วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    ขออนุโมทนากับคุณ Toya ด้วยนะคะ อายุ 33 ปีเท่ากับแวนโก๊ะเลยคะ
     
  2. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    ปางเมื่อ พระองค์ประมะพุท ธะวิสุทธศาสดา ตรัสรู้อนุตระสะมา ธิ ณ โพธิบัลลังก์
    ขุนมารสหัสสะพหุพา หุวิชาวิชิตขลัง ขี่คีรีเมขะละประทัง คชะเหี้ยมกระเหิมหาญ
    แสร้งเสกสราวุธะประดิษฐ์ กละคิดจะรอนราญ รุมพลพหลพยุหปาน พระสมุทรทะนองมา
    หวังเพื่อผจญวะระมุนิน ทะสุชินะราชา พระปราบพหลหยุหะมา ระเมลืองมลายสูญ
    ด้วยเดชะองค์พระทศพล สุวิมลไพบูลย์ ทานาทิธรรมะวิธิกูล ชนะน้อมมโนตาม
    ด้วยเดชะสัจจะวะจะนา และนมามิองค์สาม ขอจงนิกรพละสยาม ชยะสิทธิทุกวาร
    ถึงแม้จะมีอริวิเศษ พละเดชะเทียมมาร ขอไทยผจญพิชิตผลาญ อริแม้นมุนินทร <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  3. ice_jade

    ice_jade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2005
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +311
    ---------------------------------
    เป็นบทสวดที่ไพเราะมาก
    รู้สึกมีความสุขล้ำลึกทุกครั้งที่ได้ฟัง ได้อ่านบทสวดนี้
    เหมือนได้ฟังเพลงเพราะๆเพลงนึง
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอให้ทุกท่านอย่าได้ลืมการปฏิบัติธรรม แม้จะอยู่ในทางโลก

    -จับลมหายใจสบายเป็นปกติ
    -จับภาพพระให้ใสเป็นแก้วประกายพรึก
    -มีวิปัสนาญาณ เห็นความไม่เที่ยงของโลก ของร่างกาย
    -ทรงพรหมวิหารสี่เป็นธรรมชาติของจิต
    -ไม่ประมาทในการ(กาล)ทั้งปวง โดยเฉพาะไม่ประมาทในความตาย

    วันเสาร์ที่ 8กันยายนนี้ เวลา บ่าย 2 มีติวเข้มกันที่สวนลุมพินี บริเวณ ศาลาหกเหลี่ยม เกาะลอยครับ
     
  5. ขิก

    ขิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,338
    ค่าพลัง:
    +18,756
    (good) ใช้ประโยชน์สูงสุด แต่อาจไม่ถูกกฏหมาย(b-angry)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CA4Z2B62.jpg
      CA4Z2B62.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.9 KB
      เปิดดู:
      36
    • CA6B81AF.jpg
      CA6B81AF.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.4 KB
      เปิดดู:
      38
    • CA6NE1UD.jpg
      CA6NE1UD.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.7 KB
      เปิดดู:
      40
    • CA44UB00.jpg
      CA44UB00.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      35
    • CAFWXFV8.jpg
      CAFWXFV8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.9 KB
      เปิดดู:
      33
    • CAHKFEFL.jpg
      CAHKFEFL.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.5 KB
      เปิดดู:
      32
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สัจจะ ***

    ตั้งใจ กระทำดี...อย่างจริงจัง
    ไม่หลง ขั้นตอนการปฏิบัติ

    ๑. ตั้งใจทำสิ่งดี
    ๒. ทำจริง

    ที่เหลือเป็นไปตาม "หลักสัจจะธรรม"
    ผลของการกระทำที่ได้ทำไปแล้ว...ไม่ตาย ไม่สูญหาย
    จะติดตัวเราไปตลอดกาล

    นี่คือ...ตนพึ่งตน
    พึ่งการกระทำของตนเอง ที่ได้ทำไปแล้ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="97%">การร่วมสร้างสนามพลังแห่งธรรมชาติ:</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td> </td> </tr> <tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> </td> <td>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td width="3%"> </td> <td width="97%">การสวดมนต์ภาวนาสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติ</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> โดย Dr.G.G. Junior</td> </tr> <tr> <td> </td> <td>www.universal-signal.com</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td width="3%"> </td> <td width="92%">
    ในการสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติเพื่อนำเอาพล้งนี้ที่ได้ ส่งไปช่วยในการปรับสมดุลพลังแห่งธรรมชาติของโลกและจักรวาลนั้น ในฐานะมนุษย์แล้ว สมควรร่วมกันภาวนาช่วยโลก และจักรวาลสามารถปรับตัวได้อย่างราบรื่นที่สุด และเป็นการช่วยมนุษย์และสรรพชีวิตให้รอดพ้นจากมหันตภัยที่ร้ายแรง โดยลดความรุนแรงดังกล่าวให้ทุเลาเบาบางที่สุดด้วย สำหรับบทสวดนั้น เป็นบทสวดที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ การให้เมตตากรุณาต่อสรรพสิ่งทั้งหลาย ใครนับถือศาสนาใด ก็ขอให้นำบทสวดที่มีเนื้อหาดังกล่าวในศาสนาของตน สวดภาวนา สามารถสวดภาวนาได้ทุกๆ วัน หรือวันละหลายเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากขอให้สวดทุกวันเดือนเพ็ญ และทุกวันเดือนดับ เวลาในรอบวันที่เหมาะต่อการส่งพลังมากที่สุด คือ สวดภาวนาเริ่มพร้อมกันที่ ๒๐.๐๐ น. เมื่อสวดเสร็จแล้ว ก็ทำการแผ่เมตตาเป็นคำอธิฐานที่มีการปฏิบัติ และความหมายตามที่เป็นตัวอย่างให้แล้วตอนท้าย สรุปสวดภาวนาเวลา ๒๐.๐๐ น. ของทุกวัน และอธิฐานแผ่เมตตาร่วมกัน เมื่อสวดเสร็จประมาณ ๒๐.๓๐ น. การแผ่เมตตาเป็นตามที่อธิบาย ใช้เวลาประมาณ ๑๕-๓๐ นาที จึงเสร็จประมาณ ๒๑.๐๐ น. (ศาสนาใดก็สามารถใช้บทสวดภาวนาของตนได้)
    </td> <td width="5%"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td></td></tr></tbody></table>
     
  8. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ขอธรรมทานช่วยให้น้องหญิงเลิกคิดฆ่าตัวตาย

    เพื่อนๆครับ เมื่อวานเพื่อนผู้หญิงคนนึงของน้องชายเด็กอนุบาล เธอเรียนหมออยู่ปี4 แล้ว ได้พยายามฆ่าตัวตายโดยกินยาเกินขนาดแต่ไม่สำเร็จ ล้างท้องทัน

    น้องชายกลับมาที่บ้าน เลยมาขอให้เด็กอนุบาลช่วยหาข้อธรรมะ ช่วยเตือนใจเธอไม่ให้คิดแบบนี้อีก เด็กอนุบาลจึงคิดว่า ถ้าสามารถหาไฟล์เสียงที่หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเทศน์เกี่ยวกับ กฏแห่งกรรมของผู้ที่ฆ่าตัวตาย ส่งไปให้เธอ น่าจะช่วยเธอได้มาก

    ถ้าเพื่อนๆมี link ที่น่าสนใจที่จะะ download บทความ หรือ ไฟล์เสียง ที่เพื่อนๆคิดว่าจะทำให้คนที่คิดฆ่าตัวตาย ฟังแล้ว เปลี่ยนใจแน่นอน ช่วยแนะนำ link นั้นๆให้เด็กอนุบาลด้วยครับ หรือส่งแนบ email มาที่ sawetchai@gmail.com ก็ได้

    เด็กอนุบาลจะคัดเลือกและรวบรวมให้น้องชาย ภายในเย็นพรุ่งนี้(9 กันยา) เพื่อนำไปให้เธอผู้นั้นครับ

    ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บันดาลบุญที่เด็กอนุบาลได้โมทนาความดีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรมทุกธรรมขันธ์ และพระอริยเจ้าทุกองค์ ที่ท่านได้ทำไว้ดีแล้วทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงอนาคตกาลอันมิมีที่สิ้นสุด ที่ท่านเหล่านั้น ได้ทำความดีเพื่อยังประโยชน์ต่อตนเองและดวงจิตทั้งหลายทั่วอนันตริยจักรวาล 3 โลกธาตุ

    ขอบุญนี้จงสำเร็จแด่อาทิสมานกายของน้อง อ. และ เทวดาที่รักษาน้อง อ. ขอบารมีพระรัตนตรัยอันประมาณมิได้ช่วยสงเคราะห์ให้น้อง อ. เลิกคิดฆ่าตัวตายและกลับตัวเข้าหาธรรมะของพระพุทธองค์เทอญ

    วอนเพื่อนๆทั้งพุทธภูมิและสาวกภูมิทั้งหลายหาวิธีช่วยเธอทางจิตด้วยเทอญ
    ใครที่อยากได้ชื่อน้อง และ รายละเอียดส่วนตัวเธอเพื่อจะได้สะดวกในการช่วยเหลือ แจ้งขอมาทาง PM เด็กอนุบาลได้ครับ_/|\_
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="5%">
    </td> <td width="95%">การแผ่เมตตาสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติ

    การแผ่เมตตาของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการแผ่เมตตาด้วยเหตุจากการทำบุญ การทำทาน หรือแผ่เมตตาหลังจากการทำสมาธิ หรือกรณีใด ๆ ก็ตามที่มนุษย์กระทำการสร้างความดี เริ่มต้นการแผ่เมตตาดังนี้คือ


    ๑. สร้างพลังแห่งเมตตา เริ่มต้นด้วยรวมใจรวมจิตเข้าสู่บริเวณลิ้นปี่กลางหน้าอก สร้างความรู้สึกถึงความเมตตา ที่ชุ่มฉ่ำเย็น พร้อมที่จะแผ่ให้สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายไม่เลือกหน้า สร้างความเมตตาที่ชุ่มฉ่ำเย็นนี้โดยมีศูนย์กลางที่บริเวณลิ้นปี่กลางหน้าอก สร้างจนตัวเองรู้สึกได้ว่ามีความรู้สึกชุ่มฉ่ำเต็มใจ เต็มจิต เต็มกาย มีความปิติที่จะมอบความเมตตาที่ชุ่มฉ่ำเย็นนี้ให้ผู้อื่นอย่างบริสุทธิ์ทั้งกายวาจาและใจ


    ๒. แผ่กระแสแห่งความเมตตา เมื่อมีความพร้อมในข้อที่ ๑ แล้ว ให้ปล่อยความรู้สึกนี้ออกจากบริเวณลิ้นปี่ ออกจากฝ่ามือ หรือออกจากทั่วตัวก็ได้


    ๓. กำหนดอาณาเขตและตั้งเจตจำนง กำหนดอาณาเขตให้กว้างไกล สูงสุดสูงถึงพรหมโลก ต่ำสุดต่ำถึงนรกอเวจี กว้างสุดกว้างทุกภพภูมิไม่จำกัด ตั้งใจตั้งจิตขอให้สรรพชีวิตทั้งหลายไม่เลือกเผ่า ไม่เลือกพันธุ์ ไม่เลือกภพ ไม่เลือกภูมิ


    ๔. การอธิษฐานด้วยคำภาวนา
    ๔.๑ จงเป็นผู้มีความสุข พ้นจากทุกข์ พ้นจากภัยทั้งหลาย
    ๔.๒ จงเป็นผู้ที่ล่วงพ้นจากความพยาบาทเบียดเบียน
    ๔.๓ จงเป็นผู้ที่ได้รับผลแห่งกุศลกรรมที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วในอดีตกาล กระทำอยู่ในปัจจุบัน และจักกระทำต่อไปในอนาคตกาลข้างหน้า
    ๔.๔ จงเป็นผู้ที่ก้าวไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้น
    ๔.๕ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลยพร้อมกับคำอธิษฐานจิตเหล่านี้ ก็ต้องแผ่ออกไป อย่างไม่มีกำหนดขอบเขตตามที่ตั้งจิตไว้ หลังอธิษฐานจิตเสร็จก็แผ่ออกจนจิตรู้สึกว่าหมด


    ๕. แผ่เมตตาให้ตนเอง รวบรวมจิตอีกครั้ง ให้สว่างทั่วตัว กำหนดความชุ่มเย็นอีกครั้ง แผ่ออกให้ทั่วกายตน เพื่อให้ตนเองได้รับกระแสแห่งเมตตานั้นเช่นกัน
    ๕.๑ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ที่ปราศจากความพยาบาทเบียดเบียน
    ๕.๒ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง โรค และ ภัยทั้งปวง
    ๕.๓ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้มีโอกาสได้สร้างกุศลกรรม โดยพ้นจากความลังเลสงสัย
    ๕.๔ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ก้าวล่วงพ้นอวิชชา อันนำมาซึ่งความมืดบอด
    ๕.๕ ขอความเจริญในธรรมจงปรากฏแก่ข้าพเจ้า ภายในภพชาตินี้ และนำพาดวงจิต แห่งข้าพเจ้าไปสู่ความสว่าง ทุกภพ ทุกชาติตลอดไป
    ๕.๖ เมื่ออธิษฐานจบ ให้แผ่เมตตาให้ตัวเองไปเรื่อย ๆ จนจบสิ้นไปเอง ถือว่าสำเร็จ เสร็จกิจการแผ่เมตตาในครานี้อย่างสมบูรณ์
    </td></tr></tbody></table>
     
  10. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ขอบคุณที่พี่คณานันท์สละเวลาติวการปฏิบัติธรรมให้เมื่อวาน

    ขอโมทนาในความดีของพี่คณานันท์เมื่อวานนี้ที่ช่วยติวเข้มเรื่องการปฏิบัติกรรมฐานตั้งแต่เบสิคเรื่องจักระที่สำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างความละเอียดของลมหายใจกับความใสสว่างตั้งมั่นของจิต การฝึกดึงปราณพระนิพพานเข้ามาเพื่อให้กายใจใสสะอาดและไม่ต้องกังวลกับการบังคับลมหายใจ การตามดูลมหายใจจนลมดับ(ที่ไม่แน่นเอาเสียเลย Y_Y) การเจริญเมตตาอัปปนาฌานไล่ไปถึงรูปฌาน อรูปฌาน และ อารมณ์พระนิพพาน ของกรรมฐานกองกสิณ แถมยังสอนวิธีสลับกองกสิณที่ฟังดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอีกต่างหาก

    ที่พี่สอนเรื่องบทบาทของพุทธภูมิและความสำคัญของการเจริญเมตตาอัปปนาฌานที่จะช่วยให้พุทธภูมิไม่ลืมหน้าที่สำคัญของตนเองที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้ความสุขความเมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย หาใช่สร้าง Ego ให้ตนเองไม่ เด็กอนุบาลจะไม่มีวันลืมบทบาทนี้ ขอบคุณที่พี่เตือนสติ ไม่ให้เด็กอนุบาลเป๋ไปเป๋มา(เรื่องถนัดของเด็กอนุบาลละ)

    ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะยากและซับซ้อนในการปฏิบัติ กลายเป็นเรื่องที่พี่สามารถอธิบายให้พวกเราฝึกปฏิบัติและวางอารมณ์จิตได้อย่างไม่งง เด็กอนุบาลเสียดายเวลาที่อ่านเอง ปฏิบัติเองมา ทำไปผิดบ้าง ถูกบ้าง หลงทางอยู่นาน รู้งี้มาขอติวกับพี่นานแล้ว:)

    บรรยากาศที่สวนลุมก็ดีมาก เต็มไปด้วยปราณดีๆให้เราฝึกปฏิบัติธรรมได้สะดวก เสียดายที่มีคนมาฝึกด้วยกันไม่มาก แต่คิดว่าอีกสองอาทิตย์ที่จะนัดกันอีก เด็กอนุบาลจะพาเพื่อนที่สนใจปฏิบัติธรรมแนวนี้และเป็นพุทธภูมิด้วยไปร่วมติวครับ

    ครั้งหน้า เด็กอนุบาลอยากเจอเพื่อนๆในกระทู้นี้จัง ถ้าว่าง มาเจอกันน้า เด็กอนุบาลอยากเจอเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์ กัลยาณมิตรทั้งหลาย เราเกิดมาคนละพ่อคนละแม่ก็จริง แต่เด็กอนุบาลรู้สึกว่าเราเป็นญาติพี่น้องกันทางธรรมครับ :)
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    มนุษยชาติจะอยู่รอดได้นั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนกระบวนการความคิดให้มากที่สุด

    ห้วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน

    ดังเช่นที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวว่า “มนุษยชาติจะอยู่รอดได้นั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนกระบวนการคิดให้มากที่สุด” (“We shall require a substantially new manner of thinking if mankind is to survive.”) การที่สังคมและประเทศชาติจะอยู่รอด เราจะต้องเลิกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เลิกเอาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง หันมายึดถือประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ ชื่นชมให้ความเคารพและสนับสนุนคนทำดี ร่วมมือคัดค้านและต่อต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ใช้สติและความสุขุมคัมภีรภาพสร้างความสมานฉันท์เพื่อให้เกิดสันติสุขและเสถียรภาพในการพัฒนา ซึ่งนำไปสู่ความผาสุกความสงบเรียบร้อยความเจริญในสังคมต่อไป


    <center> [​IMG]</center>



    ขอให้วันเวลาขณะนี้เป็นห้วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านที่เราทุกคนได้ร่วมกันสรรค์สร้าง เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าดังที่เราได้วาดหวังให้เป็นจริง
     
  12. pat3112

    pat3112 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +2,904
    ไปสวนลุมวันนี้แต่หาพี่kananunไม่เจออ่ะครับเดินอยู่1ชม .30นาที ไม่เป็นไรคราวหน้าไปใหม่
     
  13. ตลับนาค

    ตลับนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1,497
    กำลังสงสัยเรื่องความต่างของ อรูปฌาน 1 และ 2 พอดีไปเจอ บทความนี้เข้าครับ

    สนทนากับหลวงพี่เล็ก กระโถนข้างธรรมาสน์ 38

    ถาม: เคยพิจารณาอยู่ทุก ๆ วัน มีอาการมีความรู้สึกว่าตัวอากาศกับวิญญาณมันใกล้กันเหลือเกิน ?
    ตอบ: ใกล้กัน ใกล้มาก
    ถาม: บางครั้งเราพิจารณา เราไม่รู้หรอกว่า มันอยู่อากาศหรือวิญญาณ แต่พอทำว่าไม่มีมันก็จะน้อม มันจะถูกหรือผิด ?
    ตอบ: ระหว่างอากาศกับวิญญาณมันต่างกันอยู่อย่างเดียว อากาศ่เราใช้ความรู้สึกคลุมมันอยู่ แต่วิญญาณ เราจับความไม่มีขอบเขตของความรู้สึกเท่านั้นเอง มันต่างกันนิดเดียวเท่านั้นเอง
     
  14. Phen

    Phen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +411
    เมื่อข้าพเจ้าตายไปเทวโลกและยมโลก

     
  15. Phen

    Phen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +411
    พี่ทั้ง 5 พี่คนโตเป็นชาย เมื่อโตแล้วก็ออกไปทำงานนอกบ้านนานๆ จึงจะกลับบ้าน บางครั้งก็เป็นปีจึงกลับ พี่คนที่ 2 เป็นชาย ด้วยความมุ่งมานะและความพยายามเรียนจนจบมัธยม และในที่สุดได้ไปรับราชการเป็นครูอยู่ที่ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พี่สาวคนที่ 3 เมื่ออายุพอสมควรก็แต่งงานมีครอบครัวไป พี่สาวคนที่ 4 เมื่อตอนยังเล็กได้มีคนมาขอพาไปเลี้ยง เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ เพราะฉะนั้นเวลานี้จึงเหลืออยู่ที่บ้านเพียง 3 คน คือ แม่ พี่สาวคนที่ 5 และข้าพเจ้า โดยเฉพาะพี่ชายคนโต แกเป็นคนดุร้ายไม่เคยเกรงกลัวใคร หากใครมาข่มเหงรังแกหรือพูดไม่ถูกใจ แกจะชกให้บ้าง โดยที่พวกตรงกันข้ามไม่สามารถจะทำอะไรแกได้ ด้วยความซุกซนและดุร้ายของพี่ชายคนโตนี้เอง ทำให้พวกตรงกันข้ามผูกความคับแค้นพยาบาทมากขึ้นแต่ก็ทำอะไรแกไม่ได้ ในที่สุดจึงได้มาเผาบ้านทิ้งเป็นการ แก้แค้นโดยที่ทำให้แม่ พี่ และข้าพเจ้า 3 ชีวิต ซึ่งไม่เคยก่อกรรมทำเวรกับใคร แต่กลับมาเป็นผู้รับบาป พี่ชายคนโตเมื่อรู้เรื่องไฟไหม้บ้านก็รีบกลับมา และพร้อมกันนั้นก็ได้กลับไปหาพรรคพวกมาสร้างบ้านขึ้นใหม่ พอเป็นที่พักกายได้เรียบร้อยแล้ว แม่ก็พยายามอ้อนวอนตักเตือนพร่ำสอนให้พี่ชายเลิกประพฤติตัวอย่างเก่า ทำตนให้เป็นคนดีตามที่ชาติศาสนาและบ้านเมืองเขาต้องการ ไม่ให้คิดอาฆาตผูกพยาบาทจองล้างจองผลาญกับใคร และขอร้องให้บวชสัก 1พรรษา ในที่สุดพี่ชายก็ยอมรับคำกับแม่ เเล้วบวชให้ตามสัญญา
    แม่ พี่ และข้าพเจ้า ต่างก็ช่วยกันทำมาหากินด้วยการทำสวนบ้าง ปลูกผัก ทำขนมขายบ้าง เพื่อจะได้ประทังชีวิตไปแต่ละวัน วันและเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บัดนี้อายุของข้าพเจ้าย่างเข้า 15 ปีแล้ว ชีวิตของข้าพเจ้ามีความสุขอยู่กับแม่และพี่ที่บ้านได้ไม่นาน พี่ชายคนโตเมื่อลาสิกขาจากพระแล้วก็ไปสร้างสวนแห่งหนึ่งที่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ซึ่งอยู่ในป่าดงพงดิบเต็มไปด้วยสิงห์สาราสัตว์ เป็นเวลาเดือนๆ จึงได้เห็นหน้ามนุษย์ผ่านเข้าไปสักครั้ง (เดี๋ยวนี้มีบ้านคนอยู่ 2-3 หลังแล้ว) อยู่มาวันหนึ่ง แกได้กลับมาบ้านบอกกับแม่ พี่ และข้าพเจ้าว่าจะพาข้าพเจ้าไปอยู่ที่สวนเพื่อจะได้ช่วยกันทำงาน มารดาและพี่ก็มิได้ว่าอะไร ส่วนข้าพเจ้าแม้จะไม่เต็มใจไป แต่ก็ไม่สามารถจะขัดขืนความต้องการ ของพี่ชายได้ ความเป็นห่วงแม่ก็เป็นห่วง ความกลัวพี่ชายก็แสนจะกลัว เพราะเคยโดนแต่ละทีแทบจะขาดใจ ในที่สุดก็ไปเก็บผ้าเก็บผ่อน เสร็จแล้วก็เข้าไปกราบลาแม่และพี่ที่เคยอยู่ร่วมกัน จำใจจากไปอยู่กับพี่ชายที่ในสวน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ด้วยความอาลัยอาวรณ์เป็นอย่างยิ่ง

    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    หนีจากพี่
    1 ปีผ่านไปด้วยความทุกข์ทรมาน แม้นจะเหนื่อยแสนเหนื่อยหรือจะหนักแสนหนักก็ต้องจำใจทน บางครั้งเมื่อกลับมาจากทำงานหิวจนแสบไส้แต่ก็ไม่มีอะไรจะกิน เมื่อกลับทำงานแล้ว ไหนจะต้องหุงหาอาหาร ตักน้ำผ่าฟืน ต้องทำสารพัดอย่าง แต่พี่ชายจะเห็นใจบ้างหรือ เปล่าเลย ถ้าไม่ดีก็โดนดุ ทำช้าไปก็โดนด่า มือแต่ละข้างต้องฟกช้ำพุพอง เต็มไปด้วยน้ำเหลือง เพราะต้องสัมผัสอยู่กับด้ามมีด และด้ามขวานแทบตลอดทั้งวัน แม้เราจะอยู่กันร่วมปี แต่บางครั้งวันวันไม่เคยพูดกันเลย บางครั้งเมื่อข้าพเจ้าไปถึงที่ทำงานแล้ว หวนคิดไปถึงบิดามารดาน้ำตาก็ไหลมาโดยไม่รู้สึกตัว หากอยู่กับท่านไหนเลยจะต้องระกำลำบากอย่างนี้บางครั้งถึงแม้จะต้องทำงานหนักแสนเหนื่อย แต่ก็ยังมีความสุขใจ แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ มีพี่ก็เหมือนไม่มี มิหนำซ้ำต้องได้รับแต่ความระกำช้ำใจ ข้าพเจ้ายิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ คับที่ พออยู่ได้แต่คับใจเหลือจะทน ในที่สุดข้าพเจ้าก็ตัดสินใจว่าจะต้องหนีจากพี่ชายเสียให้พ้น เพราะยิ่งอยู่ไปยิ่งมองหน้ากันไม่ได้ ครั้นจะกลับไปบ้านหรือก็ไม่มีทางจะพ้นไปได้ คิดว่าขอตายเอาดาบหน้าดีกว่า เมื่อได้โอกาสข้าพเจ้าก็จากไปด้วยการเดินไปบ้าง วิ่งไปบ้าง ขออาศัยรถบรรทุกไปบ้างโดยที่ไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่สักสตางค์แดงเดียว บางวันก็ต้องอดข้าว บางวันก็ได้อาศัยข้าววัด ถึงแม้จะอดอยากยากแค้นเพียงไรก็ช่าง แต่ขอให้พ้นไปจากพี่ชาย
    10
    วันผ่านไป ที่ข้าพเจ้าต้องหนีกระเซอะกระเซิงจนถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยความหิวผสมด้วยความอ่อนเพลียในที่สุดหมดแรงที่จะเดินต่อ เลยนั่งพิงต้นยางพาราใกล้ทางเดินนั่นเอง ข้าพเจ้าหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่มารู้เอาเมื่อเจ้าของสวนยางมากรีดยาง เขาเห็นมีคนนอนหลับอยู่เลยเรียกให้ลุกขึ้น แล้วถามความเป็นมา ข้าพเจ้าก็เล่าให้ฟังจนตลอด และแล้วเจ้าของสวนยางคือ นางพิมเป็นภรรยา ของนายเมียน อยู่ที่บ้านคลองจัง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็ได้พาข้าพเจ้าไปเลี้ยงไว้โดยให้ช่วยเลี้ยงน้องบ้าง และช่วยเก็บน้ำยางบ้าง แม้บางครั้งจะต้องทำงานหนักบ้าง ข้าพเจ้าก็สบายใจ เพราะคุณพี่ทั้งสองไม่ค่อยจะดุด่าว่ากล่าวนัก และข้าพเจ้าก็มีความรักเคารพแกเสมือนพี่ที่แท้จริง แกก็เมตตาสงสารข้าพเจ้าไม่น้อยไปกว่าน้องเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของข้าพเจ้าเป็นอันสงบอยู่พักหนึ่ง
    พี่ชายเมื่อรู้ว่าข้าพเจ้าหนีไป ก็ให้มีความโกรธมากแล้วกลับไปที่บ้านป่ากอ จังหวัดพังงา เมื่อไปถามและรู้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้กลับบ้านแล้ว ก็เที่ยวสืบเสาะตามหาอยู่พักหนึ่งเมื่อไม่อาจจะรู้ได้ว่าข้าพเจ้าไปอยู่ทางไหน ทุกคนก็ตกลงใจกันว่าช่างมันเถอะเป็นผู้ชายไม่ต้องห่วงหรอก ในเมื่อรู้แน่ว่ามันไม่ตาย โตขึ้นสักวันหนึ่งฉันจะกลับมาเอง เสร็จแล้วทุกคนก็กลับไปทำงานของตนตามเดิม จริงเหมือนว่า 1 ปีเศษ ผ่านไปที่ข้าพเจ้าต้องจากทุก ๆ คนไป เรื่องความกลัวพี่ชายและเรื่องต่าง ๆ ทำให้เลือนลางและเบาบางลงไปบ้าง แต่กลับมีสิ่งอื่นมาแทนที่ 15 ปีที่ข้าพเจ้ามีความสุขอยู่กับผู้บังเกิดเกล้าแต่เวลานี้เกือบจะ 2 ปีเข้าไปแล้วที่ไม่ได้พบแม่เลย และอยู่ไกลเสียจนสุดที่จะตะโกนกู่เรียกหาได้ ยิ่งนึกมาก็ยิ่งมีความ คิดถึงมาก

     
  16. Phen

    Phen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +411
    ในที่สุดก็เข้าไปหาคุณพี่ทั้งสอง แล้วแจ้งความประสงค์ให้ทราบ แม้ว่าคุณพี่ทั้งสองจะไม่ยอมยินดีให้ข้าพเจ้าไป แต่ก็ไม่อาจจะหวงห้ามข้าพเจ้าได้ เสร็จแล้วก็เอาเงินให้เป็นค่าพาหนะและใช้สอยพอสมควร ข้าพเจ้ากราบลาแล้วจากคุณพี่ทั้งสองไปนั่งรถมาเพียงครึ่งวันก็ถึงจังหวัดพังงา เมื่อลงจากรถแล้วก็ต้องเดินเข้าไปประมาณ 4-<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" /><st1:metricconverter w:st="on" ProductID="5 กม.">5 กม.</st1:metricconverter> จึงจะถึงบ้าน ขณะนี้เย็นมากแล้ว หมู่วิหคนกกาต่างก็พากันบิน กลับสู่รวงรัง เด็กเลี้ยงวัวเลี้ยงควายกำลังต้อนฝูงควายเข้าไปสู่คอก ข้าพเจ้าเดินไปด้วยหัวใจกระวนกระวาย ใครจะอยู่บ้างที่บ้าน แม่จะเกลียดเอาไหมที่เราหนี เมื่อข้าพเจ้าเข้าใกล้จะถึงบ้าน แม่เหลือบมาเห็นแต่ไกล แล้วอุทานออกมาว่า
    ลูก... ลูกมาแล้ว
    ในที่สุด แม่ พี่ และข้าพเจ้า แสนจะปลื้มปีติดจน้ำตาแทบจะไหลที่ได้มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง หลังที่จากกันไปเป็นเวลาเกือบ 2 ปี เดี๋ยวนี้อายุของข้าพเจ้าย่างเข้าไป 19 ปีแล้ว แม่เคยพูดบ่อยครั้งว่า ยังอีกปีเดียวก็จะครบบวช แม่อยากจะเห็นลูกชายทุก ๆ คนได้ห่มผ้าเหลือง และพี่ของลูกทั้ง 2 ก็ได้บวชหมดแล้ว เหลือแต่ลูกคนเดียว ลูกอย่าเพิ่งไปมีอะไรและอย่าจากแม่ไปไหนอีกนะ จงบวชให้แม่สักหนึ่งพรรษาก่อน เมื่อแม่ได้บวชลูกทุกคน เวลาตายแม่ก็จะได้นอนตาหลับ ข้าพเจ้าก็รับคำว่าลูกจะทำงานอยู่กับแม่ ต่อแต่นี้จะไม่จากแม่ไปไหน เมื่อลูกอายุครบ 20 ปีเมื่อไหร่จะบวชให้แม่ทันทีและเรื่องที่ลูกจะไปมีผู้หญิงอะไรนั้น ขอให้แม่อย่าได้เป็นห่วงเลย ตราบใดที่ชีวิตของลูกยังมีความลำบากยากจน หรือไม่ สามารถจะรับเลี้ยงให้ผู้อื่นมีความสุขได้แล้ว ลูกจะไม่ไปทำให้ผู้อื่นต้องมารับทุกข์ทรมานกับลูกอย่างเด็ดขาด นี้คือครั้งหนึ่งหลังจากได้กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอน และได้นั่งคุยตามประสาลูก ๆ แม่ ๆ แต่ท่านทั้งหลายจงติดตามชีวิตอันแสนจะระทมขมขื่นของข้าพเจ้าต่อไปเถิด ว่าเด็กน้อยผู้น่าสงสาร คนนั้นจะได้บวชหรือเปล่า แนวทางชีวิตของเขาตั้งแต่วินาทีนี้ไป จะต้องประสบกับชะตากรรมอย่างไรบ้าง อะไรเป็นผู้ทำอนาคตอันแจ่มใสของเขาให้พังพินาศ หากท่านติดตามไปด้วยดี บางทีอาจจะนำมาเป็นข้อคิดคติเตือนใจแก่ตนเองและลูกหลานได้บ้างพอสมควร
    พี่ชายคนที่ 2 ที่ไปรับราชการเป็นครู อยู่ที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เป็นเวลา 6 ปีเศษแล้ว เวลานี้สามารถเก็บเงินเอาไว้ได้จำนวนหนึ่ง และคิดจะเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ขึ้นในตลาดนี้ เพราะเวลานี้เมื่อโรงเรียนปิดหรือวันเสาร์-อาทิตย์ก็ทำตู้โต๊ะขายได้กำไรดี ในที่สุดก็มาที่บ้านบอกความจำนงให้แม่ พี่ และข้าพเจ้าฟังเป็นอันว่าข้าพเจ้าต้องจากบ้านจากแม่และพี่ไปอยู่ที่อำเภอท้ายเหมืองอีกครั้ง ครั้งแรก ๆ ก็มีการฝึกหัดทำตู้โต๊ะไปตามที่ทำได้ และมีลูกจ้างอยู่คนหนึ่ง ชั่วระยะปีเดียวข้าพเจ้าก็สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนพี่ชายเมื่อเห็นว่าการค้าขายได้กำไรดีกว่าก็ลาออกจากราชการ มาร่วมทำด้วยกันแล้วตั้งอัตราเงินเดือนให้ข้าพเจ้าตามสมควร
    เวลาผ่านไป 3 ปีเศษ เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าโตเป็นหนุ่มแล้วสิ่งที่เพื่อน ๆ ชายเขามี ข้าพเจ้าก็มีทุกอย่าง เพราะข้าพเจ้าอุตส่าห์ทำงานโดยไม่เกียจคร้าน แต่พอเริ่มเข้าปลายปีนี้เองข้าพเจ้ารู้จักเพื่อนๆ ขึ้นเยอะ บุหรี่ข้าพเจ้าไม่สูบ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มหัดสูบ สุราที่ข้าพเจ้าเคยเกลียดเคยกลัว แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ารู้สึกชักจะชอบ การพนันที่ข้าพเจ้าเล่นไม่เป็น แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าชำนาญ เมื่อก่อนไปไหนกับเพื่อน ๆ หรือเจอกัน เพื่อนมักจะเรียกอ้ายกะเทยบ้าง อ้ายหน้าตัวเมียบ้าง แต่เดี๋ยวนี้เมื่อออกจากร้านไปเจอเพื่อน ๆ เมื่อไหร่ เพื่อนก็จะทักว่า เฮ้ย ! วันนี้เราไปก๊งกันที่ไหนดีวะ ! เอากรุงทองมาเผากันบ้าง เหล่านี้เป็นต้น ข้าพเจ้าประพฤติชั่วช้าสารเลวหลงเห่อเหิมไปตามอารมณ์ ยอมเป็นทาสของสุราและการพนัน โดยมิได้คำนึงถึงความหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาสู่ชีวิต ข้าพเจ้าหลงผิดคิดชั่ว เห็นกงจักรเป็นดอกบัว แม่ผู้บังเกิดเกล้าที่ข้าพเจ้าเคยรัก พี่สาวที่เคยอุปการะอุดหนุนข้าพเจ้าลืมหมด เพราะถูกผีสุราและการพนันเข้าครอบงำ ข้าพเจ้ากลับไปบ้าน แม่ขอร้องอ้อนวอนให้บวชสักหนึ่งพรรษาแต่ข้าพเจ้ากลับคอยปฏิเสธ ข้าพเจ้าเกลียดการบวช ข้าพเจ้าเบื่อเรื่องการทำบุญทำทานรักษาศีล ข้าพเจ้ากลับเห็นศาสนาเป็นเรื่องสมมุติ เป็นของทำเล่น เห็นพระสงฆ์เป็นเครื่องถ่วงความเจริญ แม่พยายามซี้แจงบาปบุญคุณโทษ ข้าพเจ้าหลบ ไปเสียบ้าง ไปเปิดวิทยุให้ดังกลบเสียบ้าง ข้าพเจ้าผิดคิดประพฤติชั่วบัดซบ ก็เพราะโดนคราบปีศาจอสุรกายจากเมืองนรกเข้าลงสู่ในจิตใจ ทำให้ข้าพเจ้าเห็นผิดเป็นชอบ เพียงชั่วระยะไม่นานกรรมอันน่าบัดซบที่ข้าพเจ้าได้ก่อไว้ เริ่มลุกลามเผาไหม้ให้ข้าพเจ้ามีอันเป็นไป
    ในตอนเย็นวันหนึ่ง พี่ชายได้เรียกข้าพเจ้าไปพบในห้องเพราะทนดูการประพฤติของข้าพเจ้าไม่ไหว ต่อจากนั้นมีการดุด่าอย่างหนักจนข้าพเจ้าสำนึกในความผิด และรู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่า เรานี้มันชั่วช้าสารเลวเสยเหลือเกิน ประพฤติไปในทางแต่ฉิบหาย เมื่อรู้สึกเช่นนั้นก็ทำให้เสียใจเป็นอันมากแล้วตัดสินใจไปเอามีดอันคมกริบแล้วเชือดลงบนข้อมือ 4 แผล แทบจะถึงกระดูกแล้วก้มลงสาบานต่อหน้าพี่ชาย ว่าน้องเคยประพฤติผิดประพฤติชั่ว แต่ต่อจากวินาทีนี้เป็นต้นไปเรื่องการประพฤติชั่วต่าง ๆ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา และเล่นการพนัน เป็นต้น น้องจะไม่ประพฤติอย่างเด็ดขาด หากว่าน้องประพฤติหรือไปทำอย่างนั้นเข้าอีก ขอให้ชีวิตของน้องมีอันเป็นไปด้วยรอยคมที่ปรากฏอยู่นี้ด้วยเถิด (แผลเป็น ยังมีอยู่) ต่อจากนั้นข้าพเจ้าคิดว่าเรานี้มันชั่วช้าสารเลวเหลือเกิน ไม่ควรจะอยู่ร่วมกับพี่ชายต่อไป จะขอไปตามยถากรรมของเราดีกว่า เสร็จแล้วเข้าไปกราบลาพี่ชาย และเก็บผ้านุ่งผ้าห่มเครื่องมือเครื่องใช้ที่เคยทำมาหากิน แล้วจากพี่ชายไปของานก่อสร้างทำอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ในวันต่อมา
     
  17. Phen

    Phen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +411
    สาเหตุของก่อนกินยาตาย
    เพียง 3 เดือนผ่านไป เกณฑ์ชะตาชีวิตของข้าพเจ้าก็เริ่มพบกับความวิปโยค และความปวดร้าวขมขื่นที่ชีวิตนี้ไม่อาจลืมได้ลง ตามธรรมดาเมื่อเสร็จจากงานแล้ว ข้าพเจ้าไม่ค่อยจะไปไหน แต่วันนั้นรู้สึกว่าอยากจะออกไปเดินเล่นในตลาด และหาอะไรกินเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะตลาดก็ไม่ไกลเท่าไรและนึกว่านาน ๆ ออกไปตลาดสักครั้งก็สนุกดีเหมือนกัน ข้าพเจ้าเดินไปซื้อผลไม้บ้างกลับมาเอาเมื่อ 2 ทุ่มกว่า ๆ เมื่อมาถึงที่พัก ใจของข้าพเจ้าต้องเต้นแรงเมื่อปรากฏหีบใส่ผ้ากุญแจเดาะเปิดอ้า เสื้อกางเกง 3-4 ชุด และแม้แต่ผ้าเช็ดหน้าก็ยังหายหมด ไม่มีอะไรเหลือ ข้าพเจ้าต้องนั่งลงด้วยความอ่อนใจ แต่ในที่สุดก็นึกว่ามันเป็นกรรมของเราเอง มิได้ไปบ่นหากับใครเพราะไปถามใคร เพื่อนก็บอกว่าไม่รู้ไม่เห็น
    เสร็จแล้วก็ก้มหน้าอาบเหงื่อต่างน้ำทำงาน แม้แดดจะร้อนฝนจะตก ก็มิเคยปริปากบ่น คิดว่าชาตินี้เราเกิดมามีกรรม 10 กว่าวัน ผ่านไปโดยที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น และแล้วในวันที่ 13 นั่นเอง เมื่อหลังจากเลิกงานเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ แล้ว อาบน้ำกินข้าวเสร็จแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกมึนศีรษะและรูสึกง่วงนอนผิดปกติแล้วเข้าไปนอนก่อนเพื่อนๆ ข้าพเจ้าหลับไปตั้งแต่กี่ทุ่มไม่รู้ แต่มาตื่นเอาเมื่อแสงแดดสว่างจ้าไปหมด แล้วรีบลุกล้างหน้าล้างตาหาอาหารรองท้องพอเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะได้รีบไปทำงาน ครั้นพอเหลียวไปดูที่เก็บเครื่องมือริมฝาผนังข้างห้องนอน เอ๊ะ ! เมื่อวานเราลืมเก็บเครื่องมือไว้หรือ เมื่อทบทวนความจำอีกครั้งก็จำได้ว่าเราเก็บมาเรียบร้อยแล้ว แล้วถ้าอย่างนั้นหายไปไหน แม้แต่หีบใส่ก็ไม่มี เที่ยวเดินถามเพื่อนจนทั่วแต่ก็ไม่มีใครทราบ อนิจจาเครื่องมือหายไปอีกแล้วหรือนี่ โธ่...เราจะเอาอะไร มาทำงานละคราวนี้ เหงื่อข้าพเจ้าออกโทรมกายเมื่อรู้แน่ว่ามันหาย เสื้อผ้ากางเกงเพิ่งหายไปไม่เท่าไหร่ แต่นี่เครื่องมือที่เคยทำมาหากินต้องมาหายไปเสียอีก น้ำตาของข้าพเจ้าแทบจะร่วง และเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็รู้ไปถึงพวกพี่ ๆบางคน หาว่าข้าพเจ้ามีนิสัยเดิมเกิดขึ้นอีก ใครจะไปเอาของอย่างนั้น นอกจากมันพาไปขายเล่นการพนัน

    ในที่สุดข้าพเจ้าต้องขอยืมของเพื่อน ๆ ทำ คนที่เขามีจิตใจเมตตาสงสารบ้างก็ให้ แต่บางคนกลับแสดงความไม่พอใจ บางครั้งโดนเพื่อนด่าเพื่อนว่า แต่ก็ต้องจำใจทนให้เพื่อนว่าด้านชีวิตของข้าพเจ้ามีสมบัติติดตัวที่พอจะพึ่งได้อยู่เพียงอย่างเดียวคือรถมอเตอร์ไซค์ ที่พอจะได้ขี่ไปทำงานบางแห่ง แต่กรรมของข้าพเจ้าหาได้สิ้นสุดลงเพียงแค่นี้ไม่เพียง 10 กว่าวันผ่านไป วันนั้นข้าพเจ้าจำได้ว่าตอนเช้าตรู่มีเพื่อนคนหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคยได้ซื้อข้าวให้เขากิน เคยหางานให้เขาทำยามเมื่อเขาตกงาน ข้าพเจ้าเคยหาเงินให้เขาใช้ แต่ผลที่ได้รับตอบแทนจากเพื่อนคนนั้น เขาได้หอบผ้าพะรุงพะรังมาหาข้าพเจ้าแต่เช้ามืด แล้วบอกกับข้าพเจ้าว่ายืมมอเตอรซค์สักทีเถอะ เอาผ้านี้ไปซักในตลาด ข้าพเจ้าก็หยิบกุญแจและมอบให้เขาไปโดยที่ข้าพเจ้ามิได้นึกระแวงหรือสงสัยเลยว่า เพื่อนนี้จะมีใจเนรคุณกับข้าพเจ้าได้ จาก1 เป็น 2 เป็น 3 นี่ก็เกือบ 4 โมงเช้าเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่เห็นเพื่อนกลับมาเลย จนในที่สุดอีกไม่ช้ามีคนอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น คนหนึ่งเดินผ่านมา แล้วบอกกับข้าพเจ้าว่าเห็นเพื่อนของคุณคนนั้นไม่รู้ไปไหน มีกระเป๋าสะพายอยู่ข้างหลัง แล้วขี่มอเตอรซค์ของคุณไปเร็วจี๋ เสมือนท่อนเหล็กขนาดใหญ่ฟาดลงศีรษะหน้ามืดใจสั่น เมื่อได้ยินคำบอกเล่าดังนั้น เมื่อหายจากความมึนงงก็รีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และคิดจะติดตาม แต่เวลานี้ เงิน...เงินไม่มีเลย ตัดสินใจถอดนาฬิกาข้อมือและแหวนรวมราคาประมาณ 600 กว่าบาท ขายได้ เงินมาเพียง 200 บาท แล้วว่าจ้างรถรับจ้างออกตาม แต่มันสายเสียแล้ว ในที่สุดกลับมาที่พักพร้อมกับความหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง จะมองไปทางไหนพบแต่ความว่างเปล่า จิตใจของข้าพเจ้าแทบจะกลายเป็นบ้าเที่ยวเดินใจลอย ผมเผ้ารุงรังตาหมองคล้ำ พบแต่ความเศร้าหมอง ตี 2 ตี 3 เพื่อนเขา กำลังหลับกันอย่างสนิท แต่ข้าพเจ้ายังเที่ยวเดินอยู่บนถนนและข้อดีในระหว่างนั้นได้มีพวกโจรผู้ร้ายขึ้นปล้นบ้านแถวนั้นกวาดเอาทรัพย์สินของชาวบ้านไปหลายร้อย พอรุ่งขึ้นบางคนมีความสงสัยและตั้งข้อพิสูจน์ว่า ข้าพเจ้านี้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่ด้วย เพราะตอนดึกได้มีคนไปพบข้าพเจ้าเดินใกล้ ๆแถวนั้น เวลาล่วงไปได้ 3วัน หลังจากรถมอเตอร์ไซค์หาย พวกพี่น้องทางบ้านรู้กันหมดพี่บางคนหาว่าข้าพเจ้านี้สาบานโกหกขี้เท็จตอแหลทั้งนั้น นิสัยเดิมมันจะทิ้งได้เสียเมื่อไหร่ คนสันดานเลวระยำบัดซบ มันคงจะติดตัวไปจนตาย ครั้งแรก ๆ มันก็ขายผ้าเสื้อกางเกง พาไปกินเหล้าพาไปเล่นการพนันก่อน อีกหน่อยก็ขายเครื่องมือ พอหนักเข้ารถอเตอร์ไซค์ราคาเป็นพันมันก็ขายสมบัติเท่าปีกลิ้นก็ไม่เหลือเมื่อมันหมดทุกสิ่งทุกอย่างเข้า ลักปล้นขโมยมันก็เอา เพราะจิตใจมันแสนเลวระยำ นี่คือคำครหานินทาจากญาติพี่น้อง และตอนบ่ายของวันนั้นเอง พี่ชายคนโตที่ไปทำสวนอยู่ทางอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เมื่อคราวก่อน พอรู้เข้าอย่างนี้ก็ให้มีความโกรธเป็นยิ่งนัก จึงรีบไปหาข้าพเจ้าที่จังหวัดกระบี่ ตามหาอยู่พักหนึ่งก็เจอข้าพเจ้า พอพบหน้าพี่ชายเข้าเท่านั้นหัวใจแทบจะหยุดเต้น หน้าซีดหมดแรงคล้ายจะเป็นลม เมื่อ พบข้าพเจ้าแล้วพี่ชายก็เข้าไปด่าว่า และจะฆ่าข้าพเจ้าเสียให้ตาย แม้ข้าพเจ้าจะบอกแกสักเท่าไหร่ ว่าน้องนี้ไมได้ชั่ว เขาใส่ร้ายน้อง น้องไม่ได้เอาไปขาย เพื่อนขโมยของจริง ๆ เมื่อก่อนน้องเคยประพฤติไม่ดี แต่นี่น้องไม่ได้ทำอย่างนั้น ขอให้พี่จงเห็นใจและเชื่อน้องสักครั้งเถอะ อย่าดุด่าว่าอ้ายโกหก อ้ายชาติชั่ว ทำผิดมึงไม่ยอมรับผิด น่าจะตายเสียดีกว่าอยู่ คนอย่างมึง เพียงเท่านี้เอง น้ำตา... น้ำตาของข้าพเจ้าต้องไหลพราก ข้าพเจ้าร้องไห้โฮอยู่ข้างถนน โดยหมดความละอายอะไรทั้งสิ้น โอ้...ชีวิตของข้าพเจ้า ทำไมจึงมีกรรมแสนสาหัสอย่างนี้ ทำไมข้าพเจ้าไม่ตายเสียตั้งแต่เล็ก ๆ จะให้ชีวิตของข้าพเจ้าอยู่รับความทุกข์ทรมานไปทำไม ในเมื่อข้าพเจ้าทำผิดประพฤติไม่ดีจริงดังว่าก็พอประทัง แต่นี่ข้าผิดอย่างไร ข้าชั่วแบบไหน ถ้าไม่รู้ ถ้าไม่เห็น ข้าพเจ้าหมดปัญญาที่จะบอกให้พี่และใครๆ เชื่อได้ ในที่สุดพี่ชายก็ได้บังคับให้กลับไปบ้านที่จังหวัดพังงา เมื่อไปถึงบ้านแทนที่จะได้พบจะได้เห็นพี่น้องเพื่อนฝูงต้อนรับยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเมื่อก่อน เปล่าเลยมีแต่กลับตรงกันข้าม ใคร ๆ ก็ไม่อยากจะมองหน้า มีแต่ความขยะแขยงเกลียดชัง ยามเมื่อเรามั่งมีเงิน พี่น้องรักใคร่ เพื่อนฝูงมากมาย จะมองไปทางไหนพบแต่ความเพลิดเพลิน ยามเมื่อเราอับจน พี่น้องก็ห่างเหินเพื่อนรักกลับชัง จะเหลียวมองไปทางไหน แว่วแต่เสียงครหานินทา ทำถูกก็ว่าผิด พูดดีก็ว่าร้าย อยากจะไปบอกกับพี่ว่าน้องนี้ไม่ได้ผิด น้องนี้ไม่ได้ชั่ว แต่ไม่มีใครเขาต้องการจะฟังเขากลับปิดประตูไล่ไสส่ง ไม่มีใครอยากให้เข้าบ้าน เมื่อหวนกลับไปหาแม่เพียงแค่เห็นข้าพเจ้าเท่านั้น แม่ต้องร้องไห้ชีวิตของข้าพเจ้ามันหมดล้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ทั้งทางวัตถุและจิตใจ เหลือแต่เพียงน้ำตาเท่านั้น ที่ยังคอยมาปลอบประโลมใจ และมาเป็นเพื่อนในยามเศร้า ในชีวิตของข้าพเจ้าตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยพบกับความสุขอันแท้จริง ในบางครั้งแม้จะมีบ้างแต่เป็นความสุขที่หลอกลวง ความสุขที่เจือปนด้วยยาพิษ ข้าพเจ้าเคยมีบิดาอันรักยิ่งเสมือนแก้วตา แต่เพียง6 ปีเท่านั้น ท่านก็มาจากไปโดยไม่มีวันกลับ เคยมีพี่หญิงพี่ชายเหมือนเพื่อน แต่แล้วเหมือนไม่มี เคยมีเพื่อนรักยิ่งแต่เพื่อนรักกลับเนรคุณ ในชาติปางก่อนข้าพเจ้าสร้างกรรมทำอะไรเอาไว้มากมายนักหรือ ชาตินี้จึงต้องทนทุกข์ทรมานและเฝ้ากินแต่น้ำตาอยู่ร่ำไป

    เมื่อพี่ ๆ มาพร้อมกันแล้ว พี่ชายคนโตได้พูดขึ้นว่าต่อจากนี้ไปชีวิตของข้าพเจ้า (นิกร) แกจะจัดการเอง หากขืนปล่อยเอาไว้อย่างนี้ คงจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ญาติพี่น้องและตระกูล จะพามันไปดัดสันดานที่ในป่าเสียบ้างจะได้หายจากความเลวระยำสักที พี่ ๆ ทุกคนมีความยินดีและลงความเห็นด้วย ในการที่พี่ชายคนโตพาไปทำอย่างนั้นความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของข้าพเจ้าเวลานี้ใครเล่าจะรู้ใครเล่าจะเห็น นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทวดาฟ้าดินเท่านั้นที่พอจะรับรู้ได้บ้าง แต่ใครล่ะที่จะมาช่วยข้าพเจ้าได้ ขณะที่ข้าพเจ้านั่งฟังอยู่นั้น หัวอกแทบจะพังทลายด้วยความอัดอั้นตันใจ หมดหนทางที่จะโต้เถียง และหลักฐานพยานมาอ้างให้เขาเชื่อฟังและเข้าใจได้ มีแต่น้ำตาที่หลั่งไหลนองหน้า ถ้าเราผิดจริงชั่วจริง จะไม่เสียใจเลย แต่ข้าพเจ้าไม่รู้ไม่เห็นกลับถูกเขาใส่ร้ายใครเล่าจะไม่เสียใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งมีแต่ความทุกข์เสมือนตกนรกทั้งเป็น ทรัพย์สมบัติทั้งหมดสิ้นทุกอย่าง พี่น้องขับไล่ไม่คบหน้า ซ้ำถูกกล่าวหาใส่ร้ายและถูกพี่พาไปทรมานจะมองไปทางไหนมืดมิดหนทางชีวิตมืดมนจะอยู่ไปทำไมเล่าชีวิตนี้ ในเมื่อมามีแต่ความเศร้าตรม จะขอตายไปเสียให้พ้นยังดีกว่า ถึงขืนอยู่ก็หาความสุขไม่ได้แล้วในชีวิตนี้ ในทันทีนั้นข้าพเจ้าได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าขอลาจากโลกนี้ไป แต่มีปัญหาอยู่ว่าการตายนี้เราจะตายแบบไหนดี คิดไปคิดมาก็นึกได้ว่า กินยานอนหลับสิตายสงบดี โดยมิต้องทำความวุ่นวายให้กับใคร และเวลานี้เงินข้าพเจ้ายังเหลืออยู่ 300 บาท เพราะเมื่อวันกลับมาบ้านออกจากงาน เงินที่เหลืออยู่เขาก็คิดให้ คืนนั้นข้าพเจ้านอนไม่หลับทั้งคืน พอรุ่งเช้าก็รีบออกไปตลาดหาซื้อยานอนหลับได้ทั้งหมด 15 เม็ด ทางร้านเขาบอกว่าหมดแล้วมีเพียงแค่นี้ ข้าพเจ้ายังไม่สมกับความเสียใจ จึงซื้อยาแอสโปรเพิ่มขึ้นอีก 10 เม็ด รวมเป็น 25 เม็ด ทีนี้คิดว่าคงจะตายสมความตั้งใจเราล่ะ แต่ส่วนเงินที่เหลือนี้เราจะเก็บไว้ทำไม เมื่อเราตายไปแล้ว ก็ไม่สามารถจะเอาไปได้เราเอาไปซื้อของฝากพี่ฝากแม่และซื้อของไปทำบุญให้หมดเถอะ วันนั้นข้าพเจ้านึกอยากจะทำบุญทำทาน ความจริงแล้วข้าพเจ้าไม่เคยจะสนใจในเรื่องทำบุญทำทาน ก่อนๆ ถ้าจะไปวัดกับเขาบ้างก็ไปอย่างว่านั่นแหละ คือไปเที่ยวแบบคนหนุ่ม ๆ บางคน ไม่ได้ตั้งใจรับศีลฟังเทศน์กะเขาหรอกแต่ไปเพื่อจะมองหาผู้หญิงสวย ๆ ใครมาบ้าง คงจะได้บาปมากกว่าบุญ แต่พอใกล้จะตายเข้าสินึกจะทำบุญ เมื่อตอนยังสบายไม่เจ็บไม่ไข้ไม่เคยนึก มัวแต่หลงเพลิดเพลินหาความสุขสบายแต่ในทางกามารมณ์ ไม่คิดว่าสักวันจะต้องตายพบพระพบเจ้าไม่อยากจะเข้าใกล้ เมื่อใกล้จะตายจึงคิดหาพระแต่พระองค์ไหนจะช่วยข้าพเจ้าได้ ในเมื่อยามสบายข้าพเจ้าไม่เคยได้ไปทำบุญกับพระ แม้แต่สวดนะโมก็ยังว่าไม่ค่อยถูก

    เมื่อข้าพเจ้ากลับมาถึงบ้าน ก็นำของที่ซื้อมาทั้งหมดพาไปให้พี่ แม้ว่าเขาจะไม่ยินดีต้อนรับ แต่ข้าพเจ้าก็เอาไปไว้แล้วบอกว่า พี่นี่ของน้องซื้อมาฝาก จงรับไปเถิดแล้วจากไปแล้วเอาไปให้แม่และพาขึ้นไปถวายพระที่วัด ของที่ซื้อมาทุกอย่าง เช่น ร่ม รองเท้า ผ้าถุง ปิ่นโต น้ำปลา กะปิ ธูป เทียนใบชา จนกระทั่งปลาสดและเนื้อหมู เมื่อแบ่งไปให้กันทั่วหมดทุกคนพากันประหลาดใจ ที่ข้าพเจ้ามีใจบุญเป็นพิเศษในวันนั้น แต่ทุกคนหาได้เฉลียวใจไม่ว่า ข้าพเจ้าเตรียมตัวจะจากเขาไปเสียแล้ว วันนั้นเป็นวันเสาร์ เดือนมีนาคม พ.ศ2510 เวลาประมาณ 18.00 น. หรือ 6 โมงเย็น ข้าพเจ้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะขอลาตาย แล้วไปหยิบเอายาทั้งหมดพร้อมด้วยน้ำหนึ่งแก้ว แล้วรีบออกไปหลังบ้านเมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมาแล้ว ข้าพเจ้าก็รีบกินทันที เม็ดที่ 1ลงไป และเม็ดที่ 2-3 ติดตามไปตามลำดับ น้ำตาของข้าพเจ้าไหลพรากแทบจะเป็นสายเลือดแต่กัดฟันกินต่อไป กินไปพลางร้องไห้พลาง จนยานอนหลับ 15 เม็ดหมดไป ยังเหลือยาแอสโปร 10 เม็ด ข้าพเจ้าอุตส่าห์กินเข้าไปจนหมด 5 เม็ดยังเหลืออีก 5 เม็ด ไม่สามารถจะกลืนลงไปได้ เพราะมันรู้สึกคล้าย ๆ จะอาเจียนออกมาให้ได้ และข้าพเจ้าคิดว่ายา20 เม็ดนี้มันคงสามารถนำดวงวิญญาณออกไปจากร่างได้แล้วล่ะ เพราะเคยปรากฏว่าเขากินเพียง 12 เม็ด ยังถึงแก่ความตาย

    เมื่อกินยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดนึกอยากจะเข้าไปกราบเท้าแม่ เพื่ออำลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะตายเพราะชีวิตของข้าพเจ้าในเวลานี้ มีแต่แม่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่พอจะเห็นใจข้าพเจ้าอยู่บ้าง แม้ว่าลูกนี้จะสิ้นเนื้อประดาตัวชั่วช้าสารเลวไม่มีใครคบหน้า ทุกคนพากันขยะแขยง แต่แม่....แม่ไม่เคยจะรังเกียจลูก ยามเมื่อลูกทุกข์ แม่พลอยเป็นทุกข์ไปกับลูกด้วย ยามเมื่อลูกสุข แม่ก็พลอยยิ้มแย้มแจ่มใสยามเมื่อลูกเจ็บไข้แม่เฝ้ารักษาพยาบาล พระคุณความดีของแม่มีต่อลูกมากเหลือเกิน สุดที่ลูกจะนำมากล่าวพรรณนาให้จบได้ เมื่อคิดเช่นนี้แล้วข้าพเจ้าเอาผ้าเช็ดน้ำตาจนแห้งแล้วเดินออกไป แต่ในเมื่อเข้าไปใกล้ กลับมีความคิดใหม่ขึ้นมาทันทีว่า หากเราไปบอกกับแม่อย่างนี้ ไหนเลยแม่จะปล่อยให้ลูกนี้ตายไปต่อหน้าต่อตา แม่คงจะต้องช่วยเราเป็นแน่ในที่สุดข้าพเจ้ากลับเข้าไปในห้อง แล้วไปหยิบกระดาษมาเขียนจดหมายไว้หนึ่งฉบับในจดหมายนั้นมีใจความว่าที่ห้องนอนของลูกในวันสุดท้ายกราบเท้าลามายังคุณแม่ผู้บังเกิดเกล้า

    แม่จ๋า ชาตินี้ลูกขอลาแม่ไปก่อน แม่คงไม่รู้หรอกว่าขณะนี้ลูกคนหนึ่งของแม่ ต้องทนทุกข์ทรมานดวงใจแทบจะขาด อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ลูกจะต้องจากแม่ไปแล้วไปอย่างไม่มีวันจะได้กลับมาหาแม่อีก ลูกอยากจะเข้าไปหาแม่แล้วกราบอำลาแทบเท้าของแม่ และลูกอยากจะเห็นหน้าแม่ก่อนที่ลูกจะสิ้นใจตาย แต่ลูกทำอย่างนั้นไม่ได้ แม่จ๋า...ชาตินี้บุญลูกน้อยเหลือเกินที่จะได้เห็นหน้าแม่ต่อไป ลูกขอกราบลาแม่จนแทบเท้าแนบมากับจดหมายฉบับนี้ด้วย ชาตินี้ลูกมิทันได้ตอบแทนบุญคุณของแม่ ลูกขอตั้งสัตย์อธิษฐานไว้ว่าหากลูกไปเกิดชาติหนึ่งชาติใด ก็ขอให้เป็นลูกของแม่ผู้มีพระคุณ และขอให้ได้รับใช้อยู่กับแม่ผู้มีพระคุณทุกๆ ชาติไปด้วยเถิด ขอให้คุณแม่และคุณพี่ที่อยู่หลัง จงมีแต่ความสุขตลอดไป ส่วนลูกนั้นสุดแล้วแต่บุญและกรรมจะนำพา ลูกอยากจะเขียนให้แม่อีกมากมาย แต่เวลานี้มือของลูกสั่นดวงตาฝ้าฟางเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา สุดที่จะเขียนต่อไปได้อีกจึงขอลาแม่แต่เพียงเท่านี้
     
  18. Phen

    Phen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +411
    ขอลาแม่ชั่วชีวิต
    จากลูกผู้อาภัพ นิกร ไทยรักษ์

    เมื่อเขียนจดหมายแล้ว ก็เก็บจดหมายพร้อมด้วยกล่องยานอนหลับใส่ไว้ในเสื้อยืดชั้นใน คิดว่าเมื่อข้าพเจ้าตายแล้ว ตอนที่เขาเอาศพไปอาบน้ำ เขาคงจะเห็นและรู้เองว่าข้าพเจ้าตายเพราะเหตุไร ตามธรรมดาแต่ก่อนมาไม่เคยไหว้พระที่บ้านเลย แต่วันนี้ข้าพเจ้าไปหาดอกไม้ธูปเทียน แล้วไหว้พระ เมื่อแม่เห็นอย่างนั้นก็แปลกใจ แต่ไม่ได้ไต่ถามประการใด ตอนนี้ยาที่กินเข้าไปเริ่มแสดงอาการออกบ้างข้าพเจ้ารู้สึกภายในจิตใจสั่น สติฟั่นเฟือนจำอะไรก็ไม่ค่อยได้ไหว้พระก็ไม่ค่อยถูก ตั้งนะโม 3 จบ ผิดบ้างถูกบ้าง เป็นอันว่าเสร็จพิธี เมื่อไหว้พระแล้วก็เอาดอกไม้ที่หาเอาไว้แล้ว3 ดอก ผูกติดร่วมกันทั้งธูปเทียนแล้วเอามือถือไว้ เพราะเคยเห็นคนใกล้จะตายหรือคนเจ็บหนักๆ เขาทำกันอย่างนั้นตอนเอายาไปกินประมาณ 18 นาฬิกา เมื่อเสร็จทุกอย่างแล้วเข้าไปนอนประมาณ 20 นาฬิกา ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนได้ระลึกขึ้นว่า ขอเดชะ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา และคุณครูบาอาจารย์ ตลอดทั้งผู้เป็นใหญ่ มีพระอินทร์ พระพรหม พระยายม พระกาฬอีกทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอีกทั้งผู้ที่เคยมีพระคุณทั้งหลาย เมื่อข้าพเจ้าสิ้นชีวิตไปแล้ว ขอพระคุณของท่านจงมาช่วยนำดวงวิญญาณของข้าพเจ้าไปสู่สุคติด้วยเถิด ชาตินี้ข้าพเจ้ามีกรรมขอเดชะบารมีของท่านทั้งหลายที่พรรณนามานี้ จงรับรู้ความดีที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมอบรมไว้ในชาตินี้ แล้วจงมาเป็นกุศลผลบุญให้ข้าพเจ้าได้ไปเกิดในที่อันพึงปรารถนาที่ชอบดังที่ได้พรรณนามานี้
    เมื่ออธิษฐานเสร็จก็ก้มตัวลงนอนและคิดว่าต่อไปนี้ไม่มีอะไรที่จะช่วยเราได้แล้วนอกจากพระ เมื่อคิดได้ดังนี้แล้วก็ภาวนาขึ้นว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ อย่างนี้ตลอดไป ดอกไม้ธูปเทียนก็ตั้งไว้บนอกถือแบบประนมมือไหว้พระแล้วก็ค่อยๆลืมตัว และหลับไปในที่สุด

    นี้แหละท่านทั้งหลาย ในโลกมนุษย์เรานี้จะเอาอะไรแน่นอนกันได้ วันนี้เรามีความสุขสมหวังสดชื่นรื่นรมย์ แต่วันพรุ่งนี้ใครเล่าจะเห็น บางทีเราอาจจะต้องร้องไห้ หรือบางทีเราอาจจะต้องจากโลกนี้ไปก็ได้ เพราะชีวิตมนุษย์เราทุกๆ คนย่อมเป็นไปตามกรรมที่เราเคยสร้างเอาไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ทั้งที่เป็นกรรมดีและชั่ว เมื่อได้กระทำลงไปแล้ว เราก็ต้องได้รับผลอย่างแน่นอน แล้วแต่วิบากกรรมนั้นจะตามมาทันเข้าเมื่อไร ดูแต่แนวทางชีวิตของข้าพเจ้าเถิดไม่เคยนึกว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่แล้วก็เป็นเอาจนได้ ชาติปางก่อนข้าพเจ้าคงจะสร้างกรรมชั่วเอาไว้มาก เมื่อเกิดมาชาตินี้จึงต้องชดใช้กรรมเวรอันนั้นอย่างปวดแสบ เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลาย เมื่อเรามีโชควาสนาได้ ชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว เราไม่ควรจะประมาท จงรีบทำความดีมีการรักษาศีลให้ทาน ฟังธรรมเสียแต่วันนี้เถิด ใครเล่าจะรู้ว่าความตายมาในวันพรุ่งนี้แล้ว ชีวิตทุก ๆ ชีวิตเมื่อเกิดขึ้นมาในโลกนี้แล้ว ไม่มีใครที่จะอายุยืนค้ำฟ้า จะต้องตายลงด้วยกันทุกคน ต่างแต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้น จะยากดีมีจนหรือร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี เมื่อถึงคราวสิ้นชีวิต พระยามัจจุราชไม่เคยจะเมตตาปรานีใคร และไม่เคยจะเลือกชั้นวรรณะ ต่อให้มีเงินทองกองล้นฟ้าก็ไม่สามารถจะป้องกันชีวิตไว้ได้ ยามเมื่อเราตายไปแล้ว แม้แต่โลหิตก็ไม่มีติดตัวนอกจากกรรมดีและกรรมชั่วเท่านั้นที่จะเป็นเงาติดตามตัวเราไป เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลาย เราจงหันหน้าเข้ามาน้อมเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาประดับจิตใจและเป็นที่พึ่งกันเถิด เพราะสิ่งอื่น ๆ ในโลกนี้ไม่ใช่สรณะเป็นที่พึ่งอันประเสริฐเลย ในเมื่อเรามีคุณธรรมความดีประจำใจแล้ว เราจะไปกลัวอะไรกับความตาย พระยามัจจุราชไม่สามารถจะย่ำยีจิตใจเราได้แม้จะทำไปได้ก็แต่เพียงร่างกายเท่านั้น และด้วยอำนาจความดีเท่านั้นที่จะทำให้เรามีความสุขได้ในโลกนี้และในโลกหน้า ท่านทั้งหลายเพราะเหตุไรที่ข้าพเจ้าไม่ตาย ข้าพเจ้ามีฤทธิ์หรือ เปล่าเลย ข้าพเจ้ายังเป็นปุถุชนสามัญที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลสอาสวะ แต่ที่ไม่ตายนั้นก็เพราะอำนาจบารมีของคำว่า "พุทโธได้แสดงอภินิหารช่วยชีวิตของข้าพเจ้ารอดมาได้อย่างมหัศจรรย์ จะช่วยแบบไหนและดวงวิญญาณของข้าพเจ้าไปประสบอะไร ขอเชิญติดตามในตอนประสบเหตุการณ์ทางวิญญาณต่อไป ...

    ....................... ยังมีต่ออีก แต่ว่าถ้าโพสต่อไปเกรงว่าจะเป็นการรบกวนกระทู้ของเพื่อนๆ ยังงัยแล้วจะลองหาไฟล์ที่หลวงพี่ชัยวัฒน์ ที่ท่านได้อ่านและบันทึกเสียงไว้..
     
  19. พุทธโกมุท

    พุทธโกมุท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +2,807
    ไปสวนลุมมาครับ

    พี่คณานันท์ติวเข้มเรื่อง เมตตาอัปมาณฌาณ เป็นที่น่าแปลกใจมากที่สามารถเข้าถึงฌาณ 4 ได้อย่างรวดเร็วหลังจากอัดลมแล้ว ขณะที่แผ่เมตตาไปทั่วอนันตจักรวาลมีความสว่างไสวมากแล้วมีความรู้สึกสุขอย่างบอกไม่ถูก จนไม่อยากถอยหลังจากฌาณ ลืมตามาแล้วยังไม่อยากพูดคุยต่อ เลยได้แต่ฟังพี่คณานันท์กับคุณเด็กอนุบาลคุยกัน 2 คน เรานั่งยิ้มอย่างเดียว ส่วนพอถึงเรื่อง อรูปฌาณนั้น เกิดความรู้สึกไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ พี่คณานันท์ถามว่าทันไหม ก็ตอบว่าทัน เพราะว่านึกตามได้ทันจริงๆ แต่เคยคิดว่าอรูปฌาณน่าจะยากกว่านี้น่ะครับ เลยลังเลสงสัย ครั้งหน้าคงต้องขอทบทวนใหม่

    จากการไปสวนลุมครั้งนี้รู้สึกถึงความมีน้ำใจ อย่างยิ่งของพี่คณานันท์ ที่ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้พวกเรา แม้จะมีคนไปน้อย แต่พี่ก็ตั้งใจสละเวลาส่วนตัวเดินทางมาถ่ายทอดให้ ขอบคุณมากๆครับ และขอถือโอกาสนี้เชิญชวนทุกๆท่านไปกันเยอะๆในครั้งต่อๆไปนะครับ
     
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    รออ่านของคุณ Phen อยู่ต่อครับ กำลังสนุกเลย

    ช่วยลงต่อให้ทีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...