เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 16 มีนาคม 2012.

  1. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wBxhmYDb7jLxYmeX" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/a8b/BiElby.JPG" /></a>
     
  2. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wBxizM94WNBR4YEe" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/875/RyuiSS.JPG" /></a>
     
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    มีเพื่่อนๆบางท่าน อยากให้ผมนำภาพพระกสิณสวยๆไปลงเป็นความรู้กับคนอื่นๆในกระทู้เรื่องเล่าเทิดพระคุณหลวงปู่พิศดู ธัมมจารีในห้องเรื่องเล่าประสบการณ์ที่คุณทุเรียนทอดได้มาบันทึกไว้ ซึ่งผมคิดว่าอาจจะทำให้คนมองไปอีกอย่างหนึ่งว่านำไปโชว์เรียกคนหรือแอบแฝงเจตนาเพราะมาเปิดกระทู้แบ่งบูชาวัตถุมงคลของท่านในห้องวัตถุมงคลอยู่ขณะนี้ จึงไม่ขอไปทำให้กระทู้ดีๆของหลวงปู่ต้องถูกบางท่านมองไปในทางไม่ดี เจ้าของกระทู้เองก็เป็นศิษย์ท่านและเจตนาดีมากทั้งยังแนะนำต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียมและไม่แอบแฝงขายใครเลย แต่ผมไม่สงวนสิทธิ์หากใครจะนำภาพที่อยู่ในห้องวัตถุมงคลกระทู้นี้ไปลงไว้ด้วยตัวเอง เพราะวัตถุมงคลที่ลงอยู่ในกระทู้นี้ถูกแบ่งมาจากศิษย์ดั้งเดิมของท่านทั้งหมด สามารถใช้ศึกษาเป็นข้อมูลพื้นฐานได้อย่างดี
     
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    ความคล้ายคลึงขององค์หลวงปู่พิศดู กับท่านเข้าคุณนรฯ
    องค์หลวงปู่ท่านชื่นชม และนับถือท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ หลวงปู่ท่านบอกว่า.. " เรากับเจ้าคุณนรฯ เป็นสายเดียวกัน " และทุกครั้งที่มีคนกล่าวถึงเจ้าคุณนรฯ หลวงปู่จะชอบมาก ถ้าเราลองมองตามความจริง สำหรับการเกี่ยวพันแบบทางโลกและทางธรรม องค์หลวงปู่พิศกับท่านเจ้าคุณนรฯก็จะมีหลายอย่างคล้ายๆกัน เช่น

    เจ้าคุณนรฯ ชื่อเดิม ตรึก แปลว่า คิด , พิจจารณา
    หลวงปู่พิศดู ชื่อเดิม พิศ แปลว่า คิด , พิจารณา , เพ่ง

    เจ้าคุณนรฯ ฉายา ธัมมะวิตักโก แปลว่า ผู้ตรึกธรรม
    หลวงปู่พิศดู ฉายา ธัมมะจารี แปลว่า ผู้ประพฤติธรรม

    เจ้าคุณนรฯ เกิด วันเสาร์ แรกของเดือน กุมภาพันธ์
    หลวงปู่พิศดู ก็เกิด วันเสาร์ แรกของเดือน กุมภาพันธ์

    เจ้าคุณนรฯ อยู่ วัด เทพศิรินทร์
    หลวงปู่พิศดู อยู่ วัด เทพธารทอง

    สีประจำวัดเทพศิรินทร์ สีเขียว ,สีเหลือง
    สีประจำวัดเทพธารทอง สีเขียว , สีทอง

    จริตของเจ้าคุณนรฯ พระปัจเจกภูมิ เดิม
    จริตของหลวงปู่พิศดู พระปัจเจกภูมิ เดิม

    แม้แต่นิสัยหลายๆอย่างก็มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก เช่นนิสัย การศึกษา การอ่าน การเขียน การจด การจำ หรือแม้แต่ความรักสันโดษไม่ยินดีในลาภสักการะ หรือคลุกคลีในหมู่คณะ วันทั้งวันจะอยู่แต่ที่กุฏิสวดมนต์ภาวนา และไม่ค่อยออกจากวัด แต่หากมีใครมาหาก็จะเมตตาทุกคนเสมอ แม้แต่การบรรลุธรรมของท่านทั้งสองก็คล้ายคลึงกัน คือจะหาทางหลุดพ้นด้วยองค์ท่านเอง ไม่ได้มีครูบาอาจารย์คอยตามคุมจิต ไม่มีใครคอยแนะนำบอกสอนความถูก ผิด ในเรื่องการปฏิบัติ ท่านจะศึกษาของท่านเองคนเดียว ลองผิด ลองถูกเองมาแทบทุกอย่าง อย่างที่เรียกว่า นิสัยปัจเจก คือ เฉพาะตนจริงๆ นี่ถ้าไม่ได้มีบารมีธรรมอันแก่กล้าจริงๆแล้ว ไม่มีทางสำเร็จคุณธรรมสูงสุดได้แน่นอน แต่นั่นแหละพอสำเร็จมรรคผลแล้ว จึงทำให้ท่านได้มีภูมิธรรมที่สูงส่ง ยิ่งใหญ่อลังการเป็นพิเศษด้วยประการทั้งปวง.. (ขอบคุณกระทู้เรื่องเล่าหลวงปู่พิศดู)
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    พูดถึงแล้วก็คิดถึงองค์หลวงปู่ท่านครับ ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ดี(ใจ)มากๆ ไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้กับครูบาอาจารย์องค์ใด(รู้สึกส่วนตัว) ยิ่งเวลาเจอเรื่องแปลกๆ ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นเป็นทวีคูณครับ รู้สึกตั้งแต่แรกพบเลยว่า หลวงปู่องค์นี้ไม่ใช่พระธรรมดาแน่นอน พออยู่คลุกคลีกับองค์ท่านเรื่อยๆยิ่งมั่นใจแบบหายสงสัยถึงความเป็นพระอริยะ อรหันต์ ขนาดไม่ได้โชว์ ไม่ได้อวด ท่านบอกว่าบางที(ฤทธิ์)มันก็ออกมาเอง และ องค์หลวงปู่พิศดูท่านจัดเป็นพระอริยะอรหันต์ที่ทรงอภิญญาใหญ่มากๆ หรือจัดในขั้นทรงปฏิสัมภิทาญาณ... รู้ได้อย่างไร..? รู้ได้ก็ต่อเมื่อมีผู้พบเห็นเรื่องราวอิทธิปาฏิหาริย์นับครั้งนับคนไม่ถ้วน ครับ ขนาดคนที่มาหาไม่กี่ครั้งยังได้เจอเลย แล้วคนที่อยู่ถวายงานท่านล่ะ..?(แต่ขอยืนยันครับว่า องค์หลวงปู่ท่านไม่ได้มีเจตนาอยากอวดเลยจริงๆ จริตท่านไม่อยากยุ่งกับคน แต่บางทีก็ต้องมีบ้างเพื่อละทิฐิของลูกศิษย์) ยิ่งมีครูบาอาจารย์ใหญ่ๆองค์หลายรับรองในคุณวิเศษที่องค์หลวงปู่ด้วย ยิ่งไม่ต้องสงสัยกันเลยครับ ผมไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไรถึงจะเห็นภาพความรู้สึก แต่ผมก็เชื่อว่าพี่ๆน้องๆหลายท่าน ก็คงรู้สึกได้ดีเพราะว่าได้เจอมากับตัวเองนะครับ อนุโมทนาด้วยครับ สาธุ

    ได้มีผู้ทราบเหตุการณ์ในเรื่องประสบการณ์วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดู และมีผู้นิยมแสวงหากันอย่างกว้างขวางแล้ว จึงพากันมาถามหาวัตถุมงคลขององค์หลวงปู่ที่วัดเทพธารทอง แต่ทางวัดก็ไม่มีให้แต่อย่างใด จึงขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ว่า ที่วัดเทพธารทองไม่มีวัตถุมงคลขององค์หลวงปู่ให้เช่า อย่าพยายามไปหาเลยนะครับ ใครมีก็เก็บกันอย่างเดียว นี่แหละครับ อย่างที่องค์หลวงปู่ท่านเคยบอกไว้ และได้ยินกันชัดเจนว่า.. " ของเราไม่ต้องไปโฆษณาให้ใครรู้ ถึงเวลาดังเดี๋ยวดังเอง.."
    (ขอบคุณกระทู้เรื่องเล่าหลวงปู่พิศดู)
     
  6. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    <img src='http://img3.uploadhouse.com/fileuploads/17208/172080036f65ac421e914121c8ac010489f7aff1.jpg' /><br /><font size='1'><a href='http://www.xn--12c5cgw1fub.com' target='_blank'>ฝากรูป</a></font>
    พระกสิณเนื้อผงยุคแรกของหลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    สนใจบูชาสอบถามทาง pm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2A.JPG
      2A.JPG
      ขนาดไฟล์:
      282.8 KB
      เปิดดู:
      114
    • 2A (1).JPG
      2A (1).JPG
      ขนาดไฟล์:
      286.1 KB
      เปิดดู:
      142
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    <img src='http://img5.uploadhouse.com/fileuploads/17208/172080131e876467f6334ef4c6577dd6c7e7b076.jpg' /><br /><font size='1'><a href='http://www.xn--12c5cgw1fub.com' target='_blank'>ฝากรูป</a></font>
    พระกสิณเนื้อผงยุคแรกของหลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    สนใจบูชาสอบถามทาง pm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3A.JPG
      3A.JPG
      ขนาดไฟล์:
      282 KB
      เปิดดู:
      91
    • 3A (1).JPG
      3A (1).JPG
      ขนาดไฟล์:
      289.3 KB
      เปิดดู:
      95
  8. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    พระกสิณเนื้อดินยุคแรกหลังจารสด ของหลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    สนใจบูชาสอบถามทาง pm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    อีกเรื่อง เป็นเรื่องของปลัดขลิกที่มีผู้แกะแล้วนำมาถวายองค์หลวงปู่ ด้วยความที่ตนเองชอบปลัดขลิก ก็เลยศรัทธาแกะมาถวายให้ท่านแจก มีอยู่ทั้งหมดประมาณครึ่งปีบได้ มีทั้งไม้คูณ และแก่นมะขาม ตัวขนาดประมาณนิ้วมือยาวไม่เกิน 2.5 นิ้ว พอนำมาถวายเสร็จท่านก็บอกประมาณนี้ว่า.. ทำอะไรมาแปลกๆ เราไม่ได้สั่ง ไม่ได้ชอบหรอกนะของพวกนี้ แต่ก็อย่างว่าคนเขามีศรัทธาถวายมาก็ต้องรับ เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ เช่นเคย ตั้งแต่ถวายก็วางเอาไว้ตรงนั้นท่านก็ไม่เคยสนใจอะไร แม้แต่จะหยิบดูเลย อยู่จนมดเข้าไปทำรัง ลูกศิษย์จึงขออาสาทำความสะอาดกุฏิกัน พร้อมทั้งขออนุญาติเอาปลัดขลิกดังกล่าวไปไว้ด้านล่างกุฏิ บางคนก็ขอไปคนละตัวสองตัว ท่านก็ยกให้ไม่ได้หวงอะไร นี่แหละจึงทำให้มีประสบการณ์เกิดขึ้น

    มีอยู่คนหนึ่งได้ไปก็เอาไปให้หลานชายห้อยไว้ที่เอว หลานชายคนนี้เป็นเด็กเรือประมงหาปลา พอได้มาใส่ ก็ทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆมาตลอด จนมีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นพอได้ลากอวนปลาเสร็จ ก็ถึงเวลากลับเข้าฝั่ง ปรากฏว่า เรือแล่นไม่ได้ เพราะสมอเรือไปติดซอกหิน พยายามขับเรือวิ่งหมุนอย่างไรก็ยังไม่ได้ จึงดับเครื่อง กะว่าจะให้เด็กเรือดำน้ำไปดูว่าติดหินอะไร และให้ช่วยเอาสมอเรือออกให้หน่อย เด็กเรือ 3-4 คน รวมทั้งคนที่มีปลัดขลิกคนนั้นด้วย ก็อาสาดำน้ำไปช่วยกันถอนสมอเรือที่ติดซอกหิน สักพักหนึ่งพอเรียบร้อยแล้ว ก็พากันขึ้นเรือมา แต่การสื่อสารกันคงผิดพลาด เด็กเรือที่อาสาดำน้ำขึ้นเรือไปกันหมดแล้ว ยังคงเหลือเด็กคนที่มีปลัดขลิกคนเดียวกำลังว่ายน้ำเตรียมขึ้นเรือ แต่ด้วยความไม่รอบคอบ กลับไปขึ้นด้านหลังเรือ ผู้ ที่เป็นไต๋เรือ(คนขับเรือ) ไม่รู้จึงได้ติดเครื่องเรือทันที ทำให้ใบพัดเรือขนาดใหญ่หมุนสับไปที่ร่างของเด็กคนนั้นเต็มๆ จึงเสียหลักจมน้ำลงไป คนบนเรือที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบบอกให้ดับเครื่องทันที เพราะเด็กคนนั้นกำลังว่ายน้ำอยู่ด้านหลังเรือเกรงจะเป็นอันตราย พอดับเครื่องเสร็จ ก็พากันมาดูจึงเห็นว่ากำลังลอยขึ้นมาอยู่ จึงรีบพากันไปช่วยเหลือขึ้นมาได้ แต่พอขึ้นมาตรวจสอบดู ปรากฏว่า ไม่พบบาดแผลเลย เป็นแต่รอยช้ำ จั้มใหญ่เท่านั้น.. เด็กคนนั้นเล่าให้ฟังว่าเกือบไม่รอดเหมือนกัน เพราะโดนใบพัดเรือหมุนสับเต็มๆ จุกแอ็ก..!! เลย สำลักน้ำไปหลายอึก แต่ก็ไม่เป็นไรเลยครับ..

    เอ้า..แถมอีกเรื่องละกัน(ชดเชยวันก่อนๆ) เกี่ยวกับปลัดขลิกรุ่นนี้แหละครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นกำลังเรียนอยู่ พ่อของเขาได้ปลัดขลิกไปจากลูกศิษย์องค์หลวงปู่ 1 ตัว ก็เลยเอาให้ลูกใส่เอวไว้ เพื่อจะได้ไว้ป้องกันอันตราย เพาะทราบมาว่า องค์หลวงปู่ท่านเก่งมาก ของๆท่านเชื่อถือได้ เด็กคนนี้ก็มีประสบการณ์เหมือนกัน กล่าวคือได้ไปมีเรื่องกับคู่อริซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่า ถึงกับต่อยตีกัน สุดท้ายเด็กคนนั้นเสียท่า โดนอีกฝ่ายใช้ปืนพกจ่อยิง ปรากฏว่า.. พอลั่นไก กระสุนปืนออกจากปากกระบอกแล้ว ก็ตกลงตรงข้างหน้า แบบหย่อนท้องช้าง ไม่ได้ผ่านตัว หรือแฉลบอะไรเลย พอได้สติก็รีบวิ่งหนี ฝ่ายนั้นก็กระหน่ำยิงมาอีกเป็นชุด กระสุนปืนก็ไม่ได้ผ่านตัวอีก ได้แต่ตกลงบริเวณรองเท้าเท่านั้น ไม่มีแม้แต่นัดเดียวที่จะสามารถปลิดชีพหรือทำอันตรายได้เลย.. ทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีแต่ปลัดขลิกนั้นเพียงตัวเดียวครับ

    พูดถึงปลัดขลิกนี้แล้ว ทำให้คิดถึงเรื่องเก่าๆ ที่องค์หลวงปู่เคยเล่าให้ฟัง ว่า สมัยก่อนท่านเคยเดินธุดงค์ผ่านไปทางกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็ได้แวะไปทักทายกับสหายธรรมท่านหนึ่ง ผู้ได้รับสมญานามว่า เทพเจ้าแห่งกุยบุรี หลวงพ่อยิด ปลัดขลิกบิน ท่านทั้งสองมีความสนิทสนมกันอย่างมาก เจอกันทีไรหลวงพ่อยิดจะชวนค้างที่วัดประจำ สมัยก่อนวัดหลวงพ่อยิดไม่ค่อยมีอะไรมาก ทั้งวัดที่มีมากหน่อยก็เห็นจะเป็นปลัดขลิกที่เหลาเอาไว้ปลุกเสกแจกญาติโยม ที่มาทำบุญในวัด จนระยะต่อมาจึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก พอองค์หลวงปู่ได้แวะเวียนเยี่ยมเยียนหลวงพ่อยิดพอสมควรแล้ว ท่านก็เดินทางธุดงค์ต่อ หลวงพ่อยิดก็เลยถวายปลัดขลิกให้องค์หลวงปู่มาประมาณครึ่งกระสอบได้ บอกให้ช่วยเอาไปแจกต่อด้วย.. องค์หลวงปู่ท่านเคยบอกว่า จริงๆ แล้วก็ไม่ได้อยากได้หรอกนะ มันเป็นภาระ แต่องค์ยิดเขาอุตส่าห์ให้มา เราก็ปฏิเสธแล้ว แต่ท่านก็อยากให้จริงๆเพราะไม่เจอกันนานและไม่มีอะไรจะให้ด้วย ท่านตั้งใจให้ไปเผื่อจะได้เอาไปหาปัจจัยสร้างวัดสร้างวาได้ ก็เลยรับไว้ แต่ก็ไม่ได้เอาไปขายใครหรอก ก็แจกตามทางมาเรื่อยๆ ใครมาขอของดีก็ให้ไปแล้วก็บอกเขาว่า นี่เป็นปลัดขลิกหลวงพ่อยิด ใครอยากได้อีกก็บอกให้ไปหาหลวงพ่อยิดนะ เราไม่ได้สร้างเองหรอกนะ จนมาถึงวัด ก็ยังเหลืออีกหลายสิบตัว ก็ไม่ได้สนใจอะไร ใครขอก็แจกไปจนหมด ไม่ได้เก็บไว้เลย.. (ขอบคุณกระทู้เรื่องเล่าหลวงปู่พิศดู)


    เครื่องรางจากไม้ชิ้นนี้ของท่าน ใช้เห็นผลเร็วดังใจไม่ผิดหวัง ท่านจารในยุคแรกๆและศิษย์เก่าๆมาแกะทับลงไปตามรอยจารด้วยปลายมีดแบบชาวบ้านๆ
     
  10. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    เรียนพี่หนุ่มเมืองแกลงและคุณmoo noi

    ผมขอแจ้งโอนเงิน บูชามีดเหล็กลาย 7 นิ้ว งวดสุดท้ายครับ

    วันที่ 24/01/56 เวลา 16:59 น.
    ผมโอนเงินผ่าน ATM เป็นจำนวน 10,100.25 บาท
    เพื่อ บูชามีดเหล็กลาย 7 นิ้ว งวดสุดท้าย ครับ
    โปรดตรวจสอบด้วยครับ
    ภาพสลิปการโอนเงินผมจะโพสแจ้งอีกครั้งครับ

    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
     
  11. kajit

    kajit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,656
    ค่าพลัง:
    +3,351
    ขอราคาครับ
     
  12. kawpunt

    kawpunt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +3,087
    พี่หนุ่มองค์นี้กับองค์สีขาวข้างล่างขอราคาครับ
     
  13. ธณบดี

    ธณบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +655
    ขอทราบค่าบูชาพระองค์นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  14. ky9

    ky9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +1,113
    จององค์นี้ครับ
     
  15. คนไกลวัด

    คนไกลวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +437
    เรียนพี่หนุ่มและคุณหมูน้อย แจ้งโอนเงินเหรียญหลวงปู่กวยครับ ที่อยู่แจ้งทางPMครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. นะจักรวาล

    นะจักรวาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,911
    ค่าพลัง:
    +8,327

    ขอทราบราคาคับ
     
  17. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    ผงพุทธะมงคล สุดยอดผงวิเศษ แห่งสำนักวัดเทพธารทอง

    แต่ละเกจิอาจารย์ที่ท่านร่ำเรียนสรรพวิชาอาคมขลัง ก็ย่อมมีสิ่งวิเศษคู่บารมี รวมถึงมวลสารที่ใช้ในการสร้างวัตถุมงคลของท่านต่างๆกันออกไป โดยเฉพาะเรื่องการทำผงวิเศษนี้ บรรดาท่านเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านก็จะทำผงวิเศษไว้ เพื่อใช้เป็นเครื่องประกอบสำคัญ ในการสร้างวัตถุมงคลต่างๆของท่าน เพื่อให้เกิดความขลังศักดิ์สิทธิ์ มีกฤติยาคมแฝด ที่เรียกว่าดีทั้งนอกและใน สรรพวิชาเรื่องการทำผงวิเศษของท่านเหล่านั้นมีมากมายหลายประการ ทั้งที่เรียนสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล และที่ท่านเหล่านั้นได้สำเร็จวิชาเหล่านี้จากในนิมิตสมาธิ หรือว่าคิดค้นวิธีการสร้างผงขึ้นมาด้วยองค์เอง เพื่อเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของสำนักท่าน..

    ซึ่งคุณสมบัติของผงวิเศษทั้งหลายเหล่านี้ ย่อมเป็นมวลสารวิเศษสุด ที่ใช้เป็นสื่อในการรับ และหนุนนำพลังงานทางจิต ซึ่งจะง่ายต่อการเสกเรียกรูปเรียกนาม และเรียกอาการต่างๆของวัตถุมงคลนั้นๆ จะช่วยเกื้อหนุนกับพลังจิตของผู้เสก ให้วัตถุมงคลมีพลังเพิ่มพูนเป็นทวีคูณ และจะเสื่อมคลายความศักดิ์สิทธิ์ได้ยาก

    เกจิอาจารย์แต่ยุคเก่ามาถึงปัจจุบัน ผู้ที่ท่านเชี่ยวชาญในการทำผงวิเศษนั้นมีอยู่มากมายหลายองค์ แต่ที่เรารู้จักดีและมีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นที่ยอมรับในวงการผู้นิยมขลัง เนื่องจากมีประสบการณ์ให้ได้ประจักรมามากมาย อาทิ
    สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ท่านได้สร้าง ผงวิเศษ 5 ประการ ได้แก่ ปถมัง , อิทธิเจ , มหาราช , ตรีนิสิงเห , พุทธคุณ
    หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ท่านได้สร้าง ผงยาวิเศษ , ผงโสฬสมงคล ใช้ในการสำพระปิดตา และพอกตะกรุดของสำนักท่าน
    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านได้สร้าง ผงวิเศษ 6 ประการ , ผงยันต์เกราะเพชร
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านได้สร้าง ผงอิทธิเจ ด้วยวิชาธรรมกาย
    หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม ท่านได้สร้าง ผงมหากัน , มหาปราบ
    หลวงปู่ญาคูสีทัตถ์ วัดท่าอุเทน ท่านได้สร้าง ผงโสฬสมหาพรหม
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านได้สร้าง ผงมหาจักรพรรดิ์ , ผงกรรมฐาน
    หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ท่านได้สร้าง ผงพรายกุมาร
    ..........ฯลฯ
    ซึ่งในแต่ละองค์นั้นก็จะมี กรรมวิธี วัตถุดิบ รวมถึงส่วนประกอบในการใช้สร้างผงวิเศษก็จะแตกต่างกันไป ตามแต่ตำหรับตำรา หรือความรู้ที่ได้ศึกษามา และรวมไปถึงพลังที่บรรจุอยู่ในนั้นก็จะต่างกันออกไปอีกด้วย

    แม้แต่องค์หลวงปู่พิศดู ท่านก็ได้เคยสร้างผงวิเศษของท่านขึ้นมาเพื่อใช้ในการสร้างวัตถุมงคลของท่านด้วยเช่นกัน ผงดังกล่าวนั้นก็คือ ผงพุทธะมงคล ผงนี้ท่านเริ่มสร้างมาตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นไม่มีใครทราบ แต่ว่าท่านได้ใช้ผงนี้ในการสร้างพระผงรูปเหมือน และพระพิมพ์ต่างๆตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520-2522 เท่าที่พอทราบมา ผงพุทธะมงคลนั้นท่านจะสร้างของท่านเอง โดยการใช้ดินศักดิ์สิทธิ์มาลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นยันต์ประเภทสายพุทธคุณล้วนๆ เมื่อทำเป็นผงแล้ว ก็จะหาสิ่งมงคลต่างๆมาประกอบเข้ากัน ซึ่งเป็นของที่มีคุณในตัว อาทิ มวลสารจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างๆหลายองค์ ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่มีมวลพลังงานของพุทธะบารมี และพลังบารมีของพ่อแม่ครูอาจารย์บรรจุอยู่ ซึ่งองค์หลวงปู่ท่านจะทราบของท่านเองว่าที่ไหน จุดไหนมีพลังงานแฝงอยู่ ก็จะนำมาสะสมรวมกันไว้ รวมถึงดินและทราย(ปฐวีธาตุ)ศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเทพธารทองด้วย และเกศา ชาญหมาก สรรพว่านมงคลต่างๆ ที่อยู่ตามป่าตามเขา รวมถึงเกษรดอกไม้108....ฯลฯ
    ทั้งหมดนี้ได้สะสมจากการเดินธุดงค์ และบางอย่างสั่งให้ลูกศิษย์หามาให้ โดยองค์หลวงปู่ท่านจะนำมาผสมรวมกัน และอธิษฐานตั้งธาตุปรับกระแส ให้อยู่ในรูปแบบของพลังที่ท่านต้องการ และการอธิษฐานผงของท่านแต่ละครั้งท่านต้องเข้าสมาบัติแบบเต็มกำลัง และใช้ความบริสุทธิ์แห่งจิตหลุดพ้น และอธิษฐานบุญฤทธิ์ บารมีธรรมที่ท่านได้สั่งสมบำเพ็ญมานับชาติไม่ถ้วน และอัญเชิญพลังพุทธานุภาพบรรจุไว้ในผง อันเปรียบเสมือนสิ่งมงคลคู่บารมีที่ท่านได้บรรจงสร้างสรรเอาไว้ในพระศาสนา และได้ตั้งนามผงของท่านนี้ว่า " ผงพุทธะมงคล " เมื่อ ท่านได้ใช้ผงนี้ในการสร้างพระผงรุ่นแรกสำเร็จแล้ว ก็ได้เก็บรักษาผงนี้ใส่หม้อดินไว้ใต้ฐานพระประธานในกุฏิหลังเก่าอยู่นานหลาย ปี โดยทุกวันท่านจะสวดมนต์และเจริญภาวนาตลอดไม่เคยขาด จนได้นำมาใช้สร้างวัตถุมงคลอีกครั้งเมื่อประมาณปี พ.ศ.2549 เป็นต้นมา ซึ่งผงดังกล่าวจะผสมอยู่ในวัตถุมงคลประเภทเนื้อผงของท่านแทบทุกรุ่นจนถึง วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย (ขอบคุณกระทู้เรื่องเล่าหลวงปู่พิศดู)

     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    คนที่จะรู้จักพระอริยะเจ้าขนานแท้ กว่าจะรู้จักท่านจริงๆ ก็คงต้องตามกันเหนื่อยแล้วครับ แม้วัตถุมงคลของท่านก็เช่นกัน

    สมัยก่อนๆ คนแถววัดบอกว่าองค์หลวงปู่ท่านเป็นพระแปลกๆ วันๆไม่เคยเห็นทำอะไร พระองค์ผอมๆ นุ่งผ้าสบงเก่าๆ ใส่อังสะตัวเดียว เอาแต่เดินรอบวัดทั้งวัน ใครไปหาก็โดนท่านดุ แต่ระยะหลังมา กว่าจะรู้ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงความบริสุทธิ์ และทรงฤทธิ์อภิญญามหาศาล ก็แทบจะสายเกินไป ท่านปิดตัวมานาน ความแตกเอาก็เพราะเกิดอุทกภัยเขาคิชฌกูฏพัง พร้อมท่อนซุงร้อยนับพันถล่มลงมา ผ่านลำธารข้างวัด แต่วัดท่านรอดจากภัยได้อย่างปาฏิหาริย์ ทำให้เป็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ คนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดก็พากันมาทำบุญ และยิ่งมีครูบาอาจารย์หลายท่านรับรองถึงคุณธรรมอันสูงสุดด้วยแล้ว กว่าคนจันทจะหันมาทำบุญกับท่านก็แทบจะสายเกินไป.. ตอนนี้สังขารธรรมท่านดับสิ้นลง แต่คุณธรรมยังคงอยู่เช่นเดิม ประกอบกับวัตถุมงคลที่ท่านตั้งใจอธิษฐานทิ้งไว้ให้ลูกศิษย์อย่างพิเศษสุดๆ ทำให้ผู้ใช้เกิดประสบการณ์กันมากมาย จนผู้คนต่างเสาะแสวงหากันอย่างกว้างขวางในขณะนี้.. ใครพบใครเห็นของท่านหลงที่ไหนถึงจะมีราคาสูง (แต่ถ้าพอมีกำลัง) หากเรายังไม่มีของท่าน ก็หาเก็บไว้บูชากันบ้างนะครับ ลองใช้ดูแล้วท่านจะรู้เอง....(ขอบคุณกระทู้เรื่องเล่าหลวงปู่พิศดู)
     
  19. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    องค์หลวงปู่พิศดู ท่านเป็นพระที่มีปัญญาญาณ และเมตตาจิตสูงมากๆ ถึงบางครั้งอาจจะมองเหมือนท่านดุ แต่แท้จริงที่ดุนั้น ท่านอยากให้เรารู้สึกเข้าใจ และได้เห็นกิเลสที่ซ่อนอยู่ในใจเรา ที่ยากจะมองเห็น ส่วนมากเวลาท่านดุใคร คนๆนั้นมักต้องสะดุ้งกลัว เพราะว่าท่านให้ธรรมะแบบกระแทกใจเข้าไปเต็มๆ อย่างที่ไม่มีโอกาสจะหลบหลีกข่ายญาณอันแจ่มใสของท่านไปได้ ยิ่งถ้าใครคนนั้นมาหาท่าน บอกว่าตนเป็นนักปฏิบัติธรรม อวดว่าได้โน่นได้นี่ เห็นนั่นเห็นนี่ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องเพราะหลงตัวหลงตน ท่านก็จะฟังๆไปก่อน ปล่อยให้พูดไปให้จบ พอเสร็จแล้วท่านก็จะพูด(ตอบ)ออกไปกระแทกใจ แบบจี้จุดกิเลสคนๆนั้นแทบตั้งตัวไม่ติด บางครั้งแทบหงายหลังหัวฟาดพื้นจนหน้ามืดหน้าชาไปหมด เพราะสิ่งที่ตนได้คิดได้เห็นมานั้น อาจเป็นอุปาทานหรือสิ่งที่ตนคิดฝันไปเองทั้งสิ้น ท่านบอกว่า หากใครที่เขาได้จริงๆ เขามักจะไม่เอามาพูดกัน โดยเฉพาะต่อหน้าครูบาอาจารย์ เขาจะเงียบๆรู้สภาวะของเขาอยู่คนเดียว เพื่อไม่ทำให้เป็นที่สนใจของผู้อื่น เพราะจะไปรบกวนความสงบของพวกเขา..
    องค์ท่านนั้นเป็นแบบอย่าง ของครูบาอาจารย์หลายท่าน หาได้ยากแล้วครับ พ่อแม่ครูบาอาจารย์แบบนี้ บางคนถึงกับบอกว่า หลวงปู่เป็นพระอริยะเจ้าหลงยุค เพราะพระที่มีคุณธรรมพิเศษแบบนี้ มักจะเกิดในสมัยพุทธกาลเท่านั้น

    ครูบาอาจารย์บอกว่า..พระอริยะเจ้าท่านมีอยู่หลายประเภท แม้แต่พระอรหันต์เหมือนกัน แต่คุณวิเศษ องค์ความรู้นั้นต่างกันก็มี บางองค์หมดจดจากกิเลศแล้ว แต่มีคุณวิเศษในเรื่องความเป็นทิพย์เพียงเล็กน้อย ไม่เห็นผี เทวดา แต่พอละสังขารก็ไปนิพพาน แต่บางองค์เป็นพระอรหันต์หมดจดจากกิเลศ แต่มีคุณวิเศษมาก สามารภแสดงฤทธิ์ได้ทุกอย่างตามแต่ปรารถนา พระพุทธองค์ถึงได้จัดแบ่งสายพระอริยะไว้ด้วยกัน 4 ประเภท ตามจริตวิสัยที่เป็น...(ขอบคุณกระทู้เรื่องเล่าหลวงปู่พิศดู)
     
  20. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    <img src='http://img6.uploadhouse.com/fileuploads/17209/17209981ec23ce23acc99e0de109f18cde3da3b9.jpg' /><br /><font size='1'><a href='http://www.xn--12c5cgw1fub.com' target='_blank'>ฝากรูป</a></font>
    พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน ลป.พิศดู มีหลายแม่พิมพ์ แบบนี้เล็กและพบเจอน้อยกว่าแบบอื่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10.JPG
      10.JPG
      ขนาดไฟล์:
      284.3 KB
      เปิดดู:
      97
    • 10 (1).JPG
      10 (1).JPG
      ขนาดไฟล์:
      297.2 KB
      เปิดดู:
      122

แชร์หน้านี้

Loading...