ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องบอยอีกครั้งค่ะ พี่เองก็ไม่ต่างกับน้องหรอกค่ะ เพียงแต่พี่ไม่ดื่มเหล้าหรือเบียร์ ตั้งแต่เรียนที่แม่โจ้ เพื่อนบอกว่า ไม่กินเหล้าด้วย ก็เลิกเป็นเพื่อนกัน พี่ก็บอกว่า "ถ้าเธอจะเลิกคบเรา เพราะเราไม่ดื่มก็เลิกคบเถอะ แต่สุดท้าย เพื่อนก็ยังคบเราอยู่"

พอไปทำงาน พี่ ๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จบวิศวกรเห็นว่า พี่จบแม่โจ้คิดว่า เป็นคอทองแดงเหมือนกัน ชวนดื่มเหล้า พอพี่บอกว่า ไม่ดื่ม ก็เป็นเรื่องแปลก ใหม่ ๆ ก็มีเสียงต่อว่า นาน ๆ เขาก็ชินไปเองไม่กล้าเซ้าซี้

การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นสิ่งที่สวนกระแสโลก แต่ปัจจุบัน กรรมเห็นทันตา เดี๋ยวนี้มีตัวอย่างให้เห็นเร็ว ขอเพียงให้เราหนักแน่น อดทนต่อสิ่งที่มายั่วยุให้ได้ เมื่อเราไม่สนใจ สิ่งเหล่านั้นก็ไม่มีผลกับเรา

ต่อแต่นี้ไป ขอให้น้องเริ่มต้นใหม่ ลืมเรื่องทุกอย่างที่เป็นความทรงจำที่ไม่ดีให้หมด ตั้งใจว่า...

- ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก่อนทำอะไร เราจะนั่งสมาธิสัก ๑๐ -๓๐ นาที

- ก่อนออกจากบ้านเราจะตั้งใจทำทาน และรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์

- ระหว่างวันเราจะนึกถึงพระพุทธเจ้า หรือพระอริยสงฆ์ตลอดเวลา ตายไปจากชาตินี้เราไม่ไปไหนจะไปพระนิพพาน(หากได้มโนมยิทธิ ก็ให้ตั้งจิตขึ้นไปพระนิพพาน กราบพระพุทธเจ้าฯ)

- และสุดท้ายก่อนนอน เราจะสวดมนต์นั่งสมาธิอย่างน้อย ๓๐ นาที ทำอย่างนี้ทุกวัน พี่รับรองว่าจะมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติค่ะ เรื่องของทิพยจักขุญาณจะเป็นพลอยได้ของการปฏิบัติ

ขอให้พ้นจากคนพาลทั้งปวง และขออย่าให้มารครอบงำน้องได้นะคะ

บุญรักษาค่ะ

Numsai


ขอบคุณพี่น้ำใสสำหรับธรรมทานมากๆเลยครับ เดี๋ยวจะลองเพิ่มเวลานั่งสมาธิดูครับ

 

ตั้งแต่ที่ผมเริ่มประมูลดวงแก้วบรมจักรพรรดิ "ภูวนาทสีหบดินทร์" ประมาณ พค.55 จนถึงประมูลพระขรรค์ กริซ และจักร ก็เริ่มคาดหวังว่า เมื่อไรหนอท่านเจ้าเมือง จะสอนการปฏิบัติให้แก่ลูกเมืองบ้างหนอ (ก็อยากรู้อยากเห็นบ้างครับ) และแล้วเค้าลางแห่งความหวัง ก็เริ่มเป็นจริงบ้างแล้ว ด้วยคุณน้ำใสได้เริ่มสอนทางปฏิบัติจากเรื่องเล่าต่างๆ ที่ได้พบมา และเพื่อนสมาชิกที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ในการปฏิบัติ ผมโมทนาในธรรมทานทั้งปวงด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ..................

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ ^^
สาธุ ๆ

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ ความสำเร็จ
ตามที่ปรารถนาทุกประการนะครับ สาธุ สาธุ

 

ขอบคุณสำหรับแนวทางปฏิบัติในการนั่งสมาธินะครับ พี่น้ำใส
อยากถามพี่น้ำใสว่า
1.การนั่งสมาธิตอนเช้า หรือ ก่่อนนอน
เราจะภาวนาด้วย พุทโธ หรือ นะมะพะทะ นะครับ พี่น้ำใส

2.อยากให้พี่น้ำใส อธิบายแนวทางในการแผ่เมตตา หรือแผ่กุศล
หลังจากที่ตัวเรานั่งสมาธิตามที่กล่าวข้างต้นนะครับ
แบบที่พี่น้ำใส เคยอธิบายในเรื่องการกลั่นบุญ แล้ว
แผ่เมตตาเป็นแบบอัปปมัญญา นะครับ ไม่รู้ัว่าเรียกถูกเปล่าครับ

ขอบคุณครับ
ธรรมวิวัฒน์

 

นักเรียนลงทะเบียนเรียนกันหมดแล้ว คุณครูหายไปไหนหนอ?
มารอคุณครูค่ะ ^^

 

แม่นาค...ได้ข่าวว่าฝึกหนัก ใช่รึไม่ท่าน?

 

ไม่ได้ฝึกอะไรพิเศษดอกจ้ะ พูดเสียใหญ่โต เดี๋ยวคนจะนึกว่าเก่งไปถึงไหนๆนะ ยังไม่ดีจ้ะ อีกเยอะเลย กว่าจะได้เท่าคนอื่นเขา ตอนนี้น้ำเต้าปูปลา เอ๊ย งูๆปลาๆนะจ๊ะ เลยย่องมาลงทะเบียนรออ่านอีกคน เผื่อได้นำอะไรไปใช้บ้าง

แล้วตาลเล่าได้ข่าวว่าหนักไม่ใช่เล่น ทั้งถือศีลทั้งปฏิบัติ จะพากันเก่งกันไปหมดแย้วน้า

 

ไม่รู้ว่าฝึกหนักไหม รู้แต่ว่าตัวหนักขึ้นทั้ง ๆ ที่งดข้าวเย็น
อ้างอิงจากกางเกงตัวเก่าตอนนี้ใส่แล้วคับมาก อึดอัดสุด ๆ :'(

 

เอ่อ อดข้าวแล้วไปกินอย่างอื่นปะเนี่ย น่าสงกะสัยจริง เอ่อ ลองฝึกวิชาที่มีผลพลอยได้ เผาผลาญแคลอรี่ดูสินะ ได้ผลหลายอย่าง อิอิ ว่าแต่จะมีไหมเนี่ย

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun ด้วยเช่นกันค่ะ หากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี ฯ ท่านไม่ได้เปิดทาง เรื่องบางอย่างเป็นปัจจัตตัง ไม่สามารถเล่าเป็นสาธารณะได้ค่ะ หลายเรื่องที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ รอวาระที่ครูบาอาจารย์ท่านอนุญาตค่ะ

ความจริงแล้วไม่อยากให้เรียกว่า การสอนค่ะ เพราะยังเป็นผู้ฝึกอยู่ ถือว่า เรานำเอาประสบการณ์ตรงมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่า จะถูกจริตแก่หลาย ๆ ท่านได้

การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องนั้น ต้องไม่ฝืนธรรมชาติ ปฏิบัติแบบง่าย ๆ สบาย ๆ แต่สม่ำเสมอ หากเราทำไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งเราจะก้าวหน้าในการปฏิบัติแบบเหนือความคาดหมายค่ะ

หากเราเริ่มทำติดต่อกันทุกวัน อย่างน้อย ๗ วัน วันใดวันหนึ่งขาด เราจะรู้สึกว่า เหมือนรู้สึกผิดต่อครูบาอาจารย์ สุดท้ายก็ต้องทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แม้เวลาป่วยก็นอนเอา หากวันใดเหนื่อยจากการทำงานมาก ๆ ก็นอนปฏิบัติ

การปฏิบัติธรรมนั้น ทำได้ทุกอิริยาบท ยืน เดิน นั่ง นอน แม้แต่เวลาเข้าห้องน้ำก็ทำได้ค่ะ คือ การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก จะภาวนาอะไรก็ได้ตามที่เราถนัด หรือจะสวดมนต์ในใจ หรือสวดพระคาถาเงินล้านก็ได้ค่ะ

เมื่อจิตไม่ส่งออกนอกกาย อยู่กับคำภาวนาในระหว่างวัน หมั่นฝึกไปเรื่อย ๆ จะเกิดความชิน หรือที่ครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า "จิตทรงฌาณ" ค่ะ

เวลาที่เราจะใช้งานจะเกิดความคล่องตัว เห็นภาพชัดเจนแจ่มใส คล้ายลืมตาค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun 2555 อีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Numsai

สมเด็จองค์ปฐมทรงสอนว่า

“ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมไปเป็นธรรมดา ลูกต้องเรียนรู้กฎของธรรมดาให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้มองทุกอย่างเป็นเรื่องของไตรลักษณ์เสมอ อีกทั้งเรื่องของโลกธรรม ๘ เมื่อเกิดขึ้นต้องทำใจหนักแน่นรับมันให้ได้ ”

ท่านพี่น้ำใส่เจ้าค่ะ เวลาพี่โดนคนรอบข้างต่อว่าหรือพูดไม่ดีแรงๆ แล้วทำให้ใจขุ่นมัวเราจะตั้งกำลังใจ:'(
ยังไงให้เหมือนเดิมเร็วที่สุด ช่วยบอกเคล็ดลับด้วยนะค่ะพี่น้ำใส
ขอเคล็ดลับกันตรงนี้เป็นธรรมทานนะค่ะ อิอิ

 

ขออนุโมทนาในคำถามของน้องด้วยค่ะ สำหรับการนั่งสมาธิตอนเช้า และก่อนนอนนั้น พี่จะภาวนาพุท-โธ เพื่อเก็บกำลังค่ะ

แต่หากมีเรื่องต้องสอบถามพระ หรือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ พี่จะอาราธนา นะมะ -พะธะ ค่ะ เพราะทั้งสองบทนี้ ใช้งานต่างกัน

การภาวนาพุท-โธนั้น เป็นการขอบารมีพระพุทธเจ้า เพื่อให้จิตสงบระงับความฟุ้งซ่านของจิต หรือฝึกสมาธิให้เป็นฌาณ เป็นฐานการฝึกอภิญญาใหญ่ หรือบางครั้งก็พิจารณาเป็นวิปัสสนาฌาณค่ะ

ส่วนนะมะ-พะธะ นั้น ผู้ฝึกใหม่ ๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ดอกไม้ ๓ สี ธูป ๓ ดอก และเทียนหนัก ๑ บาท ๑ เล่ม และเงินตั้งแต่ ๑ สลึงขึ้นไป

จากนั้นต้องขอขมาพระรัตนตรัย และสมาทานพระกรรมฐาน เพื่อผลในการปฏิบัติด้านมโนมยิทธิจะมีความชัดเจนแจ่มใส และมีความคล่องตัว

ในคำสมาทานพระกรรมฐาน มีคำว่า "เหตุใดที่จะบังเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าฯ ขอให้ข้าพเจ้าทราบโดยไม่ต้องตั้งจิต แม้แต่ประการใด ณ.บัดเดี๋ยวนี้เถิด.."

คำนี้มีความหมายค่ะ เพราะถ้ามีเรื่องอะไร เราจะทราบล่วงหน้าก่อน หากเป็นกรรม อาจจะผ่อนหนักเป็นเบาได้

เป็นหลักวิชาสำหรับผู้ฝึกมโนมยิทธิ จำเป็นต้องทำ เพราะมโนมยิทธินั้น เป็นการใช้กายใน หรือกายละเอียด ขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้า หรือการท่องไปในภพภูมิต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่โลกันตนรก อเวจีมหานรก หรือแม้แต่สวรรค์ชั้นต่าง ๆ พรหมโลก และพระนิพพาน

อีกประการหนึ่งคือต่างดาว หรือต่างโลกธาตุ (ไม่ใช่โลกของเรา) หรือจะไปท่องต่างจักรวาลก็สามารถไปได้ค่ะ เรื่องนี้จะมีการเล่าให้ฟังในรายละเอียดเกี่ยวกับม้าแก้ว..ต่อไปค่ะ

สำหรับการแผ่เมตตาแบบอัปมัญญานั้น พี่จะนำมาเล่าภายหลังค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ และทุก ๆ ท่านอีกครั้งคะ

Numsai

 

การแก้จิตตก หรือเมื่อมีสิ่งกระทบใจหลายทาง พี่มีหลายวิธี ตามกำลังใจของเราค่ะ

๑. นึกถึงบุญที่เราทำมาให้มาก ๆ ให้ใจเราเปลี่ยนจากจิตตก เป็นปลื้มปิติใจ วิธีนี้เป็นวิธีแบบสมถะกรรมฐาน คือ จาคานุสติกรรมฐาน เป็นการเปลี่ยนอิริยบทของจิต จะช่วยให้ใจเราคลายจากจิตตกได้

หากไม่หาย

๒. นึกถึงมรณานุสติ -นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ นึกในใจว่า หากเราโกรธตายไปตอนนี้ นรกเป็นที่ไปแน่นอน ต่อให้เราทำบุญใหญ่แค่ไหนก็ต้องเสวยผลกรรมชั่วก่อน

ฉะนั้น เราจะรีบปรับจิตให้เรา และนึกว่า เราจะไม่มัวเสียเวลากับผู้ที่เปิดทางนรกให้เรา และรีบนึกถึงบุญที่ทำให้จิตเราแช่มชื่นแจ่มใส และอโหสิกรรมแก่ผู้ล่วงเกินนั้น ก็ได้พรหมวิหารธรรมต่ออีก

(เมื่อก่อนพี่ชอบใช้วิธีนี้มาก เพราะกลัวตกนรก) จึงรีบเปลี่ยนจิตจากสีเทา มาเป็นสีขาว หรือสีใส

๔.นึกถึงโทษของความโกรธ ความโกรธทำให้แก่ง่าย ปฏิบัติล่าช้า ตายไปตกนรก ให้แก้โดยหมั่นเจริญพรหมวิหาร ๔ แผ่เมตตาให้ตัวเองและผู้อื่นให้มาก ๆ จะช่วยได้เช่นกันค่ะ

สามวิธีนี้ จะช่วยให้ระงับจิตตกได้ชั่วคราวค่ะ คล้ายเอาหินไปทับหญ้า แต่ไม่ได้แบบถาวร

๓. วิธีดูปฏิกิริยาของจิต หรือการดูจิตของเราขณะที่ขุ่นมัว หรือมีความโกรธวิธีนี้ ผู้สอนพี่คือ..

ท่านพระอธิการสมภพ ปัญญาธโร ท่านเจ้าอาวาสวัดโพธิญาณรังสี จ.สุรินทร์ ท่านสอนวิธีดูจิตตามแบบหลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ให้กับพี่ว่า..

"เมื่อมีสิ่งที่มากระทบใจเรา ให้เราถอยออกไปดู คล้ายมีตัวเราอีกคนอยู่ข้างหลัง ของความโกรธ หรือความขุ่นใจนั้น แล้วดูว่า มันเกิดขึ้นอย่างไร ตั้งอยู่ อย่างไร และหายไปอย่างไร

ใหม่ ๆ สติมันจะจับไม่ค่อยทัน เพราะเราไม่เป็นผู้ดู แต่เราชอบเป็นผู้เล่น เมื่อมีคนมายั่วให้เราโกรธ เราก็เต้นตามบทบาทให้เขาให้เล่น

ถ้าเราหยุดมาเป็นผู้ดูซะ เราจะดูปฏิกิริยาของจิตว่า เวลาเราโกรธ ไม่พอใจ จิตมันมีอาการอย่างไร เร่าร้อนทุรนทุราย อยากจะทำร้ายเขากลับ โต้ตอบกลับให้สะใจนั้นเป็นวิธีที่ผิด เพราะจะเป็นการสร้างกรรมใหม่

หากเราเป็นผู้ดูจิต เราจะมัวแต่ดู ไม่มานั่งถาม หรือโต้เถียงว่า ใครผิดใครถูก เราจะดูว่า จิตมันร้อนแล้ว มันอยู่นานแต่ไหน และมันหายไปอย่างไร

เมื่อฝึกบ่อย ๆ จากที่เราเคยโกรธ หรือขุ่นมัวทั้งวันหลังทะเลาะกับผู้อื่น ความโกรธจะเริ่มลดลง เหลือครึ่งวัน จากครึ่งวันเริ่มนับเป็นชั่วโมง และสุดท้าย ความโกรธมา สติมันดักไว้ก่อน เราจะเป็นผู้ระงับความโกรธได้ดี

ส่วนจะละความโกรธได้นั้น จะต้องบรรลุพระอนาคามีก่อนนั่นแหละความโกรธนี้จะไม่ปรากฏให้เห็น"

ผลบุญที่ได้จากธรรมทานครั้งนี้ ขอน้อมถวายพระอธิการสมภพ ปัญญาธโร(ธ.) เพื่อเป็นสังฆบูชาด้วยเถิด สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญกับน้องหนูดีอีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ขอ อนุโมทนา สาธุ ต่อ การปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ของผู้ปฏิบัติ ด้วยครับ (ตนรู้ของตน)

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ พี่น้ำใส

 

สาธุ ขอน้อมโมทนาบุญในธรรมทานกับพี่น้ำใสเจ้าค่ะ
การสมาทานพระกรรมฐานจำเป็นต้องทำจริง ๆ ค่ะ
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการไม่สมาทานพระกรรมฐานมาฝากค่ะ
เผื่อจะเป็นประโยชน์ ไม่มากก็น้อยนะคะ


ปกติตาลนั่งสมาธิจะไม่ได้สมาทานพระกรรมฐานแต่จะขอขมาพระรัตนตรัยเท่านั้น
เนื่องจากเวลามีน้อย และไม่คิดอะไร...
เพราะเหตุนี้จึงพลาดไปอย่างแรงค่ะ

 

สำหรับตาลเมื่อฝึกมโนมยิทธิไปเรื่อย ๆ จากครึ่งกำลังกลายเป็นเต็มกำลังโดยไม่รู้ตัว
นั่นคือสามารถถอดกายในไปท่องเที่ยวได้
ตอนที่ยังประคองสติได้คือตอนที่ตื่นนั้น ไม่มีปัญหาค่ะ
คือเราสามารถควบคุมจิตเราได้อย่างเต็มที่


แต่ตอนที่นอนนั้นกลับเป็นอีกอย่างค่ะ
เริ่มจากไปนอนค้างบ้านเพื่อน หลังจากที่ตาลเข้านอนไปแล้ว
แฟนเพื่อน(ที่ฝึกสมาธิ)กลับเห็นกายในของตาลเดินลงมาจากบันได
ซึ่งตาลเองก็จำอะไรไม่ได้...คิดว่าแปลกดี แต่ก็ไม่ไ้ด้คิดอะไรต่อ...



หลังจากนั้น เมื่อนอนหลับไป ตื่นขึ้นมาทีไรจะรู้สึกเหมือนไม่ได้หลับเลย
ง่วงนอนและอ่อนเพลียตลอดเวลา
บางครั้งหากมีสติกำกับในฝัน ตื่นขึ้นมาจะจำได้ค่ะว่าไปที่ไหนมาบ้าง
ตาลก็ไม่ค่อยจะได้สนใจกับกายตัวเองเท่าไหร่
เหนื่อยแต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะตื่นเช้ามากเกินไป จึงไม่ได้ใส่ใจ


จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้นอนสมาธิ พอจิตสบาย เห็นร่างตัวเองนอนตะแคง
แต่ไม่สามารถขยับร่างได้ค่ะ พอถอยออกมานิดนึงจะเห็นว่าตัวเองไม่แนบสนิทกับกายหยาบ
ยังค่ะ ยังไม่รู้สึกตัว...


หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง
ครั้งล่าสุดที่ชักกลัวคือก่อนตื่นนอนเห็นตัวเองกำลังพยายามกลับเข้ากายหยาบ
เหมือนในหนังผีน่ะค่ะ อิอิ พยายามเข้าร่างตัวเอง ท่านั้นก็แล้ว ท่านี้ก็แล้ว ทาบทับกายหยาบลงไป
แหง่วว...เข้าไม่ได้อ่ะค่ะ เริ่มนานขึ้นจนชักท้อ
แต่พอเผลอใจก็กลับเข้าร่างได้ โล่งใจมากค่ะ
กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นสัมภเวสีไปเสียแล้ว

 

ชักจะเริ่มสงสัยซะแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราหนอ?
จึงถามพี่สาวค่ะว่าอาการแบบนี้มันคืออะไรคะ?
พี่สาวก็ถามกลับค่ะว่าก่อนนั่งสมาธิได้สมาทานพระกรรมฐานไหมจ้ะ?
ตาลก็ตอบว่าไม่ค่ะ...เต็มปากเต็มคำ แหะ ๆ


การสมาทานพระกรรมฐานจะมีครูบาอาจารย์มาคอยดูแลสอดส่องนะจ้ะ
ท่านจะช่วยเหลือเราได้ทันท่วงที หากว่าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น
ตอนแรกตาลก็ไม่คิดว่าการสมาทานพระกรรมฐานจะแก้อาการของตาลได้ค่ะ
แต่เมื่อลองสมาทานพระกรรมฐานก่อนจะนั่งสมาธิ...
และหลังจากนั้นก็เข้านอน ก็ปรากฎว่า...
ไม่มีเหตุการณ์แปลกประหลาดแบบเดิมเกิดขึ้นอีกเลย
แถมนอนหลับก็เป็นสุขอีกต่างหาก...ไม่ฝันแปลก ๆ ด้วยค่ะ
และไม่ออกไปเที่ยวเตร่แบบไม่รู้ตัวอีกเลยค่ะ...อิอิ จบแย้ว
เพราะฉะนั้นการสมาทานพระกรรมฐานเป็นสิ่งสำคัญนะคะ
อย่าลืมแบบตาลนะคะ :boo:

 

ขออนุโมทนาสาธุในการเจริญพระกรรมฐานของคุณดับขันธ์ ๕ เช่นเดียวกันค่ะ สาธุ...

Numsai