จะทำอย่างไร ถ้าิิภัยพิบัติจากนิวเคลียร์เกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย mead, 7 มีนาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ย้อนรอย
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    จะทำอย่างไร ถ้าิิภัยพิบัติจากนิวเคลียร์เกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ ?

    แนวทาง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุก่อการร้ายหรือยุทธศาสตร์ทางสงครามที่ใช้อาวุูธนิวเคลียร์ทำลายล้าง และ ตามมาด้วยฝุ่นกัมมันตรังสีไปทั่วบริเวณที่อยู่ทางลม

    อ่านแนวทางนี้ตลอดต้นจนจบก่อน แล้วลงมือ... ให้เร็ว!!


    #1 จะอยู่ หรือ จะไป

    คุณต้องตัดสินใจให้เร็วที่สุด ว่าเตรียมจะอยู่ตรงไหน หรือ จะหนีภัยไปที่อื่น ถ้าตัดสินใจจะอยู่ที่บ้านของคุณเอง หรือ อย่างน้อยในสถานที่หลบภัยชั่วคราวใกล้ๆ ให้ดู #2

    ถ้าจะตัดสินใจอพยพหนีไปที่อื่น คุณต้องมีความมั่นใจสูงสุด ให้พิจารณาดูว่าถ้าออกไปแล้ว จะคุ้มไหม ถ้าไปแล้วติดอยู่กลางทาง จะกลับก็ทำไม่ได้ง่ายๆ แล้วถ้าไปก็ไปไม่ถึงที่หมายคุณก็จะุได้รับกัมมันตรังสีโดยไม่มีที่หลบเลย ทั้งยังอันตรายมากเพราะกฎหมายบ้านเมือง ณ เวลานั้นคงไม่ค่อยจะมีความหมายในท่ามกลางความโกลาหลตื่นตระหนกของผู้อพยพ ข้าวของที่คุณเอาติดตัวมาได้ก็คงจำกัด

    ถ้าคุณอยู่ในเมืองใหญ่หรือใกล้กับเป้าหมายทางทหาร, และคุณมีญาติหรือเพื่อนที่อื่นที่รอคุณอยู่, และเส้นทางที่จะไปหาพวกเขาสามารถใช้งานได้, และการจราจรไม่ติดขัด, และมีพาหนะหรือวิธีที่จะไปถึง/มีน้ำมัน ถ้าเป็นดังกล่าวมาทุกข้อ การอพยลี้ภัยไปก็อาจเป็นทางเลือกที่ทำได้ แต่ อ ย่ า พยายามอพยพไปถ้าหากทุกข้อที่กล่าวมายังไม่มีคำตอบแน่ชัด หรือถ้าสถานการณ์แย่มากขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะเดินทางออกไปได้สำเร็จ.. คุณคงไม่ต้องการไปติดอยู่กลางทางหรือกลายเป็นผู้ลี้ภัยในฝูงชนที่กำลังตื่นตะหนกจำนวนมาก ถ้าหากว่าอพยพได้ ก็อย่ารอ ให้ไปทันที! โดยมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตามรายละเอียดหน้าสุดท้ายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้


    #2 สิ่งที่จะต้องทำเป็นอันดับแรก

    เนื่องจากเวลานั้นสำคัญ เริ่มแรกคุณต้องมอบหมายงานแต่ละอย่างให้สมาชิกผู้ใหญ่ในบ้านแต่ละคนทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อทุกอย่างจะได้เสร็จในเวลาเดียวกัน สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ ที่พักชั่วคราว น้ำ อาหารและเครื่องใช้ต่างๆ ในขณะที่คนหนึ่งกำลังกักเก็บน้ำ อีกคนจัดทำที่หลบภัย อีกคนหนึ่งต้องรีบหาอาหารและของที่จำเป็นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


    #3 อาหาร สิ่งจำเป็นที่ต้องจัดหาไว้

    มอบหมายให้คนใดคนหนึ่งไปซื้อด่วน!! (ตาม list หน้าสุดท้าย) ถอนเงินสดออกมาจากธนาคารหรือ ATM ก่อน แต่ใช้ Credit Card ซื้อของถ้าทำได้ จะได้เก็บเงินสดไว้


    #4 น้ำ

    เำก็บน้ำให้ได้มากที่สุด ทันทีอย่าช้า!! ใช้ภาชนะ อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวด อ่างอาบน้ำ เครื่องซักผ้า สระน้ำของเด็ก (แบบพับเก็บได้) ที่นอนน้ำ (น้ำที่เก็บในที่นอนน้ำ ไม่ควรใช้ดื่ม) ฯลฯ จะใช้ภาชนะอุปกรณ์อะไรก็ได้ นำมาเก็บกักน้ำไว้ให้มากที่สุด เดี๋ยวนี้!!


    #5 ที่พักหลบภัย

    ฝุ่นกัมมันตรังสีที่เกิดจากการระเิบิด จะลอยขึ้นไปบนอากาศ แล้วจะถูกพัดไปกับลม และส่วนใหญ่จะตกกลับมาสู่พื้นโลก เศษวัตถุจากการระเบิดที่หนักที่สุด อันตรายที่สุด และสังเกตเห็นได้ นั้นจะตกลงก่อนและตกอยู่ใกล้ๆ จุดระเบิด ซึ่งจะเริ่มตกลงมาภายในไม่กี่นาทีหรือหลายนาทีหลังระเบิด ส่วนที่เป็นเศษวัตถุขนาดเล็กและเบาลักษณะเหมือนฝุ่นอนุภาคเล็กๆ นั้นจะมาถึงหลังจากเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงๆ เนื่องจากอานุภาพเล็กๆ พวกนี้ถูกพัดลอยไปไกลเป็นร้อยๆไมล์ เมื่อมันตกลงมาแล้วไม่ว่าคุณจะมองเห็นหรือไม่ อานุภาพเล็กๆ นี้จะรวมตัวกันและพัดกระจายไปรอบๆ ทุกๆ ที่ เหมือนฝุ่นหรือหิมะบางๆ ที่ตกลงมาสู่พื้นดินและหลังคานั่นเอง ลมและฝนจะเป็นตัวทำให้อานุภาคพวกนี้ไปรวมตัวกันมากขึ้น โดยที่ตาเปล่าเราจะไม่สามารถบอกได้เลยว่าตรงไหนมีฝุ่นกัมมันตรังสีอยู่สูงๆ


    ฝุ่นกัมมันตรังสีนี้อันตรายมาก เพราะว่ามันส่งพลังงานที่เป็นรังสีทะลุทะลวงได้ (เหมือนกับรังสีเอ็กซเรย์) รังสีนี้ (ไม่ใช่ตัวเศษฝุ่นนะ) สามารถทะลุผ่านกำแพง หลังคา และเสื้อผ้าได้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้สูดหรือรับเอาฝุ่นเ้ข้าร่างกาย ไม่ได้มีฝุ่นเกาะบนผิว ผม เสื้อผ้าก็ตาม และถึงแม้จะมันจะไม่ได้เข้ามาในบ้านคุณเลยก็ตาม แต่ว่ารังสีที่ทะลุเข้ามาในบ้านคุณได้นี้ก็ยังเป็นอันตรายอย่างรุนแรง สามารถทำให้คุณเจ็บและฆ่าคุณในบ้านได้อยู่ดี


    ฝุ่นกัมมันตรังสีจากการระเบิดนิวเคลียร์ ถึงแม้ว่าจะมีอันตรายมากในขั้นต้น แต่ความเข้มข้นของมันก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะว่ามันปล่อยพลังงานมาก เช่นฝุ่นที่ส่งรังสีแกมม่าออกมาที่ 500 R/ช.ม (อันตรายถึงชีวิตในช่วง 1 ชม หลังระเบิด) มันจะอ่อนกำลังลงเหลือเพียง 1/10 หลังจากที่ระเบิดไปแล้ว 7 ชม ใน 2 วันต่อมาก็จะเหลือความเข้มเพียง 1/100 หรืออันตรายน้อยกว่าตอนระเบิดใหม่ๆ 1/100 เท่า


    นี่เป็นข่าวดี เพราะว่าครอบครัวของพวกเราก็สามารถเตรียมรอดชีวิตได้ ถ้าอยู่ในที่หลบภัยที่ถูกต้องปลอดภัยในขณะที่รอให้อันตรายลดลงเรื่อยๆ ในทุกๆ ชั่วโมงที่ผ่านไป


    สิ่งที่จะกั้นกัมมันตรังสีได้ ก็แค่กองวัตถุต่างๆ รวมกันไว้เยอะๆ กั้นระหว่างคนในครอบครัวของคุณกับแหล่งรังสีนั่นเอง ก็คล้ายๆ กับเสื้อเกราะกันกระสุนของตำรวจที่ใช้กันกระสุน ยิ่งวัตถุที่นำมากันนั้นมีความหนามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งป้องกันกัมมันตรังสีได้มากเท่านั้น และ ยิ่งถ้าวัตถุหนัก(หนาแน่น) มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น


    ความหนาของวัตถุธรรมดาๆ ประเภทต่างๆ ที่ทำให้กัมมันตรังสีลดความเข้มข้นลงเหลือ 1/10 มีดังนี้ เหล็ก 3.3 นิ้ว, คอนกรีต 11 นิ้ว, ดิน 16 นิ้ว, น้ำ 24 นิ้ว, ไม้ 38 นิ้ว เป็นต้น


    และที่สามารถสะกัดกั้นรังสีได้ถึง 99% ได้แก่ เหล็ก 5 นิ้ว, ก้อนอิฐหรือบล็อคคอนกรีตกลวงที่ใส่ปูนผสมหรือทราย 16 นิ้ว, ดิน(บรรจุอัดไว้เป็น pack) 2 ฟุต, ดินร่วนๆ 3 ฟุต, น้ำ 3 ฟุต


    คุณอาจจะไม่มีเหล็กไว้เพียงพอ แต่ไม่ว่าอะไรที่คุณมี ก็สามารถนำมาวางเพิ่มเติมเข้าไปได้ เช่น ใช้ไม้ที่น้ำหนักไม่มากนัก มาวางเพิ่มจำนวนเข้าไปทำให้หนามากขึ้น ดีกว่าใช้ดินในปริมาณที่ดูดซับและป้องกันรังสีได้เท่ากันแต่มีน้ำหนักมากกว่า การเพิ่มระยะห่างระหว่างคนกับรังสี ก็จะช่วยลดความเข้มข้นของรังสีจากภายนอกได้ด้วย
    <!-- / message --><!-- sig -->​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2007
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ***เป้าหมายคือ***
    • อยู่ห่างจากฝุ่นกัมมันตรังสีจากภายนอกที่อยู่บนพื้นดินและหลังคาให้มากที่สุด
    • วางสิ่งกีดขวางให้มากพอระหว่างคนกับกัมมันตภาพรังสี
    • สร้างที่พักให้อยู่ได้ในขณะที่รอให้กัมมันตรังสีจางลง
    ที่พักหลบภัยจากกัมมันตรังสีสามารถสร้างที่ไหนก็ได้ คุณควรจะต้องดูว่าทางเลือกใดดีที่สุดสำหรับคุณ ในบ้านหรือว่าที่อื่นใกล้ๆ บ้าน โครงสร้างอาคารบางแห่งประกอบด้วยสิ่งที่ช่วยป้องกันรังสีได้ดี บางแห่งก็ป้องกันได้บ้างบางส่วน ถ้าคุณไม่มีชั้นใต้ดิน คุณก็สามารถใช้เทคนิคที่แสดงไว้ด้านล่างได้เหมือนกัน แต่คุณจำเป็นต้องใช้เครื่องกีดกั้นรังสีมากขึ้น คุณอาจจะไปหลบในอาคารสถานที่หนาทึบใกล้ๆ ก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ๆ มีชั้นใต้ดิน เช่น ตึก โรงเรียน โบสถ์ ที่จอดรถชั้นใต้ดิน ท่อ อุโมงค์ใต้ดิน ฯลฯ สถานทีบางแห่งคงต้องขออนุญาตต่อเติมถ้าหากว่าปลายเปิด เพื่อป้องกันไม่ให้กัมมันตรังสีผ่านเข้ามาได้ อาคารที่มี 6 ชั้นขึ้นไป ที่ซึ่งไม่มีข้อกังวลเรื่องความเสียหายจากระเบิด ก็อาจเป็นที่ป้องกันรังสีที่ดีได้ โดยอยู่ในส่วนกลาง ของชั้นกลางๆ ตึก ด้วยเพราะมี "ระยะห่าง" และ "มีชั้นหลายๆ ชั้นเป็นตัวสะกัดกั้นรังสี" นั่นเอง


    หลักสำคัญคือ เลือกสถานที่ใกล้ๆ ที่เป็นเกราะป้องกันที่ดีเยี่ยม และมีระยะห่างระหว่างภายในและภายนอกมากๆ

    [​IMG]
    รูปบน(ซ้าย): ที่แจ้ง ไม่มีที่กำบังเลย
    -----------------------------------------------------

    รูปบน(ขวา): บ้านที่ไม่มีชั้นใต้ดิน ป้องกันได้เล็กน้อย
    -----------------------------------------------------

    รูปล่าง(ซ้าย): ชั้นใต้ดิน ป้องกันได้ปานกลาง
    -----------------------------------------------------

    รูปล่าง(ขวา): สร้างที่หลบภัยในชั้นใต้ดิน ป้องกันได้ดีที่สุด
    ------------------------------------------------------


    ถ้าคุณมีชั้นใต้ดินในบ้าน หรือที่บ้านญาติหรือเพื่อนใกล้ๆ ที่คุณอาศัยได้ ทางที่ดีที่สุดคุณควรจะจัดการทำให้ที่นั้นๆ มีความสามารถป้องกันรังสีได้ดียิ่งขึ้น แล้วก็อาศัยหลบภัยอยู่ที่นั่น ยกเว้นว่าคุณมีที่หลบใกล้ๆ ที่ดีกว่า ลึกกว่า


    สำหรับที่หลบภัยแบบนาทีสุดท้าย ทำได้โดยใช้โต๊ะหนักๆ ที่คุณสามารถเข้าไปนั่งใต้โต๊ะนั้นได้ ดันโต๊ะเข้ามุม ในตำแหน่งที่ดินภายนอกอยู่สูงที่สุด และระดับพื้นดินข้างนอกนั้นจำเป็นที่จะต้องอยู่เหนือกว่าตำแหน่งบนสุดของที่หลบภัยข้างใน ถ้าไม่มีโต๊ะหนักๆ ก็เอาบานประตู (ภายในบ้าน) มาใช้ทำเป็นโต๊ะ จากนั้นนำวัตถุต่างๆ มากองรวมกันเป็นเกราะกำบังรอบๆ โต๊ะ เช่น หนังสือ ไม้ อิฐ กระสอบทราย เฟอร์นิเจอร์หนักๆ ตู้ที่มีเอกสารเก็บเต็ม ภาชนะที่บรรจุน้ำอยู่เต็ม กล่อง ลัง ปลอกหมอนที่ใส่อะไรก็ได้หนักๆ เช่น ดิน จะใช้อะไรก็ได้ที่คุณสามารถนำมาใช้เป็นเกราะทั้งด้านบนและรอบๆ ด้านข้าง เพื่อดูดซับรังสีที่ทะลุเข้ามาในบ้าน ยิ่งหนักก็ยิ่งดี อย่างไรก็ตามต้องจัดให้โต๊ะและตัวที่ทำเป็นขาโต๊ะแข็งแรง ทนน้ำหนักได้ ไม่เสี่ยงล้มพังลงมา


    [​IMG]


    [​IMG]


    ทำช่องทางเข้าเล็กๆ เพื่อลอดเข้าไปใต้โต๊ะได้ และให้มีสิ่งของที่จะทำเป็นเกราะกองรวมกันไว้ตรงบริเวณนั้นให้มากเพื่อจะได้ดึงเข้ามาปิดช่องได้เมื่อเราเข้ามาใต้โต๊ะแล้ว.. เจาะรูหรือทำช่องขนาด 4-6 นิ้ว ให้อากาศผ่านเข้าออกได้ โดยด้านหนึ่งให้มีช่อง/รูนี้อยู่สูง ส่วนอีกด้านหนึ่งให้อีกช่อง/รู อยู่ต่ำ.. ทำรู/ช่องเพิ่มถ้าคนมากหรืออากาศร้อน .. ใช้กระดาษแข็งมาพัดลมก็ได้ ลมที่เข้ามาข้างในนี้ไม่ต้องกรองถ้าชั้นใต้ดินนี้ปิดมิดชิดไว้ดีแล้ว แต่อย่างไรก็ตามหน้าต่างและช่องต่างๆ จำเป็นต้องมีวัตถุที่แข็งแรงมาปิดไว้ให้ดีอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเราจะได้มั่นใจว่ามันปิดสนิทแน่นหนาดีจริงๆ และเพื่อเป็นการเพิ่มเกราะกันรังสีอีกด้วย.. อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในข้อ 6


    ด้วยเวลาที่มากกว่า อุปกรณ์มากกว่า มีความรู้ด้านช่างไม้หรืองานก่อสร้าง คุณยิ่งจะสามารถสร้างที่พักหลบภัยได้ถูกหลักยิ่งขึ้น เช่น แบบ "lean-to" ที่แสดงในภาพ แต่่คุณต้องกองสุมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไว้เป็นเกราะให้มากกว่านี้หลายเท่า ตามภาพทำไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

    [​IMG]


    ที่พักหลบภัยที่มีประสิทธิภาพที่สร้างขึ้นในชั้นใต้ดิน อาจสามารถลดรังสีลงได้ 100-200 fold (เ่ท่า?) ดังนั้น ถ้ารังสีข้างนอกมีความเข้ม 500 R/ชม (อันตรายถึงชีวิตใน 1 ชม) คนที่อยู่ในที่หลบภัยในชั้นใต้ดินนั้นอาจจะได้รับรังสีเพียงแค่ 5 R/ชม หรือน้อยกว่านี้ ซึ่งอัตรานี้ทำให้รอดชีวิตได้ เพราะความเข้มของรังสีจะลดลงไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ชั่วโมงที่ผ่านไป


    การวางวัตถุกั้นรังสีไว้บนชั้นบน เหนือที่หลบใต้ดิน และวางพิงผนังที่หลบที่คุณทำขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันรังสีได้อย่างมากทีเดียว ทุกๆ 1 นิ้ว ที่คุณเติมเข้าไป ยิ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพให้เกราะป้องกันรังสีของคุณ


    [​IMG]


    กลุ่มคนจำนวนมากที่จำเป็นต้องอาศัยที่หลบภัยชั่วคราวจะอยู่ในระยะหลายๆๆ ไมล์ในทิศทางลม แต่ไม่จำเป็นต้องหลบอยู่นานหลายๆ สัปดาห์ จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่จำเป็นต้องหลบในที่หลบภัยตลอดเวลาเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น ก่อนที่จะเริ่มออกมาได้บ้างแบบชั่วครู่ หลังจากนั้นก็สามารถออกมาอยู่ข้างนอกได้นานขึ้นในแต่ละวัน แล้วกลับเข้าที่พักอีกในเวลาหลับนอนเท่านั้น
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    #6 รายละเอียดที่จำเป็นต้องทราบ



    ข้อมูลจากรัฐเป็นแหล่งข้อมูลจำเป็นที่สำคัญที่คุณจะต้องปฎิบัติตามในวิกฤตการณ์จากนิวเคลียร์ แต่ว่าด้วยเหตุหลายประการข้อมูลจากรัฐอาจจะล่าช้า ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกแนวทาง หรืออาจผิดไปเลยก็ได้

    ถ้าคุณจะต้องการความมั่นใจว่าคุณจะมีอาหารและของจำเป็นเพื่อยังชีพให้ครอบครัวคุณได้แน่ๆ คุณต้องจัดหาก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายขึ้น ไม่ต้องรอคำสั่งจากทางการซึ่งอาจไม่มีมาเลย หรือไม่ก็ไม่ทันการณ์ก็เป็นได้ ท้ายที่สุด คุณเท่านั้นที่จะรับผิดชอบต่อครอบครัวของคุณเอง


    ------------------------------------------------------------------------------


    อากาศที่เข้ามาในที่หลบภัยชั้นใต้ดิน ไม่จำเป็นต้องกรอง อากาศไม่กลายเป็นกัมมันตรังสี และถ้าชั้นใต้ดินของคุณถูกปิดไว้อย่างมิดชิดสนิททุกด้านแล้ว ลมจากภายนอกซึ่งปนเปื้อนด้วยฝุ่นกัมมันตรังสีจะผ่านเข้ามาไม่ได้ แค่ปิดหน้าต่างและช่องว่างอื่นๆ ให้สนิทเท่านี้ก็ป้องกันฝุ่นกัมมันตรังสีได้แล้ว

    ควรจะปิดหน้าต่างทุกบานด้วยไม้ และใช้กระสอบทราย อิฐ หรือ ดิน เป็นต้น มาปิดไว้อีกชั้นหนึ่งทั้งข้างในและข้างนอกถ้าเป็นไปได้ จะเป็นการช่วยให้เกราะป้องกันรังสีภายในบ้านของคุณมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และ ยังช่วยป้องกันไม่ให้กระจกแตกอีกด้วย

    ถ้าหากว่าภายหลังอากาศในชั้นใต้ดินเริ่มอับขึ้นจริงๆ คุณก็อาจจะเปิดประตูบานที่ต่อไปยังชั้นบน (แต่บ้านทั้งหลังยังปิดสนิทอยู่) หรือว่าเอาแผ่นกรองอากาศมาปิดช่อง/รูที่จะนำอากาศภายนอกให้ผ่านเข้ามาได้ (ปิดไว้ให้แข็งแรงอย่าให้หลุดออกมา)


    --------------------------------------------------------------------------------------


    เกี่ยวกับการปนเปื้อนฝุ่นกัมมันตรังสี อาหารหรือน้ำที่เก็บไว้ในภาชนะที่ปิดมิดชิด ถึงแม้ว่าภาชนะนั้นจะมีละอองฝุ่นเกาะจับอยู่ภายนอกแต่ก็สามารถปัดหรือล้างออกได้ในภายหลัง ตราบใดที่ละอองฝุ่นไม่ได้เข้าไปถึงข้างใน อาหาร/น้ำนั้นก็สามารถใช้บริโภคได้อย่างปลอดภัย ส่วนกัมมันตภาพรังสีที่ทะลุผ่านเข้าไปในอาหารและน้ำได้นั้นมันไม่ได้ทำลายหรือก่อให้เกิดโทษต่อสารอาหาร

    ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของคุณมีฝุ่นเกาะติดอยู่ ก็ให้ถอดทิ้งไว้ข้างนอกก่อนเข้ามาในบ้าน ชุดพลาสติกกันฝุ่นราคาถูกซึ่งสามารถล้างเอาฝุ่นออกได้โดยง่ายและทิ้งไว้ข้างนอกได้ก็น่าจะนำมาใช้ จัดให้มีน้ำและแชมพูเด็กไว้ใกล้ทางเข้าบ้าน (สายยางฉีดน้ำ และ ภาชนะใส่น้ำ) สำหรับชะล้างผิวส่วนที่เผยออกมานอกเสื้อผ้า และ ผม ให้สะอาดโดยทั่ว การสัมผัสโดนละอองฝุ่นนี้ไม่ได้ทำให้คุณป่วย แต่คุณต้องแน่ใจว่าคุณไม่เอาฝุ่นติดเข้าไปในบ้านด้วย

    ถ้ามีบางคนเกิดอาการป่วยจากกัมมันตภาพรังสี ซึ่งปกติจะมีอาการคลื่นไส้ถ้าได้รับเพียงเล็กน้อย (น้อยกว่า 100 Rads) 100% จะหายป่วย และไม่สามารถแพร่ไปติดคนอื่น

    ก่อนที่ละอองฝุ่นกัมมันตรังสีจะมาถึง คุณอาจจะคลุมสิ่งของที่อยู่ภายนอกไว้ เพื่อจะได้ล้างออกได้ง่ายๆ ในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีจุดที่คุณปลูกผักไว้ คุณก็อาจจะเอาพลาสติกหรือผ้ายางมาคลุมแล้วถ่วงน้ำหนักไว้


    --------------------------------------------------------------------------------------


    ถ้าไม่มีเวลาพอที่จะหาซื้อเครื่องตรวจวัดกัมมันตรังสี เช่น Geiger Counters หรือ Dosimeters คุณต้องมีวิทยุ และเช็คให้แน่ใจมากๆ ว่า วิทยุของคุณ(แบบใส่ถ่าน) ใช้การได้ดีในที่พักหลบภัยหรือเปล่า

    คุณต้องมีถ่านใหม่สำหรับวิทยุเป็นจำนวนมากด้วย คุณต้องฟังข่าวสารทางวิทยุเพื่อจะได้ทราบว่าบริเวณที่คุณอยู่ปลอดภัยที่จะออกมาได้แล้วยัง และก็อาจจะเป็นทางเดียวที่คุณจะรู้ได้ว่าเมื่อใดเป็นเวลาที่คุณจำเป็นต้องเริ่มใช้มาตรการป้องกันขั้นสูงสุด

    วิทยุเมื่อไม่ได้ใช้ ไม่ควรต่อไว้กับ antenna(เสาสัญญาณวิทยุ) หรือแม้แต่เสาสัญญาณที่ติดกับวิทยุอยู่แล้วก็ไม่ควรดึงให้ยืดขึ้น และควรจะ่ห่อวิทยุด้วยฉนวนกันความร้อน เช่น กระดาษ แผ่น พลาสติก bubble กันกระแทก แล้วก็เก็บไว้ในภาชนะที่เป็นโลหะ หรือไม่ก็ห่อด้วย aluminum foil เพื่อลด EMP ที่จะเกิดขึ้น แล้วทำลายระบบวงจรไฟฟ้าในเครื่อง

    การมีวิทยุไว้มากกว่า 1 เครื่องก็เป็นความคิดที่ดี อาจจะเปิดเครื่องหนึ่งไว้ตลอดเวลา เพื่อฟังคลื่นที่อยู่ใกล้กับเมืองที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายโจมตีมากที่สุด ถ้าเมื่อใดสัญญาณหายไปทันทีทันใด คุณอาจทราบได้ตั้งแต่แรกว่าเกิดการโจมตีขึ้นแล้ว


    -------------------------------------------------------------------------------------


    ถ้าอยู่ใกล้เป้าหมาย หากเกิดระเบิดนิวเคลียร์ขึ้น เครื่องบ่งชี้แรกที่คุณจะเห็นก็คือแสงสว่างจ้าแลบขึ้นมา ส่วนผลกระทบแรกที่ต้องเจอก่อนที่ฝุ่นกัมมันตรังสีจะมาถึงก็คือแรงระเบิด และ คลื่นพลังงานความร้อนจากระเบิด (ขึ้นอยู่กับความใกล้ด้วยว่าใกล้แค่ไหน)

    วิธีการ duck & cover (หมอบ & ปิดกำบัง) ทันทีก็จะช่วยให้พ้นจากการบาดเจ็บที่เกิดจากเศษวัตถุที่ปลิวมาจากแรงระเบิดได้ และ ช่วยลดการบาดเจ็บจากกระแสความร้อนด้วย

    ใครที่อยู่ใกล้จุดระเบิดมากๆ จะเจอแรงลมขนาดเท่ากับพายุทอร์นาโด ควรรีบหลบเข้าหลังวัตถุที่แข็งแรงมั่นคง หรือ รีบหลบลงหลุม ท่อ อุโมงค์ หรือ ชั้นใต้ดิน เป็นต้น

    ระเบิด 500 กิโลตัน ที่ระยะห่างออกไป 2.2 ไมล์ หลังจากเห็นแสงจ้าแลบขึ้น แรงระเบิดจะมาถึงในเวลาประมาณ 8 วินาที ด้วยแรงลมที่ 295 ไมล์/ชม นาน 3 วินาที ถ้าระเบิด 1 Megaton ที่ระยะห่างออกไป 5 ไมล์ จะมาถึงภายในประมาณ 20 วินาที

    หวังว่าคุณจะไม่อยู่ใกล้กับจุดระเบิด แค่ต้องรับมือกับฝุ่นกัมมันตรังสีในภายหลังเท่านั้น


    -------------------------------------------------------------------------------------


    ฝุ่นกัมมันตรังสีที่คาดว่ากำลังจะมา ถึงแม้ว่ามันยังมาไม่ถึง ทุกคนที่อยู่ข้างนอกควรต้องเริ่มสวมใส่หน้ากากกันฝุ่นและชุดกันฝนที่มีหมวกปิดศีรษะ

    ทุกคนควรต้องเริ่มทานเม็ด Potassium Iodide (KI) หรือ Potassium Iodate (KIO3) เพื่อป้องกันต่อมไทรอยด์จากมะเร็ง ถ้าแบบเม็ดไม่มี ใช้สารละลายไอโอดีนก็ได้ เช่น ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือ เบตาดีน ทาบนผิวหนัง ซึ่งจะให้ผลป้องกันได้เหมือนกับชนิดเม็ด

    (คำเตือน: สารละลายไอโอดีนทุกชนิด ห้ามใช้ภายใน หรือ กลืนกิน โดยเด็ดขาด)

    สำหรับผู้ใหญ่ให้ทาทิงเจอร์ไอโอดีน (ชนิด 2%) 8 มิลลิลิตร บริเวณท้อง หรือ ท้องแขน ในแต่ละวัน หากคาดว่าระเบิดจะเกิดขึ้น ถ้าได้ทาก่อนเกิดเหตุอย่างน้อยๆ 2 ชม จะดีมาก สำหรับเด็กอายุ 3-18 ปี แต่น้ำหนักน้อยกว่า 150 pounds ให้ทาขนาดครึ่งหนึ่ง หรือ 4 มิลลิลิตร สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 3 ขวบ แต่มากกว่า 1 เดือน ทา 2 มิลลิลิตร สำหรับเด็กแรกเกิด - 1 เดือน ทา 1 มิลลิลิตร (ถ้าไม่มี dropper สำหรับวัดปริมาณยา กะประมาณเอาว่า 1 ช้อนชา = ประมาณ 5 มิลลิลิตร)

    สารละลายไอโอดีนที่มีความเข้มข้นมากกว่า 2% ก็ให้ทาลดน้อยลงตามอัตรา การดูดซึมสารไอโอดีนผ่านทางผิวหนังถึงแม้จะเป็นวิธีที่ให้ค่า Dose หรือขนาดที่รับไปไม่แน่นอนเท่ากับไอโอดีนชนิดเม็ด แต่จากการทดลองพบว่าชนิดทาก็ยังคงมีประสิทธิภาพสูงสำหรับคนส่วนใหญ่

    ห้ามใช้ถ้าแพ้ไอโอดีน ถ้าเป็นไปได้ควรไปปรึกษาแพทย์ซะเดี๋ยวนี้ เพื่อให้ทราบว่าสมาชิกคนใดในครอบครัวของคุณสามารถใช้ KI, KIO3 หรือ สารละลายไอโอดีน ได้หรือไม่ได้


    -------------------------------------------------------------------------------------


    เมื่อคุณรู้ว่าเวลาที่ต้องป้องกันรักษาตัวใกล้เข้ามาแล้ว ให้ปิดน้ำไฟให้หมด และ เช็คทุกอย่างว่าปิดและล๊อคเรียบร้อย เสร็จแล้วรีบไปยังที่หลบภัยได้เลย คุณควรดูให้แน่ใจด้วยว่าใกล้ๆ กับที่พักหลับภัยนั้นมีเครื่องมือ เช่น แชลง แม่แรงยกรถ สำหรับใช้ช่วยดันเอาตัวเองขึ้นมาได้

    และอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับงานก่อสร้างต่างๆ, แผ่นผ้าพลาสติก staple gun เป็นต้น ก็ควรมีไว้เพื่อใช้ปิดอุดช่อง รู รอยแตก ที่เกิดจากความเสียหาย ชั้นใต้ดินของคุณควรจะปิดไว้มิดชิดอย่างดีแล้ว เพื่อป้องกันเศษฝุ่นละอองกัมมันตรังสีเข้ามา เสร็จแล้วก็ปิดประตูบานสุดท้ายที่คุณใช้ให้มิดชิดแน่นหนาด้วยเทปกาวให้รอบทุกด้านทุกมุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าประตูนี้ตรงกับประตูเข้าบ้านยิ่งต้องปิดให้แน่นหนา


    -------------------------------------------------------------------------------------


    คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับเรื่องไฟไหม้เพราะทำอาหารในที่พัก ถ้าคุณเตรียมผลิตภัณฑ์กระป๋อง ที่เปิดกระป๋อง อาหารกระป๋องที่สามารถเก็บไว้ได้นานและพร้อมทานได้เลย เอาไว้ อาหารและน้ำให้วางไว้ให้มาก ตรงปากทางเข้าที่พักที่คุณคลานเข้าไปอยู่ เพื่อที่คุณจะได้ดึงอาหารและน้ำเข้ามาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาที่ปลอดภัยพอที่จะทำได้


    -------------------------------------------------------------------------------------


    สำหรับเรื่องไฟฉาย ควรใช้แบบ LED หรือ LED Head Lamps เพราะกินไฟ(ถ่านไฟ)น้อย พยายามอย่าใช้เทียนไข และเตรียมหนังสือ เกมส์สำหรับเด็กๆ อาจมีที่นอนเล็กๆ เบาะ ผ้าห่ม หมอน ฯลฯ ไว้ด้วย


    -------------------------------------------------------------------------------------


    ส้วม ใช้ถังขนาด 5 แกลลอน และใช้ที่รองนั่งจากโถส้วมในบ้านมาใช้ก็ได้ถ้าคุณไม่ได้ซื้อสำรองเอาไว้อีกอัน ถุงดำสำหรับใส่ขยะขนาดพอเหมาะเอาไว้ใช้รองถัง ซึ่งควรต้องใช้ถุงรองก่อนทุกครั้ง

    เตรียมถังขยะขนาดใหญ่ซึ่งรองด้วยถุงขยะแล้วมาวางไว้ด้านนอกใกล้กับทางเข้าที่พักให้มากที่สุด เพื่อคุณจะได้เอาถุงปฎิกูลจากถังส้วมทิ้งในถังขยะด้านนอกได้อย่างรวดเร็ว เมื่อปลอดภัยพอที่จะทำได้ ควรมีผ้า/ผ้าห่ม มากั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนถุงปฎิกูลต้องผูกให้แน่นทุกครั้งหลังใช้เสร็จแล้ว


    -------------------------------------------------------------------------------------


    สัตว์เลี้ยง จะทำอย่างไรกับมันดี เป็นเรื่องยาก แต่การปล่อยสุนัขไว้ข้างนอกนั้นมันโหดร้ายเกินไป เพราะมันก็คงต้องตายทรมานจากกัมมันตรังสี และเป็นอันตรายต่อผู้อื่นด้วยโดยเฉพาะถ้ามันติดเชื้อโรคเข้า หรือไม่ก็คงเข้าฝูงไปกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่ถูกปล่อยออกมาเหมือนกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณไว้เป็นเรื่องที่ดีถ้าเป็นไปได้และไม่ขาดแคลนปัจจัยจนเกินไป ในขณะที่ถ้าปล่อยมันทิ้งไว้ ที่สุดแล้วอาจเป็นความจริงที่เจ็บปวด แต่ก็จำเป็น


    -------------------------------------------------------------------------------------


    การต้มน้ำ หรือ การฆ่าเชื้อในน้ำ เพื่อใช้ดื่ม นั้นทำได้กับน้ำที่เก็บกักหรือบรรจุอยู่ในภาชนะแล้วเท่านั้น (เป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่กัมมันตภาพรังสี ซึ่งกัมมันตภาพรังสีที่ทะลุผ่านภาชนะที่ปิดสนิท เข้าไปถึงน้ำและอาหารได้นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลเลย)

    น้ำจากก๊อกที่คุณได้เก็บกักไ้ว้ในภาชนะไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อ (ประเด็นนี้นี่เฉพาะน้ำก๊อกที่สะอาด ไม่มีเชื้อแบคทีเรียในน้ำ ใช้ดื่มได้เลย อย่างในประเทศอเมริกาน่ะคะ แต่บ้านเราคงไม่เหมือนกัน คงต้องต้ม หรือ ฆ่าเชื้อก่อนอยู่ดี--jasminine ) แต่สำหรับน้ำที่สงสัยว่าไม่สะอาด ก็นำมาต้มจนเดือดและทิ้งไว้ ณ จุดเดือดสัก 10 นาทีเป็นอย่างน้อย ถ้าไม่มีเชื้อเพลิงต้มก็สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ (Bleach) คุณภาพดี หยดลงไปในน้ำในอัตรา 10 หยดต่อน้ำ 1 แกลลอน แล้วปล่อยทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง น้ำยา Bleach นี้ควรจะบริสุทธิ์อย่างน้อย 5.25% เช่น Clorox แล้วก็ต้องไม่มีส่วนผสมอย่างอื่น เช่น สบู่ หรือ น้ำหอม

    สำหรับรสชาดเฝื่อนๆ ของน้ำต้มหรือรสคลอรีนของน้ำที่ฆ่าเชื้อด้วย Bleach นั้น ทำให้หายไปได้โดยเทสลับไปมาใส่ภาชนะอื่นหลายๆ รอบ


    -------------------------------------------------------------------------------------


    รายการสิ่งจำเป็นที่ต้องจัดหา

    ถ้าร้านค้ายังคงมีของ ถ้าภาวะตอนนั้นยังปลอดภัยที่จะออกไปซื้อ คุณต้องพยายามซื้อให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทันที!

    ในรายการข้างล่างนี้ ส่วนที่เป็นอาหารไม่ได้บอกปริมาณเอาไว้ เนื่องจากขนาดของแต่ละครอบครัวต่างกันออกไป และเพราะว่าในภาวะฉุกเฉิน ความตระหนกตื่นกลัวมีมากขึ้นนี้ ของบางอย่างก็จะขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว หรือไม่ก็ซื้อได้แบบจำกัดจำนวน คุณก็คงต้องพยายามให้ได้ของมากที่สุดเท่าที่ยังคงมีวางขายบนชั้น อย่างน้อยควรเตรียมไว้สำหรับ 2 สัปดาห์ แต่จะดีกว่ามากๆ ถ้ามีไว้มากพอสำหรับ 2 เดือนขึ้นไป


    รายการอาหารครึ่งแรกที่ขีดเส้นใต้ไว้ใช้ในช่วงแรกขณะที่หลบอยู่ภายในที่พัก ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ที่ไม่ต้องทำให้สุก ไม่ต้องเตรียม แค่ใช้ที่เปิดกระป๋องเปิดก็ทานได้เลย (สารละลายไอโอดีน รวมอยู่ในรายการนี้ด้วย เพราะมีความจำเป็นสำหรับปกป้องต่อมไทรอยด์ แต่ห้ามใช้ภายใน หรือกลืนกินเป็นอันขาด!) ส่วนอาหารอื่นๆ ในรายการ ไว้ใช้ภายหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ตามด้วยรายการอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ


    รีบไปหาซื้อทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้ โดยเร็วๆ!


    อาหารกระป๋องต่างๆ (พาสต้า ซุป ผัก ผลไม้ ทูน่า เนื้อสุก เนยถั่ว เป็นต้น)
    อาหารพร้อมรับประทาน (pop-tarts ลูกเกต ชีส granola/energy/protein bars ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ)
    อาหารที่เสียได้บางอย่าง (ขนมปัง ผลไม้ เช่น กล้วย แอปเปิ้ล ส้ม องุ่น ฯลฯ)
    เครื่องดื่มต่างๆ
    วิตามินรวม ปริมาณมากๆ
    สารละลายไอโอดีน เช่น Betadine (16 Oz.) - ห้ามใช้ภายใน หรือ กลืนกิน


    นมอัดเม็ดกล่องใหญ่หลายๆ กล่อง (แบ่งส่วนหนึ่งไปใช้ด้านในที่เราพัก)
    แพนเค้ก ขนมปังบิสกิต และ syrub สำหรับทา
    ข้าวถุงใหญ่สุด หลายถุง
    ถั่ว
    แป้งมัน แป้งข้าวโพด ฯลฯ
    หัวมัน
    ข้าวโอ๊ค ธัญญพืชชนิดอื่นๆ
    มักกะโรนี
    น้ำตาล
    น้ำผึ้ง
    น้ำมันสำหรับทำอาหาร 2 แกลลอนใหญ่ๆ หรือมากกว่า
    Baking powder, baking soda, เครื่องเทศเครื่องปรุงชนิดต่างๆ
    น้ำดื่มเป็นขวด
    จาน ถ้วย ช้อนส้อม ที่เป็นกระดาษหรือพลาสติก
    ที่เปิดกระป๋องอย่างดี (2 อันถ้าที่บ้านไม่มี)
    ไฟแช็ค
    ถังขยะใหม่หลายๆ ใบ และถุงรองถังขยะเป็นจำนวนมาก (ไว้เก็บน้ำ และ ใส่ขยะ)
    ถังขนาด 5 แกลลอน และ ถุงรองถังขยะขนาดเล็กลงมาเพื่อรองถัง (ไว้ทำเป็นโถส้วม)
    ที่รองนั่งโถส้วม สำหรับใช้กับถังที่ทำเป็นโถส้วม (ใช้ของที่บ้านที่มีอยู่แล้วก็ได้)
    กระดาษชำระ และ ผ้าอนามัย ผ้าอ้อม ถ้าจำเป็นต้องใช้
    กระดาษเช็ดทำความสะอาดของเด็ก
    ไฟฉาย (LED จะดีมาก) และวิทยุแบบใส่ถ่านมากกว่า 1 เครื่อง
    ถ่านไฟจำนวนมาก อย่างน้อยๆ 3 ชุดสำหรับไฟฉาย/วิทยุ แต่ละเครื่อง
    น้ำยา Bleach (5.25% ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และ สบู่)
    แอลกอฮอล์ หรือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
    ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ปวดท้อง ฯลฯ
    ยาประจำตัวตามใบสั่งของแพทย์ ต้องเตรียมไว้จำนวนมาก
    เครื่องมือปฐมพยาบาล
    ถังดับเพลิง
    หน้ากากกันฝุ่น จำนวนมาก
    ชุดกันฝน สำหรับทุกคน จำนวนมาก
    ที่กรองน้ำ และ อุปกรณ์ตั้งแค้มป์อื่นๆ เช่น เตาไฟ น้ำมัน ammo(?) เป็นต้น
    พลาสติกที่ขายเป็นม้วนๆ, เทปกาว, staple guns, staples ฯลฯ

    ----------------------------------------------------------------------------

    รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้ ไม่ประมาทดีที่สุด!


    แปลจากต้นฉบับที่ http://www.ki4u.com/guide.htm

    (บางช่วงที่ไม่ใช่เนื้อหาหลักๆ อาจข้ามไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่แปลหมด)


    ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยน่ะคะ


    ถ้าหากตรงไหนเพื่อนสมาชิก อ่านแล้วมีข้อสงสัยหรือคิดว่าอาจมีความผิดพลาด หรือมีข้อแนะนำ-ความคิดเห็นใดๆ ก็ตาม รบกวนช่วยกันโพสขึ้นบนบอร์ดนี้นะคะ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับพวกเราทุกคน


    *-*ขอขอบคุณคุณ Jasminine เป็นอย่างสูงครับที่ช่วยทำการแปลเป็นภาษาไทยมาให้อ่านกันครับ*-*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2007
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    แบบสร้าง "บนดิน"

    รุ่นนี้ไม่ได้บอกว่าป้องกัน กัมมันตภาพรังสี จากนิวเคลียร์ได้หรือเปล่า .. ?

    อาจจะต้องทำให้ดียิ่งขึ้นสำหรับรังสี

    แต่ทนแรงแผ่นดินไหวได้ 8.5 ริกเตอร์ และ หลบภัยพายุได้


    ---------------------------------------------------------------------------------


    Earthcom 18 Above Ground Shelter Photos

    The Earthcom 18 is a tornado and hurricane resistant earth bermed structure. It can be used as a garage, storage shed, or animal shelter. Each structural fiberglass beam forms a 180-degree arch that is 2 feet wide and spans 18 ft. and forms the roof and wall.

    The structure can withstand an 8.5 Richter Scale earthquake. Flying debris will not penetrate the earth berm. The end walls are assembled on site using conventional framing methods. Each arch requires approximately two man-hours to assemble and stand up. The Earthcom 18 requires at least 10 arches with a maximum of 50 arches (100 feet long).

    [​IMG]
    Earthcom 18 earth berm shelter Construction


    [​IMG]
    Earthcom 18 earth berm shelter exterior


    [​IMG]
    Earthcom 18 earth berm shelter shelves


    [​IMG]
    Earthcom 18 earth berm shelter storage


    [​IMG]
    Earthcom 18 earthcom shelter Cross Section


    http://www.bomb-shelter.net/Earthcom...Shelter-Photos
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ตัวอย่างแบบ"ฝังใต้ดิน"

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">P10 Underground Bomb Shelter Photos </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>The product was specifically designed and developed to protect people during and after disasters such as tornadoes, hurricanes, earthquakes, storms, forest fires, power failures, nuclear power plant accidents, nuclear/chemical terrorism, and full-scale protracted nuclear, chemical and biological war.

    For more information about the Radius Engineering Nuclear, Biological and Chemical terrorism-protection underground shelter systems please contact Walton McCarthy here




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter is designed to protect shelterists from at least two 1-MT nuclear blasts at ground zero. !!
    ป้องกันที่ "จุดระเบิด" ได้ (1 เมกกะตัน อย่างน้อย 2 ลูกขึ้นไป)




    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter provides family protection from WMD's
    <TABLE><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter battery bank


    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter Electrical Panel



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter entrance (1)



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter entrance (2)



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter entrance (3)



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter exterior (1)



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 underground bomb shelter exterior (2)



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter Gas Detector



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter HEPA filter



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter portal



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter pump



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter sink


    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter thermometer



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter toilet



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    SP6 bomb shelter floor
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter is an egg-shaped fiberglass structure designed for maximum brightness

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter comes with 16 12-volt batteries

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter comes with a 115 volt battery charger

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's gas agent test housing (GATH) uses the M256A chemical agent test kit

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's HEPA filter removes 99.99% of particles that are 0.3 microns and larger

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's ultraviolet bulb kills all airborne viruses and bacteria

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's stainless steel air outlet removes carbon dioxide, heat, moisture and odor

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's triple-axis seismic joint eliminates frost line stresses

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's hatch dome is impervious to intruders

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's plumbing system includes a toilet, sink and shower

    [​IMG]
    The P10 Underground Bomb Shelter's 30-gallon methanol tank can boil all of the shelter's 1,000 gallons of water, as well as the water from forty-four 5-gallon food tanks


    <TABLE><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR><TD>
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG]
    bomb shelter/storm shelter cross section



    </TD></TR><TR><TD>[​IMG]
    SP6 bomb shelter/storm shelter blueprint

    </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD>[​IMG]
    SP6 bomb shelter/storm shelter hatch dome



    </TD></TR><TR><TD>[​IMG]
    SP6 bomb shelter/storm shelter interior blueprint

    </TD></TR><TR><TD>[​IMG]

    SP6 bomb shelter/storm shelter exterior

    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- sig -->



    รายละเอียดเต็มๆ>> CAT25 Underground Bomb Shelter Drawings
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2007
  7. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมายหลักก็จริง แต่จะมีผลกระทบบ้างเหมือนกัน
    ประเทศในเอเชียที่มีโอกาสเกิดนิวเคลียร์บอมส์ ในแถบนี้น่าจะเป็น จีน-อีนเดีย-ปากีสถาน ซึ่งอาจปะทุเองได้ หากไม่ได้เกิดจากการโจมตี กระแสลมจะพัดพาฝุ่นรังสีผ่านประเทศไทยลงสู่ทะเลแน่นอนครับ

    ประเทศไทยเอง ก็ควรหาทางป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด
    โดยเฉพาะฝั่งทางด้าน"ทิศเหนือ" กับ "ทิศตะวันตก"
    สิ่งศักดิ์สิทธื ท่านก็ย้ำเตือนมาด้วยความเป็นห่วงครับ
    ให้ดีขุดสระน้ำดักไว้ด้วย เพื่อลดกรองฝุ่นรังสีไว้ยิ่งดี

    หากเราจะคิดที่จะลองสร้างที่หลบภัยเล็กๆ ก็ลองนำเอารายละเอียดเหล่านี้ มาปรับใช้กันตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ครับ..รายละเอียดตรงนี้เหมือนที่ได้แจกเอกสารให้กลุ่มพลังจิตไปแล้วครับ*-*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2007
  8. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อนุโมทนา....สาธุ ....อุตส่าห์วิสัชชนามายืดยาว

    คงมีคนเพียงหยิบมือเดียวที่จะได้มีเชลเตอร์ไว้หลบภัยใต้ดินน่ะครับ

    เอาเป็นว่าสงครามนิวเคลียร์ง๊ะ.....มีแน่..... เร็วๆนี้ด้วย

    เอาว่าหากเมกาไปถล่มอิหร่านก่อน ก็จะเป็นชนิด Clean Newclear เพราะได้ทดสอบมาจนแน่ใจแล้วว่า ทำลายได้หมดจรด โดยไม่เหลือกัมมันตภาพรังสีตกค้างแต่ประการใด ฉะนั้นผู้ไม่เกี่ยวข้องก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า จะไม่โดนหางเลขในงานนี้

    ในโลกนี้มีเพียง 2 ประเทศ เท่านั้นที่มีเทคโนโลยีอันนี้คือ เมกา กับ ฝรั่งเศส ครับ

    แต่หากเป็นนิวเคลียร์จากที่อื่นๆ ก็ตัวใครตัวมันแหละครับ

    ทั้งนี้ครูบาอาจารย์ พระอริยเจ้าทั้งหลายได้วิสัชชนาแล้วว่า ภัยนิวเคลียร์จะไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะบารมีแห่งพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

    คนไทยก็ควรเร่งปฏิบัติภาวนาไว้เถอะครับ
     
  9. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เรียนคุณมีดครับ

    ผมมีข้อมูลโบราณมาฝากคุณมีดเพื่อได้ใช้ประโยชน์ได้ หากใครคนหนึ่งคนใดโดนฝุ่นกัมมันตภาพรังสีเกิดอาการป่วย ให้ดื่มน้ำข้าว(จากการหุงข้าวเช็ดน้ำแบบโบราณ)แทนน้ำดื่มตลอดเป็นเวลา ๒ สัปดาห์ก็จะเห็นผลดีขึ้นมาก เพราะน้ำข้าวมีสรรพคุณในการล้างพิษทุกชนิด รวมถึงพิษกัมมันตภาพรังสีด้วย ไม่ควรดื่มนมทุกชนิดในช่วงรักษาพิษนี้ ฝากคุณมีดลองสอบถามพระเกจิอาจารย์หลายๆท่านดูนะครับว่าใช่หรือเปล่า ขอคุณมีดจงประสพผลสำเร็จในการฝึกปฏิบัติธรรมในเร็ววันด้วยครับ โชคดีจงเป็นของคุณมีดครับ
     
  10. ไทร

    ไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +771
    ขออภัยนะครับ ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลโบราณบ้าง

    คือผมสงสัยข้อมูลโบราณนี้โบราณขนาดไหนน่ะครับ เพราะเรื่องกัมมันตรังสีนี่เพิ่งจะค้นพบ (ไม่ใช่แพร่หลาย) กันเมื่อประมาณร้อยกว่าปีมานี้เอง ดูได้จากเว็บด้านล่างครับ

    มาดามคูรี

    และเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายก็เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่มีการใช้ระเบิดปรมาณูที่ญี่ปุ่น
    สำหรับในประเทศไทยนั้น ก็น่าจะเริ่มนำเข้ามาใช้ในวงการแพทย์ในระยะแรกอย่างจำกัดภายหลังปี ๒๕๐๐ นี้เอง จึงไม่นาจะมีผู้คนในสมัยโบราณได้ทดลองใช้น้ำข้าวเพื่อรักษาอาการที่เป็นผลจากกัมมันตภาพรังสีได้ครับ

    อีกประการหนึ่งก็คือ ปกติพิษทั่ว ๆ ไปจะไม่ส่งผลถึงระดับต่ำกว่าระดับโมเลกุล แต่กัมมันตภาพรังสี (โดยเฉพาะรังสีแกมม่า) สามารถส่งผลให้ bond ระหวางอะตอมผิดไปจากเดิมได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดของ fallout (ฝุ่นกัมมันตรังสี) ซึ่งยาอะไรก็ตามที่ปกติสามารถใช้รักษาพิษได้ก็ไม่น่าจะรักษาผลที่เกิดจากกรณีนี้ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2007
  11. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เรียนคุณไทรครับ

    ผมไม่ทราบว่าโบราณขนาดไหน ดังนั้นผมจึงฝากคุณมีดให้ช่วยสอบถามพระเกจิอาจารย์ให้ด้วยครับ ว่าเวอร์คหรือไม่เวอร์ค มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังรอการพิสูจน์อยู่อีกมาก แต่สูตรนี้ผมยังคงเก็บเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินเพราะดีกว่าจะรอวันตายครับใครใคร่เก็บก็เก็บใครไม่อยากเก็บก็ไม่ต้องเก็บ ไม่ได้ไปบังคับจิตใจใคร ถ้าใครคิดว่ามียาดีก็บอกๆกันมาครับผมขออนุโมทนาด้วย

    ทศพร
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณคุณทศพลมากๆครับ ข้อมูลนี้เคยทราบมาเหมือนกัน แต่อาจยังไม่มีผลการพิสูจน์ในห้องแลปออกมายืนยัน บ้างก็บอกว่าน้ำผึ้งก็สมานแผลได้..เราฟังไว้ไม่เสียหลายถ้าหากมีพระหรือผู้รู้ในอดีตท่านเคยกล่าวไว้นะครับ

    แต่การป้องกันฝุ่นรังสีพวกนี้ พาหะของมันก็คือลมและฝน ถ้าเราอยู่ห่างจากศูนย์กลางระเบิดอย่างประเทศไทย ก็มีห้องใต้ดินหรือ ใช้ดินกั้นหนาสัก 2-3 ฟุต และชุดพลาสติกราคาถูกห่อหุ่ม ไม่ให้ผิวหนังสัมผัสรังสีโดยตรงก็ช่วยได้มากๆแล้ว..ราวๆ 2 วันรังสีจะลดลงเหลือ 1/100 ส่วน ลดลงตามชั่วโมงที่ผ่านไป สามารถออกมาข้างนอกได้บ้างแล้วแต่อย่าอยู่นานๆ (ต้องสวมชุดป้องกันคลุมศรีษะไว้) ก่อนเข้าบ้านก็ถอดออกฉีดน้ำและแช่น้ำไว้ พยายามอย่าเอาฝุ่นรังสีติดเข้ามาในบ้านเด็ดขาด..

    ตามร่างกายก็ใช้ทิงเจอร์ไอโอไดน์ทาตามแขนขา และท้อง..ป้องกันเซลผิวหนังไว้ก่อน..ก็หวังว่าเมืองไทยคงไม่หนักหนาสาหัสเหมือนที่อื่นๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2007
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ยาอายุวัฒนะ

    [FONT=Tahoma,Helvetica,Sans-Serif]<<< น้ำผึ้ง มะนาว เกลือ น้ำอุ่น >>>[/FONT]
    [FONT=Tahoma,Helvetica,Sans-Serif][/FONT]
    [FONT=Tahoma,Helvetica,Sans-Serif][/FONT]
    สามอย่างแค่นี้แหละ ดื่มทุกวัน เป็นยาขนานดี ง่ายๆ แค่นี้

    น้ำผึ้ง จะทำให้ผิวพรรณสวย
    มะนาว ทำให้เลือดที่เป็นก้อน สลายตัว
    เกลือ บำรุงกระดูก และ กัดพิษที่มีในกระดูกออกมา
    น้ำอุ่น เป็นตัว ผสมผสานสามชนิดเข้าด้วยกัน แล้วทำให้ฉีดของสามอย่างไปตามร่างกาย


    จริงเป็นสูตรง่ายๆ แต่อันนี้เป็นอายุวัฒนะ แก้โรคได้สาระพัดอย่าง แล้วยังบำรุงความงามอีกต่างหาก จริงๆ ยาขนานนี้ได้มาจากพระสงฆ์รูปหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนามละกัน) ลองดูได้ ได้ผลอย่างไรมาบอกด้วย [​IMG]
     
  14. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649


    น้ำข้าว และน้ำซาวข้าว นั้นใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างครับ...ลองค้นดูใน Net นะครับ

    น้ำซาวข้าว...นั้นล้างสารเคมีและยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนมากับผักได้...

    น้ำข้าว...นั้นให้พลังงานได้ (สำหรับผู้ป่วย) และน่าจะมีผลในการล้างพิษออกจากร่างกาย เช่น พวกที่ทานชีวจิตเพื่อล้างพิษ

    คำว่า...พิษ...ที่ว่านี้ก็คือ...สารพิษตกค้างในร่างกาย

    1. หากโดนรังสี...ส่วนของร่างกายที่โดนรังสีก็จะเสียหายและแผลจะกลายเป็นพิษต่อร่างกาย (รวมถึงการติดเชื้อ)... การได้อาหารประเภทล้างพิษก็จะช่วยบรรเทาอาการแพ้พิษเนื่องจากเป็นแผลได้

    แต่ทางที่ดีควรป้องกันการปนเปื้อนของรังสีดีกว่าครับ...

    2. น้ำตาล และน้ำผึ้งช่วยให้แผลสด และแผลเรื้อรัง แห้งและหายเร็วขึ้น ครับ...ยืนยัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2007
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณคร๊าบ!! คุณFalkman คุณZZ เป็นสูตรธรรมชาติที่ใช้ได้ดีครับ
    ยิ่งตอนนี้หลายประเทศเริ่มกลับมาหาตัวยาสมุนไพร พวกสูตรต้นตำรับกันมากขึ้นด้วย ลองทำไว้ทานเอง ง่ายๆใกล้ๆตัวครับ
     
  16. Rattanaporn

    Rattanaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +13,348

    ขอบคุณค่ะ...คุณFalkman....สำหรับสูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว....พอได้สูตรแล้ว...ดิฉันก็ลุกไปทำเลยค่ะ...ตอนนี้ก็กำลังนั่งดื่มอยู่ค่ะ....อร่อยด้วยนะคะ...

    ใช้น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ.....
    น้ำมะนาว 2 ช้อนชา.....
    เกลือ 1/2 ช้อนชา .....
    น้ำอุ่นร้อน 1 แก้ว.....ค่ะ....

    กำลังเป็นหวัดอยู่พอดีเลยค่ะ....พักนี้ร่างกายอ่อนแอ...ได้สูตรยาดีจากคุณFalkman....อาจจะำทำให้หายเร็วขึ้น....(เกี่ยวกันมั้ยเนี้ย....)
     
  17. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    พกพาวัตถุมงคลที่ป้องกันรังสี
    และพยายามระวังไม่ให้จรวดนิวเคลียร์หล่นลงกลางศีรษะ
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791

    หายได้แน่นอน หลวงปู่บอกว่าสูตรนี้พระอาจารย์ของท่านบอกมา แล้วให้บอกต่อๆ กัน

    ทั้งอร่อย ทั้งสุขภาพดี ทั้งยังเสริมความงาม แล้วยังอายุยืนสองหมื่นปีอีก อิอิ

    (f) (f) (f)
     
  19. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ให้เตรียมคาลาไมด์ไว้ด้วยนะครับ ใช้สำหรับรักษาแผลพุพองที่เกิดจากการได้รับกัมมันตภาพรังสี ยาอื่นรักษาไม่หาย แต่ถ้าใช้คาลาไมด์หายแน่นอนครับ อันนี้หลวงพ่อพระราชพรหมยานเคยบอกไว้สมัยที่ท่านยังทรงสังขารอยู่ครับ


    .
    .
     
  20. ขิก

    ขิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,338
    ค่าพลัง:
    +18,756
    คาลาไมด์ อาจสู้ ใจสมายล์ ไม่ได้ก็ได้นะครับ ใจสมายล์เป็นต่อหลายขุม แต่ถ้าใจไมสมายล์ก็ต้อง คาลาไมด์
     

แชร์หน้านี้

Loading...