โรคประหลาด เพิ่งเกินในช่วงนี้(ธ.ค.) ใครเป็นกันบ้างขอเสียงครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย mzbot, 14 ธันวาคม 2012.

  1. mzbot

    mzbot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2012
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +963
    โรคประหลาดที่ว่านี้ หากมองไปก็คงไม่ใช่โรคประหลาดแต่อย่างใด แต่ มันน่าสงสัย ทำไมเป็นเหมือนกัน ทุกๆคนที่ได้คุยและสอบถาม คือ อาการคันรอบดวงตา หากได้เกาเป็นอัน คันไม่หยุด ทีแรกนึกว่าเป็นเราคนเดียว แต่พอสอบถามคนรอบๆข้าง อาการเดียวกันครับ จะเกาจนแทบตาบวม หรือ อักเสบถึงจะหยุดได้ พอดีแฟนทำงานอยู่ อนามัย บอกว่า ทั้งอนามัย ก็เป็นเหมือนกัน เจ้าหน้าที่ก็เกิดอาการคันเหมือนกัน ล่าสุดบอกว่าช่วงนี้ อาการคันๆ เป็นกันมาก โดยเฉพาะในแต่ละวัน คนไข้มักจะมาขอ คาลาไมล์ กันถี่ขึ้น จากเดิม แต่ที่แน่ๆ คืออาการคันรอบดวงตา หากได้ขยี้ตามีอันเป็นหยุดไม่ได้ ไม่ทราบว่า มีใครเป็นกันบ้างหรือเปล่า ลองสังเกตตัวเองดูนะครับ ปล. ผมอยู่สุรินทร์ครับ
     
  2. mzbot

    mzbot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2012
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +963
    คาลาไมล์ ไม่ได้เอาไว้ทารอบดวงตานะครับ เอาไว้ทาผิวหนัง
     
  3. llilliilliiill

    llilliilliiill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +2,741
    คันรอบสะดือครับ ^^

    .
     
  4. Noface

    Noface Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +54
    ช่วงฤดูหนาว เปนช่วงมีโรคตาแดงแพร่ระบาดอยู่แล้วนี่คับ ที่เริ่มระคายตาอาจเปนเพราะเชื้อพวกนี้เริ่มมาแล้วก็ได้ ถ้าหายระคายตาก่อน เชื้อโรคอาจยังไม่มากพอที่จะทำให้เกิดโรค หรือไม่ก็ตายก่อนที่จะก่อให้เกิดโรค
     
  5. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,072
    เป็นเหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่ตาแดง เพราะดูอาการมาหลายวันแล้ว ตอนนี้ปกติดีหายคันแล้วครับ
     
  6. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    อาจเป็น โรคคันตา ก็ได้ค่ะ ลองดูจากข้อมูลนี้นะคะ

    โรคคันตา

    ⇒ สาเหตุ
    สาเหตุของการคันที่ในตา มักจะมีต้นตอมาจาก สาเหตุจากการคันตามเยื่อเมือกส่วนอื่น ๆ ของร่างกายและผิวหนังตามตัว นั่นก็คือ

    1.ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่น แดด ความร้อน อุณหภูมิเย็นจัด เช่นในห้องปรับอากาศ ร้อนจัด หรือในที่ชื้นอับ ฯลฯ

    2.ยาหยอดตาบางชนิดที่เข้าปฏิชีวนะ ที่ผู้นั้นเคยกินหรือทาตามผิวหนังทำให้เกิดอาการคันเพราะแพ้ได้

    3.ฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูร้อนเป็นกันมาก ฤดูฝนหรือฤดูหนาวไม่ค่อยพบ มักพบในเด็กวัยอนุบาลหรือในประถมต้น ในผู้ใหญ่เกิน 20 ปีพบน้อย

    4.การติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อไวรัส ทำให้มีอาการคันได้เช่นเดียวกับการติดเชื้อหวัด ทำให้คัดจมูก คันจมูก คันคอ ไอ เช่นเดียวกัน

    5.พิษจากสารเคมีบางอย่าง เช่น พวกยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อรา ชาวสวนชาวไร่ใช้ฉีดตามต้นไม้ ดอกไม้ ทำลายศัตรูพืช

    6.น้ำยา สารระเหยต่าง ๆ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำยาฟอร์มาลิน กระทั่งน้ำอบน้ำหอมที่ใช้สเปย์

    7.เครื่องสำอางสารพัดชนิดที่ใช้ทาบริเวณใบหน้า ทาขอบตาทาขนตา

    8.แมลงชนิดต่าง ๆ ที่บินเข้าตาโดยเฉพาะแมลงปีกแข็งที่มีกลิ่นเหม็นฉุนมาก ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า
    "แมลงตด” แมลงชนิดนี้บินเข้าตาทำให้ถึงตาบอดได้ ในรายที่โดนแรง ๆ ทำให้กระจกตาดำเป็นแผล
    ขอบเปลือกตาไหม้อักเสบ เจ็บ ๆ คัน ๆ ปวดแสบปวดร้อนอย่างมาก

    9.พวกพยาธิบางชนิด เช่น ตัวจิ๊ด ถ้าเข้าบริเวณเปลือกตา ทำให้บวม ๆ เจ็บ ๆ คัน ๆได้

    เท่าที่ให้ไว้ทั้งหมดนั้นเป็นสาเหตุที่พบได้เสมอ ๆในการออกตรวจโรคตาผู้ป่วยที่มาหาจักษุแพทย์ทั่ว ๆ ไป ส่วนที่เหลือนอกจากที่กล่าวแล้ว อาจมีบ้างไม่มากนัก และก็เป็นเรื่องที่ผู้นั้นมีปฏิกิริยาแพ้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเห็นได้ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น บางคนใส่เลนส์สัมผัส (คอนแทคเลนส์) ใส่ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตาแดงทั้ง 2 ข้าง คันตายุบยิบไปหมด นั่นก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ว่า แพ้เลนส์สัมผัส เช่นนี้ควรจะเลิกใส่ได้ ขืนใส่ต่อไปยิ่งอันตรายมาก หรือบางคนแพ้น้ำในสระลงว่ายน้ำครั้งใดคันตาทุกที อาจแพ้คลอรีนหรือสารที่ใส่ลงไปให้เกิดสีของน้ำ ไม่ทราบว่าถ้าเป็นน้ำในอ่างจะแพ้หรือเปล่า ?


    ⇒ อาการของโรคคันตา
    อาการของผู้ที่แพ้สิ่งต่าง ๆ ดังกล่าว อย่างใดอย่างหนึ่ง จะทำให้มีอาการคันตาหรือขอบตา มีความรู้สึกอยากขยี้ ทั้งนี้เพราะ..“ยิ่งขยี้ ยิ่งมัน” เช่นเดียวกับโดนยุงกัด หรือผึ้งต่อยมา 3-4 วันแล้ว จะคันบริเวณนั้นจนอยากจะเกาและหยิกให้มันมือไปยังไงก็อย่างนั้นเชียวแหละ
    นอกจากคันอันเป็นอาการอันแรกแล้ว ต่อมาจะพบบริเวณนั้น บวมและแดง ถ้าเป็นที่เยื่อตาขาวจะเห็นว่าบวม ย่น จนบางคนตกใจ เมื่อเห็นเยื่อตาขาวตัวเองบวมเต่งและย่น เมื่อเหลือบตาไปทางซ้ายหรือขวา อีกทั้งแดงเหมือนผิวมะเขือเทศสุก หรือเนื้อผมมะไฟสุก (จากการส่องกระจกเงาดูตาตัวเอง)
    ถ้าเป็นบริเวณขอบตาหรือเปลือกตา จะเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น คือบริเวณขอบตาจะบวมและหนาตัวขึ้นมา คันตรงตำแหน่งนั้นมาก ถ้าเป็นพวกแพ้ยาหยอดหรือเครื่องสำอาง หรือสารเคมีจะเป็นทั้ง 2 ข้าง ขอบตาหนาเป็นผื่นเห่อชัดเจน


    ⇒ การปฏิบัติตัวและการรักษา
    1.ถ้าทราบแน่ชัดว่าน่าจะแพ้อะไรค่อนข้างแน่นอน ให้หยุดการใช้สิ่งนั้นหรือเลี่ยงต่อสิ่งนั้นให้มากที่สุด แล้วกินยาแก้แพ้ ซึ่งอาจจะเป็นคลอร์เฟนิรามีน(ขนาด 4 มิลลิกรัม) 1 เม็ด 3 เวลาหลังอาหารแล้วนอนพัก ประมาณ 24 ชั่วโมงก็จะทุเลา

    2.ถ้าภายหลัง 24 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้นควรรับไปพบแพทย์ ปรึกษาดูว่ามีสาเหตุจากอะไรแน่

    3.จะมีอยู่โรคหนึ่งที่เป็นหน้าร้อน และเป็นในเด็กอนุบาลหรือประถมต้นมากที่สุด (ตามสาเหตุข้อ 3.) พวกนี้จะคันตลอดเวลา คันที่เยื่อตาขาว เด็กจะขยี้จนตาแดง น้ำตาไหล เราเรียกโรคนี้ว่า..“โรคเยื่อตาอักเสบฤดูร้อน ” หรือภาษาแพทย์เรียกว่า Sumer Season Conjunctivitis พวกนี้ต้องได้รับการรักษาให้ถูกต้อง มิฉะนั้นเด็กจะคันมากและแดงตลอดเวลา น่ารำคาญ บิดา มารดา หรือผู้ปกครองเป็นทุกข์มาก

    4.รู้สึกคัน พยายามเลี่ยงการขยี้ตา หรือถ้าอยากขยี้จนตัวสั่นก็ขยี้พอสมควร ไม่ควรขยี้จนเยื่อตาขาวบวมหรือเปลือกตาบวม จะทำให้รู้สึกตาพร่าได้จากแรงขยี้ เพราะแรงขยี้อาจจะทำให้กระจกตาบวมชั่วคราว

    5. ใช้น้ำแข็งก้อนขนาด 3 x 4 มิลลิลิตร หรือขนาดน้ำแข็งหลอดห่อด้วยถุงพลาสติกเล็ก ๆ แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าสะอาดห่อถุงพลาสติกอีกชั้นนำมาวางประคบลงบนเปลือกตาข้างนั้น ความเย็นจากน้ำแข็ง (Clod compress)จะทำให้อาการคันและบวมทุเลาไปได้เกือบปลิดทิ้ง หรือถ้าใจร้อนจะเอาน้ำแข็งก้อนขนาดดังกล่าว วางแปะลงไปบนเปลือกตาเลยโดยตรงก็ได้ แต่จะทำให้ตาแฉะเพราะน้ำแข็งละลายเลอะใบหน้าไปหมด และอยู่ได้ไม่ทน


    ⇒ โรคคันตาอันตรายไหม
    ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ส่วนมากไม่มีอันตรายมากถึงขั้นตาพิการ ถ้าทราบแน่ชัดว่าแพ้อะไร และหยุดยั้งสิ่งนั้นได้ หรือสามารถให้ยาแก้แพ้ต่อสิ่งนั้นทันที
    เคยพบเหมือนกันที่ว่า แพ้ตัวแมลงอะไรไม่ทราบ ทำให้กระจกตาดำเป็นแผลเกิดการอักเสบซ้ำซ้อน ในที่สุดตาพิการ แม้แต่คนไข้ที่โดนงูเห่าพ่นพิษเข้าบริเวณหน้าและเข้าตา ถ้ามารักษาเร็วและทราบว่าเป็นพิษงูยังพอรักษาให้หายได้ทัน


    ⇒ โรคแทรกซ้อน
    ปกติแล้ว โรคแทรกซ้อนจากการแพ้บริเวณเยื่อตาหรือเปลือกตาไม่ค่อยมี เว้นกรณีที่ปฏิบัติตัวไม่ถูกสุขลักษณะ อาจติดเชื้อซ้ำซ้อนได้จากแบคทีเรีย แต่กระนั้นก็ตามที ถ้ามาปรึกษาแพทย์ก็สามารถช่วยให้ยารักษาโรคแทรกซ้อนได้ ถ้าไม่รุนแรงเกินไปจนทำให้กระจกตาดำเป็นแผลและมีหนองดังที่ได้ยก
    ตัวอย่างแล้ว

    โรคคันตาที่เกิดจากการแพ้แบบเฉียบพลันต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะเป็นอยู่ชั่วคราวเท่านั้น ผิดกับโรคเยื่อตาคันจากฤดูร้อน พวกนี้จะคันตลอดช่วงหน้าร้อน พ้นหน้าร้อนอาการจะหายไป

    ที่มาของข้อมูล: โรคคันตา | ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
     
  7. serm

    serm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +331
    ฤดูหนาว มีหลาย โรค ก็มีทั้ง คันตา คันมือ มือลอก ผิวแห้ง etc..
     
  8. wild win

    wild win เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +436
    เข้ามาอีกเสียง อยู่ๆก็คันรอบดวงตา คือที่ขอบหนังตา เริ่มจากด้านซ้าย
    ต่อมาก็ข้างขวา พยายามไม่ไปขยี้ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่หาย 100เปอร์เซ็นต์

    ปล. อยู่ต่างปท.
     
  9. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    เมื่อวานซืนก็คันที่ตาขวาค่ะ
    ตาแดงนิดๆ แต่สาเหตุมาจากฝุ่นอายแชโดว์เข้าตา ไม่ใช่โรคประหลาด...
    แถวๆ ยโสธร แถบเลิงนกทา ไม่มีใครเป็นโรคประหลาดนี้ค่ะ
     
  10. mzbot

    mzbot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2012
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +963
    เพื่อนแฟน โทรมาจาก กทม. ว่าวันนี้ตื่นขึ้นมา คันตา เกาจนตาบวม เลยถามแฟนว่าจะกินยาอะไร แฟนแนะนำให้ไปหาหมอ เอายาล้างตาและหยอดตา และแฟนก็บอกว่า อาการเป็นเหมือนกับคนที่สุรินทร์นี่แหละ งงเลยครับ ตกลงมันมันโรคกับภูมิอากาศใช่หรือเปล่า หรือว่า อะไรกำลังเกิดหรือเปล่า ตามความเห็นของคุณ มณีจำปาจากด้านบน ไม่เข้าข่ายอาการที่ว่ามาเลยครับ
     
  11. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ทานยาแก้แพ้ก็หายครับ เป็นอาการแพ้อย่างหนึ่ง เป็นกันมากในช่วงนี้
     
  12. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    สำหรับผู้ที่เป็นต้องไปพบแพทย์หละค่ะ เพื่อรักษาได้ถูกต้องกับโรคที่เป็น มีข้อมูลเพิ่มเติมมาฝากอีกค่ะ ตามข้อมูลด้านล่าง ต้องดูอาการที่มีประกอบ มีขึ้ตาไหม มีตุ่มหรือเม็ดขึ้นหรือไม่ ดวงตาเรามีคู่เดียวค่ะ อย่าพึ่งยาหมอตี๋นะคะ เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายค่ะ

    อาการคันตา

    พบได้หลายโรคที่สำคัญคือ

    1. เยื่อตาอักเสบจากภูมิแพ้

    มักเป็นทั้งสองตา อาจมีอาการตาแดงเล็กน้อย มีขี้ตาปนเมือก มักมีอาการในช่วงที่มีละอองเกสรมาก ฝุ่น ไรฝุ่น หญ้า แมลงสาบ อาจมีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว
    การดูแลรักษา ควรได้รับการตรวจประเมินจากจักษุแพทย์ ในรายที่มีอาการจามบ่อย น้ำมูกไหลร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์หู คอ จมูก หากมีหอบหืดควรพบอายุรแพทย์ เพื่อให้การรักษาอย่างเต็มที่ หรือรายที่มีผื่นคันตามร่างกาย ควรพบแพทย์ผิวหนังด้วย ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ทุกชนิด และหยุดขยี้ตา ควรประคบเย็นทุกครั้งที่มีอาการคันตา เคืองตา ตาบวม นอกจากนี้การหยอดน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันเสียหยอดตาบ่อยๆ จะช่วยเจือจางสารก่อภูมิแพ้ออกจากตาด้วย และลดอาการตาแห้ง แสบตา เนื่องจากการรับประทานยาแก้แพ้ มักจะมีอาการตาแห้ง แสบตาได้

    2. เยื่อตาอักเสบจากไวรัสตาแดงระบาด

    มักเป็นกันหลายคน ติดต่อง่าย อาการตาแดง เคืองตามากกว่า มักมีน้ำตาไหลบ่อย ควรปรึกษาจักษุแพทย์ เนื่องจากบางรายอาจมีกระจกตาอักเสบร่วมด้วย

    3. เปลือกตาอักเสบติดเชื้อ

    มักมีขี้ตาร่วมด้วย อาจมีอาการระคายเคืองตาเรื้อรัง ขอบตาบวมแดง ขนตาร่วง ขนตาเก
    การดูแลรักษา คือ การทำความสะอาดขนตา ขอบเปลือกตาด้วยการฟอกสบู่เด็กวันละ 2 ครั้ง ประคบน้ำอุ่นวันละ 2-4 ครั้ง เพื่อลดการอักเสบ ควรรับประทานยาปฏิชีวนะด้วย ดังนั้นควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เนื่องจากมักเป็นเรื้อรัง

    โดย : คณะอนุกรรมการวิชาการ ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย

    ที่มาข้อมูล: http://www.eyebankthai.com/index.as...4%D1%B9%B5%D2+&getarticle=63&keyword=&catid=5
     
  13. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ไม่เป็นครับ ++
     
  14. วชิรุณ

    วชิรุณ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +821
    มีผื่นแพ้ เป็นมาครึ่งปีกว่า ไม่ทราบเหตุแน่ชัดครับ หมอโรคผิวหนังให้ยามาทาก็ทุเลาบ้างแต่ไม่เคยหายขาดครับ บางเวลาคันมากชนิดที่เกาก็ไม่ยักกะหาย เลยปล่อยไป ทาบ้างไม่ทาบ้างครับ
     
  15. llilliilliiill

    llilliilliiill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +2,741
    ความคิดนี้ดี เข้าท่ามากๆครับ ถึงว่า... พักหลังๆนี่เล่นกีฬาไม่ค่อยชนะเลย
    ผมเป็นคนเล่นกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำ(ตีแบดฯ)
    ถ้าผมทานยาแก้แพ้เข้าไป ผมต้องชนะทุกครั้งแน่ๆ... หุหิหุหิ....

    เดี๋ยวเย็นนี้จะลองดูครับว่าได้ผลหรือเปล่า


    ปล... ล้อเล่นนะคร้าบบบ :cool:

    .
     
  16. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    เป็นผื่นคันนะ
    เกามันดี เกาจนเป็นแผลเลย
    เราขี้เกียจไปหาหมอ ขี้เกียจหายามาทา

    สงสัยผิวหนังเตรียมรับภัยพิบัติมั้ง
    เพราะต้องปรับสมดุลย์ ล้อเล่น

    อ้อ เท่าที่สังเกต
    หมาที่บ้านมันเกาน้อยกว่าเราอีกแน่ะ
     
  17. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    คิดว่าที่เป็นกัน อาจเป็นเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้นะคะ
    อาการที่แพ้ในแต่ละคนไม่เหมือนกัน
    แต่สังเกตว่าเวลาเปลี่ยนฤดูจะเป็นมากค่ะ
    เช่นหวัด จะเ้ป็นช่วงเปลี่ยนจากหน้าร้อน มาเป็นหน้าฝน
    เริม จะเป็นช่วงหน้าฝนมาเห็นหน้าหนาว
    เมื่อวานเด็กๆมาถามค่ะ แกเป็นเริม ก็เลยบอกว่าไม่เกิน ๗ วันก็หายได้เอง

     
  18. mzbot

    mzbot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2012
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +963
    ช่วงบ่าย มีเด็กผู้หญิงอายุราวๆ 14 ปี มาบ่นให้แฟนฟังว่า ไม่รู้ไปกินอะไรผิดหรือเปล่าทำไม มันคันๆ รอบดวงตา และ ปาก โดยที่เด็กคนนี้ไม่รู้ว่า อีกหลายๆคนก็เป็น แฟนก็เลยแนะนำวิธีให้ แต่ในใจก็รู้สึกงงว่า อยู่ๆ ก็มีคนเป็นอาการเดียวกันเกิดขึ้นเรื่อยๆ สงสัยงานนี้คงจะมีคนเป็นอีกร่วมร้อยคนกระมัง
     
  19. kittapass

    kittapass เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +257
    ผมก็คันตามตัวมากกว่า เพราะอาบน้ำอุ่น นอนห้องแอร์ผิวเลยแห้ง ก็เลยคัน (คนที่คันตาอาจแพ้อากาศ)
     
  20. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ท่าน llilliilliiill แค่พกใส่กระเป๋าเสื้อก็(ชนะ)พอแล้ว ทานยามากๆไตทำงานหนัก ไม่ดีนะท่าน

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...