ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

สวัสดีครับ คุณหมอสุวิ ที่เคารพรักครับ ผมได้รับยาที่คุณหมอส่งมาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ผมต้องขอโทษครับที่ยังไม่ได้โอนค่ายาให้ครับ ผมดันช็อดเงินมากครับเงินงวดงานยังไม่ออกเลยครับ
(อยากอ่าน เรื่องธรณีสาร ต่อครับ มีวิธีป้องกัน และแก้ไขไมครับ)
กราบขอบพระคุณครับ

 

มะเขือพวง ควรต้ม กี่ชั่วโมงดีครับ

 

ไม่ได้ กำหนด เป็น ชั่วโมง ครับ

ใช้ มะเขือ สัก หนึ่ง ถ้วยชามใหญ่ๆ
ใส่น้ำ ให้ท่วม ต้มจน
เดือด สักครู่ นำน้ำมาดื่ม กิน แบบ กินน้ำชา กินได้ ทั้งวัน

ให้ ทำซ้ำๆ อย่างนี้ เป็นประจำ
สัก สัปดาห์ สองสัปดาห์ ก็ จะเห็นผล
ดี เป็นลำดับ ๆ

 

สวัสดีปีใหม่ 2555 ครับอาจารย์สุวิ และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

 

อ.สุวิ สวัสดีปีใหม่ 2555 ค่ะ catt15

 

ในรูปชื่อผักมิครับ เขาว่าบำรุงสมองดี ขอเรียนถามว่าดีกว่าแปะก่วย และใบบัวบกมั๊ยครับ
และใช้แทนกันได้มั๊ย

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณลุงสุวิ

 

สวัดดีปีใหม่ทุกๆท่านครับ

สดชื่น สมหวังกันทุกคน

 

ใบแป๊ะก้วย ขยายเส้นโลหิตในสมองก็จริงอยู่
แต่มีข้อเสียลึกๆ หากกินนานเกิน และกินมากเกิน จะทำให้เส้นเลือดเปราะ ปริซึมได้ง่าย

แต่ใบบัวบก และกระชายเหลืองกินคู่กัน ก็ช่วยขยายเส้นโลหิตในสมอง และยังทำให้เส้นเลือดยืดหยุ่นดี แถมปึ๋งปั๋งอีกตากหาก
หญิงกินได้ ชายกินดี อยู่กันยืด

ภาพที่นำมาให้ดู เรียกเต็มยศว่า ต้น พรมมิ (มีหลายต้น รูปร่างแตกต่างกันเล็กน้อย-ชาวบ้านทั่วไปเรียกรวมๆกันว่า ผักมิ)

สรรพคุณทางยาของพรมมิ เหมือนกับใบบัวบก+กระชายเหลือง ขยายเส้นเลือดฝอย เพิ่มความเหนียวนุ่มให้เส้นเลือด
โดยเฉพาะเส้นเลือดฝอยในสมอง
แต่ไม่ค่อยเด่นทางปึ๋งปั๋งสักเท่าใด

สรุป
ใบ/ต้น พรมมิ ดีกว่า ใบบัวบก และใบแป๊ะก้วยแน่นอนครับ

เคยเดินหาเอามาทำยา หาจำนวนมากๆไม่ได้เลย เก็บได้ไม่มาก และขึ้นอยู่ในชายน้ำ ที่ค่อนข้างสกปก
มันดีกว่าก็จริง แต่จากข้อจำกัดข้างต้น ยาของหมอสุวิ จึงเลี่ยง ไม่ทำจากสมุนไพรตัวนี้

หากใครปลูกไว้ มีความสะอาดดี เก็บตากแห้งไว้ จำนวนมากพอ ใช้ทำยาได้
บอกมานะ จะได้ปรุงยา

 

ใบบัวบกกับกระชายเหลืองเอามากินด้วยกันเฉยๆเป็นอาหารหรือเปล่าครับ หรือต้องมีขนาดสัดส่วนในการกินครับ อาจารย์

 

มีผู้ถามหมอสุวิในอีกกระทู้
จึงขอรวมมาไว้ในกระทู้นี้

ว่านต้นนี้ เขาว่ากันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ
แต่หมอสุวิ ไม่ถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะ เป็นเพราะ
ยาอายุวัฒนะนี่ ต้องกินติดต่อกันได้ทุกวัน กินได้เป็นปีๆโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

ผลของว่านขันหมาก มีพิษอยู่(ทำให้ตับร้อน) แต่ร่างกายสามารถขับพิษนี้ได้โดยธรรมชาติทางอุจาระ ปัสสาวะและเหงื่อ (ระบบไตต้องไม่มีปัญหา)
ผลของตับร้อนนี้ ในช่วงแรกๆ ก่อประโยชน์ให้ร่างกายทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ขับไขมันที่พอกตับ ไขมันในเลือดและหลอดเลือด
แก้เล้นเลือดตีบจากไขมันได้ ฯลฯ

ภาวะตับร้อนนี้ มีสองภาวะ คือร้อนชื้น และร้อนแห้ง
ตับร้อนชื้น จะเกิดมีของเสียสะสมในตัวมาก น้ำเหลืองเสีย ผื่นคันน้ำเหลืองไหล
ตับร้อน(แห้ง) จะเกิดการเผาอวัยวะภายในให้แห้ง เกิดภาวะขาดธาตุน้ำ ร้อนใน คันแห้งตามผิวหนัง

อย่างไรก็ดีผลของการกินว่านขันหมาก ในช่วงแรกๆนี่ เป็นผลดีต่อร่างกาย
แต่หากกินติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ก็อาจเกิดภาวะ ตับร้อนแห้งได้ง่าย
จึงแนะนำให้กินยาในช่วงหลังๆ กินบ้างหยุดบ้าง และกินน้ำมากๆ

แต่หากมีผู้รู้ผสมยาเย็นที่ทีธาตุน้ำเข้าไปเสริมสักหน่อย ยาว่านขันหมากตัวนี้นับว่าเป็นยาที่เลิศตัวหนึ่งทีเดียว

ยังมียาอายุวัฒนะดั่งเดิมแต่โบราณของไทยตัวหนึ่ง (สูตร ทิ้งท่อง ตะโกนา บอระเพ็ด เม็ดข่อย แห้วหมู พริกไทยดำ)
เมื่อกินมากพอและกินติดต่อกันนานๆ ก็มีอาการตับร้อนแห้งเช่นกัน (แต่น้อยกว่า)

ในทัศนะของหมอแผนไทยที่พอคุยกับกัยยารู้เรื่องบ้าง
อยากแนะนำให้ใช้ยา สูตร ทิ้งท่อง ตะโกนา ฯลฯ กินเป็นยาอายุวัฒนะมากกว่า
คือว่า มันประหยัดเงินดีนะ สรรพคุณก็พอๆกัน(บางอย่างดีกว่าด้วย)

หมอสุวิ ได้ผสมยาไว้ตัวหนึ่งปรับจากสูตรเดิมเป็น
ทิ้งท่อง ตะโกนา บอระเพ็ด เมล็ดข่อย แห้วหมู พริกไทยดำ บัวบก กระชายเหลือง โปรงฟ้า
และตั้งชื่อยาตัวนี้ว่า "ยาอายุวัฒนะพระนาราย์ทรงจักร์"

ส่วนสูตรดั้งเดิม หมอสุวิตั้งชื่อว่า "ยาอายุวัฒนะพระนารายณ์" เพราะสูตรยานี้
สืบทอดมาตั้งแต่อยุทธยาสมัยพระนารายณ์มหาราชโนน่

 

อย่างน้อยสุด ต้องมีพริกไทยอีกตัวครับ
บัวบก กระชายเหลือง พริกไทยดำ

สามตัวนี้รวมกันจะบำรุงสมองบำรุงกำหนัดครับ(ลดไขมันในเลือดด้วยอย่างช้าๆ)

วิธีกิน
ตากแห้งบดผง ผสมน้ำผึ้ง ปั้นลูกกลอนครับ
ขนาดเท่าเมล็ดในพุดทราไทย กินครั้งละ ๑-๒ เม็ด วันละ ๑-๒ ครั้ง เช้า ก่อนนอน

 

ถึงอ.สุวิ

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความรู้พวกเราเสมอ

 

ขอบคุณมากครับอาจารย์ครับ:d

 

กำลังเปิดเรียน/สอน คร้อสพเศษ สำหรับภาคจิตวิญญานอยู่
เชิญมาเรียนที่บ้านหมอได้

อ้อ .... กายมนุษย์ไม่ต้องมานะ ยังไม่สอนกายมนุษย์

 

อ.สุวิ เปิดโรงเรียนสอน แล้ว.....

แล้ว จะสอนตอนกี่โมง ละครับ

นักเรียน จะได้ ไปได้ตรงเวลา

แต่ ตอนค่ำๆ หน้าบ้าน อ. มืดไปหน่อย ช่วยเปิดไฟด้วย ครับ

ยืนรอนาน เดี๋ยวยุงกัด....55​

 

อิอิ...เป็น โรงเรียน กินนอนจ้า สอนทั้งวันทั้งคืน ไม่มีพัก
คร้อสนี้ มี สองร้อยกว่าๆ เกือบสามร้อย แล้วเนอะ

มีจัดเลี้ยง "มณีปัทเมศวรน" วันละ ๒ เวลา ๙.๐๐ น และ ๒๑.๐๐น โดยประมาณ

คิดให้ดีนะ ถ้ามาเข้าคร้อส เรียนไม่สำเร็จห้ามกลับด้วย
ลำลาคนทางบ้านให้ดีนะ เมื่อไม่ได้กลับ เขาจะได้ทำใจ ไม่ต้องรอ
ตัวใครตัวเผือกวุ้ย

 

อยากเรียนถามอ.suwi ว่าแหนแดงมีคุณสมบัติในทางสมุนไพรอะไรบ้างครับ แล้วถ้าจะมาทำเป็นอาหารของมนุษย์จะทานได้ไหม(หมายถึงว่าถ้าทานได้จะมีอันตรายไหมถ้าทานเข้าไปเยอะและบ่อยๆ)

ตอนนี้ผมกำลังเลี้ยงอยู่ครับ พอดีเจอแหนแดงลอยตามน้ำมาตอนน้ำท่วมไม่กี่ต้น ตอนนี้เลี้ยงจนแน่นเต็มอ่างแล้ว แหนแดงนี่เป็นอาหารสัตว์พวกปลา หอย เป็ด ไก่ ได้ดี ทำเป็นปุ๋ยพืชสดได้ ขยายพันธุ์ได้เร็วมาก 4-5 วันก็จะเพิ่มปริมาณได้เป็นเท่าตัว ก็เลยคิดว่าถ้าสัตว์ทานได้ อาจเป็นแหล่งอาหารยามฉุกเฉินของมนุษย์ได้ ข้างในใบของแหนแดงสอดไส้สาหร่าย Anabenae ซึ่งเป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่ช่วยตรึงไนโตรเจนให้แหนแดงใช้ในการเติบโตได้ มีการวิเคราะห์ว่าแหนแดงมีโปรตีน ไขมัน เซลลูโลส และแร่ธาตุต่างๆหลายชนิด เลยนะครับ

แต่ผมก็พยายามค้นดูว่ามีใครเอาแหนแดงไปทำอาหารทานกันบ้างไหม ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครทานกันเลย คิดเล่นๆว่าถ้าทานได้แบบผักชนิดหนึ่ง อาจทำเป็นเมนู ยำแหนแดง แหนแดงทอดไข่ แหนแดงจิ้มน้ำพริก เป็นต้น คิดไว้เผื่อเป็นเมนูยามมีภัยพิบัติ ^^"

ขอบพระคุณมากครับ

แหนแดง | ปุ๋ยพืชสดในนาข้าว | ข่าว ข้าว

 

ไอเดีย ดี ครับ
แต่ ทางปฏิบัติ ... ลองดู ครับ
แต่ รสชาด มัน ไม่ค่อยน่ากิน เท่าไหร่ มั้ง

ลองชิม ดู แล้ว หาทางทำ เมนูแหนแดง
ว่าจะทำ อย่างไร ถึงจะกินมันได้......55


.....
ไหน ไหน เปิดประเด็น เรื่องนี้ มาแล้ว ก้อ
ให้ อีกหนึ่งเมนู ที่ เป็นไปได้ ง่ายกว่า

ผักตบ ชวา ครับ
อัน นี้ น่าจะ ทำเป็นอาหารได้ง่ายกว่า มัง ครับ​

 

ู^^ ผมว่าผักตบชวาน่าจะทานยากกว่านะครับ คิดดูแล้วคงเหมือนทานฟองน้ำเลย อิอิ แหนแดงที่ผมเลี้ยงในอ่างที่มีเลนและปุ๋ยคอก พอช้อนออกมาแล้วมีตัวอะไรไม่ทราบคล้ายหนอนตัวเล็กๆสีแดงๆติดมาด้วย ถ้าจะทานเมนูแหนแดงคงต้องลวกก่อนเดี๋ยวมีของแถมติดมา