เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

หยุด คือ จุดเริ่มต้นแห่งสติ

 

สงสาร

สงสารคุณ dsi จังเลย เจออรหันต์เทียม ปล่อยไก่อีกแล้ว ใช้ภาษาให้มันอ่านยากเข้าไว้ จะได้เหมือนคนมีความรู้ เขียนผิดบ้างถูกบ้าง ช่างมัน

คุณ dsi คุณ Kitjung และท่านอื่นๆ ก็เชื่อเค้าหน่อยแล้วกันครับ ว่าเค้าบรรลุอรหันต์แล้ว อย่าไปเถียงเลยครับ เค้าจะได้ไม่ว้าวุ่นใจ ให้เค้าภูมิใจนิดนึง

เชื่อเค้าซะหน่อย จะได้ไม่ต้องเถียงกับเค้า ให้ผมไม่เชื่อคนเดียวก็พอครับ
(b-oneeye) (nogood) (nogood) (nogood)

 

ผมมีหนังสือชื่อ แนวปฏิบัติธรรม หลวงปู่ใหญ่ พระครูธรรมเทพโลกอุดร อยู่ 2 เล่ม ท่านได้เน้นการปฏิบัติจริง ๆ บุญกุศล การสร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างพระพุทธรูป เป็นบุญกุศลที่มหาศาล ผมเองอยากมีโอกาส ขอแค่ สร้างโบสถ์ สร้างพระ ก็พอ เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วย เพื่อเป็นบุญกุศลด้วย ยินดี อนุโมทนาบุญ ต่อผู้ที่คิดในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ส่วนเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรนั้น ผมเองศึกษามาช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ก่อนสวดมนต์แบบไม่ได้จุดธูป ได้รู้จักบทสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก จากรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่บทสวดเป็นแบบย่อ ผมก็สนใจมาตลอด จนไปเจอ บทสวดของหลวงพ่อจรัญ พาหุง มหากา อิติปิโส เท่าอายุบวกหนึ่ง พระชินบัญชร ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก และสนใจ บทสวดพระอาการะวัตตาสูตร พระธรรมจักร บทสวดหลวงปู่เทพโลกอุดร และคาถาต่าง ๆ เคยสวดประมาณ 1 ชม. ครึ่ง แต่เดี๋ยวนี้ สวดแค่ธูปหมดดอก คือ ประมาณครึ่งชั่วโมง ได้แค่ พาหุง มหากา อิติปิโสเท่าอายุบวกหนึ่ง พระชินบัญชร ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก เท่านั้นเอง ไม่ได้สวด บทสวด หลวงปู่เทพโลกอุดร เลย แต่จิตใจ ยังนับถือท่านมาก อันดับแรก หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่โต (นับถือเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้า) หลวงปู่มั่น ส่วนเรื่อง ท่านไม่ใช่ พระมหากัสสปะ นั้น ข้าพเจ้า ก็ศึกษามาก็เป็นอย่างนั้นครับ ส่วนท่านมีความเกี่ยวเนื่องอย่างไรกับหลวงปู่เทพโลกอุดรนั้น ผมก็ศึกษามาครับ หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านปรากฎให้คนเห็น ให้พระสงฆ์เห็นมากี่ร่าง อันนี้ผมก็ศึกษามาครับ มีรูปของท่าน ให้เห็นด้วย จากหนังสือโลกทิพย์ และโลกลี้ลับ เรื่องของพระมหากัสสปะ ซึ่งร่างของท่าน รอการประชุมเพลิงจากพระศรีอริยเมตไตร ซึ่งร่างของท่านอยู่ในถ้ำครับ เกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ของหลวงปู่เทพโลกอุดร มีคณะหมอด็อกเตอร์ มาชมอิทธิฤทธิ์ของท่าน ในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งนานมากแล้ว ท่านมาอย่างไร แสดงอิทธิฤทธิ์อะไรบ้าง กลับอย่างไร ทำเอาคณะด็อกเตอร์ ได้อึ้งเลยครับ ตอนที่ผมศึกษาอยู่นั้น มีฆราวาสท่านหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งตอนนั้น ก็ประมาณเกือบสิบปีแล้ว ผมจำไม่ค่อยได้ แต่คร่าว ๆ ว่า มีคนเกรงบารมีมาก และสามารถรับรู้ถึงหลวงปู่เทพโลกอุดรได้ครับ หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านมีวิชา อิทธิฤทธิ์ ที่แปลกพิสดารมากครับ นั่นคือส่วนหนึ่งที่ผมรับรู้มาครับ ถ้าใครทราบเรื่องราวหลวงปู่เทพโลกอุดร น่าจะมาเล่าเปิดประสบการณ์แบ่งปันกันบ้างนะครับ ผมจะได้รู้ว่า ที่ผมศึกษามามันตรงกับคนอื่นหรือเปล่า ผมรู้จริงหรือเปล่า หรือไม่จริงอย่างไร ขอให้คนที่รู้ มาเล่าประสบการณ์กันบ้างนะครับ (กลายเป็นกระทู้หลวงปู่เทพโลกอุดร แล้วเหรอ อิอิ) เรื่องราวของพระศรีอริยเมตไตร ผมก็ศรัทธามากเหมือนกันครับ ศึกษามาบ้างเล็กน้อย ยิ่งได้ความรู้จากการเข้ามาเว็บนี้ เยอะมากครับ แต่ตอนนี้เรามีบุญวาสนาเกิดเป็นมนุษย์ อยู่ในสมัยพระพุทธศาสนาองค์ปัจจุบัน ก็รีบปฏิบัติให้ทันก่อนที่จะหมดวาสนาการเป็นมนุษย์ เพราะอนาคตเราไม่รู้ว่าเมื่อสิ้นอายุขัยแล้ว เราจะได้เกิดเป็นอะไร ได้ทำบาปอะไรไว้บ้าง ทำบาปอะไรที่ทำให้ไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีก ปัจจุบันสำคัญจริง ๆ ครับ มีโอกาสรีบทำความดีไว้ สร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างพระ ทำนุ บำรุง รักษาพระพุทธศาสนา อย่าทำให้พระพุทธศาสนาต้องเสื่อมเสีย จากความโลภ จากความโกรธ จากความหลง ช่วยกันรักษาสืบต่อไป และท่าน คานมาร์ก ได้เตือนแล้ว หลาย ๆ ท่านได้เตือนให้หยุด ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง ผมก็รับฟังครับ มาร่วมกันปรึกษาการปฏิบัติ สนธนาธรรม กันดีกว่าครับ หลักธรรมข้อใด ควรทำอย่างไร มาปรึกษา แล้วนำไปปฏิบัติกันให้ได้ ดีกว่าครับ มาร่วมทำนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาสืบต่อไปครับ

 

อ้างอิงนะครับ
"พระกฤษฎาเข้าใจในเวลานี้เองว่า อยู่ด้วยกันมากรูปก็เท่ากับอยู่รูปเดียว อาคารสิ่งก่อสร้างไม่ปรากฏรูปลักษณ์ รูปเรารูปเค้าไม่มีตัวตนอยู่จริง ดวงจิตบริสุทธิ์ลอยเด่นกลางจันทร์เพ็ญ สมจริงที่ว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา เมื่อธรรมได้เกิดขึ้นแล้วกับพระกฤษฎาก็บรรลุพระโสดาบัน อนาคามี อรหันตผล มีศีลอันสงบแล้วมีพุทธคุณอันแผ่ซ่าน มีนามพุทธะคุณว่า พระพุทธศรีอริยเมตไตรอันข้าพเจ้าได้มาตรัสรู้แล้วในภัททกัปป์ ทรงพระสัพพัญญูพุทธเจ้าไว้ ๕ พระองค์ "
หมายความว่าคุณ ระวิพันธ์เป็นพระพุทธเจ้าหรือครับ? คือผมอ่านแล้วเข้าใจว่าอย่างนั้น

 

จับไก่ได้ครับ

ผมไป search เจอเวบปล่อยไก่มาครับ เลยเอามาฝากคุณ dsi คุณ Kitjung และท่านอื่นๆ ที่สนใจครับ

http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=727

ดูหัวข้อของกระทู้ แล้วก็ ข้อความที่ 87 ครับ

ใครได้อ่านแล้ว ขอความคิดเห็นด้วยนะครับ

งานนี้ได้รู้อะไรอีกเยอะครับ(b-oneeye) (b-oneeye)
(nogood) (nogood) (nogood)

 

ก็น่าอ่านดีนะ แต่ผมสงสัยว่าคุณ คนไกล ในเวปนั้นหนะขี้โม้ไปหน่อย เหมือนจะคุ้นๆ ดูเหมือนแบ่งภาคกันมาเลย

 

ไม่ผิดมีพระศรีอาริเทียมเท็จมาขี้ใส่เว็ปพลังจิต ทำให้พระศรีแท้จริงได้รับความเสื่อมเสี

ง่ายๆ พระกฤษฎา รวิพันธุ์ กับ พระศรีอาริย์ เป็นองค์เดียวกันจึงมีความเป็นอันเดียวกัน
ต่างกันตรงที่พระกฤษฎา รวิพันธุ์ เป็นพระอรหันต์ที่มีเลือดเนื้อคือ กายที่ยังตกอยู่ในไตรลักษณ์ของพระพุทธเจ้า คือความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนมนุษย์ทั่วไปไม่ต้องสงสัย ดังนั้นบุคคลธรรมดารับรู้อารมณ์อย่างไร พระอรหันต์ก็ย่อมจะต้องรับรู้อารมณ์อย่างนั้นและการรับรู้อารมณ์ของท่านน่าจะเป็นไปด้วยดี ยิ่งเสียกว่าคนธรรมดาสามัญด้วยซ้ำ ดังนี้ การกล่าวหาว่าพระอรหันต์ไม่รับรู้อะไร ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวอะไรทั้งนั้น จึงไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน
ส่วนพระศรีอาริย์ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=j>คือกายที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่มีการแตกดับ อยู่ในสภาวะที่เป็นทิพย์ อยู่ชั่วนิรันดร์กาล มีลักษณะเป็นทิพยภาวะรุ่งเรืองแผ่ซ่านปรากฏแก่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก.ไก่ เพ่นพ่าน

อะไรจะขนาด น้า........น

เอาหล่ะครับ ท่านสมาชิกทั้งหลาย คราวนี้ ก็ชัดแจ้งกันเสียที ว่าอะไรเป็นอะไร

ปล่อยไก่ออกมาอีก 1 เล้าครับ แต่คราวนี้ ไก่ป่วยเป็นไข้หวัดนกด้วย

พระศรีอารย์ ปรากฎ ขึ้นมาในเวบนี้แล้วครับ
สงสัยจะมาโปรดชาวเวบพลังจิตครับ

จะไปกันใหญ่แล้วครับ

ใครอยากไปอยู่ยุคพระศรีฯ รีบสมัครสมาชิกนะครับ

(b-oneeye) (b-oneeye) (b-oneeye)

 

คุณ 39

อนุโมทนาด้วยครับที่ได้มีโอกาสไปร่วมหล่อพระฯ พระที่หล่อแล้วคงจะประมาณเดือนกว่าๆ จึงจะนำออกจากสถานที่หล่อได้ และต้องนำไปตกแต่งเครื่องทรงต่างๆที่โรงหล่ออีกหลายเดือน ครับ

ค่าใช้จ่ายที่ยังขาดอยู่นั้นเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการหล่อมงกุฎพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ รวมทั้งค่าตกแต่งองค์พระและค่าพลอยต่างๆที่ใช้ประดับองค์พระฯ ก็จะไปรวมอยู่ในรายจ่ายงวดสุดท้ายของการตรวจรับองค์พระฯคือประมาณ 4 ล้านบาทครับ คาดว่าคงจะปิดงบค่าใช้จ่ายได้ในงานหล่อมงกุฎพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่จะถึง เนื่องจากเป็นงานหล่อส่วนสูงสุดขององค์พระฯ การจัดงานก็คงจะไม่เล็กไปกว่างานที่หล่อองค์พระฯ ศาสน์ศิลป์(เครื่องสักการะ)ต่างๆก็อาจจะมากกว่างานครั้งที่แล้วด้วยครับ

มีบางท่านประสงค์จะถวายพลอยสีต่างๆประดับองค์พระ แต่เนื่องจากว่าองค์พระมีขนาดใหญ่มาก ขนาดพลอยที่ใช้จึงมีขนาดใหญ่มากเกินกว่าที่จะสรรหาจากพลอยธรรมชาติได้ จึงต้องหาวัสดุอื่นมาทดแทนครับ

สำหรับริมน้ำโขงบริเวณที่จะนำพระใหญ่ทั้ง 5 ไปไว้นั้น หลวงปู่ท่านกำหนดสถานที่คร่าวๆมาให้นานแล้วครับ ท่านบอกให้ผมไปดูและดำเนินการตัดสินใจได้ตามความเหมาะสม เร็วๆนี้ผมจะขึ้นไปดูสถานที่เพื่อเตรียมการสร้างหอพระธาตุบรรจุพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เข้าใจว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 20-30 ไร่ เพราะเมื่อจะสร้างแล้วก็ต้องสร้างให้สมพระเกียรติ์ของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ หลวงปู่ท่านบอกว่าสามารถสร้างให้เสร็จได้ในระยะเวลาประมาณ 1 ปี เมื่อเริ่มลงฐานราก ช่วงนี้ก็จะมีการขยายแบบแปลนของหอพระธาตุ เข้าใจว่าสุดท้ายแล้วหอพระธาตุจะเป็นลักษณะคล้ายเจดีย์ 5 องค์ครับ

จากการที่ได้ศึกษากับครูบาอาจารย์มาถึงจุดนี้จึงถึงบางอ้อว่า ทำไมครูบาอาจารย์ท่านจึงให้ไปทำศาสน์ศิลป์การเคลื่อนย้ายภพภูมิตามที่ต่างๆ ผมเข้าใจว่าเมื่อองค์พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ไปประดิษฐานที่ไหนก็ตาม ภพภูมิภายในที่สำคัญหลายๆภูมิเขาก็จะเคลื่อนย้ายตามไปอยู่ที่นั่นได้ครับ

 

การปฏิบัติกรรมฐานของหลวงปู่ใหญ่ท่านก็ไม่แตกต่างในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจาทั้งหลายครับ ไม่แปลกพิสดารใดๆเลย ท่านเสมอๆว่า "จงฝึกตนให้เป็นที่พึ่งของตนให้ได้...คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายสมบูรณ์แล้ว...ท่านไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรเพิ่มเติมอีก...เดินตามทางที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เพียงพอแล้ว...

ปฏิปทาของหลวงปู่ใหญ่นั้นเรียบง่าย อิทธิฤทธิ์ต่างๆนั้นท่านไม่สรรเสริญ ท่านสรรเสริญบุญฤทธิ์ การสร้างพระพุทธรูป วัดต่างๆ ท่านจะดำริเป็นบุคคลๆไปว่า คนไหนต้องทำอะไร...ลูกศิษย์ที่เข้าถึงท่านจริงๆแล้ว จะไม่เปิดเผยตนเอง และจะพากันเพียรสร้างบารมีและปฏิบัติธรรมกันอย่างยิ่งยวด...อิทธิฤทธิ์ต่างๆท่านเหล่านั้นก็ไม่แสดงให้คนอื่นได้เห็นกัน เพราะไม่ใช่ปฏิปทาของหลวงปู่ท่าน

ศิษย์ที่เป็นฆราวาสก็มีหลายคน(ที่ได้เรียนกรรมฐานและพบท่านในกายเนื้อ) ส่วนใหญ่จะไม่เปิดเผยตนเอง เพียงแค่บอกว่า ตนเองศรัทธาท่านเท่านั้น และไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้

ท่านผู้ใดต้องการทราบเรื่องราวของหลวงปู่ท่าน ผมแนะนำให้ไปถามหลวงพ่อวีระ คณะ5 วัดราชสิทธาราม ซอยอิสรภาพ 23 ท่านจะทราบเรื่องราวหลวงปู่ใหยู่เป็นอย่างดี และท่านก็เป็นหนึ่งในสายการปฏิบัติธรรมโดยตรงจากหลวงปู่ใหญ่มาหลายสิบปีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่พุทธกาล

 

วิญญาณที่มี "รูป" นักปฏิบัติทางจิต มักเรียกว่า "กายทิพย์"


เมื่อดับขันธปรินิพพาน รูป และขันธ์ห้าก็ดับสิ้น
ดังนี้ "กายทิพย์" ไม่อาจจะเรียกได้ว่า "มี"
ทว่า พระอรหันต์ละสังขารแล้ว ใช่ว่าหายไปไหน


เหตุเพราะ "พลังงานและสสาร" ไม่เคยหายไปจากจักรวาล...


ทุกสิ่ง ไม่เคยหาย ไม่เคยเพิ่ม มีแต่แปรเปลี่ยนอนิจจัง
สมมุติ เรียกว่าเป็นนั่นนี่ เมื่อสิ่งนั้นแปรรูป ก็เรียกแบบใหม่
การแปรรูปแต่ละครั้ง มนุษย์เรียก เกิดดับ สูญหาย เกิดใหม่


แท้แล้วไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรหายเลย นอกจาก "อวิชชา" เท่านั้น...

 

K.Aunyasit

องค์พระทั้ง 5 นั้นจะหันหน้าหรือหันหลัง ให้แม่น้ำโขงครับ

 

อ่านมาหน้านี้ ก็รู้แล้วครับ ว่าใครกับใคร และกับใคร กระจกบ้านเรามีด้านเดียว แต่เราไม่รู้หรอกว่า กระจกบ้านอื่นมี่กี่ด้าน รู้จริง รู้ไม่จริง ส่วนใหญ่ รู้แค่กระจกด้านเดียว ผมก็รู้มาด้านเดียว อยากฟังกระจกด้านอื่น แต่สรุปก็มีกันด้านเดียว
ปฏิบัติดีที่สุดครับ

 

คุณ Tewadhol

คาดว่าพระพุทธเจ้า 5 พระองค์นั้นจะหันหน้าไปในทิศทั้ง 4 และองค์พระศรีฯคงจะหันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ครับ

 

จับคนชอบโม้

ที่จริงก็อยากเอาหูไปนา เอาตาไปไร่

แต่คนบางคนในเวบนี้ ชอบอวดอ้างคุณวิเศษ คือเขียนโม้ไว้ก่อน มีคนอื่นชมปุ๊บ ก็โม้ทับเข้าไปอีก

แต่ถ้าใครทักขึ้นมา ก็ตอบเลี่ยงๆ อ้างคนนู้นที คนนี้ที หาใครยืนยันไม่ได้

สุดท้ายสรุปว่าเป็นเรื่องไม่จริง ก็ไปลบข้อความที่โม้ โอ้อวด ทีแรกทิ้ง (ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้วครับ)

โพสต์ข้อความที่ให้ความรู้แก่ชาวเวบ ได้อ่านเป็นวิทยาทานกันดีกว่า อย่าโพสต์โม้ อวดอ้างคุณวิเศษเลยครับ

หวังว่าท่านผู้นั้นคงรู้ตัวนะครับ

 

งานเททองหล่อพระเจ้า 5 พระองค์ผ่านมาหลายวันแล้ว ทำไมทางคุณอัญญาสิทธิ์ คุณกฤษณพจน์ และคณะฯ ไม่แสดงบัญชีผู้บริจาค ยอดบริจาคทั้งหมดตั้งแต่เริ่มงานมาจนถึงวันนี้เลยครับ ทุกคนกำลังรอดูอยู่นะครับ

มีลับลมคมในกันหรือเปล่า วันที่ 3 มีนาคม มีคนไปร่วมงานกันมากคงจะได้ปัจจัยหลายล้านบาท

แสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับทุกๆคนทราบด้วย ทุกคนจะได้รู้ว่าไม่มีนอกมีในกันนะครับ

อุบอิบปัจจัยกันหรือเปล่า

 

คุณเสือเผ่นป่าราบ ช่วยทวงจากคุณอัญญาสิทธิ์ด้วย เรื่องปัจจัยเททองหล่อพระเจ้า 5 พระองค์ ไม่มีการแสดงรายรับรายจ่ายกันให้เห็นเลย ตั้งแต่เริ่มงานมา มีบัญชีธนาคารตั้งหลายธนาคารก็ไม่เอามาแสดงใหผู้คนรับทราบกัน มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลกันหรือเปล่าครับ

 

สำหรับเรื่องบัญชีรายรับ-รายจ่าย คณะกรรมการสร้างพระฯก็ได้ประชุมดูรายละเอียดรายรับ-รายจ่าย รวมทั้งเรื่องอื่นๆกันเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการฯพิจารณาดูแล้วฝ่ายบัญชีก็ได้ทำบัญชีอย่างรัดกุม แสดงที่มา-ที่ไปของเงินบริจาคได้อย่างครบถ้วน เพราะได้ผู้ที่ทำงานด้านการเงินช่วยกันทำงาน และครอบครัว ญาติพี่น้องของผู้ที่ทำหน้าที่ฝ่ายการเงินเองก็ได้ร่วมกันบริจาคปัจจัยสร้างพระฯ รวมกันประมาณ 1 ล้านบาทครับ

สำหรับผู้ร่วมทำบุญที่ต้องการดูบัญชีรายรับ-รายจ่าย ก็สามารถติดต่อคณะกรรมการสร้างพระฯ เพื่อขอดูบัญชีได้ตลอดเวลาครับ หรือใครผ่านไปทางพุทธมณฑลสาย 2 ก็สามารถแวะดูได้ที่กองทุนพระเทพโลกอุดรฯ ซอย 13 ครับ

 

ผมได้ขอดูบัญชีรายรับรายจ่ายกับทางคุณต้น หนึ่งในคณะผู้สร้างพระเจ้า 5 พระองค์แล้ว ตามที่คุณอัญญาสิทธิ์แจ้งมาว่าการทำบัญชีรัดกุม ผมเห็นแล้วไม่เห็นมีรายชื่อผุ้บริจาครายอื่นๆ เห็นมีรายชื่อไม่กี่คน คนอื่นไม่ได้ร่วมทำบุญหรือเปล่าครับ คุณต้นไดเอารายชือผู้บริจาคจากกองทัพอากาศหลายท่านให้ดูด้วย
บัญชีที่ให้ดูไม่มีรายละเอียดมากนักพอที่จะเข้าใจได้ คล้ายๆกับว่าตัวเลขมีการแต่งขึ้นไม่เป็นไปตามจริง

และในใบสรุปบัญชีราบรับรายจ่าย ก็มีแต่ยอดการจ่ายพระเท่านั้น ไม่เห็นมียอดรายรับทั้งหมด ว่า ใครบริจาคเท่าไหร่ วันที่อะไร มีแต่ยอดรายจ่าย แต่ไม่มียอดรายรับทั้งหมด

ผมคิดว่ายอดรับบริจาคคงจะมากกว่า 10 ล้านบาท ผมก็ได้สอบถามคุณต้นแล้ว คุณต้นเองก็ไม่ทราบเรื่องบัญชีและรายละเอียดต่างๆ ให้ไปทางฝ่ายบัญชีและทางคุณอัญญาสิทธิ์ เพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบัญชีเลย

ขอความกระจ่างในเรื่องนี้ด้วย และทางกองทุนพระครูโลกอุดร ก็ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน และรัดกุม ตามที่ผมได้สอบถามมา ท่านบอกว่าให้ถามทางฝ่ายบัญชีคุณกฤษณพจน์ และทางคุณอัญญาสิทธิ์ และฝ่ายการเงินท่านอื่นๆ

ผมอยากจะช่วยทำบุญแต่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือ แสดงความบริสุทธิ์ใจออกมาให้ผู้คนให้รับทราบกันด้วย ตั้งแต่มีการประกาศสร้างพระ 5 องค์ ก็ไม่เคยมีการประกาศยอดบริจาคเป็นระยะๆให้กับทุกๆคนได้ทราบกันเลย

 

ทางสายกลาง คือ หาทางผสาน

หาใช่ว่าทางใครทางมัน...