ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    ผมรู้สึกอยากเห็นการบรรลุขั้นการวิวัฒนาการด้านจิต หรือ ถูกเรียกว่า Shifting of Conciousness มากๆ เพราะว่าถ้าตัวนี้-สิ่งนี้ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่เหล่าพุทธศาสนานิกชนและผู้รอคอยจะยุติ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นได้ "บนโลก" อาจถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ กลุ่มฝ่ายดี และ กลุ่มฝ่ายตรงข้าม

    คนที่เปิดตัวนี้ขึ้นมาได้ก็คือ กลุ่มมนุษย์อัจฉริยะด้านจิต ที่เรียกว่า Maitreyas
    ถ้าพลังของฝ่ายแสงเข็มแข็งจริง ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเช่นกัน แต่เป็นอีกลักษณะหนึ่ง คือ
    1. กลุ่มมหาชนบนโลก และ
    2. กลุ่มที่ไม่ใช่บนโลก

    ผมอยากให้มีเกิดขึ้น เพราะว่ามันสามารถจบเรื่องไม่ดีได้ไงครับ เพราะถ้าเกิดขึ้นปุ๊บ โลกจะเข้าสู่สันติได้ทันทีในหลายลักษณะ* แต่ทั้งนี้ กลุ่ม maitreyas ต้อง "แน่นอน" มากพอ
    อย่างไรมันก็ต้องแยก โดยหลักการมันเป็นแบบนั้น

    (* อุปมาได้เช่น มี พ่อ-แม่ คู่หนึ่งมีเรื่องทะเลาะกัน เพราะเห็นลูกตัวเล็กๆมาห้าม ก็จะเกิดอภินิหารจากความรักเล็กๆในครอบครัว ประมาณนั้น)

    เป็นแค่ความหวังก็ยังดี
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตัวปฏิหาริย์ ****

    สัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด....

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตัวปฏิหาริย์ ****

    สัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด....

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "เรื่องของยักษ์"
    (สัญญาณเตือนภัยที่กำลังมาแรงในขณะนี้)

    ปัญหาภาคใต้...มีผู้สนับสนุน คือ แพนด้ายักษ์ ที่แอบสนับสนุน บริวารภัยมือ พวกยักษ์หน้าแขก ที่ทำสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ยักษ์กับยักษ์คุยกัน ยักษ์แรกบอก เธอตีด้ามขวาน เธอเอาด้ามขวาน ฉันจะสนับสนุนทุน และคอยช่วยเหลือ ส่วนฉันจะเอาตัวขวานเอง....

    เมื่อสงครามด้ามขวานเกิด ทหารจากสยามจะสูญเสียหนัก เพราะข้าศึกที่รบด้วยมีทุนมหาศาล...สุดท้ายด้ามขวานจะหักตามแผนของเหล่ายักษ์หลายฝ่าย...จากนั้นชนต่างๆ รอบขวานทอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนและอาวุธจากยักษ์เช่นกัน จะรุมกินโต๊ะดินแดนบ้านเรา....ขอม อยากบุกมาปักธงถึงบางประกง....แถวติดอ้ายน้องก็จะบุกเข้ามาอีสาน...ถิ่นชายแดนเหนือชนเขาเก่าแก่ ก็อยากได้...แถบตากตะวันตก ก็มีอีกพวกหนึ่ง...สยามจะมีแต่น้ำตากับคราบน้ำตา..

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    05-02-2007, 06:07 AM

    ที่มา ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่ - หน้า 931 - PaLungJit.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2012
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ยักษ์กับยักษ์กำลังร่วมมือกัน"

    ความสัมพันธ์เศรษฐกิจจีน-มาเลเซีย “แนบแน่น” แค่ไหน?

    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันต้องทิ้งภารกิจรับมือกับปัญหาน้ำท่วมที่บ้าน เพื่อบินไปร่วมงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 8 ณ นครหนานหนิงของจีน ทำให้ได้รับรู้รับทราบพัฒนาการความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดด้านใต้ของไทยด้วยความอิจฉา ดิฉันกำลังหมายถึงประเทศมาเลเซียค่ะ

    หนังสือพิมพ์จีนหลายฉบับโดยเฉพาะ China Daily ได้ลงข่าวและบทวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ สุดแสนจะแนบแน่น ระหว่างสองประเทศนี้ ทำให้ดิฉันยิ่งเกิดอาการ ตาร้อน ขึ้นมา ขอไล่เรียงให้เห็นทีละประเด็นกันเลยนะคะ

    ด้านการค้าระหว่างประเทศ ในบรรดา 10 ประเทศในอาเซียน มาเลเซียมีมูลค่าการค้าขายกับจีนมากที่สุด โดยสามารถแซงหน้าสิงคโปร์มาได้ร่วม 3 ปีติดต่อกันแล้ว การค้าจีน-มาเลเซียมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 25 ของมูลค่าการค้าจีน-อาเซียนทั้งหมด และขยายเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2000 ซึ่งเป็นปีแรกที่อดีตนายกฯ จูหรงจีของจีนได้เริ่มจีบอาเซียนให้ร่วมจัดทำความตกลง ASEAN-China FTA

    ภายใน 10 ปีต่อมา พบว่า การค้าจีน-มาเลเซียได้ขยายตัวจนมีมูลค่าสูงกว่า 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ ประเทศไทยเพิ่งจะมีมูลค่าการค้ารวมกับจีนแตะหลัก 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2010 ที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ จีนก็ได้ขยับขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของมาเลเซียตั้งแต่ปี 2008 และล่าสุด รัฐบาลสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2015 จะขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ทะลุหลัก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงชัดเจนว่า สองประเทศนี้มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่สนิทแนบแน่นแค่ไหน

    ด้านสินค้าหลักที่ค้าขายกับจีน พบว่า สินค้าที่มาเลเซียส่งออกไปจีนก็มิได้เป็นเพียงสินค้าเกษตรมูลค่าต่ำที่ต้องใช้แรงงานทำไร่ไถนาพรวนดินรอฟ้ารอฝน หรือต้องหมั่นรดน้ำรอวันเวลากว่าจะออกดอกออกผลตามฤดูกาล (เหมือนบางประเทศ) แต่มาเลเซียสามารถส่งออกสินค้าชิ้นเล็กๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มต่อชิ้นสูง (high value-added) และยังสามารถครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ในจีนได้อีกด้วย โดยเฉพาะสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งจากมาเลเซียไปจีน คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 51.4 ของสินค้าส่งออกทั้งหมดจากมาเลเซียไปจีน นอกจากนี้ มาเลเซียยังเป็นผู้ส่งออกหลักสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงอย่าง ปาล์มน้ำมัน โดยสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดจีนมากถึงร้อยละ 60 ของปาล์มน้ำมันนำเข้าทั้งหมดของจีน

    ด้านการลงทุน หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า นักธุรกิจมาเลเซียได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในจีน และบางธุรกิจยังสามารถขยายสาขาครอบคลุมไปทั่วแผ่นดินจีนจนแทบจะครบทุกมณฑล ตัวอย่างเช่น ธุรกิจของเศรษฐีมาเลเซียนายโรเบิร์ต ก๊วก ที่เปิดให้บริการโรงแรมห้าดาว Shangri La ไปทั่วประเทศจีนกว่า 32 แห่งรวมไปถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในหลายเมือง และกรณีห้างสรรพสินค้า Parkson ของทุนมาเลเซีย ซึ่งเปิดสาขาตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศจีนกว่า 30 แห่ง

    ที่สำคัญ นอกจากจะเป็นดินแดนเสือเหลืองแล้ว มาเลเซียยังเป็น เสือปืนไว ด้วยการเปิดโครงการร่วมมือกับจีนเพื่อลงทุนสร้าง นิคมอุตสาหกรรมจีน-มาเลเซีย หรือชื่อทางการว่า China-Malaysia Qinzhou Industrial Park ในเมืองชินโจวของกวางสี

    ทำไมดิฉันเรียกมาเลเซียว่าเป็น เสือปืนไว ก็เพราะโครงการร่วมจัดตั้งนิคมจีน-มาเลเซียฯ แห่งนี้เพิ่งจะเริ่มเกริ่นพูดขึ้นมาในระหว่างที่นายกฯ เวินเจียเป่าของจีนเดินทางไปเยือนมาเลเซียเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา และดิฉันได้เคยเขียนถึงเรื่องนี้ในบทความชื่อ เหตุอันใดนายกฯ จีน (บินข้ามไทย) ไปเยือนมาเลเซีย-อินโดนีเซีย หากสนใจ ลองไปค้นหาอ่านได้ใน web ค่ะ

    มาบัดนี้ ปรากฏว่า ภายใน 6-7 เดือน แนวคิดดังกล่าวก็สามารถก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมาที่นครหนานหนิง นายกรัฐมนตรีของจีนและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดตัวโครงการนิคมจีน-มาเลเซียฯ ดังกล่าว ซึ่งจะตั้งอยู่ในเมืองชินโจว ของกวางสี ดินแดนที่มีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็น ประตูสู่อาเซียน ของจีน ในขณะนี้ ชินโจว เป็นเมืองที่รัฐบาลจีนได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการพัฒนาและผลักดันให้เป็นเมืองริมทะเลด่านหน้าในการเชื่อมโยงกับอาเซียน

    นอกจากจะมีโรงกลั่นน้ำมันในเมืองชินโจว และการเร่งพัฒนาให้เป็นฐานการผลิตปิโตรเคมีที่สำคัญของจีน รวมทั้งมีท่าเรือชินโจว ที่สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ถึง 3 แสนตัน ล่าสุด รัฐบาลจีนยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมจากเมืองชินโจวไปยังนครหนานหนิงด้วย จึงไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมทั้งสองฝ่ายจึงได้เลือกที่จะตั้งนิคมจีน-มาเลเซียฯ ที่เมืองศักยภาพสูงแห่งนี้

    ในงาน China-ASEAN Expo ปีนี้ ได้มีการจัดบูทใหญ่โตเพื่อเผยแพร่ข้อมูลโครงการนิคมจีน-มาเลเซียฯ ดังกล่าว แต่ดิฉันตั้งใจไม่นำมาเขียนในคอลัมน์นี้ เพราะไม่อยากช่วยประชาสัมพันธ์ให้พวกเขาค่ะ ในงานนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวง MITI ของมาเลเซียยังเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานเฉพาะเพื่อขับเคลื่อนโครงการ และย้ำว่า มาเลเซียได้เลือกแล้วอย่างแน่วแน่ที่จะก้าวไกลไปกับจีน

    เมื่อกลับมาย้อนคิดว่า แล้วไทยแลนด์แดนสนธยาของเราได้ทำอะไรกับเขาบ้าง (เนี่ย) ท่านผู้อ่านก็คงพอจะเห็นภาพแล้วมังคะ ว่าทำไมดิฉันต้องเกิดอาการอิจฉาตาร้อนมาเลเซีย !!!

    ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น
    คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ "มองจีนมองไทย"
    วันที่ 3 พฤศจิกายน 2554

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/...พันธ์เศรษฐกิจจีน-มาเลเซีย-แนบแน่น-แค่ไหน.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2012
  6. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    ยักษ์นอกหรือจะสู้ท้าวเวสสุวรรณ(ยักษ์ไทย)ได้..........ถึงเวลาหายไปกับทะเลหมด......เกิดเป็นคนไทยอย่าดูหมิ่นความสามารถของคนไทย....ถึงเวลาธรรมะจัดสรรลงตัว:cool:
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ประเทศของใคร ใครๆก็รักด้วยกันทุกคน ไม่อยากให้เกิดภัยอันตรายใดๆทั้งสิ้น แต่เมื่อเป็นคำทำนายของพระอริยะสงฆ์ ผู้ทรงศีลทรงธรรมอันบริสุทธิ์ ได้กล่าวยืนยันเอาไว้เช่นนั้น ก็เป็นเรื่องที่สุดวิสัยจะหลีกเลี่ยงได้ ผมไม่ได้ดูหมิ่นความสามารถของคนไทยแต่อย่างใด เพียงแต่บอกเตือนไปตามข้อมูลที่ได้รับทราบมา เพื่อให้คนไทยได้เตรียมตัวรับมือกับภัยสงคราม ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ำกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

    คำทำนายหรือจะถึงคราวสิ้นชาติ

    เมื่อประมาณปี 2516 มีคณะรัฐมนตรี นายทหาร นายตำรวจยศนายพัน กลุ่มหนึ่ง มาเรียนถามหลวงพ่อเจริญ วัดป่ามะม่วง ให้ท่านช่วยทำนาย ว่าพวกกระผมจะทำการปฏิวัติ การนี้จะสำเร็จหรือไม่ แล้วผมจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ความจริงท่านไม่อยากยุ่งเรื่องการเมือง แต่จะบอกให้รู้ว่า

    หลวงพ่อเจริญท่านตอบว่าสำเร็จ แต่จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 เดือน
    หลังจากนั้น นักศึกษานักเรียน ประชาชนจะออกมาขับไล่จนคุณอยู่ไม่ได้ ไม่ดีอย่าไปทำเลย คุณเคยเห็นทะเลซุงไหม! อีก 15 ปีหลังจากนี้ (2531)ทะเลซุง จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ภาคใต้ น้ำจะท่วมถึงยอดตาล วัดวาอารามจะพังพินาศ คนจะล้มตายจำนวนมาก

    และต่อจากนั้นอีก 20 ปี (2551) แผ่นดินจะถูกแยก ต่างชาติจะเข้ามายึดแผ่นดินไทย คนไทยจะไม่มีที่อยู่ โดนขับไล่ ทุกอย่างที่กล่าวมานี้เป็นกฎแห่งกรรม จงไปบันทึกเอาไว้ ถ้าไม่จริงอาตมายอมถูกปรับ ท่านกล่าวอีกว่า.....อาตมาจะมรณภาพวันที่ 14 ตุลาคม 2521 เวลาเที่ยง12.45 น. ด้วยอุบัติเหตุรถคว้ำคอหักตาย และท่านก็มรณภาพวันนั้นจริงๆ

    อ่านจากหนังสือ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ของ สุทัสสา อ่อนค้อม ก็ภาวนาอย่าให้หลวงพ่อเจริญท่านทำนายถูกเลยครับ..... คนไทยแย่กันแน่ๆ

    เกี่ยวกับผู้เขียนคุณ สุทัสสา อ่อนค้อม คือ นามปากกาของ รองศาสตราจารย์ ด.ร สุจิตรา รณรื่นรองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมนุษย์ศาสตร์ สถาบันราชภัฏธนบุรี ซึ่งงานเขียนส่วนใหญ่จะหนักไปแนวธรรมะ แต่ก็ไม่ได้เป็นงานเขียนที่หนักเกินไปอย่างที่นิยมอ่านกันก็จะเป็น นารีผล มักกะลีผล ซึ่งอย่าเพิ่งคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้ในป่าหิมพานต์ ที่ออกลูกเป็นคนโดยตรงหรอกนะครับ เป็นพระประวัติ ของพระเทพสิงหบุราจารย์ ... หลวงพ่อจรัญ เจ้าคณะจังหวัด สิงห์บุรี ผ่านพระครูเจริญ เจ้าอาวาสวัดป่ามะม่วง ในเรื่อง นารีผล และ มักกะลีผล ตอนนี้คุณสุทัสสา ก็เขียนประวัติท่านมาถึง เรื่อง... วัฏจักรแห่งชีวิต ที่กำลังพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยาสาร กุลสตรี

    เป็นเรื่องราวที่น่าหาอ่านมาก ๆ นะครับหลวงพ่อจรัญเอง ท่านก็เป็นพระที่เก่งในด้านวิปัสสนากรรมฐานมาก มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ผมเองก็ไปนมัสการท่านอยู่บ่อย ๆ นอกจากนี้ ยังมีนวนิยายอีกหลายเรื่องที่น่าอ่าน อย่างคนเหมือนกัน ดั่งฉัตรแก้วกั้นเกศ ไฟไหนเล่าร้อนเท่าไฟนรก หรือ สัตย์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แถมยังมีคอลัมน์ตอบปัญหาธรรมะ และการนั่งวิปัสนากรรมฐาน ใน กุลสตรีอีกก็คือ คอลัมน์ ใต้ร่มมณฑารพ คุณสุทัสสา อ่อนค้อม ได้รับรางวัลความเรียงชนะเลิศ จากองค์กรนักคิดใหม่ เรื่อง.... การสร้างสันติภาพโลกแบบยั่งยืน

    ที่มา http://www.sakulthai.com/webboard/Qu...v.asp?GID=5434

    งานทำบุญประจำปี ถวายผ้าป่า ๑๔ ตุลาคม เนื่องในวันคล้ายวันประสบอุบัติเหตุ..

    โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน เมื่อ 11 ตุลาคม 2012 เวลา 1:46 น. ความเป็นมาของวันทำบุญประจำปี ทอดผ้าป่า ๑๔ ตุลาคมของทุกปี

    เนื่องจากวันที่ 14 ตุลาคม 2521 เกิดอุบัติเหตุกับหลวงพ่อจรัญ -พระธรรมสิงหบุราจารย์- ตามที่ท่านรู้ล่วงหน้า ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังดังนี้

    ใช้หนี้หักคอนก ในเวลาต่อมา อาตมาก็นั่งสมาธิ ๖ เดือนเศษที่จะถึงวาระแห่งความตายก็มีนิมิตบอกอาตมาให้ทราบว่า พระเดชพระคุณท่าน วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๒๑ เที่ยงสี่สิบห้าต้องจากวัด ตายไปใช้หนี้นกที่หักคอ วันที่ ๖ ตุลาคมออกพรรษา อาตมาก็มานึกดูว่าเราต้องลาเขา ก็ประชุมสงฆ์มอบอัฐบริขาร เสียสละปลงบริขารให้หมด มอบให้องค์อื่น เงินวัดมีเท่าไรมอบให้มัคทายกแล้วก็องค์ไหนจะเป็นสมภารต่อไปก็มอบ

    อาตมาก็บอกให้พวกโยมผู้หญิงมานั่งกรรมฐานคนละเดือน พอโยมหญิงกลับแล้ว เอาโยมผู้ชายมานั่งแทน ต่อไปก็จะไม่มีคนสอน จะขอลาแน่นอน วันที่ ๑๔ ตุลาคม นี่มันรู้ล่วงหน้าได้ มันมีประโยชน์มากนะ ท่านทั้งหลาย ถ้ารู้ล่วงหน้าไม่ได้ลำบากมาก สติตัวนี้เป็นการรวมผลงาน สัมปชัญญะมันบอกได้ดังนี้ อาตมาก็ขอลาเขาหมดแล้ว แบ่งงาน แบ่งภาระหน้าที่แล้ว อาตมาก็คิดว่าตามหลักพระพุทธเจ้าสอนไหน ๆ เราจะตายแล้วก็ขอลาเขาเสีย

    ครั้นถึงวันที่ ๑๔ ตุลาคม เที่ยงสี่สิบห้านาที อาตมาก็จำเป็นต้องไปประชุมที่วัดกวิศราราม จังหวัดลพบุรีในวันนั้นด้วย หลวงพ่อธรรมญาณ เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ท่านมีหนังสือมาว่า เขาจะประชุมเจ้าคณะอำเภอกันทั้งหมดที่จังหวัดลพบุรี พอดีวันนั้นนายแพทย์ศิริราชมาเลี้ยงเพลที่วัด พอเลี้ยงเพลเสร็จ อาตมาก็เตรียมตัว รู้แล้วว่าวันนี้เราไม่ได้กลับวัดแน่นอนตามที่เรามีสติรู้ล่วงหน้า ๖ เดือน ว่าเราต้องใช้หนี้นก จะใช้อย่างไรกันแน่ คงจะไม่ได้กลับ มอบหมายการงานเรียบร้อยแล้ว โยมผู้หญิงมานั่งกรรมฐาน ๑ เดือนแล้วโยมผู้ชายด้วยมาแทนหลังจากโยมผู้หญิงกลับไปแล้ว โยมผู้ชายจะได้ช่วยกันเอาศพไปไว้วัดเตรียมงานครัวทำนองนี้เป็นต้น

    อาตมาก็ลาเขาหมดแล้วก็ขึ้นรถเที่ยงกว่าแล้ว จะตกเที่ยงสามสิบ เปลี่ยนจีวรใหม่หมด เตรียมหนังสือขึ้นรถ คิดว่าไม่ได้กลับ แล้วมีนาวาตรีวาด เกษแก้ว ใส่เสื้อขาวกางเกงขาวก็อาศัยรถไปด้วย ก็คงจะตายพร้อมกับอาตมา ออกจากวัดเลี้ยวขวาเข้าลพบุรี ถึงหลังตลาดปากบาง ตอนนั้นพอถึงปั๊มน้ำมันรถเขาก็เปิดไฟเลี้ยวขวารถตามหลังมา ๓ คัน แซงซ้ายรถทัวร์ทันจิตออกจากปั๊มน้ำมันวิ่งเข้าชนทันที เที่ยงสี่สิบห้า พอดีนาวาตรีวาด เกษแก้ว ลอยขึ้นหลังรถทัวร์ไปเลย พวกตลาดนึกว่าหนังสือพิมพ์ลอยไปก็เนื่องจากแกใส่เสื้อขาวกางเกงขาวนี่หลังหัก อาตมาไหล่ชนเหล็กหักไปเลย แล้วกระจกครูดเอาหนังหัวไปอยู่ตรงท้ายทอยหมด หัวขาวเลย คอพับไปที่หน้าอก หมุนได้เลยเลือดเต็มจมูก กระจกมันบาด อาตมาก็บินออกไปแบบนก ออกห่างรถไปประมาณ ๒๐ วา

    แต่เดชะบุญว่ามือดีอยู่มือนึงจับขึ้นมา อาตมาก็ลองคลำว่าเราคอหักไปหรือนี่ตาไม่สัมผัส หูไม่สัมผัส ตายหมดแล้วทั้งตัว แต่มือดีสติดี แต่กลับไปหายใจได้ที่ท้อง พองหนอ ยุบหนอ ใช้ได้นะ ใครอยากจะรู้ว่าสะดือหายใจได้ลองไปคอหักดูนะ คนขับก็สลบ อาตมายังพูดได้เพราะสติดีอยู่ที่ลิ้นปี่ จำไว้ แล้วหายใจทางสะดือได้ ทำไมหายใจได้ นึกถึงในท้องได้ที่เราอยู่ในท้องแม่กินอาหารทางสะดือแน่นอน หายใจได้ พองหนอ ยุบหนอ ตลอดเวลาเลย ได้ตำราเพิ่มขึ้น แต่ต้องทำได้ก่อนนะต้องมาฝึกกันให้รู้สติ ตื่นมีสติ หลับมีสติ รู้แน่

    อาตมาก็พูดว่าโยมช่วยอุ้มหน่อย ไอ้พวกที่ไปมุงดูกันก็ไม่ยอมอุ้ม หัวเละแต่ยังพูดได้ ที่เข้าใจว่าหัวเละเพราะหนังไม่มี จนตำรวจทางหลวงมาบอกว่าไม่ตาย ถ้าตำรวจไม่มาเราก็คงจะจมอยู่ตรงนั้น

    กรรมต้มเต่ามาซ้ำ พอดีตรงนั้นเขาทำอิฐ เถ้าแก่เขาก็ขับรถมา อาตมามือยังดีอยู่อกข้างก็เสยค้างไว้ มันไม่มีความรู้สึก พอรถแล่นถึงวิทยาลัยเกษตร ได้ยินเสียงแว่วแผ่วมาแต่ไกล เสียงดังนี้ สมน้ำหน้า ๆ ได้ยินมาเรื่อย ๆ เดี๋ยวต้องซ้ำ ๆ คอหักแล้วยังไม่สงสาร จะมาซ้ำ สักประเดี๋ยวเห็นเต่า พอเห็นเต่าเท่านั้นแหละฝาหม้อน้ำรถอยู่ตรงนั้นหลุดพรวดลวกเอาเราคนเดียว ตายจริงเปียกหมดเลย ไอ้แขนยังดีอยู่ก็ร้อนนะซิ แล้วกระเด็นไปถูกคนขับ ไอ้คนที่ประคองอาตมาไปบอกว่าหยุด ๆ เดี๋ยวคนหลังจะตาย ไอ้เต่ามาซ้ำเราอีก สงสัยใช้หนี้ตอนนั้นยังไม่หมด

    รถไปถึงโรงพยาบาลน้ำแห้งพอดีหมดพอดีเลย อาตมาก็ขออธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอให้ไปสบาย รู้แล้วเข้าใจแล้ว ขออโหสิกรรมทุกอย่างกับโลกมนุษย์ ในเมื่อข้าพเจ้ายังใช้หนี้ในโลกมนุษย์ไม่หมดขอให้ข้าพเจ้าไปใช้ในชาติต่อไป ประการที่ ๒ ถ้าข้าพเจ้าใช้หนี้ในโลกมนุษย์หมดแล้ว อย่าได้ทรมานต่อไป อธิษฐาน ๒ ข้อ

    วันนั้นพอดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม่อยู่ เขาไปบ้านเขาทางวัดเกษ อยู่แต่นายแพทย์ใหญ่หมอสมหมาย ก็วิ่งไปจากบ้านรู้ข่าวว่ารถชนอาตมาก็เอาเข้าห้องฉายเอ๊กซเรย์ เขาพูดกันได้ยินแว่ว ๆ บอกไม่มีทางหมอใหญ่บอกไม่มีทาง หมอใหญ่สั่งให้อาตมานอนตรง ๆ บนรถ ซึ่งมีลูกล้อเล็ก ๆ ให้บุรุษพยาบาลเอาเข้าห้อง ไอ.ซี.ยู. โดยด่วน จัดการเย็บหนังที่มันถลกไปนี่ก่อน อาตมาก็อธิษฐานไปเรื่อย ๆ มือดียังมีอยู่อีกมือหนึ่ง นอกนั้นตายหมดแล้ว แต่ยังหายใจได้ที่ท้องพองหนอ ยุบหนอตลอด ก็แบ่งวาระบุรุษพยาบาล ๒ คนก็ไสรถเต็มที่ รถก็เกิดตกร่องประตูเหล็ก โครม!

    ล้อพังหมดแพทย์อีกคนบอกตายเสียแล้วละมังหว่า เปล่าเลย คอลั่นกร๊วบเข้าที่เลย คือติดเลย ลืมตาเห็นเลย หายใจไม่ออก พอคอติด ปวดก้นแทบหลุด เลยทำให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีก ๒ ข้อ ได้ความรู้ยังไง หมายความว่าถูกจุดประสาท ประสาทคอกับประสาทก้นเป็นเส้นเดียวกัน เข้าไปในห้องฉุกเฉิน เขาก็เริ่มดึงหนังมาเย็บ หมอก็สงสัยว่าอาตมาจะเป็นอัมพาตไม่ดีขึ้น บุรุษพยาบาลบอกว่าเป็นเพราะอั๊วนะ ถ้าอั๊วไม่ไสรถตกร่องคอจะต่อติดหรือกลับมีบุญคุณเสียอีก อาตมาก็นึกว่าเราใช้เวรใช้กรรม ในเวลาต่อมาหมอไม่สามารถจะรักษาได้ เพราะมีแรงขาแข็งถีบได้ทั้งนั้น นางพยาบาลหมอ ก็ให้เราลองบีบมือ หากว่าเราจะไม่มีแรง อันนี้ก็เป็นบุญวาสนา ฯลฯ

    ดังนั้นวัดอัมพวันจึงจัดงานทำบุญขึ้นทุกปี เพื่อให้เป็นธรรมสังเวชกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อ

    อ่านประวัติหลวงพ่อแบบนิยายได้ใน สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - สุทัสสา อ่อนค้อม ผู้แต่ง
    อ่านประวัติหลวงพ่อฉบับจริงและคำสอนของท่านได้ที่ http://www.jarun.org/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2012
  8. aom-am 1

    aom-am 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +731
    อ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงซีรีย์อเมริกาเรื่อง V เพราะมันเหมือนกับที่โพสต์ทุกเรื่องเลยค่ะ เหมือนจนน่าขนลุก

    ในเรื่องจะมีมนุษย์ต่างดาวเดินทางมายังโลก หน้าฉากก็แสนดี ช่วยโลกอย่างงั้นอย่างงี้ หลังฉากนี่จับมนุษย์ไปทดลองไปฆ่าทิ้งไม่รู้เท่าไหร่ และเป้าหมายที่แท้จริงคือ ต้องการสกัด DNA จากมนุษย์ที่ม่ีความพิเศษเพื่อสร้างมนุษย์สายพันธ์ที่สมบูรณ์แบบ

    มีการตั้งหน่วย PR กับมนุษย์ และเพื่อไม่ให้เกิดความกลัว มนุษย์ต่างดาวพวกนี้ได้สร้างผิวห่อหุ้มตัวจริงที่เป็นสัตว์เลื้อยคลานเอาไว้

    ถึงแม้มนุษย์เราคือเผ่าพันธุ์ที่บอบบาง ถูกทำร้ายได้ง่าย แต่คิดว่าคงไม่มีเผ่าพันธุ์ใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้วเช่นกัน

    ขอความรักนำทางทุกท่านค่ะ
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตรียมตัวรับมือกับ"คลื่นแสงโฟตอน"จากจักรวาลกันได้แล้ว !!!

    [​IMG]

    somdul
    สมาชิก


    เมื่อเย็นวันที่ 20 ต.ค. 2555 ได้ไปหารือกับพระอาจารย์รัตน์ ที่สวนบูรณ์ฯ ฟังข่าวคืบหน้าด้านพลังงานของระบบสุริยะและโลกแล้ว น่าเป็นห่วง....ผู้ที่ไม่ได้ Orientation เตรียมพร้อมร่างกายและจิตใจ อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ได้คาดฝัน เวลาที่พลังงานเปลี่ยนฉับพลัน เข้าูสู่พลังงานยุคใหม่ ที่หมุนกลับทิศกับของเดิม...หลายๆคนอาจช๊อคตายตรงนั้น....เตรียมตัวอย่างเต็มที่มาตายเอาตอนจบ

    ขอเชิญคลิ๊กอ่านวิธีเตรียมตัวรับมือกับคลื่นแสงโฟตอนได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    http://ainews1.com/article961.html

    ส่วนอุปกรณ์ตัวช่วย ก็ไม่ใช่มีเพียงพีระมิดหลายๆเหลี่ยมที่พระอาจารย์รัตน์ค้นพบ แต่เพียงอย่างเดียว หลายๆคนอาจมีอุปกรณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังงานคลื่นความถี่สูงติดตัวอยู่ก็ได้ ก็สามารถให้การคุ้มครองแก่ผู้คนเหล่านั้นได้เช่นกัน โดยตนเองควรเข้าใจหลักการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ว่าตนเองจะเชื่อมต่อกับพลังงานของอุปกรณ์และหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเหล่านั้นอย่างไร หากผู้ที่สนใจสอบถามได้โดยตรง ผู้เล่าจะบอกช่องทางให้นำไปศึกษาเอาเอง ไฮไลท์ที่เบอร์โทรข้างล่างท้ายเว็บเพจนี้ หรือที่ ss3.artavan@gmail.com ก็ได้ หากยังมีอินเทอร์เน็ตใช้การได้อยู่ ก็ยินดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2012
  10. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    คนแขวนพระห้อยคอไว้และจิตยึดมั่นในพระรัตนตรัยจะไม่ได้รับผลร้ายใดใดจากอนุภาคพลังงานจากอวกาศ
    อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุธธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ
    นี้คือมงกุฎพระพุทธเจ้า
     
  11. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    ไม่ต้องสู้ เพราะอะไรคูณศูนย์ย่อมเท่ากับศุนย์
    มีสูญญตาในใจ
    จิตย่อมมองไม่เห็น
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำพยากรณ์อนาคตโลกจากเพื่อนต่างดาว !!!

    [​IMG]

    คำพยากรณ์ชะตาของโลก (จากเพื่อนต่างดาว)

    1. การวิวัฒนาการของมนุษย์ จะมีพาหนะชนิดใหม่เกิดขึ้น

    2. พื้นดินภาพตะวันตกเฉียงเหนือ ของอเมริกา จะถูกดูดลงในโพรงของโลก หลังจากเกิดการผิดพลาดในการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ที่ นาวาโฮและพิวโบล เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

    3.มียาชนิดใหม่ที่มีแคลอรี่สูงทำให้ผู้หญิงสามารถคลอดลูกได้ภายใน 9 สัปดาห์

    4.นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นสร้างอุปกรณ์ย้อนอดีตและไปสู่อนาคตได้สำเร็จ ขณะเดียวกันก็ส่งกองกำลัีงไปในอดีตสงครามโลกครั่งที่ 2 เพื่อแก้ประวัติศาสตร์เสียใหม่

    5. คนต่างชาติที่ชั่วช้า ผู้ชั่วร้ายจากแผ่นดินกลาง ลงมือฆ่ามนุษย์สองล้านคน และทำลายปราสาทที่นิวยอร์ค ชิคาโก และเมืองเล็กๆ อีกหลายแห่ง ทันใดทูตสวรรค์ก็ปรากฎบนท้องฟ้าแล้วคนก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

    6.มีพระนักบวชรูปหนึ่งสามารถเดินทะลุกำแพงได้และสอนให้คนนับล้านได้รับรู้

    7.พบมนุษย์ประหลาดที่ป่าเขตร้อนของอเมริกา มีหัวเหมือนหลอดไฟ มีสมองและวิวัฒนาการมากกว่าคนหลายเท่า มีไอคิวถึง 190

    8.นักวิทยศาสตร์ชาวรัสเซียได้รับสัญญาณวิทยุทางไกลจากมนุษย์ต่างดาว ถอดคำสั่งออกมาแล้วเป็นคำสั่งให้ปลาโลมาทำร้ายมนุษย์

    9.ประธานาธิปดีคนแรกที่มาจากพรรคคอมมิวนิสต์ ถูกฆ่าตายให้ห้องทำงานรูปไข่ หลังจากได้รับตำแหน่งเพียงสัปดาห์เดียว

    10. สิ่งก่อสร้างเป็นรูปหน้าคนขนาดใหญ่ส่งสัญญาณคลื่นไมโครเวฟ จากดาวอังคาร มาเตือนชาวโลก(ภาพโทรทัศน์) ให้ระวังโลกจะถูกบุกจากกองกำลังต่างดาว

    11. ค้นพบเวทย์มนต์ที่ทำให้คนสวดเป็นหนุ่มเป็นสาวได้ แต่ต่อมาพบว่าเป็นบทสวดของลัทธิซาตาน คำสวดจึงถูกหวงห้าม

    12. อาณาจักรแอตแลนติสที่หายไปจะโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมสิ่งก่อสร้างที่มีหลังคาเป็นรูปโดมครึ่งวงกลม และวิทยาการล้ำยุค ผู้อยู่ในนครใต้บาดาลนั้น คือ มนุษย์จากต่างดาว

    13. พบภาพถ่ายสำคัญ บอกถึงหลักฐานการจมของเรือไททานิคเมือ 88 ปีก่อน ไม่ได้จมเพราะชนกับภูเขาน้ำแข็ง แต่เป็นเพราะตอปิโดที่ยิงมาจากอากาศ

    14. มนุษย์พันธ์ผสมแมลงถูกสร้างขึ้น โดยการตัดต่อพันธุกรรมระหว่างคนกับแมลง ทำให้มีชีวิตยาว และกระโดดได้ไกล และบินได้

    15. อากาศวิปริตแปรปรวนทำลายล้างสหรัฐอเมริกาอย่างหนัก จะเกิดภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้งและรุนแรงกว่าครั้งแรก

    16.แกนโลกเอียงกระทันหันจากแรงดึงดูดของดาวหางที่มีขนาดโตกว่าโลกถึง 2 เท่า โคจรเฉียดโลก ทำให้ขั้วโลกเหนือและใต้กลับทิศทางกัน ทำให้คนตายไปกว่าครึ่งโลก

    17.อิสราเอลใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์ยิงถล่มอิรัก และถูกตอบโต้กลับมาด้วยหัวรบก๊าซพิษสองหัว มีคนตายถึงสองแสนคน

    18. มีผู้อ้างตนว่าเป็นนักบุญและผู้วิเศษเดินทางออกโปรดสัตว์ทั่วโลก รวมทั้งปรากฎตัวทางโทรทัศน์เพื่อเผยแพร่คำสอน แต่ถูกฉีกหน้ากาก แท้จริงเป็นนักลวงโลก

    19.เชื้อไวรัสชนิดใหม่ถึง 120 สายพันธ์ แพร่มาจากป่าลึกในทวีปแอฟริกาและกระจายไปทั่วโลก

    20.ก๊าซโอโซนที่ขั้วโลกได้แตกออกเป็นโพรงใหญ่กว่าเดิมถึง 3 เท่า ทำให้มีคนอพยพมาอยู่ขั่วโลกเหนือจำนวนมาก(เพราะน้ำแข็งละลาย)

    21. องค์การสหประชาติ รณรงค์ให้เลือกตั้งรัฐบาลโลกเดียว

    22.ซากศพนับล้านลุกขึ้นมาจากหลุมศพ ขณะที่ประตูนรกเปิดเพื่อรับวิญญาณบาปลงนรก


    ที่มา คำพยากรณ์ชะตาของโลก โดย ดร.เอ็ดการ์ เคย์ซี

    หมายเหตุ

    ผมไม่แน่ใจว่าคำทำนายนี้ จะเป็นของ ดร.เอ็ดการ์ เคซี หรือเป็นของมนุษย์ต่างดาวกันแน่ เพราะไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของคำทำนาย และคนที่รู้จักคำทำนายของ ดร.เอ็ดการ์ เคซี ก็บอกว่าไม่เคยอ่านพบคำทำนายเหล่านี้เลย แต่เนื้อหาในคำทำนายเหล่านี้น่าสนใจมากๆ ตรงข้อ 16 ที่บอกว่า

    แกนโลกเอียงกระทันหัน จากแรงดึงดูดของดาวหาง ที่มีขนาดโตกว่าโลกถึง 2 เท่า โคจรเฉียดโลก ทำให้ขั่วโลกเหนือและใต้กลับทิศทางกัน ทำให้คนตายไปกว่าครึ่งโลก

    ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ที่แกนโลกกำลังจะพลิกกลับขั้ว ในปี ค.ศ.2012-2013 ตามการคาดการณ์ ของนักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า ของสหรัฐอเมริกา อย่างเหมาะเจาะกันพอดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  13. สิงห์สมุทร

    สิงห์สมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +182
    ด้วยเพราะพระบุญบารมี..อันเป็นที่ตั้งของปวงชนชาวไทย..ตั้งแต่นานมา..ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร..ไม่เคยพ่ายแพ้ต่ออริราชศัตรู..การเกิดภัยพิบัติต่างๆตามธรรมชาติก็ไม่ได้ร้ายแรงดังที่คิดกันไว้..เหมือนเช่นปีนี้อะไรๆก็ดีขึ้น..แม้แต่ภัยพิบัติยังต้องถอยล่าหนี..ด้วยบุญพระบารมีขององค์พระสยามเทวาราช..องค์พระแก้วมรกต..และองค์พ่อหลวงของพวกเรา..ที่ปวงชนชาวไทยทุกคนรักและบูชากราบไหว้จนชั่วชีวิต..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 250PX-~2.jpg
      250PX-~2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.5 KB
      เปิดดู:
      60
    • a10.jpg
      a10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.1 KB
      เปิดดู:
      48
    • 16.jpg
      16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      75
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สรุปการอบรมจากพระอาจารย์รัตน์ 27-28 ตุลาคม 2555

    กชกานต์ สมาชิก

    พระอาจารย์รัตน์สรุปว่า ท่านยังไม่เห็นดาวนิบิรุด้วยตาเปล่า ใครเห็นให้แจ้งท่านด้วยเพราะดาวนิบิรุเป็นดาวถ่วงดุล เหตุการณ์จะจบเร็ว ถ้ามาคาดว่าจะเกิดเหตุวันที่ 22/12/12 แต่ถ้าไม่มีดาวนิบิรุ เหตุการณ์จะรุนแรงและน่าจะมีความรุนแรงมาก 1/1/13 โดยคาดว่าโลกจะเปลี่ยนแกนสมบูรณ์วันที่ 14-15/2/13 ซึ้่งพระอาจารย์รัตน์จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ยิ่งเวลาใกล้มากการประเมินน่าจะมีความแม่นยำยิ่งขึ้น

    วันอาทิตย์ที่ 9/12/12 จะมีสัมมนาหัวข้อ"พระอาจารย์รัตน์เตือนภัย 2012-2013" ที่ ราชภัฎสวนดุสิตสวนดุสิตเวลาบ่าย ผมว่าถึงตอนนั้นความชัดเิจนน่าจะมีมากกว่านี้

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์-รตนญาโณ.269042/page-16
     
  15. rainbow 12

    rainbow 12 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +49
    ความอยู่รอดและความตายนั้นไม่ใช่เป้าหมาย แต่สำคัญที่การเปลี่ยนแปลงเพื่อเลื่อนระดับจิตวิญญาณและตัวตนของเราเองต่าง หาก และการจะทำได้สำเร็จนั้นต้องมีความรัก ความเมตตา และความดีงาม ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่หรือตายไม่ต้องกังวล แต่ให้จงระลึกถึงสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ เพียงเท่านี้พวกคุณก็จะได้รับกุญแจอันล้ำค่านี้กันทั่วทุกคน

    ทำไมถึงตรงกับความคิดของเราเลย:VO
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มนุษย์ต่างดาวช่วยจัดการระเบิดนิวเคลียร์ไปแล้ว !!!

    wokwak สมาชิก

    แถมให้อีกนิดความรู้จากงานอบรม 27-28
    ตอนนี้นิวเคลียร์ของอิหร่านคงด้านไปแล้ว
    มีผู้ประสงค์ดีจัดการเรียบร้อย
    ยิงไปก็ไม่ระเบิด
    ประเด็นสงคราม 3อ ก็ไม่ต้องกังวลครับ


    30-10-2012, 10:31 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์-รตนญาโณ.269042/page-17
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ถึงเสือจะถูกถอดเขี้ยวไปแล้วแต่มันยังเหลือกรงเล็บอยู่ !!!

    [​IMG]

    Mr empty สมาชิกเว็บพลังจิต แปลและเรียบเรียง

    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation วันที่ : 12 กันยายน 2012 ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey

    มันเป็นความจริงที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกของคุณ ไม่ได้เป็นไปในทางที่ไม่สังเกตเห็น, และสำหรับผู้ที่เพิ่งตื่นขึ้นกับสิ่งนี้, มันดูเหมือนโลกวุ่นวายสับสน. ความเชื่อถือเก่าๆของคุณในสถาบันอย่างเช่น ระบบธนาคารกำลังจะถูกทำให้เห็นว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร, แต่คำตอบสำหรับปัญหาของพวกเขายังไม่ได้แสดงออกมาในขณะนี้. อย่างไรก็ตาม, แผนการที่รองรับการล้มละลายของพวกเขาได้วางไว้แล้ว. ซึ่งเป็นงานจำนวนมากของพันธมิตร, มันพร้อมแล้วที่จะดำเนินการและรอโอกาสที่เหมาะสมในการนำเสนอ. ระบบเก่าที่ทุจริตจะไม่สามารถรักษาไว้ได้, และระบบใหม่จะได้รับการสนับสนุน สำหรับการมาถึงที่นำมาโดยการเปลี่ยนแปลง.

    มันต้องการการยอมรับการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล, เพื่อที่สิ่งใหม่จะตอบสนองต่อความต้องการของคุณเป็นอันดับแรกและให้ความสำคัญ. แทนที่การตอบสนองต่อตนเองที่แผ่ขยายไปจนถึงระดับการบริหารส่วนท้องถิ่น, และการควบคุมต่อระบบการเงินและความรับผิดชอบที่แทบจะไม่มีเลย. เงินจำนวนมหาศาลของคุณ ถูกดูดออกจากกองทุนเพื่อสนับสนุนการดำเนินการผิดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลของคุณ, และโดยมากมุ่งไปที่คุณผู้ที่พวกเขาควรให้บริการ. สิ่งเหล่านี้ดำเนินการโดยไม่ได้รับการตรวจสอบมาเป็นเวลายาวนาน, และเหล่าพันธมิตรผู้ได้รับการช่วยเหลือจากพวกเรา จะทำให้มันกระจ่าง พวกเราจะหยุดพวกเขา. คุณจะได้เห็นที่รักทั้งหลาย พวกเราทำงานเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น.

    สิ่งที่คุณจะได้รู้คือโอกาสอันยิ่งใหญ่ของการใช้พลังงานฟรี. โดยธรรมชาติบริษัทน้ำมันย่อมต่อต้านการนำเสนอของพวกเขา, แต่มันเป็นทางที่ต้องก้าวไปและความก้าวหน้าไม่สามารถหยุดยั้งได้. เมื่อถึงเวลาหนึ่งจะไม่ต้องใช้พลังงานน้ำมันที่มีมลภาวะ, และทุกคนจะได้รับประโยชน์จากวิธีการที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ, สิ่งที่สำคัญที่สุดจะรวมถึงการขนส่งด้วยวิธีใหม่. สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานของบริษัทเหล่านี้ พวกเราขอบอกคุณว่าอนาคตของคุณจะปลอดภัย. ในเวลานั้นทุกๆคนจะได้รับประโยชน์จากระบบการเงินใหม่, และการกระจายความมั่งคั่งใหม่ จะรับประกันว่าการสูญเสียงานของคุณจะไม่มีผลกระทบต่อสถานะภาพของคุณ.

    อันที่จริง, การย้ายที่อยู่และการช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ต้องออกจากงานอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทั้งหมด, จะหมายถึงการยอมรับมาตรฐานชีวิตที่จะครอบคลุมความจำเป็นต่างๆในชีวิตของคุณ. เมื่อยกระดับไปแล้ววิถีชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปเป็นวิถีชีวิตที่ไม่มีความกังวลและความเครียดอีกต่อไป. คุณจะมีทุกสิ่งที่คุณต้องการรวมถึงที่พักที่เหมาะสมและการเอาใจใส่ทางการแพทย์. มันเป็นธรรมดาที่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการดำเนินการ,แต่มันจะเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วมาก. พวกเราได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่สำหรับเหตุการณ์นี้ทั้งหมด, และการวางพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงได้ดำเนินการไปแล้ว นั่นจะเป็นโครงสร้างที่ถูกต้องที่อำนวยให้พวกเราก้าวหน้าต่อไป.

    ระดับความตระหนักรู้มวลรวมของพวกคุณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง, และมีผลให้ผู้คนตื่นรู้มากขึ้น. อย่างไรก็ตาม, ผู้คนจำนวนมากก็ยังไม่ได้ตื่นขึ้น และไม่แม้แต่จะคิดไตร่ตรองในสิ่งที่ประกาศออกไปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง. พวกเราคิดว่าเขาจะค่อยๆตื่นขึ้นมากกว่า แต่มันจะถึงจุดหนึ่งก่อนการยกระดับเมื่อความจริงต้องถูกเปิดเผยออกมา.บางทีความเชื่อเดิมๆต้องถูกสั่นคลอนและแสดงให้เห็นในสิ่งที่มันเป็น, แต่พวกเราไม่ต้องการให้ผู้คนมีปฏิกิริยาในทางที่ผิด. ในช่วงของการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายความเชื่อใดๆก็ตาม จะเป็นเรื่องของทางเลือกเสรี, และแต่ละวิญญาณจะมีประสบการณ์ในระดับความถี่เดิมได้. จะไม่มีการกดดันผู้คนให้ยอมรับในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวมา, และนั่นไม่ใช่วิถีของพวกเรา.

    ให้รู้ไว้ว่าพวกเราสมาพันธ์แกแลกติกแห่งแสงสว่าง มาสู่ที่นี่โดยพระบัญชาศักดิ์สิทธิ์, และวัตถุประสงค์หลักของพวกเราก็คือการตระเตรียมพวกคุณสู่การยกระดับ. เนื่องด้วยสิ่งนี้มันนำมาซึ่งความรับผิดชอบอื่นๆจำนวนมาก,ซึ่งปรารถนาจะทำให้หนทางราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้.การมาถึงของช่วงเวลาสุดท้ายเป็นเรื่องที่รู้กันมานานแล้ว, แต่มีเพียงครั้งล่าสุดนี้เท่านั้นที่มันได้กลายเป็นความเข้าใจอย่างเต็มที่. การจบสิ้นของทวิภาวะในแง่มุมของประสบการณ์ของคุณจะจบลงในเวลาไม่นานนี้, และงานของพวกเราและเหล่าพันธมิตรก็คือการรับรองว่าคุณและพระแม่โลก จะมีความพร้อมสำหรับการยกระดับ. งานจำนวนมากได้ทำไปเรียบร้อยแล้วและคุณจะได้เห็นผลลัพธ์จากมัน.

    คุณอยู่ในสถานการณ์ ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ,และมันไม่สามารถคาดเดาได้. พวกเราจึงได้กำชับการดำเนินการของพวกเรา นั่นรวมถึงการเฝ้าดูประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์, เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่สามารถใช้การได้. สำหรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของพวกเรามันเป็นงานที่ค่อนข้างธรรมดา, และพวกเราเชื่อว่าขณะนี้กองทัพรู้แล้วว่ามันไม่เวิร์คที่จะพยายามต่อไป.

    อย่างที่พวกเราพูด, พวกเราได้ถอนเขี้ยวออกจากปากเสือแล้ว,แต่มันยังเหลือกรงเล็บอยู่. พวกเราได้ติดต่อกับผู้นำทั้งหลายในเวลาต่างๆกัน ด้วยมุมมองที่ยกเลิกอาวุธเหล่านี้อย่างสมบูรณ์, แต่ก็มีความไม่ไว้ใจกันอย่างมากในหมู่พวกเขามันทำไม่สำเร็จ. อย่างไรก็ตาม, มันไม่ใช่สาระสำคัญอีกต่อไป ซึ่งสันติภาพของโลกได้ถูกสถาปนาขึ้นก่อนนั้นนานแล้ว, สงครามและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมันไม่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่ดี.

    ความถี่บนโลกได้ยกระดับความตระหนักรู้ของคุณไปแล้ว, เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณจะสามารถมองเห็นว่าสงครามและอาชญากรรมเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ. มันมีผลทำให้การสถาปนาสันติภาพไม่มีความยั่งยืนแข็งแรง. มันก่อให้เกิดการประท้วงจำนวนมากโดยเหล่าผู้แสวงหาอิสรภาพเพื่อกำหนดอนาคตของคุณเอง, และคำเรียกร้องก็ได้รับคำตอบ. วันเวลาของการปกครองระบอบเผด็จการถูกนับถอยหลังแล้ว, และคุณจะได้เห็นการแสดงออกของวิญญาณที่เอาใจใส่และรักผู้ติดตามของเขา. การเดินทางของคุณจากที่นี่กำลังมุ่งหน้าไปสู่การยกระดับ ที่จะนำมาซึ่งทั้งหมดของการพัฒนาและประโยชน์ต่างๆที่คุณได้รับคำมั่นสัญญาไว้.

    พวกเรารูว่าพวกคุณบางคนรู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้าจากความกดดันของการใช้ชีวิตบนโลก, แต่ให้รู้ไว้ว่าคุณกำลังได้รับความอุดมสมบูรณ์และการเปลี่ยนแปลงที่ยอมรับได้อย่างมาก. คุณจะมองว่ามันเป็นรางวัลก็ได้ รางวัลสำหรับการอุทิศตนเพื่อหนทางแห่งแสงว่าง, และการยกระดับของคุณสู่มิติที่สูงกว่า. มันแตกต่างอย่างมากมายกับสิ่งที่คุณเป็นอยู่ในขณะนี้, และมีเพียงวิญญาณแห่งแสงสว่างเท่านั้นที่จะสามารถก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด. ดังนั้นให้รักษาความใส่ใจในทุกสิ่งให้สัมพันธ์กับความถี่ระดับสูง, เพราะมันบริสุทธิ์และมีประโยชน์.

    I am SaLuSa form Sirius, และกำลังมองมาที่โลกของคุณจากแดนไกล และรู้สึกยินดีที่ได้เห็นแสงสว่างจำนวนมากเปล่งออกมา. ให้มันเป็นไปอย่างนั้น, ซึ่งจุดสิ้นสุดของวัฏจักรคือที่นี่ขณะนี้และคุณคือผู้ชนะ.

    Thank you SaLuSa.

    Mike Quinsey.

    ที่มา : Galactic Channelings - English

    ที่มา http://palungjit.org/threads/%E0%B8...46190.297/
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    DNA ของมนุษย์กำลังจะถูกเปลี่ยนแปลง !!!

    Chayutt สมาชิก

    2012-ปีทองของยุคพลังงานใหม่-ยุคศิวิไลซ์แห่งการเลื่อนระดับขึ้น-ascension-ไปสู่มิติที่-5

    สรุปเนื้อหาแบบย่อ:-

    1). ตอนนี้โลกเรา ตัวเรา และระบบสุริยจักรวาลของเรา กำลัง Ascension อยู่ ปี 2012 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดขึ้นมากๆ ทำไมถึงเชื่ออย่างนั้น

    - เพราะเขามีหลักฐานทางดาราศาสตร์ชี้บ่งอยู่ อย่างที่ได้กล่าวไปบ้างแล้ว
    - เพราะระดับพลังงานที่เปลี่ยนไป มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะตรวจวัดได้

    2). การ Ascension นี้จะทำให้วิวัฒนาการของมนุษย์เรา และสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆทั้งหมดมีร่างกาย และ ระดับจิตสำนึกที่ดีขึ้น ในส่วนของร่างกายเนื้อ DNA ก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อายุยืนขึ้น แข็งแรงขึ้น แก่ช้าลง เฉลียวฉลาดขึ้น ในส่วนของจิตใจ และจิตสำนึก ก็จะเป็นคนดีขึ้น รักสันติ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน เมตตากรุณาต่อกันมากขึ้น มีความสามารถทางจิตมากขึ้น สิ่งที่เคยถูกกำจัดไว้ ก็จะกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม เช่น การโทรจิต เป็นต้น

    สภาพแวดล้อมต่างๆของโลก ก็จะกลับมาสู่สภาวะที่ดีดังเดิม ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น

    - เขามีรายงานการตรวจสอบ IQ ของมนุษย์ยุคนี้ เปรียบเทียบให้เห็นถึงความเร่งของวิวัฒนาการทางสติปัญญา
    - เขามีอัตราการเจริญเติบโตด้านเทคโนโลยี และอื่นๆ เปรียบเทียบกับหลาย 100 ปีที่ผ่านมาเทียบให้ดู
    - รูปธรรมชีวิตต่างมิติที่สื่อสารผ่านทางโทรจิตมาหาคนทั่วโลก บอกมาแบบนั้น

    3). หลักฐานของสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ยิ่งกว่ามีซะอีกครับ เพราะมันมีเยอะเหลือเกินและโยงใยไปถึงศาสตร์เกือบทุกแขนงเลยทีเดียว เช่น

    3.1). มนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม๊ จะมาช่วยโลก และช่วยเรา ในการ Ascension ครั้งนี้ไหม๊

    อันนี้ผมก็ได้นำเสนอไปบ้างแล้ว และเดี๋ยวอีกไม่นานผมก็จะตั้งกระทู้อีกกระทู้หนึ่ง เรื่องการจะประกาศเปิดเผยตัวตนของมนุษย์ต่างดาวทางโทรทัศน์ของอเมริกา ซึ่งประธานาธิปดี โอบาม่า อาจจะเป็นผู้ประกาศเองด้วยครับ กำหนดการของเขา เขายังไม่เปิดเผยวันเวลาให้สาธารณชนรู้ แต่เห็นบอกว่า ความยาวของรายการออกอากาศ น่าจะประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีมนุษย์ต่างดาวตัวจริงมาร่วมรายการด้วยหลายคน

    crop cycle และปรากฏการณ์ทั้งหลายบนท้องฟ้า และ UFO ต่างๆทั่วโลกที่พบเจอกันมานานนับร้อยปีแล้วนี้ก็ด้วย ถ้าเป็นคนที่ไม่โง่งมงาย หรือ หูตามืดบอดมากจนเกินไป ก็น่าจะพอระแคะระคายอะไรได้บ้างแล้วหละนะผมว่า

    3.2). ทำไมถึงบอกว่าเรากำลังอยู่ในระหว่าง Ascension

    คำตอบคือเพราะระบบสุริยจักรวาลของเราอกำลังเคลื่อนตัวเข้าไปสู่ Photon zone ซึ่งเป็นโซนของพลังงานด้านบวกระดับสูงอยู่จริง

    3.3). แล้วทำไมถึงคิดว่าพลังงานนี้ถึงจะส่งผลกระทบต่างๆต่อวิวัฒนการของเราในทางที่ดีขึ้นจริงๆ

    อันนี้ก็เพราะว่ามีผลงานวิจัยมากมาย และรู้กันแพร่หลายมานานแล้ว เกี่ยวกับ "รังสี" ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตจริง และก็มีผลการทดลองเกี่ยวกับคลื่นความสั่นสะเทือนที่ไม่ใช่รังสี ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตจริง เช่น

    - การทดลองส่งคลื่นเข้าไปในไข่เป็ด แล้วนำไปฟักเป็นตัว ลูกเป็ดประมาณ 20% เปลี่ยนไป

    - การทดลองส่งคลื่นไปสู่ไข่กบหรือไงนี่แหละ แต่สรุปว่าเป็นของกบแน่ๆ แล้วทำให้กบกลายเป็นซาลาแมนเด้อได้

    - การทดลองส่งคลื่นความสั่นสะเทือนไปในกะบะทราย ทำให้ทรายฟอร์มรูปร่างที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความถี่ที่ส่งเข้าไป คือยิ่งความถี่สูง รูปแบบของรูปทรงก็ยิ่งซับซ้อนและสวยงามมากขึ้น อันนี้ค้นหาคำว่า Cymatic ใน internet นะครับ

    3.4). ทำไมถึงคิดว่าคลื่นหรือความสั่นสะเทือนที่มีผลกระทบต่อ DNA แล้วจะมาทำให้เรามีจิตสำนึกที่ดีขึ้นด้วย

    คำตอบสั้นๆคือเพราะ DNA ควบคุมร่างกาย และ DNA เป็นช่องทางผ่านเข้า-ออกของพลังงานจากจักรวาลด้วย

    ถ้าถามต่อว่า ทำไมถึงเชื่อว่า DNA เป็นช่องทางผ่านเข้า-ออกของพลังงานจากจักรวาล ก็จะตอบว่า เพราะ DNA มีคุณสมบัติของความเป็นควอนตั้มอยู่ในตัวเอง และ 97% ของ DNA ที่ปัจจุบันนี้ วงการวิทยาศาสตร์บอกว่ามันเป็น DNA ขยะ คือไม่ได้ถูกนำมาใช้งานอะไรนั้น ที่แท้คือ มันทำหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อยู่

    และเขาก็มีการทดลองเอา DNA ใส่หลอดทดลอง แล้วปล่อยโฟตอนเข้าไป พบว่าโฟตอนจะไปเกาะอยู่รอบๆ DNA และแม้แต่เอา DNA ออกไปแล้ว อนุภาคโฟตอนพวกนั้น ก็ยังทำท่าเกาะอยู่เหมือนเดิมอย่างนั้นแหละ เหมือนกับว่า DNA ยังอยู่อย่างนั้นแหละ

    อันนี้ก็บอกได้ว่า ตัวเราทั้งตัวเนี่ย ที่มี DNA อยู่ในเซลทุกๆเซลเนี่ย มีความสัพันธ์ใกล้ชิดกับพลังงานแสง หรือโฟตอนอย่างมาก แล้วนับประสาอะไรกับที่กำลังจะเข้าไปอาบ ไปแช่อยู่ในแถบโฟตอน ที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นมากกว่าเดิมอีกไม่รู้กี่ 100 กี่พันเท่าอยู่เนี่ยและถ้าถามต่อว่าทำไมถึงบอกว่า DNA มีคุณสมบัติของควอนตัมอยู่ เพราะทุกอย่างล้วนประกอบด้วยอนุภาคระดับควอนตัมทั้งนั้น

    4). แล้วทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ทำไมถึงเชื่อว่ามันจะปรากฏชัดเจน หรือเกิดขึ้นในปี 2012 ด้วย คำตอบสั้นๆคือ

    - เพราะค่าความแรงของสนามแม่เหล็กโลกลดลงเรื่อยๆ และจะลดเป็น 0 (ตามกราฟที่ plot ไว้)ในปี 2012 ซึ่งระดับความเข้มของสนามแม่เหล็กโลก จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักเพียงสาเหตุเดียว นั่นก็คือ "อัตราเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก" หรือจะแปลอีกอย่างก็คือว่า "ในปี 2012 โลกจะหยุดหมุนชั่วคราว!!"

    - ค่า Schumann resonance ของโลกค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะไปเป็นเท่าไหร่ก็จำไม่ค่อยได้ ในปี 2012 ซึ่งนั่นหมายความว่า "ขั้วแม่เหล็กโลก จะสลับขั้วกัน" ซึ่งในช่วงเสี้ยววินาทีที่ขั้วแม่เหล็กสลับขั้วกันนั้น โลกจะปราศจากสนามแม่เหล็กชั่วคราว และจะเป็นช่วงที่เข้าสู่ ภาวะ "Zero point"

    ลองไปค้นหาใน internet ดูต่อนะครับว่าสภาวะนี้สำคัญอย่างไร มีผลต่อร่างกาย และจิตวิญญาณ และระดับความสั่นสะเทือน และระดับพลังงานของเราอย่างไร ตอนนี้แหละที่จะแยกระหว่างคนที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงกับต่ำออกจากกันได้ชัดเจน เพราะกลุ่มหนึ่งจะรอด ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งร่างกายจะทนไม่ได้ ก็จะต้องตายไป

    ข้อมูลที่สนับสนุนคำกล่าวทั้งหมดนี้ ผมมีหมดแล้ว แต่ติดที่ว่า ต้องอ่าน และแปลก่อนถึงจะเอามาเรียบเรียง และโพสต์ให้พวกท่านอ่านได้หนะครับ ซึ่งงานนี้ ก็หนักเอาการพอสมควรครับ ใจเย็นๆนะครับ ทุกๆโพสต์ของผม มีความหมายที่อยากจะสื่อหมดนั่นแหละครับ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/2012-ป...ขึ้น-ascension-ไปสู่มิติที่-5-a.217055/page-4
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dna.jpg
      dna.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66 KB
      เปิดดู:
      57
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตอบคำถามเรื่องการยกระดับโลกจากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 4 และ 5 !!!

    Chayutt สมาชิก

    ปี 2012 สาส์นแห่งการยกระดับขึ้น – จาก แมทธิว วาร์ด (Matthew Ward) สื่อสารทางจิตมาเมื่อ 7 กุมภาพันธุ์ 2009 โดย: Suzy Ward ผู้รับการสื่อสารทางจิตจาก Matthew Ward วันที่: วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2009

    ตอนนี้ผมควรจะบอกพวกคุณเกี่ยวกับความสำคัญ ของอัตตาตัวตนรวมของพวกคุณ ซึ่งในฐานะปัจเจกบุคคล พวกคุณแต่ละคนสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตนเอง แต่สำหรับโลกแห่งความเป็นจริงของโลกทั้งโลก มันเป็นผลมาจากจิตสำนึกโดยรวมของทุกสรรพชีวิตบนโลกทั้งโลก ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดสภาวะต่างๆที่จะเกิดขึ้นบนโลก นี่คือเหตุผลว่าทำไมความคิดเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่พวกคุณต้องการ และโลกในแบบที่พวกคุณต้องการ จึงมีความสำคัญนักหนา

    ผมขอเล่าย้อนไปสักเล็กน้อย ตอนที่คุณแม่ของผมได้ถามผมว่าเคยท้อแท้บ้างไหม๊ เพราะว่ามนุษย์จำนวนมากคิดถึงแต่เรื่องเกี่ยวกับสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น การปกครองโดยทรราช การคอรัปชั่นที่รุนแรง และเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองต่างๆ หรือแม้แต่ความกลัวว่าสภาพอันเลวร้ายของโลกในปัจจุบันนี้ จะตกทอดไปถึงชนรุ่นหลังของพวกเขา คุณแม่ของผมสงสัยว่ากระแสพลังจิตในทิศทางที่ไม่พึงปรารถนาของผู้คนเหล่านี้ มันไปส่งผลกระทบต่อจิตสำนึกโดยรวมของโลก และต่อการยกระดับจิตสำนึกของโลกได้อย่างไร

    ตอนนั้นผมได้บอกกับคุณแม่ของผมไปว่า ทางเลือกอิสระของดาวเคราะห์โลกเอง คือการยกระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 และการเลือกเพื่อความก้าวหน้าของดาวเคราะห์โลกนี้ ไม่เพียงแต่จะมีเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและความมั่นคงเท่านั้น แต่ผลสืบเนื่อง ดาวเคราะห์โลกใบนี้กำลังมีการยกระดับขึ้นอยู่แล้ว และตอนนั้นผมยังได้บอกคุณแม่ของผมไปด้วยว่า ผมไม่ได้รู้สึกท้อแท้ไปมากกว่าความรู้สึกเสียใจกับผู้คน ที่ใช้ทางเลือกอิสระของพวกเขาเพื่อปฏิเสธแสงสว่างที่จะนำพวกเขาไปสู่การรู้แจ้งและการยกระดับขึ้นเลย

    ด้วยข้อมูลพื้นฐานเล็กๆน้อยๆ ที่ว่า การยกระดับของดาวเคราะห์โลกได้บรรลุเป้าหมายแล้ว ผมจึงสามารถตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้ได้:-

    1. มันจะเป็นการยกระดับในรูปแบบของไปทั้งกายเนื้อ หรือว่าไปเฉพาะวิญญาณในรูปแบบของกายทิพย์?

    2. การยกระดับจะเกิดขึ้นในปี 2012 ใช่หรือไม่?

    3. ใครหรืออะไรที่จะเป็นผู้ตัดสินว่า จะให้ใครยกระดับขึ้นไปพร้อมกับโลกด้วยได้?

    4. การยกระดับที่ว่านี้ หมายถึงการถูกยกขึ้นไปไว้ในยานอวกาศใช่หรือไม่?

    5. ที่ชาวโลกกำลังจะถูกยกระดับขึ้น เพราะว่าดาวเคราะห์โลกกำลังจะถูกทำลายใช่หรือไม่? และถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วมนุษย์โลกจะไปอยู่ที่ไหน?

    6. มันจะมีตัวชี้วัดอะไรที่ไม่ผิดพลาดบ้างหรือไม่ ที่จะบอกให้ทราบว่ามนุษย์โลกคนไหน ที่จะถูกยกระดับหรือไม่ถูกยกระดับไปพร้อมกับดาวเคราะห์โลก?

    7. มนุษย์โลกจะสามารถยกระดับได้หรือไม่ หากเขายังไม่รู้ว่าอะไรคือพันธะสัญญาณทางจิตวิญญาณ สำหรับภารกิจในชีวิตนี้ของตนเอง?

    8. ถ้าดาวเคราะห์โลกกำลังมีการยกระดับขึ้นจริง แล้วทำไมมันยังมีเรื่องวุ่นวายมากมายเหมือนเดิมอยู่หละ? เมื่อไหร่กระบวนการยกระดับนี้มันจึงจะสิ้นสุดลง?

    9. และก็ยังมีคำถามอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ “แสงสว่าง” อีก ซึ่งเราจะกล่าวถึงในภายหลัง

    ตอบคำถาม:-

    1. ชาวโลกที่ได้รับ “แสงสว่างนั้น”(The light) จะมีการยกระดับทางกายเนื้อไปพร้อมๆกับดาวเคราะห์โลก ซึ่งจะก้าวหน้าไปสู่ระดับการสั่นสะเทือนของมิติที่ 4 และ 5 การดูดซับแสงสว่างนั้น จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเซลของร่างกายในมิติที่ 3 ที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลักซึ่งไม่อาจจะรอดชีวิตอยู่ได้ ในสภาวะที่มีความเข้มของแสงสว่างในระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าได้ ไปสู่โครงสร้างที่เป็นผลึก ซึ่งจะสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ในสภาวะดังกล่าวแทน

    ผมอยากจะกล่าวเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยว่า ชาวโลกที่เปลี่ยนรูปแบบชีวิตจากกายภาพไปสู่จิตวิญญาณ (ตาย) ในระหว่างที่ดาวเคราะห์โลกกำลังยกระดับอยู่นี้ รวมถึงชาวโลกที่ได้เปลี่ยนรูปแบบชีวิตไปแล้วเมื่อไม่กี่ปีมานี้ จริงๆแล้วอาจจะต้องได้รับการ “ปรับให้มีคุณสมบัติเหมาะสม” ตราบเท่าที่พวกเขายังมีแสงสว่างอยู่เพียงพอ (มีความดีพอ) แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเป็นไปตามพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณดั้งเดิม หรือพันธะสัญญาที่พัฒนาให้ดีขึ้นแล้วของพวกเขาเอง ที่ได้เลือกเอาไว้ในการมามีชีวิตอยู่ด้วย

    2. การยกระดับของดาวเคราะห์โลก มันคือกระบวนการเปลี่ยนสภาพของดาวเคราะห์โลก และกระบวนการปรับสภาวะทางจิตวิญญาณใหม่ เพื่อให้ดาวเคราะห์โลกสามารถลอยสูงขึ้นเหนือมิติที่ 3 ได้ แล้วเข้าไปสู่ “ยุคทอง” (Golden Age) ต่อไปได้ กระบวนการยกระดับดังกล่าวนี้ ได้เริ่มเกิดขึ้นมานานร่วม 70 ปีของมนุษย์แล้วและบัดนี้ก็ยังคงดำเนินไปอยู่ มันจะสิ้นสุดลงในปี 2012

    ความมืดที่ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา จะถูกทำให้สาบสูญไป แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้แปลว่าภายหลังปี 2012 แล้ว จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก เพราะว่ามันยังจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆอีกมากมายที่วิเศษและยอดเยี่ยมอยู่อีกต่อไปหลายปี รวมถึงการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณและทางภูมิปัญญาด้วย ชีวิตคือกระบวนการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง หรือถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ ชีวิตคือกระบวนการจดจำอย่างมีสติของความรู้ภายในจิตวิญญาณ (Life is a process of consciously remembering the knowledge within the soul)

    3. การตัดสินว่าใครจะได้ยกระดับขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับบุคคลผู้นั้นเอง ไม่ใช่จะมีใครไปตัดสินโดยพละการให้ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแต่ละบุคคล ซึ่งได้สมัครใจเลือกที่จะเป็นแสงสว่างหรือความมืดเอง ผู้ใดที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งแสงสว่างก็จะได้ยกระดับขึ้น อย่างที่ผมเคยอธิบายไว้แล้ว และเดี่ยวอีกสักพัก ผมจะพูดถึงผู้ที่เลือกเอาความมืด

    4. การยกระดับขึ้น ไม่ได้หมายถึงการถูกนำขึ้นไปไว้บนยานอวกาศ แต่อย่างไรก็ตามจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ การได้ไปเยี่ยมลูกเรือของกองทัพแห่งจักรวาลในยานอวกาศของพวกเขา ก็ถือเป็นกำไรชีวิตอีกอย่างหนึ่ง ของผู้ที่มีความสว่างไสวทางจิตวิญญาณและผู้ที่รู้แจ้งแล้วทั้งหลาย

    5. ดาวเคราะห์โลกจะไม่ถูกทำลายอย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้าม ดาวเคราะห์โลกกำลังถูกปรับสภาพ ให้กลับไปอยู่ในสภาวะที่มีสุขภาพดีเหมือนเดิม ตลอดเส้นทางแห่งกระบวนการยกระดับขึ้นนี้ และสวนแห่งเอเดน (Eden) ที่สวยงามก็จะกลับคืนมาอีกครั้ง

    6. มันไม่มีตัวชี้วัดที่ไม่ผิดพลาดใดๆ ที่จะบอกได้ว่าใครจะยกระดับขึ้นไปกับพร้อมกับโลกได้หรือไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้มันขึ้นอยู่อยู่กับแต่ละบุคคลอย่างจำเพาะเจาะจงพูดสั้นๆก็คือ การยกระดับขึ้นของแต่ละบุคคล คือการรวมจิตสำนึกและวิญญาณของคนๆนั้นให้เป็นหนึ่งเดียวกัน หรือในแง่มุมที่พอจะมองเห็นได้ ก็คือการยกระดับจิตสำนึก การมีพลังอำนาจในการตัดสินถูกผิดดีชั่วมากขึ้น และการมีสัญชาตญาณที่เชื่อถือได้ ซึ่งนี่ต้องเกิดจากการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลาของการตระหนักรู้ในตัวตนรวมที่สูงกว่าของตัวเอง (higher self) หรือพระผู้เป็นเจ้า/พุทธจิต (God/Goddess self) และจิตเดิมแท้ (True spirituality) ซึ่งก็คือความรับรู้ถึงความสงบสุข ที่เกิดจากการดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้การจัดสรรค์ของพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณของตัวเอง

    คุณรู้สึกเหมือนว่าคุณ “กำลังดำเนินตามกระแส” แทนที่จะรู้สึกว่า “กำลังทวนกระแส” การค้นพบตัวเอง อาจจะปิ๊งแวปขึ้นโดยฉับพลันในโอกาสต่างๆ ซึ่งนี่อาจจะถือเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งก็ได้ ซึ่งอาการบ่งบอกดังกล่าวนี้ ก็แปลกแตกต่างกันไป เช่น อาจจะประจักษ์ถึงวิถีทางที่ดีที่สุด ที่จะจัดการกับสถานการณ์ที่สับสนอลหม่าน หรือความสัมพันธ์ที่ยากลำบากได้ หรือ อาจจะเกิดแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนวิถีชีวิตไปสู่เส้นทางใหม่หรือสถานที่ใหม่ หรือบางทีอาจจะได้รับคำตอบของโจทย์บางอย่างก็ได้

    7. กรุณาอย่าเพิ่งเป็นกังวล หากคุณยังไม่รู้ว่าพันธะสัญญาของภารกิจชีวิตของคุณคืออะไร เพราะว่ามีชาวโลกเพียงหยิบมือเดียวที่รู้เกี่ยวกับพันธะสัญญาด้านจิตวิญญาณ (Soul contract) ของชีวิตตนเอง เพียงแต่ดำเนินชีวิตไปตาม”เสียงจากภายใน”(Inner voice) ซึ่งเป็นข้อมูลการสื่อสารจากวิญญาณของคุณ ถึงจิตสำนึกของคุณเองก็เพียงพอแล้ว เพราะมันจะนำคุณไปสู่ภารกิจชีวิตของคุณเองอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาอันสมควร ซึ่งอาจแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน คุณจะพบเองว่าที่ไหนคือที่ๆต้องการคุณมากที่สุด และสามารถทำให้คุณมีคุณค่ามากที่สุด เมื่อนั้นคุณก็จะรู้สึกมั่นใจที่จะเติมเต็มเป้าหมายนั้น

    กรุณาอย่ารู้สึกว่าคุณต้องไปทำภารกิจอะไรที่สำคัญและยิ่งใหญ่มากมาย เพราะว่าพวกคุณแต่ละคนนั้นมีความสำคัญอยู่แล้ว คุณอาจจะคิดเปรียบเทียบตัวคุณเองกับคนอื่นๆ แล้วคุณอาจจะรู้สึกว่าคุณยังอุทิศตนเองน้อยเกินไป อย่ากระนั้นเลย ทำอย่างที่คุณเป็นจริงๆในระดับจิตวิญญาณนั้นก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าคุณอาจจะยังไม่ตระหนักรู้ว่าคุณกำลังปฏิบัติภารกิจชีวิตตามพันธะสัญญาก่อนลงมาเกิดของคุณอยู่ก็ตาม แต่คุณก็กำลังทำมันอยู่ และกำลังแผ่กระจายแสงสว่างออกไปสู่ทุกๆชีวิตที่คุณสัมผัสพวกเขาอยู่แล้ว

    8. เหตุการณ์ความไม่สงบก็ยังคงเป็นสัจธรรมของชีวิต สำหรับโลกของพวกคุณอยู่ เพราะมันเกี่ยวข้องอยู่กับ เคราะห์กรรมของชาวโลกผู้ที่จะไม่ได้ยกระดับขึ้นไปพร้อมๆกับโลก ในช่วงหัวลิ้วหัวต่อนี้ จิตสำนึกโดยรวม (The Collective Consciousness) จะยังคงได้รับอิทธิพลจากพลังแห่งความมืดที่ยังหลบซ่อนและแอบซุ่มโจมตีอยู่ ชาวโลกที่ไม่ยอมเลิกแสดงบทบาท “ผู้ร้าย” ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นแค่ส่วนประกอบของวิบากกรรมของพวกเขาเท่านั้น (แต่เพราะว่าพวกเขาติดใจบทบาทนี้มากจนเลิกไม่ได้) จึงทำให้พวกเขาได้กลายไปเป็นนักโทษของความมืดไปเสียแล้ว

    และเพราะว่าดาวเคราะห์โลกกำลังเคลื่อนเข้าไปสู่ระดับคลื่นความสั่นสะเทือนที่มีความถี่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวโลกคนไหนที่จมปรักอยู่แต่ในโลกมืด มีความโหดเหี้ยมไร้จิตสำนึก กระหายอำนาจ ซึ่งคนเหล่านี้บางส่วนอยู่ในชนชั้นปกครอง บางส่วนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังอะไรๆที่เกี่ยวข้องกับสาธารณชน จะต้องตายไปจากโลกนี้ และเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้น ปราศจากพลังงานแห่งแสงสว่าง ที่เป็นพลังชีวิตของวิญญาณที่สำคัญ ดังนั้นร่างกายของพวกเขาจะตาย ส่วนวิญญาณของพวกเขาจะดิ่งลงไปสู่ระนาบต่างๆที่มีระดับพลังงานหนาทึบมากๆ ที่เหมาะเจาะกับรูปแบบพลังงานที่ถูกบันทึกไว้ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา ซึ่งในสถานที่เหล่านั้นมันจะมีลำแสงสว่าง ลำหนึ่ง ถูกส่งไปให้อย่างต่อเนื่อง และถ้าพวกเขายอมรับมัน จิตสำนึกของพวกเขาก็จะถูกดึงขึ้นมา

    9. และตอนนี้เราจะมาพูดถึงผู้ที่ “จะว่าดีก็ไม่ใช่ จะว่าร้ายก็ไม่เชิง” กัน มันอาจจะดูเหมือนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่มันก็ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องของจิตสำนึกมวลรวมอยู่เพราะว่าคนประเภทนี้ กำลังแกว่งสลับไปมาระหว่างความดีและความชั่ว พวกเขาปิดๆเปิดๆใจของตนเองในการยอมรับจิตสำนึกที่สูงกว่า ซึ่งคลื่นความถี่ที่สูงกว่าที่เกิดจากหนทาง แห่งการยกระดับขึ้นของโลกเป็นผู้มอบให้ ถ้าพวกเขายังแกว่งไปมาอยู่แบบนี้นานเกินไป พวกเขาก็จะยังติดอยู่ในโลกมิติที่ 3 ที่มีข้อจำกัดด้านจิตวิญญาณและภูมิปัญญาเป็นอย่างมาก

    แต่ได้โปรดรู้ไว้ด้วยว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนเลว เพียงแต่พวกเขาเลือกที่จะปิดใจ มากกว่าเปิดใจเท่านั้นเอง จิตวิญญาณแห่งแสงสว่างที่อยู่ในทุกๆภพภูมิกำลังลุ้นและเชียร์คนประเภทนี้ทุกๆคนอยู่ เพราะอยากให้พวกเขาตอบสนองต่อแสงสว่างและตื่นขึ้นมาได้ทันเวลา ที่จะได้เข้าไปสู่ยุคทองพร้อมๆกับโลก

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตร...และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-21
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  20. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    เมื่อไหร่ภัยพิบัติจะเกิดซะที เตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง หลายรอบแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...