นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.

  1. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ว่าแล้ว ต้องมาในแนวนี้ เอาพุทธศาสนามาบังหน้า

    แล้วค่อยๆพยายามสอดแทรก ด้วยลัทธิพราหมณ์-ฮินดู
     
  2. นํ้า้ทิพย์

    นํ้า้ทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +836
    สวัสดีค่ะพี่ๆทุกท่าน

    เพิ่งกลับจากที่ทำงานนะค่ะ
     
  3. นํ้า้ทิพย์

    นํ้า้ทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +836
    สวัสดีค่ะพี่ๆทุกท่าน

    เพิ่งกลับจากที่ทำงานนะค่ะ
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เดี๋ยววันนี้ ต้องขอตัวและหัวใจออกจากนิทานไวหน่อยนะคะ มีเรื่องต้องสะสาง และพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์กับวันพระ ตอนเช้าๆ ค่อนข้างยุ่งนิสนึง (ภาระิกิจเยอะ)

    ราตรีสวัสดิ์นะคะเพื่อนๆ คุยกันให้สนุกและอย่าลืมไปหลับไปนอนกันล่ะ แล้วพรุ่งนี้จะมารออ่านนิทานใหม่ค่ะ good night ค่าาาาาา
     
  5. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ราตรีสวัสดิ์ฝันดีค่าคุณนุ๊ก...
    เช้าวันจันทร์ คะรุทาก็ขนฟูแน่..เพราะตอนนี้งานยังไม่เสร็จเล้ยยย
     
  6. กาซะลองขาว

    กาซะลองขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +168
    ขอบคุณ คุณคุรุวาโรนะคะที่ช่วยแปลความฝันให้ จริง ๆ ได้ศึกษาธรรมะมานานและนั่งสมาธิภาวนามาประมาณ 2 - 3 ปีแล้ว แต่เมื่อการนั่งสมาธิเริ่มก้าวหน้าเรื่อย ๆ เราก็จะป่วยเกือบตายมา 2 ครั้ง เคยถามแม่ขาวที่เรานับถือท่านบอกว่ายังไม่ถึงเวลาของเราให้ชดใช้กรรมของเราก่อน ขณะนี้จึงไม่รีบเร่งการนั่งสมาธิมากนัก ค่อยเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงเวลาเราจะทิ้งทางโลกเข้าสู่ทางธรรมอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตามขอติดตามกระทู้ด้วยคนนะคะ ขอให้คุณพระรักษาคุณคุรุวาโรคะ
     
  7. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    เชื่อหรือไม่ว่า มีผู้กำลังทำการวิเคราะห์กลุ่มบุคคลในนี้อยู่

    ซึ่งสามารถจำแนก ออกมาเป็นรายบุคคลได้เลย

    บางคนก็ชอบทำการลบข้อความ ให้ข้อความอีกคนตกไป
    หรือด้วยเจตนาใดไม่ทราบ ซึ่งก็ไม่ใช่สาระสำคัญ

    โดยหากดูผิวเผินๆแล้ว ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เป็นเรื่องของการสนทนาตามประสาทะ

    แต่ที่สำคัญเริ่มเห็นแวว ในการพยายามสอดแทรก

    มีอยู่คำหนึ่ง ที่เคยๆได้ยิน ว่า "ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่ที่เสื่อมนั่นเพราะจิตใจคน"
    ประโยคนี้ผู้เข้าถึง จึงจะสามารถกล่าว ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

    แต่มีอีกสิ่งที่ควรพิจารณา ก็ด้วยสภาวะแวดล้อม
    นี้เองที่เป็นเหตุทำให้เสื่อมตามไปด้วย นั่นคือ "พุทธบริษัท4"
    ที่ง่อนแง่นคลอนแคลน หรือที่เรียกว่า "จลศรัทธา" ต่อคุณพระรัตนตรัย
    ซึ่งในสถานะเราๆนี้ ก็ด้วย อุบาสก อุบาสิกา นั่นเอง

    พุทธศาสนาที่เสื่อมจากอินเดีย มีเหตุผลบางประการด้วยว่า
    ถูกศาสนาพราหมณ์และฮินดูเบียดเบียน ด้วยการพยายามสอดแทรก หรือบิดเบือนให้เข้ากันได้ จากนั้นก็ฮุบ

    สาเหตุ ที่พุทธศาสนาเสื่อมจากอินเดีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2012
  8. Upson

    Upson Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +94
    พี่คะ ส่วนใหญ่หรือว่าถ้าพลอยเดาไม่ผิดก็พอทราบว่าพี่เอยถึงใครบ้าง... แต่ขอเถอะค่ะ. พลอยว่าอย่างน้อยเราน่าจะมองว่า บางเรื่องเราก็มีความเชื่อเฉพาะตัว และเขาที่อยุ่ที่นี่. พลอยเขามาเขาก็ สวดมนต์. ถือศลีห้า นั่งสมาธิ. ถ้าตามที่อ่านนะคะ. ตามจริงพลอยก็ไม่ทราบว่าเป็นแบบไหน
    มีพระพุทธศาสนาในหัวใจ. ทำความดีเป็นนิจ. เราอย่ามาแสดงการ ชี้เป้า ไปที่เรื่องแบบนั้นเลยค่ะ. เราน่าจะอนุโมทนา. ที่เขาถือศลี. สวดมนต์ ทำบุญ. ดีกว่านะคะ

    แสดงความเห็นแบบนี้พี่คงไม่ถือ. นะคะ
     
  9. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    [​IMG]
     
  10. ผู้มีจักร

    ผู้มีจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2012
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +222
    หลวงปู่ชอบกับพญานาค


    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นศิษย์รูปหนึ่งของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ... มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ชอบได้ธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์มั่น ท่านเล่าไว้ว่า

    “เราตามท่านพระอาจารย์มั่นไปปักกลดอยู่ริมบึงน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ในเขตป่าดงดิบ เราเดินสำรวจรอบๆ ปากบึง ได้พบความผิดปกติอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ เพราะปกติแล้ว น้ำในบึงย่อมเป็นที่พึ่งพาอาศัยของเหล่าสัตว์ป่าทั้งหลาย เมื่อมีสัตว์มากินน้ำแล้ว ย่อมต้องทิ้งร่องรอยไว้ แต่ที่นี่ ทำไมไม่ปรากฏรอยเท้าสัตว์เลย...

    เราจึงได้กำหนดจิตตรวจดู ก็ทราบว่า พญานาคไร้คุณธรรมตนหนึ่ง ได้พ่นพิษครอบคลุมน้ำในบึงเอาไว้ ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ หากกินน้ำในบึงนี้แล้ว ย่อมถึงความสิ้นชีวิต ด้วยพิษอันร้ายกาจนั้น เราจึงเข้าไปบอกพระธุดงค์รูปอื่นๆ อย่าแตะต้องน้ำในบึงนี้ และได้ไปเรียนให้ท่านอาจารย์ทราบ... ท่านอาจารย์ก็บอกว่า “เธอพูดถูกต้องแล้ว ขอให้งดให้น้ำก่อน เราจะไปติดต่อกับพญานาคเอง”

    ต่อมาวันหนึ่ง ท่านอาจารย์เรียกเราไปบอกว่า "เธอไปบอกให้พระรูปอื่นใช้น้ำในบึงได้แล้ว” ซึ่งเราได้ทราบภายหลังว่า ท่านอาจารย์ได้ทรมานพญานาคจนหมดทิฐิ แล้วบอกว่า “ท่านใยจึงพ่นพิษลงมา หมายจะสังหารพระสงฆ์ผู้ทรงศีล มิรู้หรือว่าเป็นกรรมหนักถึงตกนรกอเวจี ท่านจงรีบไปถอนพิษออกเสียเถิด”

    พระยานาคจึงไปถอนพิษออกจนหมดสิ้น ... ต่อมาพญานาคนั้น ได้ชวนพวกพ้องบริวารมาฟังธรรมจากท่านอาจารย์ และถวายอารักขาแก่คณะพระธุดงค์ จนย้ายไปที่อื่น




    หลวงปู่ชอบ เมื่อคราวท่านนำหมู่คณะพระสงฆ์ธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาว แล้วปักกลดอยู่ใกล้หมู่บ้านลาว ไม่ไกลจากแม่น้ำโขง ...หลังจากท่านฉันภัตตาหารแล้ว ชาวบ้านได้นำบาตรขอท่านไปล้าง และเทเศษอาหารลงไปในน้ำโขง

    ณ ขณะนั้น ท่านก็ได้ยินเสียง ตลิ่งพังครืนๆ พร้อมกับชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่ง วิ่งหน้าตื่นตกใจหนีมาหาท่าน.. ท่านกำหนดจิตตรวจดูก็รู้ทั่วทั้งหมด... พอชาวบ้านวิ่งมาถึง ก็เล่าให้ท่านฟังว่า

    “น้ำในแม่น้ำโขงที่ใสๆ อยู่ๆ ก็ขุ่นคลั่ก เหมือนมีอะไรมากวนน้ำจนน้ำเป็นน้ำวนใหญ่รุ่นแรง แรงหมุน ทำให้คลื่นน้ำมากระทบตลิ่ง จนตลิ่งพังทลายลง ถ้าวิ่งหนีไม่ทัน มีหวังจมลงไปในน้ำวนแน่ๆ”

    หลวงปู่ทราบแล้วว่า พญานาคในลำน้ำโขง มีความโกรธที่คนเหล่านั้นเอาน้ำพริก น้ำปลาร้าไปถูกตัวเขาซึ่งอยู่แถวนั้นพอดี เขาจึงใช้ลำตัวฟาดไปมาด้วยแรงฤทธิ์ ทำเอาน้ำวนและตลิ่งพัง.. หลวงปู่ชอบจึงบอกชาวบ้านว่า

    “อย่าเอาน้ำพริกน้ำปลาร้า เศษกับข้าว ไปเทลงในน้ำอีกเด็ดขาด”

    ต่อมา มีพระรูปหนึ่งถือดี ไม่เชื่อฟังหลวงปู่ชอบ... วันหนึ่งแอบเอาเศษน้ำล้างบาตร ไปเทลงในแม่น้ำ ก็เกิดเหตุอาเพท น้ำหมุนวน ตลิ่งพัง จนต้องรีบวิ่งหนี แทบเอาชีวิตไม่รอด... หลังจากนั้น ทุกคน จงยอมเชื่อฟังแต่โดยดี

    เมื่อเข้าพรรษา หลวงปู่ชอบ ได้จำพรรษาอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ไม่ไกลแม่น้ำโขงนัก... คืนหนึ่งพญานาคตนนั้น ได้ขึ้นมาถวายความเคารพหลวงปู่ ที่ได้ห้ามคนไม่ให้ทิ้งเศษอาหารลงแม่น้ำ ทำให้น้ำสะอาด อยู่สบาย. นาคตนนั้น ส่วนหัวมานมัสการที่ปากถ้ำ ส่วนหาง ยังอยู่ที่ฝั่งน้ำโขงซึ่งห่างกันไกลเป็นกิโลเลยทีเดียว...

    หลวงปู่ชอบเล่าว่า

    “เราพบว่า เขาสร้างกรรมไว้โดยไม่ตั้งใจ คือ เมื่อชาติก่อน เขาเป็นชายหนุ่มผู้มั่นในศีล๕ แต่วันหนึ่ง ถือวิสาสะว่าคุ้นเคย ได้ถือมีดของพระสงฆ์ไปใช้เป็นของส่วนตัว ด้วยกรรมนี้ เมื่อตายไป จึงมาเกิดเป็นพญานาค แม้แสดงฤทธิ์ได้ แต่อับวาสนาไม่ได้เป็นคน...”
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หวัดดีวันพระค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน

    วันนี้ถือว่าเป็นวันดี ก็เลยเปิดบันทึกของตัวเองบ้าง
    ขอเล่าประสบการณ์ของการปฏิบัติสมาธิควบคู่วิปัสสนา เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วค่ะ

    ดิฉันขอเล่าประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อเป็นวิทยาทานนะคะ

    เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ดิฉันไปงานศพของรุ่นน้องที่รู้จักกัน รุ่นน้องผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวยมาก เรียนจบมัธยมต้น อายุ 20 ต้นๆ แต่งงานแล้ว มีลูกสาวกำลังน่ารัก 1 คน พูดจาไพเราะ สามีเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ดิฉันรู้สึกปลื้มเขามาก ตอนนั้นดิฉันคิดว่าเค้าช่างเป็นผู้หญิงที่ Perfect และโชคดีมาก

    ต่อมาได้ข่าวว่าสามีของเค้าได้รับอุบัติเหตุ ทำให้ขาข้างหนึ่งพิการ ไม่สามารถรับงานได้ ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แล้วก็เลิกรากันไป ฝ่ายชายก็ไปมีเมียใหม่ ลูกสาวอยู่กับพ่อพิการ ส่วนฝ่ายหญิงก็ไปทำงานร้านอาหาร เป็นพนักงานเสริฟ เวลาผ่านไป ฝ่ายหญิงเกิดอุบัติเหตุ โดยขับรถมอเตอร์ไซค์ไปชนกับรถจี๊บอย่างแรง ทำให้เสียชีวิต ดิฉันรับรู้เรื่องราวของคนที่ดิฉันปลื้มนี้มาตลอด เมื่อไปรับศพที่โรงพยาบาล ได้เห็นร่างที่ไร้วิญญาณนอนอยู่ที่เตียงสำหรับอาบน้ำศพ มีอดีตสามีพร้อมภรรยาใหม่และลูกสาว ดูอยู่ห่างๆ ไม่ได้สนใจที่จะอาบน้ำศพให้ มีแต่พูดคุยกันเรื่องเงินประกันชีวิต และทรัพย์สมบัติที่ต้องตกเป็นของลูกสาว ดิฉันเป็นผู้อาบน้ำศพให้รุ่นน้องคนนี้ พร้อมทั้งพิจารณาทั่วทั้งร่างกายที่เปลือยเปล่า ความสวยความงามเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ได้หายไป มีแต่ร่องรอยอุบัติเหตุ ฟกช้ำ ดำเขียวไปทั้งร่าง พิจารณาตั้งแต่เส้นผม ผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตา แม้แต่ส่วนที่ผู้ชายทั้งรักทั้งหลง ส่วนที่อักเสบก็บวมไม่น่าดู เมื่อหันไปดูครอบครัวเดิมของเธอ ก็ไม่เห็นความรักที่เคยมีให้กัน มีแต่ความเห็นแก่ตัวผุดขึ้นมาแทน กิเลสที่หนาทึบ จิตของดิฉันภาวนาพุทโธและดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนำศพไปตั้งสวดที่วัด ผู้คนที่มาในงานล้วนแล้วแต่มาเพื่อร่วมดื่มกินและเล่นการพนัน โดยอ้างว่าอยู่เป็นเพื่อนศพ จนถึงวันที่นำศพขึ้นเมรุต้องเปิดหีบศพเพื่อนำน้ำมะพร้าวมาล้างหน้าศพ ไม่มีคนที่เคยรักเธอมาดูหน้าศพเป็นครั้งสุดท้าย มีเพียงดิฉันที่พิจารณาร่างไร้วิญญาณนั้นอยู่ หลังจากเผาแล้ว ก็ไปเก็บกระดูกในวันถัดไป ดิฉันตื่นแต่เช้า ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างน่าสงสารจังเลย รู้สึกสลด หดหู่ สังเวชใจ มีความคิดอยากจะช่วยเหลือเป็นธุระจัดการ

    เมื่อไปถึงเตาเผา สัปเร่อลากถาดที่เผาร่างนั้นออกมา ดิฉันมองลงไปแล้วถามตัวเองว่า ไหนล่ะคนสวย ไหนล่ะความงาม ไหนล่ะความโชคดี มันหายไปไหนหมด มีเพียงเถ้าถ่านสีดำๆ ไม่เห็นสวยเลย แล้วก็กลับคืนสู่ดิน น้ำ ลม ไฟ สิ่งที่เราเคยเห็นและชื่นชมมันคือกิเลสนี่เอง สิ่งที่โลดแล่นอยู่บนโลกนี้ มีเพียงกิเลสและมายาเท่านั้น ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีใครทั้งสิ้น ทุกสรรพสิ่งไม่มีตัวตน วันหนึ่งข้างหน้าก็จะไม่มีเราเช่นกัน คิดได้เพียงเท่านั้น ได้ยินเสียงภาวนาพุทโธๆๆๆๆ.... แล้วหูก็ดับ ไม่มีเสียงใดๆ จิตดิฉันสงบมากอยู่ในสภาวะนี้นิ่งนาน มีสิ่งหนึ่งแว่บเป็นเสียงพูดเข้ามาในหัว เป็นภาษาบาลียาวมากๆ แต่ดิฉันเข้าใจใจความและความหมาย ณ ขณะนั้น เพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียว แล้วดิฉันก็รู้สึกตัวเบาหวิวลอยสูงขึ้นไป ขึ้นไป ขึ้นไป เหมือนขึ้นลิฟท์ ภายในสว่างด้วยแสงสีทองไม่มีประมาณ ปิติเกิดขึ้นทันทีทันใด ณ ขณะนั้นรอบกายไม่มีสิ่งใดเลย ไม่มีจริงๆ ไม่มีผู้คน ไม่มีเมรุเผาศพ ไม่มีกาย ไม่มีตัวเอง ไม่มีจิต มีเพียงตัวรู้

    ดิฉันได้เข้าถึงธรรมนั้นแล้วอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงลูบๆ คลำๆ แค่เปลือก มันเป็นปัจจัตตัง ณ ขณะนั้น ไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้ใดเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งเหมือนที่ตนเองเข้าใจ เพราะดิฉันเชื่อว่าไม่ว่าภาษาใดๆ ในโลกก็ไม่สามารถอธิบายธรรมได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง เท่ากับเอาใจเข้าไปรู้เองค่ะ ที่เล่ามาให้อ่านทั้งหมดนี้ ไม่ได้อวดอุตริฯ นะคะ เพียงแต่ต้องการยืนยันว่า วิชาของพระพุทธเจ้านั้น ถ้าคุณศึกษาแล้วนำมาปฏิบัติทุกที่ทุกเวลา ทุกขณะจิต คุณจะเข้าถึงข้อธรรมทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์แน่นอน โดยไม่ต้องอาัศัยตำรา ธรรมทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่กายของท่านทั้งหลาย

    *********************
    หลังจากนั้น ดิฉันไม่เคยนั่งสมาธิแล้วได้สมาธิอีกเลย จิตไม่เอาสมถะ เห็นอะไรจะน้อมเข้ามาพิจารณาตลอด นั่นคือ ปัญญามันกำลังอบรมจิต

    ทุกวันนี้จึงได้รู้ว่า เมื่อก่อนเราก็เคยเพ่งโทษของผู้อื่นอยู่ ยกตนข่มท่านอยู่เหมือนกัน ดูถูกดูแคลนผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเราเหมือนกัน และมันก็ไม่ได้ทำให้ก้าวหน้าไปไหนเลย วนเวียนอยู่กับสมถภาวนา พอหยุดภาวนามันก็หลงอีกแล้ว ทำัยังไงให้มันสงบได้อย่างถาวรโดยไม่ต้องภาวนา หลังจากที่ได้เข้าถึงสภาวะนั้นแล้ว เมื่อผัสสะใดมากระทบที่อายตนะใดก็พิจารณาแล้วจึงน้อมมาสู่ตนเสมอ จนเป็นปกติ

    ดังนั้น เมื่อเห็นใครมาเพ่งโทษจึงไม่แปลกใจ นักปฏิบัติทุกคนต้องก้าวผ่านจุดนี้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีใครบอกใครได้ว่าปฏิบัติกันไปถึงไหนแล้วเท่านั้นเอง เพราะเป็นยุคที่ว่างจากพระพุทธเจ้านี่เอง จึงต้องช่วยเหลือตนเองให้ถึงที่สุด คำสอนใดที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ น้อมเข้ามาที่ใจแล้วพิจารณา ไม่ใช่น้อมมาได้แค่ปากแล้วถากถาง นักปฏิบัติทั้งหลายจงพิจารณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2012
  12. momoru

    momoru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    666
    ค่าพลัง:
    +246
    ยาวมาก แต่ก็มันส์ดี อิอิ :cool:
     
  13. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    เมื่อคืนฝันว่า...ไปสอบอีกแล้ว และเหมือนที่เคยเป็นคือ
    ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา เพื่อไปให้ทันเข้าสอบ

    เมื่อไปถึง...ก็หาห้องสอบไม่เจอ (เหมือนเคย) ต้องเสียเวลา
    วิ่งหาห้องสอบ เมื่อหาห้องเจอก็ปรากฏว่าเอกสารมีไม่ครบ...
    แต่ท้ายสุดก็ได้เข้าสอบทุกครั้ง...และเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง...
    (อุปสรรคมันเยอะจริงๆ)
     
  14. momoru

    momoru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    666
    ค่าพลัง:
    +246
    ผมฝันว่าจะต้องไปเรียนอะ วันนี้วันจัทนร์แล้ว แต่ว่าในฝันอยากโดดมากขี้เกียจไปเหลือเกิน อิอิ
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หวัดดีค่ะ น้องปลากระป๋อง
    วันนี้พร้อมจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พวกพี่ฟังได้หรือยังคะ พี่ยังมีเจตนาเดิมนะคะ
     
  16. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    สมุนาเทวี นราวดี และทิพย์ อักษร ทำไม ไม่ตอบคำถาม สมาชิกครับ

    เป็นผู้ครองนครแล้วต้องตอบคำถามครับ
     
  17. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    โดดเรียนไปหาสาวๆ อ่ะดิ
     
  18. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    ก็นู๋ไม่รู้นี่คะ...จะให้ตอบว่าไงอ่ะ...
     
  19. momoru

    momoru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    666
    ค่าพลัง:
    +246
    ในฝันแค่ไม่อยากไปเรียนเฉย ๆ คือเบื่ออะ ไม่ได้จะไปหาสาวที่ไหนเลยนะ :'(
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ยังให้เกียรติท่านประธานเหมือนเดิมค่ะ (ให้เกียรติในการตอบคำถาม) เิิชิญพิจารณาไปตามคิวนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...