กรณีพระภิกษุเวียดนามที่เผาตัวเองเพื่อประท้วงรัฐบาลนั้นจะมีสุคคติหรือทุกคติเป็นที่ไป

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย lepus, 23 มิถุนายน 2007.

  1. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    .

    กรณีของพระภิกษุชาวเวียดนามที่เผาตัวเองเพื่อประท้วงรัฐบาลนั้น ท่านคิดว่า
    พระรูปนี้จะมีสุขคติหรือทุกคติเป็นที่ไปครับ

    ช่วงนี้ข่าวการออกมาเรียกร้องของพระสงฆ์ ด้วยวิธีการอดอาหารเพื่อให้มีการบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติกำลังเป็นข่าวดังอยู่และก็มีคนทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนก็ออกมาว่ากล่าวพระท่านอย่างเสียๆ หายๆ รุนแรง โดยไม่รู้จะเป็นบาปเป็นกรรมอะไรหรือเปล่า

    กรณีของประเทศเวียดนามเมื่อ ค.1700 บรรพบุรุษของรัฐมนตรี Ngo Dinh Diem ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาแคทอลิก หลังจากที่ได้เป็นนายก Ngo Dinh Deim จึงอยากให้ทุกคนเปลี่ยนมานับถือแคทอลิกโดยการเลือกนักการเมืองที่นับถือศาสนาเหมือนตนแล้วระรานศาสนาพุทธ วันวิสาขบูชาที่ 8 เมษายน1963 ได้ให้ตำรวจบุกเข้าไปก่อกวนในการเฉลิองวันวิสาขบูชา ทำให้มีผู้หญิง 1 คนกับเด็กตายไป 8 คนในเหตุนี้ทำให้ชาวพุทธในประเทศเวียดนามโกรธและออกมาเดินขบวนประท้วงเป็นจำนวนมาก และในวันที่ 11 มิถุนายน ค.1963, พระในนามว่า Thich Quang Due อายุ 66 ปี ได้เผาตัวเองด้วยไฟ ณ ที่ถนนที่ Saigon สมัยก่อนเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้(ถ้าจำไม่ผิด) เพื่อประทวงที่รัฐมนตรี Ngo Dinh Diem ที่ได้ออกกฎหมายรังแกชาวพุทธ ในจำนวนประชากรที่นับถือพุทธอยู่ในขณะนันมีอยู่ 70% แต่แคทอลิกมีอยู่แค่ 10% ...หลังจากเหตุการของพระติกแขงดูได้มีพระอีก 5 ท่านทำแบบเดียวกันเพื่อประท้วง

    ซึ่งจากที่ทราบมาพระภิกษุเวียดนามรูปนี้ท่านเผาตัวเองด้วยอาการอย่างมีสติสงบสำรวมโดยท่านนั่งสมาธิให้คนเทน้ำมันราดไปทั่วตัวจากนั้นท่านก็หยิบกล่องไม้ขีดไฟที่ใส่ไว้ในถุงพลาสติกในกระเป๋าเสื้อเพื่อกันไม่ขีดนั้นเปียกน้ำมันที่ราดไปด้วยจะเห็นได้ถึงความระเอียดรอบคอบและมีสติของท่านอย่างมากเลยทีเดียวและในขณะที่ไฟลุกไหม้นั้นท่านนั่งสมาธิอย่างสงบนิ่งไม่แสดงอาการทุรนทุรายร้อนรนทรมานเจ็บปวดเพราะความร้อนแห่งไฟให้เห็นแม้แต่นิดเดียวจนกระทั้งไฟนั้นดับมอดไปพร้อมกับชีวิตของท่านแสดงให้เห็นถึงขันติอันยอดเยี่ยมของท่าน ส่วนตัวผมคิดว่าท่านคงจะเข้าสมาธิหรือณานขั้นสูงเลยทีเดียวจนตัดความรู้สึกทางกายไปหมดสิ้น

    ผมได้ยินมาว่าคนที่ตายในฌานนั้นย่อมมีพหรมโลกเป็นที่ไป และก็คิดว่าคงเป็นอย่างนั้นแน่นอนเพราะท่านทำไปด้วยใจที่บริสุทธิ์เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาย่อมมีสุขคติเป็นที่ไปก็สมควรอยู่แล้ว และบางทีพระรูปนี้ท่านอาจจะบำเพ็จบารมีในทางพุทธภูมิด้วยก็เป็นได้เพราะถ้าดูจากการเสียสละของท่านเพื่อพระพุทธศาสนาแล้วก็น่าจะคิดได้อย่างนั้นจริงๆ แล้วเพื่อน ๆ ในเว็บพลังจิตคิดยังไงครับคิดว่าพระเวียดนามรูปนี้ท่านจะมีสุคคติหรือทุกคติเป็นที่ไปครับ พอจะนำมาเทียบเคียงกับกรณีพระภิกษุของไทยที่ท่านกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้ได้หรือไม่อย่างไร แล้วกลุ่มคนที่ออกมาด่าว่ากล่าวติเตียนท่านเสียๆ หายๆ อย่างที่เราเห็นกันทั้งในเว็บต่างๆ และสื่อต่าง ๆ โดยที่ตัวเองยังไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของพระท่านเลยแต่กลับออกมาโจมตีว่ากล่าวพระท่านโดยเหมารวมไปหมดแบบนี้จะเป็นบาปเป็นกรรมอะไรหรือเปล่าคนเหล่านี้จะได้รับกรรมอย่างไรครับ

    ส่วนรูปการเผาตัวของพระเวียดนามนั้นสามารถดูได้ที่นี่ครับ
    http://larndham.net/index.php?showtopic=21124&st=0#top


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2007
  2. namo_jindy

    namo_jindy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +131
    ถ้าขณะจิตที่ตายคิดรู้..ละร่างกาย มิได้กระทำไปด้วยโลภะ โทสะ โมหะ (ที่มีผู้คิดต่างจากเรามาเบียดเบียนพระศาสนา)..ท่านก็ย่อมไปสู่สุคติหรืออาจได้ไปกราบพระบรมสุคตเลยก็ได้น๊า
     
  3. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ท่านไปเป็นพรหม
    คอนเฟิร์ม
     
  4. บุญบันดาล

    บุญบันดาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,000
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    เด็ดเดี่ยว มั่นคง มาก สาธุ
    เมืองไทยอย่าให้ถึงขั้นที่พระดีๆ จะต้องเสียสละมาเผาตัวเลย
    ขอเทวดาจงไปแจ้งแก่ผู้ไม่รู้ว่าเหตุใดพระจึงต้องออกมาทำเช่นนี้ อย่าได้ปรามาสพระดีๆอีกเลย
    จะบาปมหันต์ ตกนรกโลกันต์
     
  5. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ผมว่าชาวพุทธเราควรต้องหันมองดูประวัติศาสตร์ดูอดีตกันบ้าง อย่างกรณีของเวียดนามเป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี เมื่อผู้มีอำนาจวาสนาเป็นคนต่างลัทธิต่างศาสนาเขาก็ย่อมจะหาช่องทางทำเพื่อประโยชน์เพื่อพวกพ้องที่มีศรัทธาความเชื่อเหมือนตัวเอง จริงอยู่ภาพลักษณ์ภายนอกเขาอาจดูดีน่าเชื่อถือแต่ข้างในนั้นจะเป็นอย่างไรใครจะไปรู้ได้ เพราะว่ายังไงเขาก็ยังคงเป็นปุถุชนที่ยังไม่สิ้นกิเลส อาจกำลังวางแผนการล้มล้างบั่นทอนพระพุทธศาสนาของเราอยู่ทีละนิดละหน่อยก็ได้ใครจะไปรู้ เคยมีอดีตนายกของประเทศไทยเราท่านหนึ่งขอไม่เอ่ยชื่อ ท่านเป็นนายกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและเป็นชาวคริสต์ ในสมัยนั้นก็มีการเรียกร้องให้มีการบัญญัติพระพุทธศาสนาเช่นกันแต่ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โตเหมือนการเรียกร้องในครั้งนี้ เป็นเพียงเรื่องเงียบ ๆ ในวงแคบ ๆ นายกท่านนี้ท่านถึงกับพูดออกมากลางสภาว่า ถึงตายก็ไม่ยอมให้มีการบัญญัติพระพุทธศานาเป็นศาสนาประจำชาติเด็ดขาด นี่แหละครับจิตใจของคนที่มีภาพลักษณ์ดูดีน่าเชื่อถือของประชาชน แต่จิตใจเขาเป็นอย่างนี้

    ที่กล่าวมาไม่ได้ต้องการไปกล่าวหาหรือฟาดฟันกับใครหรอกแต่เราไม่มีญาณวิเศษที่จะรู้จิตใจของคน สำหรับคนศาสนาอื่นที่มีจิตใจดีงามก็คงมีอยู่ไม่น้อย บุคคลเช่นนั้นก็ขอยกไว้และท่านเหล่านั้นก็คงเข้าใจว่าเราทำเพื่อปกป้องตัวเอง ดังนั้นอะไรที่เรายังพอจะทำได้เพื่อปกป้องและทำให้พระพุทธศาสนาของเรามั่นคงมันก็เป็นสิ่งที่ควรอยู่ไม่ใช่หรือ เราควรทำเสียตั้งแต่ต้นมือในวันนี้ไม่ดีหรือ ถ้ามัวแต่ชะล่าใจนิ่งเฉยอยู่วันหน้าหากภัยมาถึงตัวแล้วชาวพุทธเราจะไม่ลำบากกันหรือ กับการแค่บัญญัติพระพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญเพียงแค่นี้จะทำไม่ได้เลยเชียวหรือ
     
  6. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    เราสนับสนุนให้บัญญัติไว้ตั้งแต่วันนี้เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้มีที่ให้สำหรับผู้ที่หวังปฏิบัติธรรมเพื่อวิมุติความหลุดพ้นได้ปฏิบัติธรรมอย่างสะดวกใจครับ กฎหมายถ้าส่งเสริมสนับสนุนต่อหลักธรรมของพระพุทธเจ้าก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากครับ แต่อย่างในอดีตเมื่อไม่นานนี้ได้เคยมีการจะออกกฎหมายมาห้ามพระไม่ให้เดินธุดงค์ในป่า จนพระและชาวพุทธต้องออกมาคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ นี่แหละครับเห็นหรือยังกฏหมายที่เป็นเสี้ยนหนามเป็นภัยสำหรับพระพุทธศาสนา กุลบุตรเมื่อบวชเข้ามาในพระศาสนาแล้วพระพุทธเจ้าท่านสอนให้เข้าป่าแสวงหาความวิเวกเป็นอันดับแรกๆ เลย นี่ถ้ากฎหมายออกมาห้ามพระไม่ให้เข้าป่าเสียแล้วก็เท่ากับเป็นการทำลายพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรงเลยทีเดียว พอจะเห็นกันบ้างหรือยังครับว่ากฎหมายมันเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระธรรมวินัยได้อย่างไร วันนี้จึงจำเป็นครับในการบัญญัติไว้ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เพื่อต่อไปจะได้ไม่มีใครคิดอุตริออกกฏหมายที่เป็นเสี้ยนหนามต่อพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าออกมาอีกครับ... สำคัญทีเดียว
     
  7. bon7

    bon7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +238
    ถ้าขณะตาย รู้ไม่เท่าทันจิต ปล่อยให้ จิตเกิด โลภะ โทสะ โมหะ ก็ไปทุกข์คติ แต่ถ้ามีสติ รู้ทัน ก็ไปสุขคติ หมั่นตามดูจิตในชีวิตประจำวัน แล้วสติจะมา
     
  8. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ท่านเข้าสมาธิตอนถูกเผา
     
  9. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    โง่ครับ อย่างนั้นเรียกว่าโง่
    ผมคือพระศรีอารย์น่ะครับ เลยมาบอกว่าผมรู้ว่าคนที่ตกนรกน่ะเป็นเพราะเค้าทำให้สัตว์นรกโกรธจนเอาไปเป็นเมียยังไงละครับ
    ไม่ได้โกหกนะครับเพราะวิญญาณของพวกคุณยังไม่บริสุทธ์พอ
     
  10. a5g1

    a5g1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +384
    (f) เป็นการเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องพุทธศาสนา และท่านก็ได้ฌาณที่สูงมากด้วยจากภาพที่สงบและนิ่งมากและไฟก็โหมแรงด้วย ท่านน่าจะไปสถิตย์ยังพรหมโลกสาธุๆๆ(verygood) (verygood) (verygood)
     
  11. amdfriend

    amdfriend สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +22
    ................

    ศาสนาทุกศาสนาสอนให้รักกัน ปรองดองกัน และเข้าใจกัน
    ไม่มีศาสนาใดสอนให้เกลียดกันครับ....
     
  12. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +6,347
    เท่าที่ผมทราบผมรู้กลุ่มคนหนึ่งที่ออกมาด่าว่ากล่าวติเตียนท่านพระสงฆ์เสียๆ หายๆ บาปมาก ๆ ครับ เราเป็นชาวพุทธควรจะปล่อยวางอย่างสงบ เรียกร้องโดยสงบแบบผู้มีสติปัญญา แต่ถ้าเขาไม่ทำตามข้อเรียกร้องของคนส่วนใหญ่นั้นก็ถือเป็นกรรมของชาวพุทธที่ไม่สามารถเรียงร้องอะไรได้นอกจากการปล่อยวางอย่างมีสติ อย่าไปถือเหตุจนกลายเป็นทุกข์ เราเองก็ควรนำคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปฏิบัติให้เกิดสุข พ้นจากอบายภูมิทั้ง 4 ได้แก่ สัตวนรก เปรต อสูรกาย สัตวดิรัจฉาน สาธุ..........<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  13. bali

    bali สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +4
    พระพุททธศาสนาเสื่อมแน่นอน

    อย่ามัวเถียงกันอยู่เลยว่าจะบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติหรือไม่เพราะพระพุทธเจ้าได้ทำนายไว้แล้วว่า ศาสนาของพระองค์ จะดำรงอยู่ 5000 ปีเท่านั้น ตอนนี้ก็คงอยู่มาแล้ว 2500กว่าปีแล้วต่อจากนี้ไป คนก็จะเสื่อมจากธรรมะ ไปเลื่อยๆ เห็นได้จากเริ่มถือเอาเทพเป็นที่พึ่งแทน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์กันแล้ว เห็นแล้วน่าตกใจ ต่อไป คำว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะไม่มีใครรู้จักอีก เพราะฉะนั้นตอนนี้เรายังโชคดีที่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ให้ถือเป็นสรณะได้อยู่ ในเมื่อเราโชคดีแล้วที่เกิดมาในภพของพระพุทธศาสนาจงรีบน้อมเอาพระรัตนไตรเป็นที่พึ่งกันเสียแต่ตอนนี้เถิดเมื่อเราน้อมเอาพระรัตนไตรเป็นที่พึ่งเสียแต่ตอนนี้แล้วก็ไม่ต้องกล้วว่าพระพุทธศาสนาจะเสื่อมไปจากตัวเราได้ แม้ว่าคนอื่อจะเสื่อมจากพระรัตนไตรก็ตาม
     
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
  15. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    “......ขาวคือบริสุทธิ์ศรีสวัสดิ์ หมายพระไตรรัตน์ และธรรมะคุ้มจิตไทย ......”

    พระราชทานธงไตรรงค์
    (จาก http://www.krama6.su.ac.th/activity/activity09.htm)


    ธงชาติเป็นเครื่องหมายของความเป็นศรีสง่าและแสดงถึงเกียรติภูมิของชาติอย่างหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความสำคัญดังกล่าว ดังนั้น ในโอกาสที่ไทยจะส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเข้ากับฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่งนับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการก้าวไปสู่ความเจริญทัดเทียมกับนานาประเทศที่สำคัญ พระองค์จึงมีพระราชดำริว่า ธงช้างซึ่งเป็นธงชาติไทยอยู่นั้น ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง จึงทรงเห็นสมควรที่จะเปลี่ยนธงชาติไทยให้เป็นธงสามสี คือ สีขาว สีแดง และน้ำเงิน ตามลักษณะธงชาติของประเทศที่เป็นสัมพันธมิตรกับกรุงสยาม และเพื่อเป็นเครื่องหมายให้เห็นว่าได้ร่วมสุขทุกข์และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับสัมพันธมิตรหมู่ใหญ่ อนึ่ง ธงสามสีดังกล่าวได้พระราชทานให้เรียกว่า “ ธงไตรรงค์” ทั้งนี้พระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์ถึงความหมายของสีทั้งสามว่า


    ขอร่ำรำพรรณบรรยาย
    ความคิดเครื่องหมาย
    แห่งสีทั้งสามงามถนัด
    ขาวคือบริสุทธิ์ศรีสวัสดิ์ หมายพระไตรรัตน์
    และธรรมะคุ้มจิตไทย

    แดงคือโลหิตเราไซร้ ซึ่งยอมสละได้
    เพื่อรักษะชาติศาสนา
    น้ำเงินคือสีโสภา อันจอมประชา
    ธ โปรดเปนของส่วนองค์
    จัดริ้วเข้าเปนไตรรงค์ จึ่งเปนสีธง
    ที่รักแห่งเราชาวไทย
    ทหารอวตารนำไป ยงยุทธ์วิชัย
    วิชิตก็ชูเกียรติสยามฯ
    (จากหนังสือดุสิตสมิตฉบับพิเศษ พ.ศ.2461 สะกดตามต้นฉบับ)

    ความหมายของธงไตรรงค์ดังกล่าวข้างต้นนี้ทำให้เห็นถึงพระปรีชาญาณอันลึกซึ้งของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในการนำสถาบันที่สำคัญของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาเป็นสัญลักษณ์บนผืนธงได้อย่างงดงามเป็นศรีสง่าและเป็นความภูมิใจของชาวไทยทั้งมวลตลอดไป สิ่งนี้เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้อีกประการหนึ่ง

    ---------------------------------------------------------

    เพียงความจริงเท่านี้ก็ชัดเจนว่าผู้ใดปฏิเสธ คัดค้านว่าพระพุทธศาสนาไม่ใช่
    ศาสนาประจำชาติ คือ ผู้บังอาจปฏิเสธล้มล้างพระบรมราชโองการ บังอาจ
    กบฎ ทรยศคิดคดต่อชาติ บังอาจจาบจ้วงหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

    คนมันคิดปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ถึงเพียงนี้

    จะขับไล่กำจัดโดยเร็ว หรือจะปล่อยให้มันบ่อนทำลายแผ่นดินไทยต่อไป
     
  16. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    คุณบาหลี รับข้อมูลข่าวสารบ้างนะ
     
  17. คนกลียุค

    คนกลียุค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +620
    ถ้าต่อไปเมืองไทยมีผู้นำจากศาสนาอื่น ศาสนาพุทธก็จะถูกละเลยเช่นกัน นั่นคือสาเหตุที่ต้องบรรจุในรัฐธรรมนูญ
     
  18. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆครับ ในเมื่อผู้มีอำนาจไม่ให้ความสำคัญ ขาดจิตสำนึก ใช้อำนาจในทางไม่ชอบธรรมแล้ว การต่อสู้เพื่อคงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ถ้าพุทธบริษัทไม่ทำ แล้วใครจะทำ ?
     
  19. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    เพราะบ้านเมืองถึงขั้นกลียุค มีกลุ่มคนบังอาจล้มล้างพระบรมราชโองการ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจในแผ่นดิน กลับเพิกเฉย ประชาชนชาวไทยจึงจำต้องลุกขึ้นปกป้องแผ่นดิน ปกป้องชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้เหล่ากบฎผู้คิดคดทรยศต่อแผ่นดิน หวั่นเกรงต่อพลังบริสุทธิ์ของปวงชนชาวไทย ที่จะไม่ยินยอมให้ผู้ใดบ่อนทำลายความเป็นไทยอันเป็นที่รักและหวงแหนยิ่งลงไปได้
     
  20. กังขา ณ ปลาย

    กังขา ณ ปลาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +1,763
    ที่ที่ท่านไป ..ยิ่งกว่าสุคติภูมิ
    พระโพธิสัตต์ ไม่ห่วงนรก สวรรค์ หรือกฏกรรม
    แต่การช่วยประโยชน์ส่วนรวมมาก่อน

    รัฐบาลมาบังคับประชาชนนับถือศาสนานี่ มีหลายประเทศ
    มีเล่ห์กลต่างๆ มากมาย

    มีแต่ประเทศไทยนั่นแหละประหลาด พระมหากษัตริย์ ถือพุทธเป็นกฎ
    แต่ประชาชน กลับเป็นพุทธแบบว่าไม่ต้องบัญญัติ
    จะเป็นพุทธแท้ได้กันขนาดไหนเชียว งมงายกันทั้งบ้านทั้งเมืองแบบนี้
    แล้วจะมาปรมัตถ์กันที่กฎหมาย เออ ประหลาด เข้าใจโลกกันแล้วแค่ไหนกัน
    นี่ถ้าเป็นพุทธแท้กันทั้งประทศจริง ไม่ต้องบัญญัติแล้ว
    เพราะจะเป็นอริยะกันทั้งประเทศแหละ แต่นี่ เราล้วนต้องศึกษาสัจธรรมกันอยู่

    ดังนั้น ควรรีบบัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
    ก่อนที่โลกจะยุ่งไปกว่านี้ โลกมันยุ่งจริงๆ
    ที่อ้างศาสนากัน ผลประโยชน์ซ่อนอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น
    ประเทศเรายังดี ที่มีกษัตริย์เป็นพระโพธิสัตต์อยู่
    เพราะมีแต่พุทธ ที่มารเข้ามาแปรเปลี่ยนคำสอนได้ยากที่สุด
    ศาสนาอื่น นี่ พระศาสดาต้องแอบไปหลั่งน้ำตาแล้ว..
    เพราะพวกนักการเมืองนี่ หลายคนเข้ามาเพื่อตักตวง อ้างศาสนากันไป
    คุณประสงค์ ต้องเข้าใจโลกสมมุติเอาไว้บ้าง ท่านมีเจตนาดีก็จริง
    แต่นี่คือโลก นี่ไม่ใช่แดนนิพพาน
    การจะไปนิพพานได้ ต้องเข้าใจโลกก่อน โลกที่มีแต่กิเลสและต้องระวังพวกมาร

    บัญญัติแล้ว ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมอนาคตเท่าไหร่
    แต่คงเลวร้ายน้องกว่าไม่บัญญัติ มารเขาไปเร็ว ก้าวหน้าเร็ว

    (i)
     

แชร์หน้านี้

Loading...