Boyloso Amulet พระเครื่องราคาเบาๆบ้านๆ (หลวงพ่อวิชัย, ครูบาเหนือชัย, ครูบาอริยชาติ ฯลฯ)

ขอเปิดกระทู้ใหม่ครับ กระทู้เก่าเจ๊งซะงั้น ลงรายการแล้วไม่ยอมอัพเดทหน้าให้ใหม่ งง เลย -*-

หลากหลายพระเครื่องผมที่สะสมไว้แบ่งให้เช่าบูชาครับ ทุกองค์รับประกันความแท้ 100% ถ้าเก๊ยินดีคืนเงินเต็มภายใน 1 เดือน ถ้าบูชาไปแล้วไม่ชอบขอคืนภายใน 7 วัน จะหัก 10% จากราคาทั้งหมดนะครับ รายได้ส่วนหนึ่งจากการให้เช่าบูชาจะแบ่งไปทำบุญตามโอกาศที่อำนวยครับผม

อนุพงศ์ อินต๊ะวงศ์
ธ.กสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย
271-2-07838-6 ออมทรัพย์

...โอนแล้วช่วยแจ้งและลงที่อยู่ไว้เลยนะครับ...
...รบกวนช่วยค่าส่ง EMS 50 บาท ครับ...
...รบกวนโอนภายใน 1 สัปดาห์หลังการจองนะครับ...

กระทู้เก่าที่เจ๊งครับ :
http://palungjit.org/threads/พระเครื่องราคาเบาๆ-ทรงคุณค่า-แบ่งเงินทำบุญครับ.362694/

 

(((หมดแล้วครับ)))

ของแถมพิเศษสำหรับท่านที่บูชาวัตถุมงคลในกระทู้นี้
1 user ต่อการบูชาพระ 1 ครั้ง เมื่อท่านโอนเข้ามาแล้วผมจะแถม

หนังสือสวดมนต์ + ตำรากินอย่างไร ไร้โรคภัย



แจกให้ผู้บูชาพระในกระทู้นี้ 1 User ต่อการบูชา 1 ครั้ง
รับพระไปบูชาเลยครับ 1 ชุดเหมือนเดิมครับ

 

พระเครื่องที่มีให้เช่าบูชา
16/04/2556

1.พระผงประทานพรนาคปรก (หน้า 1)
หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน จ.เชียงใหม่
แบ่งบูชา 99 บาท

2.สาริกาไม้กาฝาก (หน้า 1)
ครูบาเหนือชัย โฆษิโต วัดถ้ำป่าอาชาทอง จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 99 บาท

3.พระผงเกศาหลังยันต์ดวง ฝังแร่กายสิทธิ์ (หน้า 1)
หลวงพ่อก้ำ วัดบุญเกิด จ.พะเยา
แบ่งบูชา 99 บาท

4.พระผงหลวงปู่ทวด เนื้อผงอังคารธาตุ - เกศา ครูบาอาจารย์กรรมฐาน (องค์ที่ 1) (หน้า 2)
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 300 บาท

5.พระของขวัญ "พุทธรังษีบารมีโพธิสัตว์" สีรุ้ง (หน้า 2)
พิธีใหญ่วันจักรกรี 6 เมษายน 2551 ณ เขาเทวดา จ.สงขลา
แบ่งบูชา 200 บาท

6.ปิดตาจัมโบ้ รุ่นปลดหนี้ พระครูโลกอุดร วัดชุมพลนิกายาราม อยุธยา (หน้า 2)
หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม ปลุกเสก
แบ่งบูชา 200 บาท

7.เหรียญพระปิดตาหลังปลาตะเพียนคู่ (หน้า 2)
หลวงปู่ทิม อตตสันโต วัดพระขาว จ.อยุธยา
แบ่งบูชา 300 บาท

8.เหรียญกลมรุ่นสัมฤทธิ์ผลพูนทวี (หน้า 2)
ครูบาอุ่น อรุโณ วัดป่าแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
แบ่งบูชา 99 บาท

9.เหรียญใบขี้เหล็ก (แจกทาน) (หน้า 2)
หลวงพ่อสวัสดิ์ โสตฺถิตทตฺโต (พระราชสิทธิมงคล) วัดศาลาปูน จ.พระนครศรีอยุธยา
แบ่งบูชา 150 บาท

10.เหรียญฉลองพระอุโบสถวัดกลางเวียง (หน้า 3)
หลวงปู่สุธรรม สุธัมโม วัดกลางเวียง อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
มีเหรียญเดียว แบ่งบูชา 99 บาท

11.พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อต่วน อินทปัญโญ (หน้า 3)
วัดกล้วย จ.พระนครศรีอยุธยา
มีองค์เดียว แบ่งบูชา 200 บาท

12.พระผงหลวงพ่อมงคลบพิตร (หน้า 3)
พิธีสมโภชน์พระ เสาร์ ๕ ปี พ.ศ.๒๕๓๖
มีสององค์แบ่งบูชาองค์ละ 99 บาทครับ

13.เหรียญพ่อขุนเม็งรายมหาราช (หน้า 3)
ฉลองครบรอบ ๗๕๐ ปี เมืองเชียงราย งานพุทธาภิเษก ณ วัดพระแก้ว จ.เชียงราย
มีสองเหรียญ แบ่งบูชาเหรียญละ 99 บาทครับ

14.พระเจ้าทันใจก้นอุดผง + พลอยโมซัมมิค (หน้า 4)
หลวงปู่ครูบาคำแสง อธิจิตโต วัดพระธาตุสันขวาง
แบ่งบูชาองค์ละ 400 บาทครับ (เหลือ 2 องค์)

15.พระสมเด็จครกลอย (หน้า 4)
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 450 บาท

16.พระปิดตาไตรมาศรุ่นแรก (หน้า 4)
ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 300 บาท

17.เหรียญหลวงพ่อทองทิพย์หลังพระแม่ธรณีรุ่นแรก (หน้า 6)
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 200 บาท

18.กริ่งรูปเหมือนรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๓๗ (หน้า 7)
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 500 บาท

19.พระผงรูปเหมือนหลังโต๊ะหมู่รุ่นแรก ติดจีวร (หน้า 7)
หลวงปู่นนท์ วราโภ วัดเหนือวน จ.ราชบุรี
แบ่งบูชา 200 บาท

20.เหรียญหลวงพ่อทองทิพย์หลังพระแม่ธรณีรุ่นแรก (องค์ที่ 2) (หน้า 8)
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 200 บาท

21.เหรียญครูบาราศรี ภาคทุกขกริยา (หน้า 13)
หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ปลุกเสกเพิ่ม 6 เดือน
แบ่งบูชาราคา PM สอบถาม

22.พระยอดธง รุ่นสามัคคีมีสุข ๑ (หน้า 14)
วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร
แบ่งบูชา 300 บาท

23.เหรียญสิงห์ป้อนเหยื่อ (หน้า 15)
หลวงปู่แขก ปภาโส วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
แบ่งบูชา 300 บาท

24.เหรียญทำน้ำมนต์รุ่น 4 พิมพ์หลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อเงิน (หน้า 15)
หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด อธิษฐานจิต
แบ่งบูชา 2,000 บาท รายได้ทำบุญทั้งหมด

25.ตะกรุดยันต์เกราะเพชร (ดอกที่ 2) (หน้า 16)
พระครูบาเหนือชัย พุทธาภิเษกร่วมกับ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
แบ่งบูชา 300 บาท พร้อมหลอดแสตนเลส

26.เหรียญทำน้ำมนต์รุ่น 4 พิมพ์หลวงปู่มั่น เนื้อเงิน (หน้า 18)
หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด อธิษฐานจิต
แบ่งบูชา 2,000 บาท รายได้ทำบุญทั้งหมด

27.เหรียญทำน้ำมนต์รุ่น 4 พิมพ์หลวงปู่โต เนื้อเงิน (หน้า 19)
หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด อธิษฐานจิต
แบ่งบูชา 2,000 บาท รายได้ทำบุญทั้งหมด

28.เหรียญทำน้ำมนต์รุ่น 4 พิมพ์ครูบาศรีวิชัย เนื้อเงิน (หน้า 19)
หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด อธิษฐานจิต
แบ่งบูชา 2,000 บาท รายได้ทำบุญทั้งหมด

29.พระอุปคุตเกศานิโรธกรรม (หน้า 21)
พระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 300 บาท

30.ตะกรุดยันต์เกราะเพชร (ดอกที่ 3) (หน้า 22)
พระครูบาเหนือชัย พุทธาภิเษกร่วมกับ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
แบ่งบูชา 300 บาท พร้อมหลอดแสตนเลส

31.เหรียญขวัญถุงโภคทรัพย์ (หน้า 23)
หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด
แบ่งบูชา 300 บาท

32.พระกริ่งเขมิโย "รุ่นดวงธรรม" เนื้อผงพุทธคุณ (หน้า 23)
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 300 บาท

33.พระผงเนื้อว่านหน้าเสือ (หน้า 24)
หลวงปู่อั๊บ เขมจาโร วัดท้องไทร จ.นครปฐม
แบ่งบูชา 150 บาท

34.แผ่นยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า (หน้า 24)
หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
แบ่งบูชา 400 บาท

35.พระผงเนื้อว่านหน้าเสือ (องค์ที่ 2) (หน้า 24)
หลวงปู่อั๊บ เขมจาโร วัดท้องไทร จ.นครปฐม
แบ่งบูชา 150 บาท

36.พระผงโต๊ะหมู่ พิมพ์สมาธิ สีขาว (หน้า 24)
หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด
แบ่งบูชา 200 บาท (((คุณ Little Dragon จองแล้วครับ)))

37.เหรียญครูบาศรีวิชัย พิมพ์ย้อนยุค เนื้ออัลปาก้า (หน้า 25)
รุ่นบารมีสมปราถนา สืบบารมี 750 ปี เมืองเชียงราย
แบ่งบูชา 300 บาท

38.เหรียญครูบาศรีวิชัย พิมพ์ย้อนยุค เนื้ออัลปาก้า (องค์ที่ 2) (หน้า 25)
รุ่นบารมีสมปราถนา สืบบารมี 750 ปี เมืองเชียงราย
แบ่งบูชา 300 บาท

39.เหรียญหลวงปู่ทวดหลังปางธุดงค์ พ.ศ.2551 เนื้อทองแดง (หน้า 25)
วัดแคราชานุวาส จ.พระนครศรีอยุธยา
แบ่งบูชา 200 บาท

40.ตะกรุด พญายักษ์หลวง (หน้า 26)
หลวงพ่อมหาถาวร ยโสธโร วัดขัวแคร่ จ.เชียงราย
แบ่งบูชา 300 บาท

อนุพงศ์ อินต๊ะวงศ์
ธ.กสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย
271-2-07838-6 ออมทรัพย์

...โอนแล้วช่วยแจ้งและลงที่อยู่ไว้เลยนะครับ...
...รบกวนช่วยค่าส่ง EMS 50 บาท ครับ...
...รบกวนโอนภายใน 1 สัปดาห์หลังการจองนะครับ...

 

รายการที่ 1

พระกริ่งรูปเหมือนรุ่นแรก เนื้อทองทิพย์ พ.ศ.๒๕๓๗
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย

(((คุณ Little Dragon บูชาแล้วครับ)))



หลวงพ่อวิชัย เขมิโย ท่านเป็นพระกรรมฐานที่ทรงคุณอีกรูปหนึ่งในปัจจุบัน ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาจม ที่ อ.แ่ม่สาย จ.เชียงราย ท่านเป็นพระอีกรูปหนึ่งที่ หลวงตามหาบัว แห่งวัดป่าบ้านตาด กล่าวรับรองว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลกอีกรูปหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง



พระกริ่งรุ่นนี้จัดสร้างพร้อมกับกริ่งรูปเหมือนพระเจ้าทองทิพย์ ถือเป็นพระกริ่งรูปเหมือนรุ่นแรกของหลวงพ่อวิชัย ใครชอบบูชารูปเหมือนพ่อแม่ครูอาจารย์แนะนำรุ่นนี้เลยครับ บูชาไว้กับตัวเหมือนมีหลวงพ่อไปด้วยทุกที่ พระสวย พ.ศ.ลึก อายุพระ 18 ปีแล้วนะครับ น่าสะสมครับ

ปิดรายการครับ
พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด ตอกโค๊ดสวยงามครับ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทนะครับ

 

รายการที่ 2

พระผงเนื้อดินเผารุ่นแรก หลังผงวิเศษ + พระรอดเนื้อผงหลังจีวร
หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน จ.เชียงใหม่
ให้บูชาแบบแพ็คคู่ !!!


(((คุณ vingo บูชาแล้วครับ)))



ครูบาดวงดีท่านเป็นพระนักพัฒนา และยังเป็นหมอยาแผนโบราณอีกด้วย โดยสมัยก่อนท่านทำยาแผนโบราณได้หลายอย่าง โดยท่านทำเองทั้งหมดตั้งแต่ไปเก็บว่าน สมุนไพรต่างๆในป่า แล้วนำมาคั่วและบดทำเองทุกขั้นตอน รักษาชาวบ้านหายมานักต่อนักแล้วครับ



หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระเณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่งที่มีศรัทธาญาติโยม มาเคารพสักการบูชาทุกวัน โดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด

ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน ท่านเสกพระเครื่องกี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็ขลัง ในด้านการทำเครื่องรางท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเครื่องรางตำหรับล้านนา เช่นวัวธนูไม้สาน , ดาบสหรี๋กัญไชย ฯลฯ และยังว่ากันว่าท่านเสก พระราหู ได้ขลังไม่แพ้ใครเลยครับ ใครคิดว่าตัวเองดวงไม่ค่อยดี ดวงตก ลองนำพระราหูของท่านไปบูชาดูนะครับ

ปัจจุบันหลวงปู่ท่านมีอายุกาลพรรษา 98 ปีแล้วครับ ถือว่าอาวุโสสูงที่สุดในเชียงใหม่แล้ว
ใครมีโอกาศรีบไปกราบทำบุญกับท่านนะครับ

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 3

เหรียญสร้างบารมี เนื้อทองทิพย์
ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย

(((ปิดรายการครับ)))



ครูบาอริยชาติ ปัจจุบันแม้ท่านจะอายุกาลพรรษายังไม่มาก แต่คุณธรรมและบารมีของท่านไม่ธรรมดาเลยครับ ท่านสร้างวัดได้ใหญ่โต ท่านสามารถรู้ล่วงหน้าและท่านยังเข้านิโรธกรรมเป็นประจำทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะคนใกล้ไกลแม้ว่าในจังหวัดเชียงรายเอง หรือต่างจังหวัดถ้ามีโอกาศมาที่ อ.แม่สรวย ก็จะหาโอกาศมากราบทำบุญกับท่านเสมอ เพราะบารมีของท่านปัจจุบันนี้ขจรขจายไปทั่วครับ




นอกจากนี้ครูบาท่านยังศึกษาวิชาและศาสตร์ทางล้านนานมามากมายจากหลายอาจารย์ ได้แก่ ครูบาจันติ๊บ, ครูบาชุ่ม, ครูบาดวงดี, ครูบาจันทร์แก้ว, ครูบาอินตา, ครูบาผัด ฯลฯ นับว่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่แม้อายุยังน้อย แต่คงแก่เรียนมาก วิชาทั้งหลายที่ท่านศึกษามาท่านได้ทดลองแล้วว่าทำได้จริง และช่วยสงเคราะห์ผู้คนได้จริง หายากแล้วในปัจจุบันที่จะมีผู้รู้จริงแบบท่านครับ ปัจจุบันครูบาท่านยังปฎิบัติธรรมตามรอย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ท่านเคารพและเทอดทูน ท่ามกลางกระแสของโลกที่มีทั้งคนนินทาและสรรเสริญ แต่คุณธรรมของท่านนับวันยิ่งปรากฎให้เห็นว่าท่านเป็นพระดีจริงครับ



ปิดรายการครับ
ช่วยค่าจัดส่ง 50 บาทนะครับ

 

รายการที่ 4

พระผงรูปเหมือนพิมพ์ใบโพธิ์ ฝังแร่เหล็กไหล
หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย จ.ลำปาง

(((คุณ Little Dragon บูชาแล้วครับ)))



หลวงปู่แว่น ธนปาโล เป็นศิษย์ในสายหลวงปู่มั่น เป็นชาวสกลนคร โดยกำเนิด เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2453 ที่บ้านบัว อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร บวชตั้งแต่เป็นสามเณรอายุได้ 18 ปีที่ วัดศรีรัตนาราม อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์สีทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้พบหลวงปู่สิม พฺทธาจาโร ซึ่งเป็นญาติ เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก จึงได้สนใจการปฏิบัติทางสายธุดงค์กัมมัฏฐานในแนวทางหลวงปู่มั่น ได้บวชเป็นพระ เมื่ออายุ 21 ปี ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม จังหวัดนครพนม โดยพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาจากท่านพ่อลี ที่วัดป่าคลองกุ้ง จังหวัดจันทบุรี ก่อนที่จะเข้ามาเป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น หลวงปู่แว่น เคยเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาสอยู่ 6 ปี ก่อนที่จะมาอยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำพระสบาย อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง จนกระทั่งมรณภาพ วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2541 สิริรวมอายุได้ 88 ปี ตำแหน่งสมณศักดิ์ที่พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ เมื่อมรณภาพอัฏฐิของท่านแปรสภาพเป็นพระธาตุ



สำหรับ หลวงปู่แว่น ท่านมีของดีซึ่งท่านได้มาตอนธุดงค์คือเหล็กไหล ดังนั้นท่านจะเอาเหล็กไหลที่ได้มาใส่ไว้ในวัตถุมงคลของท่านบางรุ่น เช่นพระกริ่ง พระผง เป็นต้น วัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างมีไม่มากรุ่นนักและราคาเบา พุทธคุณครบเครื่องครับ

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 5

เสือไม้แกะ รุ่นเสือสั่งฟ้า
จำนวนจัดสร้างน้อยมากประมาณ 300 ตัว ครูบาจารสีแดงที่ตา ฐานตอกโค๊ด
พระครูบาเหนือชัย โฆษิโต วัดถ้ำป่าอาชาทอง จ.เชียงราย

(((คุณ เมฆดำ บูชาแล้วครับ)))



ครูบาเหนือชัย โฆษิโต หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า นักบุญแห่งขุนเขา คือพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบอีกรูปหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนดอยสูงคอยสั่งสอนธรรมะแก่ชาวบ้านชาวดอยมาเป็นเวลานาน ชื่อเสียงของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักกันเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ด้วยเหตุที่มีรายการท่องเที่ยวไปทำรายการเกี่ยวกับ การขี่ม้าไปบิณฑบาตรของท่านและพระสงฆ์รูปอื่นๆจนถูกจัดรวมอยู่ในทำเนียบ "อันซีนอินไทยแลนด์" ของ จ.เชียงราย ที่ใครมาเชียงรายแล้วไม่ไปไม่ได้

แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องราวของครูบาท่านยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปฎิบัติธรรมของท่านที่ว่ากันว่าท่านสามารถเข้าถึง ดวงธรรม ของสายวิชชาธรรมกาย, เรื่องของคาถาอาคมของท่านที่ไม่เป็นสองรองใคร และแม้แต่เรื่องฝีไม้ลายมือเรื่องศิลปะการต่อสู้ของไทยและล้านนา ที่หลายต่อหลายคนถึงกับต้องดั้นด้นไปเรียนวิชาเหล่านี้กับท่านและในเรื่อง ของการสาธารณประโยชน์ท่านก็เป็นพระนักพัฒนาตัวยงอีกด้วย



ปัจจุบัน ครูบาเหนือชัย ท่านก็ยังคงสั่งสอนธรรมะแก่ผู้คนที่แวะเวียนไปทำบุญกับท่านเสมอ และท่านยังออกบิณฑบาตรด้วยการขี่ม้าในทุกวัน วัตถุมงคลที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตส่วนมากเด่นด้านแคล้วคลาดและคงกระพันครับ ส่วนเรื่องเมตตามหานิยมก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

คาถาปลุกเสือ
นะโม 3 จบ แล้วว่า

"โอม พยัคโฆ พยักฆา สูญญา ลัพพะติ อิติ ฮัม ฮัม ฮึม ฮึม"
(ว่าคาถา 3 จบ แล้วอฐิษฐานเลยครับ ตอนว่าคาถา ฮัม ฮัม ฮึม ฮึม ให้ออกเสียงน่าเกรงขามหน่อยจะดีครับ ปลุกตนไปด้วย)

ปิดรายการครับ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 6

พระผงประทานพรนาคปรก
หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน จ.เชียงใหม่



ครูบาดวงดีท่านเป็นพระนักพัฒนา และยังเป็นหมอยาแผนโบราณอีกด้วย โดยสมัยก่อนท่านทำยาแผนโบราณได้หลายอย่าง โดยท่านทำเองทั้งหมดตั้งแต่ไปเก็บว่าน สมุนไพรต่างๆในป่า แล้วนำมาคั่วและบดทำเองทุกขั้นตอน รักษาชาวบ้านหายมานักต่อนักแล้วครับ



หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระเณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่งที่มีศรัทธาญาติโยม มาเคารพสักการบูชาทุกวัน โดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด

ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน ท่านเสกพระเครื่องกี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็ขลัง ในด้านการทำเครื่องรางท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเครื่องรางตำหรับล้านนา เช่นวัวธนูไม้สาน , ดาบสหรี๋กัญไชย ฯลฯ และยังว่ากันว่าท่านเสก พระราหู ได้ขลังไม่แพ้ใครเลยครับ ใครคิดว่าตัวเองดวงไม่ค่อยดี ดวงตก ลองนำพระราหูของท่านไปบูชาดูนะครับ

ปัจจุบันหลวงปู่ท่านมีอายุกาลพรรษา 98 ปีแล้วครับ ถือว่าอาวุโสสูงที่สุดในเชียงใหม่แล้ว ใครมีโอกาศรีบไปกราบทำบุญกับท่านนะครับ

แบ่งบูชา 99 บาท
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 7

รูปอัดกระจกหลังแผ่นทอง หมายเลข 33
หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล
วัดศรีสว่าง อ.วัวลาย จ.เชียงใหม่

(((คุณ beleive บูชาแล้วครับ)))



หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล วัดศรีสว่าง หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ ที่มีพรรษาแก่กล้าและวัตร ปฏิบัติอันงดงาม เรียบง่าย ตามแบบอย่าง ครูบาอาจารย์ และพระสุปฎิบันโน ใน อดีตกาลผ่านมา โดยหลวงปู่จันทร์แก้ว หรือครูบาจันทร์แก้ว ชาติภูมิเดิม ท่านเป็น คนบ้านกวน โดยกำเนิด สถานที่กำเนิดหรือบ้านเดิมของท่าน ก็อยู่ บริเวณฝั่งตรงข้ามวัดบ้านกวน และห่างจากวัดไม่ไกลเท่าใดนัก หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล ท่านถือกำเนิด ในสกุล ดอกศรีเมือง เมื่อ วันจันทร์ ที่ ๕ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๙ ปีมะโรง โยมบิดาชื่อ พ่อหนานนิล โยมมารดาชื่อ แม่ บัว ดอกศรีเมือง มีพี่น้องรวมกันทั้งหมด ๗ คน โดยท่านเป็นลูกคนที่ ๒ และด้วยเหตุ ที่ท่าน อยู่ใกล้ กับวัดนี้เอง ทำให้ท่านมีความผูกพัน กับวัดมาตั้งแต่เยาว์วัย จนกระทั่งท่านอายุ ๙ ขวบ โยม บิดา ได้นำท่านไปฝากเป็นเด็กวัดหรือ ทางเหนือจะเรียก เด็กวัดว่า (ขะโยม) กับท่านเจ้าอาวาส วัดบ้านกวน ในช่วงนี้ท่านได้มีโอกาสได้เล่าเรียน ตัวอักษรลานนา (ตั๋วเมือง) โดยมี พ่อชื่น หรือ สามเณรชื่นในขณะนั้นซึ่งเป็น รุ่นพี่คอย สอนหนังสือให้ท่าน และก็นับเป็น ครูคนแรกของท่านด้วย จวบจนอายุได้ ๑๒ ปี ท่านก็ได้บวชเป็นสามเณรที่ วัดบ้านกวนนี้เอง ช่วงนี้ท่านก็มีโอกาสได้เล่าเรียน นักธรรม บาลี เรียนหนังสือ ที่วัดทรายมูล ซึ่งก็ไม่ไกลจากวัดที่ท่านอยู่เท่าใดนัก และอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ อุโบสถวัดขันแก้ว โดยมีพระครูวัดทรายมูลเป็นพระอุปัชฌาย์หลังจากนั้นไม่นาน หลวงพ่อแก้วเจ้าอาวาสองค์เดิมท่านได้ลาสิกขาบท ออกไปเป็น ฆาราวาส ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านกวนว่างลง พระจันทร์แก้ว พระหนุ่มในเวลานั้น จึงต้องรับหน้าที่การเป็นเจ้าอาวาสแทน หลวงพ่อแก้ว ตั้งแต่เวลานั้นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ในด้านการพัฒนา หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้วท่านได้ ขยาย อาณาเขตบริเวณวัดออกไปให้กว้าง กว่าเดิม ซึ่งวัดบ้านกวนเดิมเป็นวัดเก่าแก่ มีเจดีย์ทรงลังกา ของเดิมเริ่มทรุดโทรม หลวงปู่ท่านเลยทำการบูรณะโดยการสร้างพระเจดีย์ครอบองค์เดิม และสร้างวิหาร สร้างกำแพงใหม่ ศาลาการเปรียญ ท่านได้จัดตั้งมูลนิธิวัดศรีสวาง ขึ้น เพื่อใช้ในกิจการสาธารณะประโยชน์ และค่าใช้จ่ายในวัด โดยมีคณะกรรมการดูแล

ในด้านวัตรปฏิบัติท่านยึดถือปฏิบัติแบบ “คัณทาธุระปฏิบัติ” มาโดยตลอด และเน้นหนักไปทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน ส่วน คถาอาคมนั้นท่านเล่าว่า “ก็พอมีเหมือนกันแต่ส่วนใหญ่จะเน้นการภาวนา”

ปัจจุบัน พ่อลูนซึ่งเป็นน้องแท้ๆของท่านเป็นคนอุปฐากและคอยดูแลท่าน เรื่องที่น่าแปลกอีกประการหนึ่งซึ่งพ่อลูนได้กรุณาเล่าให้ฝัง คือมีอยู่คนหนึ่งอยู่ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นคนที่มีสัมผัสพิเศษในการนิมิตไปในที่ต่างๆ ชื่อคุณไพศาล แสนไชย ในนิมิติได้เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งกำลังเจริญภาวนาเกิดมีแสงสีน้ำเงินใสอยู่รอบตัวพระภิกษุรูปนั้น พอรุ่งเช้าก็ได้ออกตามหาตามที่อยู่ในนิมิตินั้น โดยที่คุณไพศาลกับหลวงปู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจนมาเจอกับหลวงปู่จันทร์แก้ว ซึ่งก็ตรงกันกับพระภิกษุที่เห็นในนิมิตินั้น และต่อมาคุณไพศาลได้ไปมาหาสู่กับหลวงปู่หลายครั้ง และเรื่องที่น่าแปลกอีกประการหนึ่งก็คือในวันที่มีการพุทธาพิเศกพระเครื่องนั้นในรูปถ่ายมีรูปกลมๆสีขาวลอยอยู่มากมาย มีอยู่หลายมุมและหลายๆภาพด้วยกันซึ่งก็คงไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่นอน

หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว นั้นเป็นพระที่เมตตามากๆๆๆๆๆๆ ใครได้เคยพบท่านจะรู้สึกถึงความเมตตาของท่านได้ทันที วัตถุมงคลของท่านแม้จะมีไม่มาก แต่ก็เป็นที่เสาะแสวงหาของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก เพราะมีพุทธคุณมาก ทั้งเมตตา (เด่นมากๆ) แคล้วคลาด และด้านคงกระพันก็มีให้เห็นครับ

รูปอัดกระจกหลังแผ่นทองมีจาร พร้อมเลขกำกับ, โค๊ดรูปดาว หายากครับ

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 8

สาริกาไม้กาฝาก
พระครูบาเหนือชัย โฆษิโต วัดถ้ำป่าอาชาทอง จ.เชียงราย



ครูบาเหนือชัย โฆษิโต หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า นักบุญแห่งขุนเขา คือพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบอีกรูปหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนดอยสูงคอยสั่งสอนธรรมะแก่ชาวบ้านชาวดอยมาเป็นเวลานาน ชื่อเสียงของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักกันเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ด้วยเหตุที่มีรายการท่องเที่ยวไปทำรายการเกี่ยวกับ การขี่ม้าไปบิณฑบาตรของท่านและพระสงฆ์รูปอื่นๆจนถูกจัดรวมอยู่ในทำเนียบ "อันซีนอินไทยแลนด์" ของ จ.เชียงราย ที่ใครมาเชียงรายแล้วไม่ไปไม่ได้

แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องราวของครูบาท่านยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปฎิบัติธรรมของท่านที่ว่ากันว่าท่านสามารถเข้าถึง ดวงธรรม ของสายวิชชาธรรมกาย, เรื่องของคาถาอาคมของท่านที่ไม่เป็นสองรองใคร และแม้แต่เรื่องฝีไม้ลายมือเรื่องศิลปะการต่อสู้ของไทยและล้านนา ที่หลายต่อหลายคนถึงกับต้องดั้นด้นไปเรียนวิชาเหล่านี้กับท่านและในเรื่อง ของการสาธารณประโยชน์ท่านก็เป็นพระนักพัฒนาตัวยงอีกด้วย



ปัจจุบัน ครูบาเหนือชัย ท่านก็ยังคงสั่งสอนธรรมะแก่ผู้คนที่แวะเวียนไปทำบุญกับท่านเสมอ และท่านยังออกบิณฑบาตรด้วยการขี่ม้าในทุกวัน วัตถุมงคลที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตส่วนมากเด่นด้านแคล้วคลาดและคงกระพันครับ ส่วนเรื่องเมตตามหานิยมก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

คาถาสาริกาลิ้นทอง :

พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิริมะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิรปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ
อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเต

(คาถาสาริกาลิ้นทอง วิธีใช้ คาถาสาริกาลิ้นทอง หากต้องการให้คนรักใคร่ พูดจาเป็นเสน่ห์ ตอนท่องถึงคำว่า มิ ก็ให้แตะที่ลิ้นด้วยทุกครั้ง คาถาสาริกาลิ้นทอง ศักดิ์สิทธิ์นักแล)

แบ่งบูชา 99 บาท
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 9

พระขุนแผนแขนอ่อนพิมพ์ใหญ่ หลังรูปเหมือนหลวงพ่อลำใย
ปลุกเสกโดย หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
พระผงของท่านมีผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ผสมทุกองค์ครับ

(((คุณ kikhoh บูชาแล้วครับ)))



หากกล่าวถึงวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชื่อว่ามีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อพระอริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งพระนาม พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อย่างแน่นอน ซึ่งถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงปัจจุบันหลายปีนับตั้งแต่พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2533 แต่ด้วยความศรัทธาที่ศิษย์มีต่อหลวงปู่อย่างเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย และยิ่งเพิ่มมากขึ้นๆ ดังจะเห็นได้จากงานบุญที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 17 มกราคม ที่วัดสะแกแห่งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พระพรหมปัญโญ ที่ท่านมีพระเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกล

และ ณ วัดสะแก แห่งนี้หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่ายังมีพระอริยะเจ้าอยู่อีกรูปหนึ่งที่สืบสานแนวทางปฎิบัติตามแนวทางของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และยังถือได้ว่าพระอริยะสงฆ์รูปนี้ท่านคือศิษย์เอกของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญด้วย

ปัจจุบันพระคุณเจ้ารูปนี้ท่านมีอายุย่างเข้าสู่ 81 ปี (พ.ศ.2555) ซึ่งถือว่าพระคุณเจ้าท่านเป็นพระอาวุโสที่สุดของวัดแห่งนี้ พระคุณเจ้าท่านได้บรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 หรือที่เรียกว่า กึ่งพุทธกาล พระอริยะสงฆ์รูปนี้คือ พระคุณเจ้าหลวงพ่อลำใย สัญญโม ซึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้น ท่านจึงมีพรรษามากที่สุด เป็นพระอาวุโสที่สุด ณ วัดสะแก แห่งนี้



หลวงพ่อลำใยเป็นศิษย์ในองค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2500 แล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดสะแกตลอดมา โดยมากไม่ค่อยได้ศึกษาวิทยาคุณจากหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ สักเท่าไร เพราะไปเน้นกัมมัฏฐานและวิชาส่วนใหญ่จากหลวงปู่ดู่ท่านเองมีจริตที่ค่อนข้างหนักไปทาง "อยู่คง" และเจริญเตโชกสิณอยู่เนืองนิจ แม้หลวงปู่ดู่จะคอยตรวจจิตท่านและปรามอยู่เสมอ ท่านก็ยังคงแอบ ๆ ทำ และประวัติศาสตร์ในองค์หลวงปู่ดู่กับหลวงพ่อลำใยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ พระหลาย ๆ รุ่นของหลวงปู่ดู่นั้น ไม่ว่าจะวัดสร้างหรือศิษย์สร้าง หลวงปู่ดู่ได้มอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสกก่อนหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าหลวงปู่ดู่จะละเลยไม่ได้เสกอีกแต่อย่างใด หากเป็นกุศโลบายในการตรวจสอบวิถีจิตของหลวงพ่อลำใย

เช่น ครั้งหนึ่งที่นาวาเอกสำเภา คมสันต์ และ นาวาเอกจำเนียร ตู้จินดา ไปกราบนมัสการหลวงปู่ ก็เห็นหลวงปู่ให้ศิษย์ยกถาดบรรจุพระมอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสก ผู้การทั้งสองท่านได้เห็นเพียงเท่านั้นก็ยังให้นึกแปลกใจอยู่ครามครันแต่ก็ไม่กล้าซักถามใด ๆ จนผ่านไปร่วมเดือนก็กลับไปวัดสะแกเพื่อกราบหลวงปู่ดู่อีกครั้ง ก็ช่างให้บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นหลวงพ่อลำใยยกถาดพระกลับมาถวายคืนหลวงปู่ดู่พอดี

ทันทีที่หลวงพ่อลำใยยกถาดมาถึงหลวงปู่ดู่ ท่านเพียงหันไปมองเท่านั้นก็โบกมือไล่พร้อมบอกว่า "ใช้ไม่ได้ เอาไปเสกใหม่ ท่านทำอย่างนี้ใครเขาจะเอาไปใช้ได้ ไปทำให้เย็น" หลวงพ่อลำใยก็ยกถาดกลับไปแต่โดยดี ผู้การทั้งสองก็ให้งงเป็นนักหนาเพราะบังเอิญได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญนี้ถึงสองครั้งสองคราว ครั้งนี้จึงอดถามไม่ได้ว่า "หลวงลุงครับ ทำไมถึงให้อาจารย์ใยไปเสก"

ท่านตอบว่า "ข้าให้เขาหัดทำ"
"แล้วทำไมหลวงลุงถึงว่าใช้ไม่ได้"

"ก็เขาเพ่งเสียไฟลุกมาเต็มถาดอย่างนั้นใครจะเอาไปใช้ได้ ร้อนแบบนั้นก็มีแต่เรื่องน่ะสิ"
แล้วเรื่องนี้ก็เงียบหายไปจากความทรงจำของท่านผู้การทั้งสอง เหตุการณ์นี้เกิดในราวปี พ.ศ. 2516

ต่อมาท่านผู้การจำเนียร ตู้จินดา ได้กรุณาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ผมก็สงสัยเป็นอย่างยิ่ง วันหนึ่งที่ได้ไปกราบหลวงพ่อลำใยที่วัดสะแก จึงได้ไปเรียนถามท่านตรง ๆ โดยเล่าเรื่องอันเป็นปฐมเหตุก่อน แล้วจึงถามว่าจริงหรือไม่อย่างไร ?

ท่านตอบทันทีว่า "จริง" และเมตตาเล่าว่า "ตอนนั้นได้วิชามาเยอะ หลวงลุงท่านก็เลยเอาพระของท่านมาให้หัดเสก ข้ามันคนชอบเหนียวก็เลยเพ่งเตโชกสิณใส่ เอาซะร้อนเชียว พอยกไปท่านก็ดุน่ะสิ ให้ข้ากลับมาทำใหม่ ข้าก็เลยมาทำทางเมตตาเอาเย็นเข้าว่า พอยกกลับไปคืนทีนี้ท่านว่า ใช้ได้ ใช้ได้" ตอนท้ายท่านปรารภว่า เออ ผู้การทั้งสองนี่ก็ยังความจำดีนะ

ขอขอบคุณข้อมูลข้างต้นจากอินเตอร์เน็ตครับ
*************************************************

มีเรื่องแถมคือ พี่ผมคนหนึ่งไปวัดสะแกหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยเข้าไปกราบหลวงพ่อลำใยเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีอยู่วันหนึ่งแกไปวัดสะแกตามปกติ ก็เจอคนมุงขวดอะไรอยู่กลุ่มใหญ่ เลยเข้าไปดูในขวดใสนั้นเป็นผลึกใสๆ เหมือนเม็ดแก้วอยู่เต็มขวด พอถามคนที่มุงอยู่นั้นได้ความว่าขวดที่ใส่เม็ดแก้วใสๆนี่คือขวดที่ "เก็บปัสสาวะของหลวงพ่อลำใย" ที่ลูกศิษย์คนหนึ่งขอท่านเก็บไว้ ซึ่งตอนได้มาคือน้ำปกติ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นพระธาตุไปแล้วครับ

(อย่าคิดว่าไม่สมควรนะครับ มีหลายต่อหลายท่านที่รักและเคารพครูบาอาจารย์มากๆ แม้ปัสสาวะ อุจจาระ ฯลฯ เขาก็ยังขอเก็บไว้ และกลายเป็นพระธาตุก็มีหลายรูป เช่น หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อุจจาระท่านยังมีกลิ่นหอม เป็นผลึกแก้วไปเลยก็มี) เรื่องที่เล่ามาก็ขอให้ใช้วิจารณญาณนะครับ ความศรัทธาของคนใครไม่เจอไม่รู้หรอกครับ

พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ พุทธคุณครบเครื่องทั้งเมตตา แคล้วคลาด แถมมีผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ผสมด้วยนะครับ

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 10

พระหลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ พิมพ์ใหญ่ ปี พ.ศ.๒๕๐๖
พระเก่า พ.ศ.ลึก มวลสารเยี่ยม เกจิขลัง
ปลุกเสกโดย อาจารย์ทิม วัดช้างไห้

(((ปิดรายการครับ)))



วัดพะโคะ เป็นวัดที่ สมเด็จเจ้าพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวด เคยพำนักจำพรรษามาก่อน เนื่องจากชาวอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ก็ต้องการมีพระเครื่องในนาม หลวงพ่อทวด มาบูชาบ้างด้วยเหตุนี้ ท่านอาจารย์เขียว ปุญญผโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพะโคะ ซึ่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสใน ขณะนั้นจึงได้ร่วมกับคณะกรรมการ วัดพร้อมชาวบ้านที่นั่นทำการสร้าง พระหลวงพ่อทวด ขึ้นบ้าง โดยรวบรวมวัสดุที่จะนำมาเป็นเนื้อหาในการสร้างพระอาทิ ว่าน 108 ชนิด ที่นำมาจากวัดต่าง ๆ, น้ำผึ้งรวง, กล้วยน้ำว้า, น้ำมันตังอิ๊ว พร้อม ผงพุทธคุณอื่น ๆ มาผสมเป็นเนื้อเพื่อสร้างพระขึ้น



โดยเริ่มดำเนินการในช่วงเข้าพรรษาเดือน 8 ของปี พ.ศ. 2506 ด้วยการจัดสร้างแม่พิมพ์ด้วยเนื้อหินจำนวน 12 แม่พิมพ์ มีทั้งพิมพ์แบบ พระซุ้มกอ, พิมพ์ใหญ่, พิมพ์เล็ก ตลอดทั้งแกะพิมพ์พิเศษขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่กรรมการที่มาช่วยงานเป็น พิมพ์รูปไข่, พิมพ์ใหญ่, พิมพ์เล็ก ที่เรียกกันว่า พิมพ์กรรมการใหญ่และเล็ก



โดยมี ปลัดศักดา ไชยาวรรณ ซึ่งเป็นผู้ชำนาญด้านการแกะ แม่พิมพ์โดยเป็นผู้ที่แกะแม่พิมพ์พระให้กับ วัดยะหา และ วัดเมือง มาก่อน ซึ่งหลังจากแกะแม่พิมพ์เสร็จแล้วจึงระดมชาวบ้านมาร่วมกันกดพิมพ์พระ โดยทุกคนต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนแล้วนุ่งขาวห่มขาว มารับศีลพร้อมทำสมาธิตามขั้นตอนการสร้างพระเครื่องของวัดพะโคะ อีกทั้งการพิมพ์พระครั้งแรกนั้นก็ต้องให้บุคคลที่มีชื่อเป็นมงคลอย่างเช่น นายนำ, นายชัย, นายคง เป็นต้น เป็นผู้กดพิมพ์พระเป็นครั้งแรกภายในวงสายสิญจน์ครั้งละ 5-6 คน ระหว่างนั้นก็จะมีการสวดมนต์ของพระสงฆ์ตลอดการจัดสร้างที่ใช้เวลานับเดือนจึงได้พระมากมายเรียกว่าครบตามจำนวนพระธรรมขันธ์คือ 84,000 องค์ จากนั้นจึงนำเนื้อพระที่เหลือไปกด พิมพ์กรรมกา ต่อจนเนื้อพระหมดปรากฏว่าพิมพ์นี้กดพิมพ์พระได้น้อยมากเพราะเนื้อที่ผสมมาสร้างพระหมดลงก่อน จึงเป็นเหตุให้พิมพ์กรรมการมีค่านิยมสูงกว่าพิมพ์อื่น ๆ

หลังการกดพิมพ์พระเสร็จสิ้นพร้อมเนื้อพระแห้งดีแล้วจึงจัดพิธี พุทธาภิเษกขึ้นโดยมอบให้ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นผู้ดำเนินการด้านพิธีการด้วยการนิมนต์เกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นหลายรูปมาร่วมพิธี โดยไม่ลืมทำการอัญเชิญบารมีหลวงพ่อทวดมาร่วมในพิธีด้วยเช่นกัน (โดยอาจารย์ทิม วัดช้างไห้) และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษกแล้วจึงนำแจกจ่ายแก่ชาวบ้านทั่วไปโดยเนื้อหาของพระมีหลายสีเช่น ดำ, เทา, น้ำตาล และ น้ำตาลอมแดง ซึ่งจากวันนั้นมาถึงวันนี้ พระหลวงพ่อทวดวัดพะโคะ รุ่นนี้ก็มีอายุร่วม 50 ปีแล้ว

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 11

เหรียญครูบาศรีวิชัย รุ่นบ้านปาง พ.ศ.๒๔๙๐
พิมพ์หน้าแก่หลังพระธาตุดอยสุเทพ เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง
หายากครับ สายครูบาศรีวิชัยเก็บกันมานานแล้ว

(((คุณ thth บูชาแล้วครับ)))



ประวัติครูบาเจ้าศรีวิชัย"ครูบาศรีวิชัย" ครูบาเจ้าศรีวิชัย เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ.2421 (เมื่อ ๑๓๐ ปีก่อน) ตรงกับปีขาล เดือน ๙ เหนือ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ที่บ้านปาง เมืองลี้ ปัจจุบันอยู่ในเขต ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน เป็นบุตรคนที่ ๓ ใน ๕ คน ของ นายควาย และ นางอุสา ไม่ปรากฏว่าใช้นามสกุลอะไรในเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น ต้นตระกูลเป็นหมอคล้องช้างของ เจ้าหลวงดาราดิเรกฤทธิ์ไพโรจน์ (เจ้าดาวเรือง) เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์ที่ ๗ เป็นช่วงปลายแผ่นดินรัชกาลที่ ๕



ครูบาเจ้าศรีวิชัย เมื่อแรกเกิดชื่อ เพือน, อินทร์เฟือน หรือ อินตาเฟือน อันหมายถึงขณะถือกำเนิดนั้นได้เกิดปาฏิหาริย์ มีฟ้าร้องคำรามจนสะเทือนถึงองค์อินทร์บนสรวงสวรรค์ บางแห่งระบุว่า แรกเกิดมีชื่อว่า ฟ้าร้อง หรือ ฟ้าฮ้อง เมื่ออายุ ๑๘ ปี ได้บวชเป็นสามเณร โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ ครูบาขัตติยะ หรือ ครูบาแค่งแคระ (แข้งแคระ=ขาสั้น) ซึ่งเป็นพระธุดงค์เดินผ่านมาที่บ้านปาง เป็นผู้บวชให้ ต่อมาเมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ได้อุปสมบทโดยมี ครูบาสมณะ วัดบ้านโฮ่งหลวง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายา “สิริวิชโยภิกขุ” หรือ “พระสีวิไช” แล้วได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาธรรม ทว่ากลับสนใจทางวิชาไสยศาสตร์ คาถาอาคม โหราศาสตร์ แพทย์แผนโบราณ การก่อสร้าง และวิชาป้องกันตัวต่างๆ มากเป็นพิเศษ ถึงกับได้สักหมึกดำที่ขาทั้งสองข้าง

ต่อมาท่านครูบาได้เดินทางสู่ สำนักวัดดอยแต หรือวัดบ้านนาแต บ้านทากาศ ลำพูน สำนักสงฆ์สายอรัญญวาสี เพื่อศึกษากับ ครูบาอุปละ ซึ่งเป็นจุดพลิกผันต่อวิถีชีวิตของพระศรีวิชัย เพราะเป็นการกลับมามุ่งเน้นความรู้ด้านการปฏิบัติธรรม การบำเพ็ญสมาธิภาวนา ทำให้พระศรีวิชัยเลิกความสนใจไสยศาสตร์ และตัดสินใจอยู่ในร่มเงาของผ้ากาสาวพัสตร์อย่างถูกทาง หลังจากนั้น ได้ไปศึกษาต่อกับ ครูบาวัดดอยคำ ที่แม่ทา และกลับไปศึกษาเพิ่มเติมกับครูบาสมณะ ผู้เป็นอุปัชฌาย์อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจึงกลับสู่บ้านปาง ในฐานะเจ้าอาวาส สืบต่อจากครูบาแค่งแคระ

วัดบ้านปาง ตั้งอยู่ที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๙ โดยมีครูบาขัติยะเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ในพ.ศ. ๒๔๔๗ ท่านได้สร้างวัดขึ้นใหม่ ห่างจากชุมชน เป็นวัดป่าบนเขา และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น วัดสะหรีดอนไชยทรายมูลบุญเรือง (สะหรี=ศรี) ถือเป็นผลงานชิ้นแรกของครูบาเจ้าศรีวิชัย ท่านครูบาได้สร้างวัดและบูรณะวัดต่างๆ ในภาคเหนือมากมาย นับเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ของท่าน ที่พุทธศาสนิกชนต่างเคารพเทิดทูน และศรัทธาเลื่อมใสท่านอย่างกว้างขวาง ท่านครูบา"ครูบาศรีวิชัย"มรณภาพเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๑ ทิ้งผลงานไว้เป็นอนุสรณ์ให้แก่คนรุ่นหลังจนทุกวันนี้"ดร.เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์"

ที่มา...ข่าว การเมือง บันเทิง อาชญกรรม เศรษฐกิจ สังคม พระเครื่อง ดูดวง ละคร คมชัดลึก หนังสือพิมพ์

ปิดรายการครับ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาท เช่นเดิมครับ

 

รายการที่ 12

สีผึ้งจักรพรรดิ์มหาลาภ
(แผ่นสีดำที่เห็นคือแผ่นเงินเปลว)

(((คุณ jopadawan บูชาแล้ว 2 ตลับ)))
(((คุณ dejlee บูชาแล้ว 1 ตลับ)))
(((คุณ Daverko บูชาแล้ว 1 ตลับ)))
(((คุณ มีนัม บูชาแล้วครับ)))



สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภ

ได้รับคำสั่งจากครูบาอาจารย์ได้มีเมตตามาสั่งพระทางกรรมฐาน ให้ทำพิธีการกวนสีผึ้งตามแบบตำราโบราณและทำการรวบรวมสีผึ้งมวลสารที่สำคัญต่างๆของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่นับถือ โดยแต่ละองค์จะมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ โดยท่านได้ตั้งชื่อว่า สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภ ซึ่งท่านยังสงเคราะห์ในมวลสารต่างๆให้ได้มาโดยง่าย สีผึ้งที่ได้มาหลักๆเช่น สีผึ้งของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค ที่ผสมขี้หอมของหลวงปู่เท่ากำปั้นมือ, สีผึ้งของหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุขจำนวนหลายสิบตลับ, สีผึ้งหลวงพ่อฤาษีลิงดำสมัยท่านยังมีชีวิต, สีผึ้งหลวงพ่ออุตตมะ, เทียนพุทธาภิเษกของวัดท่าซุงสมัยหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านยังมีชีวิต, เทียนทำน้ำมนต์เสาร์ 5 วัดท่าขนุน, ผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่ , ผงคำข้าวและหางหมากของหลวงพ่อฤาษีลิงดำตอนท่านยังมีชีวิต, ผงอิทธิเจของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์, ข้าวสารของหลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด และผงเกสรดอกไม้ตามสถานที่สำคัญทั้ง 76 จังหวัด เป็นต้น

นอกจากนี้สิ่งของที่ใช้ผสมสำหรับกวน มีขี้ผึ้งแท้ 6 กก., วาสลีน 2 กก., น้ำมันมะกอก 2 ลิตร, น้ำมันหอมเก้ากลิ่น เป็นต้น ซึ่งได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์หลายท่าน อธิฐานจิตสีผึ้งและสิ่งของต่างๆก่อนการกวนมีดังนี้ หลวงปู่ทิม วัดพระขาวก่อนท่านมรณภาพ, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน, หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ, หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์,หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาลาปูน, หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน, หลวงพ่อนวล ฯลฯ

ทางคณะผู้จัดทำได้ทำการรวบรวมมวลสารต่างๆต่อไปเรื่อยๆ จนครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้กวนสีผึ้ง ซึ่งทางคณะผู้จัดทำจึงได้ทำการกวน เมื่อวันลอยกระทง ปี 2551 เวลาเที่ยงคืน ตามตำราครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ถ่ายทอดมาให้

วิธีใช้

ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์, พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์, พระธรรม, พระอริยสงฆ์ทั้งหมด, ครูบาอาจารย์ทุกๆองค์, ท่านผู้มีคุณเป็นที่สุด แล้วอธิฐานใช้ตามความประสงค์ ก่อนใช้ว่าพระคาถา นาสังสิโม ปาสุอุชา

​

หมายเหตุ สีผึ้งนี้จะใช้ได้ผลกับท่านที่มีศีล คุณธรรม ห้ามดื่มสุราเมรัย ลักขโมย และท่านที่เป็นมิจฉาฐิทิ สีผึ้งนี้จะใช้ไม่ได้ผล ถ้าท่านที่ได้ไปสามารถนำไปต่อได้

มวลสารสีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภ

1. สีผึ้งขี้หอม ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
2. สีผึ้ง 100 ปี ล.ป.บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข
3. สีผึ้ง ล.พ.ฤาษีลิงดำสมัยท่านยังมีชีวิต
4. สีผึ้ง ล.พ.อุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
5. สีผึ้งสมเด็จเกี่ยวอธิฐานจิต
6. สีผึ้งของชมรมรักษ์พระบรมธาตุ
7. สีผึ้ง 108 พระอาจารย์
8. สีผึ้ง ล.ป.ทิม วัดพระขาว
9. สีผึ้ง เกศา จีวร ล.ป สรวง
10. สีผึ้งหลวงปู่หงส์
11. สีผึ้ง ล.พ.จรัญ วัดอัมพวันอธิฐานจิต
12. สีผึ้ง ล.พ.ฉาบ วัดศรีสาคร
13. สีผึ้งเมตตา ครูบากฤษณะ
14. สีผึ้ง หลวงพี่เอก วัดเขาแร่
15. สีผึ้ง ล.พ.คูณ ปริสุทโธ
16. สีผึ้ง ล.พ.นวล วัดไสหร้า
17. สีผึ้ง ล.พ.เฉลิม วัดพระญาติ
18. สีผึ้ง ล.พ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
19. สีผึ้งหลวงพ่อมหาโส จ.ขอนแก่น
20. สีผึ้ง ล.พ.เอียด วัดไผ่ล้อม
21. สีผึ้ง ล.ป.แย้ม วัดตะเคียน
22. สีผึ้ง ล.พ.ต้วน
23. สีผึ้ง ล.พ.ตุ่น
24. น้ำมันสังคโลกหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
25. น้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
26. น้ำมันมนต์ ล.ป.ดู่
27. น้ำมันมนต์ ล.ป.สรวง
28. น้ำมันตะเกียง 1 ไตรมาส วัดอัมพวัน
29. น้ำมันมนต์ ล.พ.ฉาบ วัดศรีสาคร
30. น้ำมันมนต์ ล.พ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว
31. น้ำมันมนต์ ล.พ.เอียด วัดไผ่ล้อม
32. เทียนเสาร์ 5 พิธีบรวงสรวงพระธาตุจอมกิตติ
33. เทียนพิธีบรวงสรวงพระธาตุดอยตุง คณะวัดท่าซุง
34. เทียนชนวนพิธีพุทธาภิเษกวัดท่าซุง
35. เศษเทียนทำน้ำมนต์วัดท่าซุง
36. เทียนเสาร์ 5 วัดท่าขนุน
37. เทียนขี้ผึ้ง ครูบาพรชัย
38. น้ำมันหอมจันทร์กระพ้อ
39. น้ำมันจันทร์
40. น้ำมันหอม 9 กลิ่น
41. น้ำมันมะกอก
42. ผงสถูปพญาเม็งราย
43. ผงพระธาตุพระสิวลี
44. ผงจักรพรรดิ ล.ป.ดู่ วัดสะแก
45. ผงอิทธิเจ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์
46. แป้งเสกหัวเชื้อ ล.ป.บุดดา
47. ยานัตถ์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
48. ผงคำข้าวมหาลาภ ล.พ.ฤาษีลิงดำ
49. ผงพระหางหมาก ล.พ.ฤาษีลิงดำ
50. ผงเกสรดอกไม้จากสถานที่สำคัญ 76 จังหวัด
51. ผงดอกไม้บูชาพระเจ้าล้านทอง
52. ผงจักรพรรดิ หลวงตาม้า
53. ผงลูกแก้วจักรพรรดิ หลวงตาม้า
54. ผงมวลสารรวม
55. ผงพระอายุยืน ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
56. ผงพระปิดตานะมิ ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
57. ผงพระกลีบบัว ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
58. ผงพระรัตนเกษม ล.พ.เกษม เขมโก
59. ผงพระคูณลาภ ล.พ.คูณ ปริสุทโธ
60. ผงพระ ล.พ.เปิ่น รุ่นเสาร์ 5
61. ผงพระ ล.พ.ผาง จิตตคุตโต
62. ผงพระ ล.พ.เกลี้ยง
63. ว่านเมตตา 108 ชนิด
64. แผ่นทองคำเปลว 109 แผ่น
65. แผ่นเงินเปลว 109 แผ่น
66. ผงพระสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) พระองค์ที่ 17

หมายเหตุ

สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภเมื่อกวนเสร็จแล้ว ในปี 2552 ได้นำเข้าพระอุโบสถ วัดอัมพวัน (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) แผ่เมตตาตลอดช่วงเข้าพรรษาเป็นเวลาหนึ่งไตรมาส และได้นำไปให้ครูบาอาจารย์อธิฐานจิตเพิ่มดังนี้

1. ล.พ.คูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
2. หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย
3. หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์
4. หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาลาปูน
5. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
6. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม

แบ่งบูชา 5 ตลับ
ปิดรายการครับผม
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทนะครับ

 

รายการที่ 13

พระผงหลวงพ่อลำใยห้าเหลี่ยม หลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื้อเทา
ปลุกเสกโดย หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
พระผงของท่านมีผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ผสมทุกองค์ครับ

(((คุณ amornkul จองแล้วครับ)))



หากกล่าวถึงวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชื่อว่ามีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อพระอริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งพระนาม พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อย่างแน่นอน ซึ่งถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงปัจจุบันหลายปีนับตั้งแต่พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2533 แต่ด้วยความศรัทธาที่ศิษย์มีต่อหลวงปู่อย่างเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย และยิ่งเพิ่มมากขึ้นๆ ดังจะเห็นได้จากงานบุญที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 17 มกราคม ที่วัดสะแกแห่งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พระพรหมปัญโญ ที่ท่านมีพระเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกล

และ ณ วัดสะแก แห่งนี้หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่ายังมีพระอริยะเจ้าอยู่อีกรูปหนึ่งที่สืบสานแนวทางปฎิบัติตามแนวทางของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และยังถือได้ว่าพระอริยะสงฆ์รูปนี้ท่านคือศิษย์เอกของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญด้วย

ปัจจุบันพระคุณเจ้ารูปนี้ท่านมีอายุย่างเข้าสู่ 81 ปี (พ.ศ.2555) ซึ่งถือว่าพระคุณเจ้าท่านเป็นพระอาวุโสที่สุดของวัดแห่งนี้ พระคุณเจ้าท่านได้บรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 หรือที่เรียกว่า กึ่งพุทธกาล พระอริยะสงฆ์รูปนี้คือ พระคุณเจ้าหลวงพ่อลำใย สัญญโม ซึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้น ท่านจึงมีพรรษามากที่สุด เป็นพระอาวุโสที่สุด ณ วัดสะแก แห่งนี้



หลวงพ่อลำใยเป็นศิษย์ในองค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2500 แล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดสะแกตลอดมา โดยมากไม่ค่อยได้ศึกษาวิทยาคุณจากหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ สักเท่าไร เพราะไปเน้นกัมมัฏฐานและวิชาส่วนใหญ่จากหลวงปู่ดู่ท่านเองมีจริตที่ค่อนข้างหนักไปทาง "อยู่คง" และเจริญเตโชกสิณอยู่เนืองนิจ แม้หลวงปู่ดู่จะคอยตรวจจิตท่านและปรามอยู่เสมอ ท่านก็ยังคงแอบ ๆ ทำ และประวัติศาสตร์ในองค์หลวงปู่ดู่กับหลวงพ่อลำใยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ พระหลาย ๆ รุ่นของหลวงปู่ดู่นั้น ไม่ว่าจะวัดสร้างหรือศิษย์สร้าง หลวงปู่ดู่ได้มอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสกก่อนหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าหลวงปู่ดู่จะละเลยไม่ได้เสกอีกแต่อย่างใด หากเป็นกุศโลบายในการตรวจสอบวิถีจิตของหลวงพ่อลำใย

เช่น ครั้งหนึ่งที่นาวาเอกสำเภา คมสันต์ และ นาวาเอกจำเนียร ตู้จินดา ไปกราบนมัสการหลวงปู่ ก็เห็นหลวงปู่ให้ศิษย์ยกถาดบรรจุพระมอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสก ผู้การทั้งสองท่านได้เห็นเพียงเท่านั้นก็ยังให้นึกแปลกใจอยู่ครามครันแต่ก็ไม่กล้าซักถามใด ๆ จนผ่านไปร่วมเดือนก็กลับไปวัดสะแกเพื่อกราบหลวงปู่ดู่อีกครั้ง ก็ช่างให้บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นหลวงพ่อลำใยยกถาดพระกลับมาถวายคืนหลวงปู่ดู่พอดี

ทันทีที่หลวงพ่อลำใยยกถาดมาถึงหลวงปู่ดู่ ท่านเพียงหันไปมองเท่านั้นก็โบกมือไล่พร้อมบอกว่า "ใช้ไม่ได้ เอาไปเสกใหม่ ท่านทำอย่างนี้ใครเขาจะเอาไปใช้ได้ ไปทำให้เย็น" หลวงพ่อลำใยก็ยกถาดกลับไปแต่โดยดี ผู้การทั้งสองก็ให้งงเป็นนักหนาเพราะบังเอิญได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญนี้ถึงสองครั้งสองคราว ครั้งนี้จึงอดถามไม่ได้ว่า "หลวงลุงครับ ทำไมถึงให้อาจารย์ใยไปเสก"

ท่านตอบว่า "ข้าให้เขาหัดทำ"
"แล้วทำไมหลวงลุงถึงว่าใช้ไม่ได้"

"ก็เขาเพ่งเสียไฟลุกมาเต็มถาดอย่างนั้นใครจะเอาไปใช้ได้ ร้อนแบบนั้นก็มีแต่เรื่องน่ะสิ"
แล้วเรื่องนี้ก็เงียบหายไปจากความทรงจำของท่านผู้การทั้งสอง เหตุการณ์นี้เกิดในราวปี พ.ศ. 2516

ต่อมาท่านผู้การจำเนียร ตู้จินดา ได้กรุณาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ผมก็สงสัยเป็นอย่างยิ่ง วันหนึ่งที่ได้ไปกราบหลวงพ่อลำใยที่วัดสะแก จึงได้ไปเรียนถามท่านตรง ๆ โดยเล่าเรื่องอันเป็นปฐมเหตุก่อน แล้วจึงถามว่าจริงหรือไม่อย่างไร ?

ท่านตอบทันทีว่า "จริง" และเมตตาเล่าว่า "ตอนนั้นได้วิชามาเยอะ หลวงลุงท่านก็เลยเอาพระของท่านมาให้หัดเสก ข้ามันคนชอบเหนียวก็เลยเพ่งเตโชกสิณใส่ เอาซะร้อนเชียว พอยกไปท่านก็ดุน่ะสิ ให้ข้ากลับมาทำใหม่ ข้าก็เลยมาทำทางเมตตาเอาเย็นเข้าว่า พอยกกลับไปคืนทีนี้ท่านว่า ใช้ได้ ใช้ได้" ตอนท้ายท่านปรารภว่า เออ ผู้การทั้งสองนี่ก็ยังความจำดีนะ

ขอขอบคุณข้อมูลข้างต้นจากอินเตอร์เน็ตครับ
*************************************************

มีเรื่องแถมคือ พี่ผมคนหนึ่งไปวัดสะแกหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยเข้าไปกราบหลวงพ่อลำใยเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีอยู่วันหนึ่งแกไปวัดสะแกตามปกติ ก็เจอคนมุงขวดอะไรอยู่กลุ่มใหญ่ เลยเข้าไปดูในขวดใสนั้นเป็นผลึกใสๆ เหมือนเม็ดแก้วอยู่เต็มขวด พอถามคนที่มุงอยู่นั้นได้ความว่าขวดที่ใส่เม็ดแก้วใสๆนี่คือขวดที่ "เก็บปัสสาวะของหลวงพ่อลำใย" ที่ลูกศิษย์คนหนึ่งขอท่านเก็บไว้ ซึ่งตอนได้มาคือน้ำปกติ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นพระธาตุไปแล้วครับ

(อย่าคิดว่าไม่สมควรนะครับ มีหลายต่อหลายท่านที่รักและเคารพครูบาอาจารย์มากๆ แม้ปัสสาวะ อุจจาระ ฯลฯ เขาก็ยังขอเก็บไว้ และกลายเป็นพระธาตุก็มีหลายรูป เช่น หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อุจจาระท่านยังมีกลิ่นหอม เป็นผลึกแก้วไปเลยก็มี) เรื่องที่เล่ามาก็ขอให้ใช้วิจารณญาณนะครับ ความศรัทธาของคนใครไม่เจอไม่รู้หรอกครับ

แบ่งบูชา 99 บาท
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 14

พระศรีอาริยะเมตไตร - หลวงปู่ทวด
ปลุกเสกโดย หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
พระผงของท่านมีผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ผสมทุกองค์ครับ

(((คุณ Little Dragon บูชาแล้วครับ)))



หากกล่าวถึงวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชื่อว่ามีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อพระอริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งพระนาม พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อย่างแน่นอน ซึ่งถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงปัจจุบันหลายปีนับตั้งแต่พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2533 แต่ด้วยความศรัทธาที่ศิษย์มีต่อหลวงปู่อย่างเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย และยิ่งเพิ่มมากขึ้นๆ ดังจะเห็นได้จากงานบุญที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 17 มกราคม ที่วัดสะแกแห่งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พระพรหมปัญโญ ที่ท่านมีพระเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกล

และ ณ วัดสะแก แห่งนี้หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่ายังมีพระอริยะเจ้าอยู่อีกรูปหนึ่งที่สืบสานแนวทางปฎิบัติตามแนวทางของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และยังถือได้ว่าพระอริยะสงฆ์รูปนี้ท่านคือศิษย์เอกของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญด้วย

ปัจจุบันพระคุณเจ้ารูปนี้ท่านมีอายุย่างเข้าสู่ 81 ปี (พ.ศ.2555) ซึ่งถือว่าพระคุณเจ้าท่านเป็นพระอาวุโสที่สุดของวัดแห่งนี้ พระคุณเจ้าท่านได้บรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 หรือที่เรียกว่า กึ่งพุทธกาล พระอริยะสงฆ์รูปนี้คือ พระคุณเจ้าหลวงพ่อลำใย สัญญโม ซึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้น ท่านจึงมีพรรษามากที่สุด เป็นพระอาวุโสที่สุด ณ วัดสะแก แห่งนี้



หลวงพ่อลำใยเป็นศิษย์ในองค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2500 แล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดสะแกตลอดมา โดยมากไม่ค่อยได้ศึกษาวิทยาคุณจากหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ สักเท่าไร เพราะไปเน้นกัมมัฏฐานและวิชาส่วนใหญ่จากหลวงปู่ดู่ท่านเองมีจริตที่ค่อนข้างหนักไปทาง "อยู่คง" และเจริญเตโชกสิณอยู่เนืองนิจ แม้หลวงปู่ดู่จะคอยตรวจจิตท่านและปรามอยู่เสมอ ท่านก็ยังคงแอบ ๆ ทำ และประวัติศาสตร์ในองค์หลวงปู่ดู่กับหลวงพ่อลำใยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ พระหลาย ๆ รุ่นของหลวงปู่ดู่นั้น ไม่ว่าจะวัดสร้างหรือศิษย์สร้าง หลวงปู่ดู่ได้มอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสกก่อนหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าหลวงปู่ดู่จะละเลยไม่ได้เสกอีกแต่อย่างใด หากเป็นกุศโลบายในการตรวจสอบวิถีจิตของหลวงพ่อลำใย

เช่น ครั้งหนึ่งที่นาวาเอกสำเภา คมสันต์ และ นาวาเอกจำเนียร ตู้จินดา ไปกราบนมัสการหลวงปู่ ก็เห็นหลวงปู่ให้ศิษย์ยกถาดบรรจุพระมอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสก ผู้การทั้งสองท่านได้เห็นเพียงเท่านั้นก็ยังให้นึกแปลกใจอยู่ครามครันแต่ก็ไม่กล้าซักถามใด ๆ จนผ่านไปร่วมเดือนก็กลับไปวัดสะแกเพื่อกราบหลวงปู่ดู่อีกครั้ง ก็ช่างให้บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นหลวงพ่อลำใยยกถาดพระกลับมาถวายคืนหลวงปู่ดู่พอดี

ทันทีที่หลวงพ่อลำใยยกถาดมาถึงหลวงปู่ดู่ ท่านเพียงหันไปมองเท่านั้นก็โบกมือไล่พร้อมบอกว่า "ใช้ไม่ได้ เอาไปเสกใหม่ ท่านทำอย่างนี้ใครเขาจะเอาไปใช้ได้ ไปทำให้เย็น" หลวงพ่อลำใยก็ยกถาดกลับไปแต่โดยดี ผู้การทั้งสองก็ให้งงเป็นนักหนาเพราะบังเอิญได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญนี้ถึงสองครั้งสองคราว ครั้งนี้จึงอดถามไม่ได้ว่า "หลวงลุงครับ ทำไมถึงให้อาจารย์ใยไปเสก"

ท่านตอบว่า "ข้าให้เขาหัดทำ"
"แล้วทำไมหลวงลุงถึงว่าใช้ไม่ได้"

"ก็เขาเพ่งเสียไฟลุกมาเต็มถาดอย่างนั้นใครจะเอาไปใช้ได้ ร้อนแบบนั้นก็มีแต่เรื่องน่ะสิ"
แล้วเรื่องนี้ก็เงียบหายไปจากความทรงจำของท่านผู้การทั้งสอง เหตุการณ์นี้เกิดในราวปี พ.ศ. 2516

ต่อมาท่านผู้การจำเนียร ตู้จินดา ได้กรุณาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ผมก็สงสัยเป็นอย่างยิ่ง วันหนึ่งที่ได้ไปกราบหลวงพ่อลำใยที่วัดสะแก จึงได้ไปเรียนถามท่านตรง ๆ โดยเล่าเรื่องอันเป็นปฐมเหตุก่อน แล้วจึงถามว่าจริงหรือไม่อย่างไร ?

ท่านตอบทันทีว่า "จริง" และเมตตาเล่าว่า "ตอนนั้นได้วิชามาเยอะ หลวงลุงท่านก็เลยเอาพระของท่านมาให้หัดเสก ข้ามันคนชอบเหนียวก็เลยเพ่งเตโชกสิณใส่ เอาซะร้อนเชียว พอยกไปท่านก็ดุน่ะสิ ให้ข้ากลับมาทำใหม่ ข้าก็เลยมาทำทางเมตตาเอาเย็นเข้าว่า พอยกกลับไปคืนทีนี้ท่านว่า ใช้ได้ ใช้ได้" ตอนท้ายท่านปรารภว่า เออ ผู้การทั้งสองนี่ก็ยังความจำดีนะ

ขอขอบคุณข้อมูลข้างต้นจากอินเตอร์เน็ตครับ
*************************************************

มีเรื่องแถมคือ พี่ผมคนหนึ่งไปวัดสะแกหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยเข้าไปกราบหลวงพ่อลำใยเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีอยู่วันหนึ่งแกไปวัดสะแกตามปกติ ก็เจอคนมุงขวดอะไรอยู่กลุ่มใหญ่ เลยเข้าไปดูในขวดใสนั้นเป็นผลึกใสๆ เหมือนเม็ดแก้วอยู่เต็มขวด พอถามคนที่มุงอยู่นั้นได้ความว่าขวดที่ใส่เม็ดแก้วใสๆนี่คือขวดที่ "เก็บปัสสาวะของหลวงพ่อลำใย" ที่ลูกศิษย์คนหนึ่งขอท่านเก็บไว้ ซึ่งตอนได้มาคือน้ำปกติ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นพระธาตุไปแล้วครับ

(อย่าคิดว่าไม่สมควรนะครับ มีหลายต่อหลายท่านที่รักและเคารพครูบาอาจารย์มากๆ แม้ปัสสาวะ อุจจาระ ฯลฯ เขาก็ยังขอเก็บไว้ และกลายเป็นพระธาตุก็มีหลายรูป เช่น หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อุจจาระท่านยังมีกลิ่นหอม เป็นผลึกแก้วไปเลยก็มี) เรื่องที่เล่ามาก็ขอให้ใช้วิจารณญาณนะครับ ความศรัทธาของคนใครไม่เจอไม่รู้หรอกครับ

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 15

พระผงหลวงพ่อลำใยห้าเหลี่ยม หลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื้อขาว
ปลุกเสกโดย หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
พระผงของท่านมีผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ผสมทุกองค์ครับ

(((คุณ amornkul จองแล้วครับ)))



หากกล่าวถึงวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชื่อว่ามีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อพระอริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งพระนาม พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อย่างแน่นอน ซึ่งถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงปัจจุบันหลายปีนับตั้งแต่พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2533 แต่ด้วยความศรัทธาที่ศิษย์มีต่อหลวงปู่อย่างเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย และยิ่งเพิ่มมากขึ้นๆ ดังจะเห็นได้จากงานบุญที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 17 มกราคม ที่วัดสะแกแห่งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พระพรหมปัญโญ ที่ท่านมีพระเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกล

และ ณ วัดสะแก แห่งนี้หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่ายังมีพระอริยะเจ้าอยู่อีกรูปหนึ่งที่สืบสานแนวทางปฎิบัติตามแนวทางของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และยังถือได้ว่าพระอริยะสงฆ์รูปนี้ท่านคือศิษย์เอกของพระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญด้วย

ปัจจุบันพระคุณเจ้ารูปนี้ท่านมีอายุย่างเข้าสู่ 81 ปี (พ.ศ.2555) ซึ่งถือว่าพระคุณเจ้าท่านเป็นพระอาวุโสที่สุดของวัดแห่งนี้ พระคุณเจ้าท่านได้บรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 หรือที่เรียกว่า กึ่งพุทธกาล พระอริยะสงฆ์รูปนี้คือ พระคุณเจ้าหลวงพ่อลำใย สัญญโม ซึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้น ท่านจึงมีพรรษามากที่สุด เป็นพระอาวุโสที่สุด ณ วัดสะแก แห่งนี้



หลวงพ่อลำใยเป็นศิษย์ในองค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2500 แล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดสะแกตลอดมา โดยมากไม่ค่อยได้ศึกษาวิทยาคุณจากหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ สักเท่าไร เพราะไปเน้นกัมมัฏฐานและวิชาส่วนใหญ่จากหลวงปู่ดู่ท่านเองมีจริตที่ค่อนข้างหนักไปทาง "อยู่คง" และเจริญเตโชกสิณอยู่เนืองนิจ แม้หลวงปู่ดู่จะคอยตรวจจิตท่านและปรามอยู่เสมอ ท่านก็ยังคงแอบ ๆ ทำ และประวัติศาสตร์ในองค์หลวงปู่ดู่กับหลวงพ่อลำใยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ พระหลาย ๆ รุ่นของหลวงปู่ดู่นั้น ไม่ว่าจะวัดสร้างหรือศิษย์สร้าง หลวงปู่ดู่ได้มอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสกก่อนหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าหลวงปู่ดู่จะละเลยไม่ได้เสกอีกแต่อย่างใด หากเป็นกุศโลบายในการตรวจสอบวิถีจิตของหลวงพ่อลำใย

เช่น ครั้งหนึ่งที่นาวาเอกสำเภา คมสันต์ และ นาวาเอกจำเนียร ตู้จินดา ไปกราบนมัสการหลวงปู่ ก็เห็นหลวงปู่ให้ศิษย์ยกถาดบรรจุพระมอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสก ผู้การทั้งสองท่านได้เห็นเพียงเท่านั้นก็ยังให้นึกแปลกใจอยู่ครามครันแต่ก็ไม่กล้าซักถามใด ๆ จนผ่านไปร่วมเดือนก็กลับไปวัดสะแกเพื่อกราบหลวงปู่ดู่อีกครั้ง ก็ช่างให้บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นหลวงพ่อลำใยยกถาดพระกลับมาถวายคืนหลวงปู่ดู่พอดี

ทันทีที่หลวงพ่อลำใยยกถาดมาถึงหลวงปู่ดู่ ท่านเพียงหันไปมองเท่านั้นก็โบกมือไล่พร้อมบอกว่า "ใช้ไม่ได้ เอาไปเสกใหม่ ท่านทำอย่างนี้ใครเขาจะเอาไปใช้ได้ ไปทำให้เย็น" หลวงพ่อลำใยก็ยกถาดกลับไปแต่โดยดี ผู้การทั้งสองก็ให้งงเป็นนักหนาเพราะบังเอิญได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญนี้ถึงสองครั้งสองคราว ครั้งนี้จึงอดถามไม่ได้ว่า "หลวงลุงครับ ทำไมถึงให้อาจารย์ใยไปเสก"

ท่านตอบว่า "ข้าให้เขาหัดทำ"
"แล้วทำไมหลวงลุงถึงว่าใช้ไม่ได้"

"ก็เขาเพ่งเสียไฟลุกมาเต็มถาดอย่างนั้นใครจะเอาไปใช้ได้ ร้อนแบบนั้นก็มีแต่เรื่องน่ะสิ"
แล้วเรื่องนี้ก็เงียบหายไปจากความทรงจำของท่านผู้การทั้งสอง เหตุการณ์นี้เกิดในราวปี พ.ศ. 2516

ต่อมาท่านผู้การจำเนียร ตู้จินดา ได้กรุณาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ผมก็สงสัยเป็นอย่างยิ่ง วันหนึ่งที่ได้ไปกราบหลวงพ่อลำใยที่วัดสะแก จึงได้ไปเรียนถามท่านตรง ๆ โดยเล่าเรื่องอันเป็นปฐมเหตุก่อน แล้วจึงถามว่าจริงหรือไม่อย่างไร ?

ท่านตอบทันทีว่า "จริง" และเมตตาเล่าว่า "ตอนนั้นได้วิชามาเยอะ หลวงลุงท่านก็เลยเอาพระของท่านมาให้หัดเสก ข้ามันคนชอบเหนียวก็เลยเพ่งเตโชกสิณใส่ เอาซะร้อนเชียว พอยกไปท่านก็ดุน่ะสิ ให้ข้ากลับมาทำใหม่ ข้าก็เลยมาทำทางเมตตาเอาเย็นเข้าว่า พอยกกลับไปคืนทีนี้ท่านว่า ใช้ได้ ใช้ได้" ตอนท้ายท่านปรารภว่า เออ ผู้การทั้งสองนี่ก็ยังความจำดีนะ

ขอขอบคุณข้อมูลข้างต้นจากอินเตอร์เน็ตครับ
*************************************************

มีเรื่องแถมคือ พี่ผมคนหนึ่งไปวัดสะแกหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยเข้าไปกราบหลวงพ่อลำใยเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีอยู่วันหนึ่งแกไปวัดสะแกตามปกติ ก็เจอคนมุงขวดอะไรอยู่กลุ่มใหญ่ เลยเข้าไปดูในขวดใสนั้นเป็นผลึกใสๆ เหมือนเม็ดแก้วอยู่เต็มขวด พอถามคนที่มุงอยู่นั้นได้ความว่าขวดที่ใส่เม็ดแก้วใสๆนี่คือขวดที่ "เก็บปัสสาวะของหลวงพ่อลำใย" ที่ลูกศิษย์คนหนึ่งขอท่านเก็บไว้ ซึ่งตอนได้มาคือน้ำปกติ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นพระธาตุไปแล้วครับ

(อย่าคิดว่าไม่สมควรนะครับ มีหลายต่อหลายท่านที่รักและเคารพครูบาอาจารย์มากๆ แม้ปัสสาวะ อุจจาระ ฯลฯ เขาก็ยังขอเก็บไว้ และกลายเป็นพระธาตุก็มีหลายรูป เช่น หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อุจจาระท่านยังมีกลิ่นหอม เป็นผลึกแก้วไปเลยก็มี) เรื่องที่เล่ามาก็ขอให้ใช้วิจารณญาณนะครับ ความศรัทธาของคนใครไม่เจอไม่รู้หรอกครับ

แบ่งบูชา 99 บาท
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 16

พระผงเกศาหลังยันต์ดวงฝังแร่กายสิทธิ์
พระครูสุวรรณคณาภิรักษ์ (หลวงพ่อก้ำ) วัดบุญเกิด จ.พะเยา





หลวงพ่อท่านเป็นพระท้องถิ่นครับ โด่งดังใน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา มานานแล้ว วัตถุมงคลของท่านเด่นเรื่องแคล้วคลาดครับ ปัจจุบันท่านอายุ 93 ปีครับ ถือเป็นพระที่อายุยืนอีกรูปหนึ่ง

แบ่งบูชาราคาเบาๆ 99 บาท
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 17

ล็อคเก็ตรูปเหมือนนั่งเต็มองค์
ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย
ลูกศิษย์ครูบาต้องมีครับ

(((ปิดรายการครับ)))



ครูบาอริยชาติ ปัจจุบันแม้ท่านจะอายุกาลพรรษายังไม่มาก แต่คุณธรรมและบารมีของท่านไม่ธรรมดาเลยครับ ท่านสร้างวัดได้ใหญ่โต ท่านสามารถรู้ล่วงหน้าและท่านยังเข้านิโรธกรรมเป็นประจำทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะคนใกล้ไกลแม้ว่าในจังหวัดเชียงรายเอง หรือต่างจังหวัดถ้ามีโอกาศมาที่ อ.แม่สรวย ก็จะหาโอกาศมากราบทำบุญกับท่านเสมอ เพราะบารมีของท่านปัจจุบันนี้ขจรขจายไปทั่วครับ




นอกจากนี้ครูบาท่านยังศึกษาวิชาและศาสตร์ทางล้านนานมามากมายจากหลายอาจารย์ ได้แก่ ครูบาจันติ๊บ, ครูบาชุ่ม, ครูบาดวงดี, ครูบาจันทร์แก้ว, ครูบาอินตา, ครูบาผัด ฯลฯ นับว่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่แม้อายุยังน้อย แต่คงแก่เรียนมาก วิชาทั้งหลายที่ท่านศึกษามาท่านได้ทดลองแล้วว่าทำได้จริง และช่วยสงเคราะห์ผู้คนได้จริง หายากแล้วในปัจจุบันที่จะมีผู้รู้จริงแบบท่านครับ ปัจจุบันครูบาท่านยังปฎิบัติธรรมตามรอย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ท่านเคารพและเทอดทูน ท่ามกลางกระแสของโลกที่มีทั้งคนนินทาและสรรเสริญ แต่คุณธรรมของท่านนับวันยิ่งปรากฎให้เห็นว่าท่านเป็นพระดีจริงครับ



ล็อคเก็ตของท่านทุกรุ่นเด่นมากด้านเมตตามหานิยมครับ ใครแขวนบูชาก็มีแต่เจริญรุ่งเรือง ดูในคอศิษย์ได้มีแทบทุกคนแต่ต่างรุ่นกันไป ล็อคเก็ตองค์นี้เลี่ยมทองไมคร่อนมาจากวัดพร้อมกล่องกำมะหยี่สีแดงอย่างดีครับ ใครว่าครูบาอย่างไรก็ช่างผมศรัทธาครับ ถ้าท่านไม่เก่งจริงกฐินที่ผ่านมาท่านจะมียอดเงินร่วมบุญถึง 30 ล้านบาทหรือครับ

ปิดรายการ
ช่วยค่าจัดส่ง 50 บาทนะครับ