ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

..ผลบุญแห่งการโมทนาบุญมหากฐิน และถวายดวงแก้วมณี...

เนื่องจากมีผู้สอบถามเรื่องอานิสงส์การถวายดวงแก้วนั้น เกิดขึ้นแด่ผู้ร่วมบุญ สำหรับผู้ร่วมบุญกฐิน แต่ไม่ได้ร่วมบุญดวงแก้วมณี บุญจะส่งผลเท่ากันหรือไม่


เรื่องนี้สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสว่า "เรื่องนี้ให้สมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้าเป็นผู้ตอบ เนื่องจากในอดีตชาติ ทรงเป็นผู้ได้ถวายดวงแก้ว ร่วมกับกฐินทานมาหลายแสนชาติติดต่อกัน ส่งผลให้พระองค์เป็นผู้มีตาวิเศษตั้งแต่ทรงพระเยาว์"

จึงได้อาราธนาบารมีสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า และกราบเรียนถามพระองค์ว่า

" ข้าฯแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ลูกอยากทราบว่า หากผุ้ใดไม่ได้ร่วมบุญดวงแก้วมณี แต่ได้ร่วมบุญกฐินในครั้งนี้ จะได้ผลบุญเสมอกันหรือไม่พระพุทธเจ้าข้าฯ"

พระองค์ทรงตรัสว่า

"ดูกร ภคินี การถวายดวงแก้วมณีร่วมกับมหากฐินนั้น เป็นบุญใหญ่ประมาณมิได้ ผู้ที่ไม่ได้ร่วมบุญดวงแก้วมณีด้วยปัจจัย แต่ร่วมบุญด้วยการทำเครื่องสักการะ หรือร่วมอนุโมทนาในภาพดวงแก้วที่เห็น ย่อมมีผลเช่นเดียวกับผู้ที่เป็นเจ้าภาพถวาย

ต่างเพียงเล็กน้อย ตรงที่การร่วมบุญโดยตรง ส่งผลให้มีรัศมีกายที่สว่างกว่า กว้างไกลกว่าเป็นสองเท่า ผู้ที่มีร่วมทำเครื่องรองรับดวงแก้ว หรือเครื่องสักการะ เช่น ดอกไม้หอมต่าง ๆ เป็นต้น จะได้มีรัศมีกายที่หย่อนลงมา ส่วนผู้อนุโมทนาบุญนั้น ก็มีรัศมีกายสว่าง แต่ไม่เท่ากับสองพวกแรก

สำหรับทิพยวิมานก็เช่นกัน มีความวิจิตรตระการตามลำดับดังที่กล่าวมาแล้ว ส่วนผู้ที่ไปร่วมบุญมหากฐิน แต่มิได้มีจิตยินดีในบุญถวายดวงแก้ว หรือเครื่องสักการะต่าง ๆ นั้น ก็จะได้บุญตามที่ตนได้กระทำ คือ กฐินทานเพียงส่วนเดียว

แต่หากมีผู้ที่ได้ร่วมบุญกฐินทาน แต่มีจิตริษยาในเครื่องบริวารกฐินทานของผู้อื่น และมิได้มีจิตยินดีในบุญของผู้อื่น ส่งผลให้ไปเกิดในแดนมาร หรือเทวดาผู้มีมิจฉาทิฐิ

ดังนั้น ขอผู้ที่สร้างบุญใดก็ตาม ขอให้มีจิตที่บริสุทธิ์เปี่ยมล้นด้วยความปิติยินดี ทั้งทานของตนเอง และผู้อื่นจะส่งผลให้ตนเองไปสู่สุคติภูมิ และพระนิพพานในที่สุด

เราขออนุโมทนาบุญกับทุกดวงจิตที่มีเจตนารมย์อันบริสุทธิ์ที่จะบำรุงพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระพุทธสมณโคดมพุทธเจ้าให้ได้ครบ ๕๐๐๐ พรรษา

ขอเธอทั้งหลายจงเป็นผู้ที่มีจิตสะอาด สงบ และสว่างทุกครั้งที่ได้สร้างบุญ เพื่อผลบุญส่งผลให้เธอทั้งหลายได้เต็มที่ ขอให้เธอจงมีความอุดมด้วยโภคทรัพย์ และอริยทรัพย์ทั้งหลาย

ขอเธอทั้งหลายจงปราศจากผู้ที่คอยให้ร้าย ว่าร้าย หรือทำร้าย สิ่งชั่วร้ายใด ๆ มิอาจทำอันตรายแก่เธอทั้งหลายได้

ขอเธอทั้งหลายจงเป็นผู้หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข มีจิตเบิกบานอยู่เสมอ พร้อมเป็นผู้ประกาศพระศาสนาแทนพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์

และขอให้เธอสมความปรารถนาใด ๆ ที่เธอได้กระทำมาอย่างดีแล้ว จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป...ขอโมทนา"

สาธุ..สาธุ..สาธุ..

ขอน้อมกราบนมัสการสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า และขอน้อมถวายบุญทุกบุญ เพื่อเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธองค์ และพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ด้วยเถิด สาธุ..

Numsai

หมายเหตุ สำหรับผู้ร่วมปัจจัยไม่ว่า กี่บาทก็ตาม มีผลเท่ากันกับเจ้าภาพใหญ่ ผู้เป็นต้นบุญ ต่างกันตรงที่ หากเวลาที่สมบัติบังเกิด ผู้เป็นต้นบุญจะได้ก่อนผู้อื่นเสมอเท่านั้น แต่ผลบุญได้เท่ากัน

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

 

สาธุ..สาธุ..สาธุ..

ผลบุญเป็นอจินไตย บุญแม้ไม่อธิษฐานก็สำเร็จอยู่แล้ว หากมีอธิษฐานกำกับจะสำเร็จได้ง่าย และเร็วค่ะ บางท่านเวลาถวายดอกไม้ ขอให้มีกลิ่นกายหอมเหมือนดอกไม้

ดิฉันเองก็อธิษฐานไว้ คงส่งผลให้ชาติต่อ ๆ ไปค่ะ อธิษฐานไว้ว่า ชาติหน้าขอเกิดในดอกบัว มีกลิ่นหอมดุจดอกบัว สาธุ..(แบบว่า ไม่อยากเกิดในไข่ ในท้องแม่ เพราะอึดอัดลำบากนาน)

เหตุเคยไปฝึกมโนเต็มกำลังที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานีครั้งแรก ได้อธิษฐานว่า ก่อนเกิดมาจากไหน และอธิษฐานอะไรไว้ ปรากฏว่า เห็นตัวเองผุดขึ้นกลางดอกบัวขนาดใหญ่สีชมพู ลักษณะกลีบบางคล้ายแก้ว มีกลิ่นหอมมาก ผุดขึ้นไปเป็นหญิงสาว แต่งตัวคล้าย ๆ ทางจีน จึงเริ่มอธิษฐานเรื่อยมาค่ะ

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานกับคุณ sereenon ด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับพี่น้ำใส ด้วยค่ะ
ยิ่งได้อ่าน ธรรมทานที่พี่เล่ามา ทำให้มีความสุข เป็นปลื่มปิติใจยิ่งนัก
(อย่างหาคำบรรยายได้ยากค่ะ)
สาธุ สาธุ สาธุ

จันทรกาล

 

สมาธิคุณสุดยอดมากเลยค่ะ สามารถพิสูจน์ได้ว่าที่คุณเห็นคุณได้ยินน่ะเป็นเรื่องจริง ดิฉันเองก็ได้ร่วมทำบุญถวายดวงแก้วและถวายเพชรพญานาคประดับสมเด็จองค์ปฐมกับคุณผ่านทางเว็บคนเมืองบัวด้วยค่ะ มาตามอ่านทีหลังแล้วก็ปลื้มใจค่ะ ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่คุณทำไว้ดีแล้วด้วยค่ะ

 

เข้ามาฮาค่ะ เอิ้ก กินลูกยออร่อยนัก อิอิ...อิ่มทิพย์ไปเป็นเดือน
ดีค่ะ เพราะประหยัด ฮ่า ๆๆๆ

ไม่เพียงแต่เราที่รู้สึกว่าเคยพบหน้ากันมาที่ไหนซักแห่งเท่านั้นนะคะ
ผู้ร่วมบุญกฐินหลาย ๆ ท่าน ตาลเองก็รู้สึกว่าเคยพบหน้ากันมาก่อน
ส่วนพี่หนูดีนี่รู้สึกว่าเคยไปร่วมรบด้วยกันที่ไหนซักแห่ง...อิอิ

ยิ่งอ่านผลบุญการร่วมบุญกฐินในครั้งนี้ของพี่น้ำใสแล้วยิ่งชื่นใจค่ะ
คิดทีไรก็มีความสุข ประมาณว่า แหม...ได้พบพระพุทธเจ้าตั้งเก้าพระองค์เชียวนะ
โอ๊ย ปลื้มใจนักเจ้าค่ะ...

 

ขอบพระคุณมากค่ะ เรื่องสมาธินั้น ขอยกความดีให้ครูบาอาจารย์ค่ะ ทั้งท่านที่เป็นมนุษย์ และไม่ใช่มนุษย์ค่ะ ท่านสงเคราะห์ให้ทุกอย่างค่ะ ดิฉันเพียงแต่ตั้งใจรักษาศีล และพิจารณาตามที่ท่านสอน ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องผลพลอยได้ค่ะ

และขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยค่ะ

Numsai

 

อิอิ..ลูกยอยิ่งกินยิ่งชื่นใจนะจ๊ะน้องตาล

พระท่านให้พี่ลงในเว็บ เพื่อเป็นธรรมทาน มิใช่เพื่อให้เราหลงในบุญ แต่เพื่อให้เรามีความมั่นคงในพระรัตนตรัยค่ะ

พระท่านตรัสว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผุ้นั้นเห็นพระตถาคต แม้ไม่ได้สัมผัสด้วยทิพยจักขุญาณ แต่หลายท่านก็สัมผัสกระแสเย็นได้

กระแสพระเมตตาที่หลั่งไหลจากพระนิพพานไม่ขาดสาย หากท่านใดที่กำลังอ่านอยู่ และรู้สึกว่า มีคลื่นพลังบางอย่างที่เป็นกระแสเย็นส่งมาให้ทราบว่า พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งสงเคราะห์แผ่เมตตาให้อยู่ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ก่อนที่จะไปงานมหากฐิน ได้ไปร่วมบุญกับครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม) ท่านได้กล่าวเรื่องของการแทรกแซงจากศาสนาอื่น ซึ่งเขาทำมาหลายปีแล้ว

เพราะปัจจุบันนี้ คนเริ่มเสื่อมในพระพุทธศาสนา ศาสนาอื่นพยายามที่เข้ามาแทนที่ แต่หากเรายังยึดมั่นในพระรัตนตรัยแล้ว เราก็จะเป็นผู้รักษาพระศาสนาได้ ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น เพราะปัจจุบันนี้ เท่าที่ทราบมีศาสนาอื่นที่กำลังจ้องทำลายศาสนาพุทธ โดยการแทรกซึมในวงการสงฆ์ก็ตาม หรือในฝ่ายฆราวาสก็ตาม เพื่อให้ศาสนาพุทธหมดไปจากประเทศไทย

บางศาสนาเข้ามาถึง ๓๐๐ กว่าปี แต่ก็ไม่สามารถให้คนไทยเปลี่ยนไปนับถือศาสนาของเขาได้ จึงพยายามหาทุกวิถีทางที่จะสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวพุทธด้วยกัน

หากเราหันไปดูประเทศแถบเอเชียด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัด ฮ่องกง แม้แต่อินเดีย แทบไม่มีเหลือ เปลี่ยนจากศาสนาพุทธไปนับถือศาสนาอื่นเกินครึ่งประเทศ ยังเหลือแถบแคว้นสุวรรณภูมิ คือ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา ที่ยังคงนับถือพระพุทธศาสนา

ความมั่นคงในพระรัตนตรัยนั้น เป็นหัวใจของเราชาวพุทธค่ะ แม้ยังไม่ได้เข้าเขตพระอริยบุคคล แต่การเข้าถึงไตรสรณคมน์นั้น ไม่ว่ากี่ศาสนาก็ไม่สามารถแทรกซึมในหัวใจเราได้ เพราะเรามีพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่งอันสูงสุด

ขอให้ทุก ๆ ท่าน เป็น ๑ ในผู้รักษาพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕๐๐๐ ปี ตามมโนปณิธานของสมเด็จพระพุทธสมณโคดม โดยเริ่มจากการรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ และเริ่มแนะนำคนใกล้ตัวให้เริ่มรักษาศีลไปพร้อมกัน จากนั้นก็ชวนกันสวดมนต์นั่งสมาธิด้วยกันค่ะ

วันหนึ่งผลของการปฏิบัติจะเกิดแก่ทุก ๆ ท่าน โดยมีความร่มเย็นเป็นสุขในครอบครัว และรักในพระพุทธศาสนา จนเข้าถึงไตรสรณคมน์ในที่สุด

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

สาธุ..สาธุ..สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญกับคุณหม่อนด้วยค่ะ รู้สึกปลื้มใจแทนคุณหม่อนนะคะ จะว่าไปแล้วก็ถือว่า เป็นเรื่องของพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์พวกเรา ตามบุญเก่าที่ได้ทำมา
ความจริงแล้วประสบการณ์การปฏิบัติของพี่ก็ได้กลิ่นก่อนจะได้ยินเสียง และเห็นภาพ(ทิพยจักขุญาณ) ครั้งแรกที่ได้กลิ่นของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พี่เคยไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำปากสูง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

วันหนึ่งขณะที่รอสวดมนต์อยู่ ๆ ก็ได้กลิ่นหอมมาก ๆ คล้ายกลิ่นดอกบัวผสมกลิ่นฝรั่งสุก หอมแปลก ๆ ถามเพื่อนที่ไปด้วย เพื่อนก็บอกว่า ได้กลิ่นเหมือนกัน เมื่อถามหลวงพ่อ ผู้เป็นครูอาจารย์ท่านบอกว่า..
"เออ..โยมนี่แปลกนะ เขามีแต่เห็นภาพก่อน แต่โยมนี่ได้จมูกมาก่อนอย่างอื่น ต่อไปให้เร่งฝึกให้เห็นนะจะได้รู้ว่าเป็นใคร " หลังจากนั้นท่านก็ได้เฉลยว่า..

"เป็นกลิ่นของพระพุทธเจ้า พระสมณโคดม ตั้งจิตกราบพระองค์ซะนะ ท่านมาสงเคราะห์"

สำหรับกลิ่นที่คุณหม่อนสัมผัสคราวนี้ ได้กราบเรียนถามสมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระพุทธปทุมมุตรพุทธเจ้าท่านได้สงเคราะห์ คุณหม่อน ทรงตรัสว่า

ในอดีตได้เคยถวายดอกบัวสีขาว ๓ ดอก พับสวยงาม วางในช่อทองคำถัก พร้อมกับดอกไม้นานาพันธุ์ จัดเป็นซุ้มถวายพระพุทธปทุมมุตรพุทธเจ้า คราวที่ท่านเสด็จไปยังเมืองนั้น เธอเกิดเป็นธิดาของเศรษฐีนามว่า "เบญจวดี" ได้จัดเรือนซุ้มดอกไม้ถวายพระองค์ท่าน ทางปูลาดด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ด้วยเช่นกัน ก่อนที่พระองค์จะเสด็จไปยังเรือนเศรษฐี เพื่อรับภัตตาหาร"

ขอกราบอนุโมทนากับสมเด็จองค์ปฐม ที่ทรงเมตตาสงเคราะห์เรื่องนี้พระพุทธเจ้าข้า ฯ

และขออนุโมทนาบุญกับคุณหม่อนอีกครั้งค่ะ

Numsai


อนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสนะคะ ที่เป็นผู้ไขปริศนาในทุกๆ เรื่อง ได้ยินได้ฟังมาตลอดว่า การกระทำในอดีตจะส่งผลถึงปัจจุบัน เข้าใจถ่องแท้ก็คราว
นี้เอง เมื่อถึงวาระและโอกาส ถึงแม้ว่าจะไม่มีทิพจักรขุญาณ ก็สามารถสัมผัสได้ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า บุญที่สั่งสมมาตั้งแต่
อดีตไม่เคยหายไปไหน สามารถเชื่อมต่อกับปัจจุบันได้ ฉะนั้นจะเตือนตัวเองไว้เสมอว่า จงรีบปฏิบัติและสะสมบุญ เมื่อถึงเวลาที่บุญส่งผล
อะไรก็ต้านไม่อยู่ ดังคำเทศนาของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี

"จงจำไว้นะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้...ครั้นถึงเวลา...ทั่วฟ้าจบดิน ก็ต้านเจ้าไม่อยู่...จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า..."

เฮ้อ !!!! คิดแล้ว ปลื้มจริงๆ

 

ด้วยอนุภาพแห่งการถวายดวงแก้วมณี
ภาพนี้บันทึกโดย คุณ Vatechayana โดยไม่ได้ผ่านการ retouch แต่อย่างใด
สาธุ สาธุ สาธุ

 

..๒๓ พย.นี้ ร่วมประมูลดวงแก้วสุริยราชชัยฤทธิ์..

​

ร่วมประมูลดวงแก้วสุริยราชชัยฤทธิ์​

ขอเชิญร่วมประมูล ดวงแก้วบรมจักรพรรดิ “ดวงแก้วสุริยราชชัยฤทธิ์” ขนาดกว่า ๑๐ กิโลกรัม อัญเชิญจากถ้ำแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพาน
ดวงแก้วสุริยราชชัยฤทธิ์ เกิดก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธปุราณทีปังกรพุทธเจ้า โดยมีพระสักฆชนโชติโพธิสัตว์ เป็นหัวหน้ากายสิทธิ์ ๓๐,๕๔๐,๐๐๐ องค์ ปัจจุบันอยู่ชั้นสวรรค์ดุสิต

เริ่มต้นการประมูลที่... ๑๗,๙๙๙ บาท

​

กติกาในการประมูล

๑. เริ่มวันที่ ๒๒-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ภายใน ๑๙.๕๙ น. ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง

๒. ผู้ประมูลสูงสุดในเวลาที่กำหนดจะได้รับดวงแก้วไปบูชา

๓. หากที่มีผู้ประมูลสูงสุดเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยเวลาที่ปรากฏในเว็บพลังจิต โดยไม่เกินวันเวลาที่กำหนดไว้
๔. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วัน เมื่อโอนปัจจัยแล้ว จะทำการจัดส่งดวงแก้วให้แก่เจ้าของต่อไปค่ะ

กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
เลขที่ 080-252647-2
ธนาคารไทยพาณิชย์
สาขาถนนศรีนครินทร์(กรุงเทพ-กรีฑา)
ประเภท ออมทรัพย์/สะสมทรัพย์

ปัจจัยร่วมบุญ ๒๐% หลังหักค่าใช้จ่ายนำเข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร

http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิค่ะ.283863/page-100#post6885657


ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

..ดวงแก้วสุริยราชชัยฤทธิ์ ตอนที่ ๑ ..


ย้อนหลังไปก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธปุราณทีปังกร ท่านเกษรีฤาษีได้เกิดในตระกูลกษัตริย์นามว่า “พระเจ้าชัยฤทธิ์” มีพระมเหสีพระนามว่า พระนางจันทรเทวี ทั้งสองพระองค์ยังไม่มีพระโอรส-ธิดา ทรงปกครองเมืองสุวรรณบุตรด้วยความสงบร่มเย็นตลอดมา

ต่อมาคืนหนึ่ง ทรงพระสุบินว่า มีช้างเผือกเหาะมาจากสวรรค์ มาให้พระองค์นั่งประทับ ต่อมาก็มีม้าสีหมอกเหาะมาทางอากาศ พร้อมคาบพระขรรค์มาถวายพระองค์ และมีพระธำมรงค์ตกลงมาในพระหัตถ์ พระธำมรงค์นั้น ส่องสว่างไปทั่วเมือง เมื่อตื่นจากพระบรรทม ทรงให้โหรหลวงทำนาย ..

โหรหลวงได้ทำนายว่า พระองค์จะมีพระโอรสที่มีบุญญาธิการถึง ๒ พระองค์ พระองค์แรกจะมีพละกำลังดุจช้างสาร มีอำนาจแผ่ไปให้ผู้อื่นได้ยำเกรง ส่วนองค์ที่สองเปี่ยมด้วยปัญญาบารมี เก่งกล้าสามารถมีปัญญาดุจอาวุธ ทำให้แคว้นต่าง ๆ ไม่กล้ากล้ำกราย แต่ทั้งสองพระองค์นั้น ภายหลังจะออกผนวชเป็นนักพรต แต่งชุดขาว

ส่วนพระธำมรงค์นั้นหมายถึงพระราชธิดา จะประสูติหลังพระโอรสทั้งสอง พระราชธิดาจะเป็นผู้ปกครองบ้านเมืองต่อจากพระองค์
เมื่อโหรทำนายเสร็จ สร้างความปิติยินดีแก่พระเจ้าชัยฤทธิ์เป็นอย่างยิ่ง พระองค์จึงดำริว่า พระองค์และพระมเหสีควรจะถือศีล งดเสวยเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพื่อรองรับผู้มีบุญญาธิการมาประสูติ จึงได้มอบหมายให้เสนาบดีผู้ใหญ่ ดูแลว่าราชการแทน พระองค์ และพระมเหสีได้แต่งชุดขาว ถือศีล งดเสวยเนื้อสัตว์ เป็นเวลา ๑๕ วัน

 

หลังๆมานี้ สังเกตว่าดวงแก้ว จะมีกายสิทธิ์เยอะจริงๆเลยนะครับ

สงสัยพี่น้ำใสจะมากด้วยบุญบารมี ถึงมีกายสิทธิ์มาอยู่ในดวงแก้วเยอะนะครับ catt26
แซวเล่นนะครับ พี่น้ำใส

ขอเชียร์และอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เข้าร่วมประมูลครับ สาธุ สาธุ

 

ขอร่วมประูมูล18100ครับ

 

จากประวัติของดวงแก้วดวงนี้ พระเกษรีฤาษี เกิดเป็นกษัตริย์ก่อนยุคของสมเด็จพระปุราณทีปังกรค่ะ สำหรับประวัติในยุคของสมเด็จพระพุทธวิปัสสีจะนำเสนอตอนต่อไปในภายหลังค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom ด้วยค่ะ

Numsai

 

แหม..น้องก็ชมเกินไปจ๊ะ บุญบารมีของพี่ไม่มากหรอก ยังต้องเกิดอีกหลายชาติจ๊ะ ก็ได้ครูบาอาจารย์และเทวดาท่านสงเคราะห์จ๊ะ

เรื่องของกายสิทธิ์นั้น เกี่ยวเนื่องกับท่านผู้เป็นเจ้าของด้วยค่ะ อย่างดวงแก้วคู่บารมีที่เราไปถวายเป็นบริวารมหากฐินนั้น

พระอาจารย์ขันธ์ เล่าว่า ท่านนิมิตเห็นเทวดากายแก้วใสจำนวนมากมหาศาลนับไม่ถ้วนไปที่วัด ก่อนที่เราจะนำดวงแก้วไป หัวหน้าเทวดาใส่ชฎาแหลมอยู่องค์หนึ่ง ส่วนบริวาร จำนวนนับไม่ถ้วน แต่งกายสีขาวทุกองค์ แต่ไม่ใส่ชฎา

พี่เลยกราบเรียนท่านว่า เทวดาที่เป็นหัวหน้า เรียกว่า จักรพรรดิ ส่วนบริวาร เรียกว่า กายสิทธิ์ เป็นผู้ดูแลดวงแก้ว ๑ ใน ๒ ดวงที่เราจะนำไปถวาย (ก่อนหน้าพี่ไม่เคยกราบเรียนท่านว่าจะนำดวงแก้วไปถวายเป็นบริวารกฐินค่ะ)

เรื่องของจำนวนกายสิทธิ์นั้น เป็นบุญบารมีของท่านผู้เป็นเจ้าของโดยตรงค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ด้วยค่ะ

Numsai

 

..ประวัติดวงแก้วสุริยราชชัยฤทธิ์ ตอนที่ ๒..

​

เมื่อครบ ๑๕ วัน ทั้งสองพระองค์ได้ออกจากการถือศีล ต่อมา ๓ เดือน พระนางจันทรเทวีทรงพระครรภ์ หลังจากครบกำหนดก็ได้ประสูติพระโอรสองค์แรก มีผิวขาวดุจน้ำนม พระเกศาดำสนิท ทรงให้พระนามว่า “เจ้าชายคชราช”

หลังจากคชราชกุมารได้มีพระชนมายุได้ ๒ ชันษา พระมเหสีได้ทรงพระครรภ์ครั้งที่สอง ต่อมาเมื่อครบกำหนดประสูติ เป็นพระโอรสองค์ที่ ๒ พระนามว่า “เจ้าชายสุริยราช” เนื่องจากในช่วงที่ประสูติ มีพระอาทิตย์ทรงกลดเป็นเวลา ๓ วัน

เมื่อพระคชราชกุมารอายุได้ ๗ พระชันษา ทรงมีพละกำลังมหาศาลผิดจากเด็กทั่วไป เมื่อกล่าววาจาออกไป ทุกคนต่างยำเกรงด้วยพระสุรเสียงที่ห้าวหาญ แม้เป็นเสียงของเด็ก แต่กลับทำให้คนส่วนใหญ่มีความเคารพ

ส่วนพระอนุชา คือ เจ้าชายสุริยราชนั้น เป็นผู้มีปัญญามาก เมื่อพระชนมายุได้ ๕ ขวบ ทรงตัดสินคดีให้แก่เด็ก ๆ ที่เล่นด้วยกันจนเป็นที่พอใจ การตัดสินนั้นทรงใช้ปัญญาที่แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ยากที่จะทำได้ กาลต่อมา เมื่อมีคดียาก ๆ พระเจ้าชัยฤทธิ์ทรงให้อำมาตย์ไปปรึกษากับเจ้าชายสุริยราช เพื่อตัดสินคดีนั้น

แต่พระเจ้าชัยฤทธิ์นั้นทรงให้ช่วยเฉพาะบางคดี เนื่องจากพระองค์เห็นว่า พระโอรสทรงพระเยาว์ ไม่เหมาะแก่การจะรับผิดชอบเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง

ต่อมาพระนางจันทรเทวี ทรงตั้งพระครรภ์ เมื่อครบกำหนด ทรงกำเนิดพระราชธิดา มีผิวน้ำผึ้ง มีกลิ่นกายหอมคล้ายกลิ่นดอกบัว นั้น ทรงพระนามว่า
เจ้าหญิงสโรชา ดอกกัลปพฤกษ์ และดอกบัวเบ่งบานไปทั่วเมือง สร้างความประหลาดใจแก่ผู้เห็น

ทั้งนี้ เกิดจากในกาลก่อน เจ้าหญิงได้ทรงนำดอกบัวชมพู ๓ ดอก พร้อมประดับด้วยดอกกัลปพฤกษ์ จัดถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า พร้อมอธิษฐานว่า..

“ขอผลบุญแห่งการถวายดอกบัว และดอกกัลปพฤกษ์นี้ส่งผลให้ข้าพเจ้ามีผิวพรรณคล้ายดอกกัลปพฤกษ์“และมีกลิ่นกายหอมเหมือนดอกบัว และขอให้มีปัญญาดุจเดียวกับพระคุณเจ้าไปทุกภพชาติ แม้ชาติใดที่มีบุญหย่อนลงมา เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ขอไม่ให้มีกลิ่นกายดังมนุษย์ทั่วไป สามารถท่องไปในภพภูมิที่ปรารถนาได้ดุจเดียวกับพระคุณเจ้าด้วยเถิด สาธุ.....”

ด้วยบุญนี้ส่งผลให้สมความปรารถนาในคำอธิษฐานนั้นในชาติต่อมา(ยังมีต่อ...)

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

ประวัติดวงแก้วสุริยราชชัยฤทธิ์ ตอนที่ ๓ อดีตชาติเจ้าหญิงสโรชา..


เหตุจากในชาตินั้น เจ้าหญิงสโรชา ในชาตินั้น มีนามว่า นางสุชา เป็นธิดาของชายตัดฟืนผู้หนึ่ง มีฐานะยากจน นางกำพร้ามารดาตั้งแต่อายุได้ ๓ ขวบ เมื่ออายุได้ ๑๗ ปี มีข่าวเรื่องพระปัจเจกพุทธเจ้ามาเทศนาในเมืองของนาง

นางปรารถนาจะเฝ้าพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงได้ไปเก็บดอกบัวในบึง และดอกกัลปพฤกษ์นำมาใส่ภาชนะที่บิดาของตนถักให้ใส่ของใช้ นำมาดัดแปลงเป็นแจกัน จัดดอกไม้ถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า

ทรงมีพระนามว่า “พระปุคคมังคละปัจเจกพุทธเจ้า" บางคนเรียกท่านว่า พระปุคคสามี (หมายถึงผู้เป็นนายเหนือชนทั้งปวง) มีผู้เลื่อมใสศรัทธาพระองค์มาก ทรงมีอุปนิสัยชอบท่องไปในสามภพ จากนั้นนำมาเล่าสู่สาธุชนฟัง เพื่อให้เกิดศรัทธาในการสร้างทานบารมี และการรักษาศีล ชนในยุคนั้นอยู่ด้วยกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข

เมื่อนางได้ฟังคำสอนของพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมใส และได้นำดอกไม้ที่จัดเตรียมไว้ไปถวายแด่พระองค์ เป็นเรื่องอัศจรรย์ เมื่อนางกล่าวคำอธิษฐานจบ แจกันดอกไม้ได้ลอยขึ้น วนในอากาศ ๓ รอบ สร้างความศรัทธาแก่ผู้ที่พบเห็น

กาลนั้นมีบุตรเศรษฐีผู้หนึ่ง เกิดความรักในความดีของนาง เมื่อจบจากการฟังเทศนา ได้ส่งคนไปสืบว่า นางเป็นใคร ต่อมาจึงให้บิดาส่งขันหมากไปสู่ขอนางจากบิดา เมื่อนางเข้าสู่ตระกูล การค้าขายของเศรษฐีนั้น ยิ่งมีกำไรมากขึ้น
นางจึงขอสามีตั้งโรงทานแก่ผู้ยากไร้ ๔ แห่งในเมือง และได้เลี้ยงดูบิดาอย่างมีความสุขจนหมดอายุขัย

เมื่อละโลกจากชาตินั้น นางและสามีไปเกิดในสวรรค์ดาวดึงส์ วิมานเดียวกัน มีวิมานที่วิจิตรตระการตา ด้วยผลแห่งการถวายทานพระปัจเจกพุทธเจ้า และการตั้งโรงทาน ๔ แห่ง จากนั้นก็จุติมาเป็นพระธิดาสโรชาในชาติต่อมา

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom ด้วยค่ะ
สาธุ ๆ

เชียร์คุณmoomเต็มที่ค่ะ

จันทรกาล

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณมีนัมด้วยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

Numsai