:::บูชา"ข้าวปั้นพรานบุญ"เพื่อสมทบทุนสร้างหินทรายแกะสลักพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช:::

เก็บรักษาให้ดีนะครับ พระเครื่องที่นครฯรุ่นที่ใช้มวลสารนี้ดังเมื่อไหร่ จะมาหากัน มีกันไม่เกิน 30,000 ชิ้นครับ

 

ได้รับแล้วครับ ขอบพระคุณมาก

โมทนาบุญด้วยครับ<!-- / message -->

 

ผมได้ดำเนินการจัดหาสถานที่รับแกะสลักพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งได้ประมาณ ๓ แห่ง

แห่งที่ ๑ อยู่ที่จ.อยุธยาเอง การเดินทางขนส่งไม่มีปัญหา ฝีมือถือว่าใช้ได้ ราคาไม่สูงมาก

แห่งที่ ๒ อยู่ที่วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ระยะทางค่อนข้างไกล ฝีมือ และราคาถือว่าพอสมควร

แห่งที่ ๓ อยู่ที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ใช้หินทรายแท้ทำ เป็นศิลปะที่พระพุทธรูปหันพระพักตร์ตามการเคลื่อนที่ของผู้ชมได้ ราคาค่อนข้างสูง การเดินทางขนส่งปานกลาง(ดูภาพประกอบงานของร้านนี้นะครับ)

 

ส่วนภาพนั้นก็ได้เตรียมไว้ ๒ แบบให้ตัดสินใจอีกครั้ง
ภาพที่ ๑ เป็นภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยืนหลั่งน้ำสิโนทก

 

ภาพที่ ๒ ไม่ค่อยมีผู้จัดสร้าง เป็นภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกระทำพระแสงดาบคาบค่าย ซึ่งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า

"เดือน 4 ขึ้น 10 ค่ำเวลากลางคืนเสด็จออกไปปล้นค่ายทัพหน้าของพระเจ้าหงสาวดีข้าศึกไม่รู้ตัวแตกพ่ายได้ค่ายนั้นแล้วไล่ฟันแทงข้าศึกเข้าไปจนถึงค่ายหลวงพระเจ้าหงสาวดีสมเด็จพระนเรศวรทรงลงจากหลังม้าทรงคาบพระแสงดาบนำทหารขึ้นปีนระเนียดจะเข้าค่ายพระเจ้าหงสาวดีถูกข้าศึกแทงตกลงมาจึงเข้าไม่ได้ขณะนั้นข้าศึกกรูกันเข้ามามากก็เสด็จกลับคืนพระนครพระแสงดาบซึ่งสมเด็จพระนเรศวรทรงใช้ในวันนั้นจึงปรากฏนามว่าพระแสงดาบคาบค่ายมาจนตราบเท่าทุกวันนี้<O</O
<O</O

การที่สมเด็จพระนเรศวรไปปล้นค่ายพระเจ้าหงสาวดีครั้งนั้นในหนังสือพงศาวดารว่าเมื่อพระเจ้าหงสาวดีทราบตรัสแก่เสนาบดีว่าสมเด็จพระนเรศวรออกมาทำการเป็นอย่างพลทหารดังนี้เหมือนกับพิมเสนมาแลกกับเกลือ นี่พระราชบิดาจะรู้หรือไม่ เสนาบดีกราบทูลว่าพระราชบิดาเห็นจะไม่ทรงทราบ ถ้าทราบคงไม่ปล่อยให้มาทำอย่างนั้น พระหงสาวดีตรัสว่าพระนเรศวรทำศึกอาจหาญนัก ถ้าออกมาอีกจะเสียทหารสักเท่าไรจะแลกเอาตัวพระนเรศวรให้จงได้..."<O</O




สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงทรงเป็นผู้ให้กำเนิดการรบแบบจู่โจม

 

ภาพพระแสงดาบคาบค่ายให้ความรู้สึกถึงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพระองค์ท่าน ที่ทหารบกได้สร้างหลักสูตรการฝึกทหารขึ้นมา เมื่อสำเร็จหลักสูตรนี้จะได้รับเครื่องหมาย"เสือคาบดาบ"เป็นที่ปรารถนาของชายชาติทหารกันครับ ดังข้อความนี้...

กล่าวได้ว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดการรบนอกแบบ หรือการรบแบบกองโจร ซึ่งปัจจุบันได้มีการจัดตั้งกองพันจู่โจมขึ้น และยังมีหน่วยทหารหรือตำรวจที่มีภารกิจปฏิบัติการพิเศษ มักจะมีคำว่า "จู่โจม" ต่อท้ายเสมอ เช่น นักทำลายใต้น้ำจู่โจมกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ เป็นต้น

"เสือ" "หัวเสือ" "เสือคาบดาบ" "จู่โจม" "แรงเยอร์" หรือ "เรนเจอร์" ไม่ว่าจะใช้คำเรียกว่าอะไร แต่คำเหล่านี้หมายถึงสิ่งเดียวกัน ถ้าเป็นเครื่องหมายก็จะหมายถึงเครื่องหมายทางทหารอย่างหนึ่ง ที่ชายชาติทหารหลายคนใฝ่ฝันจะมีไว้ประดับหน้าอก เป็นหลักสูตรที่โหดและหินที่สุดในกองทัพบกไม่เป็นรองหลักสูตรรบพิเศษใดๆในกองทัพไทย

 

2 วันที่ผ่านมามีรุ่นพี่ที่ทำงานในวังนำเหรียญทองเหลืองแกะนูนด้านหน้าเป็นภาพ"สมเด็จพระนเรศวรมหาราช"ครึ่งองค์มาให้ และด้านหลังเป็น"พระยันต์จักรพรรตราธิราช" ประทับตราเล็กๆว่า"องค์ดำ"และเมื่อวานก็ได้รับหนังสือเล่มหนึ่งที่มีเรื่องราวรายละเอียดของพระยันต์นี้...

รู้สึกว่าพระองค์ท่านอาจจะส่งผ่านมาให้เพื่อนำมาจัดสร้างพระรูปหินทรายแกะสลักก็เป็นได้นะครับ...

 

ชิ้นใหญ่หมายเลข 4
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
คุณเพชรคะจองชิ้นนี้โอนเงินให้หลังวันที่15 มิย.นะคะ
โมทนาบุญกับคุณเพชรและทุกท่านด้วยนะคะ
หมายเหตุ : ชอบรูปพระแสงดาบคาบค่ายค่ะ

 

โมทนาสาธุ...ขอชื่อที่อยู่ทาง PM ด้วยครับ เพื่อเตรียมจัดส่งให้ครับ

นับ 1 แต้มสำหรับการจัดสร้างพระรูปพระแสงดาบคาบค่ายครับ

 

ขอโมทนาในกุศลจิตครั้งนี้กับทุกท่านครับ

ขอพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จงปกป้องคุ้มครองทุกท่าน ให้เป็นผู้มีแต่ความมั่งมี
หมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย จงพร้อมกันถ้วนหน้าเทอญ
สาธุครับ

 

เห็นข้าวปั้นญึ่ปุ่น"ซูชิ" เลยถ่ายภาพมาเปรียบเทียบกับ"ข้าวปั้นพรานบุญ" การกินอยู่สมัยนั้นคงจะไม่พิถีพิถันมากเพียงขอให้อุดมไปด้วยสารอาหาร และเกลือแร่ ในข้าวปั้น 1 คำนั้นน่าจะบรรจุสารอาหารครบถ้วนให้อยู่ได้นาน ซูชิก็น่าจะเข้าทำนองนี้ แต่เน้นด้านความสวยงามอันเป็นศิลปะการทำอาหารของญี่ปุ่นไปด้วย

 

คุณเพชร ครับ จองชิ้นที่ 19 โอนเงินให้ช่วง วันที่26-27 มิย. ครับ
อนุโมทนาบุญ กับคุณเพชร และทุกท่านด้วยนะครับ

 

รับทราบการจอง และโปรดแจ้งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ทาง PM เพื่อเตรียมจัดส่งให้นะครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

แวะมารับบุญ

โมทนาสาธุกับทุกๆท่านครับ

.

 

สรุป "ข้าวปั้นพรานบุญ"ชิ้นที่เหลือให้บูชาครับ

ชิ้นใหญ่ เหลือชิ้นหมายเลข#3-5-7-9-10-11-12 รวม 7 ชิ้น
ชิ้นเล็ก เหลือชิ้นหมายเลข# 13-14-15-16-17-18-21-22-23-24 รวม 10 ชิ้น

...................................................................

การถวายหินทรายแกะสลักพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้น ก็เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่านที่มีต่อพื้นแผ่นดินไทย และคนไทยทุกคน หากขาดพระองค์ในการศึกครั้งนั้น พวกเราทุกคนคงไม่มีอิสรภาพตราบเท่าทุกวันนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นการสร้างพระรูปถวายพระองค์ท่านนั้นถือเป็นความดีเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นที่สามารถตอบแทนคุณความดีที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทย อีกประการหนึ่งรูปกรอบวิทยาศาสตร์ที่ตั้งไว้ก็ไม่สามารถจะทนแดดทนฝนในที่เปิดโล่งขนาดนั้นได้นานรวมทั้งกาลเวลาด้วย ดังนั้นหากต้องตั้งวางในสถานที่เปิดโล่งต้องแดด ฝนลมทั้งที จึงเห็นควรว่าหินทรายแกะสลักน่าจะเป็นการดี ยิ่งเก่ายิ่งสวย...

ดังนั้น การบอกบุญผมจึงปล่อยให้เป็นไปโดยธรรมชาติตามสายบุญของพระองค์ท่านที่จะนิมิตให้ผู้ใดได้มาช่วยกัน..

 

คุณเพชรคะ
เมื่อวันที่ 18/06/50 เวลาประมาณ 21.30 ATM
โอนที่ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาย่อยซ.วัดบัวขวัญ
โอนเงินให้แล้วนะคะ 1500 บาท
แสกนให้ดูตอนนี้ไม่ได้ค่ะ เพราะอยู่ต่างจังหวัด
คุณเพชรกรุณาตรวจสอบดูอีกที
ถ้ากลับมาแล้วจะส่งสลิปให้ดูนะคะ
อนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ

 

วันนี้ได้จัดส่งข้าวปั้นพรานบุญชิ้นใหญ่หมายเลขที่ 4 ไปให้คุณพุทธันดร ลงทะเบียน EMS แล้วครับ ถึงพรุ่งนี้แน่นอนครับ

ขอโมทนาบุญร่วมสร้างหินแกะสลักพระรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วยครับ

 

คุณพี่เพชรคะ
อยากทราบว่า.. เลือกภาพพระรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชแบบใดในการสร้างหินแกะสลักคะ

 

หากพิจารณาถึงความสมพระเกียรติของพระองค์ท่านจะต้องทำพระรูปประทับบัลลังก์ทรงหลั่งน้ำสิโนทกครับ และอยากให้แกะแบบมีมิติแสงเงา ตุ้ยเห็นเป็นไง

ใจจริงอยากจะนำพระรูปลักษณะนี้อยู่ตรงกลาง ซ้ายขวาจะแกะเป็นอีก 2 เหตุการณ์เช่นตอนกระทำยุทธหัตถี และอีกฝั่งเป็นการกระทำพระแสงดาบคาบค่าย หรือพระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง แต่ด้วยรายละเอียดที่มากจนอาจดูเลอะดูไม่เข้าใจ และราคาค่าจ้างที่สูงมาก รวมไปถึงขนาดของแท่นหินที่อาจจะไม่สอดรับกับภูมิทัศน์บริเวณนั้นครับ จึงจำเป็นต้องเลือกที่เหมาะสมที่สุด

 

มีความคืบหน้าในโครงการจัดสร้างพระรูปหินทรายแสลักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผมได้ดำเนินการว่าจ้างช่างแกะสลักหินทรายที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ดำเนินการแล้วในวันสองวันนี้จะไปนำหินทรายเขียวจากวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาซึ่งมีขนาดกว้าง 60 ซ.ม. ยาว 90 ซ.ม. และหนาประมาณ 10-15 น้ำหนักประมาณ 70-90 กก.ลักษณะภาพที่ออกมาจะเป็นลักษณะนูนต่ำ โดยกำหนดภาพที่จะแกะสลักเป็น 3 เหตุการณ์คือ ด้านซ้ายมือจะเป็นภาพทรงยุทธหัตถี ภาพกลางเป็นภาพประทับบัลลังก์หลั่งน้ำสิโนทก และภาพซ้ายเป็นภาพพระแสงดาบคาบค่ายหรือภาพชนไก่(ยังไม่สรุป) ซึ่งวันนี้จะต้องจัดส่งภาพให้ทางช่างแกะสลัก เพื่อดำเนินการให้ทันก่อนวันเข้าพรรษานี้กำหนดเวลาเพียง 26-27 วันค่อนข้างจะเร่งรัดมาก การนำประดิษฐานที่วัดวรเชษฐารามกำหนดวันที่ 27 ก.ค. 2550 ช่วงเช้าถึงบ่าย