นั่งสมาธิรู้สึกนิ่งขึ้นและปวดหน้าผากครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย aegmanmu, 13 ตุลาคม 2012.

  1. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ผมเคยเป็นปัญหาตรงตัวเลย วิธิแก้ง่ายๆ

    สรุป เวลานั่งสมาธิ นาย เพ่งไปข้างหน้า พอเพ่งไปข้างหน้า ตาเราจะเกร็งจุดเดียว
    วิธีแก้ อย่าเพ่งจุดเดียว ทำแบบผม เพ่งตรงหน้าอกลดการเกร็งของตา หรือไม่ก็ตรงท้อง
    รับลองหายแน่ สาธุครับ
     
  2. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    อย่างที่คุณบอกถูก แต่สิ่งที่เกิดมันคืออะไรล่ะ เราจะนำมันมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรตรงนี้ซิสำคัญ...จริงไหม
     
  3. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ยังไม่ค่อยเก็ดคำถามเท่าไหรครับ


    ไม่รู้ว่าจะเอามาทำประโยชน์ไรได้ เพราะมันเป็น เรื่องของสังขาล ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้น
    ผมคิดว่าเพ่งไงอย่างที่บอกโทษทีครับ ไม่เก็ดทำถามเท่าไหร
     
  4. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ขอบคุณมากครับ
     
  5. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    ผมหมายถึง บริเวณที่ปวดหน้าผากเหมือนมีก้อนกลมๆอยู่ที่กึ่งกลางหว่างคิ้ว ตรงนั้นแหละเราจะนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร
     
  6. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    เพ่งไม่เพ่งยังไมารู้เลย ท่านทำสมาธิ แบบไหน

    ผมจะบอกไรให้นะ ท่านลองฟังท่าน 'อินทรบุตร' เขาพูดเข้าใจง่ายสั่นๆ

    หลายท่านช้วยตอบ ก็อนุโมทนานะครับ ตอบดีมีประโยนช์ทุกท่านครับ

    แต่ท่าน'อินทรบุตร' ตรงจุดเข้าใจง่ายสำหรับผม อนุโมทนาครับ
     
  7. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ผมอ่านดูก็ยังไม่รู้ว่าคุณปฏิบัติแบบใด
    เพ่งก็เป็นฌาน ฌานก็คือการเพ่ง
    ผมเองก็เพ่งฌาน แต่จุดที่ผมเพ่งเป็นจุดมโนทวารอยู่ระหว่างลูกนัยตาทั้งสองข้าง
    หลวงปู่สาวกโลกอุดรท่านสอนว่าอย่าเพ่งขึ้นสูงกว่าจุดมโนทวาร ยิ่งจุดหัวคิ้วและหน้าผากห้ามเพ่งเด็ดขาด เพราะจะมีเส้นประสาทมาก อาจทำให้เสียสติได้
    ที่จุดที่ผมเพ่งก็มึนงงปวดหัวเช่นเดียวกันแต่จะไม่เป็นอันตรายจนเสียสติครับ
    คุณปฏิบัติแแบบใดครับ
     
  8. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    ผมบอกก่อนนะครับว่าผมยังไม่เก่ง

    แต่การทำสมาธิก็แค่รู้ระดับนึง อาการหน่วงผมก็เคยเป็นไม่อยู่ในสมาธิก็เป็นครับ

    ที่นี้การทำสมาธินี้ นอกจากดูลมหายใจแล้ว เรายังต้องเพ่งกำหนด จุดใดจุดหนึ่ง เพื่อ

    ให้ได้กำลัง'ฌาน' (ตรงนี้ยังไม่พูดถึงฌานนะครับ) ระหว่างที่นั้งดู ลม กับ เพ่ง นี้ ทุกคน

    จะได้เห็น แสง สี เสียง หรือ อาการต่างๆนาๆ ดังนั้นท่านต้องเข้าใจก่อน 'เพ่ง กับ เกร็ง' มันคนละอย่าง

    ทีนี้อาการที่มันเป็น ไม่ได้เป็นแค่ท่านคนเดียว หลายคนก็เคยเป็น ถ้าอยากหายมีทางเดียว 'คือไม่สนใจ'

    ทุกอย่างที่เจอคือรับรู้ จากนั้นก็กลับไปที่ลมหายใจ แต่ถ้าท่านยังจับจุด หรือ เพ่ง ยังไม่เป็น

    ให้ท่านดูลมอย่างเดียว อย่าสนใจอย่างอื่นนะครับ

    ผมแนะนำได้แค่นี้ครับ อนุโมทนาครับ
     
  9. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    อาการที่เกิดขึ้นกับคุณเป็นสิ่งที่ดี ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีไปกว่าผมได้
    เพราะอะไรรึ ผมมีคำตอบให้เพราะผมเองก็เป็นแบบคุณตั้งแต่เริ่มปฏิบัติจนเดี๋ยวนี้ผ่านไป 1 ปี 10 เดือน จนสามารถล่วงรู้ในหลายๆอย่าง ซึ่งทั้งเกิดจากครูบาอาจารย์เป็นคนบอก และเกิดจากประสบการณ์ในการปฏิบัติของผมเอง อาการหน่วงๆที่หน้าผากนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ พูดง่ายๆก็คือ ตอนนี้คุณสามารถสร้างเครื่องรางของขลังเองได้แล้ว สามารถดูดพลัง และบุญบารมีได้ สามารถถ่ายเทพลังและบุญบารมีได้อีกด้วย ทำได้อย่างไรผมจะบอกคุณใน PM ล่ะกันนะครับ(ถ้าคุณสนใจ) แล้วคุณจะรู้ด้วยตนเองว่าสิ่งที่ผมกล่าวมานี้ คือเรื่องจริงที่คุณสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง เพียงแค่ผมแนะนำคุณเล็กๆน้อยเท่านั้น เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านี้ในสายผม(กสิณ)มีมากมาย ซึ่งทำให้ผู้ปฏิบัติสายนี้ไม่สามารถไปถึงได้เพราะความไม่รู้และไม่เข้าใจเรื่องกสิณในหลายอย่าง...หวัดดี
     
  10. Thumma117

    Thumma117 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2013
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +89
    ผมก้อ เป็นแบบคุณนะ เป็นตั้งแต่ อายุ ประมาน 25 เป็นมา 8ปี
    จะเป็นก้อ ตอนสวดมนต์ หรือ สวดคาถา อะไร ทำนองนี้ ...

    เป็นเฉพาะตอนที่ผ่อนคลายนะ แบบว่า ยิ่งจิตว่างๆ มีสมาธิ สวดมนต์หรือ สวด คาถาเนี่ยยมันจะเป็น .. เป็นมันเป็นความรู้สึกที่ดีนะ ไม่ได้น่ารำคาญอะไร เหมือนจะเป็นเลือดมาเลี้ยงสมองส่วนหน้าผาก ตอนมีสมาธิ

    แต่ผมเป้นคนนั่งสมาธิไม่ได้ นานน นั่งหลับตา ท่องพุทธ-โท ไม่ได้ง่วงตลอด

    พอมาฝึกกสิญ ก้อเป็นนะ ส่วนใหญ่ จะเป็นทั้งวัน จู่ๆอารการนี้ก้อเด้ง ขึ้นนมา หน่วงๆหน้าผากตลอด วันน
     
  11. bombybamby

    bombybamby Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +46
    ผมก็เป็นนะตั้งแต่เริ่มนั่งเลย ตอนแรกประสาทจะกิน ตอนหลังๆเลยช่างแม่งมัน
    แต่ก็ไม่ได้ปวดหัวอะไร เหมือนชีพจรตุบๆ กำหนดเลื่อนไปมาได้บ้าง มีนู่นนี่แปลกๆบ้าง แต่ขี้เกียจไปยุ่งแล้วไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา
     
  12. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ตรงนี้อย่างมากก็เป็นนิมิตครับไม่ต้องไปสนใจครับ บางทีอาจเป็นผึ้งหรือแมลงอะไรบินมาจริงๆก็ได้
    นิมิตสามารถเกิดได้ทุกทวาร ไม่ว่าจะเป็นทางตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ
    เจริญในธรรมครับ
     
  13. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    หากยังไม่หายให้ลองเพ่งฌานไปเลยครับ
    ให้เพ่งที่จุดดั้งหักหรือระหว่างลูกนัยตาทั้งสองข้าง ไม่ต้องกำหนดอะไร รักษาสติที่จุดเพ่งเพียงอย่างเดียว
    จุดแดงตามภาพด้านล่างเป็นจุดเพ่งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2013
  14. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    คุณภาวนาอยู่กับคำภาวนา อย่าได้ทิ้งภาวนา ภาวนาไปเรื่อยๆ

    ถ้าทำอาณาปานุสติกรรมฐานก็อย่างได้ทิ้งลมหายใจ

    ทำจนกว่ามันจะหายไปของมันเอง

    อาการทางกายหรือปิติที่เกิดไม่ควรไปเพ่งหรือสนใจกับมันมาก ผมก็เป็น พอไปสนใจอย่างอื่น ใจมันก็หลุดจากกองกรรมฐาน เป็นฟุ้งซ่านไปซะมากกว่า
     
  15. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    มีแต่คำถามรบกวนจิตสมาธิระหว่างนั่ง แล้วสมาธิมันจะไปถึงไหน...เวรกรรม
     
  16. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    การปฏิบัติของคุณเป็นจุดเริ่มขององค์ฌาน ลักษณะลูกข่างที่หมุนจุดดั้งหักอย่างนี้เรียกว่าบารมีฌาน
    การปฏิบัติฌานนี้เป็นลักษณะทุกข์แก้ทุกข์
    ยิ่งปฏิบัติก็จะเห็นทุกข์เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ทุกข์ตัวเก่าก็จะดับหายไปเรื่อยๆ
    แรกๆเป็นทุกข์ทางกาย สุดท้ายทุกข์ทางกายก็จะดับหายไปทั้งหมด
    ต่อไปก็จะเป็นทุกข์ทางใจ หากทุกข์ทางใจดับไปหมดอีกละก็
    คุณจะกลายเป็นพระอริยบุคคลในระดับใด ระดับหนึ่งครับ
    เจริญในธรรมครับ
     
  17. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ตรงนี้เป็นการปรับธาตุทางกายไม่มีอะไรครับ ไม่ต้องสนใจครับ
    การปรับธาตุจะมีในปรกติการปฏิบัติฌาน ส่วนการปฏิบัติแบบอื่นๆนั้นผมไม่เห็นมีนะ การปรับธาตุจะหมดไปเมื่อปฏิบัติผ่านขั้นรูปฌาน คือฌานที่ ๔ ครับ
    เจริญในธรรมครับ
     
  18. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    สภาวะทางกายมีหลายอย่าง ทางที่ดีคุณเลิกไปสนใจเถอะครับ มุ่งไปสู่วิธีปฏิบัติเพียงอย่างเดียว
    การปฏิบัติก็เป็นการเดินทางเพื่อให้ไปถึงจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดหมาย
    ระหว่างการเดินทางก็ต้องผ่านที่ต่างๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าคุณมัวแต่ไปดูไปสนใจที่จะผ่าน แล้วเมื่อไรจะผ่านไปได้ แล้วเมื่อไรจะได้ไปถึงจุดหมายเสียทีละครับ
    เปรียบเป็นว่าคุณขับรถจากกรุงเทพจะไปโคราช พอขับไปถึงดอนเมืองก็จอดดูเครื่องบินก่อน ถึงรังสิตก็ขึ้นห้างฟิวเจอร์ปาร์คก่อน ถึงตลาดไทยก็แวะดูสินค้าก่อน ฯลฯ คนทั่วไปจะใช้เวลาเดินทางสัก ๑ ชั่วโมง คุณอาจต้องใช้เวลาเดินทางซัก ๑ อาทิตย์
    เจริญในธรรมครับ
     
  19. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    เพราะคุณเคยโดนกระทำมาคุณจึงยังระแวงอยู่ใช่ไหมคะ บางครั้งสาเหตุที่ทำให้เราปฏิบัติได้ไม่ก้าวหน้าก็เพราะเรายังระแวงอยู่ ดิฉันเคยผ่านประสบการณ์นี้มาก่อน ปฏิบัติแบบมัวแต่พะวักพะวน วกวนไปมาอยู่อย่างนั้นแหล่ะ พอเจออาการอะไรนิดๆหน่อยๆก็หยุดเพราะระแวง จนบางครั้งรู้สึกสมเพชตัวเองอีกต่างหาก แต่นับเป็นบุญวาสนาที่มีโอกาสได้พบเจอท่านที่สามารถช่วยชี้แนะแนวทางการฝึกให้ โดยให้มีสติและให้อยู่กับความรู้สึกตัว แต่จะว่าไปแล้ว หากพิจารณาให้ดีๆจะเห็นว่า ประสบการณ์ที่เราเคยโดนกระทำมานี่แหล่ะเป็นอาจารย์เคยสอนเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ต่อสู้กับผี ต่อสู้กับความกลัว แต่ที่ยังกลัวเพราะขาดสติ
     
  20. tinnakorn1978

    tinnakorn1978 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +28
    ขออนุญาติแนะนำสักนิดนะครับ ตามความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติมา หากไม่ตรงกับใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้
    กระผมได้อ่านกระทู้เก่าๆที่คุณเขียนไว้ ว่าเริ่มด้วยการอาศัยดูลมหายใจ และภาวนา พุท โธ
    ไม่รู้ว่า ณ ปัจจุบัน ยังทำอยู่หรือเปล่า กรรมฐานนั้นมีหลายกอง แต่สำหรับผม ที่ให้ผลมากที่สุดมีอยู่ 2 กองด้วยกันครับ คือ อานาปานสติ เอาสติระลึกรู้ที่ลมหายใจ ยาว สั้น ผ่านจุดไหน ไม่หวั่นไหวกับอาการทางกายอย่างอื่น มีสติรู้อยู่เฉพาะลมหายใจเท่านั้นพอ จะมีนิมิตหรือไม่นั้น ผมไม่ได้สนใจหรือใส่ใจกับมัน ก็แค่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ หายไป เป็นธรรมดาไม่ต้องสนใจมันมากครับ กรรมฐานอันนี้ดีมาก สมาธิที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ได้นาน ส่วน พุทธานุสสติ (พุท-โธ นั่นละ) อันนี้เป็นอีกกอง ได้บุญมากเพราะเป็นการระลึกถึง พระพุทธองค์ หากทำอานาปานสติได้ อันนี้ยิ่งง่ายใหญ่เลย เพราะอาณาปานสตินั้น กองใหญ่สุดแล้ว ทำไปด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา สมาธิที่ได้นั้นจะตั้งอยู่ได้นานเช่นกัน เมื่อจิตตั้งมั่นอยู่ในสมาธิจนเป็นที่พออกพอใจแล้ว ก็ค่อยถอนจิตออกมาอยู่ในอุปจาระ แล้วก็มาพิจารณาธรรมต่อไป หากเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนก็ขออภัยด้วย หากยังเจริญกรรมฐานสองกองนี้อยู่ก็ขออนุโมทนา หากเลิกไปเสียแล้ว ก็ขอให้กลับมาใหม่ อย่าได้ละทิ้ง เจริญในธรรมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...