เตือนเรื่อง โรคระบาด !!!!!!!!!!!! - โรคที่อาจมาหลังน้ำท่วม

กระทู้นี้เอาไว้สำหรับอัพเดท เกี่ยวกับโรคระบาด เชื่อโรค จากสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกเพิ่มเป็น 59 คน</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>จาการ์ตา 12 ม.ค. – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวในวันนี้ว่า หญิงชาวอินโดนีเซียเสียชีวิตจากไข้หวัดนกอีกราย นับเป็นรายที่ 59
เหยื่อรายล่าสุดเป็นหญิงวัย 37 ปี นับเป็นเหยื่อที่เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันในอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติในการควบคุมการระบาดของไข้หวัดนก ส่วนสามีและลูกชายวัย 18 ปี ของหญิงดังกล่าวกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลเดียวกันในกรุงจาการ์ตา เนื่องจากมีอาการของการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช 5 เอ็น 1
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า อาการของเหยื่อทรุดหนักลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และเสียชีวิตเมื่อค่ำที่ผ่านมา ครอบครัวนี้อาศัยในเมืองตังเกรัง ชานกรุงจาการ์ตา ก่อนหน้านี้เพิ่งมีเด็กชายวัย 14 ปี จากเมืองเดียวกันเสียชีวิตไปเมื่อวันพุธ หลังเข้ารับการรักษาตัวเป็นเวลา 4 วัน. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เกาหลีใต้เผยหวัดนกติดต่อสู่คนจากการระบาดล่าสุด</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>โซล 11 ม.ค. - เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวว่า ไวรัสหวัดนกติดต่อสู่คนได้ในช่วงที่มีการระบาดในหมู่สัตว์ปีกครั้งล่าสุด แต่คนที่ติดเชื้อกลับไม่ปรากฏอาการของโรคหวัดนก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้แถลงว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้ซึ่งไม่ได้เปิดเผยชื่อ ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 แต่ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นตามธรรมชาติเพื่อต้านทานโรคดังกล่าว และไม่ปรากฏอาการป่วย ทั้งนี้ การระบาดของโรคไข้หวัดนกที่เมืองกิมเจ ซึ่งอยู่ห่างไปทางใต้ของกรุงโซล 257 กิโลเมตร เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ต้องฆ่ากำจัดสัตว์ปีกหลายพันตัวเพื่อสกัดกั้นการระบาดของโรคดังกล่าว. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เกาหลีใต้เผยหวัดนกติดต่อสู่คนจากการระบาดล่าสุด</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>โซล 11 ม.ค. - เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวว่า ไวรัสหวัดนกติดต่อสู่คนได้ในช่วงที่มีการระบาดในหมู่สัตว์ปีกครั้งล่าสุด แต่คนที่ติดเชื้อกลับไม่ปรากฏอาการของโรคหวัดนก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้แถลงว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้ซึ่งไม่ได้เปิดเผยชื่อ ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 แต่ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นตามธรรมชาติเพื่อต้านทานโรคดังกล่าว และไม่ปรากฏอาการป่วย ทั้งนี้ การระบาดของโรคไข้หวัดนกที่เมืองกิมเจ ซึ่งอยู่ห่างไปทางใต้ของกรุงโซล 257 กิโลเมตร เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ต้องฆ่ากำจัดสัตว์ปีกหลายพันตัวเพื่อสกัดกั้นการระบาดของโรคดังกล่าว. –สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Epidemic Hazard - Asia

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=996 border=0><TBODY><TR><TD class=loc_hdr colSpan=4>Event summary</TD></TR><TR><TD colSpan=4></TD></TR><TR><TD>GLIDE Number</TD><TD>EH-20070114-9343-THA</TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Event type</TD><TD>Epidemic Hazard</TD><TD>Date / time [UTC]</TD><TD>14/01/2007 - 04:06:21 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR><TD>Country</TD><TD>Thailand</TD><TD>Area</TD><TD>Patong Beach</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>County / State</TD><TD>-</TD><TD>City</TD><TD>Phuket</TD></TR><TR><TD>Cause of event</TD><TD>Unknow</TD><TD>Log date</TD><TD>14/01/2007 - 04:06:21 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Damage level</TD><TD>Moderate </TD><TD>Time left</TD><TD>- </TD></TR><TR><TD>Latitude:</TD><TD>N 7° 53.000</TD><TD>Longitude:</TD><TD>E 98° 24.000</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Number of deaths:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of injured persons:</TD><TD>Not or Not data</TD></TR><TR><TD>Number of missing persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of infected persons</TD><TD>5</TD></TR><TR><TD>Number of evacuated persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Summary:</TD><TD>5 persons *</TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2>-</TD></TR><TR><TD colSpan=4><HR><SMALL>* Attention! The number of stakeholders is based on estimation, only for information!</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD colSpan=4>DESCRIPTION</TD></TR><TR><TD colSpan=4>The transfers of hundreds of Finnish tourists have begun from a hotel in Phuket to other accommodation, following an outbreak of Legionnaires' disease in the popular beach resort hotel. Two Finns, one Norwegian, and two Swedish tourists have fallen ill with pneumonia caused by Legionella bacteria, after having stayed at the Phuket Grand Tropicana Hotel in Patong Beach, Phuket. All had been resident at the hotel in the period since November 20th. Legionnaires' disease does not necessarily cause any symptoms at all, while for patients in poor health the disease can be life-threatening. The National Public Health Institute has recommended the Finnish travel operator Aurinkomatkat should transfer all its clients from the hotel as soon as possible. The hotel must not be used until the water and air-conditioning systems have been cleaned and appropriate certifications on the completion of the measures have been received. The National Public Health Institute is urging all persons who have been resident in the hotel since November 20th and have fallen ill with fever of more than 38°C either during the trip or within 14 days after leaving the hotel to go to the doctor as soon as possible. However, if the symptoms have already disappeared, there is no need to seek medical care.

Pneumonia caused by Legionella bacterium can be fatal for the elderly with heart and lung conditions, says epidemiologist Tran Minh Nhu Nguyen from the National Public Health Institute. The Grand Tropicana has a constant quota of 125 rooms for Finnish travellers, and currently, more than 300 tourists are being acccommodated at the hotel, reports Tom Selänniemi of Aurinkomatkat. Other accommodation has already been found for part of the guests, even though it is not an easy task with the Chinese New Year being celebrated soon. According to Selänniemi, the travel agency has contacted all its customers who might have been at risk of having contracted the disease. Those who are leaving for Phuket soon have been offered alternative destinations, while the customer is also entitled to cancel the entire trip cost-free.
<SCRIPT type=text/javascript>function kezel(box,link1,link2) { if (box.style.display=='none') { box.style.display=''; } else { box.style.display='none'; } link1.style.display='none'; link2.style.display=''; }function linkset(box,link) { box.style.display='none'; link.style.display='none'; }</SCRIPT>

http://hisz.rsoe.hu/alertmap/woalert_read.php?id=9343&lang=eng
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>หวั่นโรคระบาดซ้ำเหยื่อน้ำท่วมภาคใต้มาเลเซีย</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>กัวลาลัมเปอร์ 15 ม.ค. – สถานการณ์อุทกภัยระลอกสองในภาคใต้ของมาเลเซีย ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน ขณะที่ยอดผู้อพยพทะลุหลัก 100,000 ราย
แหล่งข่าวทางการรัฐยะโฮร์ เปิดเผยว่า ในเขตโกตา ติงกี เป็นพื้นที่ประสบภัยรุนแรงที่สุด ระดับน้ำสูงถึง 4 เมตร ค่ายพักชั่วคราวหลายแห่งมีผู้อพยพแน่นขนัดจนไม่สามารถรับผู้อพยพเพิ่มเติมได้อีก จากความแออัดเกรงว่าจะเกิดโรคระบาดซ้ำเติมผู้ประสบภัย นอกจากนี้ อาหารและเสื้อผ้าสำหรับผู้ประสบภัยในค่ายเริ่มขาดแคลน ต้องการรับบริจาคโดยด่วน ปัจจุบันมีผู้อพยพประมาณ 105,000 คน ในค่ายอพยพกว่า 300 แห่ง ทั่วทั้งรัฐยะโฮร์
รายงานจากสำนักงานพยากรณ์อากาศมาเลเซีย ระบุว่า ในพื้นที่ภาคใต้จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องไปอีกจนถึงกลางสัปดาห์นี้
นายเช โมอิน อุมาร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารภัยพิบัติมาเลเซีย ระบุว่า รัฐยะโฮร์ยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินในอุทกภัยครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม หากจำนวนผู้อพยพเกินกว่า 100,000 คน หรือระดับน้ำขึ้นสูงจนเป็นอันตรายต่อเขื่อนในพื้นที่ ทางการจะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐต่อไป. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">พบเชื้อหวัดนกในเป็ดไล่ทุ่ง ปศุสัตว์สั่งทำลายยกฝูง [15 ม.ค. 50 - 18:03]

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศึกษาแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก ครั้งที่ 2/2550 วันนี้ (15 ม.ค.) ว่า เป็นการทบทวนการเฝ้าระวังโรคในประเทศไทย โดยภายหลังจากพบเชื้อไข้หวัดนกล่าสุดในเป็ดที่จังหวัดพิษณุโลก ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับมาตรการควบคุมไข้หวัดนกในเป็ดไล่ทุ่งมากขึ้น โดยยังยืนยันข้อมูลว่า เป็ดไล่ทุ่งเป็นสัตว์ที่รับเชื้อแล้วไม่แสดงอาการ อย่างไรก็ตาม การจัดการเป็ดให้เข้าระบบนั้น มีผลด้านสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งมีหลายฝ่ายเสนอให้ใช้มาตรการสังคมจัดการกันเอง และให้ประชาชนในชุมชนเสนอรูปแบบการเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งที่ต้องการขึ้นมา นอกจากนี้ ยังได้เพ่งเล็งไปที่การควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกช่วงเทศกาลตรุษจีน ให้เข้มข้นขึ้น โดยรวมไปถึงโรงฆ่าสัตว์ที่จะเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคได้ง่าย ส่วนมาตรการที่ดำเนินการอยู่แล้วให้ดำเนินต่อไป แต่เน้นให้ความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น ขณะที่มีความเสี่ยงในส่วนของไก่ชน ที่ยังพบบ่อนไก่เถื่อนจำนวนมาก และยังตั้งข้อสังเกตว่า คนเลี้ยงสัตว์อาจเป็นพาหะสำคัญของโรคด้วย<O</O
<O</O

ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ นายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เรียกนายยุคล พร้อมอธิบดีกรมปศุสัตว์ เข้าพบด่วน เพื่อหารือมาตรการรับมือหลังพบเชื้อไข้หวัดนกแล้ว

<O</Oขณะที่น.สพ.นิรันดร เอื้องตระกูลสุข ผู้อำนวยการสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ กล่าวว่า จากผลตรวจทางห้องปฏิบัติยืนยันแล้วว่า พบเชื้อไวรัส H5N1 หรือเชื้อไข้หวัดนก จำนวน 2 ตัวอย่างในฝูงเป็ดที่ ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากได้รับรายงานการป่วยตายผิดปกติ เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา และได้สั่งการให้ทำลายเป็ดทั้งฝูงจำนวน 2,100 ตัว เมื่อวันที่ 12 มกราคม ตามมาตรการเข้าทำลายหากสัตว์ปีกตายเกินร้อยละ 5 ภายใน 2 วัน ขณะยังไม่ทราบสาเหตุการแพร่เชื้อ โดยบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีนกธรรมชาติอยู่จำนวนมาก แต่เชื่อว่าจะไม่ลุกลามรุนแรง เพราะไม่ใช่จุดที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่น จากนี้จะรายงานผลดังกล่าวไปยังองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศภายในวันนี้<O</O
<O</O

“ไม่น่าจะลุกลามรุนแรง เพราะหลังเจ้าหน้าที่ทราบก็เข้าไปทำลายทันที และบริเวณดังกล่าวมีการเลี้ยงสัตว์ปีกไม่หนาแน่น จึงประเมินว่า ไม่น่าห่วง แต่ที่ห่วงคือบริเวณดังกล่าวมีนกในทุ่งนาเยอะ ซึ่งหากช่วงพบเชื้อมีการนำเป็ดออกไปเลี้ยงในทุ่งนา ก็ยังติดตามอยู่ว่า มีนกฝูงใดที่มาคลุกคลีหรือไม่” น.สพ.นิรันดร กล่าว

<O</Oสำหรับลักษณะของฝูงเป็ดดังกล่าว น.สพ.นิรันดร กล่าวว่า เกษตรกรรายนี้ทางกรมปศุสัตว์เคยให้ความช่วยเหลือพันธุ์เป็ดสำหรับการนำเข้าเลี้ยงในระบบโรงเรือน แต่จากการติดตามพบว่า ไม่ได้นำเข้าระบบโรงเรือนทั้งหมด โดยมีการนำเป็ดไปเลี้ยงในทุ่ง ดังนั้น การทำลายเป็ดในครั้งนี้คงจะไม่ให้ความช่วยเหลือ เพราะนโยบายคือการทำให้เป็ดเข้าอยู่ในระบบที่ปลอดภัยและป้องกันโรคได้<O</O
<O</O


“ทางกรมปศุสัตว์ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขดูแลประชาชนในพื้นที่ พร้อมประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง 30 วัน และออกเก็บตัวอย่างสัตว์ปีกรัศมี 5 กิโลเมตรมาตรวจสอบแล้ว โดยตั้งแต่การพบเชื้อครั้งก่อนหน้านี้ ประเทศไทยปลอดเชื้อไข้หวัดนกทั้งสิ้น 166 วัน ขณะที่การลงตรวจสอบในพื้นที่อย่างละเอียดช่วงนี้มีตัวอย่างสัตว์ปีกป่วยตายอีกหลายกรณีที่รอผลตรวจอยู่”น.สพ.นิรันดร กล่าว และว่า การสัมผัสสัตว์ปีกคงต้องระมัดระวังกันมากขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะในเป็ด เนื่องจากในต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตคาดว่าจะเกิดจากการสัมผัสเป็ดที่เป็นโรคไข้หวัดนก ในบ้านเราคงต้องระแวดระวัง ใช้มาตรการเชิงรุกที่จะค้นหาไข้หวัดนกในเป็ดทุกฝูงมากขึ้น ส่วนไก่ชน ไก่พื้นเมือง ที่เป็นจุดเสี่ยงก็ยังคงเข้มงวดเช่นเดิม <O</O
<O</O

ด้านนพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลกขณะนี้ จึงมีความเสี่ยงสูงที่เชื้อไวรัสอาจมีการกลายพันธุ์และระบาดรุนแรง แม้ไทยจะไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกมากว่า 4 เดือนก็ตาม แต่เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมการรับมือหากมีการระบาด จึงได้สั่งการให้ตั้งวอร์รูม (War room) หรือศูนย์รับมือโรคไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่รวมทั้งโรคติดต่ออุบัติใหม่ ปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง โดยมอบให้ นพ.สมยศ เจริญศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อวางแผนประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ให้คำปรึกษา สามารถติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 0-2590-3333 และให้ทุกจังหวัดรายงานผู้ต้องสงสัย/ผู้ป่วยให้กระทรวงฯ ทราบทุกวัน แม้ไม่มีผู้ป่วยที่มีอาการผู้สงสัยหรืออยู่ในข่ายก็ตาม

http://www.thairath.co.th/onlineheadnews.html?id=33534<O></O>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เฝ้าระวัง 1 เดือนหลังหวัดนกระบาดในสัตว์อาจพบในคน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 มกราคม 2550 11:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สธ.เตือนให้เฝ้าระวังหลังพบไข้หวัดนกระบาดในสัตว์ ถือเป็นสัญญาณเตือนในช่วง 1 เดือนอาจจะพบไข้หวัดนกในคนได้ หากพบผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยให้แจ้ง สธ.ทันที

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการพบเชื้อไข้หวัดนกในเป็ดที่จังหวัดพิษณุโลก และนกที่สุพรรณบุรี ถือเป็นสัญญาณเตือนในช่วง 1 เดือน หลังมีการระบาดในสัตว์อาจจะพบโรคไข้หวัดนกในคนได้ จึงฝากเตือนผู้มีอาชีพสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ปีกต้องระวัง ให้ตระหนักถึงการปฏิบัติตนให้ห่างไกลจากโรคไข้หวัดนก

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไทยมีการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในคน และสัตว์ปีกอย่างเป็นระบบ มีการประสานงานกันระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากประชาชนมีอาการเจ็บป่วยสงสัยเข้าข่ายไข้หวัดนก สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ไข้หวัดนก กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 0-2590-3333

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ปลาคลองบางแก้วพิษณุโลก ลอยตายปริศนากว่าแสนตัว</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- พบปลาหลากชนิดลอยตายปริศนาขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่า เต็มลำคลองบางแก้วนับแสนตัว
13.30 น.วันที่ 15 ม.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีปลาแม่น้ำหลากชนิดลอยตายเป็นเบือภายในคลองบางแก้ว ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บริเวณสถานีประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ม.15 ต.บางระกำ อ.บางระกำ พบว่าบริเวณประตูปิดเปิดระบายน้ำเต็มไปด้วยปลาที่ลอยอืดเต็มหน้าประตูระบายน้ำกว่า แสนตัว ส่วนใหญ่เป็นปลากด ปลาแขยง ปลาสร้อย ซึ่งบางตัวมีน้ำหนักถึง 2-3 กิโลกรัม โดยมีชาวบ้านได้มาตักนำไปประกอบอาหาร และบางคนถึงกับนำรถกระบะ มาบรรทุกเพื่อนำไปปรุงเป็นปลาร้า
นายเพลิน นุชสวาท อายุ 46 ปี พนักงานรักษาอาคารประตูระบายน้ำ ทราบว่า พบว่ามีปลาลอยมาติดบริเวณหน้าประตูระบายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.แต่ไม่มาก จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15ม.ค.) พบว่ามีปลาลอยมาติดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากกว่าแสนตัว ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็มาตักและเก็บเอาปลาที่ตัวใหญ่ๆ และบางตัวยังไม่ตายแต่มีอาการเมาน้ำ นำไปประกอบอาหาร
สำหรับสาเหตุการตายของปลาหลากชนิดนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และเชื่อว่าน่าจะเป็นการวางยาในส่วนของต้นน้ำ คงต้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเก็บตัวอย่างปลานำไปตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุที่แน่ชัด เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งในขณะนี้ปัญหาของชาวบ้านที่พบก็คือกลิ่นเหม็นเน่า ที่ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ พร้อมทั้งน้ำในคลองชาวบ้านที่อยู่ติดกับประตูระบายน้ำยังไม่สามารถใช้น้ำในคลองบางแก้วได้ เนื่องจากน้ำนั้นมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง ชาวบ้านจึงต้องใช้รถยนต์ไปบรรทุกน้ำ จากหมู่บ้านใกล้เคียงมาใช้เป็นการชั่วคราว

-->
พบปลาหลากชนิดลอยตายปริศนาขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่า เต็มลำคลองบางแก้วนับแสนตัว
13.30 น.วันที่ 15 ม.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีปลาแม่น้ำหลากชนิดลอยตายเป็นเบือภายในคลองบางแก้ว ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บริเวณสถานีประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ม.15 ต.บางระกำ อ.บางระกำ พบว่าบริเวณประตูปิดเปิดระบายน้ำเต็มไปด้วยปลาที่ลอยอืดเต็มหน้าประตูระบายน้ำกว่า แสนตัว ส่วนใหญ่เป็นปลากด ปลาแขยง ปลาสร้อย ซึ่งบางตัวมีน้ำหนักถึง 2-3 กิโลกรัม โดยมีชาวบ้านได้มาตักนำไปประกอบอาหาร และบางคนถึงกับนำรถกระบะ มาบรรทุกเพื่อนำไปปรุงเป็นปลาร้า นายเพลิน นุชสวาท อายุ 46 ปี พนักงานรักษาอาคารประตูระบายน้ำ ทราบว่า พบว่ามีปลาลอยมาติดบริเวณหน้าประตูระบายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.แต่ไม่มาก จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15ม.ค.) พบว่ามีปลาลอยมาติดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากกว่าแสนตัว ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็มาตักและเก็บเอาปลาที่ตัวใหญ่ๆ และบางตัวยังไม่ตายแต่มีอาการเมาน้ำ นำไปประกอบอาหาร สำหรับสาเหตุการตายของปลาหลากชนิดนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และเชื่อว่าน่าจะเป็นการวางยาในส่วนของต้นน้ำ คงต้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเก็บตัวอย่างปลานำไปตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุที่แน่ชัด เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งในขณะนี้ปัญหาของชาวบ้านที่พบก็คือกลิ่นเหม็นเน่า ที่ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ พร้อมทั้งน้ำในคลองชาวบ้านที่อยู่ติดกับประตูระบายน้ำยังไม่สามารถใช้น้ำในคลองบางแก้วได้ เนื่องจากน้ำนั้นมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง ชาวบ้านจึงต้องใช้รถยนต์ไปบรรทุกน้ำ จากหมู่บ้านใกล้เคียงมาใช้เป็นการชั่วคราว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=8></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Biological Hazard - Asia

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=996 border=0><TBODY><TR><TD class=loc_hdr colSpan=4>Event summary</TD></TR><TR><TD colSpan=4></TD></TR><TR><TD>GLIDE Number</TD><TD>BH-20070116-9394-THA</TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Event type</TD><TD>Biological Hazard</TD><TD>Date / time [UTC]</TD><TD>16/01/2007 - 04:11:50 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR><TD>Country</TD><TD>Thailand</TD><TD>Area</TD><TD>-</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>County / State</TD><TD>Suphan Buri, Phitsanulok Province</TD><TD>City</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Cause of event</TD><TD>Unknow</TD><TD>Log date</TD><TD>16/01/2007 - 04:11:50 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Damage level</TD><TD>Moderate </TD><TD>Time left</TD><TD>- </TD></TR><TR><TD>Latitude:</TD><TD>N 14° 28.000</TD><TD>Longitude:</TD><TD>E 100° 7.000</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Number of deaths:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of injured persons:</TD><TD>Not or Not data</TD></TR><TR><TD>Number of missing persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of infected persons</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Number of evacuated persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Summary:</TD><TD>0 persons *</TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2>-</TD></TR><TR><TD colSpan=4><HR><SMALL>* Attention! The number of stakeholders is based on estimation, only for information!</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD colSpan=4>DESCRIPTION</TD></TR><TR><TD colSpan=4>Thailand found avian flu in pigeons and other wild birds, prompting the government to intensify surveillance for the lethal virus that threatens to infect humans, a senior health official said. Four pigeons were among a group of wild birds that died last month in the central province of Suphan Buri. Tests confirmed they had the H5N1 strain of avian influenza, Thawat Suntrajarn, the Health Ministry's director general of disease control. Thailand, which has the world's third-highest number of human fatalities from H5N1, said yesterday the virus killed ducks in a northern Thai province. That was the first outbreak reported in more than five months in the world's fourth-largest poultry-exporting country. "This is a critical period because there have been a large number of migrating wild birds that probably carry the virus,'' said Thawat. "We have asked all related officials to closely monitor the death of poultry and birds. Any people that have flu-like symptoms with a history of contacting poultry will be quarantined.'' Thailand's Agricultural Ministry yesterday said 2,100 poultry were culled to contain an outbreak in Phitsanulok province, about 377 kilometers (234 miles) north of Bangkok.
<SCRIPT type=text/javascript>function kezel(box,link1,link2) { if (box.style.display=='none') { box.style.display=''; } else { box.style.display='none'; } link1.style.display='none'; link2.style.display=''; }function linkset(box,link) { box.style.display='none'; link.style.display='none'; }</SCRIPT>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>อินโดนีเซียเร่งกวาดล้างสัตว์ปีกทั่วเมืองหลวง

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>จาการ์ตา 21 ม.ค. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียออกกวาดล้างสัตว์ปีกและนกหลายหมื่นตัวทั่วกรุงจาการ์ตา ตามมาตรการหยุดยั้งการระบาดของโรคไข้หวัดนก
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ทางการมีนโยบายกำจัดสัตว์ปีกราว 1 ล้านตัว ในกรุงจาการ์ตา ภายในสิ้นเดือนมกราคม ซึ่งในวันนี้ คาดว่าจะสามารถกำจัดไก่ เป็ด และนกพิราบ ได้ประมาณ 10,000 ตัว โดยเจ้าหน้าที่จะคืนซากสัตว์ปีกที่ชาวบ้านส่งมอบเพื่อนำไปจำหน่ายหรือบริโภค ส่วนสัตว์ปีกที่ติดเชื้อจะถูกแยกไปกำจัดด้วยการเผาทิ้ง
เจ้าหน้าที่ประเมินว่า ทั่วกรุงจาการ์ตา มีการเลี้ยงสัตว์ปีกในครัวเรือนรวมกว่า 350 ล้านตัว ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าของปล่อยให้หากินอยู่นอกบ้าน เป็นผลให้ทางการต้องประกาศให้ประชาชนนำสัตว์ปีกในครอบครองมากำจัดโดยให้ค่าชดเชย และจะเริ่มกวาดล้างสัตว์ปีกที่ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้.-สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตรวจเข้มร้านเชือดไก่ย่านเยาวราช เฝ้าระวังการแพร่หวัดนกจากโรงเชือด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มกราคม 2550 18:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เขตสัมพันธวงศ์ คุมเข้มมาตรฐานสุขอนามัย 5 ร้านเชือดไก่ ถนนมังกร ย่านเยาวราช เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก หารือระยะยาวให้ส่งโรงงานเชือด แล้วนำมาจำหน่ายเพื่อสร้างความมั่นใจปลอดภัยจากหวัดนก

นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เตรียมมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว โดยจะตรวจติดตามการระบาดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขตพื้นที่เสี่ยงที่เคยมีการแพร่ระบาด เช่น หนองจอก มีนบุรี คลองสามวา และทวีวัฒนา ซึ่งเป็นพื้นที่ไก่ชน นอกจากนื้ ยังมีมาตรการด้านสุขอนามัยในพื้นที่เชือดไก่ ย่านคลองเตย และเยาวราช อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยืนยันว่า ยังไม่มีรายงานการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในเขตใดของ กทม.

ด้านนายประเสริฐ อินทุโสมา ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ กล่าวว่า ถนนมังกร ย่านเยาวราช ซึ่งเคยมีร้านเชือดไก่จำนวนมากอยู่ในตึกแถว เมื่อมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก กทม.ได้กำหนดมาตรฐานสุขอนามัย และให้เจ้าของร้านปรับปรุง ปัจจุบันจึงมีเหลือเพียง 5 ราย โดยได้มีการเปลี่ยนสุขาภิบาลของร้านเชือดไก่ให้เป็นตามมาตรฐานโรงเชือดไก่ เช่น กรงไก่จากสุ่มไก่หวาย เปลี่ยนเป็นกรงสเตนเลส แบ่งแยกช่องขี้ไก่ เปลี่ยนพื้นเพื่อให้ทำความสะอาดง่าย เชือดไก่โดยใช้เครื่อง และผู้ค้าที่ต้องสัมผัสไก่ต้องใส่ถุงมือ และหน้ากากปิดปาก แต่ยังขาดเรื่องการบำบัดน้ำเสียที่ไม่ได้มาตรฐานเท่าโรงงาน สำหรับร้านเชือดไก่บนถนนมังกร ทั้ง 5 ร้าน ปัจจุบันมียอดจำหน่ายไก่วันละหลายร้อยตัว

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขตได้เรียกประชุมเจ้าของร้านเชือดทั้ง 5 ราย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปัญหาคือ เรื่องความเชื่อมั่น เพราะเป็นร้านที่อยู่ใจกลาง กทม. จึงมีการหารือว่า ในระยะยาว ทั้ง 5 ร้าน น่าจะเปลี่ยนมาเป็นผู้จำหน่ายไก่ที่เชือดแล้วแทน โดยรวมกันแล้วนำไก่จากที่ร้านส่งไปยังโรงเชือดที่ได้มาตรฐานนอกเมือง แล้วขนส่งเข้ามาจำหน่าย ซึ่งการรวมตัวจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งถูกลง และการเชือดผ่านโรงงานที่ได้มาตรฐานจะได้รับความมั่นใจจากประชาชนมากกว่า” ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ กล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โรคระบาดเริ่มแผ่กระจายทั่วโลกแล้ว