จับตามอง สงคราม"นิวเคลียร์" โรงงานพลังงาน "นิวเคลียร์" การรั่วไหลของกัมมันตรังสี

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">สหรัฐส่งฝูงเรือรบขู่อิหร่าน หลังดื้อขยายโครงการ นุก [25 พ.ค. 50 - 02:40]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>รัฐบาลสหรัฐฯเปิดฉากกดดันอิหร่านครั้งใหม่ด้วยการส่งกองเรือรบจำนวนมากที่สุดในรอบหลายปีเข้าไปในน่านน้ำใกล้กับอิหร่าน เมื่อ 23 พ.ค. วันเดียวกับที่สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล หรือไอเออีเอ หน่วยงานตรวจตราด้านพลังงานแห่งสหประชาชาติ เผยรายงานฉบับล่าสุดว่าอิหร่านยังคงเดินหน้าขยายโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมซึ่งสามารถนำไปผลิตพลังงานนิวเคลียร์ แต่ก็สามารถนำไปใช้ในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ได้เช่นกัน ท้าทายการขู่คว่ำบาตรจากนานาประเทศที่เรียกร้องให้อิหร่านยุติโครงการทดลองนิวเคลียร์มาโดยตลอด ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวเป็นการเปิดช่องให้สหประชาชาติดำเนินมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรุนแรงยิ่งขึ้น
แม้สหรัฐฯจะระบุการนำเรือรบมาประจำการในอ่าวมิได้มีจุดหมายที่อิหร่าน แต่นายมุสตาฟา อลานี นักวิเคราะห์อาวุโส แห่งศูนย์วิจัยแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่การเคลื่อนพลครั้งใหญ่จะตรงกับการเปิดเผยรายงานที่ว่าอิหร่านยังไม่ยุติโครงการทดลองนิวเคลียร์พอดี โดยเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอห์น สเตนนิส และยูเอสเอส นิมิตซ์ แล่นสู่ช่องแคบฮอร์มุซ ในอ่าวเปอร์เซีย โดยมีเฮลิคอปเตอร์บินนำ รวมทั้งเรือลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบกบรรทุกนาวิกโยธินกว่า 2,200 นาย
ขณะที่นายมาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ผู้นำอิหร่าน โต้กลับรายงานของยูเอ็น ประกาศอิหร่านจะไม่ยุติการ ทดลองนิวเคลียร์แม้เพียงเสี้ยววินาที โดยเผยว่าศัตรู มีเป้าหมายกีดกันอิหร่านมิให้ใช้เทคโนโลยีในทางสันติ เพราะพวกเขาอยากกำจัดอิหร่าน หากอิหร่านยอมยุติแม้เพียงชั่วเวลาหนึ่ง พวกเขาจะบรรลุเป้าหมาย
ด้านนักธุรกิจชั้นนำและนักวิเคราะห์เศรษฐกิจในอิหร่านเผยมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯส่งผลกระทบทำลายเศรษฐกิจอิหร่าน ซึ่งหลังสหรัฐฯดำเนินมาตรการเมื่อเดือน มี.ค.ด้วยการคว่ำบาตรบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่าน รวมถึงการสกัดกั้นธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ราคาสินค้าส่งออกทั้งหมดสูงขึ้น
ขณะที่สถานการณ์รุนแรงในอิรักยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน ล่าสุดกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดบ่อน้ำมันใกล้กับเมืองเคอร์คุก เมืองน้ำมันสำคัญ ทางตอนใต้ของอิรัก ขณะเจ้าหน้าที่พักเวรทำให้ควันไฟหนาพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า ขณะเดียวกันกองทัพสหรัฐฯยืนยันเมื่อ 24 พ.ค. ว่าศพทหารสหรัฐฯที่พบในแม่น้ำทางตอนใต้ของกรุงแบกแดด เมื่อ 23 พ.ค. เป็นร่างของสิบตรีโจเซฟ แอนแซค จูเนียร์ หนึ่งในทหารที่ถูกคนร้ายลักพาตัวไปเมื่อ 12 วันก่อน วันเดียวกันเกิดเหตุคนร้ายนำระเบิดติดรถยนต์เกิดระเบิดในงานศพของผู้นำท้องถิ่นที่เมืองฟอลลูจาห์ ทำให้พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 27 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 30 ราย.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.thairath.co.th/news.php?section=international&content=48229

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>อิหร่านยืนยันไม่หยุดเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เตหะราน 30 พ.ค. – นายอาลี ลาริจานี หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน กล่าวย้ำในวันนี้ว่า อิหร่านจะไม่ยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแต่อย่างใด นายลาริจานี กล่าวย้ำการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมก่อนออกเดินทางไปสเปน เพื่อพบปะกับนายฮาเวียร์ โซลานา หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป หรืออียู ในวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และว่า การระงับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ การพบกันระหว่างนายลาริจานีและนายโซลานามีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ความพยายามทางการทูตแก้ไขวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ ขณะที่มหาอำนาจตะวันตกกำลังกดดันให้ลงโทษอิหร่าน กรณียังคงฝ่าฝืนเดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมต่อไป สหรัฐกล่าวหาว่าอิหร่านกำลังพยายามผลิตระเบิดนิวเคลียร์ แต่อิหร่านปฏิเสธโดยสิ้นเชิง และยืนกรานว่ามีจุดมุ่งหมายผลิตพลังงานเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=585 height=10>ชาวอเมริกันที่เป็นสมาชิกอัล-กออิดะห์เตือนว่าสหรัฐจะเผชิญกับการโจมตีรุนแรงยิ่งกว่าเหตุวินาศกรรม 11 </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD class=news2006_graylight height=10>โดย กรมประชาสัมพันธ์<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT> <!--START-->วัน พุธ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 12:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=10 rowSpan=4></TD><TD width=575><!img001:m:r>- นายอดัม กาดาห์น สมาชิกอัล-กออิดะห์ ชาวอเมริกันได้ปรากฏตัวทางวีดีโอเทป ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ตเมื่อวานนี้ พร้อมมีคำเตือนว่า สหรัฐจะเผชิญกับการโจมตีรุนแรงยิ่งกว่าเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2544 หากไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายอัล-กออิดะห์ ซึ่งรวมถึงการให้สหรัฐถอนทหารออกจากดินแดนมุสลิมทั้งหมด เพราะหากมีทหารเพียงคนเดียวก็ถือเป็นเหตุผลที่ชอบธรรมที่เครือข่ายอัล-กออิดะห์ จะทำสงครามศาสนาเพื่อต่อต้านสหรัฐและชาวอเมริกัน นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้สหรัฐยุติการสนับสนุนอิสราเอลทุกด้าน รวมทั้งสั่งห้ามชาวอเมริกันเดินทางหรือพำนักในเขตปกครองปาเลสไตน์ด้วย

สำหรับนายกาดาห์นนั้นเป็นชาวอเมริกันที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามและเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกตั้งข้อหาทรยศชาติ โดยเชื่อว่าขณะนี้เขาอยู่ในปากีสถาน.<!--END-->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Burmese junta's nuclear dream takes shape ​

Mungpi


Mizzima News (www.mizzima.com)


24 พฤษภาคม 2550 - พม่าได้เซ็นต์สัญญา กับรัฐเซียเพื่อพัฒนาการวิจัยนิเคลียร์

May 24, 2007 - The reclusive military regime in Burma has taken a step forward to turn its nuclear dream into reality with the recent signing of an agreement with Russia to develop a nuclear research centre in the country.
The Burmese military junta, which faces sanctions by the West and comes under frequent international criticism for ignoring the need for political reforms, has long dreamt of possessing nuclear weapons, in what critics and observers say, is to gain respect.
The announcement by Russia's atomic energy agency, Rosatom, on May 15 of its deal with the Burmese junta to build a nuclear centre is the first step in the junta's plan to opt for a nuclear programme.
Constitutional
Sources, who have access to the Burmese military establishment said, the junta in its new constitution, which is being drafted at the ongoing national convention, instead of placing nuclear energy under electricity or energy for civilian use, has put it under defence and security.
In the draft constitution, sources said it has been stated that "nuclear energy, nuclear fuel and radiation, and mineral resources that produce them is one of the exclusive legislative right of the Union Parliament."
The junta has also included in the list, arms and ammunition and explosives including biological and chemical weapons under defence and security, sources added.
Aung Naing Oo, a Burma affairs analyst based in Thailand said, by putting it down in the constitution it means that the government is allowed to pursue a programme on Weapons of Mass Destruction including nuclear weapons.
"If I have to translate these, I am not sure if Burma has biological or chemical weapons but placing it in the constitution means that the government is allowed to pursue these WMD. The same goes for nuclear energy," Aung Naing Oo told Mizzima.
Russia's intentions
Win Min, a Burmese analyst based in Thailand, said Russia's intention in developing a reactor in Burma is driven by business interests - selling nuclear technology and second-hand equipment and receive cooperation over gas.
Burma reached an agreement with Russia in 2001 for the construction of the facility but Moscow backed off in 2003, when the Burmese junta failed to come up with the estimated US $ 150 million needed for the project.
But reports suggest that the Burma-Russia nuclear deal survived underwater with Russia training a number of Burmese specialists on nuclear technology.
"A few years ago Russia was noncommittal about helping Burma. Now it has trained hundreds of Burmese technicians. Burma has earned billions of US dollar from gas exports, in other words, Burma can pay Russia for its services in cash or in kind," said Aung Naing Oo.
According to the agreement, besides developing a nuclear research facility, which includes a 10-MW light water reactor working on 20 percent enriched uranium-235, an activation analysis laboratory, a medical isotope production laboratory, silicon doping system, nuclear waste treatment and burial facilities, Russia will also train 350 Burmese specialists for the centre.

But critics also believe that Russia's intention in developing a nuclear facility in Burma is part of its plan against the United States .
Russia, which helped develop North Korea's nuclear reactor, seems to be helping countries that are at odds with the US, such as Iran, North Korea, and Burma, said Aung Naing Oo.
International response
Following Russia's announcement of the Naypyitaw-Moscow deal, the US questioned Russia 's motive and expressed concern over Burma's lack of regulatory system for the programme.
US State Department spokesperson Tom Casey said he had "no idea" what Russia's motive for the agreement is, adding that "It's not a good idea."
"Burma has neither the regulatory nor the legal framework or safeguard provisions or other kinds of things that you would expect or want to see for a country to be able to handle a nuclear programme of this type successfully," Casey told reporters.
Casey said with Burma having no nuclear regulatory commission or safeguards in place to prevent accidents, environmental damage or proliferation, there is a risk that nuclear fuel could be diverted, stolen or otherwise removed.
Russia said the nuclear facility to be developed in military-ruled Burma will be monitored by the International Atomic Energy Agency (IAEA), the United Nations' nuclear watchdog.
However, the IAEA denied knowledge of the construction of nuclear facility in Burma.
North Korean link
Despite the US's protest, Burma has been working secretly to fulfill its nuclear ambitions. Burma, besides Russia, sees North Korea as the possible source that could provide technical expertise needed for developing nuclear programme.
North Korea and Burma last month officially signed an agreement to re-establish diplomatic ties, which was severed in 1983, following a bomb attack in Rangoon reportedly carried out by North Korean assassins which killed four South Korean ministers who were visiting Burma.
Burma has reportedly been mining and refining uranium and bartering it to North Korea for missiles including surface to air missiles and ballistic missiles.
North Korean technicians were stated to have helped Burma with radiation problems from uranium enrichment programmes, sources said.
However, an analyst said North Korea is likely to be reluctant in providing assistance to Burma on its nuclear programme and provide access to its nuclear technology. But it is too early to make assumptions given the new found friendship.
And without the help of experts such as North Korea, Burma at the current stage does not have the resources, technical expertise or manpower to go for nuclear weapons.
But, Aung Naing Oo said, the Burmese junta's determination to posses nuclear weapons is clear and it has no limits.
"The junta admires North Korea for having been able to square off with a super power like the US," Aung Naing Oo said.

http://www.mizzima.com/MizzimaNews/EdOp/2007/May/06-May-2007.html

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เกาหลีใต้ทบทวนแผนคงกำลังทหารในอิรัก

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>โซล 31 พ.ค. – หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ ในเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีใต้กำลังทบทวนแผนการถอนทหารออกจากอิรักในปลายปีนี้ หลังจากที่หน่วยงานของรัฐแนะว่า การประจำการทหารในอิรักต่อไปน่าจะเป็นผลดีกับเกาหลีใต้
สถาบันวิเคราะห์ด้านกลาโหมเกาหลีใต้ ระบุว่า เกาหลีใต้น่าจะคงกำลังทหารในอิรักต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ของชาติ หลังจากที่มีแผนสิ้นสุดประจำการทหารในปลายปีนี้ ซึ่งกระทรวงกลาโหมมีแผนนำข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่สภาฯ ในเดือนมิถุนายนนี้
เกาหลีใต้มีทหารราว 3,600 นาย ในอิรัก นับตั้งแต่เมื่อปี 2547 และได้ปรับลดประจำการทหารเหลือราว 1,200 นาย ในปีนี้ และมีแผนถอนทหารทั้งหมดภายในสิ้นปี. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>อิสราเอลหาทางรื้อฟื้นเจรจาสันติภาพกับซีเรีย

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เยรูซาเลม 31 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต แห่งอิสราเอล กำลังหาทางรื้อฟื้นการเจรจารอบใหม่กับซีเรีย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายโอลเมิร์ต ได้เริ่มดำเนินการติดต่อผู้แทนเจรจา ซึ่งเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย เพื่อดูว่าซีเรียจะมีข้อเสนอใดในการเจรจาบ้าง ทั้งนี้ อิสราเอลต้องการได้รับหลักประกันก่อนเริ่มการเจรจาเรื่องต่าง ๆ เช่น เรื่องที่ซีเรียอาจตัดขาดจากกลุ่มติดอาวุธ เช่น กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ และกลุ่มฮามาส. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านไปหารือกับบรรดาผู้นำซีเรีย


</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>ดามัสกัส 31 พ.ค. – นายมานูเชห์ มอตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เดินทางเยือนกรุงดามัสกัส ซีเรีย ในวันนี้ โดยไม่ได้มีกำหนดการล่วงหน้า การเยือนดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากเมื่อวานนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติจัดตั้งศาลระหว่างประเทศขึ้น เพื่อสอบสวนคดีลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีราฟิก ฮาริรี ของเลบานอน

รายงานการสอบสวนของสหประชาชาติ ระบุว่า การลอบสังหารนายฮาริรี เมื่อปี 2548 มีขึ้นในช่วงที่กองทัพซีเรียควบคุมเลบานอน แต่ซีเรียปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ได้หารือกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ซึ่งเป็นพันธมิตรชาติอาหรับที่ใกล้ชิดที่สุดของอิหร่าน และยังมีกำหนดพบหารือกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ด้วย. –สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเตรียมพบผู้นำสหรัฐเดือนหน้า


</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เยรูซาเล็ม 31 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิสราเอลแถลงว่า นายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต จะเดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตัน เพื่อพบปะกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบลิยู บุชของสหรัฐในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ประเด็นการหารือระหว่างผู้นำทั้ง 2 จะเป็นเรื่องของอิหร่านและปาเลสไตน์ ก่อนหน้านี้ นายโอลเมิร์ตเคยพบประธานาธิบดีบุชที่กรุงวอชิงตันเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว โดยเน้นที่เรื่องของอิหร่านเช่นกัน สหรัฐและอิสราเอล กล่าวหาอิหร่านแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ และอิสราเอลยังถือว่า อิหร่านเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัดแห่งอิหร่านเคยออกมาเรียกร้องให้กำจัดอิสราเอลออกไปจากแผนที่
เหตุการณ์ปะทะนองเลือดระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์เมื่อไม่นานมานี้ และการปะทะระหว่างกลุ่มคู่อริของปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา กำลังเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามสร้างสรรค์สันติภาพในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องมีการหยิบยกขึ้นมาหารือด้วย.–สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>สายลับรัสเซียแฉหน่วยข่าวกรองอังกฤษควบคุมการสังหารลิตวิเนนโก

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>มอสโก 31 พ.ค. – นายอังเดร ลูโกวอย อดีตสายลับเคจีบีรัสเซีย ผู้ต้องสงสัยบงการสังหารนายอเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก อดีตสายลับเช่นกัน ขณะอยู่ในอังกฤษ แถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง วันนี้ ที่กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย
นายลูโกวอย ระบุว่า เขาตกเป็นเหยื่อของการใส่ร้าย การสังหารนายลิตวิเนนโกด้วยการวางยาพิษ ไม่สามารถกระทำได้แน่นอน หากอยู่นอกเหนือการควบคุมของหน่วยสืบราชการลับอังกฤษ พร้อมทั้งกล่าวหาว่า ผู้ต้องสงสัยสังหารนายลิตวิเนนโก ถ้าไม่เป็นฝีมือของสำนักงานเอ็มไอ 6 อังกฤษ หรือมาเฟียรัสเซีย ก็น่าจะเป็นนายบอริส เบเรซอฟสกี อดีตสายลับอีกราย
ทั้งนี้ ทางการอังกฤษระบุว่า ตรวจพบร่องรอยสารกัมมันตรังสีโพโลเนียม 210 ในสาเหตุการเสียชีวิตของนายลิตวิเนนโก และระบุว่า นายลูโกวอย ที่ปัจจุบันทำกิจการบริษัทรักษาความปลอดภัยในรัสเซีย เป็นผู้ต้องสงสัยวางยาพิษนายลิตวิเนนโก ซึ่งมีบทบาทหลังพ้นจากเคจีบี เป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มาโดยตลอดจนกระทั่งเสียชีวิต. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่หนุนเปเรสเป็นประธานาธิบดี

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เยรูซาเล็ม 31 พ.ค. – ผลสุ่มสำรวจความคิดเห็นในอิสราเอลระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้นายชิมอน เปเรส รัฐบุรุษอาวุโสและเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
โพลของหนังสือพิมพ์มาอารีฟ รายงานจากผลการสุ่มสำรวจผู้ตอบแบบสอบถาม 500 คน ปรากฏว่า ชาวอิสราเอลร้อยละ 60 สนับสนุนนายเปเรสเป็นประธานาธิบดี ขณะที่มีผู้สนับสนุนนายรอยเวน รีฟลิน ส.ส.พรรคลิคุดฝ่ายขวา ร้อยละ 22 ทั้งนี้ นายเปเรสได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ว่า เขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีกำหนดในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ . –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>ไรซ์ชี้อิหร่านต้องเปลี่ยนแผนนิวเคลียร์

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เวียนนา 31 พ.ค. - ดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า อิหร่านต้องเปลี่ยนกลยุทธ์เรื่องนิวเคลียร์ และควรทำตามมติของสหประชาชาติด้วยการยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในโครงการนิวเคลียร์
ดร.ไรซ์กล่าวแถลงในขณะที่นายอาลี ลาริจานี ผู้แทนเจรจาอิหร่าน และนายฮาเวียร์ โซลานา หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียู กำหนดพบกันที่ กรุงมาดริด ของสเปน เพื่อวางแนวทางในการเจรจาระหว่างประเทศเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวย้ำท่าทีของรัฐบาลสหรัฐว่า พร้อมร่วมมือกับนานาชาติในการเสนอผลประโยชน์ทางการค้า ความมั่นคงและเทคโนโลยีให้อิหร่าน หากอิหร่านยอมยุติการเสริมแร่ยูเรเนียมในโครงการนิวเคลียร์ .-สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Burma’s Nuclear Ambition

By The Irrawaddy
May 30, 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=110></TD><TD width=110></TD></TR></TBODY></TABLE>

Burma’s nuclear ambitions, spotlighted by last month’s announcement that Russia has agreed to help the regime build a nuclear research facility, date back at least seven years. In December 1995, the junta signed the Bangkok Treaty, banning the development, manufacture, possession, control, stationing, transport, testing or use of nuclear weapons under the terms of the international Nuclear Non-Proliferation Treaty. Five years later, after a visit to Moscow by Burma’s minister for science and technology, U Thaung, the junta’s nuclear plans became clearer.
TIMELINE
January 2002
The Burmese government confirms plans to build a nuclear research reactor “for peaceful purposes.”
<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left background="" border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>May 2002
Russia’s Atomic Energy Ministry, known as Minatom, agrees to help Burma build a nuclear studies center, to include a 10-megawatt nuclear reactor and two laboratories in Magwe Division, central Burma. The agreement includes the construction of facilities for disposing of nuclear waste and Russian training for Burmese technicians.
July 2002
Russia and Burma sign an agreement in Moscow o&shy;n construction of the proposed nuclear research center in Burma.
April 9, 2004
Keith Luse, an aide to US Senator Richard Lugar, asks whether North Korea is providing nuclear technology to Burma during a Washington seminar organized by the Heritage Foundation, the conservative think-tank.
February 13, 2004
The Burmese government declares that it has “no desire” to develop nuclear weapons, but “has the right to develop nuclear facilities for peaceful purposes.”
September 14, 2004
About 400 young military officers from Burma leave for Russia, amid reports that some of them will study nuclear engineering.
August 3, 2006
Burma’s deputy ambassador to the UN Nyunt Swe tells the UN Conference o&shy;n Disarmament in Geneva that Burma is opposed to nuclear weapons.
May 15, 2007
Russia’s federal atomic energy agency Rosatom announces it will help Burma build the proposed nuclear facility. The agency says the 10-megawatt nuclear reactor, fueled by less than 20 percent uranium-235, will contribute to Burma’s “research in nuclear physics, bio-technology, material science as well as…produce a big variety of medicines.” A first round of talks o&shy;n details of the project began and further discussions are scheduled for the second half of this year.
May 16, 2007
The US condemns the project, while Thailand says it has no worries because the facility will be closely supervised by the International Atomic Energy Agency.

พม่าร่วมมือกับรัสเซีย วิจัยเรื่องนิวเคลียร์

http://www.irrawaddy.org/article.php?art_id=7330