บุญใหญ่มาก! สร้างที่รวมพระสงฆ์ทั่วโลก

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย pongpol_eka, 11 กันยายน 2007.

  1. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">หลังคามหารัตนวิหารคด ทุกตารางเมตร เพื่อสันติสุขของชาวโลก </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%">[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=createdate vAlign=top colSpan=2>วันจันทร์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๐ </TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#0066cc cellSpacing=5 cellPadding=5 width=680 align=center border=2><TBODY><TR><TD height=2904><TABLE width=680 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=330><TABLE id=Table_01 height=713 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=340 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=340><TABLE width=340 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=206>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#666633 width=340 align=center border=1><TBODY><TR><TD class=aa height=48>
    ข้อมูลทางด้านวิศวกรรมเบื้องต้น​


    </TD></TR><TR><TD class=aa bgColor=#84c1d9 height=131>เสารองรับหลังคา
    วัสดุ เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก โชว์ผิวเปลือย
    รูปทรง เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๖๐ ซม.
    ความยาว ตั้งแต่ ๗-๑๒ เมตร จำนวน ๑,๗๖๔ ต้น
    </TD></TR><TR><TD class=aa bgColor=#bedeeb height=88>คานรับหลังคา
    วัสดุ เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก โชว์ผิวเปลือย
    ทำหน้าที่เป็นรางรับน้ำฝนในตัว
    </TD></TR><TR><TD class=aa bgColor=#84c1d9 height=217>หลังคา
    วัสดุ เป็นโลหะประเภท stainless มีฉนวนกัน
    ความร้อน
    รูปทรง ใน ๑ Module ของหลังคา เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
    ส่วนหลังคามีลักษณะเป็นรูปทรงพีระมิด มีทั้งหมด
    ๘๖๐ Module เมื่อมองจากมุมสูงจะมีลักษณะ
    คล้ายมีเพชร ล้อมรอบมหาธรรมกายเจดีย์อยู่
    พื้นที่ใต้หลังคาทั้งหมดมีประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ ตารางเมตร
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=680 align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#a9caee height=2169><TABLE width=406 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=400>
    [​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table_01 height=237 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table_01 height=180 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=680 align=center border=0><TBODY><TR><TD borderColor=#a9caee bgColor=#a9caee height=1550>"มหารัตนวิหารคด" คือศาสนสถาน ในโครงการก่อสร้าง"มหาธรรมกายเจดีย์" เจดีย์แห่งพระรัตนตรัย ที่ได้เริ่มต้นสถาปนามาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๓๗ ตามดำริของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ที่ปรารถนาให้ชาวโลกได้พบความสุขที่แท้จริงของชีวิตด้วยการเจริญสมาธิภาวนา
    อันจะก่อให้เกิดสันติสุขภายใน และแผ่ขยายกลายเป็นสันติภาพของโลกในอนาคต
    มหารัตนวิหารคด จึงถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้เป็นสถานที่รองรับผู้มีบุญทุกชาติ ทุกภาษา ทั่วโลก ที่จะหลั่งไหลมาประพฤติปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ ได้ถึงคราวละหลายแสนคน ซึ่ง หากรวมกับพื้นที่รอบลานธรรม จะสามารถรองรับสาธุชนได้มากถึง ๑ ล้านคน
    มหารัตนวิหารคด ยังเป็นประดุจมหารัตนบัลลังก์ของพุทธบุตร ทั่วโลก ที่จะเดินทางมาประชุมรวมกัน เพื่อประกอบศาสนกิจในโอกาสสำคัญอันจะเป็นจุดเชื่อมประสานให้พุทธบุตรทุกนิกายสามารถหลอมรวมเป็น
    หนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว
    มหารัตนวิหารคด เมื่อเสร็จสมบูรณ์จะใช้เป็นสถานที่อบรมศีลธรรมให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ข้าราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาใช้
    สถานที่แห่งนี้ตลอดทั้งปี อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการ"สร้างคนดี" ให้แก่สังคมและประเทศชาติ
    อย่างมหาศาล
    จนถึงขณะนี้ มหารัตนวิหารคดใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วเหลือเพียงแค่การก่อสร้างในส่วนสุดท้าย นั่นคือ "หลังคา" ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในอนาคต พื้นที่ชั้น๒ ของมหารัตนวิหารคดจะใช้เป็นที่ถวายการ
    ต้อนรับคณะสงฆ์จากทั่วโลก ได้มากถึงกว่า ๓๐๐,๐๐๐ รูป และหลังคานี้จะช่วยทำให้มหารัตนวิหารคด ลานธรรม และมหาธรรมกายเจดีย์สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ สมกับที่ผู้มีบุญทุกคนได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และกำลังทรัพย์ร่วมสร้างกันมาเป็นเวลายาวนานเกินกว่าทศวรรษ
    บัดนี้ นับเป็นบุญลาภอันประเสริฐ ที่ทุกท่านจะได้มีส่วนร่วมสร้าง"หลังคามหารัตนวิหารคด" ซึ่งเป็นบุญใหญ่ ที่มีอานิสงส์อันไม่มีประมาณ จากการที่ได้ให้ร่มเงา เพื่อคุ้มแดด คุ้มฝน ถวายแด่พุทธบุตรผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลก และนอกจากนี้ หลังคาทุกตารางเมตร จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแผ่ขยายร่มธรรมแห่งองค์สมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่จิตใจของชาวโลกอันจะก่อให้เกิดสันติสุข และความร่มเย็นแก่โลกใบนี้ ไปตราบ
    นานนับพันปี......
    <TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table_01 height=200 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=82>
    ปัจจุบันนี้ ในวันงานบุญใหญ่ พื้นที่มหารัตนวิหารคด

    บริเวณชั้น ๑ ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
    จึงจำเป็นต้องสร้างหลังคาไว้คุ้มแดด คุ้มฝน บนชั้น ๒
    เพื่อรองรับพุทธบุตรทั่วโลก ที่จะมาร่วมงานในอนาคต ​

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table_01 height=207 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=328 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=322 height=101>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=680 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=aa>๑. ย่อมบังเกิดในปฏิรูปเทส ได้อยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนาในทุกภพทุกชาติ
    ๒. ย่อมเข้าถึงฐานะของความเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ สมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ
    ๓. ย่อมมีพวกพ้องบริวารที่เป็นสัมมาทิฏฐิ มีกัลยาณมิตรคอยชี้แนะไปสู่หนทางอันประเสริฐ
    ๔. ย่อมเข้าถึงฐานะอันสูงส่งเป็นที่รัก ที่เกรงใจของมหาชนทั้งหลาย
    ๕. ย่อมมีปัญญาเฉลียวฉลาดในการดำเนินชีวิต
    ๖. ย่อมเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โดยง่าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=587 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=581><TABLE id=Table_01 height=166 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=581 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=402 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=aa width=396>
    มหารัตนวิหารคด เป็นศูนย์รวมในการประกอบพิธีกรรมทาง

    พระพุทธศาสนา รองรับพุทธบุตรและสาธุชนผู้มีบุญนับล้าน​

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ร่วมบริจาคปัจจัยได้ที่ ต้น : พงศ์พล เอกบุตร
    ชมรมสมาธิเพื่อพัฒนาศักยภาพ มหาวิทยาลัย ศิลปากร
    ธนาคารทหารไทย สาขา ม.ศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ เลขที่บัญชี 537-7-06381-2
    ชื่อบัญชี นายพงศ์พล เอกบุตร ( pongpol ekabutr )

    ถ้าท่านต้องการร่วมปัจจัยในนามท่านเมื่อโอนเสร็จแล้วโทร.มาบอกผมด้วยนะครับ
    จะได้ส่งใบอนุโมทนาบัตรไปให้ ต้น : 0866110799

    e-mail : pongpol_eka@hotmail.com
    website : http://www.sumedclub.com

    อนุโมทนาบุญสำหรับผู้มีบุญทุกท่านด้วยนะครับ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2007
  2. กลอยใจ

    กลอยใจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +84
    อยากร่วมสร้างบุญค่ะ แต่จะร่วมอย่างไรคะ
     
  3. nutnun_k

    nutnun_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +1,021
    คงไปร่วมไม่ได้ แต่อนุโมทนาค่ะ ปลื้มใจค่ะเห็นคนปฎิบัติธรรมกันเยอะ
     
  4. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    ร่วมบริจาคปัจจัยได้ที่ ต้น : พงศ์พล เอกบุตร
    ชมรมสมาธิเพื่อพัฒนาศักยภาพ มหาวิทยาลัย ศิลปากร
    ธนาคารทหารไทย สาขา ม.ศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์
    เลขที่บัญชี 537-7-06381-2
    ชื่อบัญชี นายพงศ์พล เอกบุตร ( pongpol ekabutr )

    ถ้าท่านต้องการร่วมปัจจัยในนามท่านเมื่อโอนเสร็จแล้วโทร.มาบอกผมด้วยนะครับ
    จะได้ส่งใบอนุโมทนาบัตรไปให้ ต้น : 0866110799

    e-mail : pongpol_eka@hotmail.com
    website : http://www.sumedclub.com

    อนุโมทนาบุญสำหรับผู้มีบุญทุกท่านด้วยนะครับ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2007
  5. ZyTon

    ZyTon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +377
    แล้วนี่มันเป็นของพวกคุณด้วยหรือเปล่าครับ

    "ธรรมวินัย" ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้มาจากอะไร?

    พระพุทธองค์ทรงบัญญัติเอง?


    หรือ

    มาจากชาวโลกติเตียนว่าไม่เหมาะ ไม่สมกับสมณะรูป ที่เรียกว่า "โลกวัชชะ"? พระพุทธองค์จึงทรงบัญญัติไว้

    แล้วกรณีนี้ขัดกับหลักพระธรรมวินัยไหม เรื่องเป็นไปเพื่อลาภสักการะ?

    และข้อความข้างล่างเหล่านี้นำไปเพื่อลาภสักการะหรือไม่?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ทั้งหมดในข้อความข้างบนนั้นเป็นไปเพื่อ การลด ละ คลาย กิเลส อาสวะ หรือ เพื่อเพิ่มโลภะ กิเลส ตัณหา อุปาทาน ?

    ฝากไว้ให้สติพิจารณา...


    กถาวัตถุ ถ้อยคำที่ควรพูด, เรื่องที่ควรนำมาสนทนากันในหมู่ภิกษุ มี ๑๐ อย่างคือ
    ๑. อัปปิจฉกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้มีความปรารถนาน้อย
    ๒. สันตุฏฐิกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้มีความสันโดษ
    ๓. ปวิเวกกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้มีความสงัดกายสงัดใจ
    ๔. อสังสัคคกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ไม่คลุกคลีด้วยหมู่
    ๕. วิริยารัมภกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ปรารภความเพียร
    ๖. สีลกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ตั้งอยู่ในศีล
    ๗. สมาธิกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ทำจิตมั่น
    ๘. ปัญญากถา ถ้อยคำที่ชักนำให้เกิดปัญญา
    ๙. วิมุตติกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ทำใจให้พ้นจากกิเลสและความทุกข์
    ๑๐. วิมุตติญาณทัสสนกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้เกิดความรู้ความเห็นในภาวะที่หลุดพ้นจากกิเลสและความทุกข์

    (b-ng)
     
  6. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    คุณครับ ถ้าเขามีจิตศรัทธาที่จะสร้างบุญสร้างกุศล คุณอย่ามาทำให้ศรัทธาเขาตกต่ำเลย สิ่งที่กำลังจะทำเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นการสร้างวิหารเพื่อรวมพระสงฆ์รวมคนทั่วโลกมาปฏิบัติธรรม ถ้าเงินปัจจัยของผู้มีบุญสละได้แล้วทำให้โลกและสังคมน่าอยู่ขึ้น มีแต่คนดีมีศีลธรรมก็สมควรแล้วมิใช่หรือ

    ที่คุณแสดงภาพให้ดูอะครับ หลวงพ่อท่านแสดงให้เห็นอนิสงค์ของบุญ แม้ว่าจะหวังผลหรือไม่ก็ตาม ย่อมบังเกิดเป็นสิ่งที่เป็นสัจธรรม กรรมดี กรรมชั่วลบล้างไม่ได้ อย่างน้อยใครได้ทราบอนิสงค์ของบุญที่เห็นในภาพก็ย่อมจะคิดดี อยากจะทำบุญ มันดีกว่าเอาเงินไปซื้อเหล้าซื้ออบายมุขนะครับ

    สุดท้ายนี้ไม่ได้หวังจะให้เกิดความขัดแย้งนะครับ เพียงแต่อยากจะอธิบายให้เข้าใจนะครับ ทำใจให้ใสๆ นะครับ
     
  7. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    การสร้างเครือข่ายคนดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การจะสร้างคนดีสักคนให้เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันนั้นแสนยาก
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    กลัว

    สาธุ

    สิ่งที่ท่านเจ้าของกระทู้มาบอกบุญนั้นดีครับ ได้บุญมากอย่างที่บอก วัดพระธรรมกาย เป็นวัดที่ดีครับ

    แต่ตอนนี้ท่านเจ้าอาวาส ทำให้เกิดประชาชนบ้างส่วนเกิดวิกฤตศรัทธาครับ
    เพราะ การขึ้นศาลที่ผ่านมายังไม่ใสสะอาดครับ ท่านยังไม่เคลียตัวเองครับ (หาอ่านได้ใน pantip.com ห้องศาสนา) และคำสอนของท่านนั้นมันดูขัดกับพระไตรปิฎกครับ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
    นี้คือส่วนหนึ่งครับ

    สรุป ผมไม่ได้ขัดขวางบุญใครครับ ใครอยากร่วมสร้างก็สร้างไปครับ
    แต่ผมมาบอกเหตุผลครับว่าทำไมมีคนออกมาโจมตีวัดพระธรรมกายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กันยายน 2007
  9. ZyTon

    ZyTon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +377
    สิ่งทั้งหมดเป็นไปเพื่อลดละกิเลส หรือเพิ่มพูน ธรรมที่ลดละคลายกิเลส อาสวะพระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญ

    คิดดี อยากทำบุญ แต่ไม่ทำที่วัดคุณ ก็คงไม่เป็นไรนะครับ

    และได้อยากได้อานิสงค์เป็นแหวนหมาย่าง คงต้องเอาหมาย่างถวายที่วัดคุณที่เดียวหรือเปล่าครับถึงจะได้

    -ใช้ศรัทธาไม่ใช้ปัญญา = คนจะหลอกได้ง่าย เพราะเชื่อไปหมดไม่ใช้ปัญญาคิด ไตรตรองว่าเป็นไปตามคำสอนพระพุทธองค์หรือไม่?

    -ใช้ปัญญาไม่ใช้ศรัทธา = คนEgoจัด ทิฏฐิมานะแรง เพราะไม่ลดทิฏฐิ น้อมตัว เอาน้ำที่เต็มแก้วออก วางใจเป็นกลางแล้วศึกษา

    อินทรีย์๕ = ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา รักษาให้แก่กล้า จะเป็นทางสู่ความสงบของจริง

    ดูจิตใจตนเองว่าละคลายกิเลสได้มากน้อยแค่ไหน อย่าติด รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส นักเลย โลกมนุษย์เราก็เห็นโทษมากพอแล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือ

    ฝากไว้ให้สติพิจารณา...

    กถาวัตถุ
    ถ้อยคำที่ควรพูด, เรื่องที่ควรนำมาสนทนากันในหมู่ภิกษุ มี ๑๐ อย่างคือ
    ๑. อัปปิจฉกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้มีความปรารถนาน้อย
    ๒. สันตุฏฐิกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้มีความสันโดษ
    ๓. ปวิเวกกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้มีความสงัดกายสงัดใจ
    ๔. อสังสัคคกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ไม่คลุกคลีด้วยหมู่
    ๕. วิริยารัมภกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ปรารภความเพียร
    ๖. สีลกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ตั้งอยู่ในศีล
    ๗. สมาธิกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ทำจิตมั่น
    ๘. ปัญญากถา ถ้อยคำที่ชักนำให้เกิดปัญญา
    ๙. วิมุตติกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ทำใจให้พ้นจากกิเลสและความทุกข์
    ๑๐. วิมุตติญาณทัสสนกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้เกิดความรู้ความเห็นในภาวะที่หลุดพ้นจากกิเลสและความทุกข์
     
  10. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    เค้าเคลียร์ไปแล้วมิใช่หรือคะ? มีข่าวแก้แล้ว ที่หนังสือพิมพ์ออกมาขอโทษ แต่ลงคอลัมภ์เล็กๆ..น่ะ.
     
  11. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    บุคคลใดที่คิดจะทำบุญจะหวังผลหรือไม่ก็ตาม ทำแล้วย่อมส่งผลทันที คือ ความสบายกาย สบายใจ และยังเป็นการต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ขยายออกไป ทุกวันนี้สังคมเรานั้น พระพุทธศาสนากำลังเสื่อมโทรม กำลังโดนทำลาย ดังนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันนะครับ

    อย่าเขียนอะไรเลยที่ผู้มีบุญเห็นแล้วเกิดศรัทธาตกและไม่อยากจะทำบุญกับวัดนี้ ทำกับวัดไหนก็เหมือนกันนะครับ ขอให้ได้ทำเถอะครับ เกิดผลดีทั้งนั้น

    การที่วัดพระธรรมกายกำลังทำนั้น เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นไปได้ยากนัก การที่จะรวมสงฆ์ทั่วโลกหลากนิกายให้เป็นหนึ่ง เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่พุทธศาสนิกชนจะช่วยกันครับ แม้ว่ามันจะต้องใช้ปัจจัยสูงก็ตาม การรวมพระสงฆ์และผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมได้เป็นล้านคน ภาพแบบนี้เกิดขึ้นยากมาก แล้วยิ่งถ้าเขาปฏิบัติธรรมจนใจใสบริสุทธิ์คิดจะละเลิกอบายมุข
    ต่างๆได้ ก็เป็นเรื่องดีที่สุด เพราะเราได้ทำการสร้างคนดีขึ้นมาครับ

    เราชาวพุทธควรจะมีสถานที่รวมพลังกันแบบนี้ได้แล้ว คุณคิดดูนะครับถ้าคุณมีส่วนในการสร้างวิหารนี้ แม้แต่เงินเพียงบาทเดียว อนิสงค์จะขนาดไหน ผู้มีบุญมาก ก็ย่อมจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ดีๆ ครับ

    นอกจากนี้บุญยังส่งผลในส่วนของละเอียดก็คือ เกิดเป็นทิพยสมบัติในวิมานของเราบนสวรรค์ เป็นสิ่งที่ประณีตเกินกว่าบนโลกมนุษย์นะครับ อันนี้ก็มีอยู่ในพระไตรปิฎกตั้งหลายเรื่องนะครับผม

    สุดท้ายนี้ผมเข้าใจกว่ามีบางท่านยังไม่ค่อยเข้าใจวัดครับ แต่ผมอยากให้มีส่วนในบุญนี้จริงๆ นะครับ ทำไปเถอะครับ จะมากจะน้อยก็ให้ทำตามกำลังครับผม

    ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ใสๆ นะครับ

    ถ้าจะร่วมบุญกับ ชมรมสมาธิเพื่อพัฒนาศักนภาพของมหาวิทยาลัยศิลปากร www.sumedclub.com ก็ติดต่อผมได้เลยครับ ต้น : 086-6110799
    เพราะตอนนี้ชมรมของเราก็ได้ประกาศบอกบุญกับผู้มีบุญคนอื่นๆ ด้วยนะครับ


    หรือว่าจะไปทำบุญที่วัดได้เลยครับไม่ต้องผ่านชมรมก็ได้ โทร.๐-๒๘๓๑-๑๘๔๘ นะครับ
    อนุโมทนากับผู้มีบุญทุกท่านด้วยนะครับ
     
  12. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2007
  13. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมผ่านไป สิบร้อยทิป เห็นกระทู้และความเห็น
    ว่าร้ายวัดพระธรรมกาย แรงขึ้น จึงคิดรวบรวมข้อมูลที่แท้จริงไปแบ่งปัน
    แต่เนื่องจากการสมัครสมาชิกของผม ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนอนุมัติ

    พอดีเมื่อวาน เกิดข่าวน่าสลดใจ
    ผมจึงขออนุญาต นำข้อมูลดังกล่าวมา โพสต์ ณ. ที่นี้
    หากท่านใดเป็นสมาชิกที่ สิบร้อยทิป อยู่แล้ว จะนำไปโพสต์ ต่อก็ดีนะครับ
    เพราะยังไม่ทราบว่า การสมัครเป็นสมาชิกของผม จะผ่านหรือเปล่า

    หากผู้ดูแลระบบ เห็นว่า ไม่สมควร ก็ลบกระทู้นี้ได้นะครับ
    ด้วยความนับถือ
    Dangdee

    [​IMG]

    Post 2

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ความเข้าใจที่บิดเบี้ยว ในระบบสื่อสารมวลชน กรณีวัดพระธรรมกาย<!--colorc--><!--/colorc-->

    เกริ่นนำ

    จากการที่ผม ไปศึกษาธรรมะที่วัดพระธรรมกาย ต่อเนื่องมาร่วม 20 ปี
    ปีละมากกว่า 100 วัน ทั้งในสถานะพุทธศาสนิกชน / อาสาสมัคร / พระภิกษุธรรมทายาท
    ดังนั้นเมื่อมีข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ในระบบสื่อสารมวลชน
    ผมจึงพอตัดสินและชี้แจงได้บ้างว่า ข้อมูลใดที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย
    ข่าวไหนจริง ข่าวไหนเท็จ บิดเบี้ยวหรือ ข่าวไหน จริง 7 เท็จ 3 หรือ จริง 2 เท็จ 8

    และบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่ตัวแทนของวัดพระธรรมกาย
    ที่ได้รับมอบหมายให้มาแก้ข้อกล่าวหาใดๆ นะครับ
    ผมเป็นเพียงพุทธศาสนิกชน คนหนึ่งที่ไปศึกษาธรรมะที่วัดพระธรรมกาย
    เหมือนกันกับเพื่อนสมาชิกหลายท่านในกระดานสนทนาแห่งนี้
    ที่มาตั้งและตอบกระทู้เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายเป็นการส่วนตัว
    แต่มักมีใครโยงใยให้เข้าใจไปว่า เรามาแก้ตัวแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
    ซึ่งไม่ใช่เลยครับ

    ปกติผมชอบเป็นผู้อ่านรับข่าวสารมากกว่า ครับ
    เพราะผมไม่ถนัดการโต้วาที หักล้างเหตุผล แบบในกระดานสนทนา
    และอีกอย่างเท่าที่ สัมผัสได้ คือ กระดานสนทนาที่ สิบร้อยทิป
    เพื่อนสมาชิกหลายท่าน ทั้งชาวพุทธและไม่พุทธ ต่างก็ประกาศรักสันติ
    แต่ดูเหมือนมีไม่กี่ท่าน ที่สนทนากันแบบสร้างสรรค์ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
    แสวงจุดร่วม สมานฉันท์ความต่างทางความคิด
    ที่ผ่านมาผมจึงเลือกเข้ามาอ่าน เท่านั้น

    แต่ช่วงนี้กระทู้ลักษณะ ว่าร้าย ป้ายสีดำต่อวัดพระธรรมกาย มีถี่ขึ้น
    และมีไม่กี่ท่านที่มาชี้แจงข้อกล่าวหา
    ผมจึงเข้ามาให้กำลังใจ และลองตั้งสักกระทู้ ตามสมควรครับ

    วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้ก็คือ มาเล่าถึง ข้อแท้จริง ( fact ) เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย
    ที่ผมเคยได้สัมผัสมาต่อเนื่องร่วม 20 ปี
    เพื่อนำมาเป็นข้อมูลให้วิญญูชน พิจารณา กันครับ

    post 3

    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->1.สาเหตุแห่งความเข้าใจผิดพลาด คลาดเคลื่อน บิดเบือนจากความเป็นจริง<!--colorc--><!--/colorc-->
    1.1การรับข่าวลือ ข่าวสาร ข้อมูล ที่ใครๆเล่ามา ในเรื่องร้ายๆกรณีวัดพระธรรมกาย
    1.2 รับข้อมูลแล้วลืมใช้หลักกาลามสูตร 10 มาพิจารณา
    1.3 ขาดการพิสูจน์ความจริง ด้วยตนเอง
    1.4 มีอคติเป็นการส่วนตัว ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยคติ
    1.5 ทำดี อย่าทำเด่น จะเป็นภัย
    1.6 แนวทางการแก้ไขของวัดพระธรรมกาย ถูกต้อง แต่ ได้ผลช้า

    <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->2. สิ่งที่เห็นดีด้วยและไม่เห็นดีด้วย กับผู้ที่นิยมติติง ติเตียน ต่อต้าน กล่าวหาว่าร้าย วัดพระธรรมกาย <!--colorc--><!--/colorc-->
    2.1 สิ่งที่เห็นดีด้วย
    2.2 สิ่งที่ไม่เห็นดีด้วย

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->3. ประเด็นความเข้าใจผิดพลาด คลาดเคลื่อน บิดเบือนจากความเป็นจริง <!--colorc--><!--/colorc-->
    3.1วัดพระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาทหรือมหายาน
    3.2การปฏิบัติธรรมแบบวิชชาธรรมกาย เป็นภัยอันตรายต่อชาวพุทธหรือไม่
    3.3กรณีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ( พ้นจากเพศสมณะ และอื่นๆ )
    3.4กรณีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ( ลัทธิบ้าบุญ / พุทธพาณิชย์ ฯล )
    3.10 กรณีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสาธุชนที่ไปบำเพ็ญทาน รักษาศีล ฝึกเจริญสมาธิภาวนา ว่าถูกล้างสมอง

    <!--coloro:#A0522D--><!--/coloro-->4. กฎแห่งการกระทำ ผลแห่งกรรม ที่ต้องเป็นไป<!--colorc--><!--/colorc-->
    4.1 กรณีที่วัดพระธรรมกาย ทำผิดศีลธรรม เป็นสัทธรรม#####จริงตามการกล่าวหา
    - ผลต่อสังฆมณฑล และชาวพุทธทั่วโลก
    - ผลต่อผู้ที่พยายามติติง ติเตียน ต่อต้าน กล่าวหาว่าร้าย มุ่งล้มล้างวัดพระธรรมกาย
    - ผลต่อสังคมไทย
    - ผลต่อพุทธศาสนิกชนที่ไปบำเพ็ญทาน รักษาศีล ฝึกเจริญสมาธิภาวนา เป็นประจำที่วัดพระธรรมกาย

    4.2 กรณีที่วัดพระธรรมกาย ทำความดีถูกต้องตามพระธรรมวินัย
    - ผลต่อสังฆมณฑล และชาวพุทธทั่วโลก
    - ผลต่อสังคมไทย
    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->5. มุมมอง ของพุทธศาสนิกชนที่ไปศึกษาพระพุทธศาสนา ที่วัดพระธรรมกาย มาร่วม 20 ปี<!--colorc--><!--/colorc-->
    ข้อที่เห็นดีด้วย และไม่เห็นดีด้วย เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย

    post 4


    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->1.สาเหตุแห่งความเข้าใจผิดพลาด คลาดเคลื่อน บิดเบือนจากความเป็นจริง<!--colorc--><!--/colorc-->

    1.1การรับข่าวลือ ข่าวสาร ข้อมูล ที่ใครๆเล่ามา ในเรื่องร้ายๆกรณีวัดพระธรรมกาย

    หลายคน บอกว่าติดตามงานบุญและกิจกรรมของวัดพระธรรมกายมาโดยตลอด
    แต่ก็ไม่ทราบว่าติดตามแบบไหนครับ
    1 ) แบบติดตามข่าวทางระบบสื่อสารมวลชน , network , อ่านหนังสือ ดูสื่อธรรมะวัด
    2 ) ฟังคนที่เคยไปวัดแล้วชอบ ก็ได้ข้อมูลอีกแบบ
    3 ) ฟังคนที่ไม่เคยไปวัด ชอบแต่กล่าวหาวัด ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ได้ข้อมูลอีกแบบ

    การเลือกเสพข่าวสารในสังคมไทย บ่งชี้ถึงด้านมืดในใจมนุษย์ว่า
    - ชอบจับผิดมากกว่าจับความดีเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน บางคนถึงขนาดมีความสุข สะใจกับการจับผิดคนอื่น
    คือ สนใจเฉพาะในแง่ร้ายมากกว่าด้านดี
    - สอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้าน พูดอย่างสุภาพคือ ใฝ่เรียนรู้ความเป็นไปของเพื่อนมนุษย์
    - สนใจฟังเรื่องร้ายๆ มากกว่าเรื่องดีๆ เพราะรู้สึกตื่นเต้น น่าติดตาม

    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ข่าวสารตามปกหนังสือพิมพ์ หรือ hot news ในโทรทัศน์
    เพื่อเรียกร้องความสนใจของมนุษย์ ต้องพาดหัวข้อข่าวให้ดูตื่นเต้น เลวร้าย น่าหวั่นกลัว
    ถ้าพาดหัวข้อข่าวใหญ่ว่า

    มจร. จัดงานใหญ่เนื่องในวันวิสาขบูชา เชิญชาวพุทธทั่วโลกมาบำเพ็ญกุศลที่พุทธมณฑล
    แบบนี้ ยอดขายหนังสือพิมพ์ คงไม่ดีนัก แต่ถ้าเป็น

    ดาราสาว อักษร กอ. เป็นเมียลับของนักการเมือง หัวหน้าพรรคอักษร ขอ.
    แบบนี้หนังสือพิมพ์ คงไม่พอขาย

    สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น คือ มนุษย์ส่วนมากมักเลือกเชื่อสิ่งที่นักสื่อสารมวลชนนำเสนอ เอาไว้ก่อน
    โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง สตรีและสตางค์ การโกงกิน สินบน
    แม้ต่อมาพิสูจน์แล้วว่า ไม่เป็นความจริง แต่ภาพพจน์ของผู้ถูกกล่าวหาก็เสื่อมเสีย
    เป็นที่จงเกลียดจงชังของคนในสังคมไปช่วงเวลาหนึ่งแล้ว

    หลายครั้งทำให้รู้สึกว่า จรรยาบรรณและจิตวิญญาณของนักสื่อสารมวลชนคนไทย หลายคน
    เป็นทาสของคำสั่งเจ้านาย รับใช้นายทุน ( เพราะเกรงใจ / อยากได้เงินหรือผลประโยชน์อื่น )

    เช่นกันครับถ้ามีกิจกรรมงานกุศลที่ดีงามของวัดและองค์กรการกุศล ต่างๆ
    ส่วนมากมักไม่เป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์หรอกครับ

    ฉะนั้น การเชื่อข่าวลือ ข่าวสารใน network และทางระบบสื่อสารมวลชน โดยขาดโยนิโสมนสิการ
    มีโอกาสสูงที่คุณเข้าใจ ผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไปจากความจริง ได้มากนะครับ

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->
    มันแปลกจังนะ !!
    ในโลกนี้มีเรื่องอยู่มากมาย
    หลายเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นความจริง
    หลายเรื่องเป็นความจริง แต่ ไม่น่าเชื่อและไม่มีใครเชื่อ
    หลายเรื่องไม่เป็นความจริง แต่คนมากมายก็เชื่อ
    คนทำความดีเพื่อชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
    แต่ยังมีคนมากมายที่ไม่เชื่อว่าเป็นการทำด้วยความสุจริตใจ​
    <!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    ……………………………….
    Post 5
    <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->1.2 รับข้อมูลแล้วลืมใช้หลักกาลามสูตร 10 มาพิจารณา<!--colorc--><!--/colorc-->
    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->กาลามสูตรกังขานิยฐาน ๑๐ <!--colorc--><!--/colorc-->
    หมายถึง วิธีปฏิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
    — how to deal with doubtful matters; advice on how to investigate a doctrine,
    as contained in the Kalamasutta)
    ๑. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา<!--colorc--><!--/colorc-->

    คำว่า ฟังตามกันมา หมายถึง สิ่งที่บอกเล่า ต่อๆ กันมาตาม ธรรมเนียม เป็นต้น
    ๒. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กัน<!--colorc--><!--/colorc-->มา คำว่า ทำตามสืบๆ กันมา หมายถึง การทำตามสืบๆ กันมา โดยไม่ต้องคำนึง ถึงเหตุผล แต่ถือเอาการที่ทำสืบๆ กันมานั้นเองเป็น เหตุผล ลักษณะเช่นนี้เรียกกันว่า เถรส่องบาตร
    ๓. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว <!--colorc--><!--/colorc--> คำว่า ตื่นข่าว หมายถึง สิ่งน่าอัศจรรย์ ที่กำลังลือกระฉ่อน กันอยู่ในขณะนั้น
    ๔. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก <!--colorc--><!--/colorc--> คำว่า อ้างปิฎก หมายถึง มีหลักฐานที่อ้างอิงในตำรับตำรา คัมภีร์ หรือแม้แต่ในพระไตรปิฎก
    ๕. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง<!--colorc--><!--/colorc--> ๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
    ๗. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ <!--colorc--><!--/colorc--> คำว่า นึกเดาเอาเอง คำว่า คาดคะเนเอาเอง และ คำว่า ตรึกตรองตามอาการ ทั้งสามนี้ คล้ายกันมาก หากแต่ว่า หนักเบา กว่ากัน ตามลำดับ คำว่า เดา หมายถึง การใช้เหตุผลชั่วแล่น ชั่วขณะ ตามวิสัยของ คนธรรมดาทั่วไป คำว่า คาดคะเน ก็มีลักษณะอย่างนั้น หากแต่ว่า มีการเทียบเคียง โดยนัยต่างๆ ที่รัดกุมกว่า ซึ่งเป็นวิสัย ของผู้มีปัญญา คำว่า ตรึกตามอาการ คือการใช้เหตุผล หรือ ใช้สิ่งแวดล้อม เป็นเหตุผล ตามที่มีปรากฏ อยู่เฉพาะหน้า ในที่นั้นๆ ซึ่งรัดกุมยิ่งไปกว่า การคาดคะเน
    ๘. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน<!--colorc--><!--/colorc--> คำว่า ต้องตามลัทธิของตน หมายความว่า เข้ากันได้กับ ความคิดเห็น ของตน หรือ เข้ากับลัทธิ ที่ตนถืออยู่แล้วแต่ก่อน
    ๙. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้ <!--colorc--><!--/colorc--> คำว่า ผู้พูดควรเชื่อได้ หมายความว่า ผู้พูดเป็นผู้ที่ใครๆ พากันเชื่อถือ เพราะเป็นบัณฑิต นักปราชญ์ เป็นคนเฒ่าคนแก่ เป็นคนเคยไปในที่นั้นๆ มาแล้ว เป็นต้น
    ๑๐. <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา <!--colorc--><!--/colorc--> คำว่า ถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา หมายความถึง ครูบาอาจารย์โดยตรง
    ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
    สูตรนี้ ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติยสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาลามะ แห่งวรรณะกษัตริย์ ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาลามะนั้นเป็นชาวเกสปุตตนิคม
    A.I.189 องฺ.ติก.๒๐/๕๐๕/๒๔๑.
    ติดตำราจะติดตัง

    <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->
    จงรักษาดวงใจให้ผ่องแผ้ว
    อย่าทิ้งแนวการถือคือเหตุผล
    อย่าถือแต่ตามตำราจะพาตน
    ให้เวียนวนติดตังนั่งเปิดดู
    อย่าถือแต่ครูเก่าเฝ้าส่องบาตร
    ต้องฉลาดความหมายสมัยสู
    อย่ามัวแต่อ้างย้ำว่าคำครู
    แต่ไม่รู้ความจริงนั้นสิ่งใด
    อย่ามัวแต่ถือตามความนึกเดา
    ที่เคยเขลาเก่าแก่แต่ไหนๆ
    ต้องฉลาดขูดเขลาปัดเป่าไป
    ให้ดวงใจแจ่มตรูเห็นลู่ทางฯ​
    <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    …………………..
    Post 6

    มี FW Mail ที่เป็นข้อคิดดีๆ มาให้ศึกษาครับ

    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->
    วันหนึ่ง ขงจื๊อ เมธีจีน พร้อมศิษยานุศิษย์ เดินทางรอนแรมลี้ภัยการเมืองอยู่กลางป่า
    พอได้เวลาอาหาร ลูกศิษย์เตรียมตักข้าวใส่จานพร้อมสำรับอาหาร
    ขณะกำลังตักข้าวอยู่ห่างๆ นั้น ท่านขงจื๊อสังเกตเห็นว่า
    ลูกศิษย์หยิบข้าวจากจานของท่านขึ้นมาใส่ปากเคี้ยว
    ท่านจึงสอนและชี้ให้เห็นว่า
    การหยิบอาหารจากสำรับของครูบาอาจารย์ มารับประทานก่อนได้รับอนุญานั้น
    แสดงถึงความ "อนารยะ" ที่น่าตำหนิอย่างยิ่ง
    ลูกศิษย์จึงขอโอกาสชี้แจง

    "อาจารย์ครับ ที่กระผมหยิบข้าวจากจานของอาจารย์ขึ้นมารับประทานก่อน
    หาใช่กระทำไปด้วยความเขลาหรือขาดคารวะก็หาไม่
    แต่ที่เป็นเช่นนั้นเพราะในจานข้าวของอาจารย์ มีผงถ่านสีดำปนเปื้อนข้าวอยู่
    ครั้นจะยกมาให้อาจารย์เลยก็เกรงว่าคงไม่เหมาะ
    จะหยิบข้าวที่เปื้อนนั้นทิ้งก็เสียดาย
    เพราะข้าวหายากและจำเป็นมาก สำหรับการอยู่รอดในยามวิกฤติ
    กระผมก็เลยหยิบข้าวที่เปื้อนนั้นขึ้นมารับประทานเสียเองขอรับ"
    แววตาที่ฉายแววดุของผู้เป็นอาจารย์ ค่อยๆ ทอประกายอ่อนโยนด้วยเมตตา
    ก่อนเอ่ยวาจาขอโทษผู้เป็นศิษย์อย่างไม่ถือตัว​
    <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    บ่อยครั้งที่เรามักตัดสินอะไรผิดพลาดอย่างง่ายดาย
    จนเสียทั้งคน เสียทั้งงาน และบางทีก็เสียผู้เสียคน
    เสียเกียรติภูมิที่สู้สั่งสมมาทั้งชีวิตในชั่วพริบตา
    เพียงเพราะเราเชื่อในสิ่งที่สายตารายงาน
    ขณะที่บางด้านของความจริงกลับเป็นอีกอย่างหนึ่ง

    สามีทะเลาะกับภรรยา พ่อแม่ทะเลาะกับลูก นายเข้าใจผิดลูกน้อง เพื่อนแตกจากเพื่อน
    คนรักหันหลังให้กันทั้งที่ต่างฝ่ายก็แสนดี
    เพียงเพราะต่างก็เชื่อใน "สิ่งที่ตาเห็น"

    แต่ละเลยการ "เมียงมอง" อย่างพินิจแยบคาย
    โดยใช้ "ปัญญาจักษุ" อันสุขุม
    เราจึงติดอยู่ใน "ภาพลวงตา" อันเป็นมายาคติ
    พลอยทำให้หลงลืม "ความจริง"
    ทีเป็นจริงอีกด้านหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย

    จงมองด้วย "ตา" แล้วปล่อยให้ "ปัญญา" เป็นผู้วินิจฉัย
    สิ่งที่ตาเห็นกับสิ่งที่ปัญญาประจักษ์
    ไม่แน่ว่าจะสอดคล้องกันเสมอไป

    จงใช้ตานอกสำหรับ "ดู" แล้วจงใช้ตาในสำหรับการ "เห็น"
    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า​
    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->
    การเลือกเชื่อข่าวลือ ข่าวสารใน network และทางระบบสื่อสารมวลชน
    โดยขาดหลัก กาลามสูตร 10 และการพิสูจน์ด้วยตนเอง ไม่สมควรแก่บัณฑิตผู้ใฝ่ธรรม เลยครับ<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    …………………..
    Post 7

    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro--> 1.3 ขาดการพิสูจน์ความจริง ด้วยตนเอง<!--colorc--><!--/colorc-->
    มนุษย์ยุคนี้ ชอบอะไรที่ สำเร็จรูป อัตโนมัติ แค่ click ๆ thumb ๆ เอาก็พอใจแล้วเพราะง่ายดี
    ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องลงแรง ไม่ต้องเดินทาง ทนรถติด แดดแผดเผาให้เร่าร้อน

    มีมนุษย์ส่วนน้อย ที่เชื่ออะไรก็ต่อเมื่อได้พิสูจน์มาบ้างแล้วจึงแสดงความเห็น วิพากษ์ วิจารณ์จากประสบการณ์จริงของตนเอง

    ถ้าเราศึกษาศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งเพียงผิวเผิน
    ผ่าน หนังสือทั้ง paper & e-books , information in network
    ผ่านเพียงแค่จักษุประสาทและกระบวนการคิดของสมอง โดยใจที่ยังไม่สงบ สงัด หรือ ไม่มีสมาธิมาก
    เราก็คงได้ความรู้แค่เบื้องต้น หรือความเข้าใจในระดับหนึ่ง เท่านั้น
    แต่ถ้าเราศึกษาทางปริยัติหรือทฤษฎีแล้ว เพิ่มการปฏิบัติ ไปด้วย เราเราจะได้ความรู้ ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า
    เช่น
    - ถ้าคุณอยากทำอาหารรสอร่อย แค่ได้ยินได้ฟัง สูตรอาหาร อ่านตำรา จนท่องจำ เข้าใจกระบวนการแม่นยำดีแค่ไหน
    ก็ไม่ใช่ว่า คุณจะทำอาหารได้อร่อย ทันทีนะครับ มันต้องมีการสังเกต มีการปรับ ปรุงแก้ไขอะไรอีกมาก
    กว่าจะทำอาหารนั้นๆอร่อย ถูกปากตนเอง และคนอื่น
    - ถ้าเราบ่นว่า ราคาข้าวแพงจัง คุณภาพก็แย่ งั้นลองไปช่วยชาวนาทำนา สักฤดูกาลหนึ่งสิ จะได้รู้รสชาติชีวิตของชาวนาได้ดีขึ้น
    - ถ้าไม่พอใจว่า นายกฯและคณะรัฐมนตรี ทำงานไม่ได้ดั่งใจ แล้วดีแต่วิพากษ์ วิจารณ์ในทางไม่สร้างสรรค์
    แบบนี้ ต้องให้เป็นนายกฯ สักปี รับรองว่าทั้งกลุ้ม ทั้งเครียด ทั้งเข็ด ไปจนวันตายแหละครับ
    เพราะทำดีก็แค่เสมอตัว เหมือนหนังหน้าไฟ หรือ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแขวนคอ ฉะนั้น

    เช่นกันครับ ใครที่ชอบบ่น ติเตียน ต่อต้าน ต่อว่า ด่าว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ โดยอาศัยข้อมูลข่าวสาร
    ลองมาเป็นเจ้าอาวาส เป็นสมภารวัดพระธรรมกาย สิครับ
    ท่านต้องปกครอง เลี้ยงดู ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เจ้าหน้าที่วัด กว่า 5,000 ชีวิต ทั้งในและต่างประเทศ

    จริงอยู่ถ้าดูผังองค์กร แบบ Organization
    ตำแหน่งเจ้าอาวาส อยู่บนสุด ชั้นถัดลงมา มีลูกพระ ลูกสามเณร อุบาสก อุบาสิกา อีก กว่า 5,000 ชีวิต
    หลายท่านอาจ คิดว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาส อยู่สูง ดูมีอำนาจ กว่าใคร

    แต่ใครที่เป็นผู้บริหารองค์กร จะเข้าใจดีว่า มันไม่ใช่เลย
    เพราะ ในแง่ความรับผิดชอบ และ การบริหาร การปกครอง
    ผังองค์กร มันจะกลับหัวลง ครับ
    นั่นคือ ผู้ที่เป็นมีตำแหน่งอยู่บนสุด เพียง 1 เดียว
    ต้องย้ายลงมาอยู่ล่างสุดแล้วแบกกว่า 5,000 ชีวิตไว้เหนือหัว บ่า ไหล่ ไหปลาร้า ของตน

    แล้วการบริหาร การปกครอง มนุษย์ที่ยังไม่หมดกิเลส คุณคิดว่า ง่ายนักหรือครับ
    ผมว่า ครอบครัวเดียว แค่หาทรัพย์ และปกครองลูก เมีย หมู่ญาติ สัก 10 – 20 ชีวิต ก็ หืดขึ้นคอแล้วครับ

    เคยได้ยินเจ้าอาวาส พระสังฆาธิการ ในต่างจังหวัด ท่านบอกว่า
    วัดท่าน มีเนื้อที่ ไม่กี่สิบไร่ และมี พระ ลูกวัด แค่ 10 – 20 รูป
    สัมภาระที่แบกไว้น้อยกว่า หลวงพ่อ ธมฺมชโย มากมายนัก ยัง มีเรื่องกลุ้มใจแทบไม่เว้นวันเลยครับ

    …………………..
    Post 8

    คำแนะนำ
    สำหรับท่านที่ชอบบ่น ติเตียน ต่อต้าน ต่อว่า ด่าว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ โดยอาศัยข้อมูลข่าวสาร คือ

    - สำหรับท่านชาย ควรมาบวชพระธรรมทายาท อย่างน้อยสักพรรษา
    จะได้เห็นความเป็นจริง ในมุมมอง ของ Insider อย่างแท้จริง

    - <!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->สำหรับท่านหญิง <!--colorc--><!--/colorc-->ขอเชิญท่านและคนที่คุณรัก มาตรวจสอบด้วยตนเอง ที่วัดพระธรรมกาย
    ดีกว่า ฟังเขาเล่ามานะครับ

    แต่ไม่ควรคาดหวังให้ถูกใจคุณซะทุกอย่างนะครับ
    เพราะแนวทางการแก้ปัญหาสังคมก็มีอยู่หลายหลายแนวทาง
    แนวทางแบบลัทธิคอมมิวนิสต์ ก็แบบหนึ่ง
    แนวทางแบบประชาธิปไตยก็อีกแบบ
    แม้แนวทางแบบระบอบประชาธิปไตยเอง
    แต่ละพรรคยังมีนโยบายแตกต่างกันเลยครับ

    เช่นกัน
    แนวทางการแก้ไขปัญหาสังคมแบบยั่งยืนของวัดพระธรรมกาย อาจแตกต่างจากแนวคิดที่คุณถูกใจบ้าง
    แนวทางการขยายพระธรรม อาจแตกต่างจากแนวคิดที่คุณถูกใจบ้าง
    แนวทางการบอกข่าวบุญ การสร้างทานะ ปริจาคะ อาจแตกต่างจากแนวคิดที่คุณไม่คุ้นเคยบ้าง

    แต่วัดพระธรรมกายก็ดำเนินตามโอวาทปาฏิโมกข์มาตลอด
    ไม่ได้โม้ !!! มาพิสูจน์ด้วยตนเองสิครับ
    …………………..
    Post 9

    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->1.4 มีอคติเป็นการส่วนตัว<!--colorc--><!--/colorc-->
    หลายๆท่าน ( ไม่เหมารวมทุกคนนะครับ ) ต่อต้าน ติเตียน วิชชาธรรมกาย / วัดพระธรรมกาย / เจ้าอาวาส หรือพุทธศาสนิกชนที่ไปวัดพระธรรมกาย ก็เพราะว่า มีอคติ 4 ดังกล่าวแอบซ่อนอยู่ในใจ ทั้งแบบรู้ตัว กับยังไม่รู้ตัว คือ
    1.4.1 <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->หลายท่าน มี ฉันทาคติ <!--colorc--><!--/colorc-->(ลำเอียงเพราะชอบ) คอยชักใย อยู่หลังเวที เช่นว่า
    มีเพื่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คู่รัก ครู อาจารย์ พระอาจารย์ที่เรารัก เคารพ เชื่อถือ ให้ข้อมูลด้านลบมา
    เราก็เลือกที่จะเชื่อตาม ข้อมูล ข่าวสารนั้นๆ

    หรือ !! เป็นเพราะมี คนในครอบครัว / ญาติมิตร / คู่รัก / คู่ครอง / ตนรู้จัก ใช้เงินไปทำบุญจำนวนมาก แล้วบริหารการเงิน เศรษฐกิจในครอบครัวไม่ดี จนเดือดร้อนเรา และญาติ มิตร
    ด้วยความรัก ปรารถนาดี เราจึงคิดไปเองว่า
    คนของเราคงถูกวัดพระธรรมกายล้างสมอง ล่อลวงให้บริจาคเงินจำนวนมาก
    ฉะนั้น ก็เลยพลอยไม่ชอบวัดพระธรรมกาย แบบนี้ก็มี

    หรือ !! หลายท่านเคยไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย แต่มีอะไรไม่ถูกใจบ้าง เช่น
    พิธีกรรมงาบุญที่แตกต่างที่ตนเองคุ้นเคย / กระทบกระทั่งกับบางคน ในวัดบ้าง
    ฉะนั้น ก็เลยพลอยไม่ชอบวัดพระธรรมกาย แบบนี้ก็มี

    หรือ !!เคยศรัทธา ได้ไปวัด ได้บวชที่วัดพระธรรมกาย ที่มีกฎระเบียบเข้มงวด
    มีกฎระเบียบในการอยู่รวมกันไหนต้องรักษา ปาติโมกข์ศีล ๒๒๗
    บ้างก็กระทบกระทั่งกับเพื่อนสหธรรมิก ด้วยเรื่องจุกจิก
    ฉะนั้น ก็เลยพลอยไม่ชอบวัดพระธรรมกาย แบบนี้ก็มี
     
  14. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
  15. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ลองอ่านนะ

    ลองเข้ามาอ่านดูครับ มองสองทางครับแล้วจะรู้ทางไหน เป็นอย่างไร


    www.palungjit.org/board/showthread.php?t=90521

    วัดพระธรรมกาย สร้างมหารัตนวิหารคตนี้ดี ดีมาก ๆ ด้วย และ ก็ไม่ได้ว่าท่านเจ้าอาวาสด้วย

    ผมอยู่ข้าง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศึกษาคำสอนที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก
    มีพระรัตนตรัย มีสภาวะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    [b-wai] ขออภัยที่ทำให้รู้สึกไม่ดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กันยายน 2007
  16. pongpol_eka

    pongpol_eka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    ขออนุโมทนาบุญ

    คุณอะไรไม่รู้ครับ จากหาดใหญ่ ร่วมบุญมา 500 บาท ผมจะนำปัจจัยไปร่วมบุญกับทางชมรมนะครับ ขอนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  17. pom25

    pom25 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2007
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +409
    โมทนาสาธุด้วยครับ,เกี่ยวกับเรื่องเครื่องประดับชาวสวรรค์ผมว่าเป็นกุศโลบายเพื่อให้ทำความดีนะครับ
     
  18. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    ขออนุโมทนาบุญในวิหารทานที่ทำเพื่อสืบพระศาสนา ในครั้งนี้

    เจตนาการทำบุญคือเพื่อ สลัดความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นสมบัติของเรา
    อย่าไปยึดถือ แม้กระทั่ง สวรรค์สมบัติซึ่งไม่เที่ยง
    อย่าประมาทว่าจะไม่กลับมาเกิดอีก หากบุญหมดก็ต้องมาเสวยกรรม การไปเพียงสวรรค์จึงยังไม่ใช่ทางหลุดพ้น วิปัสสนาญาณต่างหากครับ

    บุญที่ทำในพุทธศาสนาทำได้ทุกวัดทั้งที่วัดธรรมกาย และวัดอื่นๆ เพราะเป็นสมบัติของศาสนา ทำโดยเจ้าอาวาสคนนี้ ๆ

    ในทางกลับกัน ก็อย่าได้รังเกียจในบุญ ว่าเป็นเจ้าอาวาสเป็นท่านธัมชโย ฉันจะไม่ทำ

    อย่าไปยึดตัวบุคคล อย่าไปยึดในสถานที่ว่าวัดนี้เป็นวัดของฉัน ศาลานี้ฉันเป็นคนสร้าง จิตไปติดที่ยึดวัตถุจะไปอบายได้ง่าย

    อยากให้ลูกศิษย์สายธรรมกายทุกสายกลับไปกราบหลวงพ่อสดองค์แท้ของจริงที่นอนอยู่ที่วัดปากน้ำบ้างนะครับ เพื่อซื้อที่ดินขยายวัดบ้าง ก็ได้บุญเช่นกัน เพราะที่นี่คือที่ก่อกำเนิดวิชชาธรรมกาย โรงงานธรรมกายก็ยังทำงานอยู่นะครับ

    ผมเองไปทำบุญที่วัดธรรมกายอยู่เสมอ เมื่อมีบุญใหญ่จึงไป
    จึงเข้าใจในเจตนาดีของทุกคน
    แต่อยากให้เปิดใจให้กว้างขึ้นทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน มีเมตตาต่อกันจะดีที่สุด บางเรื่องมองให้เป็นกุศล จิตเราก็จะเป็นกุศล
    การเดินทางสายบุญจึงเดินทางไปด้วยตนเอง จึงจะเห็น ข่าวในหนังสือพิมพ์ถูกเลือกเพื่อนำเสนอ จึงบอกไม่หมด
    การทำบุญผมจึงต้องเฉลี่ย พื้นที่ไปที่อื่นบ้าง ไปวัดสายวัดป่าบนดอยอินทรีย์เชียงราย วัดป่าบ้านตาด วัดมหาธาตุฯ ฯลฯ
    ที่สำคัญ ขณะนี้กำลังกู้วัดร้างที่สร้างมากว่าสี่ร้อยปีแล้ว คือวัดวรเชษฐ์ อยุธยาครับ ทำบุญที่วัดนี้นี้ไม่เพียงสืบพระศาสนาเท่านั้นแต่มีผลถึงการสืบอนาคตประเทศไทยด้วย

    อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกท่านเมือเข้ามาในเวบศาสนาเช่นนี้ควรมีเมตตาต่อกันให้มากๆ เราเป็นศาสนาเดียวกัน แสวงหาจุดร่วมดีกว่าการหาจุดต่างเพราะจะมีแต่ความขัดแย้งและก่อโทสะ จะเป็นสามัคคีเภทไปเสียเปล่า ๆ

    ฝากธรรมะไว้เป็นข้อคิด ดังนี้ ครับ

    บทที่ ๘๑<O:p</O:p
    พระเมตตาบารมี <O:p</O:p
    ตฺวํ สพฺพสตฺตจิรภาวิตเมตฺตจิตฺตโตเยหิ <O:p</O:p
    สํสมิตโกธมหาหุตาโส <O:p</O:p
    โลกุตฺตรํ ตทิตรํ หิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...