หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม ผู้วิเศษแห่งเขาพลอง

ประวัติที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนของเทพเจ้าแห่งเขาพลอง หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม โดย หมูมหาเวทย์​

หลวงพ่อชื้น เกิดที่บ้านวัดงิ้ว ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2437 เป็นบุตรคนโตของ คุณพ่อแส คุณแม่จันทร์ ธรรมชัย
หลวงพ่อชื้น มีพี่น้องร่วมท้องรวม 5 คน ได้แก่
1.หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม (มรณภาพแล้ว)
2.นายเหว่า (ถึงแก่กรรม)
3.นายพร้อม (ถึงแก่กรรม)
4.นางถม (ถึงแก่กรรม)
5.นางปุย (ถึงแก่กรรม)
หลวงพ่อชื้น เรียนหนังสือจบชั้น ป.4 จากโรงเรียนวัดงิ้ว ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท และไม่ได้เรียนต่อ ออกมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากินจนอายุ 18 ปี ก็สมัครเข้ารับราชการทหารที่มณฑลทหารบกที่ 4 จ.ชัยนาท (สมัยนั้น) จนเลื่อนยศเป็น สิบตรี สิบโท สิบเอก ตามลำดับ โดยใช้นามสกุลว่า “ธรรมชัย” หมายถึง “ธรรมะย่อมมีชัยชนะเหนือสิ่งทั้งปวง”
สมัยเป็นทหาร หลวงพ่อชื้น เคยร่วมรบในสงครามอินโดจีนและสงครามโลกครั้งที่ 1 จนสงครามเลิก ก็ลาออกจากราชการหันไปค้าไม้กับเพื่อนร่วมรบในสงครามอินโดจีนด้วยกัน 2-3 ปี และกลับเข้ารับราชการอีกครั้งติดยศ จ่าสิบตรี และเลื่อนยศตามลำดับจนถึง ร.ท. ก็ออกจากราชการกินบำนาญในช่วงปี พ.ศ. 2475 โดยเพื่อนฝูงและคนคุ้นเคยมักชื่อท่านติดปากเรียกว่า “ร้อยโทชื้น”หรือ“หมวดชื้น”
หลังออกจากราชการทหาร ร.ท.ชื้น หันมาสนใจศึกษาธรรมะและแสวงหาความรู้ด้าน“วิปัสสนากัมมัฏฐาน” ดั้นด้นไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ “หลวงพ่อกบ” วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาทุกคนจะเรียกหลวงพ่อกบว่า “สมเด็จพระบรมครู หลวงพ่อเขาสาริกา” ด้วยอุปนิสัยหลวงพ่อกบไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ก็รับไว้เป็นศิษย์ โดยให้ ร.ท.ชื้น ศึกษาธรรมะและฝึกนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานจาก อาจารย์สาย ยอดสุวรรณ ศิษย์ฆาราวาสของท่าน ดังนั้น ร.ท.ชื้น จึงถือว่าเป็นศิษย์สายเดียวกับมหาชวน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ฝั่งธนบุรี เกจิชื่อดังในอดีต
ขณะศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน ร.ท.ชื้น ได้รับการถ่ายทอดขั้นตอนและเคล็ดลับการเจริญวิปัสสนาฯจาก อาจารย์สาย ยอดสุวรรณ และอาจารย์ชื่น สดศรี ชาว จ.นครสวรรค์ ศิษย์ฆราวาสของหลวงพ่อกบอีกท่านหนึ่งจนแตกฉานและสำเร็จธรรมขั้นสูง รวมทั้งมีโอกาสสนทนาธรรมและขอวิชาความรู้จาก หลวงพ่อโอภาสี ที่อาศรมบางมดบ่อยครั้งด้วย
ภายหลัง หลวงพ่อกบ ชราภาพ ได้ให้อาจารย์สายมอบหมายให้ ร.ท.ชื้น เป็นอาจารย์ถ่ายทอดการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานให้คณะศิษย์สืบต่อมา โดย ร.ท.ชื้น สอนลูกศิษย์อยู่ที่วัดเขาสาลิกาพักหนึ่งก่อนขยับขยายที่อยู่ ย้ายมาปลูกบ้านเปิดเป็นสำนักสอนปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างจริงจัง ที่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 4 ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.ชัยนาท (ใกล้วัดพระยาตากปัจจุบัน) ได้รับการเคารพนับถือจากบรรดาศิษย์สายหลวงพ่อกบและสายหลวงพ่อโอภาสีด้วยดีเสมอมา จนหลวงพ่อกบและหลวงพ่อโอภาสีละสังขาร ทำให้ลูกศิษย์หลั่งไหลมาหา ร.ท.ชื้น มากขึ้น
ราวปี พ.ศ. 2506 ร.ท.ชื้น อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดตะเคียนเลื่อน ต.ตะเคียนเลื่อน อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ อยู่ในเพศบรรพชิตราว 2 ปี ประมาณ พ.ศ. 2508 ก็จำต้องลาสิกขามาเป็นฆาราวาสนุ่งขาวห่มขาว เพราะติดภารกิจสอนศิษย์ปฏิบัติวิปัสสนา อีกทั้งต้องดูแลครอบครัว
ขณะครองเพศบรรพชิต หลวงพ่อชื้น ได้สนใจศึกษาด้านคาถาอาคม การลงอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ โดย หลวงพ่อชื้น มีโอกาสแลกเปลี่ยนวิชากับ หลวงพ่อแสวง ญาติของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จนกลายเป็นสหายธรรมที่สนิทกันมากรูปหนึ่ง รวมทั้งศึกษาวิชาอื่น ๆ เพิ่มเติมจากหลวงพ่อโอภาสีด้วย
อย่างไรก็ตามขณะดำรงชีวิตเป็นฆราวาส ตั้งแต่วัยหนุ่ม ร.ท.ชื้น ได้แต่งงานอยู่กินกับ นางสำลี ธรรมชัย มีบุตรชาย-หญิงด้วยกัน 3 คน คือ
1.นางเฉลียง สุนทราคม (ถึงแก่กรรม) แต่งงานกับ ร.ต.แกล้ว สุนทราคม (ถึงแก่กรรม) มีบุตรชาย 2 คน หญิง 1 คน
2.นางเฉลา เทพกาญจนา (อดีตข้าราชการครูโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง กทม.)ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ แต่งงานกับ พล.อ.ต.สุพจน์ เทพกาญจนา (ถึงแก่กรรม) พี่ชายของบิดา นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา นักการเมืองคนดัง มีบุตรด้วยกันเป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน (ถึงแก่กรรม)
3.พ.ต.ประโยชน์ ธรรมชัย (ถึงแก่กรรม) อดีตปลัดอำเภอ หัวหน้ากิ่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย แต่งงานกับ นางยุวดี ธรรมชัย (ถึงแก่กรรม) มีบุตรชาย ด้วยกัน 1 คน
นอกจากนี้ ร.ท.ชื้น ยังมีบุตรกับภรรยาชาว จ.อุทัยธานี อีก 1 คนชื่อ นายจำรูญ ธรรมชัย (ถึงแก่กรรม)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2509 ร.ท.ชื้น เห็นว่าที่บ้านคับแคบไม่เพียงพอกับความศรัทธาของคณะศิษย์ จึงหารือกับบรรดาผู้ปฏิบัติธรรมสายหลวงพ่อกบและหลวงพ่อโอภาสี ค้นหาสถานที่เหมาะสม และร่วมกันสร้างวัดที่เขาพลอง ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท หรือชื่อเป็นทางการในเวลาต่อมาว่า“วัดปฐมเทศนาอรัญวาสี” หรือชาวบ้านเรียกว่า“วัดเขาพลอง” พร้อมสร้างเจดีย์ขนาดใหญ่สีทองอร่ามประดิษฐานไว้บนยอดเขาพลองถึงทุกวันนี้
ปี พ.ศ. 2512 หลังจาก นางสำลี ภรรยาถึงแก่กรรม ร.ท.ชื้น ก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง (ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าบวชที่ไหน สันนิษฐานเพียงว่าน่าจะเป็นวัดตะเคียนเลื่อนเหมือนครั้งแรก) ได้ฉายาว่า “อริยธัมโม” หมายถึง ผู้ที่ได้ธรรมะอันสูงส่ง และสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานให้ผู้ศรัทธาเรื่อยมาจวบจนมรณภาพในวันที่ 25 ต.ค. พ.ศ. 2521 รวมอายุ 84 ปี
ระหว่างครองเพศบรรพชิต หลวงพ่อชื้น ได้รวบรวมปัจจัยจากผู้ศรัทธาหาและทุนทรัพย์พัฒนาวัดปฐมเทศนาอรัญวาสี (เขาพลอง) อย่างต่อเนื่องจนเจริญรุ่งเรืองสืบมา รวมทั้งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงก่อสร้าง“พระพุทธอริยธัมโม” พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ศิลปะสุโขทัยประดิษฐานบนเชิงเขาพลองข้างสวนนกชัยนาท ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องเหลียวมองเพราะความงดงามและยกมือไหว้ด้วยความศรัทธาทุกคน ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี เสร็จในปี พ.ศ. 2519
หลวงพ่อชื้น เป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและใจบุญใจกุศล สมัยวัยหนุ่มมักเจียดเงินเดือนขณะรับราชการทหารไปซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ เช่น นกกระจอก นกกระจาบ นกพิราบ สุนัข แมว และแจกคนยากจนอยู่เป็นประจำ ถือได้ว่าท่านมีแต่ให้และไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดตอบแทน

ลูกศิษย์ผู้สืบทอดวิชาจากหลวงพ่อชื้น
นายเชื้อ สว่างเนตร หรืออาจารย์เชื้อ สว่างเนตร ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ อายุมากแล้ว แต่สุขภาพแข็งแรง ดวงตาสว่างสดใส เป็นผู้สืบทอดและสอนวิปัสสากัมมัฏฐานให้ผู้ศรัทธาในช่วงวันเพ็ญเดือน 3 วันเพ็ญเดือน 6 และวันเพ็ญเดือน 12 ที่วัดเขาสาริกา วัดเขาพลอง และวัดพุทธบูชา อาศรมบางมด ธนบุรี
อาจารย์สิริสิงห์ หรือหมอแขก เป็นพราหมณ์นุ่งขาวห่มขาวเดินทางมาพำนักที่อาศรมหน้าทางขึ้นวัดเขาพลองหลายปี ศรัทธามาถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชื้น ได้รับการสืบทอดวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานไม่ด้อยไปกว่าอาจารย์ท่านอื่น ๆ แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ จึงไม่สามารถสั่งสอนใครได้ (เป็นข้อห้ามในหมู่ลูกศิษย์ หากใครฝ่าฝืนหรือไม่เชื่อฟังจะมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา ประสบความวิบัติ เป็นบ้าก็มีมาแล้ว) ภายหลังหมอแขกแต่งงานกับลูกสาวร้านทองใน จ.ชัยนาท ย้ายไปทำกิจการร้านทองที่ จ.แม่ฮ่องสอน กลายเป็นพ่อเลี้ยงเมืองเหนือไปเรียบร้อยแล้ว

วัตถุมงคลของหลวงพ่อชื้น อริยธัมโม
ด้วยความที่ หลวงพ่อชื้น เคยเล่าเรียนคาถา วิธีลงอักขระเลขยันต์ และศึกษาธรรมะมายาวนาน เพื่อรำลึกพระคุณครูอาจารย์ คณะศิษย์จึงจัดสร้างวัตถุมงคลไว้เป็นอนุสรณ์หลายแบบ มีทั้งเหรียญรูปทรงต่าง ๆ รูปหล่อบูชาหลวงพ่อกบ หลวงพ่อโอภาสี และตัวท่านเอง รวมทั้งผ้ายันต์ มีทั้งเป็นผ้าและกระดาษ แจกญาติโยมที่มาทำบุญและลูกศิษย์ ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่น หลวงพ่อชื้นจะปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาหรือ 1 ไตรมาส ทุกวัน ปัจจุบันวัตถุมงคลทุกประเภทหายาก ลูกศิษย์หวงกันมาก ๆ จึงไม่ค่อยพบหมุนเวียนให้เห็นกัน เรียกได้ว่า ของดีมีเงินมีทองไช่ว่าจะได้ครอบครองกันง่าย ๆ

​

เหรียญอาร์มรุ่นแรกหรือรุ่น 1 ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อชื้นครึ่งองค์ ปั๊มคำว่า อริยธัมโม (ชื้น)ด้านหลังเป็นยันต์ 3 กำกับด้วยอักขระ มะ อะ อุ ระบุปี พ.ศ. 2514 เนื้อเหรียญเป็นทองแดง ชุบกะไหล่ทอง นิเกิล และกะไหล่นาก หากผ่านการใช้สึกกะไหล่หลุดหมดจะเห็นผิวทองแดงเข้มจัดจำนวนการสร้างไม่เกิน 500 เหรียญ แจกเฉพาะลูกศิษย์และผู้ศรัทธา

​

พระผงว่าน 108 มี 3 เนื้อ สีขาว-สีดำ-สีน้ำตาล​

พระผงว่าน 108 ลักษณะสี่เหลี่ยม เท่าพระสมเด็จ ด้านหน้าเป็นเสาศาลา 2 ข้าง เหนือศีรษะเป็นลายกนก หลวงพ่อชื้นนั่งบนอาสนะ ที่ฐานมีคำว่า “อริยธัมโม” ด้านหลังเป็นยันต์ 3 มะ อะ อุ ระบุวัดปฐมเทศนาอรัญวาสี รุ่นพิเศษ มี 3 เนื้อ สีขาว สีดำ และสีน้ำตาล (คล้ายน้ำตาลปึก) พระผงรุ่นนี้ใส่กล่องพลาสติกสีเหลืองสีเดียว ฝามีคำว่า พระผงว่าน 108 อริยธัมโม รุ่นแรก สร้างราวปี พ.ศ. 2518 จำนวนการสร้างไม่มากนัก รุ่นนี้มีข้อมูลว่าผสมผงชำรุดและแตกหักของ สมเด็จวัดระฆัง สมเด็จบางขุนพรหม ปนลงไปด้วย ยิ่งเพิ่มความขลังเป็นทวีคูณ

​

พระสมเด็จคะแนน​

พระสมเด็จพิมพ์คะแนน เนื้อผงสีขาวหยาบ ๆ ยุ่ย ๆ แต่เนื้อแกร่ง ด้านข้างไม่ค่อยเรียบ อาจบิดเบี้ยวไปบ้างบางองค์ ด้านหน้าทาสีผึ้งปิดทองคำเปลว (บางองค์ไม่ปิดทอง) ด้านหลังปั๊มยันต์ 3 สร้างในปี พ.ศ. 2514-2518 จำนวนไม่เกิน 200 องค์ เอาไว้แจกลูกศิษย์และคนใกล้ชิดเท่านั้น จากการบอกเล่าของ อ.ลัดดา เมฆสัจจากุล อดีตอาจารย์โรงเรียนชัยนาทพิทยาคม (ชนพ.) ลูกสาวคนโตของ นางเฉลียง สุนทราคม และหลานสาวของหลวงพ่อชื้น ระบุว่า พระผงรุ่นนี้มีส่วนผสมของ สมเด็จวัดระฆัง และสมเด็จบางขุนพรหม ที่ชำรุดและแตกหัก โดยหลวงพ่อชื้นและผู้สร้างได้นำมาบดเป็นผงใช้ผสมเป็นมวลสารในรุ่นนี้ด้วย

​

เหรียญที่ระลึกแจกสร้างพระองค์ใหญ่​

เหรียญแจกสร้างพระองค์ใหญ่ เหรียญรุ่นนี้สร้างแจกเมื่อปี 2519 เป็นเนื้ออัลปาก้า ให้กับผู้ศรัทธาบริจาคทุนทรัพย์สร้างพระพุทธอริยธัมโม (หลวงพ่อใหญ่บนเขาพลอง) ด้านหน้าเป็นพระพุทธรูปพระพุทธอริยธัมโม ด้านหลังเป็นหลวงพ่อชื้นนั่งเต็มองค์ จำนวนการสร้างไม่เกิน 600 เหรียญ

พระเนื้อแร่ สีดำ มีทั้งพิมพ์สมเด็จและพิมพ์สมาธิเล็กคล้ายกลีบบัว จำนวนการสร้างไม่เกิน 500 องค์

​

เหรียญที่ระลึกสร้างมณฑปหลวงพ่อ 3 พระองค์​

เหรียญที่ระลึกสร้างมณฑปหลวงพ่อ 3 พระองค์ เหรียญรุ่นนี้แจกที่ระลึกในพิธีเปิดมณฑปประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อ 3 พระองค์ คือหลวงพ่อกบ เขาสาริกา หลวงพ่อโอภาสี และหลวงพ่อชื้น บนเขาพลอง จ.ชัยนาท ประมาณปี 2520-2521 สร้างแจกก่อนหลวงพ่อชื้นมรณภาพไม่กี่เดือน

​

เหรียญที่ระลึกทอดผ้าป่าสามัคคีวัดเขาสาริกา 2520​

เหรียญที่ระลึกทอดผ้าป่าสามัคคีวัดเขาสาริกา เป็นเหรียญรูปไข่เนื้อทองแดงรมดำ ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อชื้นครึ่งองค์ มีคำว่า หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม ด้านหลังเป็นยันต์ 3 กำกับด้วยอักขระ มะ อะ อุ และปี พ.ศ. 2520 จำนวนการสร้างไม่เกิน 500 เหรียญ

​

รูปถ่ายหลวงพ่อชื้นหลังเรียบและรูปถ่ายหลวงพ่อชื้น ด้านหลังหลวงพ่อกบ​

รูปถ่าย หลวงพ่อชื้น นั่งเต็มองค์อยู่หน้าวิหารหลวงพ่อ 3 พระองค์บนวัดเขาพลอง อัดกรอบพลาสติกใส ด้านหลังเป็นพลาสติกเรียบสีน้ำตาล รุ่นนี้แม่ชีที่วัดเขาพลองทำขึ้น พ.ศ. 2520 ให้ท่านปลุกเสก 1 ไตรมาสหรือ 3 เดือน แล้วให้ผู้ศรัทธาเช่าบูชาองค์ละ 25 บาท สร้างไม่เกิน 500 องค์ นอกจากนี้ยังมีรูปถ่ายขาวดำ ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อชื้น ด้านหลังเป็นหลวงพ่อกบ สร้างในช่วงใกล้เคียงกัน ทั้ง 2 แบบค่อนข้างหายาก ไม่ค่อยเห็นหมุนเวียนในตลาดพระเครื่องมากนัก ลูกศิษย์และผู้ศรัทธาหวงกันสุดสุด

​

เหรียญที่ระลึกงานฌาปนกิจศพหลวงพ่อชื้น ปี 2522​

เหรียญที่ระลึกงานศพ เหรียญกลมเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง นิเกิล และกะไหล่นาก ขนาดเล็กกว่าเหรียญบาทสมัยใหม่เล็กน้อย ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อชื้นครึ่งองค์ มีคำว่า พระอริยธัมโม (ชื้น) วัดเขาสาริกา ด้านหลังเป็นยันต์ 5 และปี พ.ศ. 2522 รุ่นนี้ไม่ทันหลวงพ่อ เป็นเหรียญที่ลูกศิษย์ทำขึ้นแจกในงานฌาปนกิจศพหลวงพ่อชื้นที่วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี วันที่ 9 พ.ค. พ.ศ.2522

​

รูปถ่ายหน้าวิหารหลวงพ่อ 3 พระองค์ แจกในงานฌาปนกิจศพหลวงชื้น​

รูปถ่ายหน้าวิหาร จัดสร้างเพื่อแจกลูกศิษย์และผู้ศรัทธาเป็นที่ระลึกในพิธีฌาปนกิจศพ หลวงพ่อชื้น ที่วัดเขาสาริกา วันที่ 9 พ.ค. 2522 ใต้ภาพด้านหน้าระบุวันเดือนปีเกิดและวันมรณภาพของท่าน (ชาตะ 16 ก.ย. 2437 มรณะ 25 ก.ย. 2521)​

ที่มา - http://sites.google.com/site/patihan2009/hlwng-phx-chun-xriy-tham-mo-phu-wises-haeng-khea-phlxng​

 

คนกับพระเจ้าไม่เหมือนกัน

 

-หลวงพ่อบุญเกิด วัดเขาดิน ตำบลหนองมะโมงฯเคยเล่าให้ผมฟังว่าไปขอเรียนกรรมฐาน

จากหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา แต่หลวงพ่อกบให้ "ร้อยตรีชื้น เป็นคนสอนหลวงพ่อ"

หลวงพ่อบุญเกิดจะเรียกหลวงพ่อชื้นว่า "ร้อยตรีชื้น" เสมอที่เอ่ยถึงขณะท่านคุยกับผม

-ดังนั้น หลวงพ่อชื้น อริยธมฺโม จึงเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อบุญเกิดด้วย

-พระผงอริยธมฺโม ยังมีเนื้อสีแดงคล้ายเนื้อชานหมากอีก 1 เนื้อครับ ที่ผมมีอยู่ 2 องค์

 

.......................................................
....พ่อผม..ก็มี..เหรียญรุ่น ๑ ท่าน..อยู่ ๑ เหรียญ..สภาพแทบไม่ได้ใช้..ได้มาซัก สามสิบกว่าปี..แล้ว..ผมเคยได้ยินชื่อท่าน..เหมือนกันว่า..เก่ง..แต่ไม่ทราบรายละเอียด
..ได้รับทราบเพิ่มเติม..จากคุณอดุลย์..ก็ขอบคุณมากครับ...........

 

หลวงตาหนูเองค่ะ(deejai) เหรียญคล้องคอตั้งแต่จำความไม่ได้ (ไม่มีในรูป) เป็นหนึ่งในสามพระสำคัญประจำบ้านค่ะ เราเรียกว่าหลวงตาชื้น นึกว่าจะไม่มีคนรู้จักซะละ เพราะท่านเป็นสายวิปัสสนากรรมฐาน จ้า

 

ก่อนที่จะได้ไปรับกรรมฐานที่เขาสาริกา ประมาณปี 2529 ไม่นานได้ฝันเห็นหลวงพ่อชื้นมานั่งอยู่บนหัวนอน เมื่อไปเห็นรูปท่านจึงประหลาดใจว่าพระนี้เราเคยฝันเห็นนี่ แสดงว่าหลวงพ่อมีเมตตาต่อเรามากๆ สาธุหลวงพ่อ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ชื้น อนุโมทนาครับพี่อดุลย์ นำเรื่องราวดีๆ มาให้เราได้อ่านกันอีกแล้ว

 

กราบ กราบ กราบ ครับ
สุปฏิปันโน สาวกสังโฆ

 

ขอบคุณสำหรับบท ความดีๆๆๆมากครับ ^^

 

ขอบคุณครับป๋า ป๋ามอบต่สิ่งดี ๆ ให้สมาชิกในเว็บเสมอนะป๋า เยี่ยมจริง ๆ เพิ่งจะรู้จักหลวงพ่อชื้น วัดเขาพลอง ก็วันนี้แหละครับ ขอบคุณอีกครั้งครับป๋า อย่างที่เคยบอก พระดีไม่จำเป็นต้องดัง และพระดัง ไม่ดีก็มีเยอะครับ

 

-บนยอดเขาพลองจะมีวิหารตั้งอยู่ ภายในวิหารจะมีรูปหล่อหลวงพ่อกบ , หลวงพ่อโอภาสี

และหลวงพ่อชื้นไว้ให้สักการะ และมีคนไปนั่งกรรมฐานต่อหน้ารูปหล่อทั้งสามท่านบ่อย

ครั้ง ณ ที่นี่สมาธิจะรวมตัวได้ดี จิตสงบไว

-มีพระธาตุเจดีย์อยู่ใกล้กับวิหารดังกล่าว

-มีน้องที่สนิทกับผม เขาเล่นเครื่องบินบังคับอยู่ พร้อมกับเพื่อนสมาชิกของเขา บอกว่า

หากบินผ่านพระธาตุเจดีย์และวิหารหลวงพ่อเครื่องบินจะดับและตกลงมาพังทุกครั้ง

-อีกทั้งผู้ที่บินเล่นเครื่องพาราฯติดร่ม เครื่องก็จะดับเองทุกครั้งต้องร่อนลงฉุกเฉิน จนเป็น

ที่รู้กันในหมู่นักบินว่า"ห้ามบินผ่านข้ามเด็ดขาด"

 

สาธุ...ท่านมาสอนในนิมิตบ้างในฝันบ้างรีบๆเรียนกันนะ...ท่านอยู่ในกระแสธรรมหลวงพ่อเขาสาริกาน่ะ...สาธุ

 

สาธู ผมเคยเป็นลูกศิษย์วัดสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่เคยได้รับเมตตาจากท่านให้น้ำเต้าหู้กินทุกเช้า ก่อนไปโรงเรียน จะเข้าไปกราบท่าน ตั้งใจจะกลับไปทำบุญอุทิศถวายท่านสักครั้งหนึ่ง เพื่อทดแทนบุญคุณและความเมตตาที่ท่านเคยให้กับผม

 

กราบครูบาอาจารย์หลวงพ่อทั้ง สามพระองค์ครับ

 

้เช่าบูชาแพงไหมครับผม ถึงพันไหมครับ อยากได้อ่าครับ
พี่ท่านใดมี บอกผมด้วยครับ 0860211136

 

ติงไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนเลยค่ะ ขอบคุณคุณหน่องมากนะคะ ที่นำประวัติและเรื่องราวของท่านมาให้อ่านค่ะ

 

พึ่งได้มา 1 เหรียญเมื่อเช้านี้เอง หาประวัติอยู่พอดี เห็นว่าคนพื้นที่เก็บกันน่าดู

 

เคยมีพระผงว่าน108 เนื้อดำ ของท่าน 1องค์ได้มานานเเล้ว

 

ผงว่าน ๑๐๘





​

 

มีพระผงว่าน108 กับเขาหนึ่งองค์
ตอนทำงานอยู่อีสาน มีพระจากภาคกลางไปร่วมงานบุญแถบนั้น ท่านมอบให้พร้อมกล่องเดิมๆ เราก็งงๆ

ตอนแรกไม่ทราบมาก่อนว่า เป็นของดีแห่งเขาพลอง