เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

<table id="post5712576" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> วันนี้, 02:55 AM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #4612 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> bus4s2v
สมาชิก

วันที่สมัคร: Nov 2009
ข้อความ: 1,611
พลังการให้คะแนน: 322


</td> <td class="alt1" id="td_post_5712576" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> ผมเป็นผู้หนึ่งที่ได้ไปงานประชุมเพลิงหลวงปู่ ก็พึ่งรู้ว่ามีเรื่องการนำอัฐิท่านไปโดยมิชอบ
ถ้าผู้ใดได้รับไป ก็อยากให้นำไปคืนเพื่อประดิษฐานไว้ที่วัดด้วยครับ
ถือว่าเป็นการทำนุบำรุงพระศาสนา เป็นการบูชาครูบาอาจารย์ละกันนะครับ
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> </td></tr></tbody></table>


<table id="post5711978" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> เมื่อวานนี้, 11:03 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #4601 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> bigbanggd
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 62
พลังการให้คะแนน: 51


</td> <td class="alt1" id="td_post_5711978" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <noscript> </noscript> <noscript></noscript>
คุณแฝงจันทร์ที่เคารพครับ

ผมขอยืนยันครับว่าผมได้รับมอบอย่างบริสุทธิ์ โดยท่านผู้หนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม เพราะท่านไม่อนุญาต) ที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ เป็นผู้มอบให้ครับ เนื่องจากผมช่วยงานวัดมานาน

ขอบคุณมากครับในความปราถนาดีครับ เรื่องที่มีมือดีนำธาตุขันต์องค์หลวงปู่ไปอย่างมิชอบ ผมรับทราบครับ ตั้่งแต่วันงานประชุมเพลิงหลวงปู่แล้วครับ หากการนำเรื่องราวอัฐิธาตุหลวงปู่มาเผยแพร่ สร้างความไม่สบายใจแก่ทุกท่าน ผมจะลบออกครับ ที่นำมาลงเพื่อต้องการเผยแพร่กิตติคุณหลวงปู่เท่านั้น ว่า องค์ท่านแปรสภาพเป็นพระธาตุแล้วครับ


__________________
"ทําดี ดีกว่าขอพร"
พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมมฺวิตกฺโก)
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> </td></tr></tbody></table>

 

คุณ aloveตัวเอง ยังไม่ละอายอีกเหรอ ที่เขียนมาก็ชัดเจนอยู่แล้วอย่าให้ต้องลากไส้ออกมาประจานอีกเลย อยากให้รู้สึกสำนึกและช่วยไป ไกรๆ และ ฤกษ์ๆ ไปปรับปรุงตัวดีกว่า ตัวผมมาอยู่นี่แล้วข้อความที่คุณอ้างอิงมานั้นผมมิได้หมายความถึงอัฐฺธาตุในส่วนที่คุณเอามาสมอ้างกล่าวโทษผู้อื่นเลย เพราะคุณ Dekdleta2 เค้าได้มาจริง อัฐิธาตุก็จริง แล้วไอ้คนไม่จริงอย่างคุณจะเปลี่ยนชื่อสักกี่ชื่อ มันก็ไม่ใช่ของจริงอยู่วันยังค่ำ มีความหลอกลวงจอมปลอมหาประโยชน์จากวัตถุมงคลไปวันๆ ดูอย่างขอทานสิครับ บ้างทุพลภาพ ขาดอาชีพ แม้จะแบมือขอเงินเค้าก็ไม่ได้ไปหลอกใคร แต่คุณ ไม่ใช่สิเรียกคุณดูจะสูงเกินไป แต่คนอย่างคุณจะสวมมงกุฏตั้ง 18 อันนี้เลี้ยงชีพไปตลอดชีวิตเลยเหรอ เอาเวลาว่างไปนั่งสมัครงาน หาสัมมาอาชีพทำดีกว่า เลิกทำตัวแบบนี้เถอะครับ

 

การเขียนของผมแบบนี้ไม่รู้ว่าจะผิดหรือเปล่า ถ้าผิดก็โปรดลงโทษผมได้เลย แต่ถ้าถูกผมก็ไม่ขออะไรเพียงแต่ของให้ท่านได้คิด ได้คิด และก็ได้คิด จะคิดอะไรนั้นผมคงไม่ต้องบอก แต่ต้องเพียงอ่านข้อความเล็กๆ นี้ให้จบเสียก่อน อืม ผมคนหนึ่งที่มีความศรัทธา และนับถือหลวงปู่พิศดู เป็นที่สุด ถึงแม้ผมจะมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ไม่มากมายเหมือนใครๆ เขา ส่วนมากก็ได้จากการทำบุญ วัตถุมงคลของหลวงปู่ท่านได้สร้างมาดีแล้ว ไม่ต้องแต่งเติมเสริมแต่งอะไรก็สุดยอดแล้ว เอาเป็นว่าตอนนี้ผมจะพูดถึงเรื่องอัฐิธาตุ ของหลวงปู่ สมควรหรือที่จะอยู่กับบุคคลธรรมดา แม้แต่ว่า ท่านได้อนุญาติแล้ว แต่ถึงแม้จะอนุญาติ ก็ลองคิดดูว่าสมควรหรือเปล่า อัฐิธาตุ ของหลวงปู่ ต้องอยู่ในสถานที่เหมาะสม ที่ใส ที่บริสุทธิ์ และที่สูง นั่นหมายถึงวัด เท่านั้น ทุกอย่างของหลวงปู่เป็นของวัดทั้งสิ้น ไม่เป็นของใคร และของใคร อัฐิธาตุ ของหลวงปู่ ที่จะนำมาเป็นมวลสารในการจัดสร้างวัตถุมงคลได้นั้น ต้องเป็นทางวัดออก หรือ สาขา วัดที่เกี่ยวเนื่องกัน และต้องมีคณะสงฆ์ และ คณะกรรมการ ไวยากรณ์ วัดได้รับรู้ และต้องมีเจตตนาการสร้างที่ดี คือ สร้างเพื่อทำนุบำรุงศาสนา เจดีย์ ศาลา กุฎิสงฆ์ สำนักปฏิบัติธรรม ฯลฯ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา (นี่คือเป็นความคิดในสมองเล็กๆ ของผมน่ะครับ) ผมขอให้ท่านที่อ่านข้อความนี้กลับบ้านแล้วไปส่องกระจกดูตัวเองว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือเปล่า แล้วกระจกก็จะสะท้อนให้คุณเห็นเป็นดอกบัว แต่ถ้ายังเห็นเป็นกงจักร ก็ไปส่องอีกบาน และก็อีกบาน ฯลฯ จนกว่าจะเห็นเป็นดอกบัว

บทสรุป หลวงปู่ท่านรู้ท่านคงไม่สบายใจ ที่ลูกศิษย์ไม่สามัคคีกัน ไม่สืบทอดพระพุทธศาสนา ตามเจตนารมณ์ของท่าน แต่ทุกคนยึดติดเพียงวัตถุกัน ลืมคำสั่งสอนกันไปหมด ผมคิดว่าท่านไม่มายุ่งเกี่ยวด้วยหรอกครับ เพราะท่านได้ตัดหมดแล้ว ไม่มีห่วงอะไรอีกแล้ว จะห่วงก็ห่วงเพียงแต่กลัวศิษย์ทำความชั่ว

นี่คือเป็นความคิดของผมน่ะครับ ความคิดจากสมองผมจริงๆ ถ้าไม่รักหลวงปู่ หรือไม่นับถือหลวงปู่ ความคิดก็จะไม่บังเกิดมาหรอกครับ คือปล่อยไป ไม่เก็บเอามาคิด ไม่เอามาเขียน (ถ้าข้อความที่ผมเขียนผิด ก็โปรดตัดสินได้เลย) แต่ถ้าอ่านแล้วคิดว่าดี ก็หยุด หยุด หยุด ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ด้วยความเคารพ

 

เท่าที่ติดตามอ่าน ข้อความนี้ตรงกับใจผมเลยครับ

 

พอดีตอนนี้มาอยู่ที่หน่วยโรคไต โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จึงไม่ค่อยมีโอกาสเข้ามาดูบ่อยนัก จะทยอยตอบคำถาม และ PM ของทุกท่านนะครับ

 

เรื่องอัฐิธาตุหลวงปู่พิศดูนี้ เป็นส่วนที่ได้ในห่อผ้าขาวที่สงฆ์ได้มอบให้ญาติโยมนำไปบูชาหลังจากพิธีสามหาบ ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ bigbangdd ในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น จึงเรียนมาให้คุณ

jimmy_jura = หมอตี๋ = alovesab2002 = นายไกรฤกษ์ นุ้ยเย็น

ทราบ และโปรดดูกระทู้นี้

http://palungjit.org/posts/5716662


ขอบคุณที่ช่วยเป็นปากเป็นเสียงที่จะเข้าพบกับฝ่ายกฏหมายเพื่อดำเนินการฟ้องร้องคดีอาญา และคดีแพ่งกับผมนะครับ แต่ตอนนี้ฝ่ายกฏหมายของบริษัทของคุณ อาจจะต้องช่วยคุณก่อนครับ

 

ต่อเรื่อง เรื่องราวการอธิษฐานจิตครับ ก่อนจะลบเลือนไปตามกาลเวลา

รูปแรก เป็นรูปทางเข้าวัดเขาจีนแล ซึ่งเป็นวัดของหลวงปู่สมุทร ศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงปู่บัวพา อีกรูปหนึ่ง แต่ไม่กล้าให้ท่านอธิษฐานจิตนะครับ เนื่องจากท่านกำลังอุปสมบทพระอยู่ และระยะเวลากระชั่นชิดต้องเร่งไปที่วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ที่สำคัญแววตาท่านดูดุมาก

 

หลวงปู่วิชัย สำนักสงฆ์องค์สัจจธรรม ว่ากันว่า ท่านมีอภิญญาสูงสามารถเดินทะลุกำแพงได้ และท่านเป้นผู้ที่มีเมตตาสูง ต่อหมาแมวจำนวนมาก ถามท่านว่าทำไมต้องมาอยู่ป่าแบบนี้ ท่านว่าท่านถือสัจจะ ขอโอกาสให้หลวงปู่อธิษฐานพระให้ ท่านว่า ได้ แต่ต้องถือสัจจะก่อน โดยเชิญพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นประธาน ให้รักษาสัจจะว่า จะไม่โกรธ หรือเห็นโทษของผู้อื่น ตั้งแต่เวลา 7-10 โมงเช้า เป็นเวลา 100 วัน ผมจึงต้องถือสัจจะตามนี้ครับ ท่านได้อธิษฐานให้ แล้วว่าสมบูรณ์แล้ว ให้เราภาวนา รัตนวหัง สามารถใช้กับพระก็ได้ แล้วจะเพิ่มชึ้นเรื่อยๆเอง

 

พุทธาภิเษก วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ในงานมีหลวงปู่กอง วัดกู่พระโกนา,หลวงปู่ใสย วัดเขาตำบล,หลวงพ่อสารันต์ วัดดงน้อย,หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ หลวงปู่สรวง วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ฯลฯ

ได้นำพระไปเข้าใจกลางพิธีพุทธาภิเษก แต่พิธีเสกเร็วมาก ประมาณชั่วโมงนึงพระก็สวดเสร็จหมดแล้ว

 

หลวงปู่จันทร์ อนาลโย เดิมทีท่านอยู่ที่ลพบุรีนี่แหละ เป็นหลานหลวงปู่หิน วัดเขาพระยาเดินธง ต่อมาเบื่อหน่ายเลยไปอยู่ที่ ศรีษะเกษ ปีนี้ตามบตรประชาชนท่านอายุย่างเข้า 100 ปีแล้ว องค์นี้แหละที่ท่านปลุกเสก 2 ครั้ง ครัง้ที่ 2 ท่านพูดว่า เสกกี๊เข้า

 

หลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา พระที่ปลุกเสกหลวงพ่อสำเร็๗ศักดิ์สิทธิ์อันโด่งดัง ยกพระเข้าไป เห็นมีคนกราบท่านอยู่เต็มกุฏิ คุยกันเรื่องมีดหมออะไรทำนองนี้อยู่ ก็ว่าจะรอให้ท่านสนทนาเสร็จ แต่หลวงปู่บอกว่า คุยยาว โยมมีธุระอะไร ผมเลยบอกว่าขอหลวงพ่อปลุกเสกพระให้ครับ เป็นพระ............ วัตถุประสงค์เพื่อ................ ขอหลวงพ่อลงพระมนต์ทุกวิชา และมนต์จินดามณีด้วยนะครับ
หลวงพ่อท่านปลุกเสกได้ประมาณ 1 นาที ก็ถอนสมาธิเงยหน้าขึ้นมาถาม(ถามภาพแรก) ว่า ลงมาเยอะแล้วนี่ ปลุกเสกหลายเกจิอาจารย์แล้วใช่มั๊ย ? ผมตอบว่า หลายร้อยเลยครับ หลวงพ่อ

ศิษย์หลวงพ่อทำหน้างงทั้งกุฎิ ไม่คิดว่าจะมีที่ไหนปลุกเสกเป็นร้อย หลังจากนั้นท่านก็ปลุกเสกต่ออีกไม่เกิน 3 นาที ก็เป็นอันเสร็จ ผมถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อขอหลวงพ่อลงมนต์ทุกบททำไมเร็วจัง ท่านว่าพอแล้วล่ะ ท่านก็บอกว่า วันนี้ก็เพิ่งไปพุทธาภิเษกมา แต่เกจิมาแค่ 3 องค์เอง ไม่ครบตามที่นิมนต์ ผมก็เลยบอกว่า สงสัยจะแย่งตัวทำวัดถ้ำพรหมสวัสดิ์แน่ๆเลย ท่านว่าพยักหน้าแล้วยิ้มๆครับ จากนั้นก็ลากลับ

 

หลวงปู่ไข วัดโพธินายก อายุ 98 ปี

ท่านเป็นพระเกจิที่โด่งดังในอดีต และมีวัตถุมงคลค่อนข้างน้อย สมเด็จของท่านสร้างตั้งแต่ปี 2500 ท่านเป็นพระหมอที่ได้วิชาตามตำรา ในการรักษาบรรดาโรคมะเร็ง

ได้ขอให้หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ ท่านบอกว่าไม่ต้องใช้สายสิญจน์ ท่านได้กราบวัตถุมงคล และเชิญครูบาอาจารย์มาร่วมปลุกเสก (ท่านคงใช้จิตครอบกองวัตถุมงคลครับ) องค์นี้แววตาท่านมีรัศมีขอบสีฟ้าใหญ่มาก เหมือนหลวงปู่บุดดา หลวงพ่อเกษม ฯลฯ (เดิมผมคิดว่าเป็นปกติของตาคนแก่ที่จะมี arcus senilis แต่สังเกตไปมาว่าไม่เหมือนกัน สังเกตครูบาอาจารย์หลายสาย จะพบว่า ส่วนใหญ่จะพบในสายที่เอาสมถกรรมฐาน และตามด้วยวิปัสสนา)

 

หลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง

อันนี้เป็นองค์ที่ได้อธิษฐานจิตเบี้ยแก้ด้วย เพราะ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ ที่มีวิชาปรอทของหลวงปู่รอดเสือ วัดประดู่ทรงธรรม


<CENTER></CENTER>
"ปราจีนบุรี" จังหวัดภาคตะวันออกของไทย แดนดินถิ่นกำเนิดพระเถระทรงอภิญญาเป็นที่รู้จักและศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนมาในหลายยุคหลายสมัย ทั้งในด้านกฤติยาคมและการเผยแผ่พุทธธรรมคำสอนแห่งพระพุทธองค์ อาทิ หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อเส็ง วัดประจันต คาม, หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงพ่อดำ วัดกุฎี เป็นต้น

ปัจจุบัน พระสุปฏิปันโน ที่พึ่งทางใจพุทธศาสนิกชนชาวปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ย่อมต้องเอ่ยถึงนาม "พระครูธำรงโพธิเขต" หรือที่รู้จักกันในนาม "หลวงปู่โสฬส ยโสธโร"

หลวงปู่โสฬส เป็นศิษย์ หลวงพ่อจาด, หลวงพ่อเส็ง, หลวงพ่อเอีย พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองปราจีนในยุคก่อน

ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์ ทอง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี สิริอายุ 96 พรรษา 75

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า โสฬส ไชยยันต์ เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2457 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง ที่ ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

ในวัยเด็ก ท่านชอบติดตามมารดาไปเข้าวัดฟังธรรมเป็นอย่างยิ่ง ได้ซึมซับความรู้เกี่ยว กับพระพุทธศาสนามากมาย

ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2477 เวลา 15.05 น. มี พระอธิการตาล เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการวุ้น เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และ พระอธิการศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังครองเพศบรรพชิต ท่านตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศกายถวายชีวิตอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ วัดโคกอู่ทอง ได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2479 สามารถสอบได้ชั้นนักธรรมตรี ณ สำนักเรียนวัดบ้านโง้ง จ.ปราจีนบุรี

ด้วยท่านมีความสนใจในเรื่องพระพุทธศาสนามาแต่เยาว์วัย ทำให้ท่านได้มีบทบาทในการสร้างความเจริญมาสู่วัดโคกอู่ทอง ทั้งในด้านถาวรวัตถุและในด้านจิตใจพุทธศาสนิกชนชาวเมืองปราจีนบุรี

ในด้านถาวรวัตถุนั้น ด้วยบารมีและคุณงามความดีของหลวงปู่ ท่านสามารถรวบรวมศรัทธาจากชาวบ้านทั้งในทางใกล้และทางไกล เพื่อสมทบทุนสร้างวัดโคกอู่ทองให้เจริญรุ่งเรืองมิแตกต่างจากวัดในเมืองที่เจริญ แล้วแต่อย่างใด

ในส่วนของความเจริญทางด้านจิตใจ หลวงปู่โสฬสจัดได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธบริษัทอย่างเหนียวแน่นทั้งใกล้และไกล ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ความช่วยเหลือโดยมิขาดสายจวบจนกระทั่งทุกวันนี้

หากกล่าวถึงภูมิธรรมของหลวงปู่โสฬสแล้ว ท่านมิได้เป็นสองรองใคร

พระเถราจารย์ในยุคเดียวกัน ต่างยอมรับนับถือกันว่าหลวงปู่เป็นผู้คงแก่เรียน แตกฉานในคัมภีรศาสตร์พระพุทธศาสนา ตลอดจนศาสตร์แขนงอื่นๆ เช่น พฤกษศาสตร์ว่าด้วยเรื่องของสมุนไพรบำบัด โหราศาสตร์ ดารา ศาสตร์ อักษรศาสตร์ และวิทยาคม ฯลฯ

เนื่องจากหลวงปู่โสฬส เป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิทยาคมจากอภิญญาจารย์ในอดีตหลายรูป เช่น หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ, พระอาจารย์วัน วัดเขาวงค์ถ้ำพระนารายณ์ และคณาจารย์สายฆราวาสจอมขมังเวท

ด้านพุทธาคม ท่านเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิทยา คมจากพระเกจิดังผู้เรืองนามในอดีต ได้เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อจาดแห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวทผู้เรืองนามในยุคสงครามอินโดจีน แต่เป็นช่วงบั้นปลายอายุขัยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจาดแล้ว จึงได้รับการแนะ นำให้ไปศึกษาวิทยาคมจากพระเกจิผู้เรืองนามในท้องถิ่นย่านนั้นอีกรูปหนึ่ง คือ หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม

ก่อนได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็ง โดยเฉพาะวิชามหายันต์เกราะเพชรที่โด่งดัง เนื่องจากมีใจรักและฝักใฝ่ศึกษาสรรพวิชา นอกเหนือไปจากการพัฒนาด้านการศึกษาและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ท่านยังได้หาโอกาส ไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านกฤติยาคมในยุคนั้นอีกหลายรูป คือ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ศึกษาวิชาปรอทจากหลวงปู่อวน วัดหนองพลับ อ.หนองแซง จ.สระบุรี อีกทั้งยังศึกษาวิทยาคมทางสายอีสานจาก อาจารย์พรหมา อาจารย์หมอธรรมผู้เรืองนามใน จ.นครราชสีมา เป็นต้น

วัตถุมงคลที่หลวงปู่โสฬส จัดสร้างขึ้นล้วนแต่ได้รับความนิยมจากเซียนพระและนักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล

โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกที่ท่านสร้างแจกทหารหาญผู้อาสาสมัครไปปฏิบัติราชการ ณ สงครามเกาหลี ในปีพุทธศักราช 2495 ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโพธิ์ทองและเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง เหรียญรุ่นนี้ได้แจกจ่ายให้ทหารหาญในราชการสงครามเวียด นาม ลาว เขมร และในราชการสงครามปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบตามชายแดน เรียกกันว่า เหรียญ 5 สมรภูมิ มีประสบการณ์มาก มาย เป็นที่เสาะแสวงหาของประชาชนในท้องถิ่นข้างเคียงเป็นอย่างยิ่ง

หลวงปู่โสฬส เป็นพระสุปฏิปันโนที่สมควรแก่การเคารพ ด้วยอายุกาลพรรษาที่มากเกือบร้อยปี ด้วยคุณวุฒิที่เป็นนักการศึกษาพัฒนาส่งเสริมให้ความรู้แก่กุลบุตร เป็นนักการปกครอง กล่าวคือได้ดำรงตำแหน่ง ทางด้านการปกครอง ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาจารย์ และเจ้าคณะตำบลมายาวนาน ตั้งแต่พ.ศ. 2490

หลวงปู่โสฬส มักสอนญาติโยม ว่า "อดีตเหมือนความฝัน ปัจจุบันนี่ความจริง เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้กับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ขอให้หันมาสนใจอย่างยิ่งกับปัจจุบันธรรม ในปัจจุบันขณะเท่านั้นที่เราท่านจะจัด การกับมันได้ ให้มองว่าทุกชีวิตจิตใจล้วนแต่รักสุข เกลียดทุกข์เสมอเหมือนกันด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ตัวเรา เมื่อดังนี้ได้เราจะมีเมตตาแก่กัน ชีวิตจะมีแต่ความสันติ สุขและเจริญรุ่งเรืองสืบไป"

นอกจากนี้ ยังเป็นหัวเรือใหญ่ในการรวบรวมศรัทธาปสาทะในการบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นพระเถราจารย์ที่พระสงฆ์รุ่นหลังนำมาเป็นแบบอย่าง

ชาวบ้านได้ขนานนามท่านว่าพระดีศรีประจันตคาม

 

เป็นกำลังให้คุณหมอครับ สู้ๆครับ

 

เป็นอีกหนึ่งกำลังใจนะครับคุณหมอ

 

สวัสดีครับ คุณฮั้ว เห็นว่าไปทำบุญรูปหล่อหลวงปู่มั่น ที่วัดป่าสันติสามัคคีธรรมมาเพิ่มอีกเป็นร้อยองค์เลยเหรือครับ ?

จากการสัมผัสพลังงานของคณะพี่ รูปหล่อหลวงปู่มั่น ที่ผมถวายมวลสารไปอุด และพุทธาภิเษกเพียงพิธีเดียว ยังประจุได้แรงขนาดนี้ ล็อกเกตและสมเด็จองค์ปฐม ทีผ่านการปลุกเสกมากกว่าเป็นร้อยๆเท่า ........ ก็ต้องรอต่อไปนะครับ

 

ใครที่จองล็อกเกตแล้วไม่เอา กรุณาเอามาคืนผมดีกว่าครับ ผมให้มากกว่าราคาจองเกือบ 2 เท่า จะคืนกี่องค์ก็ได้ ยิ่งเยอะยิ่งดีครับ ผู้หลักผู้ใหญ่มาขอผม ผมยังหาให้ท่านไม่ได้เลย ครูบาอาจารย์ระหว่างการปลุกเสกเอ่ยปากขอผมก็ต้องหาพระอย่างอื่นถวายท่านไป

..................................................................................

เรื่องการดูพลังงานของคุณขวัญพิภพ ตอนแรกว่าจะไม่เล่า เพราะไม่อยากให้กระทู้ออกแนวปาฏิหารย์ จับพลังงาน แต่มีสมาชิกหลายคน ทั้ง pm และโทรศัพท์มาอยากรู้ และบางคนขอเบอร์โทรของคุณขวัญพิภพด้วย ผมไม่ได้ให้ไปนะครับ กรุณาติดต่อกันเอง

ก็จะเล่าข้อเท็จจริงโดยละเอียดดังนี้ คุณขวัญพิภพ สนใจพระแก้วทิ้งทวนของอาจารย์อนันต์ ผมไม่มีแล้ว จึงไปตามหาของผู้ที่บูชาไปมาให้ คุณขวัญพิภพก็โทรมาเรื่อยๆว่าหาได้รึยัง นัดไปรับเองได้หรือไม่ ? ซึ่งผมบอกว่าถ้าไม่สะดวกให้ส่งไปรษณีย์ให้ก็ได้ แต่คุณขวัญพิภพขอมารับด้วยตัวเอง เหตุผลเพิ่งจะทราบเพราะก่อนรับพระ คุณขวัญพิภพ ไม่ได้ใช้กล้องส่องเหมือนคนอื่น แต่ใช้มือยื่นไปข้างหน้าและเพ่งดูพระ บอกผมว่า ต้องเป็นสิ ไม่เช่นนั้นคนอื่นก็มาหลอกเราหมด .......................................................(การดูพลังงานพระแก้วทิ้งทวน คล้ายคลึงกับที่ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่เคยดูมาแล้ว)

ผมก็เฉยๆ (ในใจก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่) คุณขวัญพิภพก็เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า เคยดูสมเด็จวัดระฆัง ของเจ้านาย ที่ซื้อมาหลักสิบล้าน ก็เห็นเหมือนวัง ที่ไม่มีองค์จักรพรรดิอาศัยอยู่ ไม่ทราบว่าสมเด็จโต ท่านอธิษฐานอะไรไว้ จักรพรรดิในพระถึงหายไป ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับความจงรักภักดีหรือพุทธพาณิชย์หรือเปล่า ?

 

คุณขวัญพิภพก็เล่าต่อว่า คนเก่งกว่าพี่ก็มีอีกหลายคน อย่างบางคน ดูพระของหลวงปู่... แล้วทราบว่า พระที่ร่วมปลุกเสกพระองค์นี้ รูปหนึ่งเมื่อมรณภาพแล้วได้ไปเกิดเป็นเปรต เค้ารู้กันขนาดนั้นเชียว

(ในใจผมก็เออ....จริงหรือว่ะเนี่ย)

เค้าก็เล่าต่อว่า เสียดายหลวงปู่ละมัย ท่านบอกพี่ว่า ท่านจะอยู่อีก 6 ปี (ผมก็เอ๊ะ เชื่อเพราะ คุณ farren ไปกราบหลวงปู่แล้วหลวงปู่บอกว่า สังขารท่านจะอยู่อีก 6 ปี) แต่ช่วงบั้นปลาย พลังหลวงปู่เหลือน้อย เพราะท่านต้องรับอะไรหลายเรื่อง พี่เป็นคนเอาปรอทไปถวายท่านเป็นประจำ

และเล่าว่า ที่เช็คดูว่าแรงก็เป็นประมาณ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะเขาเฒ่า หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุนนาค นี่ท่านเป็น 1 ใน 10000 นะ พลังสะเทือนมากๆ

ไหนๆ พี่เค้าก็เล่ามาขนาดนี้แล้ว ต้องมาพิสูจน์กันหน่อยว่า สัมผัสพลังงานได้แม่นยำจริงหรือเปล่า ผมได้ไปเตรียมพระ ดังต่อไปนี้ มา ให้เป็นรูปพระพุทธเหมือนกันหมด ป้องกัน selection bias และเลือกที่ไม่มีตัวหนังสือเขียนว่า เป็นพระของหลวงปู่อะไร ปีอะไร
และทำการ blinding ไม่ให้ดูพระก่อน

 

พระที่เตรียมมามีดังต่อไปนี้

1.ล็อกเกตพระแก้วมรกตฉากเขียว (ที่ใช้ฉากเขียว เพระด้านหลังมีปิดตานะมิหลวงปู่สี และผ้าคลุมสรีระ 10 ปี อยากรู้ว่าสะเทือนจริงหรือเปล่า และเห็นหลวงปู่สีมั๊ย หรือเป็นครูบาอาจารย์องค์ไหน)

2. เหรียญ...............(หลวงปู่แหวน หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่ดู่ ครูบาพรหมา หลวงพ่อชา ครูบาวัดดอนตัน และเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลายสิบครั้ง)

3. เหรียญ............. (หลวงปู่ดูลย์ หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่โต๊ะ อย่างละ 1 ไตรมาส หลวงปู่อ่อน หลวงปู่สาม หลวงปู่ขาว หลวงพ่อจวน หนองสุ่ม หลวงปู่ชอบ หลวงปู่บุดดา ครูบาคำแสน สมเด็จพระสังฆราช หลวงปู่สิม รวมมากกว่า 108 รูป พุทธาภิเษก 6 ปี)

4. เหรียญพระบาท หลวงปูบุญ วัดกลางบางแก้ว