คนในพม่าไม่มีใครเชื่อหรือมีเรื่องราวเล่าเกี่ยวกับภัยพิบัติเลย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ต้นที่สาม, 12 กันยายน 2012.

  1. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    และเขามีความเชื่อเรื่องเล่าว่าพม่าจะกลับมาเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่เหมือนสมัยบุเรงนอง
    ที่เคยยึดครองเกือบทั้งแหลมทองทั้งหมด และก็มีความเชื่อว่าหลังเกิดภัยพิบัติใหญ่
    พม่าจะเจริญจนกลับมาครองดินแดนทั้งหมดได้
    คุยถึงตอนนี้ ก็เลยฉิวๆ หน่อยแหม กะมายึดประเทศไทยนี่หว่า
    เลยแหย่ไปว่า อ้าวงั้นยูก็ยึดบ้านเราด้วยดิ
    หมอนั่นยิ้มจนเหงือก สีออกม่วงๆจนน่าเกลียดออกมาโผล่ซะเต็มจนแห้ง
    บอกว่าก็เคยอยู่ด้วยกันนิ (5555 เด่วมีรายการเตะพม่าโชว์ก่อนที่มันจะมายึดบ้านเรา)
     
  2. thaimont

    thaimont Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +38
    อยากฟังต่อครับ
     
  3. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    ถ้ามีเวลามาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  4. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ถ้าคนของเขากำลังใจดีขนาดนั้น ถึงรับรู้แต่คิดว่าไม่เป็นไร แถมติดตลกว่าจะยึดแหลมทองต่ออีก กำลังใจดีมากครับ
    แต่ของเราสิครับ พอรับรู้ปั๊บ มีแต่ตาย ๆ ๆ อย่างเดียว แล้วต้องรอดด้วยนะ ถ้าไม่รอดคงเครียดตายเลย แล้วก็คงปกป้องประเทศตัวเองไม่ได้ด้วย (ติดตลกเหมือนกันครับ)

    ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
    (หากเตรียมใจพร้อม ถึงไม่เตรียมกายก็หวังรอดได้ไม่ยาก)
     
  5. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    รอฟังต่อค่ะ:d
     
  6. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    เล่าต่อครับ
    แต่มีเรื่องที่น่าสนใจก็คือ
    ทหารที่แอบมาก๊งเหล้า ในวงกาแฟของพวกเรานั้น
    มักจะคุยเรื่องความกังวลที่คนของประเทศเขาถูกสั่งให้ทำตามมานาน
    ช่วงก่อนสื่อใหนหรือพระองค์ใหนที่เล่าเรื่องราวที่กระทบกับความมั่นคง
    ปลอดภัยหรือความสงบเรียบร้อยของบ้านเขา ก็จะมีการเชิญตัวไปสอบถามความเห็น
    ว่าจะทำต่อไปหรือหยุดดี ถ้าหยุดก็เลิกแล้วต่อกัน แต่ถ้ายังดึงดันทำต่อ
    รับก็มีทางเหลือกให้สองทาง คือว่าจะตายดังๆ ผ่านสื่อ หรือหายไปเลย
    ไปทำหน้าที่ปุ๋ยแห่งชาติ จะได้ทำหน้าที่ช่วยต้นไม้ในชาติ
    555 มันเล่ายังกะ การเจี๋ยนใครซักคนในชีวิตเขานี่ เป็นเรื่องปกติจังเลย

    นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เรื่องเล่าปะติตปะต่อไม่ได้ จึงค่อยๆเลือนหายไป
    ผมถามถึงการย้ายเมืองหลวง ว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า
    มันดันตอบเฉไปว่า วิทยุ นั้นแพงตรงเครื่องส่ง เครื่องรับไม่กี่ตังส์
    เพราะฉนั้นการสร้างความปลอดภัยให้กับ เครื่องส่งหรือผู้นำหรือรัฐบาลนั้น
    ไม่ว่าจากสาเหตุใดๆนั้นสำคัญ เพราะถ้าขาดคนส้่งกองทัพเขาก็ไม่ต่างจากกองโจร
    เล่าถึงตรงนี้ ถามต่อว่าจะปลอดภัยขนาดใหน
    เข้ายิ่้มด้วยความภูมิใจว่าเมืองหลสวงใหม่ของเขาออกแบบมา
    สำรับรับได้กับทุกสถานการณ์แม้แต่ สงครามนิวเครียส์
    แสดงว่ามีการเตรียมการและแหล่งหลบภัยที่ดีจริงๆ
    ขนาดนายทหารยศพันตรีเองยัง ยิ้มรับด้วยความภูมิใจ
    แล้วรัฐบาลไทย ผมน่าเป็นห่วงตรงนี้ครับ ตูมขึ้นมาถ้าไม่มีคนสั่งการ
    ทหารคนที่มีอาวุธ แล้วหิวตื่นกลัวก็ไม่ต่างจากโจรดีๆนั่นเองครับ
    หรือว่าบ้านเราก็มีระบบนี้ แจ้งข่าวด้วยนะครับ
     
  7. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    เชื่อ ไม่เชื่อ ถ้าภัยมาถึงคราวตาย ก็ตายเหมือนกัน เชื่อ จะได้เตรียมใจไวหน่อย ขยันทำดีอีกนิด
     
  8. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    เห็นหลายประเทศพูดว่าหลังภัย ประเทศตัวเองจะยิ่งใหญ่ รวมไปถึง บางท่านในประเทศไทย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2012
  9. Prachoom

    Prachoom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +31
    ลองไปสืบค้นประวัติศาสตร์สงครามไทย-พม่าที่เมืองทวาย เจอจริงๆด้วยครับ มิน่าหล่ะ เจอกระดูกเพียบ บรื๋อออ.

    http://iseehistory.socita.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538711124&Ntype=15
     
  10. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    วันนี้มีเรื่องเล่าจากที่ไปหาที่ใส่บาตรเนื่องจากเมื่อวันก่อนขับรถทับหมาตายไปตัวหนึ่ง
    เลยไปใส่บาตร กะถวายเป็นสังฆทานไปให้ 5555 ตอนแรกเป็นงง งง
    พระที่นี่เขาบิณทบาตรกันทั้งวัน พอไปถามชาวบ้านจึงเข้าใจว่าพระที่นี้ จะฉันมื้อเดียว
    เณร สองมื้อ แต่ทำไม่บิณทบาตรตอนกลางวันเราก็เก้ๆกังๆ
    ปรากฏว่าตอนบ่ายเขาจะใส่ดอกไม้หรือเงินเพื่อพราะจะเอาไปกราบพระ
    ตอนทำวัดเย็น
    พอเจอพระจริงหลังจากใส่บาตรแล้วเลยถือโอกาสไปสนทนาธรรมกับท่าน
    และกะเรื่องจะนิมนต์มาทำบุญที่ไซย์งานเพื่อทำบุญ
    ทานมองหน้าแล้วถามว่ายูจะทำบุญที่ไซย์งานที่ทำงานทำไม
    ผมก็เลยพาลซื่อว่าจะทำบุญถึงคนตาย หรือดวงวิญญานที่นั่นครับ
    เพราะมีการเจอกระดูกคนมากมาย แม้จะมีการทำบุญไปตอนเริ่มก่อสร้าง
    แล้วแต่อยากทำอีก เพื่อเป็นศิริมงคลและ ไปถึงเจ้ากรรมนายเวรว่าไปโน่น
    ท่านก็หัวเราะแล้วบอกว่า ทำบุญที่นี่หรือที่ใหนก็ถึงเหมือนกัน (แป๋ว ๆๆๆ เป็นงงเลยครับ)
    และที่ไม่ถึงก็ไม่ถึงเหมือนกัน ท่านยังบอกว่า ถ้าเป็นงานศพจะไปสวดให้
    แต่ถ้าจะทำบุญอย่างอื่นไม่ต้องใช้พระก็ได้ (อ้าว ทำไม่อย่างนั้นละท่าน) แค่จิตเป็นสมาธิ และมีเจตนาดี
    ที่จะทำบุญถึง ไม่จำเป็นต้องมีภาษาบาลีหรอกโยม(อ้าวไปโน่นเเลย)
    ..........ทำให้อดคิดว่าบ้านเราปรุงแต่งพิธีการที่เอามาจากพราห์มมามากมาย
    จนเป็นเหตุให้มีผลประโยชน์มากมายจากการบวช จึงมีมิจฉาชีพมากมายที่เข้ามาอยู่ใน
    ร่มกาสาวพัตร เป็นหนอนมอดมาบ่อนทำลายศาสนาบ้านเราไกลจากแก่นในทางปฏิบัติไปเรื่อยๆ ......

    วันนี้เลยกลับมาทบทวนตนเองมากมายเลยครับ
    กับที่บ้านเราบอกว่าเป็นศูนย์กลางทางศาสนา

    เดี่ยววันหยุดต้องไปที่วัดอื่นบ้างเผื่อจะมีวัตรปฏิบัติที่ต่างกัน
    อีกอย่างท่านชวนไปศึก๋ษาธรรมมะ ปฏิบัตรสมาธิด้วย
    ได้ความยังไงจะเอามาเล่าต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2012
  11. ลูกคุณพระ

    ลูกคุณพระ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +94
    ป้าฟังแล้วรู้สึกดีจังกับข้อปติบัติรู้สึกพระท่านตรงดี
     
  12. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    วันนี้มีเรื่องเล่า
    หลังจากที่ได้ไปร่วมทำวัตรบ่าย(5555 ทำวัตรตอน 3 โมงกว่าตอนเย็น)
    แล้วมีโอกาสสนทนาธรรมและขอคำแนะนำในการฝึกสมาธิกับพระอาจารย์มะตอง
    น่าจะออกเสียงอย่างนี้นะครับ โดยเชื้อชาติแล้วท่านเป็นชาวมอญบวชมานานกว่า40 พรรษาแล้ว
    ก็ไม่แปลกใจครับในย่านนี้จะเป็นน่าจะเป็นคนมอญจะมากกว่าย่านอื่นๆสังเกตุว่าผิวจะขาวกว่า
    คนพม่าที่ออกจะดำๆเขียวๆผิวพม่าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
    แต่ในร่างกุ้งหรือทีทมัณฑเลย์ ส่วนใหญ่ก็จะขาวๆและสวยๆกัน
    โดยเฉพาะแถวมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะสวยรูปร่างดีกันไม่ค่อยเจอคนที่อ้วนเพละ
    เด็กรุ่นใหม่อย่างบ้านเรา สงสัยอาหารการกินของเขาที่ยังไม่ได้รับอิทธิพลอาหารแดกด่วนจากฝรั่ง
    แต่รู้สึกได้ถึงจริตจะกร้าน(น่าจะเป็นคำนี้นะ ว่าใครกร้านกว่ากัน) ยังดูเหมือน
    สมัยที่ผมยังเรียน ม.ต้น ไม่เหมือนสาวมหาวิทยาลัยบ้านเรา
    ที่แข่งกันเรื่องกระเป๋าหิ้วที่ฝรั่งมันหลอกว่าใครหิ้วแล้ว จะดูไฮโซ (แต่ไร้สมอง)
    แอบถามดูเรื่องกระเป๋าต๊องๆแต๊งๆ ที่ร้านกาแฟที่มีไม่กี่ร้าน เด็กมันหัวเราะบอกว่า
    เป็นเรื่องของคนโง่ๆ ที่มาอวดของที่ฝรั่งมันหลอกเอา อยากเห็นมากๆไปดูที่เมืองไทย
    ( แป๋วๆๆ) ที่นี้มีโรงงานก๊อปนะใครใช้ก็งั้นๆแหละ แหมมันมองว่าผมเป็นฟิลิบปินส์
    เลยจวกซะเต็มข้อเลย แต่ก็น่าเศร้าใจที่มีข่าวเด็กบ้านเราขายตัวเอาเงินไปซื้อกระเป๋า
    มันก็ควรให้เขาด่าเอา แต่ก็น่ารักและเห็นว่าประเทศเราในสายตาของเพื่อนบ้านเป็นอย่างไร

    พอบอกจะเลี้ยงกาแฟเด็กกลุ่มเบ้อเริ่ม ก็คุยกันสนุกสนาน ที่คุยกันแล้วปวดหัวจนงงไป
    ที่ถามเขาเรื่องการขับรถชิดซ้ายชิดขวา เด็กๆบอกว่าในโลกส่วนใหญ่ชิดขวา
    ที่ชิดซ้ายเป็นเรื่องของประเทศส่วนน้อยของโลก
    ประเทศนั้นๆคงสงสัยเป็นทาสความคิดของอังกฤษ ( 555 ว่าไปโน้น เด่วมีเข็กกะโหลก)
    แต่ที่น่ากังวลแทนบ้านเราเมื่อพม่าเปิดประเทศ คือ
    เด็กที่นี่ที่ผมคุยด้วยส่วนใหญ่อยู่ปีที่ 2 พูดภาษาอังกฤษเปรี๊ยะทุกคน
    อีกหน่อยการแข่งขันข้ามประเทศน่าเป็นห่วง(ถ้ายังรอดกันหมดนะ)

    ผมถามเรื่องภัยพิบัติ เด็กๆมันหัวเราะกันครืน ไปอ่านมาจากใหนเหรอ
    เพราะช่วงก่อนมีคนเอามาเผยแพร่ แต่โดนตำรวจซิวไปข้อหายุยงให้เกิดความไม่สงบ
    โดนซะจั๊งหนับ เรื่องเลยเงียบไป แน๊ะสงสัยมาขู่เรา ว่าอย่าพูดมากเดี่่ยวโดนจับ
     
  13. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    เล่าต่อเรื่องพระอาจารย์ที่แนะนำเรื่องการทำสมาธิดีกว่านะครับ
    ท่านแนะนำโดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการฝึกสติคล้ายแบบที่พระอาจารย์ทอง
    ที่ อำเภอจอมทองสอนครับ จะต่างกันเรื่องการกำหนดและภาษาเท่านั้นเอง
    ผมถามว่าทำไมไม่ใช้วิธีกำหนดลมหายใจ
    ท่านบอกว่า การฝึกลมหายใจฝึกง่ายแต่พัฒนายากและเห็นพัฒนาการยาก
    การฝึกจากกายมาก่อนนั้น จะเห็นความก้าวหน้าชัดเจนไปเรื่อยๆถ้าไม่หยุด
    และคนฝึกจะสัมผัสได้และมีกำลังใจในการฝึกอย่างต่อเนื่อง
    และไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ๆครูบาอาจารย์ตลอด
    มันจะค่อยๆเป็นไปตามลำดับของจิตเอง จนถึงจุดหนึ่งก็จะเขาสู่อุปจารสมาธิ
    ซึ่งตอนนั้นเขาก็จะกลับมาหาพระอารย์เอง

    ผมเลยถามเรื่องความแตกต่าง ท่านบอกว่าเหมือนกับการขึ้นที่สูงนะ
    การฝึกแบบกำหนดลมหายใจเหมือนขึ้นลิฟน์ พรวดเดียวอาจไปถึงเลย
    แต่บางคนก็วนเวียนแถวหน้าลิฟน์นั้นเอง ทั้งชีวิต 555 เห็นภาพพจน์จังเลย
    สงสัยผมยังงมหาวิธีเปิดประตูลิฟน์อยู่ทุกวัน
    (ยังแซวพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ไปขึ้นลิฟน์มากี่ครั้งแล้วเพราะย่านนี้ไม่มีเลย
    ปรากฏว่าพระอาจารย์จบไอสกูลมาจากประเทศอังกฤษ อ๊ากกก มหัศจรรย์ วันเดอร์เซเว่นอีกแล้วครับ)

    แต่การฝึกแบบกำหนดกายนั้น เหมือนขึ้นบันได เหนื่อยกว่า
    แต่เริ่มทำได้ในก้าวที่ 1-2-3 ไปเรื่อยๆได้ดีกว่าง่ายกว่า และสามารถบอกได้ว่าเราขึ้นมาถึงใหนแล้ว
    กลับมาถึงไซย์งานเลยถามตัวเองว่าจะเดินสายใหนดี
    ใครเชี่ยวชาญช่วยหน่อยนะครับ ชักจะหลงรักพม่าเสียแล้วครับ
    วันหลังจะเอารูปสาวพม่าน่ารักๆมาฝากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2012
  14. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ผมไม่แน่ใจนะครับ
    แต่ผมเข้าใจว่าลมหายใจหรืออานาปานสติ เป็นกรรมฐานใหญ่ที่คลุมกรรมฐานอื่น ๆ ทั้งหมด เพราะถ้าใครสามารถได้อานาปานสติ ก็จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับกรรมฐานอื่น ๆ ไม่ว่ากสิณ อนุสสติอื่น ๆ ฯลฯ
    แต่ถ้าคิดว่าไม่ใช่ทางลองไปวิเคราะห์จริต และหากรรมฐานอื่น ๆ ที่เข้ากับจริตตัวเองแล้วปฏิบัติอันนี้จะเข้าท่า เข้าทางมากที่สุดนะครับ
    ขอให้เจริญธรรมครับ
     
  15. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    มีเรื่องเล่ารายวัน วันนี้
    เมื่อเย็นวานไปที่ไซย์งานของฝรั่งออสซี่
    พวกนี้พิเรนครับ มันเก็บเอากระดูกที่ขุดได้มากองไว้
    คาดว่าจากการขุดฐานรากเหมือนที่ไซย์งานผม
    แล้วมันคงว่างมากครับ เอาล้างมาต่อกันเป็นรูปไดโนเสาร์
    ตัวเบ่อเริ่มเทิ่ม เมื่อวานกำลังพ่นสีกันอย่างสนุกสนาน
    เสียดายไม่ได้พกกล้องไปถ่ายมาด้วย แถมยังเรียกว่า ทวาเยโนซอรัส
    แต่มันก็ทำสวยนะ ผมถามว่าไม่กลัวผีเหรือเอากระดูกเขามาเล่น
    มันยังบอกอีกนะว่า เจ้าของกระดูกมาหาไม่เจอหรอกเพราะเอาผสมกันหมดแล้ว 555

    พวกฝรั่งกลุ่มเบ่อเริ่มครับมาร่วมกันทำ ก๊งไปทำไป
    ยังมาชวนเราไปทำด้วย จะเอารูปลงยูทูบ ให้ดังอีก
    แฮะๆผมไม่เอาด้วยครับ
    กลัวมีคนมาเดิน ทำเสียงสั่นๆๆเดินตามว่า เอากระดูกกูมาๆๆๆ 5555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2012
  16. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    ยังตามมาฟังอยู่นะคะ ขอบคุณที่สละเวลาเล่าเรื่องเกี่ยวกับพม่าให้ฟัง ได้ความรู้จริง ๆ ค่ะ
     
  17. ภูมินที

    ภูมินที เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +289
    คุณต้นเล่าเรื่องผีในพม่าให้ฟังหน่อยครับ?
     
  18. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    คนไทยโดยส่วนใหญ่มีบุญเยอะกว่าคนพม่า
    คนไทยและคนลาว เห็นซื่อๆเชื่องๆแบบนี้มีบุญกันเยอะทั้งนั้น ความกระตือรือล้นจึงเกิดขึ้นมากกว่า

    ตาม "ความเชื่อ" เดิม ก่อนเหตุการณ์โรคเลื่อน คนไทยที่จะรอดจากความหายนะประมาณ 30 % ทั่วประเทศ

    แต่ผมเชื่อว่าในปัจจุบันนี้ไม่น่าจะมีสิ่งใดร้ายแรง(ดังระบุตามศาสดาพยากรณ์ หรือ นักพยากรณ์ตามการเคลื่อนตัวของดวงดาว)เกิดขึ้นมา เพราะทุกสิ่ง "มีบุคคลากรทั้ง 2 ฝ่าย" พยายามช่วยกันเก็บลงไปไว้ "ใต้โลก" หมดแล้ว เพื่อรอเวลาที่เราเผลอมากกว่านี้

    อย่าเผลองีบหลับล่ะครับ :)
     
  19. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    ก็หวังว่าอย่างนั้นนะครับ
    แต่พม่าที่เราเห็นภาพส่วนใหญ่จะเห็นจากสื่อฝ่ายไอ้กันที่สร้างให้น่ากลัว
    ผมมาอยู่ที่นี่จริงๆ และสัมผัสกับผู้คนแล้ว ก็เป็นอีกมุมนะครับ
    และพระที่นี้เองกับการทำบุญของคนที่นี่ผมมองว่า
    จะมีจริตการปลอมปนของพุทธพานิชย์นั้นต่ำมาก
    และ พระองค์ที่ผมดูว่าธรรมดามากนั้น เมื่อได้ไปสนทนาธรรมด้วยแล้ว
    ไม่ธรรมดานะครับ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่เกิดจาก
    กรรมของคนพม่าเองที่ไปกวาดคนหลายเผ่าหลายเชื้อขาติมาร่วมกัน
    ในยุคเรืองอำนาจ

    การทำบุญของคนที่นี่ และการปฏิบัติธรรมนั้นอาจจะแตกต่างจากบ้านเรา
    แต่จากการกดด้วยกฏหมาย และทหารกับพบว่าคนที่นี้มีโอกาสทำบาปน้อย
    กว่าบ้านเรา เช่นบ้านเราหากินเหล้าได้ง่ายกว่าที่นี่ ครับ
     
  20. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    สวัสดีครับหายไปหลายวัน
    แอบไปเที่ยวทางตอนเหนือของพม่ากับกลุ่มฝรั่งมัน
    ไปตอนเหนือของเขตสากาย หรือสะกายไม่แน่ใจเรื่องการออกเสียง

    ไปเห็นบ้านเมืองเขาแล้ว ก็อดกลับย้อนมาดูบ้านตัวเองไม่ได้ บ้านเขาเรา
    อาจจะมองว่าเขาเป็นเผด็จการทำให้ไม่เจริญ แต่มองในมุมกลับนะว่า
    ตอนนี้ประเทศเขายังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ที่สุด ระหว่างทางที่นั่งเครื่องบินเล็ก
    ไปนั้น ป่าไม้เขียวเต็มไปหมด พอไปถึงจุดที่มีการสำรวจแล้วว่า
    จะเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ บริเวณนั้นยังมีต้นไม้ขนาดหลายคนโอบ
    จำนวนมากมายมหาศาล แต่ส่วนที่เป็นน้ำมันนั้นมีเอนจิเนียของจีนมาเตรียมระบบ
    เตรียมไปหมด ผมไปถามวิศกรชาวจีนกันสนุกๆว่ามีน้ำมันมากขนาดใหน
    เขาตอบว่า ถ้าจีนใช้อย่างสนุกสนานโดยสูบเฉพาะที่นี่ก็จะได้ประมาณ 30-50 ปี
    ซึ่งหมายถึงเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่มาก ฝรั่งที่มากับผมก็บอกว่าที่นี่ต่อไปอิหร่าน
    กับซาอุต้องเรียกพี่พม่า ครับ (น่าฉงฉานประเทศไทย)
    แต่สิ่งที่ปวดหัวกับแหล่งขุดเจาะที่นี่มากๆคือ มีแผ่นดินไหวบ่อยมาก
    จนขนาดที่ยังไม่ได้เดินหน้าผลิตเต็มที่เพราะยังอยู่ในช่วงขุดเพื่อกำหนด
    พิกัดรวมในการวางท่อส่งนั้น ยังต้องมีการเจาะให่ในจุดเดิมหลายรอบแล้ว
    จากการมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในย่านนี้ แต่เขาก็บอกว่าคุ้มครับ
    เพราะคุณภาพของน้ำมันที่โผล่ขึ้นมานั้นแทบจะเรียกว่าเป็นน้ำมันดิบ
    ที่ดีที่สุดในโลก
     

แชร์หน้านี้

Loading...