วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

วานช่วย
บอกนายก
กรรมกำลังมา
เราขาดสัจจะที่จะนำ
ทำความดีให้เกิดขึ้นจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สวัสดีครับ ผมเป็นเด็กม.5 นะครับ คือผมพึ่งเริ่มจะนั่งสมาธิได้ไม่นานนะครับ ผมรู้สึกอึดอัดเหมือนจะนั่งผิดวิธีอะไรซักอย่างนะครับ แล้วตอนนี้ผมก็อยู่ในช่วงปิดเทอม ผมก็เลย นั่ง นอน เดิน สลับกับหาธรรมะอ่านนะครับ คืออยากจะใคร่ถามผุ้รู้นะครับ เวลาผมหายใจนี่ต้องให้หายใจถึงท้องไหมครับ และฐานทั้ง 3 นั้นผมควรจะต้องปล่อยให้มันรู้เองหลังจากกำหนดรู้ฐานที่1 ไปซักพักหรือว่า ต้องเริ่มมาก็ 3 ฐานเลยครับ แล้วถ้าผมทำทั้งวันนี่จะมากไปไหมครับ เพราะรู้สึกอัดอึดแปลกๆ ขอขอบพระคุณ สำหรับคำตอบล่วงหน้าเลยนะครับ ขออีกข้อนึงครับ ผู้ที่จะฝึกมโนนี่ ควรจะนั่งเองให้ได้ซักอุปจารสมาธิก่อนไหมครับ

 

หากปรานาที่จะพ้นทุกข์...มีชีวิตที่เจริญ มีความสุขในอนาคต
เราต้องใช้ชีวิตในปัจจุบัน....ด้วยความไม่ประมาท

การใช้ชีวิตด้วยความประมาท คือ...การทำตามใจ ตามนิสัยตัวเอง

นั่งสงบ คือ
นั่งให้ สติว่าง....เพื่อพิจารณาว่า...
ตัวของเรา...มี นิสัยไม่ดี อะไรบ้าง
ตัวเรา....ชอบทำอะไรให้คนอื่นเขาเดือดร้อน ทุกข์ใจบ้าง

ถ้านั่งคิด หรือ ยืนคิด...จนรู้ว่า "ตัวเรามีนิสัยอะไรไม่ดี"
ต่อไป...เราต้องค่อยๆ ขจัดนิสัยตัวนั้นให้หมดไป
เช่น เวลาโมโห แล้วคำพูดของเรา มักทำให้คนอื่นเขาเป็นทุกข์
เราก็พยายาม...ควบคุมนิสัยอารมณ์โมโหให้ได้

โดย...กำหนดเป็นหัวข้อ "สัจจะ"
ว่า..."ไม่โกรธ ไม่โมโหผู้อื่น"....กำหนด วันละ ๑ ชั่วโมง
ให้ปฏิบัติ "สัจจะ" ข้อนี้ทุกวัน...ไปเรื่อยๆ
เพียงวันละ ๑ ชั่วโมง

ขอให้ทำให้ได้จริงๆ
นิสัยเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีเอง
แล้ว "สัจจะ" ที่ทำได้...จะติดตัวเป็นบุญบารมีเราไปตลอด

ไม่มีใครอบรมตัวเรา ได้ดีเท่าตัวของเราเอง
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

--------------------
การที่นั่งสมาธิแล้วอึดอัด ทั้งท้อง ทั้งหน้าอก เพราะลมหายใจหยาบเกินไป ให้ใช้วิธีล้างลมหยาบก่อนทำสมาธิ:d

การเริ่มนั่งสมาธิ ตั้งกายให้ตรง ดำรงจิตให้มั่น แล้วล้างลมหยาบซัก 4-5 ครั้งก่อน ค่อยเริ่มภาวนาโดยใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ เช่น พุธโธ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ สัมมาอะระหัง ฯลฯ

ข้อควรระวัง อย่าบังคับลมหายใจให้เท่าคำภาวนา แต่จงภาวนาให้เหมาะสมและเป็นไปตามลมหายใจ ลมหายใจสั้นหรือยาวให้ภาวนาไปตามนั้น ลมหายใจจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่เสมอกันตลอด อย่าบังคับลม(evil2)

 

นิสัยสันดาน...ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
เปลี่ยนนิสัยได้....เปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนการกระทำได้
ก็จะหลุดพ้น...จากทุกข์ จากกรรม....รูปแบบเก่าๆ เดิม ๆ ได้
นิสัยสันดานไม่ดี...หมดไปเรื่อยๆ....ชีวิตจะดีขึ้นเรื่อยๆ
จนสุดท้าย...ก็บรรลุอรหันต์ได้จริง
หลุดพ้นได้จริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

โมทนาความดีของน้อง Xorce ที่มุ่งมั่นปฏิบัติธรรม

แนะนำให้น้องไล่อ่านความรู้ในการปฏิบัติธรรมอย่างง่ายแต่ได้ผล ตั้งแต่หน้าหนึ่งในกระทู้นี้เป็นต้นไปครับ ท่านผู้รู้ทั้งหลายท่านแนะนำไว้ดีมาก พี่เด็กอนุบาลเองก็เริ่มจากที่ทำไม่เป็นเลย อ่านแล้วนำไปปฏิบัติ ขอเพียงตั้งใจปฏิบัติตาม ในเวลาไม่นานคิดว่าน้องจะก้าวหน้าขึ้นอย่างมากได้จริงครับ

ข้อสงสัยต่างๆที่น้องถามมานั้น พี่ขอตอบเท่าที่ภูมิปัญญาจะอำนวยครับ และคำตอบส่วนใหญ่จะมีในกระทู้นี้อยู่แล้วตอนต้นๆ

1. ถ้ามีการฝึกปราณอย่างถูกต้องก่อนภาวนาอานาปานสติ ตามเนื้อหาตอนต้นๆของกระทู้นี้ จากประสบการณ์ ร่างกายจะดึงลมหายใจเข้าออกเองโดยอัตโนมัติ แทบจะไม่ต้องคิดว่าจะหายใจอย่างไร ควรให้ถึงท้องไหม เรามีหน้าที่ตามดูลมหายใจตลอดสายที่ร่างกายเค้าหายใจเอง ตามดูลมเข้าออกซักพัก จะรู้สึกว่าลมหายใจสั้นลงเรื่อยๆ เพราะจิตสงบมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งจะรู้สึกเหมือนไม่มีลมหายใจ จิตจะสว่างโพลง ลองทำให้ถึงจุดนี้ดูครับ ตรงนี้เรียกว่า ฌาน4

2. ที่น้องทำทั้งวันแล้วรู้สึกอึดอัด อาจเป็นเพราะวางอารมณ์ใจหนักไปหรือเปล่าครับ ลองทำใจสบายๆ ภาวนาไปซักพัก ถ้ารู้สึกหนักก็ลองนำสัจธรรมความไม่เที่ยงของสรรพสิ่งมาพิจารณา หรืออาจจะแผ่เมตตาความรักให้เพื่อนๆสรรพสัตว์ทุกภพภูมิก็ได้ เมื่อรู้สึกชื่นใจเบาสบายแล้วค่อยเวียนมาภาวนาต่อ

3. ถ้าวางอารมณ์ใจถูกต้องตามหลักวิชชาขั้นตอนของการฝึกมโนมยิทธิ ฝึกเลยก็ได้ครับ แต่การฝึกครั้งแรกพี่อยากให้ไปฝึกกับครูที่ท่านเปิดสอน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านซอยสายลม หรือ วัดท่าซุงก็ตาม เพื่อลดความกังวลที่อาจคิดว่าสิ่งที่ตัวเองพบเป็นอุปปาทาน ที่มักจะคิดกันถ้าฝึกคนเดียวที่บ้านโดยไม่มีครู

การวางอารมณ์ที่ถูกต้องจะทำให้เราไปสู่จุดที่เป็นอุปจารสมาธิและทำมโนฯไปพิสูจน์ความจริงต่างๆที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ได้เอง บางคนแม้ว่าจะสามารถทำสมาธิเข้าสู่ระดับฌานขั้นสูงแล้วก็ตาม แต่ถ้าคนนั้นไม่รู้วิธีวางอารมณ์ใจตามหลักวิชชาขั้นตอนที่ถูกต้องของมโนมยิทธิ ก็ไปไม่ได้เช่นกันครับ แนะนำไปศึกษาวิธีการวางอารมณ์ใจที่ www.luangpor.com

พี่ขออาราธนาบารมีรวมของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่มีมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน โปรดบันดาลให้น้อง Xorce ประสบความสำเร็จในการฝึกพระกรรมฐาน ได้ผลตามที่น้องตั้งใจไว้ทุกประการเทอญ

 

ขอบพระคุณ

ขอบพระคุณ ท่านผู้รู้ทั้งหลายที่ช่วยกันให้ความกระจ่างนะครับ ขอให้ทุกท่านมีความเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม ขอให้สำเร็จตามความปราถนาทุกทุกอย่าง ด้วยเทอญ สาธุ

 

ขอโมทนาบุญกับคุณกุ๊กกิ๊กและคุณเด็กอนุบาลในธรรมทานที่มีให้ต่อกันครับ

ขอให้น้องXorce ลองฝึกตามไปในกระทู้หน้าต้นๆก่อนครับ หากติดขัดค่อยสอบถามมา

และหากอยู่ในกรุงเทพ หากมีเวลา นัดมาได้ครับ มาลองฝึกดูกันตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับที่สูงขึ้นไปครับ

 

ช่วงนี้ห่างหายไปสักหน่อยเนื่องจากภาระกิจทางธรรมเข้ามามาก ทางโลกก็ไม่น้อยต้องขอกราบอภัยด้วยครับ

ขออนุญาตสรุปขั้นตอน เหตุและผลในการฝึกสมาธิขั้นเริ่มต้น กันอีกครั้งครับว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมแล้วจึงฝึกแล้วได้ผลเร็ว

เนื่องจากช่วงนี้มีท่านผู้มาเริ่มต้นฝึกสมาธิใหม่กันหลายๆท่านครับ

เริ่มต้นสุดได้แก่การไหว้ครู โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุดนั้นก็เพื่อให้บารมีของครูช่วยประสิทธิประสาทความสำเร็จในสมาธิให้กับตัวผู้ฝึกเอง

เงินไหว้ครูก็นำไปทำบุญอันจัดเป็นการทำทานบารมีเริ่มต้นของผู้ฝึก รวมถึงการไหว้ครูเป็นการยินยอมน้อมใจในการเคารพในคุณพระรัตนไตรอีกด้วย


การอธิฐานขอวิชชานั้นเป็นเครื่องป้องกันตัวผู้ฝึกเองไม่ให้นำวิชชาไปใช้ในทางมิจฉาทิษฐิ เพราะหากนำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะเป็นผลเสียกับตนเอง


การอธิฐานตั้งจิตมั่นในไตรสรณคมม์และ ในสัมมาทิษฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัตินั้น ก็เพื่อกัน อวิชชาที่อาจเข้าแทรกย้อมจิตเราให้กลายเป็นมิจฉาทิษฐิได้ (ขอแนะนำให้อธิฐานทุกวัน วันละหลายๆครั้ง)

พอได้ตั้งเครื่องป้องกันให้แก่ผู้ฝึกแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนในการเริ่มฝึกสมถะสมาธิให้กับผู้ฝึก

เริ่มต้นจากกองอาณาปานสติกรรมฐานก่อน เริ่มจากให้เข้าใจในการจับ ลมหนึ่งฐาน ลมสามฐาน และการรู้ลมตลอดสายในที่สุด

จุดสำคัญอยู่ที่การจับอาการของลมหายใจที่ลื่นไหลไม่ติดขัด ราบรื่นโปร่ง โล่งเบา

ครั้นพอเข้าใจผู้ฝึกทำได้อารมณ์ใจสบาย ก็เริ่มให้ฝึกการล้างลม(หายใจ)หยาบ ให้ผู้ฝึกทำตามไปจน สมควรกับดวงจิตผู้ฝึก (ที่จริงตัวรู้จะบอกว่าพอเมื่อไหร่) ผู้สอนก็ทรงจิตเข้าไปในลมสบาย(ฌานสี่)เองก่อนจากนั้น ก็ใช้กำลังสมาธิดึงจิตผู้ฝึกให้เข้าถึงอารมณ์ฌานสี่นั้นด้วย

ผู้สอนใช้เจโตดูดวงจิตของผู้ฝึก ว่าเข้าถึงฌานสาม หรือฌานสี่ได้หรือไม่ เมื่อเห็นว่าได้แล้ว ก็ให้อธิฐานวสี เพื่อให้สามารถเข้าถึงอารมณ์นี้ได้ทุกครั้งที่ต้องการ เป็นการจำอารมณ์กรรมฐานเอาไว้

เมื่อเห็นจิต(ด้วยเจโต)ของผู้ฝึกแจ่มใส ก็เริ่มสอน เมตตาอัปปันนาณฌาน จนจิตของผู้ฝึกเปี่ยมไปด้วยพรหมวิหารสี่เต็มกำลังแล้ว ก็ให้อธิฐานวสีอีก (การให้เข้าถึงเมตตาอัปปันนาณฌาน นี้พระท่านสั่งว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด หากพุทธภูมิฝึกได้ ก็จะช่วยแก้อารมณ์ใจให้เป็นพุทธภูมิสัมมาทิษฐิ และยกจิตขึ้นสู่ความเป็นพระโพธิสัตว์ได้ไม่ยาก ส่วนสาวกภูมิเจริญให้มาก ก็สามารถบรรลุธรรมด้วยเมตาเจโตวิมุติได้ไม่ยาก คนทั่วไปที่ยังไม่ปรารถนานิพพาน หากเจริญเอาไว้ ก็ยังสันติสุข ความเอื้ออาทร ไม่เบียดเบียนกันและสันติภาพให้โลกให้จักรวาลนี้ได้)

เมื่อผู้ฝึกทรงอารมณ์ในเมตตาอัปปันนาณฌานได้ตั้งมั่นดีแล้ว จิตปราณีตงดงามแล้ว ผู้สอนก็พึงให้ผู้ฝึกอธิฐานให้อภัยทานให้อโหสิกรรม อันเป็นเครื่องช่วยให้จิตของผู้ฝึกยกระดับสูงขึ้นไปอีก ลดปฏิฆะ โทสะและพยาบาท ให้คลายตัวลงไปโดยที่ผู้ฝึกไม่รู้ตัว และเริ่มรู้จักกับอารมณ์จิตที่ปล่อยวางจากความอาฆาตพยาบาททั้งหลาย ว่าเบาอิ่มเอมชุ่มเย็น

จากนั้น ให้ผู้ฝึกอธิฐานกราบอโหสิกรรมขอขมากรรมต่อพระรัตนไตรและเจ้ากรรมนายเวร เพื่อให้ดวงจิตของผู้ฝึกเบาขึ้นไปอีก และลดวิบากจากเจ้ากรรมนายเวรที่จะมาขัดขวางการปฏิบัติในขั้นสูงๆขึ้นไปอีก ทำให้ผู้ฝึกปฏิบัติได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้นอีก

จากนั้นให้ผู้ฝึกทรงอารมณ์ใจนั้นเอาไว้ เสวยธรรมปิติจากเมตตาอัปปันนาณฌานเอาไว้จนเราเห็น(ด้วยเจโต)ว่าจิตผู้ฝึกละเอียดปราณีต และระลึกรู้จักจิตเดิมแท้ของตนเองแล้ว

จึงค่อยๆให้ผู้ฝึกค่อยๆถอนจิตออกจากสมาธิช้าๆ ตามขั้นตอนการออกฌานที่ถูกต้อง(กายทิพย์ไม่กระทบกระเทือน)

จากนั้นรอดูจังหวะผู้ฝึกเผลอ ก็ให้เข้า ฌานสี่ในอารมณ์สบายเลย เพื่อดูว่าผู้ฝึกทรงได้หรือไม่ ทรงฌานสี่ทั้งที่ลืมตา โดยทั่วไป 90 เปอร์เซนต์ที่ได้สอนไปทำได้

นี่เป็นการฝึกขั้นต้นเบื้องต้น หรือมาตราฐานขั้นต่ำสำหรับยุคอภิญญาใหญ่ที่ต่อไปเรื่องนี้คนทำกันได้เป็นเรื่องเด็กๆ เรื่องปกติครับ

พอคนที่ได้ถึงจุดนี้แล้วจิตจะทรงตัวในลมสบาย(ฌานสามบ้างฌานสี่บ้าง)เป็นปกติ โดยที่เราเองไม่ต้องไปบังคับ จิตมันรวมของมันเอง ให้ลองสังเกตุดูและจะทรงอารมณ์นี้ได้ในทุกอิริยาบท จะนั่ง จะเดิน จะวิ่ง จะขับรถ ได้หมด

พอถึงจุดนี้ ก็จะสามารถต่อไปในวิชชาต่างๆได้อีกมากมาย

-กสิณสิบ
-สมาบัติแปด
-กรรมฐานสี่สิบกอง
-วิปัสนาญาณ
-มโนมยิทธิ
-อภิญญาใหญ่


สำหรับตอนนี้อภิญญาใหญ่ใกล้เปิดมากๆ แล้วครับ เลยอยากเร่งรัดให้มาฝึกพื้นฐานรองรับกันให้มากสักหน่อย ท่านที่มีบารมีพุทธภูมิเป็นครูเขาได้ ก็ช่วยกันเผยแพร่ออกไป เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมช่วยกันครับ มีวิชชาอีกมาก ที่ยังไม่ได้สอน เพราะไม่เห็นผู้ที่เข้าใจในคุณค่า เลยเก็บเอาไว้ก่อนครับ วิชชาเหล่านี้ ผู้เรียนจะก้าวหน้าได้ ส่วนหนึ่งมาจากจิตที่มุ่งมั่น และพลังแห่งการเรียนรู้ครับ

สมัยผมเก็บวิชชาเหล่านี้จากครูบาท่านต่างๆ ผมต้องบากบั่นไปพบไปขอเรียนเอง เทียวไปเทียวมาหลายครั้ง เข้าป่า อยู่ตามถ้ำตามภูเขาเพื่อฝึกวิชชา เจอผี เจอช้าง เจอเสือ เอาชีวิตเข้าแลกกว่าจะได้มา หืดขึ้นคอ

สมัยนี้ ได้กันง่ายๆแทบจะป้อนให้ เพราะพระท่านสั่งมาให้เผยแพร่เพื่อการเตรียมอภิญญาใหญ่ที่กำลังลงมา พอคนทางนี้กำลังใจได้ยกขึ้นก็สอดรับกันพอดี ที่หลวงพ่อท่านเรียกว่า "อภิญญาสาธารณะ" นั้นก็เพราะคนจะทำได้กันมาก ก็เพราะท่านจัดมาให้มีการฝึกที่กลายเป็นง่าย ประกอบกับบุพเพกตบุญตา บารมีเก่าในกาลก่อนของแต่ละท่านแต่ละบุคคลเองที่บารมีสูงเพียงพอแล้ว "แต่" ก็ไม่ใช่ทุกๆคนที่ทำได้ ไม่ใช่ทุกๆคนที่จะได้อภิญญาใหญ่


ดังนั้นเร่งความเพียรเข้าเถิด

ขอความเพียร ธรรมฉันทะความพอใจในธรรม รวมตัวเป็นอิทธิบาทสี่ในดวงจิตของผู้ใฝ่ในธรรมทุกๆท่านด้วยเทอญ

 

ถ้าสนใจแนวทางปฏิบัติของหลวงปู่ดู่ ก็เวปนี้เลยครับ มีแจกพระเพื่อช่วยทำสมาธิด้วยครับ
http://watthummuangna.com/board/index.php

 

เรียนถามท่านผู้รู้ทั้งหลาย ผมได้ศึกษาขั้นตอนการฝึกทั้งหมดแล้วครับ แต่พอปฏิบัติจริง กลับรู้สึกว่าไม่มีสติพอที่จะตามรู้ลมหายใจได้ทัน แล้วพอทันเข้าจริงๆลมหายใจก็เหมือนถูกบังคับ ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ ผมได้ลองล้างลมหายใจหยาบดูแล้วครับ แต่ไม่น่าจะมาจากลมหายใจหยาบครับ แค่ตามรู้ลมหายใจโดยไม่บริกรรมก็ยังไม่ดีเลยครับ มีผู้รู้ท่านไหนทราบสาเหตุและวิธีการแก้ไขได้โปรดชี้แนะด้วยครับ เสริมอีกนิดนึงครับ ปัจจุบันผมพยายามใช้ชีวิต อย่างสงบที่สุดคือจะไม่ฟัง เพลง ดูทีวี อะไรอย่างนี้ ทำให้จิตใจคลายความฟุ้งซ่านไปได้บ้างแต่ยังติดตรงหลักการทำสมาธิให้ถูกวิธี มีอีกคำถามนึงครับ ผมควรที่จะเจริญสติตามแนวสติปัฏฐานสูตรก่อนที่จะทำสมถะไหมครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

 

อนุโมทนากับคุณเล็กด้วยครับ ขอมหากุศลนี้จนส่งผลขับเคลื่อนให้ณานญานของคุณเล็กจงเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

*** สูตรรอดพ้น หลุดพ้น ****

" เมตตา และ สัจจะ "

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เรียนถามท่านผู้รู้ทั้งหลาย ผมได้ศึกษาขั้นตอนการฝึกทั้งหมดแล้วครับ แต่พอปฏิบัติจริง กลับรู้สึกว่าไม่มีสติพอที่จะตามรู้ลมหายใจได้ทัน แล้วพอทันเข้าจริงๆลมหายใจก็เหมือนถูกบังคับ ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ ผมได้ลองล้างลมหายใจหยาบดูแล้วครับ แต่ไม่น่าจะมาจากลมหายใจหยาบครับ แค่ตามรู้ลมหายใจโดยไม่บริกรรมก็ยังไม่ดีเลยครับ มีผู้รู้ท่านไหนทราบสาเหตุและวิธีการแก้ไขได้โปรดชี้แนะด้วยครับ เสริมอีกนิดนึงครับ ปัจจุบันผมพยายามใช้ชีวิต อย่างสงบที่สุดคือจะไม่ฟัง เพลง ดูทีวี อะไรอย่างนี้ ทำให้จิตใจคลายความฟุ้งซ่านไปได้บ้างแต่ยังติดตรงหลักการทำสมาธิให้ถูกวิธี มีอีกคำถามนึงครับ ผมควรที่จะเจริญสติตามแนวสติปัฏฐานสูตรก่อนที่จะทำสมถะไหมครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

-----------------------------------------------------------------------
ขออนุญาตตอบครับ

ที่ยังจับลมไม่ได้เนื่องจากยังวางอารมณ์ใจหนักไปนิดหนึ่งครับ พอวางอารมณ์ใจหนักไปจะเกิดอารมณ์บีบ กด โดยไม่รู้สึกตัวทำให้ลมหายใจติดขัด ไม่ลื่นไหลสมำเสมอ ต้องแก้ที่อารมณ์ใจของผู้ฝึกก่อนครับ

จากนั้นจึงมาปรับการจับลมตามขั้นตอน จนรู้ลมตลอดสาย

หากเป็นไปได้มาฝึกด้วยกันได้ครับ นัดมา

อันที่จริงอาณาปานสติ ก็เป็นสติปัฐฐานสี่อยู่แล้วครับ เป็นกรรมฐานกองบังคับที่ใช้ต่อไปในกรรมฐานทุกๆกองครับ

การที่เราตั้งใจไม่ดูทีวี ไม่ฟังวิทยุนั้นเป็นความตั้งใจความมุ่งมั่นที่ดีอยู่แล้วครับ ให้ดูเรื่องทางสายกลางประกอบไปด้วย หากใจเราสบาย สงบ ปลอดโดปร่งปิติสุข นับว่าใช้ได้ครับ ดังนั้นลองปรับจิตให้เบาๆ สบายๆก่อนครับ แล้วสังเกตุลมหายใจของเราดูว่า เนียนขึ้น นิ่งขึ้นไหม

 

ขอบคุณมากครับ จะลองไปลดอารมณ์ดูนะครับ แล้วจะมารายงานผลอีกทีนึงนะครับ มีอีกคำถาม 1 ครับ หากภัยพิบัติเกิดขึ้น วัดวาอารามจะมีความปลอดภัยไหมครับ เพราะบริเวณบ้านของผมมีวัดอยู่ไม่ไกลนักนะครับ ในโอกาสนี้ ขออวยพรให้กิจกรรมของเว็บพลังจิตมีความราบรื่น สำเร็จตามความปราถนาทุกประการนะครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=images/brkn_red_midtop.gif>ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2550

<!----></TD><TD width=8></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=1 bgColor=#000000></TD><TD bgColor=#dddddd><!-- CONTENT --><TABLE height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="85%">
<!--<TABLE width=501 cellpadding=0 cellspacing=0 align=center border=0>--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><!--<TD width=1 bgcolor="#000000"></TD>--><TD width=468 bgColor=#dddddd>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>เลกีมา ขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ ทำให้มีฝนตกหนักอีสานตอนบน </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>15:28 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ฉบับที่ 16 เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ พายุโซนร้อนเลกีมา ในอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดนครพนม ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในคืนวันนี้ และจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประเทศไทย โดยเริ่มทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเลย นครพนม หนองคาย สกลนคร อุดรธานี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ ยโสธร และอุบลราชธานี ส่วนจังหวัดอื่นๆ และภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป โดยพายุนี้จะทำให้มีฝนชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดที่กล่าวมา ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและลมแรงในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับพื้นที่รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก และชายฝั่งภาคตะวันออก ยังคงต้องระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากต่อไปอีก ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ขอให้เพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือ เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 3-4 ตุลาคมไว้ด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมขออณุญาติพี่คณานันท์ขอแนะนำน้อง Xorce นิดนึงนะครับ เรื่องวางกำลังใจเอาไว้หนักเกินไปนั้น ผมเองก็เคยเป็นมาก่อนเหมือนกันครับ ซึ่งก็แก้ด้วยการ กำหนดจิตนึกเห็นว่าตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศ หรือบรรยากาศที่สบายๆ ตัดความกังวลในเรื่องทางโลกออกไปทั้งหมด บางครั้งก็นึกว่าตัวเองกำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเล ท่ามกลางฝูงปลาน้อยใหญ่ มีปะการังสวยๆล้อมรอบ น้ำกำลังอุ่นสบาย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจมากๆ พออารมณ์สบายแล้วก็มาดูลม ก็ปรากฏว่าลมกลายเป็นลมละเอียดลมสบายไปเรียบร้อยแล้วครับ อันนี้เป็นทริคเล็กน้อยครับ น้องXorce อาจลองเอาไปประยุกต์กับตัวเองดูนะครับ ชอบสถานที่ไหนก็ลองนึกดู แต่ที่อโคจรนี่ไม่เอานะครับ เมื่อชินกับอารมณ์สบายๆ และจับลมสบายได้บ่อยและนานยิ่งขึ้น เวลาเจริญกรรมฐามก็จะคล่องขึ้น จิตจะจดจำอารมณ์สบายได้ และไม่ต้องใช้อุบายแบบนี้อีกครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการเจริญพระกรรมฐาน คือวิปัสนาอันนี้คือตัวปัญญา หากเน้นแต่ฝึกสมาธิโดยไม่น้อมจิตมาพิจารณา ให้เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง ตามกฏไตรลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วครูบาอาจารย์ท่านว่าฝึกไปให้ตายก็ยังโง่อยู่ครับ หมั่นศึกษาพระธรรมคำสอน และฝึกคิดพิจารณาให้รอบคอบแยบคายอย่างสม่ำเสมอนะครับ วางกำลังใจสบายๆกลางๆ เพื่อนของพี่เค้าฟังเพลงร๊อค เล่นดนตรีมีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย แต่ก้าวหน้าไปมากๆ อธิฐานฤทธิ์ทำให้ฝนตกครั้งใหญ่ในเมืองที่แล้งจากฝนมานานเกือบร้อยปี จนเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ก็ลองคิดดูนะครับว่าเราวางกำลังใจแบบไหนจึงควร เราปฏิบัติเพื่อละบาปอกุศลทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เสมอ แค่นี้หล่ะครับหัวใจพระพุทธศาสนา

ขอกราบอนุโมทนาด้วยครับขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปเป็นร้อยเท่าพันทวี วางใจเป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติตลอดไปครับผม...