ตามรอย "พระมหาชนก"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.

  1. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    เรื่องที่ ๘<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ท่านปุตตะภิกขุ ( โอภาสี )ได้บรรลุอรหัตผลเข้าสู่พระนิพพาน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    "..เมื่อเช้าตรู่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ไปพระนิพพาน เมื่อไปถึงแล้วก็นมัสการพระตามลำดับที่เคยนมัสการเป็นปกติ เมื่อไหว้แล้วก็กราบถามท่านว่า "ท่านโอภาสีเป็นใคร" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระท่านเรียกพระแก้วองค์หนึ่งมาหา พระองค์นี้ตัวสวยเหมือนแก้วที่ถูกแสงอาทิตย์สาด สวยมาก <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านชี้ให้ดูแล้วบอกว่า "องค์นี้แหละที่ชาวโลกเรียกว่า "โอภาสี" บอกท่านสวยสมชื่อจริงๆ "โอภาสี" แปลว่า "มีแสงสว่างเป็นปกติ" ท่านสว่างสมชื่อ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เมื่อพบกันแล้วก็ถามชื่อแซ่กันตามธรรมเนียม… <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านตอบว่า "เมื่อเป็นพระคนท่านชื่อ ปุตตะภิกขุ เป็นลูกชาวเมืองปาฐา เป็นหัวหน้าคณะพระ ๓๐ รูป ที่มาเฝ้าพระพุทธเจ้า จนพระพุทธเจ้ามีพระพุทธานุญาตให้พระนางวิสาขาถวายกฐินเป็นรายแรกในศาสนานี้"<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    เมื่อก่อนบวชท่านได้พบพระสารีบุตร เลื่อมใสท่านพระสารีบุตรแล้วบวชกับท่าน แต่อาศัยที่เป็นพระโพธิสัตว์มีบารมีขั้นปรมัตถบารมีหลายอันดับ เป็นเหตุให้ท่านพระสารีบุตรไม่สามารถสอนให้บรรลุมรรคผลได้ ท่านพวกสาวกพุทธภูมินี้มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวที่จะสอนได้ เมื่อออกพรรษาท่านพระสารีบุตรพามาหาพระพุทธเจ้า เมื่อพบพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านลาออกจากพุทธภูมิ ท่านศึกษาไม่นานก็ได้บรรลุอรหัตผล พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เมื่อนิพพานแล้วเพราะอาศัยที่เป็นพระโพธิสัตว์มาก่อนก็เลยโปรดคนตามอัชฌาสัย ให้นามตัวเองว่า "โอภาสี" แปลว่า "มีปกติฉายแสงสว่าง" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถามว่า "เมื่อเป็นพุทธสาวกทำไมเล่นเผาของ ทำให้ศาสนาเสื่อม คนหลงผิดกันตั้งหลายเมือง" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านบอกว่า "ท่านมาเฉพาะธรรม เรื่องเผาของเป็นเรื่องของคนอยากดัง เขาเล่นกลกันเอง" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถามว่า "บางวาระคนที่ทรงก็มีผีอื่นปลอม ทำไมไม่ห้ามผีอื่น" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านตอบว่า "ร่างของเขา เจ้าของมีสิทธิ์จะให้ใครทรงก็ได้ ท่านมาเฉพาะธรรม อย่างอื่นไม่เกี่ยว" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถามว่า "เรื่องกองทานมาจากใคร" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านบอกว่า "มาจากพวกอยากดัง" <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กลับลงมาบันทึกเมื่อเวลา ๐๔.๓๒ นาฬิกา.."<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คัดลอกจากหนังสือ ตายแล้วไม่สูญฯ เรื่องที่ ๘ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปพบพ่อฯ ท่านบอกสิ่งที่ได้พิจารณาไปนั้นเป็นหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นเอง ยังมีเรื่องราวหลายเรื่องที่มนุษย์ไม่รู้ ท่านได้สั่งให้ผมหยุดการพิจารณาลง แล้วให้ปล่อยวาง อย่าได้เดินหน้าต่อไปอีก อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดไปตามธรรมชาติ เข้าใจไหมลูก... ผมคงช่วยคนบุญได้เท่านี้นะครับ ผมคงจำต้องถอยตัวเองออกจากระบบการพิจารณานี้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ขออย่าได้ขุ่นเคืองใจกันเลยนะครับ อีกด้านหนึ่งเป็นการดีเสียอีกที่จะเปิดโอกาสให้ท่านอื่นที่มีความรู้มีความสามารถพิจารณาแจ้งข่าวคนบุญต่อไปครับ ผมเชื่อว่าเมืองมิถิลาไม่สิ้นคนดี

    โชคดีครับ...
     
  3. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    ปู 2 ขา ปู 4 ขา ปู 8 ขา
    หากไม่ใช่คนนอกรีด ก็อาจเป็นเชื้อโรคในอนาคตหรือเปล่า คือ ไวรัส ตัวใหม่ๆ ที่จะทยอดเกิดขึ้น สักเกตุในช่องตาราง grid นะครับว่า อยู่ในตำแหน่งอะไร แล้วลองวิเคราะห์กัน น่าสนใจมาเรื่องนี้ อาจยังไม่เกิดหรือเพิ่งเกิด หรือกำลังเกิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่
     
  4. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ทุกท่านสังเกตเห็นไหมหนอ แก้มแดงพิจารณาเดินหน้าไปไม่กี่ก้าว ท่าน………เมตตาแสดงให้เห็นของจริง ตัวอย่างจริง ว่าเป็นแบบนี้หนอ มาถูกทางแล้วหนอ เข้าใจถูกต้องแล้วหนอ พิจารณาถูกต้องแล้วหนอ เวลาเกิดเหตุจริงๆจะได้ทราบว่า ใช่เลย อย่างนี้แน่เลย แบบนี้แหละ ต้องเตรียมตัวแล้วหนอ ภัยกำลังมาแล้วหนอ สัญญาณที่ถูกส่งออกมาเหมือนตอกย้ำว่านี่แหละคือจุดเริ่มต้นนะ ต่อไปจะมีอะไรบ้าง ท่านส่งสัญญาณบอกล่วงหน้าย้ำกับสิ่งที่ท่านได้พระราชนิพนธ์ขึ้นมาว่าแผนเป็นแบบนี้นะ ยกตัวอย่าง เช่น
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    • เงื่อนเวลาต่างๆที่แก้มแดงได้พิจารณาเห็นและได้กำหนดลงในแผนนั้น โดยระบุปีที่เริ่มต้นคือ 2549 และสิ้นสุดปี 2562 ที่ท่านทั้งหลายรู้และยอมรับกันโดยธรรมชาติแล้วหนอ
    • น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ตัวอย่างจริงที่ได้เกิดขึ้นจริง แต่นี่ยังไม่ใช่ของแท้ ของแท้ลำบากและทุกข์มากกว่านี้มากหลายเท่าหนอ
    • อุกาฟ้าเหลืองเป็นอย่างนี้เองหนอ เห็นแล้วหนอ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นหนอ
    • สงครามครั้งสุดท้าย จะไม่มีอีกแล้วหนอ จะจบสิ้นในคร่านี้หนอ สามก๊ก เพียงแต่เผยให้เห็นตัวละครเท่านั้นเองหนอ พ่อหลวงทรงชี้วันเวลาแล้วหนอ รามเกียรติ์ที่วัดพระแก้วหนอ ทุ่งมะขามหย่องหนอ อื่นๆหนอ
    ปราชญ์ทั้งหลาย บอกแล้วว่า ชีวิตนี้น้อยนัก
    โลกถูกความตายครอบเอาไว้
    เมื่อความตายมาถึงตัว ก็ไม่มีใครป้องกันได้
    เมื่อคนตายแล้วสมบัติสักนิดก็ไม่ติดไป
    ทุกชีวิตที่เกิดมาแล้วจะต้องแตกสลายในที่สุด
    ทุกชีวิตจะต้องทอดทิ้งร่ายกายไว้ในโลก
    ไม่มีใครผัดเพี้ยนกับความตาย ซึ่งมีอำนาจมากได้
    สถานที่ที่ได้ชื่อว่าไม่มีคนตาย ไม่มีในโลก
    ทุกคนควรทำหน้าที่ของตน และไม่ควรประมาท
    ทั้งหนุ่มและแก่ ล้วนร่างกายแตกดับไปทุกคน
    สัตว์โลกถูกมฤตยูห้ำหั่น ถูกชราปิดล้อม
    เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ไม่มีผู้ป้องกัน
    ความผัดเพี้ยนกับมฤตยูอันมีกองทัพใหญ่นั้น ไม่ได้เลย
    กี่วันผ่านไป ชีวิตก็ยิ่งใกล้ความตาย
    คนทุกคนต้องตาย
    วัยสิ้นไปตามคืนและวัน
    การตายโดยชอบธรรม ดีกว่าการมีชีวิตอยู่โดยไม่ชอบธรรม
    อายุของคนย่อมหมดสิ้นไป
    ความตายย่อมมีแก่ผู้เกิด<o:p></o:p>
    วันคืนเคลื่อนคล้อย อายุก็เหลือน้อยเข้าทุกที
    สัตว์ทั้งปวงย่อมถูกชราและมรณะพัดพาไป<o:p></o:p>
    • แผ่นดินไหวที่ภูเก็ต Mani Mekhala 20 April ใช่แล้วหนอ แบบนี้เลย เส้นไข่ปลาในแผนที่พยากรณ์หนอ แผ่นดินมันไหวแบบนี้เองหนอ อันตรายแบบนี้เองหนอ วิทยาศาสตร์ไม่รู้ล่วงหน้าหนอ อื่นๆหนอ
    • สงครามโลกครั้งที่ 3 เห็นแล้วหนอ เป็นข่าวแล้วหนอ เห็นแผนการของพญาอินทรีย์แล้วหนอ มุ่งสู่เอเชียแล้วหนอ เตรียมปิดล้อมพญามังกรแล้วหนอ ก่อนที่เขาจะรบกันเขาต้องทำให้แตกแยกแตกความสามัคคีหนอ เพื่อยึดแหล่งอาหารหนอ ชัดเจนแล้วหนอ อื่นๆหนอ
    • ดาวเคราะห์มาแล้วหนอ เป็นข่าวแล้วหนอ เห็นเงื่อนเวลาแล้วหนอ รอเห็นของจริงหนอ
    • ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี ไม่แน่ใจในสิ่งที่ทำความดี กลายเป็นผีตายตกไปตามกัน พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ กำลังจะได้เห็นแล้วหนอ ใกล้แล้วหนอ แก้มแดงแจ้งไปนานแล้วหนอ
    • พ่อฯ ได้เตือนมานานแล้วหนอ ท่านสร้างให้มีแผ่นดิน แผ่นน้ำ แผ่นฟ้า ทุกสรรพสิ่งที่อุดมสมบูรณ์ ให้มีความสมดุลของโลกใบนี้เพื่อทำประโยชน์ แต่มนุษย์มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากไปยึดวัตถุมากไป ทำให้จิตใจนั้นเสื่อมทรามลงเลวลง พวกเขาเหล่านั้นไม่เชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่เชื่อ เทพ พรหม เทวดา นรก สวรรค์ว่ามีอยู่จริง เมื่อไม่เชื่อแถบยังดูถูกเหยียดหยามอีก ทำสิ่งที่มันผิดธรรมผิดธรรมชาติซ้ำแล้วซ้ำอีก ผลที่ทำกันมามันก็ย้อนกลับมาหามนุษย์ด้วยกันเองเป็นกรรมรวมที่จะต้องร่วมกันรับผิดชอบในสิ่งที่สร้างไว้ มนุษย์คนไหนทำดีไม่ดีล้วนไม่พ้นสายตา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมพ่อฯจะล้าง และเก็บกลับหมด ทั้งมนุษย์ วิญญาณ รวมทั้งพระด้วยที่ผิดศีลผิดธรรม ไม่เอาไว้ จะปรับสมดุลของโลกใหม่ อะไรดีก็จะเอาไว้ อะไรไม่ดีมากไปก็ต้องปรับให้สมดุล พ่อฯเฝ้ามองดูมนุษย์อยู่ รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน จะล้างเพื่อปรับสมดุลของโลกใหม่ พ่อได้สั่งไปแล้ว พระแม่คงคาจะเป็นผู้นำในการกวาดล้างครั้งนี้(ผมได้แจ้งไปแล้ว สงสัยให้กลับไปอ่านข้อความเก่าๆครับ) ปัจจุบัน พ่อรอให้เลือดไหลลงแผ่นดินถึง 70% ก่อน เมื่อนั้นให้เจ้าคอยดู สิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น สิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อนก็จะได้รู้ เข้าใจไหมลูก
    • อื่นๆอีกมากมายหนอที่ท่านเมตตาส่งสัญญาณออกมา สถานการณ์เชื่อมสัมพันธ์กันอย่างน่าอัศจรรย์หนอ เกิดขึ้นมาแล้วหนอ สัมพันธ์กับสิ่งที่แก้มแดงได้พิจารณาล่วงหน้าเพื่อแจ้งให้คนบุญทราบอย่างเป็นจังหวะก่อนแล้วหนอ แทบจะทุกเรื่องเลยหนอ สังเกตดูดีๆหนอ ถ้าท่านทั้งหลายยังสงสัยประการใดให้ย้อนกลับไปอ่านข้อความเดิมๆอีกรอบหนึ่งหนอ บารมีของคณะพระเทพโลกอุดรทั้ง๕พระองค์(หลวงปู่ใหญ่ ขรัวตีนโต หลวงปู่โพรงโพธิ์ ขรัวขี้เถ้า โดยเฉพาะขรัวหน้าปาน) ท่านเมตตาพวกเราแล้วหนอ พระบารมีในหลวงท่านทรงชี้แสดงให้เราๆท่านๆได้รับรู้รับทราบทั่วกันแล้วหนอ บารมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านค้ำคูณแล้วหนอ เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ถึงสถานการณ์ต่างๆที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นขั้นๆหนอ อย่าได้สงสัยหรือลังเลใจเลยหนอ ขอให้ท่านทั้งหลาย คนบุญทั้งหลาย พี่น้องร่วมชาติทั้งหลายรับทราบถึงความปราถนาดีทั่วกันหนอ ขอให้ท่านทั้งหลายเปิดใจน้อมรับมรดกธรรมหนอ ลดถือดีหนอลดอวดดีหนอ ลดทิฐิในใจหนอแล้วจะเห็นทางรอดหนอ
     
  5. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    เหตุที่ให้แก้มแดงเข้ามาในกระทู้นี้อีกครั้ง เนื่องด้วยมีบางเรื่องที่ยังไม่ได้บอกให้คนบุญทราบ ซึ่งมันค้างคาใจทำให้ไม่สบายใจ เกรงว่าคนบุญจะหมดความเพียรในการมีชีวิตอยู่เมื่อภัยพิบัติรุมเร้า ดังนั้นจะขอแจ้งบอกสิ่งที่คนบุญจะต้องทำในอนาคตเพื่อเป็นความหวังเล็กๆ โดยจะขอตั้งเป็นตุ๊กตาไว้ให้พิจารณา ในรายละเอียดหยาบๆตามลำดับ ส่วนเรื่องพ่อฯสั่งห้ามพิจารณาต่อนั้นก็ยังยืนตามคำที่ท่านสั่งตามเดิมคือไม่พิจารณาเดินหน้าต่ออย่างเป็นลำดับเหตุการณ์ อีกอย่างวันที่ผมได้ไปพบพ่อฯ (ผมขอต่อจากกระทู้ล่าสุดที่ผ่านมา)ที่แก้มแดงไม่ได้บอกคนบุญ แต่ได้เฝ้าติดตามสังเกตอยู่อย่างเงียบๆ พ่อฯได้บอกว่า ต่อไปนี้อย่าได้พยายามกลับบ้านมืดค่ำดึกๆดื่นๆหรือออกไปทำงานก่อนสว่างจะอันตราย(ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องรู้ความเคลื่อนไหวและหาทางป้องกันตัวไว้) ไม่ปลอดภัย เพราะว่าพวกอสูรกาย ผีป่าต่างๆจะเริ่มเข้าสิงผู้คนให้ทำในสิ่งที่ผิดปกติไปในแนวทางที่รุนแรงที่ไม่ใช่คนหรือเข้ามาผสมโรงเพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายขึ้น หรือมีอันเป็นไป ซึ่งถ้ามันสิงได้มันจะทำตามใจมันที่มันอยากจะทำ ส่วนใหญ่จะไปในทางร้ายทั้งสิ้น(ตรงนี้ขอให้คนบุญสังเกตข่าวคราวต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านในเมืองและอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น ท่านก็จะรู้คำตอบเอง) แก้มแดงพิจารณาเห็นว่าพวกผีป่า พวกอสูรกายเริ่มเข้าเมืองกันแล้ว เริ่มเข้ายึดพื้นที่กันแล้วต้องมีอะไรที่ผิดปกติแก้มแดงเลยยังชะลอไม่บอกจนกว่าจะสังเกตเห็นความจริงจนวันนี้ได้เห็นความจริงแล้วเลยได้แจ้งคนบุญทั้งหลายให้ได้ทราบกันไว้ เราจะเห็นอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายผิดปกติบนท้องถนน ผู้คนฆ่ากันไล่ยิงกันกลางถนน เรื่องราวต่างๆส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังตะวันตกดิน รุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นอย่างผิดปกติ ขอคนบุญทั้งหลายให้สังเกตดีๆหนอแต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก ผมเพียงแจ้งให้ทราบไว้เพื่อความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตของท่านและครอบครัว บัดนี้ถึงเวลาอันสมควรแก่เหตุการณ์หรือที่แก้มแดงได้พิจารณาเรื่องเงื่อนเวลาที่ได้ให้ไว้แล้วและขอแจ้งอีกเรื่องหนึ่ง ดาวเคราะห์ที่จะมา พ่อฯได้บอกผมไว้เมื่อประมาณ 5ปีที่แล้วว่าให้ระวังเรื่องน้ำอย่างเดียว จะเสียหายแบบที่ประเมินค่าไม่ได้เลยคนจะตายกันเกลื่อน ตรงนี้ถ้าคนบุญพิจารณาถูกต้องถูกทิศถูกทางถูกธรรมอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ท่านย่อมเห็นเหตุและผลที่มันต้องเกิดว่า เราเป็นเพียงตัวละครที่ได้ถูกกำหนดให้เล่นไปตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบเท่านั้นเอง จุดหมายปลายทางของโลกและประเทศไทยนั้นจะจบลงอย่างไรท่านทั้งหลายคงทราบกันดีอยู่แล้ว
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    ตารางภัยธรรมชาติ ตารางภัยพิบัติ ที่แก้มแดงได้ทำไปแจกนั้น ถือได้ว่าเป็นคนแรกในประเทศไทย ที่ได้ทำเป็นแผน “schedule ตารางภัยธรรมชาติ ตารางภัยพิบัติ รวมทั้งได้กำหนดเงื่อนเวลาต่างๆลงไปใน แผน schedule โดยได้พิจารณาเห็นหลักธรรมชาติที่หมุนรอบแกนกลางกงล้อ หรือวัตรการเปลี่ยนแปลงธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ของโลก เห็นหลักหลายๆหลักที่ได้ซ่อนปริศนาธรรมไว้ ดังนั้นเมื่อแก้มแดงเข้าใจหลักและกงล้อต่างๆพอควรแล้ว แก้มแดงก็ได้กำหนดปีที่เริ่มต้นคือปี 2549 และสิ้นสุดปี 2562 โดยได้พิจารณาเห็นเป็นแบบองค์รวม ทั้งนี้ผมได้แบ่งภัยพิบัติที่ร้ายแรงออกเป็นสองช่วง คือ ภัยพิบัติที่ร้ายแรงระยะที่๑ และภัยพิบัติที่ร้ายแรงระยะที่๒ ผมได้กำหนดไว้หมด ปีไหนต้องระวังอันตราย ปีไหนต้องอพยพหนี ปีไหนต้องสวดมนต์เจริญสติๆเพื่อเตรียมรับกับ เหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด เหตุการณ์ที่น่าพรั่นพรึง ที่สุดของคนไทย ไม่มีภัยพิบัติใดที่จะทำให้เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มากไปกว่านี้แล้ว น่าเศร้าสลดใจ น่าหดหูใจ เป็นอย่างยิ่งยวดนัก ผมได้พิจารณาให้เห็นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งท่านทั้งหลายที่เป็นผู้โชคดี ที่ได้รับเอกสารแผน “schedule ตารางภัยธรรมชาติ ตารางภัยพิบัติ ไปสามารถไปต่อยอดทางปัญญาได้เองโดยธรรมชาติ ได้โดยไม่ขัดกับความเป็นจริง ไม่ขัดกับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วหรือกำลังเกิดอยู่ในในปัจจุบัน หรือในอนาคต ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรม ตามลำดับขั้นลำดับตอน แต่จะมีหลายต่อหลายเรื่องที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เหตุเพราะว่า แค่เหตุภัยพิบัติที่ร้ายแรงระยะที่๑ จะมีคนรอดชีวิตกันสักกี่คน รวมทั้งตัวผมด้วย แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่จะต้องพูดถึงภัยพิบัติร้ายแรงระยะที่๒ และอื่นๆอีกตามลำดับ
    <o:p> </o:p>
    ผมได้แจก “schedule ตารางภัยธรรมชาติ ตารางภัยพิบัติ เป็นธรรมทาน มากมายหลายต่อหลายร้อยชุด ซึ่งผมได้พิจารณาเห็นเรื่องราวต่างๆมากมายและนานพอสมควรแล้ว แต่ยังเก็บเป็นความลับอยู่ ช่วงนั้นเห็นควรว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เลยเริ่มที่จะทำเพื่อแจกเป็นธรรมทานโดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.. 2553(ก่อนหน้านี้หลายปีก็ได้แจกอย่างไม่เป็นทางการให้กับเครือญาติ) ที่วัดหลวงพ่อโอภาสี บางมด เป็นครั้งแรกที่แรกและที่อื่นๆ หลังจากที่ผมได้แจกเอกสารต่างๆไปได้ไม่นานนัก ประมาณ 4เดือนต่อมาได้พบเจอคลิปในยูทูปชื่อ ฝากเตือนภัยพิบัติโลก(บัวขาว) คลิปนี้เพิ่งจะลงภายในเดือนนั้นสดๆร้อนๆในยูทูปเป็นครั้งแรก ผมดีใจลึกๆในใจว่า ในสายพระเทพโลกอุดร เมื่อคนหนึ่งเห็น คนอื่นๆก็จะเห็นตามๆกันมาเหมือนเป็นทีมเดียวกัน ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน เหมือนมีนัยยะว่า แต่ละท่านพิจารณามาถูกทางแล้ว เข้าใจในรายละเอียดต่างๆถูกต้องอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เข้าใจหลักของธรรมชาติเหมือนกัน ตรงกันโดยไม่มีความขัดแย้งทางความคิดใดๆที่เห็นว่าไม่ใช่ ทุกอย่างสอดรับกันมากอย่างน่าอัศจรรย์ ในช่วงเวลาที่ผมได้แจกไปนั้นภัยพิบัติในประเทศไทยดูสงบ เรียบ เงียบ และไม่มีเหตุใดหรือสัญญาณใดๆที่จะต้องวิตก หรือตกใจ หรือไม่ปลอดภัยกับชีวิต หรือจะต้องมีการอพยพ และย้ายทรัพย์สินใดๆเลย เอกสารที่ได้แจกไปนั้นจะไม่มีการระบุชื่อ-นามสกุล ลงในตารางภัยธรรมชาติหรือเพื่อเรียกร้องทรัพย์สินใดๆเลย ทุกอย่างเป็นไปเพื่อคนบุญ เพื่อเป็นธรรมทานทั้งสิ้น หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดน้ำท่วมตามจังหวัดต่างๆจนถึงกรุงเทพเมื่อปลายปี2554ที่ผ่านมา ตารางภัยพิบัตินั้นผมได้หยุดแจกไปนานแล้วก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมเมื่อปลายปี2554เนื่องด้วยคนส่วนใหญ่มองว่าหาประโยชน์อะไรไม่มีเลย เพียงเขาเห็นตัวหนังสือสีแดงๆคำว่า ระวังอันตราย อพยพหนี สวดมนต์เจริญสติ เขาก็ทิ้งแล้วทิ้งต่อหน้าต่อตา ในขณะนั้น มีแว็บขึ้นมาในจิตในใจว่าให้หยุดทำแจก ให้แจกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายห้ามทำแจกอีก ซึ่งสถานที่แจกก็แจกอยู่ที่หน้าเจดีย์จุฬามณีที่ครอบศาลาเก็บศพของหลวงพ่อโอภาสี-บางมด เมื่อประมาณต้นปี2554 เป็นเหตุให้เลิกทำเลิกแจกนับตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ หยุดแจกเพื่อแจ้งข่าวเป็นต้นมา
    <o:p> </o:p>
    ดังนั้น “schedule ตารางภัยธรรมชาติ ตารางภัยพิบัติ จะมีอยู่ชุดหนึ่งที่ผมได้ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับคนในครอบครัวจริงๆถือว่าเป็นความลับที่สุด ซึ่งไม่มีการเปิดเผยเงื่อนเวลาต่างๆให้คนนอกรู้ เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น และไม่ปลอดภัยกับครอบครัว เช่น วัน-เดือน-ปี ที่จะมีการอพยพ ปีที่เริ่มและสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่3 น้ำจะท่วมฟ้าปลาจะกินดาวหรือโลกจะพลิกกลับขั่วหรือวันฟ้าดับหรือแล้วแต่จะเรียกกัน รายละเอียดอื่นๆได้พิจารณาเห็นมากมายพอควรแล้วว่าอะไรคือหลัก อะไรเป็นรอง อะไรเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ตามขั้นตามตอน ตามลำดับเหตุการณ์อย่างเป็นธรรมเป็นธรรมชาติ เมื่อเกิดสิ่งนี้จะมีอะไรตามมาบ้างและจะไปในทิศทางใดบ้าง ทำให้รู้เท่าทันเพื่อดักหรือพอที่จะแก้ปัญหาได้บ้าง ดังนั้นบางเรื่องผมพิจารณาเห็นควรแล้วว่าไม่เหมาะสมที่จะบอกหรือเปิดเผย จะทราบและเปิดเผยให้เฉพาะท่านที่มีบุญพร้อม ที่มีวาสนาดีแล้วในสายบุญ เท่านั้นต่อไปจะได้เกื้อหนุนกัน ช่วยเหลือกัน ให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มีความเจริญพร้อมเพื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคศิวิไล ตามอำนาจบารมีของพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆนุภาพ ท่านทั้งหลายอย่าได้โกรธเคืองกันเลยนะครับ ขืนฝืนบอกไปตัวผมอาจจะมีอันเป็นไปซึ่งผมไม่สามารถที่จะรับกรรมต่างๆที่ได้เกิดขึ้นไหว ทุกอย่างมันเป็นกฎแห่งกรรม ที่โลกของเราและทุกๆคนต้องพบเจอ รวมทั้งตัวผมเองด้วยถึงแม้จะทราบในรายละเอียดต่างๆพอสมควรก็ตามที
    <o:p> </o:p>
    การไขปริศนาธรรมเรื่อง พระมหาชนก นี้ แก้มแดงได้พิจารณาเห็นมาหลายสิบปีแล้วเห็นมาเรื่อยๆ เป็นขั้นเป็นตอนเป็นจังหวะการก้าวเดิน พิจารณาแล้วพิจารณาอีก พิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำอยู่เรื่อยไปเป็นสิบๆปี เมื่อผมพิจารณาไปเรื่อยๆสงสัยอะไรก็จะรู้ รู้เป็นขั้นๆไป รู้ได้ด้วยตัวเอง จะเข้าใจได้เองว่ามันเป็นอย่างนี้เองหนอ สงสัยอะไร (หลวงพ่อโอภาสี)ท่านก็จะสอนให้เข้าใจสิ่งที่มีอยู่ของธรรมชาติ มันจะแว็บขึ้นมาในจิตในใจให้คิดพิจารณาอย่างนี้นะ ให้เป็นไปในแนวทางอย่างนี้นะ เงื่อนเวลาต่างๆต้องเป็นอย่างนี้นะ พิจารณาซ้ำอยู่อย่างนั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า มีทางรอด เห็นทางรอด มีทางออกของประเทศไทย มีทางออกไว้ให้ลูกหลานไทยทุกๆคน มีทางให้ไทยเป็นมหาอำนาจ แก้มแดงเพิ่งจะได้มีโอกาส แสดงความคิดเห็นในเนื้อหาในรายละเอียดปริศนาธรรมเรื่องพระมหาชนกให้คนบุญทั้งหลายได้รับทราบรับรู้ถึงพระปรีชาสามารถของในหลวง ในหลวงท่านทรงเปรื่องปราชญ์มาก ทรงวางพื้นฐานไว้ให้ทุกอย่าง วางพื้นฐานไว้หมด ดังนั้นในเรื่องพระมหาชนกทั้งเล่มนี้ มันเกี่ยวกับความเป็นความตายความรอดของคนในชาติทั้งสิ้นเลย ทั้งเรื่องสังคม การเมือง เศรษฐกิจ อนาคต สึนามิในอ่าวไทย-ทะเลจีนใต้-อันดามัน การเริ่มต้น-การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่3 วันที่โลกพลิกกลับขั่วหรือน้ำจะท่วมฟ้าปลาจะกินดาวหรือช่วงวันฟ้าดับหรือแล้วแต่จะเรียกกัน การมาของพระศรีอริยเมตไตรย(อื่นๆที่ท่านทั้งหลายได้ตั้งคำถามปลายเปิดไว้มากมายหลายคำถาม) แม้กระทั่ง โครงสร้างการปกครองโดยธรรม หลักการบริหารราชการแผ่นดินโดยธรรมในยุคศิวิไล การฟื้นฟูต้นมะม่วง ๙ วิธี และอื่นๆอีกมากมาย ในหลวงท่านทรงแจ้งไว้หมดแล้วในเรื่องพระมหาชนกเล่มนี้ ผมเชื่อมั่นเป็นการส่วนตัวว่าในอนาคตคนบุญจะต้องสามัคคีกัน รวมกันเป็น ๑ เพื่อนำหลักการต่างๆในหนังสือพระมหาชนกเล่มนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวม ทั้งนี้ทั้งนั้นผมอยากจะให้คนบุญได้หาซื้อหรือนำติดตัวไปด้วยในการอพยพเผื่อว่าท่านจะได้เห็นทางออกเหมือนกับแก้มแดง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กระทู้ ตามรอยพระมหาชนก นี้ แก้มแดงไม่ได้พิจารณานอกกรอบจาก แผนตารางภัยธรรมชาติ ตารางภัยพิบัติ หรือ“schedule ตารางภัยธรรมชาติ ตารางภัยพิบัติ เลย ที่แก้มแดงได้ทำแจกไปก่อนหน้านี้นั้น ผมได้พิจารณาไปในแนวทางเดียวกันหมดเลย สอดคล้องกันอย่างเป็นลำดับขั้นลำดับตอนอย่าง เข้าใจเข้าถึง เป็นธรรมเป็นธรรมชาติ ถ้าเราพิจารณาถูกหลักถูกทิศถูกทางถูกต้องถูกธรรมแล้วทุกอย่างจะง่าย ถ้าเราพิจารณาต่าง ทุกอย่างจะขัดแย้งกันเองในตัว หรือเรียกว่าไปไม่เป็นหรือสับสนในตัวเองทุกอย่างจะยากทันทีหรือไม่เข้าใจทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาที่จะต้องแก้ต่างเรื่อยไป แก้สิ่งทีเขียนมาเรื่อยไป หรือเลื่อนออกไปบ้าง ก็ว่ากันไป <o:p></o:p>
     
  6. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาแสดงโอวาทธรรมไว้ให้คนบุญพิจารณาดังนี้ :<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    แรงศรัทธานั้นประกอบด้วยปัญญา อันเป็นปัญญาธรรมะพร้อมกับคุณธรรมที่มีอยู่ในใจของทุกท่าน ที่มีคุณธรรมอยู่แล้ว จึงได้เสาะแสวงหา ได้เห็นภาพของต้นไม้ทุกต้น บางต้นอยู่ในมุมอับ แต่เมื่อเราดูชัดๆแล้ว เราจะเห็นยอด เห็นลำต้น เอนออกมาจากมุมอับ เอนออกมาอย่างชัดเจน ต้นก็จะไม่ตรง จะเอนออกมาหาอะไร หาแสงแดดแสงพระอาทิตย์เพื่อความรอด สังเกตได้เลย ถ้าไม่หาแสงแดดเพื่อความรอดแล้ว จะไม่มีการสมดุลในลำต้น อาจจะเป็นโรค เป็นเพลี้ย ตายไปในที่สุด ไม่มีประโยชน์อันใดเลย ต้นไม้ทุกต้นหาทางรอด จะต้องมีแสงแดดแสงอาทิตย์ ชโลมโอบอุ้มกิ่งก้านสาขาให้แตกดอกออกผล ให้ยิ่งใหญ่ทั้งแก่นทั้งเปลือกทั้งใบทั้งรากแก้วรากแก่นให้สมบูรณ์ นี้คือธรรมชาติอันประเสริฐ เป็นหลักแห่งสัจธรรมอย่างหนึ่ง เผ่าพันธุ์บันทิต และผู้สร้างบุญวาสนาในธรรมมาเกิด ก็เช่นเดียวกัน<o:p></o:p>
    ทุกคนที่เกิดมาล้วนมีกิเลสตามมาด้วย กิเลสตัวนั้นก็คือ ตัวเคราะห์ ตัวกรรม ตัวเวร ตัวบาป ตัวอกุศลนั่นเอง ดังนั้นจึงมีกันทุกคนในโลกมนุษย์นี้ ยกเว้น พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ และผู้ที่ท่านเป็นพระอริยะเจ้าบางชาติที่ท่านกลับมาเกิด เช่นพระโสดาบัน เป็นต้น ท่านอาจจะเบาบางกิเลส และพระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ ท่านอุบัติเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของท่าน นอกจากนั้นแล้วกิเลสทั้งนั้น กิเลสก็คือ มาร ตัวเคราะห์ ตัวกรรม ตัวเวร ตัวบาป ตัวอกุศล เปรต อสูรกาย เดรัจฉาน กิเลสคือศัตรูคือฆ่าศึก เพราะธรรมเท่านั้น เป็นยอดแห่งอาวุธ เป็นยอดแห่งอาวุธที่ยิ่งใหญ่ ที่จะพ้นเคราะห์ พ้นมาร พ้นกิเลส พ้นศัตรู พ้นข้าศึกให้หมดไปจากใจ สิ้นเชิง ฉับพลันเป็นขั้นๆไป<o:p></o:p>
     
  7. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ทางรอดของประเทศไทยคือ เราๆท่านๆต้องเดินตามรอยเท้าพ่อ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    • ในยามที่คนไทยในชาติขาดความสามัคคีกัน ภัยพิบัติก็จะมาช่วยเราให้รอดพ้นจากการยึดครองของมหาอำนาจโลก มหาอำนาจต่างๆก็จะโดนภัยพิบัติอย่างรุนแรงแบบตังตัวไม่ติดเพื่อชลอสิ่งที่มหาอำนาจต้องการยึดครอง ถ้าไม่มีภัยพิบัติโลก ผมขอถามท่านทั้งหลายว่าแล้วจะมีประเทศใดในโลกใบนี้ที่จะมีความสามารถสยบมหาอำนาจโลกได้ แล้วถ้าไม่มีภัยพิบัติโลก ผมขอถามว่าไทยเราจะรอดพ้นจากมหาอำนาจโลกเหมือนที่ผ่านๆมาอีกหรือไม่ หรือไทยเราจะถูกแบ่งออกเป็นสองเหมือนหลายๆประเทศในโลกใบนี้ เช่น เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ มาเลเซีย-มาเลเซีย(สิงคโปร์) อิรัก-คูเวต เกาะฮ่องกง-จีนแผ่นดินใหญ่ อื่นๆ ไทยเรามีทรัพยากรธรรมชาติมากมายมหาศาลผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ผุดขึ้นมาให้เห็นค่ามากมายมหาศาลซึ่งประมาณค่าไม่ได้เลย ผมขอถามว่ามหาอำนาจโลกจะปล่อยเราไหม เขาเห็นแล้วก็คงไม่มีความต้องการอยากได้ทรัพยากรต่างๆใช่หรือไม่ ผมมีความเชื่อมั่นว่าท่านทั้งหลายมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเราๆท่านๆพิจารณาแล้ว และมั่นใจลึกๆว่าภัยพิบัติจะรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเรารู้และเข้าใจพอควรแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แน่นอน เราก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับความจริงที่เป็นอยู่ว่า เราคงจำต้องยอมเสียผู้คนจำนวนมากเพื่อสังเวยกับหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเป็นขั้นๆไป ถ้าภัยพิบัติไม่เกิดขึ้นตามแผนตามเงื่อนเวลาที่เหมาะสม หรือไม่มาช่วยประเทศไทยเราแล้ว เราคนไทยอาจจะสิ้นชาติก็เป็นไปได้หนอ เราอาจจะสิ้นคนดีๆที่เสียสละทำเพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนก็ได้หนอ เราอาจจะเป็นเมืองขึ้นของเขาก็ได้หนอ เมื่อวันนั้นมาถึงท่านทั้งหลายอาจจะพูดขึ้นมาว่า โอ๊วโชคดีอะไรเช่นนี้หนอ ภัยพิบัติมาช่วยเราได้ทันเวลา ช่วยในแต่ละจังหวะก้าวเดิน ทั้งรุกทั้งถอยทั้งยืดหยุ่นและหลบในแต่ละจังหวะ พิสดารจริงหนอ คนบุญสังเกตุหนอ ทุกวันนี้กลุ่มทุนใน-นอก กลุ่มทุนศาสนาที่บิดเบือนพระธรรม แม้กระทั่งระบบการศึกษาก็ผลิตลูกๆหลานๆมาก็เพื่อมารับใช้กลุ่มทุนเหล่านี้เป็นหลัก ทุนเหล่านี้ได้รุกเข้ามาเรื่อยๆหนอ รุกเข้ามาทุกสาขาอาชีพ ทั้งเทคโนโลยีและอาหาร ทุกชนชั้นทุนเหล่านี้ไม่ต้องการให้เราแข็งแรง สถาบันครอบครัว องค์กรต่างๆ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จะให้เราๆท่านๆมีความสามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้เลย คือทำให้เราแตกแยก อ่อนแอ กลัว โง่ และจน มีปัญหาอะไรก็ต้องวิ่ง ต้องชุมนุมเรียกร้อง ต้องง้อ ต้องอ่อนน้อม ต้องยอมไปพึ่งเขาตลอด ให้เขาช่วยเหลือเราอยู่ร่ำไปจนเราคิดน้อยลงทำให้เราถูกครอบงำได้โดยง่ายเหมือนกับถูกกลืนทุกทิศทุกทางเหมือนคนตาบอด ไร้ทางรอด อย่างเป็นธรรมชาติเป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วย่อมทำให้คุณธรรมเสื่อมหนอ อนาคตลูกหลานเราลำบากหนอ ถ้าขืนเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป จะอยู่กันอย่างไรหนอ
    • ภัยพิบัติโลกจะเปิดทางให้ผู้ทำหน้าที่เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ให้ได้มีโอกาส ทำในสิ่งที่สมควรทำเมื่อความผิดที่คนอวิชาต่างๆเหล่านั้นได้ทำร้ายทำลายประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ ชัดเจน และสำเร็จ จนไม่ต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม
    • วันใดที่มหาอำนาจโลกล่มสลาย หลักคิด-แนวคิด-ระบบสังคมแบบตะวันตกก็จะล่มสลายตามไปด้วย เป็นไปได้ว่าไทยเราจะได้เป็นมหาอำนาจโดยธรรม ได้มีโอกาสทำโครงสร้างการปกครองโดยธรรม หลักการบริหารราชการแผ่นดินโดยธรรม แบบ……… ที่ถูกหลักธรรม ให้สมกับเป็นยุคศิวิไลโดยแท้ โดยไม่ถูกมหาอำนาจครอบงำ หรือแทรกแซงเหมือนที่ผ่านมา
    • โครงสร้างการปกครองประชาธิปไตยแบบตะวันตกโดยยึดแนวทางทุนเศรษฐกิจครอบครองประเทศและครอบครองโลก ดังนั้นการปกครองแบบนี้ในประเทศไทยอาจจะล่มสลายลงได้ แต่มีทางเป็นไปได้ที่จะเกิดโครงสร้างการปกครองโดยธรรมขึ้นมาใหม่ โดยประเทศไทยจะเป็น ต้นแบบของการปกครองแบบที่มีธรรม โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จุดนี้จะชื่ออะไรก็ไม่ทราบได้ต้องพึ่งพระปัญญาธรรมของพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ และบุญนุภาพของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เป็นหลักเป็นมงคลนามในการประทานชื่อ
    • ผู้ที่จะได้มีโอกาสร่วมกันทำโครงสร้างการปกครอง หลักการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องเป็นผู้มีศีลมีธรรม มีคุณธรรม เป็นผู้บรรลุธรรมเป็นขั้นๆไป รวมถึงพุทธบริษัท 4 ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นจะไม่ยึดถือใบประกาศการศึกษาว่าจะจบการศึกษาระดับไหน มาจากไหน ในหรือนอกประเทศ ผู้ที่มีความรู้น้อยแต่มีคุณธรรม มีปัญญาธรรมย่อมมีสิทธิ์เข้าถึงได้โดยธรรมชาติ หรือผู้ที่พิกลพิการหากมีความรู้น้อยแต่มีคุณธรรม มีปัญญาธรรมย่อมมีสิทธิ์เข้าถึงธรรมด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นธรรมย่อมไม่แบ่งแยก ยากดีมีจน ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงธรรมอย่างเสมอภาพ ท่านกล่าวว่า มีนักเรียนนอกผู้หนึ่ง เรียนสำเร็จจากต่างประเทศ กลับเข้ามาทำงานในที่แห่งหนึ่งซึ่งต้องข้ามน้ำไปกลับทุกวันและโดยปกติก็นั่งเรือจ้างของคนแจวเรือจ้างแก่คนหนึ่งเป็นประจำ ในขณะที่นั่งเรือจ้างข้ามฟาก ได้ถามคนแจวเรือจ้างว่าลุงรู้ภาษาอังกฤษหรือเปล่า คนแจวเรือบอกว่าไม่รู้ ในคราวต่อมาก็มักถามว่า ลุงรู้แอลยิบรา (พีชคณิต) หรือเปล่า ร็ยีออเมทรี(เรขาคณิต) หรือเปล่า คนแจวเรือจ้างก็ตอบว่า ไม่รู้ ครั้นต่อมาวันหนึ่งเกิดมีคลื่นจัดจนเรือจ้างล่มลง นักเรียนนอกผู้นั้นว่ายน้ำไม่ถนัดก็ร้องขอให้คนแจวเรือจ้างช่วย คนแจวเรือก็ตอบว่า ตนไม่มีความรู้อะไรสักอย่าง ให้นักเรียนนอกผู้นั้นเอาอังกฤษ ฝรั่งเศสมาช่วยซิ นักเรียนนอกผู้นั้นรู้สึกว่าตนจะจมน้ำตายแน่ก็หมดความทะนงตน ก็อ้อนวอนขอให้คนแจวเรือจ้างช่วยแล้วจะกราบไหว้ขอโทษ ฝ่ายคนแจวเรือจ้างก็เกิดความสงสาร จึงว่ายน้ำไปช่วยพยุงให้มาเกาะเรือจ้างไว้<o:p></o:p>
    เรื่องนี้เป็นตัวอย่างแสดงว่า คนเรามีความสามารถในทางต่างๆกัน ไม่ควรจะหมิ่นแคลนกัน คนแจวเรือมีความสามารถในทางแจวเรือและในทางว่ายน้ำ อาจจะช่วยตนเองและผู้อื่นได้ในทางนั้น ดังที่อาจช่วยนักเรียนนอกให้พ้นจากการจมน้ำ แม้หนูก็ยังช่วยราชสีห์ได้ในนิทานอีสป และนักเรียนนอกผู้นั้นเมื่อถึงคราวคับขันดังกล่าวก็ต้องใช้วิธีขอโทษและวิธีกราบไหว้ ซึ่งเป็นความอ่อนน้อมอ่อนโยน ซึ่งผู้ปกครองได้สอนมาแต่เด็กๆนั่นเอง เป็นเครื่องช่วยตน<o:p></o:p>
    • บุคคลผู้ซึ่งไม่มีศีลมีธรรม ไม่มีคุณธรรม ไม่มีศาสนา จะถูกกวาดล้างโดยภัยพิบัติต่างๆเป็นไปโดยธรรมโดยธรรมชาติ จนเหลือผู้ที่มีศีลมีธรรม มีคุณธรรม ดังนั้นภัยพิบัติต่างๆจะบังคับทั้งทางตรงทางอ้อมให้ผู้คนต่างๆหันมาพึ่งพระพุทธานุภาพ พระธรรมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ บุญนุภาพของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของแต่ละท่าน เพื่อความรอด ฉะนั้นแล้วการอพยพของแต่ละท่านๆต้องพิจารณาหาทางรอดเอาเองว่า ที่ใดมีแสงสว่าง ที่ใดมีแสงพระอาทิตย์ กรรมดีกรรมชั่วจะเป็นตัวกำหนด ไม่มีใครตอบแทนท่านทั้งหลายได้ นอกจากตัวของท่านเอง เหมือนดังที่มีคนพูดกันว่า ชะตาฟ้าลิขิต ดังนั้นคนบุญต้องมีความเพียร ความเพียรเป็นตัวสำเร็จ
    <o:p> </o:p>
    ใครนี่ เมื่อมองไม่เห็นฝั่ง ก็ยังกระทำความเพียร
    ว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร
    ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นัก ฯ
    ดูกรเทวดา เราพิจารณาเห็นวัตรของโลก
    และอานิสงส์แห่งความพยายาม
    เพราะฉะนั้น ถึงจะไม่เห็นฝั่ง
    เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร ฯ
    ฝั่งมหาสมุทรอันลึกประมาณไม่ได้ ย่อมไม่ปรากฏ
    ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่าน ย่อมเปล่าประโยชน์
    ท่านยังไม่ทันจะถึงฝั่ง ก็จักต้องตายเป็นแน่ ฯ
    บุคคลผู้กระทำความเพียรอยู่ แม้จะตาย ก็ชื่อว่าไม่เป็นหนี้
    คือ ไม่ถูกติเตียนในระหว่างหมู่ญาติ เทวดา และพรหมทั้งหลาย
    อนึ่ง บุคคลเมื่อกระทำกิจของบุรุษอยู่ ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง
    การงานอันใดยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม
    การงานอันนั้นก็ไร้ผล มีความลำบากเกิดขึ้น
    ความปรากฏแก่บุคคล ผู้กระทำความพยายามในอันมิใช่ฐานะใด
    จะมีประโยชน์อะไรด้วยความพยายามในอันมิใช่ฐานะนั้น ฯ
    ดูกรเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่า
    การงานนี้ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายามแล้ว
    ไม่ป้องกันอันตราย ชื่อว่าไม่พึงรักษาชีวิตของตน
    ถ้าผู้นั้นพึงละความเพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย
    ก็จะพึงรู้ผลแห่งความเกียจคร้านนั้น ฯ
    ดูกรเทวดา คนบางพวกในโลกนี้
    เห็นอยู่ซึ่งผลแห่งความประสงค์ จึงประกอบการงานทั้งหลาย
    การงานเหล่านั้นจะสำเร็จก็ตาม ไม่สำเร็จก็ตาม
    ดูกรเทวดา ท่านย่อมเห็นผลแห่งการงานอันประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ
    คนอื่นๆ พากันจมลงในมหาสมุทร เราคนเดียวเท่านั้นพยายามว่ายข้ามอยู่
    และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้เรา
    เรานั้นจักพยายามตามสติกำลัง
    จักทำความเพียรที่บุรุษพึงกระทำ ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร ฯ
    ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม
    ไม่จมลงในห้วงมหรรณพทั้งลึก ทั้งกว้างเห็นปานนี้
    ด้วยการกระทำความเพียรของบุรุษ ฯ<o:p></o:p>
     
  8. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ทางรอดของประเทศไทยคือ เราๆท่านๆต้องเดินตามรอยเท้าพ่อ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    1. ในยามที่คนไทยในชาติขาดความสามัคคีกัน ภัยพิบัติก็จะมาช่วยเราให้รอดพ้นจากการยึดครองของมหาอำนาจโลก มหาอำนาจต่างๆก็จะโดนภัยพิบัติอย่างรุนแรงแบบตังตัวไม่ติดเพื่อชลอสิ่งที่มหาอำนาจต้องการยึดครอง ถ้าไม่มีภัยพิบัติโลก ผมขอถามท่านทั้งหลายว่าแล้วจะมีประเทศใดในโลกใบนี้ที่จะมีความสามารถสยบมหาอำนาจโลกได้ แล้วถ้าไม่มีภัยพิบัติโลก ผมขอถามว่าไทยเราจะรอดพ้นจากมหาอำนาจโลกเหมือนที่ผ่านๆมาอีกหรือไม่ หรือไทยเราจะถูกแบ่งออกเป็นสองเหมือนหลายๆประเทศในโลกใบนี้ เช่น เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ มาเลเซีย-มาเลเซีย(สิงคโปร์) อิรัก-คูเวต เกาะฮ่องกง-จีนแผ่นดินใหญ่ อื่นๆ ไทยเรามีทรัพยากรธรรมชาติมากมายมหาศาลผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ผุดขึ้นมาให้เห็นค่ามากมายมหาศาลซึ่งประมาณค่าไม่ได้เลย ผมขอถามว่ามหาอำนาจโลกจะปล่อยเราไหม เขาเห็นแล้วก็คงไม่มีความต้องการอยากได้ทรัพยากรต่างๆใช่หรือไม่ ผมมีความเชื่อมั่นว่าท่านทั้งหลายมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเราๆท่านๆพิจารณาแล้ว และมั่นใจลึกๆว่าภัยพิบัติจะรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเรารู้และเข้าใจพอควรแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แน่นอน เราก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับความจริงที่เป็นอยู่ว่า เราคงจำต้องยอมเสียผู้คนจำนวนมากเพื่อสังเวยกับหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเป็นขั้นๆไป ถ้าภัยพิบัติไม่เกิดขึ้นตามแผนตามเงื่อนเวลาที่เหมาะสม หรือไม่มาช่วยประเทศไทยเราแล้ว เราคนไทยอาจจะสิ้นชาติก็เป็นไปได้หนอ เราอาจจะสิ้นคนดีๆที่เสียสละทำเพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนก็ได้หนอ เราอาจจะเป็นเมืองขึ้นของเขาก็ได้หนอ เมื่อวันนั้นมาถึงท่านทั้งหลายอาจจะพูดขึ้นมาว่า โอ๊วโชคดีอะไรเช่นนี้หนอ ภัยพิบัติมาช่วยเราได้ทันเวลา ช่วยในแต่ละจังหวะก้าวเดิน ทั้งรุกทั้งถอยทั้งยืดหยุ่นและหลบในแต่ละจังหวะ พิสดารจริงหนอ คนบุญสังเกตุหนอ ทุกวันนี้กลุ่มทุนใน-นอก กลุ่มทุนศาสนาที่บิดเบือนพระธรรม แม้กระทั่งระบบการศึกษาก็ผลิตลูกๆหลานๆมาก็เพื่อมารับใช้กลุ่มทุนเหล่านี้เป็นหลัก ทุนเหล่านี้ได้รุกเข้ามาเรื่อยๆหนอ รุกเข้ามาทุกสาขาอาชีพ ทั้งเทคโนโลยีและอาหาร ทุกชนชั้นทุนเหล่านี้ไม่ต้องการให้เราแข็งแรง สถาบันครอบครัว องค์กรต่างๆ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จะให้เราๆท่านๆมีความสามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้เลย คือทำให้เราแตกแยก อ่อนแอ กลัว โง่ และจน มีปัญหาอะไรก็ต้องวิ่ง ต้องชุมนุมเรียกร้อง ต้องง้อ ต้องอ่อนน้อม ต้องยอมไปพึ่งเขาตลอด ให้เขาช่วยเหลือเราอยู่ร่ำไปจนเราคิดน้อยลงทำให้เราถูกครอบงำได้โดยง่ายเหมือนกับถูกกลืนทุกทิศทุกทางเหมือนคนตาบอด ไร้ทางรอด อย่างเป็นธรรมชาติเป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วย่อมทำให้คุณธรรมเสื่อมหนอ อนาคตลูกหลานเราลำบากหนอ ถ้าขืนเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป จะอยู่กันอย่างไรหนอ
    2. ภัยพิบัติโลกจะเปิดทางให้ผู้ทำหน้าที่เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ให้ได้มีโอกาส ทำในสิ่งที่สมควรทำเมื่อความผิดที่คนอวิชาต่างๆเหล่านั้นได้ทำร้ายทำลายประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ ชัดเจน และสำเร็จ จนไม่ต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม
    3. วันใดที่มหาอำนาจโลกล่มสลาย หลักคิด-แนวคิด-ระบบสังคมแบบตะวันตกก็จะล่มสลายตามไปด้วย เป็นไปได้ว่าไทยเราจะได้เป็นมหาอำนาจโดยธรรม ได้มีโอกาสทำโครงสร้างการปกครองโดยธรรม หลักการบริหารราชการแผ่นดินโดยธรรม แบบ……… ที่ถูกหลักธรรม ให้สมกับเป็นยุคศิวิไลโดยแท้ โดยไม่ถูกมหาอำนาจครอบงำ หรือแทรกแซงเหมือนที่ผ่านมา
    4. โครงสร้างการปกครองประชาธิปไตยแบบตะวันตกโดยยึดแนวทางทุนเศรษฐกิจครอบครองประเทศและครอบครองโลก ดังนั้นการปกครองแบบนี้ในประเทศไทยอาจจะล่มสลายลงได้ แต่มีทางเป็นไปได้ที่จะเกิดโครงสร้างการปกครองโดยธรรมขึ้นมาใหม่ โดยประเทศไทยจะเป็น ต้นแบบของการปกครองแบบที่มีธรรม โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จุดนี้จะชื่ออะไรก็ไม่ทราบได้ต้องพึ่งพระปัญญาธรรมของพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ และบุญนุภาพของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เป็นหลักเป็นมงคลนามในการประทานชื่อ
    5. ผู้ที่จะได้มีโอกาสร่วมกันทำโครงสร้างการปกครอง หลักการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องเป็นผู้มีศีลมีธรรม มีคุณธรรม เป็นผู้บรรลุธรรมเป็นขั้นๆไป รวมถึงพุทธบริษัท 4 ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นจะไม่ยึดถือใบประกาศการศึกษาว่าจะจบการศึกษาระดับไหน มาจากไหน ในหรือนอกประเทศ ผู้ที่มีความรู้น้อยแต่มีคุณธรรม มีปัญญาธรรมย่อมมีสิทธิ์เข้าถึงได้โดยธรรมชาติ หรือผู้ที่พิกลพิการหากมีความรู้น้อยแต่มีคุณธรรม มีปัญญาธรรมย่อมมีสิทธิ์เข้าถึงธรรมด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นธรรมย่อมไม่แบ่งแยก ยากดีมีจน ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงธรรมอย่างเสมอภาพ ท่านกล่าวว่า มีนักเรียนนอกผู้หนึ่ง เรียนสำเร็จจากต่างประเทศ กลับเข้ามาทำงานในที่แห่งหนึ่งซึ่งต้องข้ามน้ำไปกลับทุกวันและโดยปกติก็นั่งเรือจ้างของคนแจวเรือจ้างแก่คนหนึ่งเป็นประจำ ในขณะที่นั่งเรือจ้างข้ามฟาก ได้ถามคนแจวเรือจ้างว่าลุงรู้ภาษาอังกฤษหรือเปล่า คนแจวเรือบอกว่าไม่รู้ ในคราวต่อมาก็มักถามว่า ลุงรู้แอลยิบรา (พีชคณิต) หรือเปล่า ร็ยีออเมทรี(เรขาคณิต) หรือเปล่า คนแจวเรือจ้างก็ตอบว่า ไม่รู้ ครั้นต่อมาวันหนึ่งเกิดมีคลื่นจัดจนเรือจ้างล่มลง นักเรียนนอกผู้นั้นว่ายน้ำไม่ถนัดก็ร้องขอให้คนแจวเรือจ้างช่วย คนแจวเรือก็ตอบว่า ตนไม่มีความรู้อะไรสักอย่าง ให้นักเรียนนอกผู้นั้นเอาอังกฤษ ฝรั่งเศสมาช่วยซิ นักเรียนนอกผู้นั้นรู้สึกว่าตนจะจมน้ำตายแน่ก็หมดความทะนงตน ก็อ้อนวอนขอให้คนแจวเรือจ้างช่วยแล้วจะกราบไหว้ขอโทษ ฝ่ายคนแจวเรือจ้างก็เกิดความสงสาร จึงว่ายน้ำไปช่วยพยุงให้มาเกาะเรือจ้างไว้<o:p></o:p>
    เรื่องนี้เป็นตัวอย่างแสดงว่า คนเรามีความสามารถในทางต่างๆกัน ไม่ควรจะหมิ่นแคลนกัน คนแจวเรือมีความสามารถในทางแจวเรือและในทางว่ายน้ำ อาจจะช่วยตนเองและผู้อื่นได้ในทางนั้น ดังที่อาจช่วยนักเรียนนอกให้พ้นจากการจมน้ำ แม้หนูก็ยังช่วยราชสีห์ได้ในนิทานอีสป และนักเรียนนอกผู้นั้นเมื่อถึงคราวคับขันดังกล่าวก็ต้องใช้วิธีขอโทษและวิธีกราบไหว้ ซึ่งเป็นความอ่อนน้อมอ่อนโยน ซึ่งผู้ปกครองได้สอนมาแต่เด็กๆนั่นเอง เป็นเครื่องช่วยตน<o:p></o:p>
    6. บุคคลผู้ซึ่งไม่มีศีลมีธรรม ไม่มีคุณธรรม ไม่มีศาสนา จะถูกกวาดล้างโดยภัยพิบัติต่างๆเป็นไปโดยธรรมโดยธรรมชาติ จนเหลือผู้ที่มีศีลมีธรรม มีคุณธรรม ดังนั้นภัยพิบัติต่างๆจะบังคับทั้งทางตรงทางอ้อมให้ผู้คนต่างๆหันมาพึ่งพระพุทธานุภาพ พระธรรมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ บุญนุภาพของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของแต่ละท่าน เพื่อความรอด ฉะนั้นแล้วการอพยพของแต่ละท่านๆต้องพิจารณาหาทางรอดเอาเองว่า ที่ใดมีแสงสว่าง ที่ใดมีแสงพระอาทิตย์ กรรมดีกรรมชั่วจะเป็นตัวกำหนด ไม่มีใครตอบแทนท่านทั้งหลายได้ นอกจากตัวของท่านเอง เหมือนดังที่มีคนพูดกันว่า ชะตาฟ้าลิขิต ดังนั้นคนบุญต้องมีความเพียร ความเพียรเป็นตัวสำเร็จ
    <o:p> </o:p>
    ใครนี่ เมื่อมองไม่เห็นฝั่ง ก็ยังกระทำความเพียร
    ว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร
    ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นัก ฯ
    ดูกรเทวดา เราพิจารณาเห็นวัตรของโลก
    และอานิสงส์แห่งความพยายาม
    เพราะฉะนั้น ถึงจะไม่เห็นฝั่ง
    เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร ฯ
    ฝั่งมหาสมุทรอันลึกประมาณไม่ได้ ย่อมไม่ปรากฏ
    ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่าน ย่อมเปล่าประโยชน์
    ท่านยังไม่ทันจะถึงฝั่ง ก็จักต้องตายเป็นแน่ ฯ
    บุคคลผู้กระทำความเพียรอยู่ แม้จะตาย ก็ชื่อว่าไม่เป็นหนี้
    คือ ไม่ถูกติเตียนในระหว่างหมู่ญาติ เทวดา และพรหมทั้งหลาย
    อนึ่ง บุคคลเมื่อกระทำกิจของบุรุษอยู่ ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง
    การงานอันใดยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม
    การงานอันนั้นก็ไร้ผล มีความลำบากเกิดขึ้น
    ความปรากฏแก่บุคคล ผู้กระทำความพยายามในอันมิใช่ฐานะใด
    จะมีประโยชน์อะไรด้วยความพยายามในอันมิใช่ฐานะนั้น ฯ
    ดูกรเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่า
    การงานนี้ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายามแล้ว
    ไม่ป้องกันอันตราย ชื่อว่าไม่พึงรักษาชีวิตของตน
    ถ้าผู้นั้นพึงละความเพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย
    ก็จะพึงรู้ผลแห่งความเกียจคร้านนั้น ฯ
    ดูกรเทวดา คนบางพวกในโลกนี้
    เห็นอยู่ซึ่งผลแห่งความประสงค์ จึงประกอบการงานทั้งหลาย
    การงานเหล่านั้นจะสำเร็จก็ตาม ไม่สำเร็จก็ตาม
    ดูกรเทวดา ท่านย่อมเห็นผลแห่งการงานอันประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ
    คนอื่นๆ พากันจมลงในมหาสมุทร เราคนเดียวเท่านั้นพยายามว่ายข้ามอยู่
    และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้เรา
    เรานั้นจักพยายามตามสติกำลัง
    จักทำความเพียรที่บุรุษพึงกระทำ ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร ฯ
    ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม
    ไม่จมลงในห้วงมหรรณพทั้งลึก ทั้งกว้างเห็นปานนี้
    ด้วยการกระทำความเพียรของบุรุษ ฯ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    7. ภัยพิบัติจะบังคับให้คนบุญไปรวมตัวกันตามสายบุญ ตามจริตของแต่ละท่านเพื่อความรอด เพื่อให้คนบุญทุกๆคนไม่ว่าอาชีพใด สาขาใด ยากดีมีจน ทุกเพศทุกวัยได้บวชเพื่อที่จะเป็น มนุษย์ธรรม ท่านกล่าวว่า มนุษย์ธรรม คือ เป็นธรรมของมนุษย์ แปลว่า คนเราจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้น มิใช่ว่าจะเกิดมาเป็นมนุษย์เท่านั้น จะต้องมีธรรมสำหรับมนุษย์อีกด้วย จนถึงมีภาษิตหิโตปเทศที่กล่าวไว้โดยความว่า คนและสัตว์เดรัจฉานนั้น ย่อมมีการกินการนอน การสืบพันธุ์ เสมอกัน แต่สิ่งที่ทำให้คนต่างกับสัตว์เดรัจฉานนั้นก็คือธรรม และธรรมที่เป็นเครื่องสนับสนุนให้มีศีล ๕ ที่เรียกว่า เป็นเหตุอันใกล้ ก็คือ หิริ ความละอายแก่ใจ โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อความชั่ว หิริโอตตัปปะนี้เป็นเหตุใกล้ของศีล<o:p></o:p>
    ในมนุษย์เรานี้มีธรรมเป็นเครื่องผูกพันสังคมอยู่อีกส่วนหนึ่ง กลายเป็นสังคมที่ตั้งขึ้นโดยธรรมชาติ เหนือธรรมชาติ แต่ว่าสังคมของสัตว์เดรัจฉานนั้นยังเป็นสังคมโดยธรรมชาติ ให้พิจารณาเทียบเคียงดู ดังจะพึงเห็นได้ว่า ในสังคมเดรัจฉานนั้น เมื่อมีลูกทีแรกแม่ก็รักลูก แต่ว่าพ่อนั้นดูเหมือนคล้ายๆว่าจะไม่รับรองลูก แต่ว่ามีสัตว์บางชนิดที่เป็นพ่อก็จะรับรองรับเลี้ยงดูแลลูกอยู่เหมือนกัน แต่ว่าความรักของสัตว์เดรัจฉานนี้มีโดยธรรมชาติธรรมดาและมักจะมีอยู่ในระยะต้นเท่านั้น ในเมื่อลูกยังเล็กและรักษาตัวเองป้องกันตัวเองไม่ได้ เหมือนอย่างธรรมชาติสร้างมาให้เดรัจฉานรู้จักรักลูกรับรองลูกในระยะต้นนี้เท่านั้น แต่ครั้นเมื่อลูกโตใหญ่แล้วพอที่จะรักษาตัวเองได้เลี้ยงตัวเองได้แล้ว ก็เหมือนว่าไม่รู้จักกันไม่รับรองกัน ข้อนั้นไม่ต้องพูดถึง โดยมากไม่รับรองลูกมาตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว และเมื่อถึงระยะนั้นพ่อแม่ก็เหมือนอย่างเลิกเป็นพ่อแม่ ลูกก็เหมือนอย่างเลิกเป็นลูกไม่รับรองกันไม่ต้องนับถือกัน และเมื่ออยู่ด้วยกันก็มีการเล่นกันก็เหมือนอย่างเป็นมิตรสหายกัน แต่ในเวลาที่พบอาหารเข้าแล้ว แย่งกันกัดกันอย่างสุนัข ปกติก็เหมือนอย่างเป็นมิตรกัน ในเวลาที่พบอาหารเข้า ความต้องการอาหารมากกว่า แย่งกันกัดกันเลิกเป็นเพื่อนกันแล้วในขณะที่พบอาหาร และในระหว่างการครองคู่ก็เป็นเหมือนอย่างเป็นมิตรกัน ในเวลาที่ต้องการขึ้นก็ปฏิบัติต่อกันในขณะที่ต้องการเท่านั้น แล้วก็เลิกกันเหมือนอย่างไม่มีการนับถือว่าเป็นสามีภรรยากัน ทั้งไม่ต้องนึกถึงหิริโอตัปปะอะไรทั้งนั้นเพราะไม่มีความรู้ที่จะมีธรรมเหล่านี้ที่เป็นสังคมธรรมชาติ<o:p></o:p>
    มนุษย์เราก็เป็นสังคมธรรมชาติ แต่ว่ามีธรรมนี้เองที่เป็นเครื่องสร้างสังคม เป็นสังคมธรรมอีกส่วนหนึ่งซ้อนอยู่ในสังคมธรรมชาติ เช่นภาวะของความผูกพันอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเป็นตระกูลร่วมกัน โดยมีบุพการี เช่น ปู่ยา ตายาย บิดามารดา เป็นที่เคารพนับถือ และมีอนุชน เช่น บุตรธิดา หลาน เป็นต้น เป็นกตัญญูกตเวทีและมีพรหมวิหารธรรม มีเมตตากรุณาเป็นต้น <o:p></o:p>
    เพราะนั้น ก็ให้เราทั้งหลายได้มีความสำนึกในธรรมมานุภาพของพระพุทธเจ้า และก็ตั้งใจปฎิบัติอย่างดีที่สุด อย่าไปเอาอย่างระบบสังคมฝรั่งที่เหลวแหลกจนเกือบจะใกล้กับระบบสังคมธรรมชาติของสัตว์เดรัจฉานดังที่กล่าวมาแล้ว และก็อย่าตามใจตัวเอง ตามใจตัวเองนั้นก็คือ ตามใจตัณหาความดิ้นรน ทะยานอยากในใจของตัวเอง เพื่อจะได้มีความประหยัดจากกรรมชั่วส่งเสริมคนในกรรมดี<o:p></o:p>
    8. รายละเอียดของคนบุญที่จะรอด คนบุญที่จะมารวมตัวกันโดยธรรมชาติ ตามสายบุญ ตามกรรม ตามจริต ตามปัญญาธรรม ตามความเชื่อความศรัทธาที่มีต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของแต่ละท่าน ฯลฯ ทุกอย่างกรรมจะเป็นตัวกำหนดให้พบเจอของจริง ของเก๋ หรือของปลอม ขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของแต่ละคนไป ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติ
    9. เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พ่อแม่ครูบาอาจารย์แต่ละสายบุญจะแจ้งคนบุญให้ทราบเอง เพื่อให้มารวมตัวกันเป็นสายบุญที่ยิ่งใหญ่ เป็นสายบุญที่เป็น ๑ เป็นเลิศ
    10. เมื่อคนมีหลักมีคุณธรรมประจำใจเป็นพื้นฐานที่มั่นคง แข็งแรง และเป็นมนุษย์ธรรมที่สมบูรณ์ดีแล้วพร้อมแล้ว คนบุญที่เหลือจะออกมาช่วยกันฟื้นฟูประเทศตามวิธีที่ในหลวงท่านทรงชี้แนะแนวทางไว้ให้คือ วิธีฟื้นฟูต้นมะม่วง ๙ วิธี เป็นผลให้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มั่นคงสถาพร เมื่อวันเวลานั้นมาถึงจะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่จะเริ่มเข้าสู่ยุคศิวิไล
    11. รายละเอียดต่างๆของโครงสร้างการปกครองโดยธรรม แก้มแดงได้พิจารณาปูพื้นฐานเป็นแนวทางเบื้องต้นไว้ให้คร่าวๆแบบหยาบที่สุดแล้ว อาจจะผิดบ้างถูกบ้าง แก้มแดงขอน้อมกราบขอขมาลาโทษ ขอกราบอโหสิกรรมต่อท่านผู้รู้ ผุ้มีปัญญาธรรม ผู้บรรลุธรรมทุกๆท่านด้วยจิตด้วยใจที่บริสุทธิ์
    12. ทุกอย่างที่แก้มแดงพิจารณาเห็นนั้น เป็นเพียงแนวคิดอุดมคติเท่านั้น พิจารณาไปตามหลักธรรมชาติที่เห็น จะมีจริงหรือไม่นั้น แก้มแดงมีความเชื่อมั่นว่า ท่านทั้งหลายคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
    13. แก้มแดงขอสรุปเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา ที่จะต้องใช้ในอนาคตสำหรับคนบุญทั้งหลาย เพื่อให้เข้าใจตรงกันกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะได้ใช้ได้ถูกต้อง ถูกกับสถานที่ต่างๆที่ท่านจะต้องไปอยู่ ไปหลบภัย อาจจะผิดบ้างถูกบ้างก็ขอน้อมกราบขออโหสิกรรมขอขมาลาโทษมาในโอกาสนี้ด้วย
     
  9. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    บันไดขั้นที่ ๑ การให้ทาน(เพื่อตัดความโลภ) ถ้าเราปฎิบัติขั้นนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่าเราจะมีกินและมีใช้ไม่อดตาย ดังนั้นการให้ทานมากก็ตาม น้อยก็ตาม ผลของทานทำให้เกิดในสวรรค์ ถ้าหากพ้นจากสวรรค์มาแล้ว เป็นคนที่ไม่ยากจนเข็ญใจ แต่ว่าจะรวยเท่าไหร่นั้นเป็นเขตของทานนะท่านเรียกว่า ปุญญักเขตตังเป็นเนื้อนาบุญ ถ้าเราให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์มากเราก็รวยมาก ให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์น้อย เราก็มีทรัพย์สินน้อย แต่คำว่าอดตายเราไม่มี<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  10. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    บันไดขั้นที่ ๒ รักษาศีล(เพื่อตัดความโกรธ) ถ้าเราปฎิบัติขั้นนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่าเราจะมีร่างกายมีอวัยวะครบ32 ประการ
    ศีล ๕ หรือศีลเฉพาะผู้ครองเรือน (ถ้าท่านต้องการปฏิบัติ ท่านต้องขอศีลถึงจะได้อานิสงส์ผลบุญ)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ศีลข้อ ๑ ปาณาติบาต คือไม่มีจิตคิดที่จะฆ่าหรือเบียดเบียนหรือตัดชีวิตใคร เพราะศีลข้อนี้เราจะรักษาได้ก็ต้องอาศัย เมตตา เป็นปัจจัย ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่าเราจะมีอายุยืนยาว รูปร่างหน้าตาสวยงาม มีโรคภัยไข้เจ็บน้อยเพราะว่ามันเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์(ถ้าละเนื้อสัตว์หรือกินเจได้ก็จะดีมาก)<o:p></o:p>
    ศีลข้อ ๒ อทินนาทานา หรือละเลิกการขโมย การฉ้อฉลของคนอื่นมาเป็นของตน ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่า ทรัพย์สินของเราทั้งหมดที่มีอยู่จะไม่มีภัยจากไฟไหม้ จากน้ำท่วม จากโจรขโมย
    ศีลข้อ ๓ กาเมสุมิฉาจาร หรือละเว้นการประพฤติผิดในกาม ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่า ลูกหลานบริวารจะว่านอนสอนง่ายไม่ดื้อรั้น<o:p></o:p>
    ศีลข้อ ๔ มุสา หรือละเว้นการโกหก ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่า พูดแล้วมีคนอยากฟังอยากเชื่อ และมีเสนห์ในวาจาที่เปล่งออกมา
    ศีลข้อ ๕ สุรา หรือละเว้นจากการดื่มเครื่องดองของเมา ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่า เราจะกลายเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่เป็นโรคประสาท
    <o:p> </o:p>
    ศีล ๘ หรือ อุโบสถศีล(ศีลเฉพาะผู้ออกจากเรือนหรือไม่ต้องการครองเรือนเหมือนศีล๕) เป็นศีลสำหรับอุบาสถ(ผู้ชาย) และอุบาสิกา(ผู้หญิง) ส่วนใหญ่แล้วจะสมาทานศีลกันในเช้าทุกๆวันพระ โดยให้เช็คดูซิว่า ที่ผ่านมาศีลขาดไหมถือครบไหม ถ้าไม่ครบไม่สมบูรณ์ก็ให้เริ่มสมาทานศีลใหม่ให้สมบูรณ์และรักษาให้บริสุทธิ์เพื่อที่จะได้อานิสงส์ที่บริบูรณ์<o:p></o:p>
    ศีลข้อ ๑ ปาณาติบาต คือไม่มีจิตคิดที่จะฆ่าหรือเบียดเบียนหรือตัดชีวิตใคร เพราะศีลข้อนี้เราจะรักษาได้ก็ต้องอาศัย เมตตา เป็นปัจจัย ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่าเราจะมีอายุยืนยาว
    ศีลข้อ ๒ อทินนาทานา หรือละเลิกการขโมย การฉ้อฉลของคนอื่นมาเป็นของตน ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่า ทรัพย์สินของเราทั้งหมดที่มีอยู่จะไม่มีภัยจากไฟไหม้ จากน้ำท่วม จากโจรขโมย
    ศีลข้อ ๓ อพรัหมจริยา หรือละเว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์<o:p></o:p>
    ศีลข้อ ๔ มุสา หรือละเว้นการโกหก ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่า พูดแล้วมีคนอยากฟังอยากเชื่อ และมีเสนห์ในวาจาที่เปล่งออกมา
    ศีลข้อ ๕ สุรา หรือละเว้นจากการดื่มเครื่องดองของเมา ถ้าเราปฎิบัติข้อนี้ได้เชื่อมั่นได้ว่า เราจะกลายเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่เป็นโรคประสาท
    ศีลข้อ ๖ วิกาลโภชนา หรือละเว้นจากการกินอาหารในเวลาวิกาล โดยปกติที่คนส่วนใหญ่เข้าใจหรือถือเอาว่าหลังเที่ยงวันแล้วห้ามกินข้าวปลาอาหาร<o:p></o:p>
    ศีลข้อ ๗ นัจจคีตะวา หรือละเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้องและประโคมเครื่องดนตรี และมาลาคันธะ หรือละเว้นจากการทัดดอกไม้และเครื่องทาเครื่องหอม ผัดผิวให้งามต่างๆ
    ศีลข้อ๘ อุจจาสยนะ หรือละเว้นการนอนในที่นอนสูง ที่นอนใหญ่
     
  11. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    สรุปศีล ๘<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    นี่เป็นตัวธรรมะเสีย ๔ ข้อ ถ้าผิดข้อปาณา อทินนา มุสา สุรา ลงนรกแน่ แต่ถ้าเป็นตัวศีล ตัวธรรมะ ๔ ข้อนี้คือ อพรัหม วิกาล นัจจคีตะวา-มาลาคันธะ อุจจาสยนะ ถ้าพลาดมันไม่ลงนรกนะ<o:p></o:p>
    ข้ออพรัหมจริยา เวรมณี ถ้าเราละเมิดเฉพาะสามีภรรยาของเรา ไม่ได้ประพฤติล่วงเกินภรรยาผู้อื่น ไม่ได้ขาด กาเมตัวนี้เป็นธรรมะ<o:p></o:p>
    ข้อวิกาลโภชนา ข้อนี้เราไม่ได้กินเกินเวลามันบาปที่ไหนละ<o:p></o:p>
    ข้อมาลาคันธะ คือไม่ทัดดอกไม้และของหอม อันนี้ไม่ทำลายใครๆ<o:p></o:p>
    ข้ออุจจาสยนะ คือไม่นอนในที่นอนสูง ที่นอนใหญ่<o:p></o:p>
    ข้อเตือนใจของการถือศีล ถ้าเคร่งเกินไปก็เดือดร้อน พระพุทธเจ้าท่านให้ปฏิบัติในทางสายกลาง หรือมัชฌิมาปฏิปทา อย่าให้มันเป็นอัตตกิลมถานุโยค คือเบียดเบียนตนเกินไป ต้องดูแต่พอเหมาะพอดี พอควร<o:p></o:p>
     
  12. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    บันไดขั้นที่ ๓ เจริญภาวนา(เพื่อตัดกิเลส)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    คำว่า สมถกรรมฐาน กับ วิปัสสนากรรมฐาน มีความหมายและแตกต่างกันอย่างไร<o:p></o:p>
    สมถะ นี่เป็นจุดเริ่มต้นทำจิตให้เป็นสมาธิ มีความหมายว่า ทำจิตให้สงบจาก นิวรณ์๕ สำหรับวิปัสสนา เป็นการใช้ปัญญาพิจารณาร่างกายเพื่อตัดกิเลสมันต่างกันตรงนี้<o:p></o:p>
    พูดให้เข้าใจง่ายๆว่า สมถะ ก็คือ ระงับ เปรียบเหมือนกับเรามีสัตว์ร้ายอยู่ตัวหนึ่งถ้ามันจะกัดเรา วิธีระงับก็คือ จับมันมัดหรือกดมันไว้ไม่ให้ทำร้าย ส่วนคำว่า ตัด หรือ วิปัสสนาญาณนั้น ก็หมายถึงฆ่าสัตว์ร้ายนั้น ไม่ให้มีฤทธิ์ต่อไป<o:p></o:p>
    ดังนั้น ถ้าเราจะเจริญวิปัสสนากรรมฐานอย่างเดียว แต่ไม่เอาสมถะเลยก็ไปไม่รอด เพราะทั้งสองอย่างจะต้องคู่กัน จะต้องร่วมกันแยกกันไม่ได้ ขาดไปอย่างหนึ่งอย่างใดก็ไม่ได้ ท่านได้เปรียบไว้แบบนี้นะว่า สมถะ นี่ก็เหมือนกับคนที่เพาะกำลังกายให้แข็งแรง ส่วน วิปัสสนาญาณ ก็เหมือนกับอาวุธที่คมกล้า ถ้าคนไม่มีแรงหยิบอาวุธ จะฆ่าข้าศึกได้ไหม<o:p></o:p>
     
  13. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    สรุปรวมความเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา ว่า ๑.เรามีอาหาร ๒.มีร่างกาย ๓.มีปัญญา ทั้ง ๓ อย่างนี้ต้องประกอบกัน เราจะเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น เรามีอาหาร มีร่างกาย แต่ไร้ปัญญา ก็จะเอาตัวไม่รอดต้องโดนคนอื่นโกง หรือถ้า เรามีอาหาร มีปัญญา แต่ร่างกายไม่สมประกอบพิกลพิกาล มันก็ใช้ชีวิตยากลำบากอยู่เหมือนกัน หรือถ้าเรากินอาหารไม่เพียงพอกับร่างกายเราหรือไม่มีอันจะกิน ร่างกายเราก็รับไม่ไหว สู้ชีวิตไม่ไหวไม่มีแรง เมื่อไม่มีแรง ไม่มีกำลังแล้วจะเอาอะไรไปคิดพิจารณาเล่าเพราะท้องมันร้องเรียกอยู่ตลอดเวลา<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    การทำสมถะ หรือ สมาธิก็ดี วิปัสสนาก็ดี ทั้งหมดนี้จะต้องประกอบด้วยเหตุ ๓ ประการร่วมกัน คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์จิตก็ไม่เป็นสมาธิ ถ้าศีลบริสุทธิ์แล้วจิตจึงเกิดสมาธิ เมื่อจิตสงบจากอารมณ์ต่างๆ ปัญญามันจึงจะเกิด มันต้องร่วมกัน ๓ อย่าง<o:p></o:p>
    ถ้าท่านทั้งหลายทำได้ครบถ้วนแบบนี้แล้ว แสดงว่าเราเข้าถึง เปลือกความดี ที่ท่านทรงสอน แค่นี้ก็เป็นการ ทรงฌาน อย่างเต็มที่แล้ว คือว่าละนิวรณ์๕ นิวรณ์๕นี่เป็นศัตรูกับ ปฐมฌาน แล้วตัวท้ายก็คือ พรหมวิหาร ๔ ตัวนี้เป็นตัวเลี้ยง ทั้ง ศีล สมาธิ ปัญญา มีความสำคัญมาก อารมณ์ตอนนี้ก็เป็นอารมณ์ทรงฌานปกติ ถ้าทำแบบนี้สมบูรณ์ดีแล้ว เมื่อนั้นเราก็สามารถที่จะทำ ปุพเพนิวาสานุสสติฌาน ให้เกิดขึ้นคือ ระลึกชาติได้ ตอนนี้แหละเราจะได้เข้าถึง กระพี้ความดี ที่ท่านทรงสอน <o:p></o:p>
     
  14. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า ให้เข้าไปดูที่ลมหายใจ กำหนดรู้ที่ลมหายใจ เมื่อได้ขั้นที่ละเอียดขึ้นก็จะรู้ รู้ถึงความคิดที่มีอยู่ในใจ ตอนนี้ก็คิด คิดไม่ดีเป็นสุข เป็นทุกข์ ปิติหรือว่าเศร้าโศก เศร้าหมอง ก็จะเห็นหมดในใจ ท่านเรียกว่าจะได้เห็นกิเลส เมื่อเห็นกิเลสแล้วก็เรียกได้ว่าเห็นธรรมมะ เมื่อรู้กิเลสแล้วก็เหมือนรู้ธรรมะ เมื่อได้ละกิเลสแล้วก็ได้บรรลุธรรมมะ การปฏิบัติธรรมง่าย ไม่ยาก ทำได้ตลอดเวลา จะไปทำงานทำการกำหนดรู้ไปตลอด ขั้นแรกก็ดูลมหายใจไปก่อน ดูไปเรื่อยๆ บารมีก็จะเกิด ต่อไปก็จะได้เห็นกิเลสที่อยู่ในใจ สภาวะอารมณ์ที่อยู่ในจิต จะเห็นเป็นขั้นๆด้วยอานิสงส์ของกรรมฐาน อานาปานสติจะสอนเอง ด้วยอานิสงส์ของวิปัสสนาฌาน อานาปานสตินั้นจะสอนเอง จะสอนเข้ามาที่ใจให้เราเห็นเข้าไปถึงจิต บารมีพระกรรมฐานวิปัสสนาฌาน ที่ตั้งใจกำหนดรู้ กำหนดดูกำหนดเห็น กำหนดภาวนานั้น ท่านจะสอนเรา เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน จะเป็นขั้นๆไปนะ ท่านทั้งหลาย ให้ท่านสบายใจ ท่านไม่ต้องหวั่นไหวว่า อุ๋ย... ธรรมะอยู่ตรงไหนหนอ กรรมฐานอยู่ตรงไหนหนอ วิปัสสนาฌานอยู่ตรงไหนหนอ ชาตินี้เราจะได้ไหมหนอ เราจะมีบุญไหมหนอ โอ๊ย...ทำไมถึงจะสำเร็จหนอ อย่างเนี่ยะ ท่านไม่ต้องคิดเลย... เพราะว่าบุญใหญ่อยู่ที่กายและใจของท่านแล้ว บุญใหญ่อยู่ที่ลมหายใจของท่านแล้ว แก่นแห่งกรรมฐานอยู่ที่ลมหายใจของท่านแล้ว แก่นวิปัสสนาอยู่ลมหายใจของท่านแล้ว อาจารย์ใหญ่อยู่ที่กายและใจของท่านแล้ว…<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    แก้มแดงไม่มีอะไรติดในใจแล้ว ขอยุติการพิจารณาและการแจ้งข่าวคนบุญไว้เพียงเท่านี้นะครับ โชคดีอีกครั้งครับ <o:p></o:p>
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    พึ่งเข้ามาอ่าน

    เป็นไปได้มาก ต้องเอาช่อง grid มาพิจารณากันก็ดีนะ :cool:
     
  16. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    <TABLE id=post6800622 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>05-10-2012, 05:38 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#1264 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แก้มแดง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6800622", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Dec 2011
    ข้อความ: 124
    Groans: 0
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 4
    ได้รับอนุโมทนา 539 ครั้ง ใน 54 โพส
    พลังการให้คะแนน: 50 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6800622 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เหตุที่ให้แก้มแดงเข้ามาในกระทู้นี้อีกครั้ง เนื่องด้วยมีบางเรื่องที่ยังไม่ได้บอกให้คนบุญทราบ ซึ่งมันค้างคาใจทำให้ไม่สบายใจ เกรงว่าคนบุญจะหมดความเพียรในการมีชีวิตอยู่เมื่อภัยพิบัติรุมเร้า ดังนั้นจะขอแจ้งบอกสิ่งที่คนบุญจะต้องทำในอนาคตเพื่อเป็นความหวังเล็กๆ โดยจะขอตั้งเป็นตุ๊กตาไว้ให้พิจารณา ในรายละเอียดหยาบๆตามลำดับส่วนเรื่องพ่อฯสั่งห้ามพิจารณาต่อนั้นก็ยังยืนตามคำที่ท่านสั่งตามเดิมคือไม่พิจารณาเดินหน้าต่ออย่างเป็นลำดับเหตุการณ์ อีกอย่างวันที่ผมได้ไปพบพ่อฯ (ผมขอต่อจากกระทู้ล่าสุดที่ผ่านมา)ที่แก้มแดงไม่ได้บอกคนบุญ แต่ได้เฝ้าติดตามสังเกตอยู่อย่างเงียบๆ พ่อฯได้บอกว่า ต่อไปนี้อย่าได้พยายามกลับบ้านมืดค่ำดึกๆดื่นๆหรือออกไปทำงานก่อนสว่างจะอันตราย(ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องรู้ความเคลื่อนไหวและหาทางป้องกันตัวไว้) ไม่ปลอดภัย เพราะว่าพวกอสูรกาย ผีป่าต่างๆจะเริ่มเข้าสิงผู้คนให้ทำในสิ่งที่ผิดปกติไปในแนวทางที่รุนแรงที่ไม่ใช่คนหรือเข้ามาผสมโรงเพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายขึ้น หรือมีอันเป็นไป ซึ่งถ้ามันสิงได้มันจะทำตามใจมันที่มันอยากจะทำ ส่วนใหญ่จะไปในทางร้ายทั้งสิ้น(ตรงนี้ขอให้คนบุญสังเกตข่าวคราวต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านในเมืองและอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น ท่านก็จะรู้คำตอบเอง) แก้มแดงพิจารณาเห็นว่าพวกผีป่า พวกอสูรกายเริ่มเข้าเมืองกันแล้ว เริ่มเข้ายึดพื้นที่กันแล้วต้องมีอะไรที่ผิดปกติแก้มแดงเลยยังชะลอไม่บอกจนกว่าจะสังเกตเห็นความจริงจนวันนี้ได้เห็นความจริงแล้วเลยได้แจ้งคนบุญทั้งหลายให้ได้ทราบกันไว้ เราจะเห็นอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายผิดปกติบนท้องถนน ผู้คนฆ่ากันไล่ยิงกันกลางถนน เรื่องราวต่างๆส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังตะวันตกดิน รุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นอย่างผิดปกติ ขอคนบุญทั้งหลายให้สังเกตดีๆหนอแต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก ผมเพียงแจ้งให้ทราบไว้เพื่อความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตของท่านและครอบครัว บัดนี้ถึงเวลาอันสมควรแก่เหตุการณ์หรือที่แก้มแดงได้พิจารณาเรื่องเงื่อนเวลาที่ได้ให้ไว้แล้วและขอแจ้งอีกเรื่องหนึ่ง ดาวเคราะห์ที่จะมา พ่อฯได้บอกผมไว้เมื่อประมาณ 5ปีที่แล้วว่าให้ระวังเรื่องน้ำอย่างเดียว จะเสียหายแบบที่ประเมินค่าไม่ได้เลยคนจะตายกันเกลื่อน ตรงนี้ถ้าคนบุญพิจารณาถูกต้องถูกทิศถูกทางถูกธรรมอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ท่านย่อมเห็นเหตุและผลที่มันต้องเกิดว่า เราเป็นเพียงตัวละครที่ได้ถูกกำหนดให้เล่นไปตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบเท่านั้นเอง จุดหมายปลายทางของโลกและประเทศไทยนั้นจะจบลงอย่างไรท่านทั้งหลายคงทราบกันดีอยู่แล้ว
    ffice[​IMG]ffice" /><O[​IMG]></O[​IMG]>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สังเกตุว่ามีเหตุเกิดขึ้นบ่อยกว่าแต่ก่อนจริง ๆ ค่ะ

    เหลือเวลาอีก 2 เดือน ก็จะปีใหม่ เข้าสู่ ปี 2556 รอชม ส.ค.ส พระราชทาน ปี 2556
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2012
  17. ยอด

    ยอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +367
    ตามรอยพระราชนิพนธ์มหาชนก

    จากฝีพระหัตถ์ในหนังสือ ตามรอยพระมหาชนก ขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    อ้างอิงหน้า 57 ภาพ Mani Mekhala 9 May วันนี้วันอุโบสก
    ภาพจากจักรราศี จะตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม 2537
    เป็นวันจันทร์แรม 14 คำ เดือน 5 ปีจอ แรม 14 คำ ซึ่งไม่ใช้วันอุโบสก
    วันอุโบสกไม่ใช้วันที่ 9 พฤษภาคม 2537
    วันอุโบสกที่ตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม (9 May)
    จะตรงกับวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตรงกับจันทรคติวันพฤหัส แรม ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ปีมะเส็ง

    วันอุโบสถ หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชนเพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา
    โดยมีเดือนละ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8,15 ค่ำ และวันแรม 8,15 ค่ำ

    ๙ พฤษภาคม ๒๕๓๗ ตรงกับจันทรคติวันจันทร์ แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๕ ปีจอ
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ตรงกับจันทรคติวันอังคาร ขึ้น ๗ ค่ำเดือน ๖ ปีมะโรง
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๔ ตรงกับจันทรคติวันพุธ แรม ๒ ค่ำเดือน ๖ ปีมะเส็ง
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ตรงกับจันทรคติวันพฤหัส แรม ๑๓ ค่ำเดือน ๖ ปีมะเมีย
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ตรงกับจันทรคติวันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๖ ปีมะแม
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ตรงกับจันทรคติวันอาทิตย์ แรม ๖ ค่ำเดือน ๖ ปีวอก
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ตรงกับจันทรคติวันจันทร์ ขึ้น ๒ ค่ำเดือน ๖ ปีระกา
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ตรงกับจันทรคติวันอังคาร ขึ้น ๑๓ ค่ำเดือน ๖ ปีจอ
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ตรงกับจันทรคติวันพุธ แรม ๘ ค่ำเดือน ๖ ปีกุน
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ตรงกับจันทรคติวันศุกร์ ขึ้น ๕ ค่ำเดือน ๖ ปีชวด
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ตรงกับจันทรคติวันเสาร์ แรม ๑ ค่ำเดือน ๖ ปีฉลู
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ตรงกับจันทรคติวันอาทิตย์ แรม ๑๑ ค่ำเดือน ๖ ปีขาล
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ตรงกับจันทรคติวันจันทร์ ขึ้น ๗ ค่ำเดือน ๖ ปีเถาะ
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ตรงกับจันทรคติวันพุธ แรม ๔ ค่ำเดือน ๖ ปีมะโรง
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตรงกับจันทรคติวันพฤหัส แรม ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ปีมะเส็ง
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ตรงกับจันทรคติวันศุกร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำเดือน ๖ ปีมะเมีย
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตรงกับจันทรคติวันเสาร์ แรม ๗ ค่ำเดือน ๖ ปีมะแม
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ตรงกับจันทรคติวันจันทร์ ขึ้น ๔ ค่ำเดือน ๖ ปีวอก
    ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตรงกับจันทรคติวันอังคาร ขึ้น ๑๔ ค่ำเดือน ๖ ปีระกา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9 May.jpg
      9 May.jpg
      ขนาดไฟล์:
      305.8 KB
      เปิดดู:
      263
  18. undersea12000

    undersea12000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +1,493
    --------
    ผมเข้าใจว่า องค์กร พื้นแดงอักษรเหลืองนี้ ตลอดถึง วัดเจ้าของ ตลอดถึงตัวบุคคลที่รุ้จักกันดี จะมีบทบาทมากเมื่อถึงเวลาเปิดตัว

    "ปกครองคน" เป็นรหัส

    จับตาให้ดี
     
  19. oil-Nudchanat

    oil-Nudchanat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +508
    ขยายความหน่อยได้ไหมคะ :cool:
     
  20. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681


    หมายถึง FORESHOCK M 8.0 และ บรรดา AFTERSHOCKS ได้ปล่าวครับท่าน


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...