ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    ขอแสดงความยินดีและโมทนาบุญสร้างฐานองค์พระกับคุณ mooom, คุณ sereenon และคุณส้มจุก

    ที่เป็นเจ้าของพระขรรค์ ด้วยนะครับ
     
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,407
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,418
    ขอแสดงความยินดีและโมทนาบุญกับคุณ mooom, คุณ sereenon และคุณส้มจุก ด้วยครับ
     
  3. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะค่ะ

    สาธุ สาธุ สาธุ

    จันทรกาล
     
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ...การพบพญาอัสดรนาคราชครั้งแรก...

    ก่อนจะเล่าประวัติพระขรรค์ทั้ง ๙ เล่มนั้น ขออนุญาตกล่าวถึงพญาอัสดงนาคราชก่อนค่ะ เรื่องนี้เป็นปัจจัตตัง โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านค่ะ

    ย้อนหลังไปประมาณปี ๒๕๕๓ หลังจากดิฉันได้รู้จักพระอาจารย์รูปหนึ่งทางภาคเหนือ (ขออนุญาตไม่เอ่ยนามของท่าน) และได้ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม ปางจักรพรรดิ ขนาดหน้าตัก ๓๐ นิ้ว ถวายแด่พระคุณเจ้ารูปนั้น และได้อุปัฏฐากท่านเรื่อยมา

    จนกระทั่งวันหนึ่งดิฉันได้มโน ฯ ไปกราบสมเด็จองค์ปฐม และสมเด็จองค์ปัจจุบันที่พระนิพพานตามปกติ เมื่อกราบขอขมาพระองค์ท่านเรียบร้อยแล้ว สมเด็จองค์ปฐม ทรงตรัสว่า ..

    "วันนี้ไปหาพระอินทร์นะลูกนะ ท่านมีเรื่องจะคุย"

    จากนั้น จึงกราบลาพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ขออาราธนาบารมีพระ ให้ไปปรากฏต่อหน้าท้าวสักกเทวราช เห็นท้าวสักกเทวราชในท่านอนตะแคงแบบสบาย ๆ และกล่าวแบบยิ้ม ๆ ว่า ..

    "เออ..ลูก ไปบอกพระคุณเจ้า.....(ทางภาคเหนือ)ว่า อธิษฐานอะไรให้ดูกาลหน่อยนะ เล่นเอาเทวดาวุ่นวายกันไปหมด"

    จึงนึกได้ว่า พระอาจารย์ท่านนั้นบอกว่า อยากอธิษฐานอัญเชิญพระคู่บารมีของท่านขึ้นมา และเคยกราบเรียนท่านว่า พระคู่บารมีของท่าน เป็นพระแก้วขาว

    ได้ขอขมาแทนพระอาจารย์รูปนั้น และจะนำความไปแจ้งแก่พระอาจารย์ท่านนั้น จากนั้นท้าวสักกเทวราชได้กล่าวว่า..

    "เสร็จจากนี้แล้วให้ไป เมืองบาดาลนะ" (คำว่า เมืองบาดาลของท่าน เป็นอันเข้าใจว่า เป็นเมืองของท่านโภคฯ นาคราช เวลานั้นไม่ทราบชื่อเมืองของท่าน จึงได้กราบลาพระองค์ท่าน แล้วอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ไปปรากฏต่อหน้าท่านโภคนาคราช

    ปรากฏว่า เมื่อไปถึง มีการประชุมกันอยู่ มีท้าววิรูปักษ์ เป็นประธาน จึงได้กราบขอขมา และถวายบุญแด่ทุก ๆ องค์ทุก ๆ ท่าน เพื่อแสดงความเคารพ ท้าววิรูปักษ์กล่าวว่า...

    "ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยนะ เป็นผู้ส่งข่าวให้คนนั้นคนนี้ ขอให้ทำหน้าที่ตนเองให้ดีนะ"

    จากนั้นได้กราบพระองค์ท่าน เมื่อท้าววิรูปักษ์กล่าวจบ ได้ยินเสียงที่เปี่ยมด้วยอำนาจ

    "ไหนเราขอดูหน้าคนที่ปลุกให้เราตื่นจากสมาบัติหน่อยนะ"

    เมื่อได้ยินเสียงนี้รู้สึกตื่นตะหนกเล็กน้อย ทำอะไรไม่ถูก เพราะเสียงท่านเป็นผู้มีอำนาจมาก เห็นท่านผู้หนึ่งลักษณะไม่เหมือนกายละเอียดของพญานาคราชทั่วไป ท่านคล้ายพวกนักบวชโบราณมากกว่า ผมเผ้ายาวรุงรัง เมื่อหันไปมองพบว่า มีท่านที่แต่งกายลักษณะเดียวกันอีกหลายท่าน

    จึงก้มกราบที่เท้าของท่านผู้นั้น และกล่าวว่า "ท่านเจ้าคะ..หากข้าพเจ้า หรือบุคคลใดที่เกี่ยวเนื่องกับข้าพเจ้า ทำอะไรล่วงเกินท่านไป ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า และบุคคลนั้นด้วยเจ้าข้าฯ "พญาโภคฯนาคราช เห็นดังนั้น ได้กล่าวว่า " นี้คือ ท่านอัสดรนาคราช ท่านเป็นผู้เฝ้าสมบัติที่เป็นส่วนของพระพุทธรูปโบราณทั้งหลาย กราบท่านซะนะลูก"

    พญาอัสดรนาคราชได้หัวเราะเสียงดังลั่น และกล่าวว่า..

    " เออ..นี่เรอะลูกสาวสหายของเราไม่เจอกันนาน เอ้า..ไหน ๆ มาแล้ว เราจะพาไปชมองค์พระนะ "

    เมื่อท่านกล่าวจบ ปรากฏว่า รู้สึกทุกอย่างมืดไปหมดมองไม่เห็นอะไร ได้ยินเสียงว่า "ลืมตาได้แล้ว"จากนั้นภาพต่าง ๆ ก็ชัดเจนเช่นเดิม เห็นเป็นห้องโถงใหญ่มาก ๆ ภายในบรรจุพระแก้วสีขาว หลายขนาดตั้งแต่หน้าตัก ๓ นิ้วขึ้นไป จนถึงขนาดใหญ่ แต่ไม่เกิน ๓๐ นิ้ว

    เมื่อมองไปอีกด้าน เห็นเป็นพระแก้วเหลืองเต็มไปหมด มีหลายแบบหลายขนาดเช่นเดียวกัน พญาอัศดงนาคราชกล่าวว่า

    "ห้องนี้เป็นพระแก้วขาว ห้องต่อไป เป็นพระแก้วเหลือง อีกห้องเป็นพระแก้วสีฟ้า แก้วสีเขียวและพระแก้วแดง แต่บุญของเจ้านั้น จะมีความเนื่องกับพระแก้วขาวนะ"

    พญาอัสดรนาคราชกล่าวว่า "เลือกเอาจะเอาองค์ไหน จะได้ส่งไปให้"ตอนนั้น รู้สึกปิติใจมาก ปนกับความเกรงกลัวบารมีของท่าน จึงตอบท่านว่า

    "ท่านเจ้าคะ แค่หม่อมฉันได้มีโอกาสได้เห็นก็เป็นบุญตาแล้วเจ้าข้าฯ ท่านจะมอบองค์ไหนก็ได้ตามกำลังบุญที่ควรได้มา แต่ขอให้ไม่เป็นการรบกวนท่าน และฝืนกฏของกรรมก็พอ"

    เมื่อกล่าวจบท่านหัวเราะเสียงดังมา อย่างนั้นก็เอาตามวารบุญของเจ้า และพระรูปนั้นแล้วกันนะ

    จากนั้นก็เห็นภาพตัวเองปรากฏที่ท้องพระโรง เหมือนเดิม จึงได้กราบลาท้าววิรูปักษ์ และท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุก ๆ องค์ จากนั้นจึงได้ออกจากสมาธิ และอุทิศบุญตามปกติ

    เมื่อออกจากสมาธิแล้ว จึงได้โทรไปถามพระอาจารย์ท่านนั้นว่า พระอาจารย์อธิษฐานอะไรหรอเจ้าคะ พระอาจารย์ตอบว่า

    "ไม่มีอะไรหรอกคุณโยม วันนี้อาตมาอธิษฐานเรียกพระแก้วคู่บารมีของอาตมาเท่านั้นเอง" จึงได้กราบเรียนท่านว่า ถึงเวลาท่านก็จะได้ตามกำลังบุญ แต่ไม่ได้เล่าอะไรมากไปกว่านี้ เนื่องจากท่านยังไม่ได้เปิดเผยเรื่องต่าง ๆ ในเวลานั้น

    ในการมโนมยิทธิแต่ละครั้งนั้น ดิฉันเองไม่เคยทราบล่วงหน้าว่า จะได้พบอะไร ส่วนใหญ่ตั้งใจไปกราบพระพุทธเจ้า และท่านผู้มีคุณทั้งหลายเท่านั้น ครั้งนี้เป็นครั้งหนึ่งที่ประทับใจไม่รู้ลืม เมื่อได้พบพญาอัสดรนาคราช นั้น มีความประทับใจมาก ๆ และขอจบเรื่องของท่านเพียงเท่านี้ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2012
  5. ส้มจุก

    ส้มจุก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +1,054
    ได้โอนเงินจำนวน2,999 บาทเข้าบ/ช ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2 ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ทางเอทีเอ็มเวลา9.57น.
    วันที่ 10 ธค.55 แล้วค่ะ

    ขออนุโมทนากับคุณน้ำใสและคณะทุกๆท่านค่ะ
     
  6. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสด้วยนะค่ะ

    อ่านแล้วเป็นปลื่มปีติไปด้วยเลยค่ะ

    จันทรกาล
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติพระขรรค์นาคราช ๙ สี ตอนที่ ๑ เรื่องของพญาอัสดรนาคราช ..


    ในประวัติดวงแก้วโภคนวบดินทร์ ได้กล่าวถึงประวัติของพญาโภคบดีพงศา หรือพญาโภคนาคราช และพญาโยชนนาคราช ส่วนพญานาคราชอีก ๖ ท่านยังไม่ได้กล่าวถึง
    ในวันนี้จะได้กล่าวถึงพญาอัสดรนาคราช ผู้มีส่วนสำคัญในการรักษาสมบัติของพระพุทธศาสนาท่านหนึ่ง เรื่องราวมีดังนี้...

    _______________________________________________
    2012-12-07 12.07.47.jpg


    ย้อนหลังไปก่อนสมัยพุทธกาลของสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า ซึ่งมนุษย์ในยุคนั้นมีอายุอยู่ระหว่าง ๘๐,๐๐๐ –๑๐๐,๐๐๐ ปี มีพญานาคราช ผู้มีบุญญาธิการ จุติมาเวลาใกล้เคียงกัน ๙ ตน ซึ่งอธิษฐานมาจุติ เพื่อทำหน้าที่บำรุงพระพุทธศาสนา อันได้แก่ พญาโภคนาคราช พญาอัสดรนาคราช พญาศรีสรรเพชรนาคราช พญาโยชนนาคราช พญาชารวางค์นาคราช พญาศิรสีห์นาคราช พญาปชารัตนบดีนาคราช พญาศุรมงคลนาคราช และพญาศุรปัตต์นาคราช รวมทั้งสิ้น ๙ เมือง

    หลังจากพญาโภคนวบดีได้ส่งสาส์นเชิญพระโอรสของกษัตริย์เมืองต่าง ๆ เพื่อร่วมพิธีอัญเชิญดวงแก้วประจำกายของแต่ละตนแล้ว เมื่อเสร็จพิธีพญานาคทั้ง ๙ ต่างได้ให้คำมั่นสัญญาในการที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันต่อไปในอนาคตกาล

    กล่าวถึงพญาอัสดรนาคราชนั้น ได้ปกครองเมืองสัปปยุทธนคร พระองค์ไม่มีพระมเหสี และพระโอรส-ธิดา เมื่อมีภารกิจต่าง ๆ ทรงมอบหมายให้ภัทรเสนานาค และอัศวเทพเสนานาค เป็นผู้ดูแลเมืองต่อจากพระองค์

    หลังจากท่องเที่ยวไปในโลกมนุษย์และได้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐ รูปแล้ว ท่าน ได้ปรารถนาให้มีอายุยืนยาว เพื่อที่จะดูแลสมบัติและทะนุบำรุงพระศาสนาของพระบรมศาสดาทั้งสิ้น ๔๙ พระองค์
    เมื่อเสร็จภารกิจการอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ท่านได้ปลีกวิเวกเข้าสมาบัติบำเพ็ญบารมีแก่กล้า หากนับเป็นอายุเป็นเวลาหนึ่งแสนปีของมนุษย์ จึงจะออกจากฌานสมาบัติ เมื่อออกจากสมาบัติ ท่านดำริว่า

    "เราควรจะแสวงหาพระอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรม และเชี่ยวชาญวิชาต่าง ๆ หากเราปรารถนาที่จะรักษาสมบัติของพระศาสนา เราจะต้องมีวิชาแก่กล้า เพราะผู้ที่แสวงหาประโยชน์นี้ และต้องการแย่งชิงยังมีอยู่ เราจะไปชวนโภคนาคราช และศรีสรรเพชรนาคราช ให้ไปด้วยกัน”

    เมื่อท่านดำริดังนั้นจึงได้ไปปรากฏกายต่อหน้าพญาโภคฯนาคราช กาลนั้นพญาโภคนาคราชนั้นได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ครองเมืองต่อจากพระบิดา ซึ่งได้จุติไปแล้ว กาลต่อมาพระมเหสีจุติบนแท่นบรรทม พระนามว่า พระนางนิมมารตีเทวี และพระโอรสองค์แรก พระนามว่า เจ้าชายอัคคีตาปะนาคราช เนื่องจากวันประสูติบังเกิดแสงไฟลุกโชติ แต่ไม่มีความร้อนเกิดขึ้นที่ท้องพระโรง จากนั้นเครื่องประโคมดนตรีได้ดังขึ้นเอง โดยไม่มีผู้บรรเลง สร้างความปิติยินดีแก่พญาโภคนาคราชยิ่งนัก ทรงรักใคร่เจ้าชายอัคคีตาปะอย่างมาก ทรงถ่ายทอดวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่มีแก่เจ้าชายทุกอย่าง

    เมื่อพญาอัสดรนาคราช ไปถึงเมืองสัตตรัตนนคร ทรงแจ้งความประสงค์ พญาโภคนาคราช ทรงเห็นด้วยกับความคิดของพญาอัสดรนาคราช จึงมอบหมายให้ธนบดินทร์เสนานาค เป็นผู้มีศักดิ์เป็นพระญาติกัน และเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด และเก่งในการปกครอง

    ธนบดินทร์เสนานาคนั้น มีบุตรชายนามว่า สุนันทะนาคราช ซึ่งเป็นนาคที่มีฤทธิ์มาก ผู้หนึ่งในนาคพิภพ

    ธนบดินทร์เสนานาคนั้น ได้สั่งการให้สุนันทะนาคราชคอยติดตามคุ้มภัย และคอยดูแลพญาโภคนาคราช และพญาอัสดรนาคราช ส่วนเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชได้คอยช่วยเหลือธนบดินทร์นาคราช ในการดูแลเมืองสัตตรัตนนคร จากนั้นเจ้าแห่งบาดาลทั้งสองได้เดินทางไปพบพญาศรีสรรเพ็ชรนาคราชต่อไป
    ยังมีต่อ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  8. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติพระขรรค์นาคราช ๙ สี ตอนที่ ๒ กำเนิดพระขรรค์นาคราช ๙ สี..

    หลายท่านอาจจะแปลกใจว่า เหตุใดพญาโยชนนาคราช ไม่ได้ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงพญาโยชนนาคราชได้ถือศีลเข้าสมาบัติ และอีกประการท่านไม่ได้มีความสนิทสนมกับพญาอัสดรนาคราชเท่าใดนัก พญาอัสดรนาคราชจะมีความสนิทสนมกับพญาโภคนาคราช และพญาศรีสรรเพ็ชรมากกว่า

    2012-12-07 12.03.56.jpg

    กล่าวถึงพญาศรีสรรเพ็ชรนาคราช ปกครองเมืองปัญจพัชรนคร มีพระมเหสีพระนามว่า “พระนางปุญญวดี” ครั้งนั้นทรงมีพระโอรส-ธิดา เพียง ๒ พระองค์คือ พระธิดาหยาดทิพย์ และเจ้าชายภูมบดีนาคราช ทรงปกครองเมืองด้วยความสงบร่มเย็นตลอดมา

    ฝ่ายพญาอัสดรนาคราช พญาโภคนาคราช และสุนันทะเสนานาค ได้ไปถึงเมืองปัญจพัชรนคร ทรงชักชวนไปแสวงหาโมกขธรรมในเมืองมนุษย์ ท่านได้ขออนุญาตพระมเหสี พระนางปุญญวดี ทรงอนุโมทนาบุญ จากนั้น พระองค์ได้มอบหมายงานให้พญาสีหพรหมมินทร์นาคราช ซึ่งเป็นพระอนุชาให้ดูแลเมืองในช่วงที่พระองค์ไม่อยู่ เมื่อสั่งการเรียบร้อยแล้ว

    ทั้งสามพระองค์ได้แวกน้ำ ขึ้นไปยังโลกมนุษย์ แปลงกายเป็นมานพหนุ่มแล้วเดินทางแสวงหาพระอาจารย์ การเดินทางนี้ไม่ได้มีการใช้ฤทธิ์แต่อย่างใด เพราะท่านต้องการใช้ชีวิตแบบมนุษย์ทั่วไป

    การเดินทางจากปัญจพัชรนครยังโลกมนุษย์เข้าไปในทางทิศเหนือ ได้พบถ้ำ ๆ หนึ่งมีสัปปายะดี จึงได้เข้าไปพักในถ้ำนั้น พบว่า ในถ้ำเป็นที่อาศัยของพระฤาษีตนหนึ่ง ท่านกำลังบำเพ็ญตะบะ เข้าสมาบัติไม่ทราบว่าเป็นเวลานานเท่าใด เนื่องจากกายของท่านได้ห่อหุ้มด้วยหิน

    สามกษัตริย์หนุ่มแห่งนาคพิภพได้มีความตื่นเต้นอย่างมาก ต่างใช้ทิพยจักขุญาณตรวจดูว่า ท่านผู้นี้จะเป็นพระอาจารย์ที่ตนเสาะแสวงหาหรือไม่

    หลังจากตรวจสอบแล้วได้ทราบว่า พระฤาษีผู้นี้ จะเป็นผู้สอนวิชาต่าง ๆ แก่ท่านทั้งสาม ต่างก็ปิติยินดี จึงได้แบ่งงานกันทำ โดยฝ่ายพญาศรีสรรเพ็ชรนั้น ได้กลับมายังเมืองของตน หาภาชนะที่จะบรรจุน้ำ และอาหารที่ทำด้วยทองคำ และหาผ้าอย่างดีที่มนุษย์สามารถใช้ได้ และช่วยหาผลไม้ที่มีรสชาติดี และเนื้อนุ่มมาถวายแก่พระฤาษี

    พญาอัสดงนาคราชนั้น ได้ทำหน้าที่หาฟืน หาผลไม้ น้ำฉันน้ำใช้ เพื่อรอพระฤาษีออกจากสมาบัติ
    ส่วนพญาโภคนาคราชนั้น ได้ทำเสนาสนะให้สะอาด นำดอกไม้ต่าง ๆ มาปูเป็นที่นั่ง และทางเท้า โดยใช้ฤทธิ์อธิษฐานไม่ได้ดอกไม้นั้นเหี่ยวแห้งจนกว่าพระฤาษีจะออกจากฌาณสมาบัติ โดยมอบหมายให้สุนันทะนาคราชคอยดูแลความปลอดภัยแก่สังขารของพระฤาษี


    เวลาผ่านไป ๓ เดือนในโลกมนุษย์ พระฤาษีผู้นั้น ได้ออกจากสมาบัติ และลืมตาขึ้น จากนั้นได้ใช้วิชานพเก้าไตรกาล อธิษฐานพระขรรค์ขึ้นมา ๙ สี ได้แก่สีขาวใส สีเขียวเข้ม สีเหลืองเข้ม สีเหลืองทอง สีม่วงเข้ม สีม่วงอ่อน สีชา สีชมพู และสีแดง สร้างความตื่นเต้นยินดีแก่พญานาคทั้ง ๔ อย่างยิ่ง

    เมื่อสำเร็จแล้ว พญาโภคนาคราชได้นำดอกไม้โปรยตามทาง สุนันทะนาคราช และพญาอัสดรนาคราชช่วยกันนำน้ำดื่ม และน้ำใช้มาถวาย ส่วนพญาศรีสรรเพ็ชรให้นำผ้าอย่างดีถวาย เพื่อให้พระฤาษีได้อาบน้ำ ฝ่ายพระฤาษี ยังไม่ได้กล่าวอะไรแก่พญานาคทั้ง ๓ ..
    ยังมีต่อ...

    __________________________________________

    หมายเหตุ สำหรับท่านที่เกี่ยวข้องในประวัติพระขรรค์นี้

    ๑. พญาสีหพรหมมินทร์นาคราช คือ คุณ sun2555 ก่อนจะมาเกิดอีกครั้งในยุคที่ปรากฏในประวัติของพระเกษรีฤาษี

    เหตุที่คุณ sun2555 ได้ดูแลพระขรรค์หลายองค์ คือ เคยเป็นพระอนุชาของพญาศรีสรรเพ็ชรนาคราช

    ๒. สุนันทะเสนานาค คือ น้อง ID_Idea คนน้องค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  9. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เข้ามาอ่านประวัติช่วงท่านพ่อศรีสรรเพ็ชรท่องเที่ยวค่ะ อิอิ
    สงสัยเรายังเป็นณยามาลย์อยู่แน่ ๆ
    รอติดตามตอนต่อไปเจ้าค่ะ
     
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ถูกต้องจ๊ะ ตอนนี้น้องตาลเป็นณยามาลย์จ๊ะ ยังไม่ได้รู้จักกับพญานาคกลุ่มนี้ เนื่องจากที่ตั้งเมืองอยู่ไกลกันค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

    NUmsai
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติพระ ๙ สี ตอนที่ ๓ พระอัฐกัณฑฤาษี ผู้ให้กำเนิดวิชานพเก้าไตรกาล ..


    ครั้นเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ พระฤาษีก็ได้รับถวายผลไม้ที่มีรสหวาน จากพญาอัสดรนาคราช และพญาศรีสรรเพ็ชรจัดเตรียมมาถวาย พร้อมน้ำฉัน น้ำล้างมือ เมื่อรับผลไม้เรียบร้อยแล้ว พระฤาษีทรงหลับตานิ่ง เป็นการรวมบุญอธิษฐานให้พรแก่พญานาคทั้งหลาย
    จากนั้นเป็นครั้งแรกที่ท่านได้กล่าวแก่ผู้เป็นใหญ่แห่งภพบาดาลทั้ง ๓ ว่า ...

    “เราขอโมทนาในคุณความดีของพวกเธอทั้งหลายที่ให้น้ำ และอาหารแก่เราหลังออกจากสมาบัติ ความจริงแล้วเราเองก็รู้ล่วงหน้าว่า จะต้องพบพวกเธอในอนาคตกาล จึงได้เข้าสมาบัติอธิษฐานพระขรรค์แก่พวกเธอทั้งหลาย วิชานพเก้าไตรกาล เป็นวิชาที่เราค้นพบเอง ผู้ที่จะรับช่วงต่อวิชานี้ได้จะต้องเป็นมนุษย์ และเป็นชายเท่านั้น
    วันนี้เราขอมอบพระขรรค์อันเป็นเรื่องแสดงความดีแก่พวกเธอ พระขรรค์ ๙ สีนี้ เราขอมอบแด่พญานาคราช ๙ เมือง ผู้ที่จะร่วมทะนุบำรุงพระศาสนาในอนาคตกาล"


    จากนั้นได้ได้มอบพระขรรค์ให้แก่พญาอัสดรนาคราช พญาโภคฯนาคราช และพญาศรีสรรเพ็ชรนาคราช และได้ฝากพระขรรค์ที่เหลือแก่พญานาคราชอีก ๖ เมือง ดังนี้..

    ๑. สีเหลืองอ่อน - พญาอัศดงนาคราช
    ๒. สีขาว –พญาศรีสรรเพชร
    ๓. สีเขียวเข้ม –พญาโภคนาคราช
    ๔. สีม่วงเข้ม -พญาศุรมงคลนาคราช
    ๕. สีชา –พญาโยชนนาคราช
    ๖. สีแดง - พญาชารวางค์นาคราช (คุณ mooom)
    ๗. สีเหลืองทอง –พญาศิรสีห์นาคราช-(คุณ prapaanpong)
    ๘. สีชมพู - พญาปชารัตนบดีนาคราช
    ๙. สีม่วงอ่อน -พญาศุรปัตต์นาคราช (ท่าน Ricky)


    ส่วนสุนันทะเสนานาคนั้น พระอัฐกัณฑฤาษีได้มอบพระขรรค์สีเงินยวง เป็นเครื่องระลึกในการอุปัฏฐากท่านในครั้งนั้น ซึ่งไม่ได้ประกอบพิธีตามวิชานพเก้าไตรกาล แต่เป็นการประกอบวิชาตามวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ให้เป็นเครื่องระลึกในการอุปัฏฐากท่านในครั้งนั้น

    จากนั้นพระอัฐกัณฑฤาษีได้สอนวิชาต่าง ๆ ยกเว้นวิชาเล่นแร่แปรธาตุและนพเก้าไตรกาล รวมทั้งการทรงอิทธิบาท ๔ ให้แก่พญานาคทั้งสาม ส่วนสุนันทะเสนานาคนั้น มึหน้าที่คอยคุ้มกันภัยอันตรายระหว่างการฝึกวิชา เมี่อสำเร็จแล้ว พญานาคราชทั้งสามได้ลาพระอัฐกัณฑฤาษีกลับสู่เมืองของตน

    ยกเว้นพญาอัศดรนาคราช พระอัฐกัณฑฤาษีได้มอบหมายให้นำพระขรรค์อีก ๖ เล่มที่เหลือ เพื่อมอบแก่พญานาคเมืองอื่น ๆ ต่อไป
    ยังมีต่อ..

    หมายเหตุ ยังมีพระขรรค์ ๓ สีที่ยังไม่ขึ้นมา คือ สีขาว สีเหลืองเข้ม และสีเขียวเข้มค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติพระขรรค์นาคราช ตอนจบ สิ้นพญาสีหพรหมมินทร์นาคราช...

    2012-12-07 12.04.51.jpg

    ขอกล่าวถึงเมืองปัญจพัชรนคร ที่ตั้งของเมืองปัญจพัชรนครนั้น นอกจากมีเขตแดนติดต่อกับเมืองมนุษย์แล้ว ยังมีเขตแดนที่เชื่อมต่อระหว่างแดนของครุฑได้อีกด้วย

    เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ข่าวเรื่องของพญาศรีสรรเพ็ชรได้รู้ไปยังเมืองของพญาครุฑ พระนามว่า สุตตัตตระเวนไตย ซึ่งเคยเป็นศัตรูของพญาศรีสรรเพ็ชร เมื่อครั้งจุติใหม่ ๆ เนื่องจากมีนางครุฑานางหนึ่ง นามว่า บุพพารี ได้หลงใหลความสง่างามของพญาศรีสรรเพ็ชร เมื่อครั้งพระองค์ได้เสด็จไปแถบชายแดน นางได้แอบเข้ามาในเมืองบาดาล เพื่อรอพบกับพญาศรีสรรเพ็ชร

    ฝ่ายพญาศรีสรรเพ็ชรนั้นไม่ทราบความนี้แต่อย่างใด วันหนึ่งความลับถูกเปิดเผยว่า ตัวตนของนางที่แท้จริงเป็นครุฑ นางจึงถูกทหารเอกของพญาศรีสรรเพ็ชรฆ่าตาย

    เรื่องนี้รู้ไปถึงพญาสุตตันตระเวนไตย ซึ่งเป็นพระเชษฐา จึงอาฆาตว่า วันหนึ่งจะนำทัพมาถล่มเมืองนี้เสียให้ราบคาบ แต่ยังไม่มีโอกาส เนื่องจากวิชาของพญาศรีสรรเพ็ชรนั้นแก่กล้ายิ่งนัก ยากที่จะเอาชนะได้
    พญาสุตตันตระเวนไตย ทราบข่าวว่า พญาศรีสรรเพ็ชรไปแสวงหาโมกขธรรมยังเมืองมนุษย์ จึงได้นำทัพครุฑาทั้งหลาย เพื่อเข้าปิดล้อมเมือง หวังจะสังหารเหล่านาคและนำกลับไปเป็นอาหารของเหล่าครุฑทั้งหลายต่อไป

    ความทราบถึงพญาสีหพรหมมินทร์นาคราช จึงทราบว่า หากมีการรบกัน พระองค์ ไม่สามารถเอาชนะพญาสุตตันตระเวนไตยได้อย่างแน่นอน จึงได้ให้เหล่าองครักษ์พาพระนางปุญญวดี พระโอรส-ธิดา และเหล่านาคทั้งหลาย หลบซ่อนในถ้ำที่ปลอดภัย

    ส่วนพระองค์ได้ให้ทหารทั้งหลายตรึงกำลังไว้ ทรงใช้วิชาขยายกายโอบล้อมเมืองไว้ เพื่อไม่ให้เหล่าพญาครุฑสามารถเข้าตีเมืองปัญจพัชรนครได้ พญาครุฑจะโจมตีจากทางใดก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เพราะกายของพญาสีหพรหมมินทร์ได้ตรึงเอาไว้ ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้พระองค์บอบช้ำมาก ถึงกาลจุติในพรหมโลกทันที

    เมื่อนั้นเป็นเวลาที่พญาศรีสรรเพ็ชรกลับมาถึงเมืองพอดี พระองค์ได้ใช้วิชาไหมฟ้าที่พระอัฐกัณฑฤาษีได้สอนให้ ไล่เหล่าครุฑทั้งหลายออกจากเมืองไป และทรงเสียพระทัยที่พระอนุชามาสิ้นพระชนม์ในการปกป้องเมือง

    ทรงทำพิธีให้แก่พญาสีหพรหมมินทร์นาคราชอย่างสมพระเกียรติ และเพื่อให้ระลึกความดีของพญาสีหพรหมมินทร์ เรื่องนี้ได้รู้ถึงเมืองบาดาลอีก ๘ เมือง ต่างก็ทำการไว้อาลัยแก่พญาสีหพรหมมินทร์ ภายหลังวิชาขยายกายนี้ได้มีการสอนต่อในเชื้อพระวงศ์ชาวนครบาดาลต่อไป

    ฝ่ายพญาอัสดรนาคราชนั้นได้เห็นทุกข์ของการครองราชย์สมบัติ จึงได้ยกราชสมบัติให้แก่อัศวเทพเสนานาค แต่อัศวเทพเสนานาคนั้นไม่รับ ขอให้พระองค์อยู่ในตำแหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่หากต้องการปลีกวิเวก ตนก็พร้อมจะช่วยกันดูแลเมืองร่วมกับภัทรนาคราชดังเดิม

    พญาอัสดรนาคราชนั้นมีความปิติยินดีในความซื่อสัตย์ของทั้งสอง จึงได้แต่งตั้งให้เป็นพญานาคราช มีศักดิ์เท่าเทียบกับพระองค์ จากนั้นทรงได้กลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้ง เพื่ออุปัฏฐากพระอัฐกัณฑฤาษี นับเป็นเวลา ๒๐๐๐๐ ปีมนุษย์


    จากนั้นพระอัฐกัณฑฤาษีได้กล่าวว่า

    “อีกไม่นานจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลก แต่เราคงไม่ได้นมัสการพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น และจะมีพระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาธิการในนมาเกิดาคพิภพ นามว่า พญาภุชงค์นาคราช เธอจะต้องกลับไปยังเมืองบาดาล เพื่อเตรียมรอรับงานใหญ่นั้น เราโมทนาบุญทุก ๆ อย่างของเธอด้วยใจจริง”


    เมื่อพระฤาษีกล่าวเช่นนั้น พญาอัสดรนาคราชได้กราบลาพระอาจารย์ เพื่อกลับไปยังเมืองของตน และได้แจ้งข่าวการจุติของพระมหาโพธิสัตว์ พระนามว่า “พญาภุชงค์นาคราช” แก่กษัตริย์แห่งภพบาดาลทั้ง ๘ เมืองต่อไป

    ขอจบเรื่องประวัติพระขรรค์ ๙ สีชุดที่ ๕ เพียงเท่านี้ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai
     
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขอเชิญร่วมประมูลดวงแก้วบุญญสิทธิ์สุริยโชติ ขนาด ๑๐ กว่ากก.ค่ะ..

    ___0052-1.jpg


    ขอเชิญร่วมประมูล ดวงแก้วบรมจักรพรรดิ “ดวงแก้วบุญญสิทธิ์สุริยโชติ” ขนาดกว่า ๑๐ กิโลกรัม อัญเชิญจากถ้ำแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพาน

    ดวงแก้วนี้ ปรากฏในสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า โดยมีพระสุริยโชติโพธิสัตว์ เป็นหัวหน้ากายสิทธิ์ ๑๓,๒๕๐,๐๐๐ องค์ ปัจจุบันอยู่ชั้นสวรรค์ดุสิต

    ราคาเริ่มต้นการประมูล... ๑๕,๑๙๙ บาท


    ___0053-1.jpg
    กติกาในการประมูล


    ๑. เริ่มวันที่ ๑๓-๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๕ ภายใน ๑๙.๕๙ น. ตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะโรง
    ๒. หากที่มีผู้ประมูลในราคาสูงสุดเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยเวลาที่ปรากฏในเว็บพลังจิต โดยไม่เกินวันเวลาที่กำหนดไว้
    ๓. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วัน เมื่อโอนปัจจัยแล้ว จะทำการจัดส่งดวงแก้วให้แก่เจ้าของต่อไปค่ะ

    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......


    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    สาขาถนนศรีนครินทร์(กรุงเทพ-กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์/สะสมทรัพย์
    ปัจจัยร่วมบุญ ๑๐% หลังหักค่าใช้จ่ายร่วมสร้างฐานพระ และอีก ๑๐% หลังหักค่าใช้จ่ายนำเข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิค่ะ.283863/page-100#post6885657ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วบุญญสิทธิ์สุริยโชตินั้น เป็นดวงแก้วคู่บารมีของพญาอัสดรนาคราช สำหรับประวัติดวงแก้วจะเป็นเรื่องต่อจากประวัติของพระขรรค์ ขออนุญาตนำเสนอในครั้งต่อไปค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วบุญญสิทธิ์สุริยโชติ ตอนที่ ๑ กำเนิดแก้วบุญญสิทธิ์..

    ___0053-1.jpg

    พญาอัสดรนาคราชได้ศึกษาวิชาต่างๆ จากพระอัฐกัณฑฤาษี เมื่อสำเร็จแล้วได้กลับมายังเมืองสัปปยุทธนคร ท่านยังปราศจากพระมเหสีคู่บัลลังก์เหมือนเดิม เนื่องจากก่อนจะมาจุติเป็นพญานาคราชนั้น ได้อธิษฐานเนกขัมมบารมีมา

    ต่อมาท่านได้แต่งตั้งพญาอัศวเทพนาคราช เป็นรัชทายาทองค์ที่ ๑ และภัทรนาคราช เป็นรัชทายาทท่ ๒ เพื่อสืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ หรือเวลาที่พระองค์ต้องการปลีกวิเวก ก็จะมอบหมายให้พญาอัศวเทพนาคราช เป็นผู้ปกครองเมืองชั่วคราว บ้านเมืองอยู่ด้วยความสงบสุขเรื่อยมา

    กาลเวลาผ่านไป นับอายุขัยของมนุษย์หลายหมื่นปี พญาอัสดรนาคราชได้รับสาส์นจากพญาโภคนาคราช ถึงเรื่องสงครามระหว่างพญานาคตระกูลของพญาโภคนาคราช และพญานาคตระกูลสีดำ พญาอัสดงนาคราชได้ส่งพญาอัศวเทพนาคราชให้เป็นแม่ทัพบัญชาการรบครั้งนั้น จนได้ชัยชนะกลับมา

    ภายหลังได้ทราบข่าวการสูญเสียปุญญมาณวิกา พระธิดาองค์ที่ ๘ ของพญาโภคนาคราช ทรงให้พญาภัทรนาคราช นำพระขรรค์สีเหลืองเข้ม ซึ่งได้รับมอบจากพระอัฐกัณฑฤาษี พร้อมเครื่องบรรณาการณ์อื่น ๆ จำนวนมาก ส่งมอบให้แด่พญาโภคนาคราช เพื่อแสดงความเสียใจ

    ส่วนพระองค์ได้มอบหมายให้พญาอัศวเทพนาคราช ปกครองเมืองชั่วคราว แล้วปลีกวิเวกรักษาศีล เป็นเวลา ๑ เดือน(นาคพิภพ) เพื่ออุทิศบุญกุศลแก่ปุญญมาณวิกา และเหล่านาคราชที่จุติในการทำสงครามครั้งนั้น

    หลังจากพระองค์ได้ออกจากสมาบัติ จึงดำริว่า กาลข้างหน้าต่อไปเราต้องมีกิจที่ต้องทำมากมาก เราจะต้องหาผู้ที่มีมโนปณิธานเดียวกันมาช่วยเหลืองานครั้งนี้ จึงได้เข้าสมาบัติอีกครั้งเป็นเวลา ๗ วันแล้ว อธิษฐานเรียกดวงแก้วมณีอันเป็นสมบัติเดิมแต่อดีตขึ้นมา นามว่า “ดวงแก้วบุญญสิทธิ์” เพื่อช่วยปกป้องคุ้มภัยเมืองสัปปยุทธนคร โดยยกราชสมบัติให้พญาอัศวเทพนาคราชปกครองบ้านเมืองต่อไป

    จากนั้นทรงได้ทำพิธีประกาศคัดเลือกนาคราชทั้งหลายที่มีฤทธานุภาพสูง เป็นการอุทิศตนที่จะคอยดูแลสมบัติของพระศาสนา และดูแลสมบัติจักรพรรดิในส่วนขององค์พระพุทธรูปต่าง ๆ รวมทั้งธาตุกายสิทธิ์ ผู้ที่จะทำหน้าที่นี้ต้องมีความเสียสละที่จะยังไม่เคลื่อนภพจากความเป็นนาคราช จนกว่าจะได้พบพระพุทธเจ้าทั้ง ๔๙ พระองค์ โดยเริ่มนับจากสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า เป็นพระองค์แรก

    กาลนั้น มีพญานาคราชที่มีฤทธานุภาพมาก บางตนเป็นพระโอรสจากเมืองต่าง ๆ เห็นความสำคัญในหน้าที่นี้ จึงขอเสนอตัวเข้าร่วมทำหน้าที่กับพญาอัสดรนาคราช รวมทั้งสิ้น ๔๙ ตนโดยทุกตน มีจุติแบบโอปปาติกะทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีบริวารอาสาอีก ๔๓๕,๐๐๐ ตน สร้างความปิติยินดีแก่พญาอัสดรนาคราชยิ่งนัก จึงได้ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ที่ตนได้ร่ำเรียนมาแก่พญานาคราชทั้ง ๔๙ ตนนั้น เพื่อทำหน้าที่นี้ต่อไป
    ยังมีต่อ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2012
  16. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    สาธุ สาธุ สาธุ _/\_ ขออนุโมทนาบุญในธรรมทาน และบุญทุกประการกับพี่น้ำใสด้วยนะค่ะ
    หนูดีอ่านแล้วรู้สึกปลื่มและดีใจทุกครั้ง
    :cool:
    สงสัยรอบหน้าต้องเก็บทรัพย์ไว้ประมูลพระขรรค์สีเหลืองเข็มแล้วอิอิ
    หนูดี
     
  17. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    มารอฟังเรื่องเล่าหนอ...
     
  18. ขาล

    ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    ตอนนี้อ่านแล้วก็ขนลุก อนุโมทนาบุญ กับพญานาคทั้งหลาย
     
  19. winaiwon

    winaiwon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +6,577
    มาลุ้นกันว่าใครจะเป็นเจ้าของลูกแก้วดวงนี้น่ะครับ ^^
     
  20. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    มาฟังเรื่องเล่าต่อครับ น่าอัศจรรย์ยิ่งนักเรื่องไม่เคยมีมา พญานาคราชทั้งเก้าเมืองเป็นมิตรกัน :cool:

    สงสัยว่าทำไม่พระขรรค์ไม่มีสีฟ้า สีน้ำเงิน เหมือนพวกพลอยพญานาคอ่ะครับ?
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...