{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

สวัสดีครับ อาจารย์ Stoes ผมเห็นอาจารย์ตื่นเช้าแทบทุกวันเหมือนกันครับ
ขอบพระคุณที่อาจารย์นำภาพดีๆ มีแบ่งให้พวกเราได้ชมกันครับ
ภาพที่ผมลงในกระทู้มักเป็นภาพพระของผมเอง ซึ่งมาจำนวนไม่มากครับ
จะนำภาพพระของคนอื่นมาลงก็เกรงใจเขา เพราะไม่ใช่คนรู้จักกัน

ผมรู้จักหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ครั้งแรก เพราะอยากได้พระสีวลี
ก็เลยไปหาหนังสือพระกริ่ง รูปหล่อเก่าๆ มาดู แล้วก็ได้ศึกษาประวัติของท่าน
เห็นว่าพระสีวลีของท่านเป็นพระหล่อโบราณ มีอยู่หลายพิมพ์ก็เลนสนใจครับ

 

พุทธคุณของวัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างและปลุกเสก

พุทธคุณของวัตถุมงคลที่หลวงพ่อแฉ่งสร้างและปลุกเสก

เล่ากันว่าท่านสำเร็จวิชานะปัดตลอด วัตถุมงคลของท่าน
จึงมีประสบการณ์โจษขานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
โดดเด่นทั้งด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ
ด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภก็ไม่เป็นรองใคร
นอกจากนี้ยังใช้เป็นพระหมอแบบ ลพ.ปาน วัดบางนมโค ได้อีกด้วย<O

จำนวนจัดสร้าง วัตถุมงคลสร้างขึ้นมีจำนวนเท่าไร
ไม่มีใครทราบ เพราะมิได้มีการจดบันทึกไว้อย่างชัดเจน
เป็นการทยอยสร้างทยอยปลุกเสก พอสร้างได้จำนวนมากพอสมควร
ท่านก็จะทำพิธีปลุกเสกสักครั้งหนึ่ง เป็นการปลุกเสกเดี่ยว
จากนั้นจึงนำมาแจกเสียคราวหนึ่ง
(นี่อาจเป็นเหตุให้ราคาวัตถุมงคลของท่านยังไม่สูงเท่าที่ควร)
โดยวัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้น แจกฟรี ไม่มีการให้เช่าบูชา

 

พระสีวลี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี

พระสีวลี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี
พระสีวลีเป็นพระเถระ ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นพระอรหันต์ที่เลิศทางลาภสักการะมาก
หากผู้ใดมีพระสีวลีไว้บูชา ประจำบ้านเรือน จะนำโชคลาภ และเจริญด้วยโภคทรัพย์<O</O
พระสีวลี (พระฉิมพลี) องค์ขนาดใหญ่มีการสร้างประดิษฐานไว้ตามวัดต่าง ๆ
ทั่วประเทศส่วนพระเครื่องพระบูชานั้นมีพระคณาจารย์สร้างออกมาไม่มากนัก
เช่น หลวงพ่อแฉ่งวัดบางพัง หลวงปู่นาค วัดระฆัง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นต้น


พระสีวลี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง องค์นี้
เป็นพระหล่อโบราณครับ เน้นพุทธคุณด้านเมตตาและโชคลาภ
ไปขอแบ่งมาจากเซียนพระรุ่นเก่าท่านหนึ่งซึ่งชำนาญด้านพระกริ่งและรูปหล่อ
ตอนนั้นท่านมีอยู่สามองค์ ผมเลือกองค์นี้มา <O</O
ต้องขออภัยที่ภาพอาจไม่ชัดเจนนัก
เนื่องจากไปเลื่อมก่อนถ่ายรูป เพราะทำตั้งแต่ตอนได้มาครับ



คาถาบูชาพระสีวลี<O</O
สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา<O</O
สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา<O</O
สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ

 

ประวัติ พระสีวลีเถระ เอตทัคคะในทางโชคลาภ

ประวัติ พระสีวลีเถระ เอตทัคคะในทางโชคลาภ
พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร
ตั้งแต่ท่านจุติลงถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก
เนื่องจาก ในอดีตชาติพระสีวลีท่านเคยถวายน้ำผึ้งแด่พระวิปัสลีพุทธเจ้า พระปทุมุตตระบรมศาสดา
จึงทรงพยากรณ์ว่าความปรารถนาของท่านนี้จะสำเร็จในกัปที่แสนแต่กัปนี้ไป
ท่านจะบังเกิดในนาม สีวลี ได้บวชในสำนักของพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่าโคตมะ
ซึ่งสมภพในวงศ์ของพระโอกกากราช

ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์ของพระมารดา นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน
ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระมารดาได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า
พระนางจึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดา
และพระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า:-

“ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข
ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”

ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานไป
พระนางประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระประยูรญาติทั้งหลาย
ได้ขนานพระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสาว่า “สีวลีกุมาร”
<O
เมื่อพระนางมีพระวรกายแข็งแรงดีแล้ว มีพระประสงค์ที่จะถวายมหาทาน
ติดต่อกันเป็นเวลา ๗ วัน จึงจึงความประสงค์แก่พระสวามีให้กราบทูลอาราธนา
พระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ มารับมหาทานอาหารบิณฑบาตในพระราชนิเวสน์
ตลอด ๗ วัน ในวันถวายมหาทานนั้น สีวลีกุมาร มีพระวรกายเข้มแข็งดุจกุมารผู้มีพระชนม์ ๗ พรรษา
ได้ช่วยพระบิดาและพระมารดาจัดแจงกิจต่าง ๆ มีการนำธมกรก
(ธะมะกะหรก = กระบอกกรองน้ำ) มากรองน้ำดื่มและ
อังคาสพระบรมศาสดาและหมู่พระภิกษุสงฆ์ <O</O

ในขณะที่สีวลีกุมาร ช่วยพระบิดาและพระมารดาอยู่นั้น
ท่านพระสารีบุตรเถระได้สังเกตดูอยู่ตลอดเวลา และเกิดความรู้สึกพอใจ
ในพระราชกุมารน้อยเป็นอย่างมาก ครั้นถึงวันที่ ๗ ซึ่งเป็นวันสุดท้าย
พระเถระได้สนทนากับสีวลีกุมารแล้วชักชวนให้มาบวช สีวลีกุมาร
ผู้มีจิตน้อมไปในการบวชอยู่แล้ว เมื่อพระเถระชักชวน จึงกราบทูลขออนุญาต
จากพระบิดาและพระมารดา เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงติดตามพระเถระไปยังพระอาราม
พระสารีบุตรเถระ ผู้รับภาระเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้สอนพระกรรมฐานเบื้องต้น
คือ ตจปัญจกกรรมฐานทั้ง ๕ ได้แก่ เกสา(ผม) โลมา(ขน) นขา(เล็บ) ทันตา(ฟัน)
ตโจ (หนัง) ให้พิจารณาของทั้ง ๕ เหล่านี้ว่าเป็นของไม่งานเป็นของสกปรก
ไม่ควรเข้าไปยึดติดหลงใหลในสิ่งเหล่านี้ <O

สีวลีกุมาร ได้สดับพระกรรมฐานนั้นแล้วนำไปพิจารณาในขณะที่กำลังจรดมีดโกน
เพื่อโกนผม ครั้งแรกนั้นท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน <O</O
จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๒ ท่านได้บรรลุเป็นพระสกทาคามี <O
จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๓ ท่านได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

เมื่อท่านอุปสมบทแล้วปรากฏว่าท่านเป็นพุทธสาวกที่มีลาภสักการะมากมาย
ด้วยอำนาจบุญบารมีของท่านที่สั่งสมมา ลาภสักการะเหล่านี้
ได้เผื่อแผ่ไปยังพระสงฆ์สาวกท่านอื่น ๆ ด้วย แม้พระบรมศาสดาเมื่อทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์
เสด็จทางไกลกันดาร ถ้ามี พระสีวลี ร่วมเดินทางไปด้วย ความขาดแคลนอาหาร
และที่พักอาศัยในระหว่างทางก็จะไม่เกิดขึ้นแก่หมู่ภิกษุสงฆ์เลย เช่น....

สมัยหนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จำนวน ๕๐๐ รูป
ไปเยี่ยมพระเรวตะผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตรเถระ ซึ่งจำพรรษาอยู่
ณ ป่าไม้ตะเคียน เมื่อเสด็จมาถึงทาง ๒ แพร่ง พระอานนท์เถระได้กราบทูลสภาพหนทางว่า.....

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเสด็จไปทางอ้อม ระยะทางไกล ๖๐ โยชน์
มีประชาชนอยู่อาศัยมาก พระภิกษุไม่ลำบากด้วยภิกขาจาร
แต่ถ้าเสด็จไปทางลัดระยะทางประมาณ ๓๐ โยชน์ ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย
มีสภาพเป็นป่าใหญ่ มีแต่อมนุษย์อยู่อาศัย พระภิกษุสงฆ์จะลำบากด้วยภิกขาจาร”

พระพุทธองค์ ตรัสถามว่า:-
“ดูก่อนอานนท์ พระสีวลีมากับเราด้วยหรือไม่?”<O
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเสวลีมากับเราด้วย พระเจ้าข้า”

พระพุทธองค์ ตรัสว่า:-
“ดูก่อนอานนท์ ถ้าอย่างนั้นก็จงไปทางลัด ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลด้วยอาหาร
บิณฑบาต เพราะเทวดาทั้งหลายที่สิงสถิตอยู่ในป่าระหว่างทาง จะจัดสถานที่พัก
และอาหารบิณฑบาตไว้ถวายพระสีวลีผู้เป็นที่เคารพนับถือของพวกตน
เราทั้งหลายก็จะได้อาศัยบุญของพระสีวลี นั้นด้วย”<O</O

ด้วยอำนาจบุญที่ท่านพระสีวลี ได้บำเพ็ญสั่งสมอบรมมาตั้งแต่อดีตชาติ
เป็นปัจจัยส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ โดยมีเทพยาดา นาค ครุฑ
และมนุษย์ทั้งหลาย นำมาถวายโดยมิขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในที่ใด ๆ
ในป่า ในบ้าน ในน้ำ หรือบนบก เป็นต้น<O</O

ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่อง
ท่านในตำแหน่ง เอคทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง ผู้มีลาภมาก
นับว่าท่านพระสีวลีเถระเป็นพระมหาสาวกอีกรูปหนึ่งที่ได้ช่วยกิจการ
พระศาสนา แบ่งเบาภาระของพระบรมศาสดาเป็นอย่างมาก ท่านดำรงอายุสังขารโ
ดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

 

คาถามหาลาภ (หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี)

คาถามหาลาภ(หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี)
น ชาลีติ ปะสิทธิลาภา ปะสันนะ จิตตา สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ
สัพเพ ชะนา พะหูชะนา สัพเพ ทิสา สะมาคะตา
กาละโภชะนา วิกาละโภชะนา อาคัจฉันติ ปิยัง มะมะ

 

พระขุนแผน พระเครื่องของลูกผู้ชายครับ

พระขุนแผน ชื่อนี้เป็นพระในใจลูกผู้ชายส่วนใหญ่อยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นพระกรุ (วัดบ้านกร่าง, วัดใหญ่ชัยมงคล) <O</O
หรือพระที่เกจิอาจารย์สร้าง (ลป.ทิม วัดละหารไร่, ลพ. โหน่ง วัดคลองมะดัน) <O</O
ก็มักจะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เพราะเชื่อว่าจะมีพุทธคุณเหมือนพระเอก<O</O
เรื่องขุนช้างขุนแผนในด้านคงกระพันชาตรี มหานิยม <O</O

 

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี
เป็นพระกรุเนื้อดินยอดนิยมกรุหนึ่งของประเทศไทย
แม้ไม่ใช้พระขุนแผนที่มีราคาสูงที่สุด คือ ไม่แพงเท่าขุนแผนเคลือบ
กรุวัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา ที่สร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
และปลุกเสกโดยสมเด็จพระพันรัต วัดป่าแก้ว
แต่กลับเป็นพระขุนแผน ประเภทพระกรุ ที่มีคนรู้จักมากที่สุด
เป็นพระที่สร้างชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัดสุพรรณ
เคียงคู่กับพระผงสุพรรณ และพระมเหศวร

ขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สันนิษฐานว่าสร้าง
โดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ราว พ.ศ. ๒๔๓๗
และปลุกเสกโดยมหาเถรคันฉ่อง ในวาระที่จะไปชนช้าง
กับพระมหาอุปราช เพื่อแจกทหาร เมื่อชนะศึกเชื่อกันว่า
คนรุ่นเก่าไม่นิยมนำพระกลับบ้าน จึงสร้างเจดีย์บรรจุพระเครื่อง
ทั้งหมดเอาไว้เป็นอนุสรณ์ในศึกครั้งดังกล่าวและเป็นพุทธบูชา

ที่สันนิษฐานเช่นนี้ เนื่องจากขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง
มีพิมพ์พระบางพิมพ์ที่เป็นพิมพ์เดียวกับกรุวัดใหญ่ของอยุธยา
ที่สร้างเพื่อฉลองชัยชนะ (พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่, พิมพ์แขนอ่อน)
แตกต่างกันที่เนื้อของขุนแผนบ้านกร่างจะค่อนข้างหยาบกว่ามาก
ซึ่งอาจเป็นเพราะเป็นการสร้างอย่างเร่งรีบ ในยามศึกสงคราม
เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่เหล่าทหาร จึงมิได้กรองดิน
โดยประณีต กรณีพระที่ผิวดี เดิมมากๆ อาจเรียบเนียน
แต่หากใช้สึก เนื้อก็จะหยาบเช่นเดียวกัน

 

ลักษณะทั่วไปของพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง เนื้อดินจะหยาบ หาพระสวยได้ยาก
พระส่วนใหญ่มีสภาพเสียผิว แม้เป็นพระที่สภาพผิวสวยสมบูรณ์
ไม่เคยใช้เลย หากพิจารณาส่วนที่มีผิวเปิดแม้แต้น้อย ก็จะเห็นว่า
เนื้อหาภายในก็เป็นเนื้อหยาบเช่นเดียว


พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง ทุกองค์จะปรากฏว่านดอกมะขาม
เป็นคล้ายกรวดเล็กๆ สีแดงเข้มหรือเลือดหมูในเนื้อพระ
และปรากฏรอยว่านหลุด เหมือนเศษหญ้าที่ถูกเผาแล้วหลุดไปจากองค์พระ
มีลักษณะสันฐานไม่แน่นอนปรากฏอยู่ทั่วไป มีทรายเงินทรายทองบนผิวพระ
(มีให้เห็นไม่มาก ต้องส่องกับแสงสว่าง บางองค์อาจหาไม่พบ)
ขอบข้างของพระจะเป็นรอยตอกตัด หลังพระจะถูกตบด้วยด้วยไม้
เพื่อให้พระติดพิมพ์ชัดเจน หลังจึงเป็นรอยกาบหมาก
บางองค์ตบมากกว่าหนึ่งครั้งก็จะเห็นเป็นสองรอย

 

*************************
เมื่อมีข้อมูลดีๆแล้วก็ขอแจมรูปตามไปเลยครับ

 

ขอบพระคุณ น้าต๋อยอย่างยิ่ง ที่กรุณานำภาพพระขุนแผนมาโพสต์ให้ครับ
;aa40thx1;38thaxx

น้าต๋อยของเรามีอยู่หลายพิมพ์ทีเดียวครับ
ตอนแรก อยากได้ทรงพลใหญ่อยู่เหมือนกันครับ
แต่ตอนหลังรู้สึกว่าขนาดค่อนข้างใหญ่
คิดถึงบางครั้งที่อยากแขวนหลายองค์
ก็เลยว่าจะหา ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ หรือพระประธานสักองค์
แต่ยังไม่เจอที่ถูกใจเลยครับ

 

พุทธคุณของพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี
เป็นพระที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และมีพุทธคุณสูงยิ่ง
เนื่องจากสร้างโดยกษัตริย์ที่เป็นวีรบุรุษในใจของคนไทยทุกคน
ปลุกเสกโดยพระเถระที่มีอาคมเข้มขลัง และมีพิมพ์พระให้เลือกหลากหลาย
ในราคาที่ทุกคนยังสามารถเป็นเจ้าของได้ ตั้งแต่หลักพันปลายไปจนถึงหลักล้าน
(พรายคู่หักเดี่ยวสภาพพอใช้ไปจนถึงพิมพ์นิยมสภาพสวยๆ)
สมควรที่ผู้นิยมสะสมพระเครื่องน่าจะหาไว้สักองค์หนึ่งครับ<O</O

พุทธคุณของพระกรุนี้ เชื่อกันว่า แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเจตนาในการสร้างพระยุคเก่ายามศึกสงคราม
ผู้สร้างและปลุกเสกน่าจะเน้นแคล้วคลาด คงกระพันเป็นหลัก
แต่ผู้นำไปใช้จำนวนมากได้รับประสบการณ์ในทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ด้วย<O</O

 

พระขุนแผน พลายเดี่ยว พิมพ์ใบมะยม กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี ที่ลงในกระทู้นี้
เป็นพระที่เคยนำลงกระทู้ "เชิญร่วมอนุรักษ์พระกรุ" ที่ผมตั้งขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว
เพื่อให้ผู้ที่สนใจและไม่ได้เข้าชมกระทู้ดังกล่าว ได้ศึกษาเปรียบเทียบ
ผมจึงขอนำภาพพระชุดนี้มาลงอีกครั้งหนึ่ง
พระขุนแผนของผมทุกองค์ที่โพสต์ในกระทู้ เป็นพระแท้แน่นอน
ผ่านการประกวดติดรางวัลที่หนึ่ง ทั้งที่พันธุ์ทิพย์และกรมราชองครักษ์มาแล้วทั้งสิ้น
จึงน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง ไม่มากก็น้อยครับ

พระขุนแผน พลายเดี่ยว พิมพ์ใบมะยม กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี
องค์นี้เป็นใบมะยมพิมพ์ตื้นครับ แต่ผิวค่อนข้างจะดีมาก

 

ผมมี 2 องค์ครับ แท้ เก๊ อย่างไร ซัดได้เต็มที่ครับ ด้วยความเคารพ

 

พระขุนแผน พลายเดี่ยว พิมพ์ใบพุทรา กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี

พระขุนแผน พลายเดี่ยว พิมพ์ใบพุทรา กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี
องค์นี้เนื้อจัดมากครับ สีเขียวมอย (เทา) ต่างจากองค์แรก
ให้พิจารณาเปรียบเทียบครับ



แชมป์ทุกสนามครับ

 

องค์แรกคล้ายพระขุนแผนกรุวัดพระรูป
แต่ผมไม่เคยศึกษารายละเอียด ไว้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม
จะแจ้งให้ทราบครับ
ส่วนองค์ที่สอง ผมยังไม่เคยเห็นเลย
ขอรอผู้รู้ท่านอื่น น่าจะดีกว่าครับ

 

ขอเรียนตามตรงว่า ผมไม่มีข้อมูลพระกรุดังกล่าวเลย
จึงไม่กล้าออกความเห็นครับ
สำหรับขุนแผนเคลือบ กรุใหญ่ก็เคยอ่านหนังสือบ้าง
แต่ก็ไม่เคยศึกษาอย่างจริงจัง เพราะไม่คิดจะสะสม
ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ แต่รู้ว่าเอื้อมไม่ถึงท่านจริงๆ
ผมเคยเห็นขุนแผนเคลือบ ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ของแท้ๆแล้วครับ
เป็นของเซียนใหญ่ที่รู้จักกันดี เขากรุณานำมาให้ดู
ผมก็บอกว่าเช่าไม่ไหวหรอก เขาก็บอกว่าไม่ได้ให้เช่า
แต่ให้ดูเป็นความรู้ เลยได้ดู จำได้ว่าองค์นั้นมีรอยบิ่นที่ซุ้ม
พอดูเสร็จก็เลยถามราคา เขาบอกว่าล้านสองแสนครับ
ก็เลยแน่ใจว่า ขุนแผนเคลือบ ยังไม่ใช่ของเราอย่างแน่นอน

 

สำหรับผู้ที่เลื่อมใส ศรัทธา หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
ผมว่าเหรียญแม่ทัพ เป็นเหรียญหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ครับ
เพราะราคายังไม่สูงเกินไป ประวัติการสร้างชัดเจน
ทันหลวงพ่อแดงปลุกเสกอย่างแน่นอน
แปลกที่ค่านิยมของนักสะสมกลับจำกัด
อยู่เพียงเหรียญรุ่นแรกเป็นหลัก
ผมยังเคยคิดจะหาเหรียญแม่ทัพของหลวงพ่อแดง
แต่ยังไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจังครับ ก็เลยยังไม่มีกับเขาสักเหรียญ

 

สำหรับผมแล้ว เหรียญของหลวงพ่อพรหมที่มีรูปแบบถูกใจผมที่สุด
(good)(good)(good)(good)(good)(good)
ก็เหรียญแจกทานนี่แหละครับ สวย กระทัดรัด จัดเข้าชุดเล็กก็สวย
ผู้หญิงใส่ก็กำลังดี แต่ราคาไม่ได้เล็กไปด้วยเนี่ยสิครับ
จึงได้แต่ชมของคนอื่นไปก่อน พิมพ์สังฆาฏิยาวจะมีค่านิยมสูงกว่าครับ

 

ธรรมชาติด้านหลังของพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง

ธรรมชาติด้านหลังของพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง
เพื่อเป็นตัวอย่างในการพิจารณาครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลและ คาถาครับ
ผมมีพระสีวะลีของหลวงพ่ออยู่องค์ครับลองดูครับ