จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ขยันเกาะพระ หมั่นเกาะพระ เพียรเกาะพระ
ขยันเกาะครู หมั่นเกาะครู เพียรเกาะครู
ขยันส่งการบ้าน หมั่นส่งการบ้าน เพียรส่งการบ้าน
แต่ห้ามขยัน หมั่น เพียรสงสัย 55555
มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

นี่คือตัวอย่างของผู้ที่ทำจิตเกาะพระอย่างมีความเพียรเป็นเลิศ

ความเพียรที่ทำสม่ำเสมอ ไม่เครียด ไม่ซีเรียส

ส่งผลให้ใจท่านสบายจนคนรอบข้างสัมผัสได้

จิตเกาะพระช่วยให้ละกิเลสได้ไวที่สุด

ใครมัวลังเลก็คงต้องแบกโกรธกันข้ามปี บางทียืดเยื้อออกไปเป็นข้ามชาติ

ใครอยากหนักใจก็แบกโกรธกันต่อไป

ใครอยากเบาใจก็ทำจิตเกาะพระ ขอบารมีพระช่วยให้โกรธจางคลายไป

ใครไม่เชื่อขอให้ท่านพิสูจน์ด้วยตนเอง

อย่ามัวแต่ไปนั่งนึกนอนนึกเอาเองว่ามันไม่จริง!

 

ขอขอบพระคุณคุณDhammaneeด้วยครับ ที่pmไปหาผม ทำให้ผมได้เข้ามาที่นี่ครับ

 

ข้าพเจ้าชอบสูตรสำเร็จของคุณลูกพลังจัง
ทำลูกเดียว ปฎิบัติลูกเดียว แล้วอย่างนี้ไม่สำเร็จได้ไง ใช่ม่ะๆ

แต่ถ้าทำแล้ว ปฎิบัติแล้ว เกิดความสงสัยก็ถามกันได้ทุกเมื่อ
มีออฟชั่นให้เลือกถามครูท่านไหนก็ได้ PM หรือ e'mail ก็ได้ทั้งนั้น ตามใจ

ครูทุกท่านก็พร้อมให้เสมอๆ
เห็นไหม๊ คุณทำบุญกันได้ทุกเวลา
มีใครรู้สึกไหม๊ว่า มาเยี่ยมกระทู้นี้เหมือนได้กินบุญ อิ่มบุญ
เพราะพลังบวกของพวกเราในนี้เยอะ

ดูตัวอย่างคุณwatjojoj กันสิ ท่านก็เริ่มชักจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของจิตใจของตนเองทีละเล็ก ที่ละน้อยกันแล้ว
มาบ่อยๆนะ เดี๋ยวจิตยกไม่รู้ตัว

เอาตามสูตรลูกพลังนี้นะ ครูลูกพลังนี่ก็เด็ด ท่านอื่นๆก็เด็ดไม่แพ้กัน
ขอเอาใจช่วยทุกๆท่านนะครับ

 

เห็นด้วยครับ เมื่อก่อนผมอ่านอย่างเดียวไม่เคยทำ พอลองจริง มันไม่ง่ายอย่างที่อ่านหนังสือสอบนี่หว่า (แต่ไม่ยากถ้าตั้งใจจริง แถมมีอาจารย์คอยแอบช่วยยกจิตอยู่ห่างๆ ไม่ทราบว่ารู้สึกไปเองไหมครับ )เพราะฉะนั้นต้องทำๆๆๆๆๆๆ จริงๆครับ ที่ผมลดความโกรธได้คือโกรธปุ๊บนึกถึงพระ ใจจะโล่งแบบเห็นได้ชัดเลยครับ

 

มาแล้วครูสายปัญญา สายเดียวกับครูสายเสมอ เอ๊ย!ครูสายละเอียด
เธอสมเป็นน้องสาวครูเพ็ญเจงๆ

"ต้องกราบ"ความคิดไม่ดี"งามๆ ที่ช่วยให้เราฝึกสติ"

คนมีธรรมะในใจนี่นะ แม้นกระทั่งมองไม่ดีก็เปลี่ยนเป็นดีได้เหมือนกัน
หรือพยายามมองบวกให้ได้ มองให้เป็น แล้วเราก็จะได้ประโยชน์
ในเมื่อเรามองเห็นความไม่ดีของผู้อื่น หรือแม้นกระทั่งความไม่ดีของตนก็เหมือนกัน เราก็พยายามเปลี่ยน หรือพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสกันได้

แม้นกระทั่งตัวของผู้เขียนก็เปลี่ยนจากเมื่อก่อน อะไรที่ไม่ดี เราก็เปลี่ยนซะ ก่อนที่ คำว่า สายเกินไป มันจะมาใช้ได้กับเรา
เปลี่ยนให้หมด
ไม่มีใครชั่วร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์กันหรอก
เขามีแต่ว่า เมื่อไหร่รู้ตนเองชั่ว เลว แล้วแต่ละคนก็จะเปลี่ยนตอนไหนกันเท่านั้นเอง
หรือใครจะรู้สึกไวกว่ากัน ว่า...ที่เรากำลังยืนอยู่กันนั้น
มันเป็นดินแดนอะไร
แดนนรก หรือว่า แดนสวรรค์ พรหม หรือนิพพาน

เพราะฉะนั้นจิตใครจิตมัน จิตเราก็อยู่ที่เราเองนี่แหล่ะ!
ระวังให้ดี คอยรักษากันเอง

พวกเราคอยสังเกตกันให้ดีๆนะว่า...
จิตที่ฝึกมาดี มีสติมาก จิตก็จะเป็นสมาธิ เกิดปัญญา ทางนี้เขาเรียกว่าสายบุญ สร้างบารมี คือสร้างกำลังใจของตน นี่คือ แดนสวรรค์ พรหม นิพพาน
แต่ถ้าจิตใครไม่ฝึกจิต ไม่สนใจจิต แถมไม่มีสติ ติดๆดับๆ ขอให้นึกหลอดไฟ สมาธิก็ไม่มี ปัญญาไม่ต้องไปพูดถึง
แล้วไม่ต้องสงสัยกันเลยว่า เมื่อจิตตัวเดียวไม่นิ่ง ไม่สงบ นั่นขอให้พวกเราได้โปรดเข้าใจกันไว้เลยว่า
ท่านกำลังตกเป็นเหยื่อกิเลส เป็นทุกข์ ตกไปตามกระแสโลก ดึงจิตใจของคนให้ตกต่ำสุดจนรับทุกข์ทรมานจนทนกันไม่ไหว
ท่านพอจะมองออกกันรึยังว่า จิตของท่านกำลังอยู่ในแดนไหน
ถ้าไม่ใช่แดนอบายภูมิ นรกภูมิ นี่คือที่ไปที่มา หรือจุติของจิตผู้ไม่หลุดพ้น
เมื่อตายไป ท่านจะไปที่ไหนได้ ไปก็ไม่ไกล เพราะในยามที่ท่านยังมีลมหายใจกันอยู่นั้น
ไม่พยายามฝึกที่ไป หรือฝึกการจุติของจิตให้ไปสู่สุคติกัน

เตือนใจกันเพียงเท่านี้

 

ผมทราบดีนะว่า คุณไม่ธรรมดาและอีกอย่างนึงก็คือ ไม่เชื่อใครง่ายๆนักหรอก จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตนเอง
จิตเกาะพระ พระนั้นก็หมายถึงพระพุทธเจ้า ถือว่าเราจะต้องยึดท่านไปก่อน เพราะจะมาอาศัยกำลังใจตามลำพังตนแต่ผู้เดียวนั้น มันไม่เพียงพอ
คุณเข้าใจถูกแล้ว ผมและครูทุกท่านในนี้ ท่านมิได้แค่สอนๆอย่างเดียว เพราะทุกท่านช่วยกัน ร่วมกันส่งบุญ และพร้อมขออาราธนาบุญ บารมีท่านพ่อให้ช่วยยกจิตในกระทู้นี้กันด้วย
คุณไม่สงสัยกันหรอว่า ชอบมีใครเข้ามาอ่านธรรมะ เพื่อสะสมพลังจิตกันตามไปด้วย
โดยเฉพาะสหายบุญ หรือกระหายบุญทั้งหลาย

ที่แน่ๆ ผมเห็นมองคุณ? ในเวลาทุกท่านหลับไหลกันอยู่นั้น จะมีนายเวรเบื้องบน ท่านคอยส่งพลังจิตไปให้กับทุกๆดวงจิตอยู่ในขณะนี้ก็คือ คุณnewwave1959

และท่านนี้แหล่ะ! ที่คอยติดทองหลังพระให้กับพวกเราเสมอๆมา
สาธุๆ ท่านพ่อรู้หมดว่าใครทำอะไร


ปล.ผมขออวยพรให้คุณwatjojoj สมดั่งใจทุกปรารถนา โดยเฉพาะพระนิพพาน (ได้แน่นอน)
สาธุๆ

 

โมทนาสาธุกับคุณวัฒนาอย่างยิ่งเลยครับ.. ดีมากๆเลยครับ

ความโกรธ(โทสะ) นี้เป็นกิเลสที่น่ากลัวมากตัวนึง วิธีจัดการกับมันนะ คือ
สิ่งที่คุณวัฒนาทำมาแล้วนั้นต้องถือว่าดีใช้ได้ในระดับนึงคือว่าสติตามมาสายไปหน่อยนึงแต่ก็ยังตามมารู้เท่าทันมัน
Next step นะครับ:-
- พยายามทำจิตให้นิ่งเข้าไว้ คุณพี่สติจะตามมาไวรวดเร็วขึ้น คือพอกระทบรู้ รู้ว่าเคืองโกรธแล้วนะ แต่ยับยั้งชั่งใจไม่ให้ ผลุสวาทพูดไม่ดีออกไป หรือลงไม้ลงมือแสดงกิริยาท่าทางไม่พอใจออกไป (คือหยุดมโนกรรมยังไม่ได้ แต่ว่าหยุดวจีกรรมและกายกรรมได้) ในขั้นนี้
- พอจิตนิ่งถึงที่สุดแล้วนะครับ สติจะรู้เท่าทันจิตเลย.. พอมีปัจจัยมากระทบรับรู้ได้ที่อายะตนะทั้ง6 คุณพี่สติจะไวมากๆเลย คือ กระทบรู้ ปัญญาวิปัสสนาลง แล้วก็วางจบเลย (คือเกิดขึ้นที่ตรงไหนก็ดับที่ตรงนั้น..อันนี้นี่เรียกว่า advance shotเลย) คือว่ามันก็จะหยุดได้ตั้งแต่มโนกรรม วจีกรรมและกายกรรมทั้งหมดเลย

ประเด็นก็มีอยู่ตรงที่ว่าจะทำอย่างไรให้จิตนิ่งถึงนิ่งมากที่สุด?
ตอบ:ก็หมั่นทำจิตเกาะพระ ทรงสมาธิ(ฌาน)ให้ได้ตลอด จิตก็จะนิ่งมากขึ้น เมื่อจิตนิ่งมากขึ้นเราก็จะทรงสติได้รวดเร็วมากขึ้นเป็นเงาตามกัน และเมื่อนั้นแหล่ะ อย่าว่าแต่ความโกรธเลย.. ให้กิเลสมาพร้อมๆกันเลยทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง เขาก็มิอาจเข้าถึงตัวเรา(จิต)ของคุณวัฒนาได้
แล้วเมื่อวาระนั้นมาถึง.. ที่คุณวัฒนาปราถนา "ขอเข้าสู่นิพพานในชาตินี้เทอญ" ก็จะเป็นจริง..

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป.. สาธุสวัสดี

 

น้อมรับคำสั่งสอนครับ ถ้าสิ่งใดทำเพื่อนิพพาน พร้อมเสมอครับ

 

ธรรมดาจิตนั้นนะ....มันมีเวลาขยัน และขี้เกียจ
ถ้าทำเพียรด้วยสัจจะ เราต้องทำเรื่อยทั้งที่ขี้เกียจ
ทำจิตให้จิตรู้อยู่ การรู้ภายใน การฉลาดภายใน จิตจะเป็นอย่างนี้
การทำทุกวัน บางทีสงบ บางทีไม่สงบ...เป็นอนิจจัง

เมื่อมีปัญญาเกิดขึ้นในจิตใจของเราแล้ว
จะมองไปที่ไหน จะมีแต่ธรรมะทั้งนั้น
เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...ตลอดเวลา

หลวงพ่อชา

 

สวัสดีค่ะ ครูภู ครูเพ็ญ ครูดัช ครูอัญญะมณี ครูวิทย์ ครูลูกพลัง ครูนิวเวฟ ครูนก ครูลูกหว้า ครูจารุณี วันนี้วันพระ เช้าใส่บาตรพระ 3 รูป ถวายดอกไม้ พวงมาลัย ขนม ผลไม้ พระที่บ้าน สวดมนต์ นั่งสมาธิ กรวดน้ำเรียบร้อยแล้ว ขออารธนาบารมีพระพุทธเจ้าองค์ปฐมและพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์นำผลบุญทั้งหลายส่งให้ครูภู ครูเพ็ญ ครูดัช ครูอัญญมะณี ครูวิทย์ ครูลูกพลัง ครูนิวเวฟ ครูนก ครูลูกหว้า ครูจารุณี จิตบุญทุกท่าน รวมถึงท่านที่กำลังฝึกทำจิตเกาะพระทุกๆๆท่านด้วย...สาธุ

 

เมื่อเย็นวานนี้หลังจากไปรับเจ้าตัวเล็กก็เลยไปซื้อของ พอดีมีรถคันหนึ่งกำลังจะถอยออกจากที่จอดรถริมถนน เราก็รออยู่ห่างๆ เห็นเค้าขยับรถไปมาหลายครั้ง จนถอยออกมาได้มากแล้วเราก็ขยับรถเข้าไปรอ แต่ยังไม่ใกล้เท่าไหร่ เห็นเค้ารอให้ถนนว่างก่อนที่จะขับออกไปทันใดนั้นเค้าลดกระจกลงและยื่นแขนออกมานอกหน้าต่างพร้อมกับชูนิ้วกลางให้ เราก็งงเค้าโกรธเราเรื่องอะไรหรือ ถึงได้ทำแบบนี้ ช่างเถอะ....ปล่อยเค้าอยากจะทำอะไรก็เรื่องของเค้า หันกลับมาพิจารณาตัวเราดีกว่าว่าทำอะไรให้เค้าเคืองใจหรือเปล่า เมื่อพิจารณาแล้วเราปฏิบัติตามขั้นตอนทุกอย่างไม่ได้เร่งหรือจอดใกล้จนเค้าถอยลำบาก ดังนั้นอย่าไปใส่ใจเลยกับการกระทำเหล่านั้น ได้ชี้ให้เจ้าตัวเล็กดูและอธิบายให้ฟัง ไม่ต้องไปโกรธหรือพูดไม่ดีไม่ว่าเค้าจะได้ยินหรือไม่ได้ยินก็ตาม ปล่อยวางไปได้ ใครทำอะไรเค้าย่อมได้สิ่งเหล่านั้นกลับไปเอง

 

วันนี้พี่เพ็ญไปสอนจิตเกาะพระที่วัดดอยเปา
ถ้ากลับดึกอาจจะไม่ได้ตอบการบ้านในเมลนะคะ

 

สวัสดีค่ะ
ยังไม่มีโอกาสได้นั่งอ่าน คำสอน คำแนะนำสักเท่าไหร่เลยค่ะ
วรรณมีแจ้งไปทางอีเมลล์คุณอัญญะมณีแล้วนะคะ ไม่รู้ว่าเป็นการส่งการบ้าน หรือให้การบ้านคุณครูกันแน่ อิอิ .. การเดินทางแม้จะมีอุปสรรคแต่ถ้าเรามีความเพียร แม้เป็นเพียงเต่าน้อยที่เดินได้ช้ากว่าเพื่อน ถ้าเราไม่ละความพยายามสักอย่าง เราก็ย่อมถึงจุดหมายเช่นเดียวกัน...แม้จะช้ากว่าคนอื่น แต่ยังดีกว่าไม่พยายามเลย..จะนำคำแนะนำมาปรับใช้กับตัวเองให้มากที่สุดค่ะ..
@ พี่เกษ..เพราะพี่มีเมตตาค่ะ วรรณถึงได้เข้ามาที่ชุมชนนี้ได้..กราบขอบพระคุณมากค่ะ

 

​

ข้อสำคัญ การที่เจริญให้เข้าถึงมรรคถึงผล ที่เรียกว่า โมกขธรรม คือธรรมเป็นเครื่องพ้นจากกิเลส หรือว่าธรรมเป็นเครื่องพ้นจากกิเลส หรือว่าธรรมเป็นเครื่องพ้นจากวัฏสงสาร หรือว่าธรรมเป็นเครื่องพ้นจากความทุกข์ จะต้องเว้นส่วนสุด 2 อย่าง คือ

1. อัตตกิลมถานุโยค เว้นจากการทรมานตัว นั่งเครียด ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็พักผ่อน อย่าไปทรมานมัน มันจะเกิดเป็นโรคประสาท ทำแค่พอดี มันไม่ไหวก็นอนภาวนาให้มันหลับไป

2. กามสุขัลลิกานุโยค เวลาที่จะเริ่มภาวนาและพิจารณา ขณะเดียวกันนั้นก็นึกอยากจะได้ชั้นโน้น นึกอยากจะได้ชั้นนี้ นึกอยากจะได้อย่างนั้น ตัวอยากนี่ท่านแปลว่า กาม คือความใคร่ มันทำให้อารมณ์ใจกระสับกระส่าย ไม่มีผลในด้านของความดี

ขอให้ท่านทั้งหลายจงเว้นอาการอย่างนี้เสีย อย่าทำอย่าสร้างมันขึ้นมา มันจะเป็นโทษ มันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับบรรดาท่านทั้งหลาย ส่วนที่ทำให้ได้ดี องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดากล่าวว่า ต้องใช้ “มัชฌิมาปฏิปทา” คือ ทำแค่พอเหมาะพอดี ถ้านั่งท่านี้เมื่อย เราก็พลิกได้ เปลี่ยนอิริยาบถ นั่งนานเกินไป ถ้ามันทนไม่ไหว นั่งขัดสมาธิหรือนั่งพับเพียบ ก็ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้ห้อยขาก็ได้ เอนกาย นึกไว้เสมอว่า เราไม่ได้ฝึกกาย นี่เราฝึกใจ นั่งไม่สบายก็ยืน ยืนไม่สบายก็เดิน เราภาวนาหรือพิจารณาอะไร ก็ทำอย่างนั้นแหละ แต่ว่าเดินหรือว่ายืน เมื่อนั่ง ยืน เดิน ไม่สบายก็นอน นอนไม่ไหวก็ปล่อยให้มันหลับไป อย่าทรมานมัน คราวนี้เวลาตื่น ตั้งใจอยู่เสมอว่า ก่อนจะหลับ ถ้าตื่นขึ้นมาเมื่อไร เราจะยึดอารมณ์นี้ไว้ทันที เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วก็จับอารมณ์นั้น ทั้ง ๆ ที่นอนอยู่อย่างนั้นแหละ ก็ทำตามตอนนั้นไปเลย หรือว่าไม่พอใจในการนอน จะนั่งก็ได้ จะยืนก็ได้ จะเดินก็ได้ จงอย่าลืมว่า พระกรรมฐานกองใดกองหนึ่งก็ดี ถ้าได้จากการเดิน พระกรรมฐานกองนั้นจะไม่เสื่อม เพราะเราได้มาจากอิริยาบถที่มีการเคลื่อนไหว

 

ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๒๙ ณ วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๒๙
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ

สาธุ สาธุ สาธุ

​

 

จิตบุญดวงที่ 29 ลูกศิษย์ครูนก ชาย สายปัญญา

น้องนอร์ทเป็นนักศึกษาวัย 21 ปี

แอบเกาะกระทู้อยู่พักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจ

ขอเข้ารับการฝึกอบรมจิตเกาะพระ

น้องนอร์ทมีความเพียรสม่ำเสมอและขยันส่งการบ้าน

ถ้าไม่ส่งครูนก ชาย จะทวงถึงบ้าน ฮ่าๆ

ผลจากความเพียรและสติปัญญาอันเป็นเลิศ

ทำให้น้องนอร์ท นักศึกษางานยุ่ง(หรือเปล่าไม่รู้)

สำเร็จจิตเกาะพระภายใน 48 วัน

ท่านมีความตั้งใจว่าจะเจริญอิทธิบาทสี่

เป็นครูสอนธรรมะร่วมกับจิตบุญต่อไป

โมทนา สาธุ สาธุ สาธุ สักล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครั้งเน้อค่า

ปล. พี่ภูจำน้องกุ้ง lobsterkiss ได้ป่าว? คนนี้แหละใช่เลย นอร์ทศิษย์ครูนก ชาย ท่านชื่อนอร์ท ไม่ใช่ชื่อกุ้ง เอ๋ แล้วจะย้ำทำไม ฮ่าๆๆ

 

555 ไม่มีใครอยู่เลย เหลือเราคนเดียว ไปนอนมั่งดีก่า

วันนี้ไปสอนจิตเกาะพระที่วัดดอยเปา

พี่เพ็ญขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดให้กับชาวจิตบุญ จิตบำเพ็ญ และจิตเกาะพระทุกท่านค่ะ

ก่อนหลับอย่าลืมนึกถึงพระนะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่า ราตรีสวัสดิ์ค๊า!!!

 

โมทนาสาธุจ้า
ไปนอนมั่งดีกว่า ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

ขอโมทนากับจิตคุณวิทย์ด้วยนะครับ
คุณวิทย์อย่าได้คิดกับผมแบบนั้นเลย ผมขอขอบใจคุณวิทย์มาก ผมขอรับไว้ในเจตนาที่ดีของท่าน
แต่ผมหลุดพ้นไปแล้ว คำว่า อนัตตา อัตตา มานะ
แม้นกระทั่งโลกธรรม8 ผมเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ดีแล้ว
ถึงใครจะมาว่า ด่า นินทาเรา(ความรู้ฝ่ายลบ) หรือ
ใครมาเยินยอ ปลอบใจ เข้าใจ ยกความดีความชอบให้(ความรู้สึกฝ่ายบวก)
ผมก็ไม่เอาทั้งสิ้น ผมไม่ได้ปฎิเสธความปรารถนาดีกับใครๆนะ แต่จิตปฎิเสธอยู่ภายใน ซึ่งจะไม่มีใครทราบกับผมหรอก ไม่จำเป็นไปบอกใครๆ
และผมอยากทำให้ได้มากกว่านี้เสียอีก แต่ยังไม่ถึงเวลา
แต่ถ้าเมื่อเวลานั้นมาถึงแล้ว ทุกท่านก็จะทราบกันดี

แต่จะขอบอกกับทุกๆคนในนี้เลยนะครับว่า ผมเต็มใจทำให้กับทุกดวงจิต มิได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆจากพวกเราแม้นแต่น้อย
คำชม คำเยินยอ คำสรรเสริญ ผมก็ไม่ต้องการ
เพราะเมื่อผมละขันธ์5ของตนเองได้ หมายถึงไม่ให้ความสนสำคัญในร่างกาย แต่จะให้ความสำคัญกับจิตมากกว่าร่างกายของตนเอง
แต่ก็ทรงขันธ์ไว้เหมือนเดิม เพื่อบำเพ็ญ เพื่อทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น หรือเพื่อพระพุทธเจ้าให้มากที่สุด

คุณวิทย์ผมขอขอบใจท่านมาก ผมเห็นคุณไม่ทุกข์ แถมจิตหลุดพ้นจากวงจรกิเลสทั้งปวงได้นี้ ก็นับว่าคุณโชคดีมากแล้ว มันไม่เกี่ยวกับผมหรอก คุณทำได้สำเร็จ เพราะคุณมีความเพียรมาก เป็นของตนเองต่างหาก ผมก็แค่มอเตอร์ไซด์ หรือเรือรับจ้างนำพาให้จิตคุณไปถึงฝั่ง หรือเป้าหมายปลายทางให้ชัดเจนกัน เท่านั้น
อย่าไปคิดมากเลย ที่คุณยกตำแหน่งให้ผมนั้น ผมรับไม่ได้จริงๆ
เพราะในเมื่อเราต่างปฎิบัติกันเพื่อพ้นทุกข์ หรือเพื่อความหลุดพ้นกัน
จึงไม่ต้องการสิ่งใดๆอีกต่อไป ขนาดขันธ์ตนเองก็ยังปล่อยแล้ว ไม่ยึดแล้ว
แล้วจะให้ผมไปเอาอะไรได้อีก
เพราะตราบใดที่(จิต)ผมยังครองขันธ์5อยู่ ผมจึงถือว่าตนเองก็ยังไม่บริสุทธิ์อยู่ดี

ต่อไปนี้ขอให้พวกเรา อย่าได้คิดกันแบบนี้อีกเลย อย่าได้ไปยึดในตัวบุคคล หรือไปยึดในตัวตนของครูบาอาจารย์นี้เลย
เพราะเราก็ต่างมีพระพุทธเจ้า เป็นพระองค์ พระอาจารย์ใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนาของพวกเรา ขอให้เราปฎิบัติตามพระธรรมพระพุทธเจ้า หรือพระสุปฎิปันโนกันด้วยเถิด

ให้พวกเรายึดในพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจสูงสุดของพวกเรากันด้วยเทอญ

ปล. ผมก็ปลาบปลื้ม ซาบซึ้งใจมากนัก ที่ผมได้มีโอกาสพบเจอท่านในที่นี้ ถึงเราไม่ได้เคยเห็นตัวกันเป็นๆก็ตามที แต่จิตสัมผัสได้เป็นอย่างดี

ผมรักและเมตตาคุณมากนะ.. คุณวิทย์