นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ต่างคนต่างไปค่ะ น้องฟ้ามุ่ย ที่ใครที่มัน 555

 

คุงคู เป็นลักปิด-ลักเปิด เหรอจ๊ะ
คงเพิ่งตื่นจากบรรทมล่ะซิท่า....
ไม่มีเรื่องโม้เลย...มารออ่านหนอ

 

สวัสดีค่ะน้องแต เข้ามาอย่างเงียบๆ เลยนะคะ
วันนี้ ถ้าใครเล่านิทานให้อ่าน ถูกใจจะให้รางวัล
แต่ขออุบไว้ก่อนนะว่าจะให้อะไร...? 555

 

ไม่มีใครเล่า งั้นเล่าเองนะ
เรื่องของ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต

คาถาที่ศักดิ์สิทธิ์

รัชกาลที่ ๔ ได้สร้างพระเจดีย์ทองคำ ๑ องค์ ประดิษฐานไว้บนฐานชุกชี เป็นประธานอยู่กลางพระพุทธมณฑียรให้ดูเหมือนว่า เป็นพระจุฬามณีเจดีย์

จึงมีพระราชดำรัสเกณฑ์พระราชาคณะทุกองค์ให้เลือกหาพระธรรมจำเพาะที่ดี เลือกมาถ้าของใครดีก็จะบรรจุไว้ในพระเจดีย์นั้น พระราชาคณะทั้งหลายต่างพากันขวนขวายเลือกหาข้อธรรมที่เชื่อว่าดีล้ำเลิศ ขึั้นถวายกันเกือบเป็นการแข่งขันนั่นแหละ

ส่วนเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านเขียนว่า "นะโม" คำเดียวขึ้นถวาย แทนที่จะกริ้ว กลับทรงโปรด จึงรับบรรจุไว้ในเจดีย์นั้นด้วย

เหตุผลก็เพราะว่า ธรรมะใดๆ จะดีเลิศได้ จะต้องกล่าวบทอ่อนน้อมต่อพระพุทธเจ้าก่อนเสมอ จึงจะวิเศษจริง

 

มีเรื่องเล่ามาให้อ่านครับ
เพื่อนผมเคยเล่าให้ผมฟังว่า วันพระครั้งหนึ่งเขาเล่นน้ำโขงที่หน้าวัดหลวง(อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย)จนถึงประมาณ6โมงเย็น เขาได้ยินเสียงสวดมนต์ใต้น้ำ...ยึม ยั่ม ๆๆ เขาได้ดำน้ำฟังอีกรอบเป็นเสียงสวดมนต์จริงๆ ก็เลยขึ้นจากน้ำไปถามพระ พระท่านบอกว่า เสียงสวดมนต์ของพญานาคทุกวันพระพญานาคจะสวดมนต์จำศีล

 

แถมให้วันอาทิตย์

คนประจบมักพูดไม่จริง

ตามปกติ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านมักฉันอาหารสำรวม คือเวลาฉันจะหยิบอาหารคาวหวานทุกชนิด ใส่ลงในบาตรคลุกเคล้ากับข้าวสุกก้นบาตรแล้วจึงฉัน ท่านทำอย่างนี้เป็นประจำ เว้นแต่ไปกิจนิมนต์ตามบ้านญาติโยม

คราวหนึ่งท่านประกอบอาหารปรุงจากยอดผักบุ้งลวกน้ำร้อนแล้วคลุกเคล้ากับข้าวก้นบาตรอย่างที่ว่านี้ แบ่งถวายพระวัดระฆัง 3-4 รูปฉัน แล้วท่านถามพระเหล่านั้นว่า "อร่อยไหมจ๊ะ"

บางองค์เกรงใจท่าน ก็เรียนว่า "อร่อยมาก" ท่านก็นึกในใจว่า นี่พูดไม่จริง ถามอีกองค์เป็นหลวงตาแก่ๆ หลวงตาตอบว่า "ไม่ได้มีรสชาดอะไรเลย ไม่อร่อย"

ท่านก็ว่า "พระองค์นี้พูดจริง พูดถูก ข้าวคลุกผสมทั้งขนมทั้งผัก จะอร่อยได้อย่างไร"

เอวัง....

 

จริงเหรอคะ อยากได้ยินบ้างจังเลย น่าสนใจค่ะ
ถูกใจนะ ให้พรแล้วกัน งวดนี้ขอให้มีโชค ไปเลือกเอาเองนะจ๊ะ

 

โชคดีจริงๆ อิอิ

 

โชคดีจริงๆ ค่ะ วันนี้มาถึงบ้าน เข้าไปค้นหนังสือ รู้เท็จจริง ของท่านบ๋าวเอง
ทีแรกนึกว่าให้ใครไปแล้ว ฟลุ๊กมากๆ เลย ยังอยู่กับกองหนังสือในห้องพระ
มีภาษาที่ท่านมุจลินทร์ เขียนไว้ด้วยพร้อมคำแปล
แต่โชคร้ายที่ลืมสายเสียบต่อเข้าคอมมาด้วย
คงต้องรอให้กลับไปเชียงใหม่ก่อนนะคะ จะลงภาพให้ดู

งั้นวันนี้จะค่อยๆ พิมพ์เรื่องของพระนครินทรนาคราช หรือ พญามุจลินทนาคราช ให้อ่านนะ
ช้าหน่อยนะคะ เพราะไม่ค่อยถนัดมือ ใครอยากอ่านยกมือขึ้นด้วยค่ะ

 

หนังสือเล่มนี้ จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อวันมาฆบูชา ปี พ.ศ.๒๕๐๕ นานมากค่ะ ครูบาอาจารย์ท่านทิ้งไว้ให้อ่านค่ะ
กระดาษที่พิมพ์เป็นสีเหลืองแก่แล้ว เราเก็บรักษาไว้อย่างดี ด้วยการเอาสก๊อตเทปหุ้มสันหนังสือไว้ เพราะเห็นว่าทรงคุณค่าและคงหาไม่ได้อีก

ประวัตินี้เล่าโดย พญามุจลินทนาคราช สื่อโดย องค์สรภาณมธุรส (บ๋าวเอิง)

นครินทรนาคราช นั้น เป็นชื่อของเราๆ มีพ่อแม่เป็นนาค มีเมียชื่อ สุนะยัสสะ ลูกชายสี่ ชื่อตามลำดับ
1. พิชะโนนาคราช
2. อะยะโนนาคราช
3. สมุหะโนนาคราช
4. พิกะยะโนนาคราช

เรามีนิสัยชอบทางปกครอง ฉะนั้นถึงได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นจอมนาคราช

นาคราช นั้นปกครองได้ 5 องค์ เราก็เป็นจอมนาคราชในจำนวน 5 องค์นั้นเหมือนกัน นาคเป็นเมืองเนรมิต ผู้ที่ฝึกฝนทางจิตและมีธรรมะประจำใจ ก็ลงไปเที่ยวชมได้

 

เชื่อแน่ว่า...เกินกว่าครึ่งของสมาชิกเมืองบาดาลแห่งนี้เกิดไม่ทัน...เก่าจริงๆ แถมทรงคุณค่าเหลือคณานับ

 

นั่งกินขนม...ผลไม้ ...ฯลฯ และส่งแรงใจไปช่วย..ให้คุณนายพิมพ์..นะฮะ.. (ช่วยเต็มที่เลยนะเนี่ยะ..ขอบอก)

คือรัยอ่ะ.??? มัน..คือ..คำชม หรือ คำเหน็บแนม..แกมประชด นางร้าย..ตามไม่ทัน..ฮ่ะ.

 

เมื่อครั้งพระพุทธองค์ ก่อนที่จะตรัสรู้ ท่านก็เคยเสด็จลงไปเที่ยวเมืองบาดาล ตอนนั้นเราเรียกพระพุทธองค์ว่า องค์เจ้า องค์เจ้านี้ ท่านมีธรรมะอันประเสริฐสุดก่อนที่ท่านจะตรัสรู้เสียอีก ก่อนทุกๆ คนที่ลงไปเที่ยวในภิภพบาดาล ถ้าจะนับ องค์เจ้า และตัวเรานี้ก็ใกล้ชิดกันมาก่อน แต่เรานั้นไม่รู้เรื่องเลยว่า องค์เจ้านี้จะเป็นผู้นำพระพุทธศาสนาอันยิ่งใหญ่

เมื่อถึงคราวเราขึ้นมาเที่ยว ได้พบเห็นองค์เจ้าท่านนั้นทุกขเวทนา โดยการทำตบะ ให้อยู่ในสมาธิจิต พร้อมทั้งผู้อื่น เรานั้นก็ไม่เคยที่จะคิดนั่งเหมือนกับองค์เจ้า เห็นเป็นของแปลก ก่อนที่ท่านจะเข้าที่ตรัสรู้นั้น ทำให้จิตใจเราเร่าร้อนมาก ต้องขึ้นมานั่งเฝ้าองค์เจ้า เพื่อเป็นสักขีพยานทิพยอำนาจขององค์เจ้าที่จะประกาศให้มวลโลกมนุษย์รู้ว่า องค์เจ้านั้นถึงแล้ว ซึ้งแล้ว ตรัสรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

เราปรากฏเป็นนาคมาแผ่ให้ความร่มกับองค์เจ้า พร้อมกับที่องค์เจ้าตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ด้วยบังเกิดปาฏิหาริย์ถึงขนาดฝนตกลงมาอย่างพิศดารที่สุด มนุษย์ผู้ไม่รู้ความจริงก็เข้าใจไปว่าฝนธรรมดา แต่ความจริงไม่ใช่ฟ้าดินท่านบรรดาลให้ตกลงมา เป็นฤกษ์กุศลขององค์เจ้าท่าน ที่ได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ ตอนนี้น่าจะถวายพระนามว่าจอมสำเร็จ เราได้แผ่ปกคลุมป้องกันให้องค์เจ้าท่านเช่นนั้น จนกระทั่งมีผู้มาพบเห็นและเรียกเราว่า พระยามุจลินทนาคราช

 

ตัวเรานี้ ถ้าเปรียบได้ก็เหมือนผู้ที่รับแสงแห่ง พระพุทธเจ้า เป็นแห่งแรก แต่เราเหมือนกับครึ่งคนก็ได้ จะเป็นคนก็ยังไม่ได้ จะเป็นสัตว์ก็ยังไม่เชิง เพราะเรามีวาสนาน้อยทั้งๆ ที่ได้รับแสงเป็นแห่งแรก ก็ไม่มีทางจะรับพระธรรมอันละเอียดอ่อนของ พระพุทธองค์ ไปเผยแพร่ได้ เราจึงขอพรต่อท่านว่า อยากจะให้พวกนาคนี้ได้รับแสงของธรรมะของท่านบ้าง ท่านจะอนุญาตได้ไหม ท่านก็อนุญาตให้นาคมีสิทธิที่จะขึ้นมาศึกษาได้ทุกเวลาและทุกโอกาส

บุญวาสนาของนาคนั้น น้อยจริงๆ ทั้งๆ ที่ได้รับพรก็ไม่มีปัญญาที่จะเอาไปเผยแพร่ให้มนุษย์ต่อไปได้ เพราะความหลงระเริงในชาติกำเนิดของตน ทำให้เสียโอกาสอันดีงามไป

ฉะนั้น พวกมนุษย์ทั้งหลายถึงได้ไม่เห็นพิภพใต้บาดาล บุญนั้นมีจริงแล้วไซร้วาสนาไม่ส่ง ก็ต้องทนอยู่ในพิภพของตัวต่อไปตราบเท่าทุกวันนี้ เราก็เปรียบประดุจเหมือนแสงหิ่งห้อย ไม่มีแสงสว่างที่จะไปให้ใครได้ ฉะนั้น จึงได้รับพรของพระพุทธองค์ ให้ปรากฏต่อไปชั่วฟ้าและดินว่า ผู้ใดที่อยู่ในพระพุทธศาสนา และจะบวชเรียนเมื่อใด ผู้นั้นต้องเป็นนาค เสียก่อน

นาค คำนี้ถึงได้เป็นที่ติดปากมาชั่วลูกชั่วหลาน แต่จะให้ปรากฏว่าเป็นนาค มาให้เห็นเป็น พญานาค นั้น คงไม่มีโอกาสเสียแล้ว เพราะบุญนาคนั้นน้อยกว่ามนุษย์ ขอให้เป็นคำติดปากก็แล้วกันนะ

ขอเว้นวรรค 20 นาทีนะจ๊ะ เดี๋ยวมาเล่าต่อ.....

 

เข้ามายกมือ อยากฟังหนอ ด้วยคนค่ะ ...

สู้ๆนะคะ รอหนอ

 

มาแว้วววว...ต่อนะ

พิภพบาดาล

นาค เป็นเมืองเนรมิตขึ้นมา มีสภาพเป็นถ้ำอยู่ใต้แผ่นดิน และใต้มหาสมุทร และมีน้ำล้อมรอบ แต่ภายในเมืองนั้น น้ำเข้าไม่ได้ ตัวเมืองมีลักษณะเป็นปราสาทหินหรือแก้วผลึกอยู่ใกล้ชิดกับเมืองที่พระพุทธองค์ประสูติ แต่ก่อนมีช่องทางเป็นอุโมงค์ เดินขึ้นลงสู่โลกมนุษย์ได้ ต่อมาได้มีเหตุจึงทำให้ทางขึ้นลงสู่โลกมนุษย์ถูกปิดตาย ไม่มีใครสามารถขึ้นลงได้อีกต่อไป เหมือนเป็นเมืองที่เร้นลับ ไม่เป็นที่เปิดเผยแก่ปวงมนุษย์ เรื่องของพิภพบาดาลจึงเป็นสิ่งที่เล่าสู่กันฟังเป็นนิยาย

รูปลักษณะของนาค

นาคเป็นสัตว์ ไม่ใช่ครึ่งคนครึ่งสัตว์ มีฐานะต่ำต้อยกว่ามนุษย์ ลักษณะคล้ายงู แต่ไม่ใช่งู รูปร่างใหญ่โตมาก ตามตัวมีเกล็ดเป็นเลื่อมลายพร้อย ศีรษะใหญ่และยกชูเสมอ นาคตัวผู้มีเกล็ดสีเขียวมากกว่าแดง ลำตัวยาวราว 8 ศอก ที่หัวมีหงอนรูปร่างป้านๆ และบางตัวมีดอกกจันทร์ หางเรียวมากกว่าตัวเมีย ยาวอย่างมาก 6 ศอก ตามลำตัวมีเกล็ดเหลืองสลับแดงเจือเขียว หัวเตี้ยไม่มีหงอน ตอนหางใหญ่

นาคเหล่านี้ เมื่ออยู่ในเขตเมือง ก็มีลักษณะเหมือนมนุษย์ ถ้าออกจากเขตเมืองแล้ว ก็มีลักษณะเป็นนาคดังกล่าว และเมื่อใดได้ขึ้นมาเมืองมนุษย์ ก็มีรูปร่างดังมนุษย์ ทั้งนี้ เพราะได้รับพรของ พระพุทธองค์ นั่นเอง

 

ความเป็นอยู่ของนาค

ความเป็นอยู่ของนาคในพิภพบาดาลนั้น ก็เช่นเดียวกับมนุษย์ ต้องมีการทำมาหากิน แต่ไม่มีการสะสม มีการปลูกข้าว แต่พืชพันธุ์ที่ปลูกนั้น เติบโตรวดเร็วมาก เรียกได้ว่าเป็นเมืองทิพย์ เมื่อปลูกต้นไม้มากก็นำมาสู่โรงครัว ใครต้องการก็กินได้ ไม่มีใครหวงห้าม ไม่มีการซื้อขาย ไม่มีเงินใช้ เวลากินก็กินรวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง

การปกครองของนาค

ในเมืองนาคแบ่งออกเป็น 5 ภาค ภาคหนึ่งก็มีจอมนาคราชเป็นผู้ปกครองดูแล แล้วก็มีพวกหัวหน้ารองลงมาดูแลการทำงาน พวกที่เป็นหัวหน้ารองลงมานี้ จะเป็นใหญ่กว่านาคอื่นๆ ไม่ได้ เพราะอยู่ในนั้นเป็นเมืองที่ปกครองอย่างฉันท์มิตร นึกจะนอนตรงไหนก็นอน เมืองนั้นมีสภาพเหมือนบ้านใหญ่ๆ บ้านหนึ่ง ไม่มีการแบ่งชั้น ไม่มีการแบ่งเป็นครอบครัว การกินอยู่เหมือนกันหมด เครื่องใช้ไม่สอยทำด้วยแก้วผลึกหรือทองคำ

การเกิดและจุติบนสวรรค์

นาคนี้เกิดยากที่สุด จำนวนนาคจึงมีไม่มาก เรื่องการสมสู่กันมีน้อย ความเป็นอยู่ดำเนินไปอย่างสงบสบาย วันคืนผ่านไปไม่ค่อยรู้ตัว กว่าจะหมดไปวันหนึ่งๆ ก็มีระยะเวลานานมาก จำนวนมากมีเท่าใดเป็นเรื่องที่เปิดเผยไม่ได้

ผู้ที่เกิดเป็นนาค เมื่อตายไปแล้วก็ไปจุติในสวรรค์ โดยมีส่วนต่างหากพิเศษเทียบเท่าชั้นพรหม ไม่ต้องไปปะปนกับผู้อื่นๆ และมีลำดับสูงต่ำตามชั้นของตน

เรื่องที่เล่ามานี้ จะเชื่อหรือไม่ ก็อยู่ที่มนุษย์ ท่านผู้เจริญขอร้องเรา เราก็ได้สนองแล้ว

ขอให้มนุษย์จงเจริญด้วยคุณธรรมเถิดนะ

เอวัง...ค่ะ

 

แบบนี้หรือเปล่านะ?
ดูท่าทางคงจะมีความสุขนะ
ฮ่าๆๆๆๆๆ....

 

อนุโมทนาบุญค่ะ .... อ่านแล้วได้รับรู้อะไรขึ้นเยอะเลย

 

อ้าว...ก็ท่านหน่อหนอ มาร่วมเต้นด้วยม๊ะใช่เหรอ เอาออกมาโชว์กันมั่งจิ อิอิ