เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

เรื่องเล่า

ตอน : ผ้ายันต์ไม่ต้องปลุกเสก

เคยทิ้งค้างหรือติดค้างไว้ในตอน"ของอาจารย์คุ้ม" ที่ว่าเพราะปู่เกรงกลัวเรื่องของอาจารย์คุ้มจนทำให้พลาดไม่ได้ของดี ทั้งๆที่เป็นของที่มาจาก

"ท่านเจ้าคุณโบราณของปู่" เรื่องท่านเจ้าคุณโบราณหรือ พระโบราณวัตถาจารย์ หรือ พระราชประสิทธิคุณ(ทิม ยสทินโน)มีเรื่องเล่าจากปู่มากมาย

ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเรื่องดุเรื่องด่าเก่ง หรือเรื่องกตัญญูอย่างสูงสุด เหตุที่ปู่รู้เรื่องดีเพราะปู่เป็นเสมือนบุตรบุญธรรมของหลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส

วัดมหาดไทย และเป็นพระพี่ชายของ"ท่านเจ้าคุณโบราณ"คนไผ่ดำ อันเป็นที่ตั้งของวัดมหาดไทย ติดที่จะเรียกท่านว่า"เจ้าคุณโบราณ" เป็นเพราะ

ในสมัยนั้นท่านมีอำนาจสิทธิขาดที่จะขุดหรือรวบรวมวัตถุโบราณที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ปู่เล่าว่าถ้าท่านเดินทางมาเยี่ยมบ้านเกิด ไม่ว่าจะมาถึง

วัดมหาดไทยตอนไหน จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนจะปลุกพระหรือเรียกพระ(นิมนต์)ให้"บังสุกุล"ให้กับโยมของท่าน และถวายปัจจัยให้พระเป็น

จำนวนมากอยู่ และจะทำอย่างนั้นเสมอมามิได้ขาด ปู่ก็ได้ท่านส่งเสริมให้เป็นครูสอนหนังสือเด็กสมัยนั้นที่วัดมหาดไทย จนจบชั้น ๓ ซึ่งถือว่าเป็นชั้น

สูงสุดสำหรับเด็กประถมสมัยนั้นฯ เมื่อปู่สึกจากพระแล้วก็ยังเมตตาฝากมาเป็นบุตรบุญธรรมของขุนเลิศตลาดหลวง และขุนลิขตบรรจงการ ซึ่งผมไม่รู้จัก

เพียงแต่ฟังเป็นเรื่องเล่าเท่านั้น ซึ่งมีเรื่องแถมจากการที่มาเป็นบุตรบุญธรรมของทั้งสองท่านดังกล่าว ทำให้ปู่ซึ่งเป็นคนเก่งเรื่องหนังสือได้ทำงานมี

ตำแหน่งเป็น"คนเก็บตลาดหลวง"ในช่วงเวลานั้นผมเคยเล่าไปแล้วว่าปู่มีคนเชื่อถือมาก แม้จะเป็นคนต่างถิ่นจนได้รับความไว้วางใจให้เป็นคนร่วมเดิน

ทางเวลาจะไปไหว้พระพุทธบาทสระบุรี ปู่เคยเล่าให้พวกผู้ใหญ่ด้วยกันฟังถึงเรื่องการจัดการเฝ้าสวนให้กับพ่อบุญธรรมทั้งสองท่าน มีคนถามปู่ว่าเฝ้า

ไหวเหรอใหญ่ออกขนาดนั้น ปูบอกว่าไม่ได้เฝ้าเองหรอก ใช้วิธีปลูกกล้วยตานีไว้รอบๆ สวนแล้วทำพิธีปลุกให้ดูแลแทนฯ และที่ตัวเมืองอ่างทองนี้เอง

เป็นที่มาของผ้ายันต์ไม่ต้องปลุกเสกฯ

เมื่องานลอยกระทงของวัดน้ำพุ และวัดสี่ร้อยฯ ปี ๒๕๑๓ ประมาณ ห้าทุ่ม เกิดไฟไหม้ปั้มน้ำมันของผู้ใหญ่เริญหรือ"เจริญ"เป็นปั้มที่จอดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ

น้อย คาดว่าคุณคนวิเศษ น่าจะทัน เพราะเจ๊จี๊(คนทำบุญวัดไทรยืด) ภรรยาผู้ใหญ่เริญ ยังเคยมาร่วมงานที่ผมจัดงาน มุทิตา ที่วัดไทรยืดให้กับครู

อาจารย์ของผม ปั้มน้ำมันไหม้จนหมดไม่มีเหลือ ช่วงที่ถังน้ำมัน ๒๐๐ ลิตร ระเบิดมันน่ากลัวมากประกอบกับเสียงลูกปืนที่เก็บไว้คงหลายกล่องระเบิด

เป็นระยะๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปดับไฟ เรือดับเพลิงไม่มีมา เรือหางยาวที่แล่นไปตามเรือดับเพลิงบอกว่าไม่พบ น่าจะไปคอยดับเพลิงตามกระทงที่

ไหนสักแห่งหนึ่ง พอรุ่งเช้าไปดูกันก็ไม่เหลืออะไร มีบ้านหลังหนึ่งปลูกอยู่บนฝั่งห่างจากปั้มประมาณ ๕ เมตร เป็นบ้านไม้หลังคาสังกะสี ฝาบ้านเป็น

ฝาไม้ ฝาบ้านที่เป็ฝาไม้ได้รับความร้อนจนบิดงอแต่ไม่ไหม้ไฟ หรือไฟไม่ติด ถ้าพูดกันตามหลักของไฟก็ครบสามเหลี่ยมของไฟแล้ว แม่บ้านผมก็ยัง

แปลกใจ แม่บ้านผมคุยกับปู่ว่ามันน่าจะไหม้นะ ปู่บอกว่าที่ไม่ไหม้ไฟคงเป็นเพราะยันต์นกคุ่ม ตั้งแต่วันนั้นผมก็เลยได้รายละเอียดเกี่ยวกับยันต์นกคุ่ม

หรือนกคุ้ม ผมได้โพร่งขึ้นว่าอาจารย์ที่เขียนยันต์นี้ท่านคงเข้มขลังน่าดู ปูก็บอกว่าน่าจะมีส่วน และแถมว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระ

พุทธองค์ถ้าคนทำบริสุทธิ์พอก็ขลังได้ทั้งนั้นแหละ พระพุทธรูปไม่ต้องมีใครปลุกเสกก็ขลังได้ และได้เล่าเพิ่มเติมถึงเรื่องสมเด็จโต เคยกล่าวไว้ที่บ้าน

ช่างหล่อเมื่อเจ้าภาพบอกว่าดินที่เป็นหุ่นและรูปหล่อพระของเขายังไม่เป็นพระเพราะยังไม่ได้เบิกพระเนตร สมเด็จโตได้ตอบว่า"เป็นแล้วจ๊ะ เป็นตั้งแต่

ดินก้อนแรกที่ช่างตั้งใจปั้นเป็นพระพุทธเจ้า" และ"เบิกเนตรทำไมจ๊ะ ใครจะเป็นอุปฌาย์ให้พระพุทธเจ้า นรกจะกินหัว"เรื่องนี้ผมยึดถือมาโดยตลอดไม่

ขัดใคร แต่เวลาผมสร้างพระไปถวายวัดผมไม่เคยทำพิธีเบิกเนตร เพราะผมกลัวนรกจะกินหัว ผมเคยโชคดีได้พบในหนังสือเกี่ยวกับสมเด็จโตที่กล่าว

เรื่องนี้ไว้ เลยถ่ายเอกสารไว้มากๆ เพื่อแจกคนที่มาถามว่าจะเบิกเนตรพระเมื่อไร ตอนนี้หาไม่เจอแต่เชื่อว่าหลายท่านคงเคยผ่านหูผ่านตาฯ

เมื่อคุยเรื่องผ้ายันต์นี้ ก็เลยได้ฟังเรื่องเล่าจากปู่ต่อ ปู่ว่าสมัยที่ท่านอยู่ตลาดหลวง ตอนนั้นท่านเจ้าคุณโบราณได้ฝากพระพุทธรูปที่สลักจากหิน ฝาก

มากับแพซุงจากสุโขทัย ให้เอามาส่งที่กรุงเทพฯ มีเสียงร่ำรือกันมากว่าศักดิ์สิทธิ์ แพซุงมาจอดพักที่วัดท้ายย่าน ปู่จึงไปดูและก็ได้พบว่าเป็นพระสลัก

จากหิน มีใบบอกมาเสร็จเรียบร้อยว่าที่หมายคือกรุงเทพฯ ความดังหรือความศักดิ์สิทธิ์คือ มีคนเป็นจำนวนมากซื้อผ้าแดงขนาดพอเหมาะที่จะทำเป็น

ผ้ายันต์ เอาไปให้คนเฝ้าแพเฝ้าพระพร้อมเงิน ๑ บาท(สมัยเงินแพง) คนเฝ้าแพก็จะเอาหมึกป้ายที่"อุณาโลม"ของพระพุทธรูปแล้วเอาผ้าแดงที่คน

ต้องการเอาไปให้ ทาบไปที่"อุณาโลม"ของพระพุทธรูปแล้วส่งคืนให้เจ้าของนำกลับไป มีการทดลองกันเดี๋ยวนั้น ผลปรากฎว่าเหนี่ยวจริง ปู่บอกว่าปู่

ยังครางแครงใจ เพราะฝังใจเรื่องของอาจารย์คุ้มมาตั้งแต่เป็นพระ ก็ไม่สนใจปล่อยผ่านไป แต่ภายหลังเมื่อแพซุงนั้นจากไปแล้วมีการทดลองกันอีกก็

ปรากฎว่าเหนียวจริง ปู่ว่าคนทดลองถือว่าใจใช้ได้เพราะเอาตัวเองเข้าไปทดลอง ปู่ถึงมีความเชื่อมากยิ่งขึ้นว่า "อะไรก็ตามที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระ

พุทธองค์คงศักดิ์สิทธิ์ได้เอง" และผมก็เชื่อตาม มีคนหลายคนบอกหรือถามผมมากว่า มีอะไรดี ถึงมีความปลอดภัยมาโดยตลอด ทั้งๆที่ชีวิตผม

เหมือนกับขี่ระเบิดมานมนานคือทำงานเกี่ยวกับปิโตรเคมีมาสามสิบกว่าปี จะบอกว่าไม่มีคงโกหก คือทุกวันโดยเฉพาะทุกเช้าผมสวดบทคาถาเป็น

ประจำอยู่บทหนึ่งคือ"คาถานกยูงทอง"เพราะเป็นคาถาที่พระพุทธองค์ทรงสวดเมื่อสมัยเสวยพระชาติเป็นนกยูงทอง เคยบอกไปครั้งหนึ่งแล้ว ผมหวัง

ว่าคงไม่ทำให้พระตามที่ต่างๆที่มี"อุณาโลม"เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเดี๋ยวผมจะบาปด้วย

ขอแถมนิด แม่บ้านผมฝากขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงและอวยพรมา และฝากบอกว่าถ้าจะทดลองพระให้เอาตัวเองทดลองดีที่สุด เพราะแกดูโทรทัศน์

รายการกรรมลิขิตที่ดำเนินรายการโดย คุณมนตรี เจนอักษร แล้วมันติดตาและเสียวแทน....ขอบคุณมากครับ

 

อย่างนี้ไม่ใช่ " อาจารย์คุ้ม " แล้ว ต้องบอกว่า " พระคุ้ม " ครับ

 

สวัสดีครับพี่ทิพย์ แจ้งโอนค่าเหรียญเจ้าตาก
ลำดับที่ 21 ยอดโอน 3,000.75 บาท
เมื่อวันศุกร์ตอนเที่ยง เหลือยอดค้าง 2,000 บาท
ขอโอนเดือน มีนาคมครับ ขอโทษที่โอนช้าครับ

 

ขอบคุณครับ

ผมติดค้างตารางไว้ก่อนนะครับ พรุ่งนี้จะแก้ตารางให้
เมื่อวันเสาร์พี่นิ่มเบี้ยวผม เลยไม่ได้เข้าไปเอาหมูฯ ผมเลยทำเรื่องลาพักร้อนไป 3 วัน จะกลับเข้าไปเอาหมูฯมาให้ ส่วนที่เหลือ พี่นิ่มขออีก 5 พระอุโบสถ

จะยุให้จบก่อนสิ้นเดือนครับ จะได้เอาไปใช้กันเสียที

รอหน่อยนะครับ

 

ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงครับ

 

ขอให้คุณแม่บ้าน พ่อประดู่09 หายป่วยเร็วโดยด้วยครับ

 

To. พี่หนุ่มทิพย์&พี่นิ่ม สบายดีไหมครับ ขอให้ท่านสบายดีเถิดครับ : )

ผมขออนุญาติจองเพิ่มเติม พระเจ้าตากทองแดง 2 เหรียญ และ กรมหลวงชุมพรทองแดง 2 เหรียญ ครับพี่ไม่รู้ทันไหมครับ...
----------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขยอดจองข้างบนเป็นด้านล่างนี้ครับ พร้อมโอนให้พี่เรียบร้อยแล้วครับ...วันนี้

1.พระเจ้าตากเนื้อชนวน 5 องค์ = 2,500
2.กรมหลวงชุมพรฯ เนื้อชนวน 4 องค์ = 2,000
3.หมูทองแดง 3 ตน = 1,500

รวมโอนรอบที่ 3 = 6,000.08 (ลำดับที่ 8 )

รายการเสร็จสมบูรณ์
เลขที่บัญชีผู้รับโอน 604-2-33303-2
ธนาคารผู้รับโอน ธ.กสิกรไทย - KBANK
ชื่อบัญชีผู้รับโอน MR. MANCHAI PENGJAMSRI
จำนวนเงิน (บาท) 6,000.08
ค่าธรรมเนียม 0
วันที่ได้รับยอดเงินโอน 30/01/2013 17.30 น.
วันที่ตัดยอดเงินจากบัญชี 30/1/2013
หมายเลขอ้างอิงรายการ tmbi29979315

สรุปรายการให้ทั้งหมดในfile แนบครับผม

อนุโมทนาสาธุครับ
Chatchai_/\_






อนุโมทนาครับ
Chatchai_/\_

 

ขอบคุณครับ ผมสบายดี พี่นิ่มก็สบายดี ใจสบายก็สบายไปเกินครึ่งแล้วครับ

จะจองอะไรเพิ่มก็ไม่มีปัญหาครับ เพราะเมื่อไหร่ที่ผมจัดส่งครบแล้ว ก็จะได้หาเรื่องวางมือเสียที

ขอผลัดไปวันสองวันนะครับ ยังว่างไม่เต็มที่ (กะจะเข้าไปเอาหมูฯ ก็ต้องเลื่อนอีก พี่นิ่มไปวัดบ้านกรวด)



ไปเดินดูหนังสือที่ร้าน เห็นหนังสือไพลดำก็สะดุดตา เลยหยิบมาอ่าน
เขียนถึงไพลดำของอาจารย์สัมฤทธิ์ อาจารย์ฆราวาสที่ปลูกว่านไพลดำเป็นที่เลื่องลืออยู่ในปัจจุบัน

แต่ก่อนนี้ พี่นิ่มได้มวลสารจากอ.สัมฤทธิ์มาเยอะมาก ด้วยความรักเมตตาต่อกัน ส่วนพี่นิ่มก็ถวายให้ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแดงไปเยอะ

ผมมีความรู้เรื่องไพลดำน้อยมาก ก็เลยควักตังค์ซื้อมาอ่าน เรื่องตำนานคงไม่ติดใจอะไร จะเขียนอย่างไรก็คงไม่มีใครมาโต้แย้ง เพราะเป็นพืชที่ไม่อยู่ในตระกูลที่เกษตรฯค้นคว้ารับรอง

ในหนังสือระบุว่า เป็นว่านที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นของ อ.สัมฤทธิ์
เป็นว่านที่ไม่มีวันตาย หากใครเลี้ยงไม่เป็น จะอยู่ในภาวะจำศีล ถึงเวลาต้องกู้คืน จึงฟื้น และ อ.สัมฤทธิ์ ได้รับมรดกและตำราตกทอดจากคุณพ่อของท่านมาเมื่อตอนอายุ 13 ปี และมาได้ประสิทธิประสาทวิชาจนทำได้จริงก็เมื่ออายุ60 จากหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาฯ

ไม่ได้แนะนำให้ไปหาซื้ออ่าน แต่จะแนะนำว่า มวลสารไพลดำนี้ มีอยู่ในทุกเนื้อ(ผง) ที่พี่นิ่มจัดสร้าง

เพียงผงนิดเดียวของไพลดำ เอามาขีดฝาหม้อข้าว(หม้อดิน) ข้าวที่หุงก็ดำทั้งหม้อ เป็นข้าวทิพย์ เอามาหยดน้ำเปล่าดื่มกินก็คงเนื้อคงหนัง

และทุกปีที่มีงานไหว้ครู ก็จะคั้นเอาน้ำมันมาสักบนไหล่ให้ศิษย์ เพียงจุดเดียว จะลองมีดหรือปืนได้ทั้งนั้น

ไว้อ่านจบแล้ว เห็นประโยคไหนน่าสนใจ จะขยายความให้ฟัง แก้เหงา

ระหว่างนี้ พี่นิ่มนำของเข้าขอบารมีที่วัดบ้านกรวด ไปพลางๆก่อน

 

มีเมล์เข้ามา ให้ช่วยฝากดูหนุมานฯ เนื้อไหนก็ไม่เกี่ยง... ขอให้เป็นป่าแดง

เพื่อนสมาชิกท่านใด สนใจฝากลิงให้ท่านอื่นอุปการะ ก็แจ้งพีเอ็มเข้ามานะครับ เลือกค่าตัวตามสะดวก ให้สมค่าดูแลแต่ก่อนมา

วันเสาร์-อาทิตย์ นี้ถ้าพี่นิ่มไม่เบี้ยวผมอีก จะเข้าไปเอาหมูฯ และภาพถ่ายชุดสุดท้าย (เพื่อจัดทำหนังสือ) จะได้จัดส่งให้เพื่อนสมาชิกซะที แต่ตอนนี้ของทั้งหมดอยู่ที่วัดบ้านกรวด

พี่นิ่มเอาไปเติมอ๊อคเทน

 

ขออนุญาตเล่าความฝันสักหน่อย

เมื่อประมาณ 3-4 วันก่อน ผมฝันเห็นคุณนิ่มป่าแดง (แต่ในฝันไม่มีคุณหนุ่มทิพย์) ที่รู้เพราะจำหน้าคุณนิ่มที่ลงในกระทู้นี่ได้แม่นยำ ในฝันเห็นคุณนิ่มหยิบพระปิดตาวัดป่าแดงมาถือ อีกมือหนึ่งถือตะกรุดหลวงพ่อทบรุ่นเก่า 3 ดอก ร้อยเป็นพวงอยู่

ตื่นมาทบทวนว่าเราก็ไม่เคยจะรู้จักหรือสนิทอะไรกับคุณนิ่ม ตัวตนเป็นอย่างไรก็ไม่เคยเห็น ทำไมต้องฝันถึงแกด้วย

เช้าขึ้นมาด้วยความว่าเป็นคนหัวโบราณเลยนิมนต์พระปิดตาวัดป่าแดงคล้อง เพื่อความไม่ประมาทในชีวิต

วันนั้นอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน แต่มีเหตุเกิด ล้มในบ้าน 1 ครั้ง เดินสดุดธรณีประตูอย่างแรง 2 ครั้ง.......เจ็บครับผม

จบข่าว...

 

ในฝันบอกว่าต้องมีตะกรุดหลวงพ่อทบ ๓ ดอก และพระปิดตาวัดป่าแดง
แต่บอกว่าแขวนแค่พระปิดตา สงสัยมีของไม่ครบตามที่ฝันเลยต้องเจ็บตัว
สาธุคุณพระรักษาผ่อนหนักให้เป็นเบา

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน เรื่องความฝันที่จริงก็แปลกเหมือนกันครับ ประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมา ผมก็ฝันถึงพี่นิ่มกับคุณทิพย์เหมือนกันครับ ฝันว่าได้เจอพี่นิ่มกับคุณทิพย์ ได้สนทนากันเรื่องพระที่นิ่มสร้างนี่แหละครับนานมากเลยครับ พอตื่นขึ้นมายังแปลกใจอยู่เลยว่าอยู่ดีๆทำไมฝันถึงพี่นิ่มและคุณทิพย์ได้ทั้งๆที่เคยได้คุยกับพี่นิ่มแค่ครั้งเดียวตอนงานพิธีใหญ่ที่วัดป่าแดงตั้งนานมาแล้ว แต่กับพี่ อบต.จู๋ ได้คุยกันหลายครั้งกว่าแต่กลับไม่ฝันถึงพี่เขาเลย แปลกเหมือนกันครับ

 

เมื่อคืนก็ฝันเห็นพี่นิ่มกับคุณทิพย์เช่นกัน ว่าได้พบคุยกันและได้รับน้ำมันแม่ทัพ
พอรับมาปรากฏว่าน้ำมันที่อยู่ในหลอดได้เดือดพักนึงจึงเป็นปกติ
แปลกดีช่วงนี้มีคนฝันเห็นพี่นิ่มกับคุณทิพย์หลายคนเลย

 

เห็นหลายคนออกมาเล่า ก็เลยขอเล่าบ้าง ทีแรกก็คิดไปเองว่าอ่านกระทู้พี่หนุ่มทิพย์ทุกวันๆ ก็เก็บเอาไปฝัน เมื่อสักประมาณสัปดาห์ก่อน ฝันว่าไปเจอพี่นิ่มที่วัดแห่งหนึ่ง มีงานพุทธาภิเษกพระนี่แหละ แล้วก็เจอพี่นิ่มเอาพระไปเข้าร่วมพิธี แล้วก็เจอพี่หนุ่มทิพย์ด้วย ในฝันจำรายละเอียดไม่ได้เท่าไร จำได้แค่ว่าเจอพี่ทั้งสองคน

จะว่าอ่านกระทู้บ่อยๆ เลยเก็บไปฝันก็อาจจะใช่ แต่ก็แปลกที่ว่าฝันคล้ายๆ กัน หลายท่าน

ที่เล่าความฝัน ไม่ได้ปดเลยนะครับ เรื่องจริงล้วนๆ

 

โอนเงินแล้วนะครับ เมื่อวันที่ 24/01/56 เวลา 13.46 น. ยอดเงิน 2060.99 บาทครับผม

สำหรับวัตถุมงคลขอให้เสกต่อไปเรื่อยๆเลยครับ

ขออภัยครับที่โอนเงินล่าช้า

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ

ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณมากครับ....(ไม่ฝันถึงผมบ้างหรือ?)

.......................................

พี่นิ่มโทรฯมาปลุกตอนเที่ยงคืน แกดีใจและตื้นตันใจมากที่ได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดเข้าพิธีฯที่วัดบ้านกรวด
(ผมก็ตื้นตันใจมาก แต่รอเช้าซะหน่อยจะดีกว่านี้มากเลย...)

เป็นงานพิธีฯของทางวัดฯในการอธิฐานจิตพระกริ่งฯ รุ่นพุทธชยันตี (สมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์ฯ) นิมนต์พระเถระมาหลายรูป(เก่งๆทั้งนั้น)
จำคราวๆว่าหลวงปู่ฯมีอายุกาล 103-104 ปั ยังแข็งแรง

งานนี้พี่นิ่มร่วมสมทบทุนเป็นเหรียญฯ 200 เหรียญ และพระสมเด็จปรกโพธิ์(องค์ปฐม) อีก 100 องค์ (เจ้าภาพขอหลังพิธีฯงานวัดป่าแดง)

วันเสาร์-อาทิตย์ นี้นัดรับหมูฯกับพี่นิ่มแล้ว หวังว่าคงไม่โดนเบี้ยวอีก

........................................

สองสามวันมานี้ บ่นๆกับแฟนอยู่ ว่าถ้าไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต ก็เหมือนอยู่รอวันตายไปวันๆหนึ่ง.... กรรมฐานอย่างเดียวครับ เอาอยู่!

 

เรื่องเล่า

ตอน : คิดถึงเรื่องเก่าๆ อยากเอามาเล่าให้อ่านฯ

วันนี้ผมนั่งคิดถึงใครๆ หลายคน ที่ผมเคยอ่านผลงาน เช่น คุณนิมิตร ภูมิถาวร ที่ทำให้ผมรู้ว่าเวลาได้ยินเสียงเก้ง เขาไม่เรียก

ว่าเก้งร้อง เขาเรียกว่า"เก้งเขก" หรือได้ยินเสียงกวาง เขาก็ไม่เรียกว่ากวางร้อง เขาเรียกว่า"กวางปีป" คิดถึงท่าน จำลอง พิศนาคะ

เพราะผมมั่นใจปฏิทิน ๑๐๐ ปี เทียบ ๓ ภาษา และเคยอ่านวิธีการทำสมาธิหรือหนังสือที่สอนการเริ่มต้นฝึกหัด"การทำสมาธิ" ทำ

ให้รู้ว่าที่เราดูหนังจีนเกี่ยวกับวิชาตัวเบา แท้จริงแล้วมีพระไทยๆ ท่านทำได้มากมายหลายองค์ แต่ท่านที่ทำได้ท่านจะผ่านไปเพราะ

ไม่เกิดประโยชน์ ในฐานะที่ตัวเองชอบอ่านกำลังภายใน ก็ทำให้รู้ว่าบรรดาเจ้าสำนักหรือปราชญ์กระบี่ทำไมท่านจึงต้องปลีกเวลา

"เข้ากรรมฐาน" คิดถึง น.นพรัตน์ และ ว. ณ เมืองลุง ที่ได้ให้ความรู้ถึงวิธีการอ่านหนังสือกำลังภายในให้รู้เรื่องและจำได้อย่างสนุก

และสามารถนำไปใช้ได้กับการอ่านหนังสือทุกชนิด คิดถึงคุณสันติ เสวตวิมล ตั้งแต่เรื่อง"อรหันต์"อ่านตั้งแต่ไม่ดังจนเป็นหนังสือ

ที่ได้รับรางวัล และทำให้เข้าใจเรื่องของธรรมมะที่แท้จริง ว่ามันต่างกับทำมะอย่างไร คิดถึงโยมที่เคยให้ความรู้เกี่ยวกับกรรมฐาน

ทั้งกำถ่าน หรือกรรมฐานจงอาง ถ้ามีเวลาจะเอามาเขียนให้อ่านกัน คิดถึงท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ คิดถึงเรื่อง"แผ่วผ่านธารน้ำไหล"

ที่ท่านเขียนถึงในช่วงหนึ่งของการบวชของท่านที่ได้ไปจำวัดที่"วัดธารน้ำไหล หรือที่เรามักเรียกกันว่าสวนโมกข์" ทีทำให้ผมได้รู้ว่า

การทำสมาธิไม่เห็นจำเป็นต้องไปนั่งนานๆ ตอนล้างฝาบาตรก็ทำได้ ตอนนี้ก็เป็นที่รู้กันมากขึ้นว่าการนั่งนานๆหรือพูดให้ชัดเจนก็คือ

การนั่งวิปัสสนากรรมฐาน เป็นต้นเหตุของการเป็นโรคกระดูกไขข้อมากพอสมควร เคยเรียนไปนานแล้วว่าหนังสือผมหายไปหมดและ

นานแล้ว พอเขียนถึงท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กลัวจะเขียนชื่อและนามสกุลท่านผิดจึงไปเปิดหาใน Google เลยได้ของดีๆ จาก

กวีท่านนี้มาฝาก เพราะนานๆ จะเห็นท่านเขียนเรื่องเกี่ยวกับวงการบรรเทิง ลองอ่านกันดูนะครับ.....

@ เหนือเมฆ @

ศิลปินกับนักการเมืองนั้น

เหมือนกันตรงสร้างเรื่องโกหก

ศิลปินสร้างนิยายขยายยก

นักการเมืองสกปรกโกหกประชา

ศิลปินโกหกยกอ้างอิง

เพื่อเปิดเผยความจริงสิ่งเหนือกว่า

สมมติเรื่องโกหกยกขึ้นมา

กระชากม่านบังตาหายพร่ามัว

นักการเมืองโกหกเพื่อปกปิด

ความจริงอันทุจริตคิดร้ายชั่ว

สมมติเรื่องโกหกเพื่อยกตัว

เอาใบบัวบางบิดปิดช้างตาย

เรื่องเหนือเมฆเศกมนต์ให้คนชั่ว

ว่าเหนือวัวหลังหวะเปะปะป่าย

เห็นอีกาบินผาดก็หวาดร้าย

ตะโพงพายแผลงฤทธิ์เข้าขวิดจอ

มนุษย์จะต้องมีเสรีภาพ

เพื่อกำราบมารร้ายไม่ระย่อ

เมล็ดพืชแห่งสัจจะ จะร่วมกอ

เพื่อแตกหน่อต่อแขนงแห่งเสรี

ลายมือชื่อ :เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

จ.๖/๑/๕๖

สงสัยประการใดในบทกวีของท่าน เนาวรัตน์ พงไพบูลย์ บทนี้กรุณาเปิด Google อ่านเพื่อตรวจทานเองอีกครั้งนะครับ

ช่วงนี้ไม่มีสมาธิจะเขียนเลยหากินกับเรื่องของท่านนักเขียนที่เคยอ่านมา ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เขียนเรื่องดีๆ ให้ผมได้อ่าน

และนำมาให้ทุกท่านได้อ่านต่อ...และขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านข้อเขียนของผมจนจบ...สวัสดีครับ

 

อ.ธรรมนูญ สำนักบัวแปดกลีบ : มาลองของหรือเปล่า? ของที่ยกมาก็ดีอยู่แล้ว
21 ส.ค. 55 : หลวงพ่อลี วัดหัวตลุก : "ท่านท้าวสักกะเทวราชท่านมาเองเลยนะ...มาร่วมโมทนากับคุณด้วย"
27 ส.ค. 55 : ครูบาสายทอง วัดท่าไม้แดง : "ของที่อยู่ในลังนี้ มีรูปพระเจ้าตากสองพิมพ์ใช่ไหม ท่านมาเองเลยนะ..."
6 ก.ย. 55 : หลวงพ่อสมบุญ วัดปอแดง : "ของที่ยกมา ไม่ต้องเสกแล้วก็ได้นี่..."
6 ก.ย. 55 : หลวงปู่ผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว : "หมูเขี้ยวตันนะ มีชีวิตแล้วนะ คุ้มตัวคนใช้ได้แล้ว"
21 ส.ค. 55 : พระอาจารย์สมคิด วัดเนินสาธารณ์ : "ผมมีเท่าไหร่ ผมทำให้คุณนิ่มหมดเลย..."
12 ก.ย. 55 : พระปลัดนิวัติ วัดคมบาง : "เสียลั่นเปรี้ยะๆ รอบพระอุโบสถตลอด ข้างบนเค้าร่วมโมทนาด้วยนะ..."
15 ก.ย. 55 : หลวงปู่สุภา กันตสีโล : "ทำไมจะสู้เหรียญปี 2466 ไม่ได้... ครูอาจารย์เรามาเสกเองหมด..."
4-6 ก.ย. 55 : หลวงปู่สงัด วัดสันติคีรีเขต : "พรหมทั้ง 16 ชั้น มาร่วมโมทนากับเธอด้วยนะ...พระฯชุดนี้ หาเทียบได้ยาก..."
5 พ.ย.55 : หลวงปู่บัว วัดเกาะตะเคียน : "ของที่หลวงปู่ฯเสกให้ ไม่ต้องไปเสกเพิ่มแล้วนะ มันเกินแล้ว.."
5 ธ.ค.55 : หลวงปู่เพ็ง วัดบ้านละทาย : "ของเค้าทำมาดีแล้ว แต่จะทำให้..."

ตารางอาจจะยังไม่เรียบร้อยนะครับ ไว้จัดส่งกระดานฯพร้อมหมูฯชุดสุดท้าย กระดานน่าจะเล็กลง

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

หากประสงค์จะเสกเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ก็จะแล้วเสร็จพร้อมเหรียญกลางเดือน มีนาคม ศก หน้า

ทุกอย่างเป็นไปตามประสงค์ของเพื่อนสมาชิกครับ แต่ผมขอพึ่งสตางค์เพื่อนสมาชิกด้วย (มีเหตุให้ต้องใช้สตางค์เพื่องานนี้แล้วครับ)


ตะกรุด 4 มหาอำนาจ เริ่มโอนได้แล้วนะครับ
ปัจจัยค่าตะกรุดฯ เป็นไปเพื่อการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ของโรงเรียนวัดโพธิผักไห่
(ระบบภาพของทางเวปอาจจะมีปัญหา ผมลงภาพตารางไม่ได้ เลยฝากลิงค์ไว้ที่อื่นแก้ขัดไปก่อน)
http://pic.free.in.th/code.php?id=282334968a717e0935e5d4760ce37dcf




ตะกรุดฯชุดนี้ ถ้าเพื่อนสมาชิกไม่รีบ จะไปขอบารมีสายครูบาอาจารย์พี่นิ่มเสกเพิ่มเติมให้นะครับ
แววๆ ว่าต้นทุนต่อห้องเรียน ตกอยู่ที่ 500,000 บาท ท่านใดใจบุญ พร้อมกับทุนทรัพย์ที่ไม่จำกัด จะรับเป็นเจ้าภาพ ก็ขอโมทนาด้วยครับ
ทุกท่านจะได้รับใบอนุโมทนาจากทางโรงเรียนนะครับ จะลดภาษีได้มากกว่า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

....................................

หนังสือ"ปฐมสมโพธิกถา" ที่จะแจกฟรีเล่มหนามาก.... จะจัดส่งพร้อมกระดานชนวนหนุนดวง วัดโพธิผักไห่ เพราะใช้กล่องใหญ่ แข็งแรงปลอดภัยกว่าครับ ระหว่างนี้ ผมค้างของแถมใครบ้าง ทวงด้วยนะครับ เดี๋ยวลืมอีก

สโลแกนเดิม... โปรดรอ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> (ผมลืมแนบหนังสือให้คุณบี ไว้โอกาสหน้านะครับ ต้องขออภัย)<!-- google_ad_section_end -->

.....................................

***** คุณแม่ของพี่นิ่ม ต่อสู้กับมะเร็งที่ตับ เป็นๆหายๆ ตอนนี้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านบึง ยังเอาใจช่วยกันอยู่

 

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน

ขอให้คุณแม่พี่นิ่มหายป่วยไวๆนะครับ

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่านครับ

ขอให้คุณแม่ของพี่นิ่มสุขภาพแข็งแรงและหายป่วยในเร็ววันครับ เป็นกำลังใจให้ครับ