ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรียนสมาชิกทุกๆ ท่านโปรดทราบ

    กระทู้นี้ไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะให้มีการโฆษณา หรือซื้อขายสินค้าใดๆทั้งสิ้น

    กระทู้นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการ แจ้งข่าวเตือนภัยเรื่องของภัยพิบัติเท่านั้น

    ขอความกรุณาเพื่อนๆ สมาชิก อย่าได้ใช้กระทู้นี้เพื่อการโฆษณา

    หรือซื้อขายสินค้าใดๆทั้งสิ้นนะครับ ขอให้ผู้ดูแลห้องภัยพิบัตินี้

    ช่วยดูแลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของห้องภัยพิบัติและการเตือนภัยด้วยครับ
     
  2. MissP

    MissP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +951
    pig_cryy2
    เรียนคุณเกษม
    ขอบคุณที่ช่วยเตือนค่ะ พอดีเมื่อช่วงทุ่มกว่า มีเพื่อนสมาชิก PM ไปบอกเหมือนกันว่า เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิดคิดว่าขายของ มันจะผิดกฎการใช้เว็บบอร์ด ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ไม่มีเจตนาจริงๆ เพียงแค่แชร์ข้อมูลให้ทราบเท่านั้น แต่ก็ยินดีลบข้อความนั้นออกไปแล้วค่ะ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โอวาทธรรม ''คัมภีร์กัปป์สุดท้าย"

    [​IMG]

    องค์พระศรีอาริยเมตไตรย และพระมหาโพธิสัตว์กวนอิมทรงน้อมสดับฟังพระวจนะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงเรื่องการประคับประคองช่วยเหลือเหล่าเวไนยสัตว์ที่ต้องผจญกับสิ่งชั่วร้าย ในช่วงวาระกัปสุดท้ายว่า

    " ฟ้าเบื้องบน(พระเจ้า)จะทรงบัญชาให้เทพยดาผู้คุมเกณฑ์กำหนด ตารางสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อสำรวจดูคัมภีร์กัปป์สุดท้ายนี้ หากพบว่ามีเหล่าสาธุชนเผยแพร่ออกไป ด้วยความเคารพศรัทธา พวกเขาทั้งหลายย่อมสามารถรอดพ้นจากเกณฑ์วาระแห่งมหันตภัยได้ และทุกชีวิตในครอบครัวจะไร้ทุกข์โศก"

    ผู้ที่ละเว้นกรรมชั่ว ถือศีลกินเจ ประกอบแต่คุณงามความดีจะไม่ต้องเศร้าสลดวิตกกังวลประสบพบเจอภัยพิบัติทั้ง ๑๐ ประการ อันได้แก่

    ๑. ถูกเพลิงไหม้เผาผลาญ ถูกน้ำไหลบ่าท่วมท้น
    ๒. ถูกเมฆหมอก ควันพิษ ทำลายล้าง
    ๓. มึนซึม หลับใหลหมดสติตาย
    ๔. ถูกสัตว์ร้าย งูพิษ ขบกัด
    ๕. ถูกประหัดประหารเข่นฆ่า ตายด้วยภัยสงคราม
    ๖. สามีภรรยา ต้องพลัดพรากหย่าร้าง
    ๗. ต้องเร่ร่อน อพยพหลบหนี ไม่มีที่อยู่อาศัย
    ๘. ต้องเผชิญกับอากาศที่ผันแปร ทั้งหนาวเหน็บ ทั้งร้อนและแห้งแล้ง
    ๙. ต้องเศร้าโศก ต่อภาพของซากศพที่กองเกลื่อนกลาดทั่วแผ่นดิน
    ๑๐.ไม่ได้พบเห็นความสงบสุขและสันติ

    หากมนุษย์ในโลก จิตใจชั่วร้ายต่ำทรามลบหลู่หลักธรรมคัมภีร์สิ้นศรัทธาในคุณความดี ถึงเกณฑ์ ปีวอก ปีระกา ปีจอ และปีกุน เมื่อใด... เมื่อนั้น มีข้าวก็ไร้คนกิน... มีเสื้อก็ไร้คนใส่... มีถนนก็ไร้คนเดิน... มีบ้านก็ไร้คนอยู่... มีที่นาก็ไร้คนทำ จวบจนถึงวาระเดือนห้า... เดือนหก สัตว์ร้ายงูพิษจะออกเพ่นพ่านไปทั่ว เข้าเดือนแปดเดือนเก้า เหล่าคนชั่วร้ายจะตายสิ้น จนซากศพเกลื่อนกลาดเต็มพื้น!

    บนท้องถนนคนล้มตายนับไม่ถ้วน... มหันตภัยมาถึง หนึ่งหมื่นคนตายเก้าพัน! พืชพันธุ์ธัญญาหารเก็บเกี่ยวได้ผลน้อย เกิดลมพายุฝนฟ้าคะนองเหล่าพญานาคดุร้ายเกะกะระรานไปทั่ว

    ถึงกาลเวไนย์สัตว์มีภัย องค์เง็กเซียนฮ่องเต้(พระอินทร์)ผู้เป็นใหญ่ จึงมีพระบัญชาส่งสองขุนพลจอมเทพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์เหนือบรรยากาศโลก เทพยดาที่สัญจรอยู่เหนือโลกมนุษย์จะบัญชาการส่ง หมู่ดาว "อ่านชิง" ลงเก็บกวาดคนชั่วร้ายทั้งหมด จะเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง

    องค์พระศรีอาริยเมตไตรยจะปรากฏ... (แต่พระองค์ยังมิใช่พระพุทธเจ้าในยุคนี้)

    สองขุนพลจอมทัพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์นับจากปีจอ...เริ่มต้นด้วยโรคระบาด...จนถึงปีกุนประชาราษฎร์... ในเก้าคนรอดตายเพียงหนึ่ง!

    จะเกิดมหันตภัยใหญ่ ครอบคลุมไปทั่ว อันได้แก่

    ๑. ภัยจากแรงลมมหาศาล
    ๒. ภัยจากไฟโหมลุกไหม้
    ๓. ภัยจากน้ำท่วมใหญ่
    ๔. ภัยจากการทำศึกสงคราม
    ๕. ภัยจากโรคร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน
    ๖. ภัยจากสัตว์ร้ายมีพิษขบกัด
    ๗. ภัยจากกระแสไฟฟ้า ฟ้าผ่า
    ๘. ภัยจากอาหารขาดแคลน อดอยาก
    ๙. ภัยจากการคลอดบุตร ทารกร่างกายผิดปกติ
    ๑๐.ภัยจากการสูญสิ้นของมวลมนุษยชาติ

    องค์สมเด็จพระศากยมุนีพระพุทธเจ้าทรงครองธรรมกาล ๓,๐๐๐ ปี...ลุถึงปัจจุบันครบบริบูรณ์พระศรีอาริยเมตไตรยทรงสืบทอดครองธรรมกาลต่อ

    เริ่มเข้าเกณฑ์ ปีวอก... จนถึงปีชวด พืชพันธุ์ธัญญาหารจะไม่สมบูรณ์ ผู้คนจะอดอยากตาย มีภัยสงครามยากจะหลีกหนี!

    หากมีคนนำคัมภีร์นี้เผยแพร่ไปถึงพัน...ถึงหมื่น... จะรอดพ้นจากภัยพิบัติเข้าถึงยุคบรรพกษัตริย์ เหยาและซุ่น(กษัตริย์จีนยุคโบราณ) อันเป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญรุ่งโรจน์สังคมมีความยุติธรรม ผู้คนได้ประสบสุขเกษมสันต์อยู่ร่วมกันในโลกดอกบัวแห่งมหาสันติเบ่งบาน

    คนพาลสันดาลหยาบ แม้ล่วงรู้คัมภีร์กลับลบหลู่ปกปิดทำลายย่อมประสบกับเภทภัยทั้งสิบประการตายแล้วก็ยาก จะได้กลับมาเกิดอีก

    สาธุชนคนดี... ประกอบด้วยเมตตาจิตตั้งใจเผยแพร่คัมภีร์ออกไป เขาเหล่านั้นย่อมประสบแต่ความเป็นสิริมงคล ทุกคนในครอบครัวจะร่มเย็นเป็นสุข สามารถรอดพ้นจากมหันตภัยทั้งหลายได้

    [​IMG]

    พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(พระโพธิสัตว์กวนอิม)ได้
    เข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าเบื้องบนสูงสุดเพื่อกราบบังคมทูลรายงานถึงความดี ความชั่ว ที่มนุษย์ได้กระทำ ครั้นองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบข่าวสภาพความเลวร้ายบนโลกมนุษย์ ก็ทรงพิโรธยิ่งนักและตรัสบริภาษต่อว่าเหล่าเทพยดาทั้งหลายว่า

    " เสียแรงเปล่าที่ชาวโลกพากันจุดธูปเทียนบูชากราบไหว้ แต่กลับไม่ยอมอบรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น มาจนบัดนี้... ในโลกมนุษย์จึงเนืองแน่นไปด้วยคนใจบาปหยาบช้า ผู้คนไม่มีมโนธรรมสำนึกหลงเหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงต้องมีราชโองการลงโทษทัณฑ์ ให้เกิดภัยพิบัติต่อเนื่องกันหลายปี เพื่อกำหราบคนชั่วช้าสามานย์และเปลี่ยนแปลงจิตใจชาวโลกเสียใหม่!"

    ในเวลานั้น...บรรดาเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้กราบทูลวิงวอนแม้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งทะเลทักษิณถึงกับพระวรกายทรุดหมอบลงกับพื้นพระบรมวิมาน ทรงพร่ำทูลขอให้โปรดกรุณาแก่ชาวโลกซ้ำเป็นหลายครั้งว่า
    " ผู้ชั่วร้ายสมควรดับ... ผู้ดีงามควรคัดออก...ๆ...ๆ "
    องค์เง็กเซียนฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชาชี้ขาดว่า
    " ดีชั่ว สองฝ่ายแยกกัน!
    ให้สงครามเจาะจงเลือกที่เกิด!
    ให้โรคระบาดเจาะจงเลือกคนเป็น!
    และให้จอมเทพพิทักษ์ธรรมจงรับราช
    โองการกวาดล้างมนุษย์ที่กระทำความชั่วร้าย ดังต่อไปนี้

    ๑. พวกที่กล่าวโทษ ด่าว่าฟ้าดิน
    ๒. พวกที่ดำเนินชีวิตปฏิบัติตนผิดหลักฟ้า ฝืนหลักธรรม
    ๓. พวกที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่
    ๔. พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าเป็นอาชีพ ฆ่าเป็นกีฬา
    ๕. พวกที่ลักขโมย ปล้นชิง หยิบฉวยทรัพย์สมบัติ สิ่งของของผู้อื่น
    ๖. พวกที่โกหกมดเท็จ พูดจาหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ
    ๗. พวกที่ประพฤติผิดในกาม มักมากในตัณหาราคะ
    ๘. พวกที่ชอบดื่มสุรา ยาเมา สูบบุหรี่ หลงใหลสิ่งเสพติดของมอมเมาสติ
    ๙. พวกที่ไม่ยึดถือศีลธรรม จิตใจขาดหิริโอตตัปปะ ไม่สำนึกละอายใจในการทำชั่ว ไม่เกรงกลัวบาปกรรม
    ๑๐. พวกที่ทำลายพระศาสนา บิดเบือนหลักธรรม หลอกลวงเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ๑๑. พวกที่เหยียบย่ำทำลายคัมภีร์หลักธรรม อักษรหนังสือ
    ๑๒. พวกที่ใจเหี้ยมโหด เข่นฆ่าเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตน
    ๑๓. พวกที่ทำลายผู้อื่น เพื่อมุ่งผลกำไรและความสุขส่วนตน
    ๑๔. พวกที่ค้าขายใช้เล่ห์เหลี่ยม ขูดรีด คดโกงตาชั่ง
    ๑๕. พวกที่ค้าขายสินค้าปลอม ยาปลอม หลอกลวงชาวบ้าน
    ๑๖. พวกที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายค้าขายเอาเปรียบคนอื่น
    ๑๗. พวกที่หาประโยชน์จากผู้อื่นด้วยการหลอกลวง ต้มตุ๋น
    ๑๘. พวกที่พูดจาหยาบคาย ชอบทุบตี ด่าว่าบุพพการี ปู่ย่า ตายาย
    ๑๙. พวกที่ชอบพูดจาให้ร้ายป้ายสีผู้อื่น
    ๒๐. พวกที่อารมณ์ร้าย โมโหโกรธา ด่าว่าคนอื่นไปทั่ว
    ๒๑. พวกที่ชอบว่ากล่าว ตำหนิโทษผู้อื่น ด้วยใจอคติไม่เที่ยงธรรม
    ๒๒. พวกผู้ชายที่ไม่จริงใจต่อภรรยา พวกผู้หญิงที่ไม่เคารพซื่อสัตย์ต่อสามี
    ๒๓. พวกที่ชอบยุแหย่ทำลายชีวิตครอบครัวผู้อื่นให้แตกแยกล่มสลาย
    ๒๔. พวกพี่น้องที่ไม่รักใคร่ปรองดองกัน คอยแต่แย่งชิงดี ชิงเด่นฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์มรดก
    ๒๕. พวกวงศ์ตระกูลเดียวกัน แต่กลับทะเลาะเบาะแว้งไม่สามัคคีกลมเกลียว
    ๒๖. พวกที่ชอบยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่น ฟ้องร้องคดีความ
    ๒๗. พวกที่ไม่มีความจริงใจ เป็นคนลวงโลก สวมหน้ากากเข้าหากัน
    ๒๘. พวกหน้าเนื้อใจเสือ ภายนอกแต่งกายให้ดูดี แต่ภายในสกปรกโสมม
    ๒๙. พวกที่อาศัยอำนาจหน้าที่ ใช้อิทธิพลในทางที่ผิด
    ๓๐. พวกที่กดขี่ราษฏร ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกินบ้านเมือง
    ๓๑. พวกที่ชักศึกเข้าบ้าน ล้างผลาญประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ของตน
    ๓๒. พวกผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี กลับใช้อุบายวางแผนแก่งแย่งชิงกันเป็นใหญ่
    ๓๓. พวกที่ชอบประจบสอพลอ พะเน้าพะนอยกย่องเชิดชูรับใช้คนเลว
    ๓๔. พวกที่คอยมุ่งร้าย รังแกคนทำงานที่ซื่อสัตว์สุจริต
    ๓๕. พวกคนพาลสันดานหยาบ ที่คอยก่อกวนให้ผู้คนเดือนร้อน อยู่ไม่เป็นสุข
    ๓๖. พวกคนร่ำรวย แต่ใจร้ายข่มเหงคนยากไร้
    ๓๗. พวกที่ชอบยกย่องคนรวย เหยียบย่ำคนจน
    ๓๘. พวกที่เห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ไม่อยากช่วยเหลือ
    ๓๙. พวกที่พบเห็นคนอยู่ในฐานะลำบาก กลับเมินเฉยแล้งน้ำใจ
    ๔๐. พวกที่เห็นผู้อื่นร่ำรวย ก็เกิดความอิจฉาริษยา
    ๔๑. พวกที่เห็นผู้อื่นฐานะสูงส่งด้วยชื่อเสียงเกียรติยศ ก็เกิดความโกรธแค้นชิงชัง
    ๔๒. พวกที่มีจิตใจอาฆาตมาดร้าย ใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำสาปแช่งผู้อื่น
    ๔๓. พวกที่ร่ำเรียนคาถาอาคมทำร้ายผู้อื่น ทำเสน่ห์ยาแฝดฝังรูป ฝังรอย
    ๔๔. พวกที่ชอบฝึกวิชามาร ทำพิธีใช้ภูตผีกลั่นแกล้งทำลายล้างผู้อื่น
    ๔๕. พวกที่ชอบเผาป่า ทำลายสุสาน บุกรุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    ๔๖. พวกที่กินทั้งกินขว้าง ไม่รู้จักพระคุณข้าว น้ำ อาหาร
    ๔๗. พวกที่ทุบตีเด็กเล็กไร้เดียงสาด้วยโทสะข่มเหง รังแกเด็กๆ ผู้ที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือตนเองได้
    ๔๘. พวกที่อกตัญญู ไม่รู้คุณคน
    ๔๙. พวกที่ประพฤติตน คิดแบบอย่างชี้นำ สอนให้เด็กอนุชนรุ่นหลังกระทำตามจนต้องกลายเป็นคนเลว ชีวิตไร้แก่นสาร
    ๕๐. พวกที่ถือตัวว่าอาวุโส สูงอายุ ใครว่ากล่าวไม่ได้ ทำผิดไม่ยอมรับ ตักเตือนไม่ยอมแก้ไข
    ๕๑. พวกอนุชนรุ่นหลัง ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ยึดหลักคุณสัมพันธ์
    ๕๒. พวกที่ไม่พิจารณาสำรวจดูกรรมดี กรรมชั่วของตนเอง
    ๕๓. พวกที่เคยตักเตือนให้ทำความดี กลับทุ่มเถียงดื้อด้านไม่ยอมฟัง
    ๕๔. พวกที่คอยเสาะแสวงหาแต่ช่องทางกระทำชั่วอยู่ไม่ว่างเว้น

    " นี่คือ ๕๔ ข้อ กรรมชั่วที่ผู้ใดประพฤติ ผู้นั้นจะต้องถูกตรวจตราควบคุมเก็บกวาดให้เรียบ ไม่ให้เหลือไว้ในโลก! เมื่อตายไปก็ต้องถูกเหวี่ยงเข้าสู่หนทางเปรต สัตว์นรก อสุรกาย ยามยังมีชีวิตอยู่ให้พวกเขาเหล่านั้นมีอันเป็นไป สูญพันธ์ทั้งทั้งตระกูล ให้บ้านแตกสาแหรกขาด ให้นองเลือดท่วมแผ่นดิน ให้กระดูกทับถมในพงพี บ้านเรือนของพวกเขาให้ถูกผู้อื่นอยู่อาศัย ที่นาของพวกเขาให้ไร้คนจะเพาะปลูกทำกินได้! หากมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตน ให้ละเว้นความชั่ว สร้างสมคุณความดี ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะหาย อายุจะยั่งยืน "

    ครั้นครบกำหนดเวลา ๓ ปีที่ให้มนุษย์รีบเร่งปฏิบัติแต่ความดีงาม เมื่อกระแสความคิดจิตใจและการกระทำของเหล่าเวไนยสัตว์ ถูกนำขึ้นกราบทูลรายงานเบื้องบน ทันทีที่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบ พระองค์ทรงมีพระราชโองการดังนี้

    "ข้าฯ... จะลงมาตระเวนตรวจตราดูทุกแห่งอย่างละเอียดถี่ถ้วน ข้าฯ จะดำเนินการพิพากษาตัดสิน ให้เกิดภัยสงครามอีกระลอกหนึ่ง ภายในเวลาไม่กี่เดือนให้เกิดโรคระบาดขึ้นอีกบางส่วน ทุกหน ทุกแห่งจะถูกกวาดให้หมดสิ้น! ต่อให้วิงวอนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์... สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มิตอบสนอง ต่อให้กินยารักษาโรค ยาก็ไม่ได้ผล ถึงแม้ตำราเสินหนงยังอยู่ยาวิเศษแค่ไหนดีชั่วมีผลต่างกัน... คนดีมีคุณธรรมกินยารักษาโรค ก็จะสัมฤทธิ์ผล คนชั่วช้าสามานย์ กินยาแล้วก็ไม่อาจรอด

    บัดนี้... ข้าฯ เห็นสภาพการณ์ว่า น่าเวทนา... ไม่มีวิธีการใดสามารถช่วยเวไนยสัตว์ได้ทัน ต่อให้จุดธูปบูชาข้าฯ ก็เสียแรงเปล่า ที่เห็นข้าฯ เป็นเทพยดาน่ากราบไหว้สักการะแต่ปัจจุบันมีทุกข์ไม่ยอมช่วย ใช่ว่าข้าฯ จะบิดเบือนต่อเบื้องบน ต่อเบื้องบนข้าฯ ก็ได้กราบบังคมทูลวิงวอนด้วยความรีบเร่งร้อนรนยิ่ง และต่อชาวโลกเบื้องล่าง... ข้าฯ ก็ให้ป่าวประกาศเผยแพร่สัจธรรม ชี้นำย้ำเตือนให้ผู้คนได้รับรู้

    บัดนี้ . . . ถึงวาระเข้าสุ่ปลายกัปป์. . . เกณฑ์มหันตภัยยุคสุดท้าย ปุถุชนธรรมดาให้เก้าคนตายเหลือไว้เพียงหนึ่ง ให้เกิดสงครามอาวุธ หอก ดาบ มีขึ้นรอบด้าน โรคระบาดจู่โจมบุกรุกทุกแห่งหน อสุนีบาต สายฟ้าฟาดผ่าดังสนั่นสะเทือนเลื่อนลั่น อุทกภัยใหญ่ น้ำไหลหลากท่วมท้นบ้านเรือน วาตภัยลมพายุผกผัน กวาดไปทุกหนแห่ง ธรรมชาติแห้งแล้ง ชีวิตทั้งหลายยากจะอยู่รอด พญามารมาเคาะประตูบ้านในยามค่ำคืน โรคระบาดเข้าประชิดตัวในเวลากลางวัน เสือร้ายจากป่าเขาออกอาละวาด จะหลบหนีกันอย่างไร อสรพิษเลื้อยเต็มถนนหนทางจนยากจะเดิน!

    มหันตภัยทั้งสิบนี้ยากจะหลีกหนีพ้น! หากสามารถผ่านพ้นไปได้จึงจะนับว่าเป็นยอดคน นี่แหละ คือ สิบมหันตภัยอันใหญ่หลวง ข้าฯ มีเพียงคำเตือนให้มนุษย์ทั้งหลายปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจิตใจ ยังพอมีโอกาสจงรีบแก้ไขสำนึกในความผิดบาป
    เมื่อได้ยิน ได้รู้ข่าวนี้ ให้เร่งกลับตัวกลับใจโดยทันที! อย่ามัวรีรอจนกระทั่งภัยพิบัติมาประชิดตัว ถึงตอนนั้น จะวิงวอนร่ำร้องไห้ ช่วยเหลืออย่างไรก็ไร้ผล จงสร้างบุญ ทำกุศล สะสมคุณความดีกันเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อหลบหลีกและเป็นเกราะกำบังวิบัติภัย

    เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายเอย... จงรีบเร่งตั้งจิตศรัทธาเคารพกตัญญูต่อฟ้าดิน บิดามารดา จังรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ประชาราษฎรคนยากจนให้รู้จักเจียมตน ตั้งมั่นอยู่ในความมัธยัสถ์ ผู้มากมั่งมีมั่งคั่งจงรีบเร่งช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ยากไร้ ผู้ปราดเปรื่องเรืองปัญญา จงพยายามตักเตือนชี้แนะผู้ต่ำต้อยด้อยความรู้ ให้ได้ผ่านพ้นโลกโลกีย์ไปด้วยกัน บุคคลใด ไร้บุญบารมีจะตกจมลงสู่ทะเลทุกข์ แต่ผู้มีบุญสัมพันธ์สะสมมาดี ย่อมจะได้พบกับความสงบสุขและสันติในที่สุด

    บัดนี้ข้าฯ แฝงธรรมญาณ ยืมปากกาท่านไหว้วานบรรดาผู้รู้จักตัวอักษรหนังสือ คัดเขียนถ่ายทอดให้ข้า แม้หนึ่งเล่มจะปกป้องรักษา ให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
    ถ่ายทอดให้ข้าฯ สิบเล่ม ทั้งครอบครัวจะพ้นเคราะห์ภัยอันตราย เผยแพร่ออกไปให้ข้าฯ ร้อยเล่มจะปกปักรักษาให้อายุยืน อีกทั้งโชคลาภวาสนาเพิ่มพูนทวี รีบแจกจ่ายธรรมทานคัมภรีนี้โดยทันทีทันใด จะปกป้องรักษาให้เกียรติศักดิ์รุ่งโรจน์มียศถา

    หากพบผู้ใดไม่รู้หนังสือ จงใช้วาจาเมตตาบอกต่อให้เขาได้ฟังได้เข้าใจ ถ้าแม้นมีคนโฉดเขลาชั่วร้าย ไม่ศรัทธา เคราะห์ภัยจะมาถึงตัว จะประสบวิบัติภัย ให้ปวดเศียรเวียนหัว หน้ามือตาลาย เจ็ดทวารเลือดไหล ถึงที่ต้องไปเมืองผีด้วยสิบเหตุเภทภัยร้ายนั้น ข้าฯ ไม่อาจกล่าวให้ละเอียดมากความไปกว่านี้ คิดอยากจะเผยความลับสวรรค์ ก็เกรงด้วยเบื้องบนจะลงทัณฑ์ หากคนทั้งหลายไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา ดูหมิ่น ดูแคลนว่าไม่จริงไม่นาน มหัตภัยที่กล่าวไว้จักมาถึงตัว

    "ผู้มีใจศรัทธา น้อมจิตเชื่อฟังตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมความดี ถือศีลกินเจเบื้องบนย่อมทรงโปรดเมตตา ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาด มิให้เภทภัยใดๆ เข้าใกล้ถึงตัวได้เลย"


    ที่มา http://kuakiddeedee.blogspot.com/2010/08/blog-post_25.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2012
  4. สิงห์สมุทร

    สิงห์สมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +182
    ปีนี้ประเทศไทยจะเจอภัยพิบัติอะไรเพิ่มขึ้นอีก หรือ เพิ่มความรุนแรงขึ้นอีกหรือป่าว..น่าเป็นห่วงนะครับ..มีแต่คุยโอ้อวด เก่งกันไป คนละทิศ คนละทาง ไม่มีการประสานงานให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน จนประชาชนชาวบ้านไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร แนวทางจะไปทางไหนดี หากเกิดเหตุภัยขึ้นมาวันนั้นคงสับสน วุ่นวาย กันน่าดู เพราะทุกคนก็ต่างเอาตัวรอดกัน แล้วใครที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จุดจบเขาจะเป็นอย่างไร นึกถึงภาพวันข้างหน้าแล้ว ธรรมชาติ คงจะโหด เหี้ยม ไม่แตกต่างกันกับวันที่ผ่านๆมานะครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 04_sno.jpg
      04_sno.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11 KB
      เปิดดู:
      98
    • 02_scotland.jpg
      02_scotland.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78 KB
      เปิดดู:
      57
    • 11626.jpg
      11626.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.6 KB
      เปิดดู:
      52
  5. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    1 ก.ค. 55

    อตีตา บุราณ ผ่านมา
    แจ้งข้าฯ ตั้งปี สี่หก
    หลายเรื่อง ที่แจ้ง ได้เกิด
    ได้เปิด ให้รู้ ทั่วไป

    นั่นเป็น สัญญาณ นัยนัย
    ว่าไฟ กำลัง ก่อเกิด
    มิใช่ พูดเล่น เลยเถิด
    เตรียมเถิด จะไม่ เสียใจ

    อดีต นายก ตัวออ
    พอจ้อ ก็ไม่ ได้เป็น
    เป็นเพราะ หน่วยเหนือ ท่านเห็น
    จึงsent แจ้งข่าว ลงมา

    น้ำท่วม ดอนเมือง เรื่องเลย
    ท่านเฉลย ว่าจะ หนึ่งเมตร
    น้ำมา ผมนั้น ปวดเฮด
    อย่าเซด อยู่ร่วม สองเดือน

    หมาหอน เครื่องบิน ผินหน้า
    ลงมา กองพื้น พสุธา
    เรื่องนี้ เคยลง ผ่านมา
    ได้ฆ่า ผู้คน มากมาย

    รื่นเริง ทัศนา อีกเรื่อง
    ทำเรื่อง คนตาย หลายศพ
    รถบวก ท่านที่ เคารพ
    ได้พบ ตามหน้า น.ส.พ.

    ที่แจ้ง นั้นแค่ ตัวอย่าง
    ที่ผ่าน ยังมี อีกหลาย
    ขอท่าน นั้นต้อง ทำใจ
    เพศภัย ที่ยัง ไม่มา


    เร่งเถิด ความดี มีไว้
    ป้องภัย ครอบครัว ตัวเอง
    หน่วยเหนือ ท่านจะ ไม่เล่น
    ผู้เป็น คนดี ของท่าน

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กรกฎาคม 2012
  6. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    เมื่อไหร่หน่วยเหนือของคุณ k-80 จะมารับไปคุณ k-80 ไปอยู่รวมพลกับหน่วยเหนือซักที รู้สึกว่า คุณ k-80 เริ่ม เลอะเทอะ เละเทะ เอะอะก็หน่วยเหนือ เหนือไหน หรือเหนือซุ้ดของประเทศไทย
     
  7. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    <TABLE id=post6334340 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>[​IMG] เมื่อวานนี้, 01:31 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #[​IMG]
    เมื่อไหร่จะมาเสียที เบื่อมาก รอจนขี้เกียจรอ ใครอารมณ์เดียวกันมาร่วมแจมได้ ขอแบบอารมณ์คนธรรมดาคุยกันนะครับ แบบไม่ต้องมาแบบ "ข้าคือผู้รู้ พวกเองมันแสนโง่" อะไรแบบนี้

    ------------------------------

    ภัยใหญ่ล่าสุดรอจนแสนเบื่อ: 29 มิย 2012 Olympics London โดนถล่ม Illuminati


    -------------------------------
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอาแบบกลางๆนะครับ ผมก็ไม่ได้Serious อะไรมากนัก แต่ก็ติดตามดูข่าวประจำวัน และ ดูสภาพอากาศจากกรมอุตุบ้าง กรมชลประทานบ้างเป็นครั้งคราว มันเป็นเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ ที่มีเกิดขึ้น ทั่วโลกในทุกๆวัน เพียงแต่ เราอยู่ในเมืองพุทธ และได้รับอิทธิพลของลัทธิมากมาย ที่มีความเชื่อมโยงกันกับพุทธ ดังนั้น ความเชื่อเรื่องจิต และอภิญญาวิเศษ จึงมีผลต่อคนไทยมากพอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่มีความรู้ส่วนใหญ่ ไม่กล้าพูด เพราะพูดไปก็กลัวมีผลต่อหน้าที่การงานและวุฒิอันสูงส่ง จึงมีเพียงผู้ที่มีจิตพิเศษ บอกกล่าวถึงสิ่งที่ตนได้รู้ได้เห็นมา แล้วคนไทยส่วนใหญ่ ก็เชื่อ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องเตือนเขื่อนแตกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ถามว่าเขาผิดไหม ก็ไม่นะครับ มันเป็นความเชื่อและความคิดเห็น เพียงแต่ มีผลกระทบด้านจิตใจของผู้อื่น ที่ไม่ได้มีความคิดเห็นแบบเดียวกับเขา เลยเกิดเรื่องฟ้องร้องตามมา แต่ในส่วนของที่เราอ่านๆกันนี้ ในเวป ผมว่า ไม่เชื่อ ก็ไม่ผิด เชื่อ ก็แล้วแต่ เลือกที่จะอ่าน ที่จะรับ ก็สบายใจครับ ใครชอบอ่านคนใหน ก็อ่านกันไป แต่อย่าเครียดตาม เดินสายกลาง แต่ไม่ประมาทกับชีวิตในวันปัจจุบัน สบายใจดีครับ<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2>[​IMG] </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><THEAD><TR><TD class=tcat>[​IMG] สมาชิก 2 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ น้ำกับพายุ ในข้อความที่เขียนด้านบน </TD></TR></THEAD></TABLE>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "อัตตาหิ อัตโน นาโถ"
    ตนแลคือที่พึ่งแห่งตน

    [​IMG]
    พระมหาชนกเมื่อทราบว่าเรือกำลังจะอับปางแน่แล้ว จึงทรงรีบเสวยน้ำตาลกรวดจนเต็มกระเพาะ แล้วปีนขึ้นไปบนเสากระโดงเรือ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น!!!

    สิงห์สมุทร สมาชิก

    ปีนี้ประเทศไทยจะเจอภัยพิบัติอะไรเพิ่มขึ้นอีก หรือเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีกหรือเปล่า..น่าเป็นห่วงนะครับ..มีแต่คุยโอ้อวด เก่งกันไป คนละทิศ คนละทาง ไม่มีการประสานงานให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน จนประชาชนชาวบ้านไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร แนวทางจะไปทางไหนดี หากเกิดเหตุภัยขึ้นมาวันนั้นคงสับสน วุ่นวาย กันน่าดู เพราะทุกคนก็ต่างเอาตัวรอดกัน แล้วใครที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จุดจบเขาจะเป็นอย่างไร นึกถึงภาพวันข้างหน้าแล้ว ธรรมชาติคงจะโหดเหี้ยม ไม่แตกต่างกันกับวันที่ผ่านๆมานะครับ..

    เกษม สมาชิก

    "อัตตาหิ อัตโน นาโถ" ตนแลคือที่พึ่งแห่งตน เป็นคำตอบที่ดีที่สุดอยู่แล้วครับ อย่ามัวแต่ไปคิดโทษคนโน้นคนนี้ หรือหวังแต่ให้ใครมาช่วยตัวเราอยู่เลยครับ ตัวของเราเองนั่นแหละจะต้องขวนขวายหาข้อมูลความรู้ แล้วตัดสินใจด้วยตัวของเราเอง ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในห้องภัยพิบัติและการเตรียมการแห่งนี้มากน้อยเพียงใด แล้วเตรียมตัวเองให้พร้อมที่จะรับมือกับภัยพิบัติครับ

    ผมขอยกตัวอย่างนิทานอีสปเรื่องที่ชาวนาสองพ่อลูก ที่จะเอาลาไปขายในเมือง เพื่อแลกกับข้าวปลาอาหารมาประทังชีวิต แต่เมื่อไปพบคนพูดว่าอย่างไร ก็เชื่อและทำตามไปหมดทุกอย่าง โดยไม่ใช้ความคิดของตัวเองพิจารณาหาเหตุผลแต่อย่างใดเลย สุดท้ายชาวนาสองพ่อลูกก็ต้องเสียลาไปกับสายน้ำ และต้องเดินทางกลับบ้านไปอย่างผิดหวังในที่สุดครับ

    buddhpunjat สมาชิก

    นี่คือเรื่องจริง...คนจัดพูดไม่ออก...เราคนบ้าพูดเอง ตอนนี้เหตุการณ์ยังไม่เกิด...ใครจะหวังว่าคนไทยไม่ทิ้งกัน มันก็ฟังดูดีค้ำคอคนมีคุณธรรมดีอยู่หรอกนะ เพราะว่ามันเป็นคำบังคับว่า...ในเมื่อแกเป็นคนดีเพราะฉะนั้นแกต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นโดยห้ามบิดพลิ้ว ไม่เช่นนั้นแกก็เป็นคนไม่ดี คนชั่ว คนลวงโลก...แล้วก็อย่ามาประกาศว่าตัวเองเป็นคนดีอะไรประมาณนั้น

    เพราะคนที่เข้ามาอ่าน รู้หรือไม่ว่าภาระของผู้เตรียมการ..มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยนะ...มันเป็นเรื่องหืดขึ้นคอจริงๆ และรายจ่ายก็สูงมากด้วย ส่วนเราเป็นคนกึ่งดีกึ่งบ้า ขอพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ถ้าเราเป็นโต้โผดูแลเรื่องรับคนมาเข้าพักในช่วงภัยพิบัติน่ะนะ เราจะบอกว่า...เราสามารถรับได้เฉพาะผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขและแจ้งความจำนงค์ไว้แล้วเท่านั้น

    เพราะอะไรหรือ...เพราะเราจะต้องคำนวณว่าเราจะต้องพากลุ่มของเราฝ่าวิกฤติภัยพิบัติ ไปให้รอดได้อย่างไม่หืดขึ้นคอมากนัก สมมุติว่า...มีผู้มีสิทธิ์แจ้งว่าจะมาอยู่ร่วมด้วย จำนวน 200 คน ผู้จัดก็จะต้องคำนวณการว่าจะต้องมีอาหาร มีน้ำ มีที่พัก มีเครื่องกันหนาว มีอีกสารพัดที่จะต้องคอยดูแลบริการท่านทั้งหลายสักเท่าไหร่ นี่ยังไม่รวมถึงเรือพ่วงที่จะแปะมากับผู้มีสิทธิ์อีกโขยงหนึ่ง สมมุติว่ารวมแล้วได้ 350 คน

    เหตุการณ์ภัยพิบัติสมมุติว่า...ช่วงสาหัสทำเกษตรไม่ได้เลยคือ 6 เดือน ช่วงฟื้นตัวอีก 3 เดือน ดังนั้นผู้จัดจะต้องคำนวณว่า...จะต้องเตรียมการเท่าไหร่ถึงจะพากันไปรอด ไม่ใช่มีข้าวให้แต่ละคนกินได้แค่มื้อละ 2 ช้อน แล้วลองคิดดูการไปอยู่รวมกับแบบนั้น...ถ้าอีกหลายๆคนอด คุณจะทำใจได้มากแค่ไหน ถ้าเพื่อนในบ้านอด แต่เรายังพอมีกินอิ่มอยู่...สุดท้ายมันคงต้องแชร์ทรัพย์ยากรกัน ได้กินมื้อละ 5 ช้อนเท่าๆกัน

    การที่มีคนเพิ่มโดยที่เกินโควต้า...สมมุติ 30 คน เท่ากับว่า วันปลอดภัยที่มีข้าวกินของคน 350 คน ที่จัดเตรียมไว้สำหรับ 6 เดือน อาจจะเหลือแค่ 5 เดือน 15 วัน...อีก 15 วันที่เหลือ เหลือข้าวให้กินได้มื้อละ 1 ช้อนสำหรับแต่ละคน ยิ่งถ้าปล่อยให้เกิดการเพิ่มโควต้ามากเท่าไหร่ วันปลอดภัยของคนหมู่หลักก็จะหดสั้นเข้าเท่านั้น !!! นี่คือเรื่องจริง...เราเป็นคนตรงคนบ้า...เรากล้าพูด เพราะมันเป็นเรื่องของความอยู่รอดจริงๆ

    ถ้าเราเป็นผู้จัด...เราจะบอกไปเลยว่า...งดรับผู้ที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเป็นไงเป็นกัน...ใครจะถากถางเสียดสียังไงก็เรื่องของเอ็ง เพราะเอ็งไม่ได้มาแบกรับภาระอะไรด้วย...เวลาเกิดปัญหาตามมา เอ็งก็ไม่รู้อยู่ไหน ข้าวสักถังเอ็งก็ไม่ได้ส่งมาแจมช่วย อยากแต่จะติเตียนอย่างเดียว...งานนี้ความเอื้อเฟื้อจึงจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีประมาณและความเด็ดขาด (ต่อไปอาจจะตั้งคณะบุคคลพิจารณา ผู้จัดจะได้ไม่ต้องรับแรงเสียดทานแต่ผู้เดียว แต่เป็นมติของคณะกรรมการที่จะรับสมาชิกเพิ่มหรือไม่)

    จำไม่ได้ว่าหลวงปู่องค์ไหนเตือนด้วยซ้ำว่า...ห้ามเปิดประตูรับใครทั้งสิ้นในช่วงภัยพิบัติ เพราะความวิบัติจะตามมา และจะได้ไม่มีใครมาหวังหวานว่า...คนไทยจะไม่ทิ้งกัน เพราะสถานการณ์ช่วงนั้น คนไทยจะปล้นกัน จะฆ่ากัน และก็ไม่แน่...อาจจะกินกันก็เป็นได้ จึงขอบอกว่า...ช่วงนี้แต่ละคนยังพอมีเวลา ดังนั้นต้องเตรียมการของตัวเองและครอบครัว อย่าได้ไปหวังหวานว่าจะพึ่งพาคนอื่นได้

    อย่างหลายๆกลุ่มที่เตรียมการของกลุ่มเขา เขาปิดจะตายว่าเขาอยู่กันที่ไหน อย่างกลุ่มพุทธบุตร เป็นต้น อย่าคิดว่านี่คือเรื่องเล่นๆ...ผ่านเข้ามาแล้วก็แค่มาอ่านเล่นๆเหมือนอ่านนิทานก่อนนอน กิจวัตรก็เข้ามาอ่านว่ามีใครพูดว่าอย่างไรบ้าง...ขอแสดงความเห็นแจมนิดนึง มีความสุข...แล้วก็ไปนอน ตื่นขึ้นมาก็ไปทำงาน ทำกิจวัตรตามปกติ พอเกิดเหตุการณ์จริงขึ้นมา...แล้วทำไงล่ะ...ตาเหลือก หาให้ควั่กว่าจะไปแปะกับใครได้บ้าง

    ขยับได้แล้ว...เริ่มรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว...เตรียมตัวให้เต็มที่เท่าที่ทำได้ เคยได้ยินประโยคนี้มั๊ย...พระเจ้าจะช่วยคนที่ช่วยตัวเองก่อน...(เท่านั้น !!!)

    natatik สมาชิก

    อยากจะบอกว่า กลุ่มเตรียมการรับภัยพิบัติมีเยอะมากนะค่ะ ทางเหนือและภาคอิสาน เพียงแต่ว่าไม่ได้เปิดเผยเท่านั้นเอง บางหมู่บ้านเค้าก็เตรียมความพร้อมกัน ดิฉันพึ่งไปเจอมาหมู่บ้านหนึ่ง มีเจ้าของที่เสียสละพื้นที่ดิน 5 ไร่ ให้เพื่อนบ้านไปจับจองทำการเพาะปลูก แล้วแต่ว่าใครอยากจะปลูกอะไรก็ได้ จะปลูกไว้กินเอง หรือว่าปลูกไว้ขาย ตามสบาย เพียงแต่ช่วยเหลือค่าน้ำเดือนล่ะ 30 บาท เลยอยากพบกับเจ้าของ

    ได้คำตอบว่า อยากช่วยชาวบ้านประหยัดค่าใช้จ่าย มีรายได้ และมีอาหารกิน โดยไม่ต้องไปซื้อ เพราะที่ดินทิ้งไว้ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ตายไปก็เอาไปไม่ได้ อีกอย่างหากเกิดภัยพิบัติตามพุทธทำนาย คนในหมู่บ้านเราจะได้ไม่อด (เรื่องพุทธทำนายนั้น ชาวบ้านทราบกันมายาวนานแล้ว และก็มีความเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่เริ่มเกิดภัยพิบัติ ตามข้อแรก คือ ปีมะโรงคนจะเดินโก่งโค้งคลาน โดยแปลคำทำนายว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้น)

    noway สมาชิก

    ถึงตอนนั้น มันขึ้นกับสถานการณ์ว่าหนักขนาดไหน ถ้าไม่หนักมาก คิดว่าแต่ละคนคงไม่ใจไม้ใส้ระกำ คนที่เหลือกินเหลือใช้คงสละส่วนที่เกินช่วยเหลือกันไปได้ตามสมควร แต่ถ้าสถานการณ์รุนแรงมาก วิกฤติระดับความเป็นความตายที่อยู่ตรงหน้า แต่ละคนก็รักชีวิต คงต้องเอาตัวเองให้รอดไว้ก่อน ตรงนี้พอเข้าใจครับ

    การที่คิดว่าจะเดินทางไปหลบภัยที่นั่นที่นี่ ถึงวันเกิดเหตุจริง ก็คงทำได้ยาก เว้นแต่คนที่หลบไปตั้งหลักก่อนเกิดภัย ถึงเวลานั้น การสื่อสารคงขัดข้อง การเดินทางอาจมีเส้นทางขาด หนทางที่จะไปต่อไป ไม่รู้จะเสี่ยงไปดีไหม หรือควรจะปักหลักอยู่ที่เดิม ก็ต้่องชั่งใจ คิดเอาไว้ ถ้าหนักหนาสาหัสมาก คงหาที่หลบภัยตามป่าเขาล่ะครับ


    อุทยานแห่งชาติมีออกมากมาย ไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนไร่ จะกลัวไปใยว่าไม่มีที่อยู่ ถึงตอนนั้น คงไม่มีใครมาแจ้งความจับ เอาตัวไปขังดอกครับ ในป่ามีสัตว์กินพืชและสัตว์ร้าย ก็ย่อมมีอาหาร สัตว์มันยังอยู่ของมันได้ ทำไมเราจะอยู่ไม่ได้ สมัยก่อนเราก็อยู่ในป่ากันมาก่อนนั่นแหล่ะครับ ขอมีเชื้อเพลิง จุดไฟก่อกองเพลิงได้ก็ปลอดภัยระดับนึงครับ อย่าไปหวังพึ่งใครๆเลยครับ

    เมื่อถึงเวลา ใครใจเป็นมาร ใครใจเป็นมนุษย์ ใครใจเป็นพระโพธิสัตว์ เมื่อถึงเวลาคับขัน เผชิญกับความเป็นความตาย มันจะแสดงออกมาเอง ตอนนี้ใครจะพูดยังไง จะปักใจเชื่อเสียทันที ยังไม่ได้ดอกครับ


    visa2505 สมาชิก

    ทุกสถานที่ก็คงจะมีข้อจำกัดเฉพาะของตนบ้างไม่เรื่องใด้ก็เรื่องหนึ่งแหละ คงไม่มีสถานที่ใดที่เปิดฟรีสไตล์ทั้งหมดหรอก แม้แต่วัดก็เถอะ คงไม่มีวัดใดเปิดทุกวัน ทุกเวลาหรอก ผมคนหนึ่งหละที่ไม่มีลูกแก้ว แต่ก็เข้าใจในข้อจำกัด คงจะมีความจำเป็น จึงมีข้อจำกัดอย่างนี้

    ฐนา สมาชิก

    อนุโมทนาในความคิดเห็นที่มีความเข้าอกเข้าใจเห็นใจกันด้วยสัมมาทิฏฐิค่ะ เท่าที่ได้ทราบแนวทางของสถานที่อื่น วัดของหลวงพ่อฯ (.....) ท่านเองก็ได้เตรียมการไว้สำหรับรองรับผู้คนจำนวนมากในยามนั้น ซึ่งก็มีข้อตกลงกันว่า อยู่ในเงื่อนไขของการเห็นอกเห็นใจ และ เห็นแก่ส่วนรวม หากมีผู้ใดในกลุ่มของผู้พักอาศัยได้ทำสิ่งตรงข้าม เป็นความเดือดร้อนต่อส่วนรวม กลุ่มของท่านต้องรับผิดชอบออกไปจากสถานที่นั้นทั้งกลุ่ม .. ขอให้ผู้ที่ตั้งใจจะมาอยู่ร่วมกันรับหลักการนี้ร่วมกันค่ะ

    จะเห็นว่าเป็นการยาก ที่จะยอมรับคนทุกรูปแบบให้มาอยู่รวมกัน อย่างไรก็ต้องมีการคัดกรองบ้าง แต่เชื่อเถอะค่ะว่า คนไทยไม่ทิ้งกัน เพียงแต่ การได้รับการรองรับในชั้นในของแต่ละสถาน ย่อมต้องการความมั่นใจว่า อย่างน้อยที่สุดควรมีศีลห้า เพื่อความไม่เบียดเบียนกัน ต้องการคนที่มีจิตใจเสียสละ เพื่อช่วยดูแลซึ่งกันและกัน ไม่ใช่สร้างภาระหรือความเดือดร้อนให้แก่กันและกัน มีศีลแล้วก็มี ทาน ปิยะวาจา ตามลำดับ ความเดือดเนื้อ ร้อนใจ ขุ่นเคืองกันในหมู่คณะก็น้อยลงค่ะ

    คนมีศีล มีความดี ที่ไหนก็ต้องการต้อนรับค่ะ คนทุศีล สร้างแต่ความบ่อนทำลาย ใครก็ไม่อยากต้อนรับค่ะ

    โคกผักหวาน สมาชิก

    ทุกสำนักเขามีกฎของเขา เส้าหลินก็มีกฎของเส้าหลิน วัดป่าบ้านตาดหลังจาก 4-5 โมงเย็นห้ามบุคคลภายนอกเข้าวัด วัดสายหลวงปู่มั่นบางวัดก่อนจะบวช ต้องนุ่งขาวก่อน 3 เดือนถึงจะบวชได้ พวกตะแบงเพื่อตามใจตนเอง ด่าหาว่าตั้งกฎเกณท์ไม่ถูกต้อง พวกคุณมีสิทธิ์อะไร คุณร่วมตั้งสำนักหรือ เขาก็ประกาศทุกระยะว่า มีพิธีอะไรบ้าง พวกคุณไม่เชื่อ ไม่มาร่วมพิธี หรือไม่เข้ากฎเกณฑ์ของเขา เขาก็ reject เป็นแบบนี้นี่เอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงไม่เลือก ก็ขอให้โวยวายจนปากฉีกมือฉีกแล้วกัน..

    ผมรู้สึกขัดเคืองพอสมควรกับพวกก่อกวน คราวตกทุกข์ได้ยาก อยากอาศัยหลบภัย บ้านคนอื่นเค้า แทนที่จะเจรจาขอร้องเจ้าของบ้านเขาดีๆ ขอยืดหยุ่นกฎเกณฑ์ หรือลงชื่อสำรองไว้ ได้แต่ด่าเจ้าของบ้านสาดเสียเทเสีย โง่หรือฉลาดกันแน่?

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เฉพาะส...ช้พุทธสถานฯเป็นที่หลบภัยพิบัติ.343175/page-10
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ !!!

    [​IMG]

    ผมจะขอนำเทวะบัญชาของพระอินทร์ เรื่องบุคคลสร้างกรรมชั่ว ที่จะต้องถูกกวาดล้างไปกับภัยพิบัติใหญ่ในครั้งนี้ มาทบทวนให้คุณ gijjij ได้อ่านให้ขึ้นใจอีกครั้งหนึ่งครับ

    ๑. พวกที่กล่าวโทษ ด่าว่าฟ้าดิน
    ๒. พวกที่ดำเนินชีวิตปฏิบัติตนผิดหลักฟ้า ฝืนหลักธรรม

    ๓. พวกที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่
    ๔. พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าเป็นอาชีพ ฆ่าเป็นกีฬา
    ๕. พวกที่ลักขโมย ปล้นชิง หยิบฉวยทรัพย์สมบัติ สิ่งของของผู้อื่น
    ๖. พวกที่โกหกมดเท็จ พูดจาหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ
    ๗. พวกที่ประพฤติผิดในกาม มักมากในตัณหาราคะ
    ๘. พวกที่ชอบดื่มสุรา ยาเมา สูบบุหรี่ หลงใหลสิ่งเสพติดของมอมเมาสติ
    ๙. พวกที่ไม่ยึดถือศีลธรรม จิตใจขาดหิริโอตตัปปะ ไม่สำนึกละอายใจในการทำชั่ว ไม่เกรงกลัวบาปกรรม
    ๑๐. พวกที่ทำลายพระศาสนา บิดเบือนหลักธรรม หลอกลวงเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ๑๑. พวกที่เหยียบย่ำทำลายคัมภีร์หลักธรรม อักษรหนังสือ
    ๑๒. พวกที่ใจเหี้ยมโหด เข่นฆ่าเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตน
    ๑๓. พวกที่ทำลายผู้อื่น เพื่อมุ่งผลกำไรและความสุขส่วนตน
    ๑๔. พวกที่ค้าขายใช้เล่ห์เหลี่ยม ขูดรีด คดโกงตาชั่ง
    ๑๕. พวกที่ค้าขายสินค้าปลอม ยาปลอม หลอกลวงชาวบ้าน
    ๑๖. พวกที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายค้าขายเอาเปรียบคนอื่น
    ๑๗. พวกที่หาประโยชน์จากผู้อื่นด้วยการหลอกลวง ต้มตุ๋น
    ๑๘. พวกที่พูดจาหยาบคาย ชอบทุบตี ด่าว่าบุพพการี ปู่ย่า ตายาย
    ๑๙. พวกที่ชอบพูดจาให้ร้ายป้ายสีผู้อื่น
    ๒๐. พวกที่อารมณ์ร้าย โมโหโกรธา ด่าว่าคนอื่นไปทั่ว
    ๒๑. พวกที่ชอบว่ากล่าว ตำหนิโทษผู้อื่น ด้วยใจอคติไม่เที่ยงธรรม
    ๒๒. พวกผู้ชายที่ไม่จริงใจต่อภรรยา พวกผู้หญิงที่ไม่เคารพซื่อสัตย์ต่อสามี
    ๒๓. พวกที่ชอบยุแหย่ทำลายชีวิตครอบครัวผู้อื่นให้แตกแยกล่มสลาย
    ๒๔. พวกพี่น้องที่ไม่รักใคร่ปรองดองกัน คอยแต่แย่งชิงดี ชิงเด่นฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์มรดก
    ๒๕. พวกวงศ์ตระกูลเดียวกัน แต่กลับทะเลาะเบาะแว้งไม่สามัคคีกลมเกลียว
    ๒๖. พวกที่ชอบยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่น ฟ้องร้องคดีความ
    ๒๗. พวกที่ไม่มีความจริงใจ เป็นคนลวงโลก สวมหน้ากากเข้าหากัน
    ๒๘. พวกหน้าเนื้อใจเสือ ภายนอกแต่งกายให้ดูดี แต่ภายในสกปรกโสมม
    ๒๙. พวกที่อาศัยอำนาจหน้าที่ ใช้อิทธิพลในทางที่ผิด
    ๓๐. พวกที่กดขี่ราษฏร ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกินบ้านเมือง
    ๓๑. พวกที่ชักศึกเข้าบ้าน ล้างผลาญประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ของตน
    ๓๒. พวกผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี กลับใช้อุบายวางแผนแก่งแย่งชิงกันเป็นใหญ่
    ๓๓. พวกที่ชอบประจบสอพลอ พะเน้าพะนอยกย่องเชิดชูรับใช้คนเลว
    ๓๔. พวกที่คอยมุ่งร้าย รังแกคนทำงานที่ซื่อสัตว์สุจริต
    ๓๕. พวกคนพาลสันดานหยาบ ที่คอยก่อกวนให้ผู้คนเดือนร้อน อยู่ไม่เป็นสุข
    ๓๖. พวกคนร่ำรวย แต่ใจร้ายข่มเหงคนยากไร้
    ๓๗. พวกที่ชอบยกย่องคนรวย เหยียบย่ำคนจน
    ๓๘. พวกที่เห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ไม่อยากช่วยเหลือ
    ๓๙. พวกที่พบเห็นคนอยู่ในฐานะลำบาก กลับเมินเฉยแล้งน้ำใจ
    ๔๐. พวกที่เห็นผู้อื่นร่ำรวย ก็เกิดความอิจฉาริษยา
    ๔๑. พวกที่เห็นผู้อื่นฐานะสูงส่งด้วยชื่อเสียงเกียรติยศ ก็เกิดความโกรธแค้นชิงชัง
    ๔๒. พวกที่มีจิตใจอาฆาตมาดร้าย ใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำสาปแช่งผู้อื่น
    ๔๓. พวกที่ร่ำเรียนคาถาอาคมทำร้ายผู้อื่น ทำเสน่ห์ยาแฝดฝังรูป ฝังรอย
    ๔๔. พวกที่ชอบฝึกวิชามาร ทำพิธีใช้ภูตผีกลั่นแกล้งทำลายล้างผู้อื่น
    ๔๕. พวกที่ชอบเผาป่า ทำลายสุสาน บุกรุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    ๔๖. พวกที่กินทั้งกินขว้าง ไม่รู้จักพระคุณข้าว น้ำ อาหาร
    ๔๗. พวกที่ทุบตีเด็กเล็กไร้เดียงสาด้วยโทสะข่มเหง รังแกเด็กๆ ผู้ที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือตนเองได้
    ๔๘. พวกที่อกตัญญู ไม่รู้คุณคน
    ๔๙. พวกที่ประพฤติตน คิดแบบอย่างชี้นำ สอนให้เด็กอนุชนรุ่นหลังกระทำตามจนต้องกลายเป็นคนเลว ชีวิตไร้แก่นสาร
    ๕๐. พวกที่ถือตัวว่าอาวุโส สูงอายุ ใครว่ากล่าวไม่ได้ ทำผิดไม่ยอมรับ ตักเตือนไม่ยอมแก้ไข
    ๕๑. พวกอนุชนรุ่นหลัง ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ยึดหลักคุณสัมพันธ์
    ๕๒. พวกที่ไม่พิจารณาสำรวจดูกรรมดี กรรมชั่วของตนเอง
    ๕๓. พวกที่เคยตักเตือนให้ทำความดี กลับทุ่มเถียงดื้อด้านไม่ยอมฟัง
    ๕๔. พวกที่คอยเสาะแสวงหาแต่ช่องทางกระทำชั่วอยู่ไม่ว่างเว้น

    " นี่คือ ๕๔ ข้อ กรรมชั่วที่ผู้ใดประพฤติ ผู้นั้นจะต้องถูกตรวจตราควบคุมเก็บกวาดให้เรียบ ไม่ให้เหลือไว้ในโลก! เมื่อตายไปก็ต้องถูกเหวี่ยงเข้าสู่หนทางเปรต สัตว์นรก อสุรกาย ยามยังมีชีวิตอยู่ให้พวกเขาเหล่านั้นมีอันเป็นไป สูญพันธุ์หมดทั้งตระกูล ให้บ้านแตกสาแหรกขาด ให้นองเลือดท่วมแผ่นดิน ให้กระดูกทับถมในพงพี บ้านเรือนของพวกเขาให้ถูกผู้อื่นอยู่อาศัย ที่นาของพวกเขาให้ไร้คนจะเพาะปลูกทำกินได้! หากมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตน ให้ละเว้นความชั่ว สร้างสมคุณความดี ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะหาย อายุจะยั่งยืน "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1249014521.jpg
      1249014521.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.8 KB
      เปิดดู:
      1,072
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผลกรรมของการคอรัปชั่น !!!

    [​IMG]

    ถาม : ขออารัมภบทนิดหนึ่งนะเจ้าคะ คือ มีลูกศิษย์ที่เคยมาเรียนพิเศษน่ะเจ้าค่ะ เวลามาเรียนก็มาปฏิบัติมานั่งสมาธิกันอยู่ที่บ้าน พ่อเป็นอาจารย์อยู่เจ้าค่ะ หลังจากนั้นเขาก็ไปจบมหา‘ลัย อายุเขาประมาณ ๒๔-๒๕ หลังจากจบมา เขาไปทำกรรมหนักมากเจ้าคะ ?

    ตอบ: กรรมอะไรหรือ...แบกช้าง ?

    ถาม: ไม่ใช่เจ้าค่ะ เขาโกงกินในลักษณะประมูลงานของราชการ แล้วก็โกงกินกัน เขาสามารถมีเงิน จากไม่มีเงินเลยนะเจ้าคะ จากอายุ ๒๔ ปี สามารถมีเงินเป็น ๑๐๐ ล้านบาท ภายในอายุ ๒๘ ปี ?

    ตอบ: แสดงว่าเป็นคนเก่ง

    ถาม: เขาเก่งมากเลยเจ้าค่ะ แต่ว่าเก่งในทางขี้โกง ทีนี้เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว เขาขับรถเบนส์สีแดงวิ่งสวนประสานงารถสิบล้อเจ้าค่ะ ตายคาที่ทั้งตัวเขา และภรรยา และคนในรถอีกหนึ่งคน ตอนนั้นเราเองก็ไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่ว่าดวงวิญญาณของเขาเจ้าค่ะที่เสียชีวิต ตายโหงอยู่ ณ. จุดที่เกิดเหตุ เขามาหาในสภาพศพที่เละ เขาตายในสภาพศพยังไงเขาก็มาหาในสภาพเป็นอย่างนั้นเจ้าค่ะ ทีนี้เขาจะมาให้เราช่วย พอเราจะเริ่มสวดให้เขานะเจ้าคะ พวกเจ้ากรรมนายเวรเขามาเป็นหมื่นเลย ล้อมตัวเขาจนตัวเองต้องถอยมาตั้งหลัก พอเราหันหน้าเข้าไปมอง พวกเจ้ากรรมนายเวรก็หันหน้าเขียวปั้ดไปหมดเลย ก็เลยต้องถอยมาตั้งหลัก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ?

    ตอบ: ไม่ต้องทำ เพราะว่าบางคนนี่ เอาเป็นแค่ตัวอย่างนะ เปรตญาติพระเจ้าพิมพิสาร นั่นผ่านพระพุทธเจ้ามาตั้งกี่องค์ ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้านามว่า ปทุมุตตระ ๙๑ กัปเต็ม ๆ กว่าจะมาถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่า โคตมะ แล้วผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง คือผู้ที่ทำบุญร่วมกันมา คือพระเจ้าพิมพิสาร ที่เคยทำบุญร่วมกันมาในชาตินั้น มาถวาย เวฬุวันมหาวิหาร และอุทิศส่วนกุศลให้ ถึงได้รับ พระพุทธเจ้าตั้ง ๕-๖ องค์ ยังช่วยไม่ได้เลย

    ถาม: ตอนนี้ก็เห็นสภาพวิญญาณเขาถูกลากลงไปที่ข้างล่าง(นรก) แล้วนะเจ้าคะ ก็คงต้องปล่อยไปตามสภาวะกรรมของเขาใช่ไหมเจ้าคะ ?

    ตอบ: ต้องอย่างนั้นจ้ะ

    ถาม: ก็ดูจากชะตาเขายังไม่ถึงฆาต ก็เลยจะถามว่านะเจ้าคะ ทำกรรมชนิดใดถึงได้ก่อกรรมทำเข็ญถึงขึ้นตัดรอนชีวิตอายุขัยเขาขนาดนั้น ?

    ตอบ: ตัวส่วนนี้จริง ๆ แล้ว เรียกว่า อุปฆาตกรรม ส่วนใหญ่เกิดจากกรรมในอดีตที่เคยฆ่าคนฆ่าสัตว์มาก่อน คราวนี้แทนที่จะทำความดีเพื่อหนีกรรมส่วนนี้ เขาก็ไปทำแต่ในสิ่งที่ไม่ดี ในเมื่อไปทำแต่ในสิ่งที่ไม่ดี พอบุญขาดช่วงลงกรรมส่วนนี้ก็เข้าแทรกพอดี ก็เป็นอันว่าแบนคาเบนซ์...!

    ถาม: อันนี้คือกรรมของเขาโดยตรงใช่ไหมคะ ?

    ตอบ: กรรมโดยตรงจะเป็นอย่างนี้ ส่วนอีกอย่างหนึ่งโทษปัจจุบันคือโกงกินเงินหลวง ก็คล้าย ๆ กับโกงกินเงินสงฆ์ ถ้าหากว่าโกงเงินสงฆ์ลงอเวจีมหานรก พวกโกงกินเงินหลวงก็ไม่แคล้วเหมือนกันเพราะ เงินสงฆ์กับเงินหลวงมันเป็นของกลางที่จะเป็นประโยชน์แก่คนหมู่มากเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอันหนึ่งเป็นประโยชน์แก่สงฆ์หมู่มาก อีกอันหนึ่งเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป ลักษณะก็เลยคล้าย ๆ กัน โทษก็หนักพอกัน ใครรู้ตัวรีบคายคืนมาเสียเร็ว ๆ

    ตอบโดย : หลวงพี่เล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ผลกรรมของการคอร์รัปชั่น.263719/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • fwd.jpg
      fwd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • corruption-in-india.jpg
      corruption-in-india.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.7 KB
      เปิดดู:
      54
    • corruption.jpg
      corruption.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.1 KB
      เปิดดู:
      961
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  11. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949

    ได้ยินมาว่าข้าราชการที่ตกนรกมากที่สุด
    1 ตุลาการ
    2 อัยการ
    3 ตำรวจ
    ตามติดมาด้วย
    4 นักการเมือง
    ส่วนข้าราชการตัวน้อยกระจ้อยร่อย อาจต้องรับวิบากกรรม
    ตกนรกโดยรู้เท่าไม่ถึงการ และตกนรกแบบขัดเสียมิได้
     
  12. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อันดับ 1 ตุลาการ......ถูกต้องแล้ว .....ค๊าบ..บบบบบ :cool::cool::cool:
     
  13. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ภัยพิบัติก็เริ่มเกิดขึ้นทีละนิด ๆ แล้วนี่ครับ โดยเฉพาะการทรุดตัวของแผ่นดินเริ่มต้นขึ้นเรื่อย ๆ ที่กาญจนบุรี สิงห์บุรี และรู้สึกจะอ่างทองนะครับในตอนนี้ ผมก็เห็นดินถล่มขนาดใหญ่ในขณะกึ่งหลับกึ่งตื่นในช่วงกลางวันรู้สึกตกใจมาก พิจารณาก็น่ากลัว กรรมครับ..
     
  14. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ขอเห็นแย้ง

    ถ้าวัดเอาตามความรู้สึกแบบคนทั่วไป

    หรือเอาตามที่เคยมีประสบการณ์ ไปเกี่ยวข้อง กับคนทั้งสามกลุ่มนี้

    อันดับหนึ่ง น่าจะเป็นตำรวจ

    ตามมาด้วยอัยการ

    ส่วนศาล คิดว่าโดยรวมดีพอสมควร

    ลางคนอาจคิดว่า
    ศาลตัดสินผิดเอาคนดีเข้าคุกหรือประหารชีวิต
    ไม่ตกนรกล่ะหรือ

    ถ้าว่ากันตามจริง ศาลอาจมีที่ตัดสินผิด โดยเชื่อพยานหลักฐานที่ปรากฎ
    ซึ่งอาจเป็นหลักฐานเท็จ หรือพยานเท็จ
    หรือศาลอาจไม่มีความสามารถแยกความถูกผิด

    แต่นั่นก็มิใช่การจงใจ หรือเจตนาทุจริต

    แต่ถ้าจะวัดกันจริง ศาลที่นอกลู่นอกทางอาจมีบ้าง
    แต่ต้องถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผู้พิพากษาตัดสินโทษทางอาญาเป็นบาปไหม, เปรียบเทียบกับพระเตมีย์ ?

    [​IMG]

    มีกระทู้แบบนี้ตั้งมาหลายทีละ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ ผู้รู้ช่วยอธิบายทีนะครับ ถ้าผู้พิพากษาไม่มีอคติและตัดสินหลายคนโดยตัดสินโทษทางอาญาคือ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ริบทรัพย์สิน ปรับ บาปไหมครับ ? ประวัติกระผม เรียนนิติศาสตร์ ปี2 ม.ราม อาชีพที่ใฝ่ฝันก็คือที่ถามล่ะครับ

    โดยคุณ PaiKung 17/03/2010

    ..เป็นวิบากกรรมครับ แม้นตามหน้าที่ จะด้วยอาชีพ หรือถูกบังคับให้ตัดสินกระทำกับใคร ให้เขาทุกข์ ให้เขาทรมาน ให้เขาเสื่อมในลาภ ในยศ สรรเสริญ ล้วนมีวิบากทั้งสิ้น จะด้วยเต็มใจ หรือถูกบังคับให้ทำ กฎแห่งกรรมก็ไม่ยกเว้น จะติดศูนย์กลางกายผู้กระทำไปเรื่อยๆ

    ...เขาถึงต้องอธิษฐานขอให้ได้อาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ อาชีพที่ชอบด้วยความสุจริตธรรม ไม่ก่อเวร ก่อกรรม ก่อความเดือนร้อนด้วยกาย วาจา ใจ หรือทรัพย์สิน อาชีพ ครอบครัว ฯลฯ ของผู้ใด เรียกว่า เป็นอาชีพที่ไม่ก่อเวรกับใครก็ได้ ล้วนเรียกว่า สัมมาอาชีวะ

    ..กรณีก็เหมือนกับพระราชาผู้ทรงคุณวิเศษ ตัดสินให้ใครเป็น ใครตายก็ได้ แต่การเป็นพระราชานั้นก็สามารถก่อเวร ก่อกรรมได้ง่ายเช่นกัน ด้วยเพราะตัวท่านเป็นผู้ทรงคุณ มีกำลัง มีโอกาส มีความสามารถ ฯลฯ สิ่งเหล่านั้น หากประกอบด้วยโอกาส หรืออารมณ์ชั่ววูบแล้วก็อาจก่อวิบากกรรมอันรุนแรง ถึงขั้นทำอนันตริยกรรมได้ เหมือนพระเจ้าอชาติศัตรูเช่นกัน

    ..ดังนั้น ในพระชาติที่เป็นพระเตมีย์ ท่านก็คิดได้เช่นนี้เหมือนกัน ว่ามีความเสี่ยงในการเป็นผู้ตัดสิน เป็นราชาผู้ทรงคุณ เป็นเจ้าแห่งชีวิตของสรรพสัตว์ทุกแคว้น ฯลฯ ย่อมเสี่ยงที่จะพลาดกระทำความผิด อันเป็นทางไปสู่อบายภูมิได้ทั้งสิ้น ท่านจึงไม่ปรารถนาจะเป็นพระราชา แต่ปรารถนาจะอยู่เยี่ยงผู้เข้าใจ ผู้รู้ในบาปบุญ ผู้รู้ทันอบาย ฯลฯ ท่านจึงตัดสินใจสร้างบารมีเช่นนั้น..

    โดยคุณ ดินสอแห่งธรรม 17/03/2010

    "หลวงพ่อภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว) ตอบปัญหา"เรื่องนี้โดยตรง เหมาะที่สุดสำหรับผู้ทีไม่งมงายและไม่เคร่งศาสนา อ่านหลายๆรอบ อ่านทุกๆตัวอักษร อ่านช้าๆ ค่อยๆอ่าน ค่อยๆ"คิด"ตามไปเรื่อยๆ หลวงพ่อเป็นที่สุดของการตอบปัญหาแล้วนะ ถ้ายังไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้ ก็ยากที่จะหาคำตอบที่ดีกว่านี้ได้อีก.ชอบเรียนรู้กฏหมาย แล้วไปทำอาชีพอย่างอื่นก็ได้, แต่กฏแห่งกรรมต้องรู้ให้แตกฉานยิ่งกว่าทุกๆวิชา หวังว่าคำตอบของหลวงพ่อ คงอาจจะช่วยปิดนรกเปิดสวรรค์ ให้ใครบางคนได้นะ

    ปล.บางอาชีพ ใช้รูปศัพท์ว่า "สัมมาอาชีวะ", แต่ไม่ใช่อาชีพที่"บริสุทธิ์ ๑๐๐ %".

    โดยคุณ DJ.20/03/2010

    คำถาม: หลวงพ่อครับ...กรณีที่ผู้พิพากษาสั่งลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นตัดสินประหารชีวิต กรณีนี้ผู้พิพากษาท่านไม่ได้ลงมือเอง ท่านจะผิดศีลข้อที่1 ด้วยหรือไม่ครับ?

    คำตอบ: คุณโยม...ในเรื่องของการลงโทษคนตามกฎหมาย นี่เป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง และในเรื่องของกฎหมายนี้ ต้องทำความเข้าใจอีกนิดหนึ่งด้วย กฎหมายยังมีกฎหมายแม่กฎหมายลูก กฎหมายลูกก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายแม่ ถ้าลูกว่าผิด แต่แม่ว่าไม่ผิดก็ เป็นว่าไม่ผิด ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายแม่

    คุณโยม...แต่ว่ากฎหมายลูกกฎหมายแม่ มันเป็นเรื่องที่มนุษย์ตั้งกันขึ้นมา ส่วนว่าผิดศีลหรือไม่ผิดศีลนั่นมันกฎแห่งกรรม อย่ามาปนกันนะคุณโยม ถ้าปนกันเมื่อไหร่ พลาดเมื่อนั้น กฎหมายมนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้นมาตามวาระ ตามเทศะ บางประเภทด้วยกรณีตัดสินเรื่องเดียวกัน อาจจะเหมือนกัน ไม่เหมือนกัน แต่ว่าในเรื่องของ กฎแห่งกรรม แล้ว...ไม่ว่าเรื่องการตัดสินหรือการฆ่านั้นๆ จะเกิดตรงไหนในโลกก็ตาม คุณโยม...มันผิดทั้งนั้น เพราะว่ากฎแห่งกรรมนั้น เป็นกฎของจักรวาล มันไม่ใช่กฎของบ้านเมืองใดบ้านเมืองหนึ่ง

    ดวงอาทิตย์ที่ประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศฝรั่ง เห็น มันดวงเดียวกัน ดวงอาทิตย์ที่คนต่างศาสนาเห็น มันดวงเดียวกัน เพราะฉะนั้นความรู้สึกนึกคิดหรือว่าความร้อนแรงมันก็ระดับเดียวกัน ไม่เปลี่ยน ขณะนี้ เมื่อเราพูดถึงกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ดูเหมือนว่าผู้พิพากษาท่านไม่ผิด ท่านไม่ผิดโดยกฎหมาย เพราะกฎหมายอนุญาตท่าน แต่ถึงอย่างไรก็เข้าข่ายฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตามกฎแห่งกรรม

    กฎเกณฑ์ในเรื่องของฆ่าสัตว์ตัดชีวิตในศีลข้อที่1 ว่าอย่างไร?

    1.สัตว์นั้นมีชีวิต
    2.รู้ด้วยว่ามีชีวิต
    3.มีจิตคิดจะฆ่า
    4.ลงมือฆ่า
    5.ได้ตายสมใจนึก

    เมื่อไหร่ก็ตาม เมื่อได้มีการสั่งฆ่ากันขึ้นแล้ว และได้ฆ่าเสร็จสรรพแล้ว ใครมีส่วนไหนใน 5 ขั้นตอนนี้ ก็รับเอาไป...ชัดเจนดีนะ แต่ว่า มันก็มีข้อคิดกัน บางอย่างผ่อนหนักเป็นเบาได้...ผ่อนหนักเป็นเบาทำอย่างไร...อย่างกรณีที่กล่าวมาแล้วว่า ประการที่ 1.เราก็ไม่ได้ยินดีด้วยกับการที่จะต้องฆ่านั้นๆ ประการที่ 2.คนที่ถูกสั่งฆ่า มันก็รู้ตัวนะว่ามันทำผิดจริง มันยอมรับด้วยว่า มันทำผิด มันยอมรับว่ามันเลว แล้วก็มันก็ไม่ได้ผูกพยาบาทกับผู้พิพากษา

    อย่างนี้ผิดก็ผิด แต่พอเบาหน่อย แต่ถ้า...มันเองมันว่ามันไม่ผิด ทั้งๆที่จริงมันผิด แล้วมันก็จองเวรด้วย ถ้าอย่างนี้คงจะได้ตามล้างตามผลาญกันอีกหลายชาติ อันนี้ชัดๆนะคุณโยมนะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าในกรณีที่ไปตัดสินผิดคนเข้า คนไม่ผิดแต่หลักฐานเท็จที่ไปมัดเขา เลยทำให้ต้องตัดสินให้กลายเป็นคนผิดไป ตรงนี้มันจะยิ่งหนักเข้าไปอีก

    ก็ขอฝากเอาไว้เป็นข้อคิด ตำรวจก็ตาม ทหารก็ตาม ท่านผู้พิพากษาก็ตาม อย่าปนกันระหว่างกฎหมาย กับกฎแห่งกรรม ถ้าเมื่อไหร่พูดถึงกฎแห่งกรรม ผิดคือผิด ขึ้นอยู่กับบุญกับบาป ส่วนว่ากฎหมาย มันเป็นเรื่องของคนมาช่วยกันกำหนดกันขึ้นมา เพราะฉะนั้นก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดี และอาตมาก็อยากจะแถมไว้ด้วยว่า ไม่ว่าตำรวจ ไม่ว่าทหาร ไม่ว่าท่านผู้พิพากษา ท่านมารับภาระตรงนี้...นี่มันปลายเหตุ...ปลายเหตุอย่างไร...เขาทำกรรมกันมาเรียบร้อย เขาก่อเวรกันมาเรียบร้อย เขาทำผิดพลาดกันมาแล้ว ท่านผู้พิพากษา ท่านนั่งอยู่บนบัลลังก์ เขาฆ่ากันมาเรียบร้อย เขาทำเหตุกันมาแล้ว แล้วมาสั่งให้ท่านไปสั่งฆ่าอีกทีหนึ่ง ตรงนี้กฎหมายจะว่าอย่างไร อาตมาไม่เกี่ยว แต่อยากจะพูดว่า ขณะนี้เราทำกันที่ปลายเหตุ

    ถ้าต้นเหตุนะ ทั้งทหาร ทั้งตำรวจ ทั้งท่านผู้พิพากษา มาช่วยกันคิดอย่างนี้ดีกว่าว่า ทำอย่างไรจะเอาธรรมะ จะเอาพระพุทธศาสนาเข้าไปอยู่ในจิตใจคน ดูเผินๆว่า ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ความจริงเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งชาติ ไปช่วยกันคิด ช่วยกันวางมาตรการตัดไฟต้นลมตรงนั้น ถ้ามันถึงคราวจะต้องฆ่า ต้องฟันกัน ก็ให้...1.น้อยหน่อย 2.บางทีอาจจะผ่อนหนักเป็นเบาได้...

    เป็นอย่างไร คือ แทนที่จะต้องฆ่าก็เอาแค่จำคุกตลอดชีวิตเถอะ เพราะอะไร...เพราะว่า ใครๆก็ไม่มีสิทธิที่จะฆ่าใคร เพราะเราไม่ได้ให้ชีวิตเขาขึ้นมา เมื่อเราไม่ให้ชีวิตเขามา แล้วเราไปฆ่าเขา กรณีไหนมันก็บาปทั้งนั้น จองเวรกันไม่รู้จบ ยิ่งกว่านั้น ฆ่าเจ้าคนผิดลงไปแล้ว เจ้า Number1...ตายไปแล้ว เดี๋ยว Number2 Number3 Number4 ก็ตามมา...ทำไมมันตามมา...ก็ยังไม่ได้แก้ไขนิสัยสันดานของไอ้เจ้ารุ่นหลังให้ดี มันก็มีแต่การฆ่าไม่รู้จบอยู่นั่นแหละ คุณโยม...มาช่วยกันนะ

    หลวงพ่ออยากจะฝากอีกนิดหนึ่ง คนที่บาปมากๆเลยนะ ในเมื่อเกิดมีความจำเป็นต้องตัดสินประหารชีวิตขึ้นมาแล้ว คือผู้ที่ออกกฎหมายเอง ไม่ว่าผู้ที่ออกกฎหมายชุดนั้นๆ คนนั้นๆ ตายไปแล้วนานเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อมีการสั่งประหารตามกฎหมายที่เขาออกเอาไว้นี้ แม้ตัวเองตกนรกอยู่แล้ว บาปก็เพิ่มขึ้น ตกนรกหนักเข้าไปอีก เพราะฉะนั้น ใครจะออกกฎหมายเกี่ยวกับการฆ่ากัน...

    คิดให้เยอะ ประหารชีวิต...คิดกันให้เยอะนะ เพราะใครๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ฆ่าใคร เนื่องจากไม่มีใครเป็นผู้สร้างชีวิตให้ใคร

    พระธรรมเทศนาโดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)

    ที่มา ทหารตำรวจ บางครั้งปราบปรามโจรผู้ร้ายจนเสียชีวิตตามหน้าที่ บาปกรรมที่เกิดขึ้นนี้น้อยกว่าการทำปาณาติบาตทั่วไปหรือไม่ - หลวงพ่อตอบปัญหา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  16. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ตามประสบการณ์ที่เราเคยสัมผัส รู้จักคนทั้งสามอาชีพ

    ผู้พิพากษาโดยมากเป็นคนสันโดษ มีธรรมะ

    ไม่มีเบี้ยบ้ายรายทาง แบบตำรวจ หรืออัยการ

    ผู้พิพากษาท่านนึง ท่านสอนธรรมะแก่คนทั่วไป

    ปัจจุบันท่านลาออก บวชไม่สึกไปเสียแล้ว

    ลูกศิษย์บางคนถามท่านว่า ปีนั้นปีนี้ เขาจะสอบผู้พิพากษาได้ไหม

    ท่านตอบว่า บารมียังไม่ถึง ให้ทำบุญสร้างบารมีเสียก่อน

    อาชีพที่ต้องมีบารมีให้มากเสียก่อน ถึงจะเป็นได้ อาชีพนึงคือศาลนี่แหล่ะ

    เป็นอาชีพเดียวที่ทำภายใต้พระปรมาภิไธย และนั่งบัลลังก์ในขณะพิจารณาพิพากษาคดี
     
  17. อธิฎฐาน

    อธิฎฐาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,610
    เห็นด้วยค่ะ คนที่เขียนว่าตุลาการ ถือว่ามีความคิดที่คับแคบมาก
    คงจะตัดสินไม่ถูกใจพ่อมันมั้ง เห็นจะขนฝูงอะไรก็ไม่รู้ มากดดันศาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  18. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    3 ก.ค. 55 8 ก.ค. ถึง 4 มิ.ย. บวชฟรีทั่วไทย

    ดีใจ คนไทย บวชให้
    ลูกไทย ได้ร่ำ ได้เรียน
    ฝึกฝน ธรรมมะ พากเพียร
    อ่านเขียน เพื่อเป็น คนดี

    เรื่องดี ต้องส่ง และเสริม
    เพื่อเพิ่ม คนดี มีไว้
    สังคม ของคน เมืองไทย
    จะได้ สงบ พบสุข

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 กรกฎาคม 2012
  19. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    ทุกสังคมอาชีพมีทั้งดีและไม่ดีปนกัน บางอาชีพถ้ารู้ลึกแล้วจะรู้วิธีซิกแซกล้ำลึกซับซ้อน การทุจริต เขาบอกตั้งแต่ ออกกฏหมายเอื้อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ,เรียกเงินเพื่อรับเด็กเข้าเรียนของ รร.ดังนี้ สอนเด็กให้รู้จักการคอรัปชั่นแล้ว ,บางที่ก็ช่วยแบบอนุมัติให้แต่ต้องมีผลประโยชน์ตอบแทนทางอ้อมแบบ "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า" ระดับผู้บริหารหน่วยงานหลายแห่งหลัก 20 ล้านขึ้น
     
  20. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    มโนธรรมแต่ละคนมันมีไม่เท่ากันอยู่แล้ว
    แต่ตนเองมักจะคิดว่า ที่ตนทำนั่นมันถูกต้อง
    มันเป็นธรรมดาของคนทั่วๆไป ใครเขาก็ทำกัน

    วันนี้เพิ่งคุยกับเด็กสามคน ไม่ใช่สิ ผู้ใหญ่แล้ว
    มีสองในสามคนบอกว่า
    ถ้าเขาเจอทรัพย์สินที่มีคนทำตกเขาไม่คืน
    แม่ค้าทอนตังค์ผิด เขาก็ไม่คืน

    เขาบอกว่า บ้าสิ ใครจะคืน มันต้องเป็นของเขาแล้วสิ
    เขาบอกว่า เขาเคยนะ เจอกระเป๋าตังค์ เขาเอาเงินไป
    แล้วส่งบัตรประชาชนคืนเจ้าของทางไปรษณีย์

    เรื่องน้ำท่วมก็เหมือนกัน เจอมาสองราย ที่รู้จักใกล้ชิดกัน
    ไม่ไปยื่นขอเงินเยียวยา 2 หมื่นบาท

    ทั้งที่ละแวกนั้นไปยื่นขอกันเสียส่วนมาก เพราะน้ำท่วมไปเต็มทั้งตำบล
    แต่เขาบอกว่า
    น้ำไม่เข้าบ้าน ทรัพย์สินเขาไม่เสียหาย

    เมื่อวานไปแบงค์ มีคนมาคุยกันข้างๆ ว่าทำไมไม่ไปยื่นเอาเงิน 2 หมื่นบาท
    คนอีกคนก็ตอบว่า
    บ้านผมน้ำไม่เข้า ผมไม่มีทรัพย์สินเสียหาย

    เราก็คิดว่า
    เออมีคนดีๆ มันก็มีอยู่ทั่วไปเหมือนกันแฮะ

    มโนธรรมมันต่างกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...