตรา และพิพากษาเท่านั้นเอง..

    ...คนทางไกลคะ เราอยากวิงวอนและร้องขอให้พิจารณาถึงเหตุและผล สักนิด(เรื่ององค์กรลับนั้น และฝั่งนั้นแพ้มิมีเหลือ

    ...สาสน์ที่เราได้รับนั้นชีวิตอายุขัยท่านเหลืออีกแค่ สองปีเองนะคะ(ถ้าหากไม่รีบทำการแก้ไข)

    ..แต่พ่อหลวงนั้นท่านสามารถมีอายุอยู่ได้ถึง ๑๒๐ พรรษา นะคะ

    ...เราขอถามคนทางไกลหน่อยว่า ท่านจะกล้าเสี่ยงไหม ถ้าหากความจริงออกมาเป็นเช่นนี้ แล้ว...เพราะอีกไม่นานถ้าหากมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงในปีนี้ "พ่อหลวง"ก็กลับวังได้แน่นอน และร่างกายของท่านก็จะกลับมาแข็งแรงและกลับมาเป็นหนุ่มเหมือนกับคนที่อายุ ๖๐ ปี และสามารถเดินได้ เป็นสิบๆกิโล (เพราะเราได้อธิฐานจิต ลดอายุของเราให้พ่อหลวงไป ๒๐ ปี )

    ...ส่วนคนทางไกล เราก็พร้อม ที่จะลดอายุขัยของเราให้กับท่านเหมือนกัน ถ้าหากท่านพร้อมที่จะพิจารณาและวิงวอนสำหรับสิ่งที่เราร้องขอ เพราะเรานั้นก็รักและห่วงท่าน และในโลกนี้เราก็มิเคยเห็นใครที่เก่งและฉลาดเหมือนท่านเหมือนกัน และรากหญ้าก็ยังรอท่านเพื่อให้มาช่วยอยู่นะคะคนทางไกล...

    ...ส่วนทางท่าน อภิสิทธิ์นั้น ก็มีสาสน์บอกว่าจะมีคนลอบฆ่าขอให้ช่วยหน่อย ..ผู้ที่มีพลังลึกลับนั้นก็ ได้จัดการและส่งผู้ที่ไปดูแลและปกป้องก็คือ ..มนุษย์ต่างดาว (ปีเตอร์ โดยรหัสคำว่า ออฟไลฟ์ ..คือศรัตรูพวกนั้นจะไม่เห็นตัวตนเขา..และอาจารย์ที่มาช่วยคุณอภิสิทธิ์ ในการลงจานนั้นก็คือ พ่อบุญธรรมของผู้ที่มีพลังลึกลับ

    ...ส่วนคุณเฉลิม นั้นก็ได้เข้าไปเครียร์ที่ดวงจิตให้แล้ว เปลี่ยนจากดำให้กลายเป็นขาว(อีกไม่นานทุกอย่างจะดี)

    ...และอีกหลายๆภาคส่วน และหลายๆคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกผู้ทุกนามนั้น ผู้ที่มีพลังจิต

    ลึกลับนั้นมีแต่ช่วยและมิเคยได้ทำลายเลย

    ...ส่วนบินลาดินนั้น ยังมิตายหรอกนะ และในภาคดวงจิตเขาก็ได้เปลี่ยนแล้ว และอนาคตเขาก็จะมาช่วยเหลือแผ่นดินไทยและ กลับเนื้อกลับตัว

    ...และหลายๆคนในต่างประเทศที่ถูกเปลี่ยนดวงจิตและใจ..

    (เพราะในอนาคตก็คงเป็นดังเช่นที่ กล่าวไว้ "ศาสนาจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว"นั้นเอง)

    ...เมืองหลวงแห่งใหม่ก็คือ..จ.พิจิตร

    ....ศูนย์รวมพระพุทธศาสนาทั่วโลก ก็คือ จ.ขอนแก่น(วัดป่าเขาสวนกวาง)

    ....ศูนย์แห่งบรรจุพลังแห่งความศรัทธาของคนทั่วโลก ก็คือ วัดวรเชษฐ์ (นอกเกาะที่อยุธยา) จะแทนที่ชะเวดากอง ..และก็เปรียบเหมือนชะเวดากอง

    ....ศูนย์ปฎิบัติธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกและรวมผุ้ที่จะมาปฎิบัติธรรมของคนทั้วโลก ก็คือ เกาะเสม็ด..

    ...ราชบุรี(หุปผาสวรรค์เก่า)..เป็นสถานฑูตองค์พระศรี......สถานที่รวบรวมสายอริยสงฆ์ และประวัติของพระทุกผู้ทุกนานในอดีต และห้องปฎิบัติ...เป็นสถานที่ ศูนย์กลางพระพุทธศาสนา และสันติภาพโลก...จุดลงจอดมนุษย์ต่างดาวในอนาคต...มูลนิธิองค์กรสวรรค์

    ...(เพราะแท้จริงแล้ว ไม่ว่า จะครุฑหรือยักษ์ตอนนี้ก็รวมเป็นหนึ่งเดียวและมาช่วยกันทั้งหมดแล้ว)

    ..ยุคที่ผ่านมา แต่ก่อนก็คือ..ยุคองค์กามเทพ

    ...ยุค ขอม รุ่งเรือง

    ...ยุค อดัมส์(ยักษ์) ก็คือยุคปัจจุบัน

    ...และยุคที่กำลังถึงและก่อเกิดคือ ยุคขอมทวารวดี (ยุคทอง) (ยุคศิวิไลย์)

    ...สัญลักษณ์และตัวตนที่แท้จริงเจ้าจักรพรรดิ์ก็คือ ..ดอกบัวสวรรค์

    ...ไทยเรานั้น ได้เป็นมหาอำนาจของโลก

    ...ภาษาไทยเป็นภาษาหลักของโลก

    ...เงินสกุลไทยเรานั้น เป็นเงินสกุลหลักของโลก

    ...ธรรมจักร ยุคหน้าจะมี..ดวงตาสวรรค์

    ...และหลายสิ่งหลายอย่างจะมีตรา "ดอกบัว " เป็นหลักและเป็นสัญญาลักษณ์

    ...จะมีการสร้างปิรมิทและองค์พระศรีฯประดิษฐานทั่วโลก

    ...จะมีแต่สันติภาพทั่วโลก

    ...มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทั่วโลก

    ...มีสถานปฎิบัติธรรม หนึ่งตำบลหนึ่งสถานปฎิบัติธรรม

    ...แผ่นดินไทยรวยที่สุดในโลก

    ....พระมหากษัตริย์นั้นก็จะคงอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดชั่วกาลนาน...

    ..."ดวงตาสวรรค์ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เปิดเผย"...."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"....

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เกิดก่อนเกิด-พรแปดประการ.349475/page-4
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ยุคชาววิไล ไทยมหารัฐ จักรพรรดิราช !!!


    Alphaneomatrix สมาชิก

    แล้วที่กล่าวไว้ว่า หลังจากกึ่งพุทธกาล การดูแลพระศาสนาก็จะเป็นหน้าที่ของเทวดาอีก 1,250 ปี หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของ ยักษ์ นาค ครุฑ 1,250 ปี จนกระทั่งครบ 5,000 ปี พุทธศาสนายุคนี้ก็จะหมดสิ้นไป ตอนนั้นมนุษย์เสื่อมทรามจากศีลธรรม และมีอายุเพียง 10 ปี เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เกือบสูญสิ้นมนุษยชาติ มนุษย์มีความสลดสังเวช สำนึกได้ แล้วศีลธรรมจะกลับมา มนุษย์จะมีอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอายุเกือบจะ 80,000 ปี แล้วยุคพระศรีอารย์จะมา ข้อความนี้ยังคงเป็นเช่นนี้หรือว่ามิได้เป็นเช่นนี้แล้ว พุทธศาสนายุคพระโคดมได้สิ้นสุดเพียงพุทธยันตีที่ผ่านมากระนั้นหรือ นี่แหละคือความขัดแย้งที่รอท่านมาไข

    มณีส่องแสง สมาชิก

    (เป็นนิทานและเป็นความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา)

    ..หลังจาก ที่มีการเปลี่ยนยุค หรือการล้าง(พิพากษา)..นั้นความจริงจะปรากฎ ทั้งหมด และจะมีการทำสังคยนาพระไตรปิกฎใหม่ทั้งหมด...

    ...รหัส.."เกิดก่อนเกิด"...และในยุคนี้นั้น ที่เราทราบมาก็คือ เป็นยุคแห่งการส่งไม้ต่อระหว่าง องค์สมณโคดม กับ องค์พระศรีฯ ...ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เรานั้นเล่าได้ไม่มากเท่าไร(เพราะบางครั้งมันจะขัดและทำให้หลายคนต้านและรับยาก คงรอให้วันเวลาเป็นตัวเกิดและบงบอกเองดีกว่า) แต่ที่แน่นอนและจริงแท้ นั้นมิผิดเพี้ยนเลยก็คือ..

    ..ยุค ๑๐ ยุคศิวิไลย์...

    ...และที่เราได้บอกแต่ต้นว่า "ยุคองค์สมณโคดมหมดลงไปเมื่อ งานครบรอบพุทธยันตี ๒,๖๐๐ และต่อจากนี้เป็นยุคของพระศรีฯ แล้วที่ต้องดูแลพระพุทธศาสนาต่อ จากองค์สมณโคดม..ส่วนการดูแลพระพุทธศาสนานั้น ในยุคขององค์พระศรีฯ นั้นจะมิมีการแบ่งแยกกันหรอกนะ ทุกภพภูมิและทุกภาคส่วนนั้นจะร่วมกันและช่วยกัน (สันติภาพก่อเกิดยังโลกมนุษย์และจักรวาล) และพระพุทธศาสนาของยุคพระศรีนั้นก็มีอายุอยู่ถึง ๒,๔๙๐ (เพื่อนๆลองไปบวกลบคูณหารดูนะคะ ว่าจำนวนอายุพระพุทธศาสนา ๕,๐๐๐ ปี นั้น เท่ากับตอนนี้เราอยู่ที่เวลาปีที่เท่าไรกันแน่)

    ...และอีกสิ่งที่เราทราบมาก็คือ จะมียุคนี้ยุคเดียวที่พระพุทธเจ้าได้ทำการปกครอง สามภพ (เจ้าพิภพ ) และจะมีภพนี้ภพเดียวที่พระพุทธเจ้า นั้นเป็นทั้ง.."ผู้ล้างและผู้สร้าง"...ในองค์เดียวกัน เพราะที่ผ่านมาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะมีหน้าที่และเป็นแต่ผุ้โปรดอย่างเดียว...

    ...และที่เราบอกไว้แต่ต้นว่า ยุคนี้องค์พระศรีฯท่านลงมาเครียร์ มาล้าง มาสร้าง ด้วยมือและตัวท่านเอง(และมาคัดคนและมาแบ่งหน้าที่ ในการสร้างโลกใบใหม่)..และถ้าหากหมดยุคขององค์พระศรีฯที่ ๒,๔๙๐ ..แล้ว องค์พระศรีฯ ท่านก็จะนำพา เหล่าจิตวิญญาณมนุษย์ที่ได้ปฎิบัติและหลุดพ้นเข้าสู่ความว่าง และก็นำพาไปร่วมกันสร้างบารมีต่อที่จักรวาล

    ...เพราะองค์พระศรีฯ นั้นท่านได้ถูกทำนาย และรับหน้าที่จากจักรวาล(เอกภพเรียบร้อยแล้ว) ว่าจบจากเครียร์โลกมนุษย์(ให้สู่โลกยุคศิวิไลย์ และสันติภาพทั่วโลก) แล้วก็ต้องไป ทำหน้าที่เป็น.."พระเจ้าแห่งจักรวาล" ต่ออีก..และองค์พระศรีฯก็จะไปเครียร์จักรวาล และก็นำพาให้ทุกอย่างทุกระบบดวงดาว ...เอกภพ...เข้าสู่..ระบบสูญญาตา และ ความว่าง ..เหมือนดังเช่นจุดเริ่มต้นแห่งการก่อเกิดจักรวาล...(และบางส่วนที่เขียนบอกว่า องค์พระศรีฯ ต้องมีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี และมีพระวรกายสูงใหญ่และมีวิมานนั้น นั้นคือ เป็นช่วงยุคที่องค์พระศรีฯ นั้นต้องขึ้นไปทำหน้าที่ เป็น พระเจ้าแห่งจักรวาล..นั้นเองคะ...

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เกิดก่อนเกิด-พรแปดประการ.349475/page-6

    หมายเหตุ

    ผมขอเรียนชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้อ่าน ที่เพิ่งเข้ามาอ่านในกระทู้นี้ใหม่ๆว่า พระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านจุติมาจากสวรรค์ชั้นดุสิตในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ก็เพื่อมาสืบต่ออายุของพระศาสนา ของพระสมณโคดม ให้อยู่ยืนยาวไปจนครบ 5,000 ปี ท่านมาในฐานะพระเจ้าจักรพรรดิราช ไม่ได้มาในฐานะพระพุทธเจ้านะครับ เพราะฉะนั้น พระศาสนานี้ยังเป็นศาสนาของพระสมณโคดมพระพุทธเจ้า อยู่เหมือนเดิมทุกประการ เพียงแต่เปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การอุปถัมป์ค้ำชูจากพระศรีอาริย์โพธิสัตว์(พระเจ้าจักรพรรดิ์) เท่านั้นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  14. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    มีอาจารย์มาใหม่อีกแล้วครับ
     
  15. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    แนวถนัดเขาหละ แพะชนแกะครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย คุณเกษมท่านชอบแนวแบบนี้มากมีมาให้อ่านหลายปีแล้ว คนนั้นไปคนนี้มา แกไม่สนใจอะไร เอามันส์+เสียว+ตี่นเ้ต้นอย่างเดียว เรื่องส่งเสริมให้เจริญปัญญา เนี่ยน้อยมาก.. เสียดายกระทู้ปักหมุดเขาน่าจะได้ประโยชน์กว่านี้ แกเอามาโปรโมท ไม่รู้คุณเกษมแอบชอบกลุ่มนี้เป็นส่วนตัวหรือป่าวไม่ทราบได้ จริงๆเคยเห็นข้อความเหล่านี้ในกระทู้ปรกติที่โพสก์อยู่แล้ว หลายๆกระทู้
     
  16. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,983
    ค่าพลัง:
    +1,223
    nut_20036 (14-02-2013), phirus (14-02-2013), thankyes (15-02-2013)

    ถ้ากระทู้ขาดการขัดแย้งด้วยเหตุและผลไปมาก็คงเหงา ถ้าใช้หลักเหตุและผลจะได้ประโยชน์กับทุกคนที่อ่านมากเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  17. BeforEnd

    BeforEnd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +209
    คุณ มณีส่องแสง
    ก็คงจะเป็นผู้ป่วยที่หลุดออกมาจากโรงพยาบาลศรีธัญญา
    เหมือนผู้ป่วยหลายๆคน ที่ชอบหลุดเข้ามาในเว็บพลังจิต
    เว็บพลังจิตจึงเต็มไปด้วยคนบ๊องๆ ต๊องส์ๆ จำนวนมากครับ


    หลังๆมานี่ ผมอ่านเอาฮาเฉยๆครับ
    และสิ่งที่ผมขำที่สุดตั้งแต่อ่านมาก็คือ "เสาดูดวิญญาณ" ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  18. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ที่นี้คือเว็ปพลังจิต เป็นเว็ปเรื่องความเชื่อ อภินิหาร อะไรที่อ่านเล่าตลก งง แปลกๆ
    ไม่มีเหตุผลหรือหาเหตุผลไม่เจอ ก็อ่านเอาแบบอ่านนิทานเพราะที่นี้คือ เว็ปพลังจิต
     
  19. nattaphong8

    nattaphong8 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +30
    บ้ารึป่าว
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พ่อหลวงจะทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์ดังเดิม !!!

    [​IMG]

    อ้างอิงข้อความของคุณ มณีส่องแสง:-

    พ่อหลวงนั้นท่านสามารถมีอายุอยู่ได้ถึง ๑๒๐ พรรษา นะคะ "พ่อหลวง"ก็กลับวังได้แน่นอน และร่างกายของท่านก็จะกลับมาแข็งแรงและกลับมาเป็นหนุ่มเหมือนกับคนที่อายุ ๖๐ ปี และสามารถเดินได้ เป็นสิบๆกิโล (เพราะเราได้อธิฐานจิต ลดอายุของเราให้พ่อหลวงไป ๒๐ ปี )

    ...ไทยเรานั้น ได้เป็นมหาอำนาจของโลก

    ...ภาษาไทยเป็นภาษาหลักของโลก

    ...เงินสกุลไทยเรานั้น เป็นเงินสกุลหลักของโลก

    ...ธรรมจักร ยุคหน้าจะมี..ดวงตาสวรรค์

    ...และหลายสิ่งหลายอย่างจะมีตรา "ดอกบัว " เป็นหลักและเป็นสัญญาลักษณ์

    ...จะมีการสร้างปิรมิทและองค์พระศรีฯประดิษฐานทั่วโลก

    ...จะมีแต่สันติภาพทั่วโลก

    ...มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทั่วโลก

    ...มีสถานปฎิบัติธรรม หนึ่งตำบลหนึ่งสถานปฎิบัติธรรม

    ...แผ่นดินไทยรวยที่สุดในโลก

    ....พระมหากษัตริย์นั้นก็จะคงอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดชั่วกาลนาน...

    ..."ดวงตาสวรรค์ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เปิดเผย"...."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"....

    ที่มา http://palungjit.org/threads/%E0%B9....349475/page-4
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...