ตั้งแต่นั่งสมาธิมาไม่เคยเกิดปิติเลยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย teeratoy2002, 29 สิงหาคม 2011.

  1. teeratoy2002

    teeratoy2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +417
    อาจารย์ที่สอนสมาธิท่านบอกว่าปิติต้องเกิด ทุกคนต้องผ่านขั้นตอนนั้ถึงจะเรียกว่าดำเนินถูกทาง แต่ผมไม่เคยเกิดปิติใด ๆ เลย ไม่เคยตัวสั่น ขนลุกขนพอง ตัวโคลง หรือน้ำตาไหลเลย ขณะนั่งสมาธิก็รู้สึกตัวดีทุกอย่าง ปรกติจะนั่งในห้องนอนคนเดียว ก่อนจะนอนเกือบทุกวัน แต่ในขณะที่นั่งก็จับลมหายใจไปเรื่อย ๆ พร้อมบริกรรม พุท โธ แต่ถ้ามีเหตุการใดเกิดขึ้นภายนอกกายก็จะรู้สึกตัว สะดุ้ง อยู่เสมอ เหมือนทำสมาธิแต่ไม่ก้าวหน้าเลย ผมควรจะแก้ไขยังไงดีครับ สมาธิถึงจะนิ่งกว่านี้ แต่เคยมีอยู่คืนนึง หลังจากนั่งสมาธิเสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอน พร้อมกับบริกรรม พุท โธ ไปด้วยจนหลับ ปรากฏว่ากลางคืนสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็มองเห็นว่าเป็นห้องของตัวเอง แต่รู้สึกไม่อยากขยับตัว แค่อยากมองไปรอบ ๆ แต่แปลกว่าทำไมขยับตัวไม่ได้ทั้งที่ลองพยายามดูก็ขยับไม่ได้ เลยลองสำรวจตัวเองดูปรากฏว่าภายในห้องที่เห็นทุกอย่าง อย่างชัดเจนนั้นเห็นโดยไม่ได้ลืมตาครับ เพราะตอนนั้นเหมือนรู้สึกตัวได้ดีว่าตายังหลับอยู่ แต่เห็นทุกอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ก็ค่อย ๆ ดูไปซักพักพอเห็นว่าไม่มีอะไรมากกว่านั้นก็หลับไปตามปรกติ พอตื่นเช้ามาก็ยังจำเหตุการณ์ได้ดียืนยันว่าไม่ได้ฝันเพราะรู้ตัวตลอด ตั้งแต่นั้นมาพยายามปฏิบัติให้เกิดเหตุนั้นอีก แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย วานผู้รู้ช่วยแนะนำการปฏิบัติให้ผมด้วยครับ ว่ายังขาดสิ่งใดไป ขอบคุณครับ
     
  2. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การปฎิบัตินั้น ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องมีปิติก็ได้ครับ ที่จำเป็นเพราะต้องตามขั้นตอนครับ

    แต่หากเคยปฎิบัติมาไว้ขนาดที่ไม่เกิดปิติก็มีอยู่ครับ แต่เป็นของไม่เที่ยงครับ

    และอาการสะดุ้งที่คุณเป็นอยู่นั้นจะเรียกว่าปิติก็ได้นะครับ ดั่งตัวอย่างที่ผมจะกล่าว

    เวลาที่ดีใจมากๆ อารการที่เกิดขึ้นขณะนั้น หากเคยเป็นให้สังเกตุไว้

    เวลาที่ตกใจ อาการที่เกิดขึ้นขณะนั้น หากเคยเป็นให้สังเกตุไว้

    เหตุเพราะอาการปิติมีลักษณะคล้ายคลึงกับอาการเหล่านี้ครับ

    ส่วนเรื่องที่เห็นในขณะที่หลับตาอยู่ดั่งที่กล่าวน่ะครับ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ สำหรับนักปฎิบัติ

    แต่อย่าไปยึดติดครับ มีได้ก็หายได้ครับ จะสามารถคงอยู่ได้นาน หากปฎิบัติจนชำนาญเท่านั้นครับ
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ปัญญารู้ทุกข์ รู้ที่ทุกขสัจ ไม่ใช่ทุกขเวทนา

    ปิติเกิด หรือ ไม่เกิดไม่สำคัญ

    ถ้าชีวิตนี้ต้องการสมาธิอย่างเดียว ก็ขอตอบสมาธิอย่างเดียว

    ต้องการสมาธิทางตา พึงใส่ใจในการเห็น

    ต้องการสมาธิทางหู พึงใส่ใจในการได้ยิน

    ต้องการสมาธิทางใจ พึงใส่ใจความรู้สึกใจที่เกิด
     
  5. ตื่นซะที

    ตื่นซะที สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +14
    อาการปิติจะเกิดหรือไม่ไม่ต้องไปสนใจครับ ของผมเคยมีอยู่ครั้งนึง นั่งได้แป๊บเดียวมันดิ่งเลยยังไม่ทันเกิดปิติอะไรเลย รู้ตัวอีกทีก็ไม่หายใจซะแล้ว(จริงๆยังหายใจแต่ความรู้สึกทางร่างกายโดนตัดทิ้ง)นั่งไปเรื่อยๆครับอย่าไปอยากได้อย่างนั้นอย่างนี้มันเป็นกิเลส ใจมันจะไม่สงบนิ่งเป็นจุดเดียว คิดซะว่าเมื่อก่อนไม่เคยทำไม่เคยได้ก็ไม่เห็นอยาก ปัจจุบันทำได้แค่ไหนมันก็เท่ากับเป็นกำไรไม่มีขาดทุนแน่นอน ส่วนอาการที่คุณว่าถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วครับ เจริญในธรรม
     
  6. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ได้ปิติ ยังมีเหนือปิติ
    ได้บางอย่าง มีเหนือกว่า บางอย่าง

    ได้ทางพ้นทุกข์ จบลงที่การพ้นทุกข์

    ตั้งมั่นพอดี รู้เห็น ตามจริง
     
  7. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    ปิติ..! ถ้าได้แล้วสนุกครับ เป็นเหมือนของว่างชาววัง

    แต่หากไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา รู้รู้ไป พยายามชูใจเรา กับอาการพอใจไม่พอใจ ไม่ยินดียินร้ายต่อผัสสะ
    ไม่ต้องสนใจกับการหาของว่างนั้น

    มานะ..อยู่ไหน..?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2011
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    จริงๆคือ อาการปิติ กับ นิมิต นี่เป็นเครื่องหมายบอกได้ว่าจิตเข้าสู่ อุปจารสมาธิ ต่อจากนั้น ก็จะเป็นการดำเนินฌาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ผู้ปฏิบัติต้องเจอ...นะครับ...

    แต่ถ้าตอนนี้ยังไม่เจอก็ไม่เป็นไร...ทำบ่อยๆ...อีกหน่อยมีเหตุให้เกิดมันก็ต้องเกิดหละครับ...ทำต่อไปแบบสบายๆ เดี๋ยวก็มาเอง....เมื่อมาก็ไม่ใช่ไปยึดติดมันนะครับ...ธรรมอื่นที่สูงกว่ามีอยู่...
     
  9. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เพราะมันตกภวังค์ไปหมดนะสิครับ สมาธิจึงไม่เกิด การบริกรรมไม่ใช่บริกรรมแบบท่องบ่น ความบริกรรมให้มันถึงจิตถึงใจครับ ถ้าเราบริกรรมแบบท่องบ่น แต่จิตใจไม่ได้จับการบริกรรมนั้น มันก็จะเข้าไม่ถึง ทั้งสมาธิ ทั้งสติ มันก็ไม่เจริญ

    การบริกรรมต้องวางใจให้ดี ตึงไปก็เครียดเคร่งปวดหนึบ ๆ อ่อนไปก็กำลังไม่มี ฟุ้งบ้าง ตกภวังค์บ้าง

    ลองดูใหม่นะครับ พุทโธ เ้ข้าออก พองยุบ แนบให้มันถึงใจไปเลย ตามกำกับให้ดี หลุดก็ตั้งต้นใหม่ ไม่นาน ทั้สมาธิ ทั้งสติ เจริญแน่นอนครับ
     
  10. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    มันจะมีขั้นปีติปฏิสังเวที รู้พร้อมอาการของปีติเราดูเวลาหายใจเข้ายาว-ออก
    ยาวก็ได้ก็เป็นอาการปิติ หรือในชีวิตประจำวันอะไรที่เกิดปีติเราใช้สัญญาดึงมา
    ก็ได้เพื่อให้ศึกษาอาการของปีติ ส่วนการเห็นขณะหลับตาเหมือนลืมตาจิตเข้าสู่
    อุปจารสมาธิ มีความเป็นทิพย์
     
  11. ธรรมภัฎ

    ธรรมภัฎ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +734
    สัญญาจากการทำสมาธิ เป็นสัญญาที่มีกำลังมาก เป็นส่วนดีที่เราต้องรักษาไว้ คราวหน้าถ้าเดินจิตอีกก็เอาอารมณ์ที่เราเคยได้นั่นแหละ ระลึกให้ได้ว่าอารมณ์แบบนี้แหละที่เราต้องการเข้าไปอยู่อาศัยด้วย จะเดินจิตต่อก็ยิ่งดีเลย

    ฌานะสัญญา

    เจริญธรรม
     
  12. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ถ้าจำไม่ผิด เจ้าของกระทู้ เขาเพิ่งเปลี่ยนศาสนา ได้มาประมาณสองปีแล้ว
    ถ้าจำผิดก็ขออภัย

    มีสองอย่าง
    1. หนักแน่นก็ไม่มีปิติเลยก็ได้
    2. ภาวนา ไม่ตรง ก็ไม่เกิดได้เหมือนกัน
     
  13. teeratoy2002

    teeratoy2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +417

    ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ จะนำมาปรับปรุงตัวเองครับ คุณหลบภัยจำไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่ผมไม่นึกว่าจะมีคนจำได้ แต่สงสัยว่าข้อ 2 ภาวนาไม่ตรง ก็ไม่เกิด คืออะไรครับ หรือว่าคำภาวนาพุท โธ นั้นยังไม่ถูกต้องครับ
     
  14. อหิงสะกะ

    อหิงสะกะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +82
    ผมว่าลองผ่อนคลายอารมณ์ดูบ้างก็ดีนะครับ

    บางครั้งเราอาจจะตึงเกินไป ลองทำสมาธิแบบสบายๆ เหมือนกับเราอยู่คนเดียวในจักรวาล

    เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ลองดูนะครับไม่เสียหายหรอก
     
  15. อมิตพระ

    อมิตพระ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +44
    ผมติดปิติมานานหลายปี..ถ้าว่ามันดีก้ดีแต่มันก้ไม่คืบหน้าเพราะรู้แน่ว่าต้องคืบหน้าได้มากกว่านี้..ผมอาศัยเจริญสมาธิพอสงบแล้วลงสู่การพิจารณาลงในธรรม..ในร่างกาย..ในทุกขัง..อนิจจัง..อนัตตา..แรกๆธรรมมะในหัวข้อที่พิจารณาจะแตกตัวออกให้เราพิจารณาลงไปเรื่อยๆ..พอถึงที่สุดจะเกิดปิติทราบซ่านภายในเพราะรู้เห็นถูกต้องตามความเป็นจริง..ปิติแรกๆเกิดหนึ่งครั้งต่อวัน สองครั้ง สามครั้ง ห้าครั้งต่อวัน แต่เป็นปิติเพียงเกิดจากวิปัสนาแต่พอชำนาญแล้ว.ทุกวันนี้.พอนั่งปุ็บนึกถึงสิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตาจิตก้เห็นอย่างนั้นทันที..มันก็เข้าปิติไปอย่างรวดเร็ว..นั่งยิ้มอยู่ตลอดเลย..แต่นานเข้าก็พบว่า..กำลังมันแค่กดกิเลสเหมือนหินหนักๆที่ทับหญ้าไว้กำลังตัดกิเลสมีไม่มาก..จำเป้นต้องหยุดคิดหันมาหาอารมณ์สมถะแทน..แต่กว่าจะได้พอนั่งก้เข้าปิติทุกที..5ปี..ต้องตัดสินใจหยุดไปหนึ่งปีและปีนี้มุ่งเอาทางสงบในแนวสมถะเพื่อให้เกิดกำลังพอๆกับฝ่ายคิดคือวิปัสนา..และตอนนี้ก็มีความพรากเพียรพยายามอยู่..ขอให้คุณสงบใจลงหันเข้าไปพิจารณาบทธรรมะเสียก่อน เช่นบทแรกคือ..ชีวิตเป็นของไม่เที่ยงความตายเป็นของเที่ยง..ถามหาเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นพิจารณาลงไปลงไปแล้วคุณจะรู้คำตอบ..ที่ว่าธรรมะไม่โกรกชันเหมือนเขาขาด..แต่จะลาดลงไปเป็นลำดับลึกลงไปเป็นลำดับคุณจะได้คำตอบด้วยตัวเอง..จะเกิดปิติจาการรู้เห็นตามธรรม..ซึ่งยังประโยชน์ให้บบรลุมรรคผลอีกด้วย..แต่ต้องเพียรทำนะครับอย่าไปเร่งเอาผล..วันนี้ไม่ได้พรุ่งนี้ก็ต้องทำ 3วัน3อาทิตย์3เดือน3ปี..คุณอย่าทิ้งความเพียรขอให้มีอิทธิบาทสี่ไว้..หวังว่าพอจะเป็นแนวทางให้คุณได้บ้าง...สาธุ
     
  16. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ขอถามนิดนึง คุณภาวนาแบบไหนมา ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม
     
  17. Tamsc14

    Tamsc14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +204
    คุณลองนั่งไปลองดู ว่าฐานจิตเราอยู่ตรงไหนก็ให้กำหนดจิตไว้ตรงนั้นครับ ฐานจิตของคนเราแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคน อยู่ตรงหน้าผาก ตรงใบหน้า ตรงปลายหมูก หรือตรงหน้าอกซ้าย หรือตรงท้องน้อย การเกิดปิติไม่เที่ยงแท้ ครับยังมียิ่งกว่าปิติรออยู่ข้างหน้าอีกพยายามทำไป อิทธิบาท 4 เท่านั้นครับจะเกิดผลสำเร็จ
     
  18. teeratoy2002

    teeratoy2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +417
    นั่งแบบจับลมหายใจเข้า ก็รู้สึกว่าเข้า ภาวนา...พุท หายใจออก ก็รู้สึกว่าออก ภาวนา...โธ ให้สติจับอยู่ที่ลมหายใจเข้า ออก กับ คำว่าพุท โธ ครับ ไม่ทราบผิดหรือเปล่า วิธีที่ทุก ๆ ท่านแนะนำมา จะลองเอามาปฏิบัติกับตัวเองเรื่อย ๆ นะครับ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีซักวิธีที่ตรงแน่วไปสู่จุดหมายที่ต้องการเลยครับ แต่น่าจะเป็นการยาก เพราะแต่ละคนสะสมบุญมาไม่เท่ากัน ผมเองสงสัยจะต้องเร่งสะสมไปเรื่อย ๆ แหละครับ โดยส่วนตัวเมื่อก่อนข้อเสียของตัวผมเองคือรู้มากไปหน่อย ตอนนั้นเมื่อหลายปีก่อนตื่นเต้นกับการได้รู้ว่านั่งสมาธิแล้วมันดีขนาดไหน เลยหาหนังสือมาอ่านๆๆๆ อ่านมากไปกลายเป็นคนรู้มากเวลาปฏิบัติจริง ๆ เลยไม่เอาไหน ต่อ ๆ มาก็เลยเลิกอ่านแล้วปฏิบัติเอาเหมือนคนโง่เหมือนคนที่ไม่รู้อะไร บางวันนั่งไปก็สะดุ้งไปเวลามีของตกหล่น หรือมีเสียงอะไรดังแก๊กนึงก็สะดุ้งไปหมด แต่ไอ้ครั้นจะนั่งเหมือนคนโง่ไปเรื่อย ๆ ก็กลัวว่าจะต้องโง่จนตายเสียก่อนก็ยังไม่เห็นผล มันก็น่าเสียดายถ้าตายโดยที่ยังไม่รู้อะไร กลัวจะตายแบบเสียชาติเกิดน่ะครับ
     
  19. teeratoy2002

    teeratoy2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +417
    ฐานจิตอยู่ตรงไหน สังเกตุยังไงครับ ปัจจุบันตอนหายใจเข้ารู้สึกได้ชัดเจนที่บริเวณดั้งจมูก และลงที่หน้าท้องเลย หายใจออกก็เหมือนกันครับ
     
  20. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ขออนุญาติแนะนำ ได้เท่าที่รู้นะ แนะนำให้เดินจงกรมก่อนการนั่งสักหนึ่งโมง
    นี่ไม่นานนะเดินระยะทางสัก 10 เมตร นี่ได้ประมาณ 120 รอบ
    เพราะว่าคุณเป็นคนที่ิคิดเยอะ คิดโน้นคิดนี่พอไปนั่งเลยนี่ก็มีแต่ความฟุ้ง
    สติเอาไม่อยู่เพราะขาดทักษะการรู้ แบบการภาวนา
    เอางี้นะ ตลอดเวลาที่ทำกิจกรรม ตั้งแต่ืลืมตาก็ตั้งสติกำหนดรู้ไป
    และทำข้อวัตร ไปด้วย เดินจงกรมก่อนนั่ง แนะนำได้เท่านี้ค่ะ

    สาเหตุที่คุณไม่เจอปิติ เพราะคุณคิดล่วงหน้าไปก่อน ที่สติจะเดินรอบ

     

แชร์หน้านี้

Loading...