วิธีนอนหลับอย่างง่ายมากๆ จากการทำสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Broccocat, 27 มิถุนายน 2012.

  1. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    เรามีวิธีนอนหลับอย่างง่ายมาบอกค่ะ...

    1. สวดมนต์บทอะไรก็ได้หรือท่องคาถาที่อยากจะสวด พยายามสวดให้ครอบคลุมภายในหนึ่งชั่วโมงครึ่ง(ปกติเราจะเริ่มสวดประมาณ 2 ทุ่ม)
    2. นั่งสมาธิต่ออีกประมาณหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป แต่ส่วนมากเรานั่งได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ถึง หนึ่งชั่วโมงครึ่ง(ก่อนนั่งก็ดูเวลาก่อนว่ากี่โมงๆ แล้วก็นั่งไปเรื่อยๆ ตามสบาย)

    พอออกจากสมาธิ ลืมตาขึ้น จะมีอาการ นิ่งๆ ซักแป๊บ แล้วเราจะบอกตัวเองว่า ขอเอนนิดนึงนะ จากนั้นพอหัวถึงหมอน ก็หลับไปเลยค่ะ แล้วพอหลับไป ก็จะมาตื่นเองโดยไม่ใช้นาฬิกาปลุกประมาณ ตี 4-5 (ปกติจะเป็นคนนอนดึกมากๆ แล้วก็ป่วยตามระเบียบคนนอนดึก แล้วไปหาหมอ หมอก็บอกว่า ช่วงเวลาตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึง ตี 4 จะเป็นเวลาที่ดีที่สุดของสมองในการพักผ่อนนอนหลับ)

    เมื่อก่อนเคยลองสวดมนต์ ทำสมาธิในห้องพระ แล้วปรากฎว่าเหมือนมีตัวอะไรไต่ตามใบหน้า(ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นมดไต่ตั่งแต่คางขึ้นไปถึงหู แต่พอวันก่อนอ่านของอีกกระทู้นึงบอกว่า นั่นเป็นอาการของการทำสมาธิอย่างนึง เราก็อ่าว..ไม่รู้นินา เราก็คิดว่าเป็นมดที่มาตอมพวกผลไม้ที่ถวายพระ คืนนั้นก็เลยทำให้นั่งสมาธิได้แค่ครึ่งชั่วโมง แล้วก็กลับเข้าห้องนอนผลก็คือ ง่วงเหมือนเดิม แต่จะหลับไปได้ไม่กี่ชั่วโมง แล้วมาตื่นประมาณเที่ยงคืนหรือตี 1)

    มีคำถาม?? ถามคนที่นั่งสมาธิได้เกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป มีอาการง่วงนอนแล้วหลับไปเลยมั่งไหมคะ หรือว่า ถ้าผ่านจุดนั้นไปแล้ว จะไม่มีอาการง่วงนอนอีก เราคิดว่า ถ้าเราทำสมาธิตอนเช้า...จะกลายเป็นนอนกลางวันไปซะ ซึ่งมันจะไม่เวิร์คอ่ะนะคะ

    ให้สวดมนต์ก่อนนั่งสมาธิจะดีมากค่ะ เพราะจะทำให้ทำสมาธิได้ดีกว่าไม่ได้สวด อีกอย่างก็คือ ในระหว่างวัน ไม่ว่าเราจะทำอะไร จะทำให้เราจำบทสวดได้เองโดยอัตโนมัติ อาจจะเป็นบทสวด วรรคนั้น วรรคนี้ คืออยู่ดีๆ ก็ระลึกขึ้นมาเองได้

    ลองเอาไปทำดูนะคะ เป็นอีกทางเลือกนึงของคนที่นับแกะ นับดาว แล้วไม่เวิร์ค
     
  2. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    การนั่งสมาธิแล้วง่วง จะเกิดขึ้นได้กับหลายๆ คน ในช่วงหนึ่งของการฝึกปฏิบัติครับ ฝึกไปเรื่อยๆ พอกำลังของสติ หรือ ตัวรู้ มันแข็งแรงขึ้น มันจะไม่ง่วงแล้ว

    ขออนุโมทนา สาธุ กับวิธีที่นำมาเผยแพร่ครับ
    กลไกการหลับของมนุษย์ คือ การที่จิตของเรา ไปจับอารมณ์ที่เราเรียกว่าเป็นความง่วงนี่แหละ ไหลเข้าไปรับรู้อารมณ์นั้น จนกลายเป็นอารมณ์เดียว ก็เลยเป็นการพักผ่อน หลับไปเลย การที่จิตเราฟุ้งซ่านไม่หยุด ทำให้จับอารมณ์เดียวไม่ได้ ก็ทำให้หลับไม่ได้ครับ
     
  3. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    โมทนาด้วยครับ

    ขออนุญาต นำคำสอนของหลวงพ่อมาประกอบครับ

    ฌานหลับ
    "............... ความจริงถ้าเราสามรถทำจิตเข้าถึงฌานได้ทุกวัน ถ้าทำเข้าถึงฌานได้ทุกวันนี่ การตายของเราทั้งหมด แม้แต่ไอ้เรื่องนรก เลิกกลัวได้ใช่ไหม นี่วิธีเข้าฌานแบบง่ายๆ ก็นอนหลับเข้าฌาน ฌานหลับ อันนี้มันเป็นฌานจริงๆ คือ ว่าเวลานอนลงไปเราจะภาวนาอย่างไรก็ได้ที่เป็นกุศล แต่ว่าจะพิจารณาลมหายใจเข้าออกเฉยๆก็ได้ หรือว่าจะพิจารณาขันธ์ ๕ ก็ได้ ถ้าจิตอยู่ในอารมณ์ทั้ง ๓ ประการนี้ก็หลับไป จงทราบว่า ถ้าจิตเราไม่เข้าถึงปฐมฌานเพียงใด มันจะไม่ยอมหลับ

    ที นี้ถ้าเราภาวนาอยู่หรือพิจารณาอยู่ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกอยู่ แล้วก็หลับไป ขณะหลับตอนนั้นจิตเข้าถึงปฐมฌานแล้วจึงหลับ ในขณะที่หลับอยู่ท่านถือว่าหลับทรงอยู่ในฌาน ถ้าตายเวลานั้นเป็นพรหม นี่หากว่าบรรดาญาติโยทพุทธบริษัทสามารถทำได้อย่างนี้ทุกวันนะ เวลานอนลงไปภาวนาหรือพิจารณาหรือกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกก็จงอย่าบังคับ ถ้ามันจะหลับก็อย่าบังคับให้มันทรงตัวอยู่ ปล่อยให้หลับไปเลย เมื่อเริ่มลงนอนภาวนาว่า พุท ไม่ทัน โธ หลับ ยิ่งดีใหญ่ เพราะฌานนี่เราต้องการเข้าเร็วที่สุดที่จะเร็วได้ ไม่ใช่มานั่งโคลงกันใช่ไหม การเข้าฌานนี่นะเขาต้องการเร็วมาก หมายความว่าอย่างเรานอนหลับๆพอพ้นจากฐานสุขปุ๊บ รู้สึกตัวเข้าฌานได้ทันที อันนี้เขาต้องการ วิธีที่เข้าฌานเขาต้องการให้เร็วที่สุดที่จะเร็วได้ ไม่ใช่ว่านั่งภาวนาได้นานๆจิตถึงเข้าฌาน นี่ไม่ทันกิน ไม่ทัน ดีไม่ดีเดินๆไปเจอมดตัวเล็กๆเห็นหน้าแล้วเราชอบใจ หัวเราะก๊ากๆตกใจตาย เลยเข้าฌานไม่ทันเลย

    นี่การเข้าฌานถือว่าให้เร็ว ที่สุด เพราะว่าการภาวนาเป็นการทรงจิตให้อยู่ในสมาธิ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกเป็นการทรงจิตให้อยู่ในสมาธิ แต่ว่าสมาธิที่เราจะพึงได้เราต้องการเร็วที่สุดใช่ไหม นี่มันถึงจะทัน เพราะว่าเวลาเราจะตายเรานึกไม่ได้เลย นึกไม่ได้ว่าขณะที่เราจะตายโดยฉับพลันหรือค่อยๆตาย เราก็ค่อยๆคุมใจได้ แต่ถ้ามันตายในฉับพลันเราก็ไม่ทัน ทั้งนี้ก็เป็นการว่าเราจะตายเมื่อไรเราก็ไม่รู้ ตอนก่อนจะหลับ นอนภาวนาให้หลับไป ให้จิตเป็นทิพย์ ถ้านอนภาวนาหลับไปนี่มันจะหลับเร็วขึ้นทุกวันเลย หนักๆเข้าพอนึกปั๊บเดี๋ยวมันก็หลับ

    พอ หลับแล้ว บางทีเราเคยนอน ๘ ชั่วโมง สบายเลย ถ้าเราหลับด้วยการภาวนาหลับ ความจริงแค่ ๒-๓ ชั่วโมง ตื่นมาจะมีกำลังทันทีเพราะจิตมันทรงตัว จิตไม่เหนื่อย

    และก็เพื่อเป็นการป้องกัน ไอ้การที่เราตื่นขึ้นมาใหม่ๆนี่มันเป็นวันใหม่ จิตเราอาจจะไม่ทรงอยู่ในคุณความดีตามสมควร ถ้าตายแล้วอาจจะพลาดเป็นอกุศล นี่ตอนเช้ามืดเรานอนอยู่แบบนั้น ไม่ต้องลุกขึ้นมานั่งก็ได้ พอตื่นขึ้นมาแล้ว แล้วเราก็ภาวนาให้สบาย พอใจสบายแล้วลุกไปทำงาน ถ้าเวลาไม่กระชั้น ถ้าคนนอนตื่นสายไม่ได้แน่(หัวเราะ) กินข้าวไม่ทันใช่ไหม นี่ถ้าตื่นเช้ามืดก็จับคำภาวนาตามจุดสัก ๕ นาที ๑๐ นาทีตามเวลา ให้จิตสบาย ถ้าจิตสบายเช้ามืดอยู่ในระดับฌานไหนก็ตาม วันนั้นทั้งวันเขาจะถือว่าจิตทรงอยู่ในฌาน แล้วบังเอิญไปตายด้วยกรณีใดๆก็ตาม อย่างเลวที่สุดก็ไปสวรรค์ ถ้าอย่างดีก็ไปพรหม อย่าลืมนะ นี่เป็นการเอาทุนไว้ตั้งแต่เช้ามืดใช่ไหม

    อัน นี้เป็นเรื่องสำคัญมากรู้หรือเปล่า โดยเฉพาะพระธุดงค์ เขาจะต้องฝึกจิตแบบนี้เป็นปกติ ธุดงค์นะ ไม่ใช่ธุบ้าน ปักกลดข้างเสาบ้านนั้นไม่ใช่ธุดงค์แล้ว ธุบ้านไม่เกี่ยวนะ ธุนี่ไม่จำเป็น เพราะธุดงค์ป่าลึกนี่เขาต้องคิดอยู่เสมอว่าอาจจะเสือกัดตายก็ได้ ช้างกระทืบตายเมื่อไรก็ได้ ดีไม่ดีนกกระจอกพูดไปพูดมาเป็นลมตาย ฟังเสียงนกกระจอกนะ เราต้องถือ มรณานุสสติกรรมฐาน เป็น อารมณ์ แล้วก็ต้องคิดว่าถ้าตายขณะใดเราจะไปไหน ไอ้คำว่าเราจะไปไหนนี่ ก็มีอยู่ว่าถ้าเราต้องการเป็นเทวดา วันนั้นทั้งวันก็ต้องตั้งจิตทรงอยู่ในอุปจารสมาธิ ถึงเวลาตายไปเป็นเทวดาบนสวรรค์ได้

    แต่ถ้าเขาคิดว่า เขาต้องการจะเป็นพรหม วันนั้นทั้งวันจะต้องตั้งจิตขณะที่นั่งคุยกันไป เดินกันไป อันนี้จิตเขาจะต้องทรงอยู่ในขั้นปฐมฌานและทุติยฌาน คือฌานที่ ๑ แล้วก็ฌานที่ ๒ ถ้าหากว่าเขาตั้งใจว่าเขาจะไปนิพพาน ตอนเช้ามืดเขาจะทำจิตให้เป็นฌานถึงที่สุด แล้วก็ถอยหลังอารมณ์ฌานมาพิจารณาสังโยชน์ สังโยชน์ ๑๐ นี่ก็ตัดสักกายทิฏฐิตัวเดียว แล้วก็เมื่อตัดสักกายทิฏฐิตัวเดียวแล้ว ก็เอาอารมณ์จับพระนิพพานเป็นสำคัญ แล้วก็วันนั้นทั้งวันเขาจะใช้ อุปสมานุสสติกรรมฐาน ประจำ ใจ คือปรารภพระนิพพานเป็นอารมณ์ อย่างนี้ถ้าตายเมื่อไรเขาไปนิพพานเมื่อนั้น นี่พระธุดงค์ในแดนลึกเขาก็พร้อมที่จะตายอยู่ทุกวัน ที่เรียกกันว่า มรณานุสสติกรรมฐาน นี่เวลาหมดแล้วล่ะนะ เกิดความเข้าใจกันนะ สวัสดี.........."

    จาก คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง(พระราชพรหมยาน)


    ผมทำเป็นปกติทุกวันครับ เวลาหลับก็หลับสนิทเลย ไม่เห็นว่าฝันอะไร ตื่นมาสดชื่นดีมากครัีบ
     
  4. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    สาธุๆๆ ถูกต้องตามนี้เลยครับ ผู้ที่เห็นจิตละเอียดแบบสุดๆ แล้ว หากต้องการหลับ ก็เพียงแค่เพ่งอารมณ์ที่เป็นตัวความง่วง เหมือนกับเข้าฌาน ก็จะหลับได้ทันที อย่างที่หลวงพ่อท่านเทศน์ครับ
     
  5. พงพัน

    พงพัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +478
    ขออนุโมทนาครับจะลองดูเผื่อเวลาตื่นขึ้นมาจะได้รู้สึกสดชื่นกับเขาบ้าง
     
  6. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    ทุกวันนี้หลับง่ายมาก ถ้าอยากหลับแค่เอาจิตไปจับที่ลมหายใจ หรือพุทโธ ยังไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ หลับแระ
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    อนุโมทนาสาธุกับกระทู้ดีๆค่ะ
    ติงใช้วิธีภาวนา"พุทโธ"จนหลับไป ตื่นมาก็ภาวนาต่อ
    ใช้ได้ดีทีเดียวนะคะ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ถ้าฝึกสมาธิไปได้ซักระยะหนึ่ง...เวลาจะไม่ใช่ประเด็นแล้วนะครับ..จะเป็นที่เรื่องของอารมย์มากกว่า..ถ้าทำอารมย์ไปสู่จุดที่จิตจำได้ว่าหลับ..อย่าว่าแต่สวดมนต์เป็นครึ่งชั่วโมงเลยครับ..บางที่ นะโม ยังไม่ถึงรอบที่ 3 ก็ตัดหลับ.รู้สึกอีกทีก็เช้าแล้วครับ..
    ปล.ความเคยชินของอารมย์จิตเป็นหลักนะครับในกรณีนี้
     
  9. ruk55

    ruk55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +135
    เคยเป็นคนหลับยากมาก สะดุ้งตื่นบ่อย เมื่อตื่นแล้วก็จะหลับยากอีก จนต้องหายากกล่อมประสาทมากิน เนื่องจากทำให้ ตื่นนอนรู้สึกเพลียช่วงระหว่างวัน หน้ามืด ปวดหัว เป็นไมเกรน
    ตั้งแต่สวดมนต์ ก่อนนอนภาวนา กำหนดลมหายใจเข้า-ออก ตามที่หลวงพ่อท่านสอน อการดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย ไม่ต้องกินยาเหมิอนก่อน และไม่ปวดหัวอีก รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนหลับง่ายมาก พุท-โธ ยังไม่ถึง 3 รอบเลย การสวดมนต์นี้ดีจริง ๆ
     
  10. ทิพย์พิมล

    ทิพย์พิมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    245
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,511
    เป็นเหมือนกันค่ะ...................มันง่ายจริงๆ
     
  11. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    เมื่อคืนกว่าจะได้ทำสมาธิก็ดึกพอสมควร ทีนี้พอออกจากสมาธิ เราก็บอกตัวเองไว้เลยว่า "อย่าพึ่งหลับนะจ๊ะ อย่างพึ่งหลับ อย่าพึ่งง่วงตอนนี้" แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปเดินมา ทำธุระส่วนตัวก่อนนอน ปิดไฟ (คืนก่อนๆ หลับแบบเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืน-->อันนี้นิสัยไม่ดีนะคะ เด็กๆ อย่าเลียนแบบนะคะ)

    ทีนี้ พอจะนอน ประมาณเที่ยงคืนหน่อยๆ ก็เลยทำสมาธิแบบท่านอน อ่ะค่ะ ภาวนาพุทธ-โธ แล้วก็หลับไป แต่จะตื่นสายหน่อย คือ ประมาณ 7 โมงเช้า ซึ่งแปลกมากๆ ตรงที่ เวลามันจะ เป๊ะ!! อ่ะค่ะ คือตื่นมาดูนาฬิกา เข็มสั้นจะชี้เลข 7 เข็มยาวชี้เลข 12 ซึ่งเทียบกับคืนก่อนๆ ก็เช่นกัน ตีห้าก็เป๊ะ!! ตีสี่ก็เป๊ะ!! แปลกอ่ะค่ะ เหมือนกำหนดได้ว่าจะตื่นกี่โมงๆ ทั้งๆ ที่ก่อนนอนก็ไม่ได้กำหนดอะไรแบบนี้เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...