รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

ภาพเหล่านี้น่ากลัวมากครับ

 

ถึง คุณ เกษม...รูปสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล...ยังขาดรูป แผ่นดินแตก แผ่นดินแยก ไฟใต้โลกพุ่งขึ้นมา และ แม่น้ำที่กลายเป็น สายธารลาวา ตึกอาคารบ้านช่อง ทรุดถล่มลง ไหลลง "แม่น้ำเจ้าลาวา" ไปหมด....และภัยจากน้ำ ได้แก่ ปริมาณน้ำล้นเขื่อน เขื่อนแตกและกระแสคลื่นยักษ์ แม่น้ำใหญ่ล้นตลิ่ง น้ำวนขนาดยักษ์ดูดทุกจมลง สะพานข้ามแม่น้ำหักขาด ถนนหนทางขาด กระแสน้ำที่เต็มไปด้วยซุงต้นไม้และซากปรักหักพังพัดทำลายเมืองและทุกสิ่งที่ขวางหน้า น้ำท่วมใหญ่จนเหมือนทะเล....ภาพเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อไป - " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ใช่ครับ ตอนเกิดภัยพิบัติอาจจะมีมากกว่านี้

 

คลายเครียดกันหน่อยครับ​

​

พระเอกในหนัง กับ พระเอกตัวจริง

เห็นเครียดกันมาก เลยหาภาพมาผ่อนคลาย อย่าโกรธกันนะครับ​

 

แต่ก็ตลกดีนะครับ

 

ก้ากๆ
ไม่คิดว่าจะโดนพี่เกษมยิงมุข ครับผม

อันที่จริง ทุกท่านที่อาสามาทำงานเพื่อส่วนรวมทุกๆท่าน ก็ต่างเป็นพระเอก นางเอกกันทุกคนครับ แต่ละคนแต่ละท่านก็ล้วนแต่มีเรื่องราว สตอรี่ของตนเอง กว่าจะดำเนินมาถึงจุดนี้ต่างคนต่างพบเรื่องราวมากมายครับ

ขอยกให้เป็นพระเอก นางเอกกันทุกคนครับ (พระเอกนางเอก ทุกคน ต้องมีจิตใจที่ดีงามนะครับ)

 

" ยักษ์หินที่ถูกสาป จะลุกขึ้นมาอาละวาด "

 

รูปสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล

 

ผมก็เคยได้เห็นในใบคำทำนายภัยพิบัติโลกครับ ว่าจะมียักษ์ที่ถูกสาปไว้ลุกมาอาละวาด

 

รูปสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล

​

 

คงเป็นภัยพิบัติและสงครามแน่นอน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD><TABLE borderColor=#cc6600 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=1><TBODY><TR><TD><TABLE width=700 border=0><TBODY><TR><TD height=79>

<TABLE width=687 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=177></TD><TD width=187></TD><TD width=36> </TD><TD width=269>อาวุธนิวเคลียร์
Nuclear Weapons </TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD>อาวุธนิวเคลียร์ เป็นอาวุธที่ใช้พลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน มีอำนาจในการทำลายสูง ระเบิดนิวเคลียร์หนึ่งลูก สามารถทำลายได้ทั้งเมือง อาวุธนิวเคลียร์มีการนำมาใช้จริงตอนปลายสงครามโลกครั้งที่สอง โดยสหรัฐอเมริกา นำระเบิดนิวคลียร์ 2 ลูก ไปทิ้งที่เมืองฮิโรชิมา และนางาซากิของญี่ปุ่น หลังจากนั้นได้มีการทำการทดลองอีกหลายร้อยครั้ง
</TD></TR><TR><TD><TABLE width=690 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=453>

ประเทศที่แจ้งว่ามีอาวุธนิวเคลียร์แล้ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และปากีสถาน เชื่อกันว่า อิสราเอล ก็มีการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์อยู่ โดยไม่เปิดเผย เกาหลีเหนือเคยยอมรับ กับนักการทูตอเมริกันว่า ได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ยูเครนอาจจะมีอาวุธนิวเคลียร์ อยู่ใครอบครองเช่นกัน ส่วนอิหร่านกำลังถูกสงสัยว่า มีการพัฒนาสมรรถนะในการผลิต หัวรบนิวเคลียร์ขึ้นมาเอง​

</TD><TD width=227>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD>ชนิดของอาวุธนิวเคลียร์</TD></TR><TR><TD>ระเบิดแบบฟิชชัน
ระเบิดนิวเคลียร์แบบฟิชชัน ได้รับพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน เมื่อนิวเคลียสของธาตุหนัก เช่น ยูเรเนียม หรือ พลูโตเนียม แตกออกเป็นธาตุที่เล็กลง จากการยิงด้วยนิวตรอน ซึ่งจะให้นิวตรอนออกมาเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะไปทำให้เกิด ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน ต่อไปเป็นลูกโซ่ ตามประวัติศาสตร์ การเรียกชื่อ ระเบิดอะตอม หรือ A-bomb ชื่อนี้อาจจะไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากพลังงานที่ให้ออกมา จากแรงยึดเหนี่ยวของอะตอม เป็นปฏิกิริยาเคมี ส่วนปฏิกิริยานิวเคลียร์ ให้ออกมาจากแรงยึดเหนี่ยว ของนิวเคลียส ภายในอะตอม แต่เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน จึงยังคงใช้คำว่า ระเบิดอะตอม และยอมรับกันว่า หมายถึงอาวุธนิวเคลียร์ และส่วนใหญ่ มักจะหมายถึง อาวุธจากปฏิกิริยาฟิชชันอย่างเดียว

</TD></TR><TR><TD>

ยูเรเนียม-235 1 อะตอม ให้พลังงานประมาณ 200 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์
ยูเรเนียม-235 1 ปอนด์ (0.45 กิโลกรัม) ให้พลังงานมากกว่า 36 ล้านล้านวัตต์
​

</TD></TR><TR><TD>

<TABLE width=650 border=0><TBODY><TR><TD width=391>

​

</TD><TD width=249>

ปฏิกิริยาฟิชชัน
นิวเคลียสของยูเรเนียม-235 ยิงด้วยนิวตรอน จะแตกออก เป็นนิวเคลียสที่เล็กลง เรียกว่า ผลผลิตฟิชชัน (fission product) โดยให้นิวตรอน และพลังงานจำนวนมากออกมา​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD>

ระเบิดแบบฟิวชัน
ระเบิดฟิวชัน ได้พลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบฟิวชัน ซึ่งนิวเคลียสของธาตุเบา เช่น ไฮโดรเจน และฮีเลียม รวมกันเป็นธาตุที่หนักกว่าและให้พลังงานออกมา อาวุธฟิวชัน ส่วนใหญ่จะเรียกว่า ระเบิดไฮโดรเจน (H-bomb) เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงชนิดแรกที่นำมาใช้ หรือเรียกว่า ระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ เนื่องจากต้องใช้อุณหภูมิสูงมาก ในการทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่
อาวุธนิวเคลียร์โดยทั่วไป หมายถึง อาวุธที่ใช้ปฏิกิริยาฟิชชัน หรือฟิวชันเป็นหลัก ในการให้พลังงานออกมา ความแตกต่างระหว่างพลังงานทั้งสองชนิดนี้ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากเป็นอาวุธสมัยใหม่ที่มีความซับซ้อน มีการใช้ระเบิดฟิชชันขนาดเล็ก สำหรับทำให้อุณหภูมิ และความดันสูงพอ ที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาฟิวชันได้ ในทำนองเดียวกัน ถ้าใช้ระเบิดฟิวชันเสริมด้วย จะทำให้ปฏิกิริยาฟิชชัน มีประสิทธิภาพ ในการให้พลังงานออกมาได้มากขึ้น แต่ลักษณะพิเศษของอาวุธแบบฟิชชันกับแบบฟิวชัน คือพลังงานที่ให้ออกมาจากนิวเคลียสของอะตอม จึงทำให้ระเบิดลักษณะนี้ทุกประเภท เรียกว่า อาวุธนิวเคลียร์ ​

</TD></TR><TR><TD>

<TABLE width=650 border=0><TBODY><TR><TD width=345>

​

</TD><TD width=295>

ปฏิกิริยาฟิวชัน
ภายใต้สภาวะที่อุณหภูมิ และความดันสูงมาก นิวเคลียสของธาตุเบา เช่น ไฮโดรเจน สามารถรวมตัวกัน เป็นนิวเคลียสของธาตุที่หนักกว่า พร้อมทั้งให้พลังงานออกมา ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD>
Dirty bombs
Dirty bomb เป็นคำที่ใช้เรียกอาวุธเกี่ยวกับรังสี ไม่ใช่ระเบิดนิวเคลียร์ (non-nuclear bomb) แต่เป็นระเบิดแบบธรรมดาที่บรรจุสารกัมมันตรังสี เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น จะทำให้สารกัมมันตรังสีกระจายออกมา ทำให้เกิดการเปรอะเปื้อนกัมมันตภาพรังสี ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ คล้ายกับกรณีของการเปรอะเปื้อนทางนิวเคลียร์ (nuclear fallout) ภายหลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลประเทศตะวันตกกลัวกัน คือการที่ผู้ก่อการร้าย อาจจะทำการระเบิดด้วย dirty bomb ในบริเวณที่เป็นแหล่งชุมชน dirty bomb จะคล้ายกับระเบิดที่ทำให้เกิดความเปรอะเปื้อนชนิดอื่น แต่จะต่างกันที่ ทำให้บริเวณที่เกิดการเปรอะเปื้อน ไม่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้เป็นเวลานานหลายปี หรือหลายสิบปี
</TD></TR><TR><TD><TABLE width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=324>

​

</TD><TD width=258>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>
การออกแบบอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์แบบก้าวหน้า (Advanced thermonuclear weapons designs)
อาวุธนิวเคลียร์แบบใหม่จะมีขนาดใหญ่ โดยมียูเรเนียมซึ่งเกิดฟิชชันได้ (fissionable) หุ้มอยู่ด้านนอก เมื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาการะเบิดแบบฟิวชันที่ด้านใน นิวตรอนพลังงานสูง จะทำให้ยูเรเนียมชนิดที่มีแบบธรรมชาติ เกิดการระเบิดแบบฟิชชัน ซึ่งจะให้แรงระเบิดสูงขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
</TD></TR><TR><TD>
ระเบิดโคบอลต์ (Cobalt bombs)
ระเบิดโคบอลต์จะบรรจุโคบอลต์ไว้ที่ส่วนเปลือกด้านนอก เมื่อเกิดการะเบิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน นิวตรอนจะทำให้โคบอลต์ธรรมดา กลายเป็นโคบอลต์-60 ซึ่งเป็นไอโซโทปรังสีที่ให้รังสีแกมมา โดยมีครึ่งชีวิต 5 ปี โดยทั่วไปอาวุธชนิดนี้จะบรรจุด้วยเกลือของธาตุได้หลายชนิด โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโคบอลต์ เมื่อระเบิดแล้ว จะทำให้เกิด fallout ตามชนิดไอโซโทปของธาตุที่บรรจุอยู่ ทองจะทำให้เกิด fallout ที่มีอายุสั้นเพียงไม่กี่วัน แทนทาลัมและสังกะสี ทำให้เกิด fallout ที่มีอายุยาวปานกลางในช่วงเป็นเดือน ส่วนโคบอลต์จะทำให้เกิด fallout ที่มีการปนเปื้อนรังสียาวนานเป็นปี จุดประสงค์ของการใช้อาวุธชนิดนี้ คือการทำให้เกิด fallout ของสารกัมมันตรังสี จนทำให้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นบริเวณกว้าง ปัจจุบันยังไม่มีการสร้างหรือการทดลองอาวุธชนิดนี้
</TD></TR><TR><TD><TABLE width=538 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=259>

​

</TD><TD width=269>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>
ระเบิดนิวตรอน (Neutron bombs)
อาวุธแบบเทอร์โมนิวเคลียร์อีกแบบหนึ่งที่ให้รังสีปริมาณมากออกมา เรียกว่า ระเบิดชนิดรังสีสูง (enhanced radiation) คือ ระเบิดนิวตรอน ซึ่งเป็นระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ขนาดเล็ก เมื่อเกิดการระเบิดจากปฏิกิริยาฟิวชัน จะให้นิวตรอนออกมา โดยตัวระเบิด ได้รับการออกแบบมา ไม่ให้ถูกดูดกลืนนิวตรอน จากวัสดุภายในของระเบิดเอง โดยการหุ้มด้วยโลหะโครเมียม หรือนิกเกิล ทำให้รังสีนิวตรอน ถูกปล่อยออกมาภายนอกได้ง่าย ระเบิดแบบนี้จะทำให้เกิดความร้อนและคลื่นกระแทก น้อยกว่าระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์แบบปกติ แต่รังสีนิวตรอนพลังงานสูงที่มีความเข้มมากนี้ มีอำนาจทะลุทะลวงผ่านวัตถุได้มากกว่ารังสีแกมมา จึงเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากกว่า อาวุธชนิดนี้จึงมีจุดประสงค์ในการทำลายชีวิตผู้คน โดยยังคงรักษาสิ่งก่อสร้างเอาไว้ โดยมีบางส่วนเท่านั้น ที่ถูกทำลายจากแรงกระแทก และความร้อนจากการระเบิด รังสีนิวตรอนที่เกิดขึ้นจะมีปริมาณสูง ในช่วงที่มีการระเบิดเท่านั้น โดยไม่มีรังสีตกค้างปริมาณมาก ดังเช่นในกรณีของการะเบิดแบบ fallout</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>ผลของระเบิดนิวเคลียร์ (Effects of a nuclear explosion) </TD></TR><TR><TD>พลังงานที่ให้ออกมาจากอาวุธนิวเคลียร์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่

</TD></TR><TR><TD>

• แรงของคลื่นกระแทกจากการระเบิด (Blast)

 

โอ้โห ศึกษาจนเข้าใจเลย

 

ขออย่า!!!ให้เกิดขนาดในภาพเลย...สาธุ...ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกรุณาเผยแพร่ข้อมูลนะคะ...อนุโมทนาค่ะ

 

ดูเป็นไอเดียเวลาที่เกิดขึ้นจริงจะได้รับได้และ จะได้รู้ว่าควรเตรียมการณ์อย่างไรบ้างครับ

โลกมีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ มีเจริญก็ย่อมมีเสื่อมไปเป็นธรรมดาครับ

 

กัลยาวตาร




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=558 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE width=320 border=0><TBODY><TR><TD class=font-th-content style="RIGHT: 0px; LEFT: 0px; WIDTH: 320px; WORD-WRAP: break-word">เมื่อโลกเยือนย่างเข้า กลียุค

บาปบั่นบุญบี้บุก ทั่วหล้า
ทั่วถิ่นทุกทางทุกข์ เหลือหลาย
เกิดก่อกิเลสกล้า มล้างมลายธรรม

ยามทรามลามสุดแล้ว ฉันใด
จักเกิดท่านเทพไท้ จากฟ้า
อวตารดับเภทภัย พาพ้น
ปาฏิหารย์ประจักษ์หล้า แต่ต้องหวังขลัง

วิษณุเทพผู้ รักษา
ซึ่งหมั่นธำรงโลกา จากร้าย
ปางสิบเสด็จมา ยามยาก
มามุ่งพามารร้าย ดับสิ้นโสมม

เป็นบุรุษขี่ม้า สีขาว
มีดาบเชิดชูวาว แกว่งแกล้ว
แต่ต้องจัก รอยาว เมื่อมา
ปราบบาปให้คลาดแคล้ว ชื่อนั้น"กัลกี"

จงตั้งตัวตั้งมั่น ไว้เถิด
สักวันจักก่อเกิด ประจักษ์หล้า
ครานั้นบาปจักเตลิด แพ้พ่าย
จากบาปให้คลาดแคล้ว ทั่วทั้งสากล

โปรดทำดีอย่าท้อ พวกเรา
ยามบาปบุกมัวเมา อย่าใกล้
ใครมัวหมุ่นปลุกเขา ช่วยเถิด
เพราะว่าท่านเทพไท้ จักได้เสด็จมา​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>บทกวีโดย ขาว-กรมท่า
ที่มา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem88519.html</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

ข่าวสด วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5892

นักวิชาการวิตกปัญหาคลื่นอ่าวไทย เตรียมตั้งศูนย์เฝ้าระวัง-รับตามไม่ทันธรรมชาติ



นครศรีธรรมราช - พล.ต.ดร.นพรัตน์ เศรษฐกุล นักวิชาการประจำหลักสูตรเทคโนโลยีและการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง สำนักวิศวกรรมศาสตร์ และการจัดการทรัพยากร กล่าวว่า ปัญหาคลื่นที่รุนแรงและลมมรสุมที่พัดกระหน่ำอ่าวไทย ในระยะนี้ถือว่ารุนแรงกว่าทุกปี และมีความพยายามในการก่อสร้างแนวกำแพงกันคลื่น ซึ่งเป็นการสร้างเพียงส่วนหนึ่งจะป้องกันบริเวณนั้น แต่ก็จะไปส่งผลกระทบอีกส่วนหนึ่ง สังเกตได้จากความเปลี่ยนแปลงของตะกอนมีสูงมากขึ้น

พล.ต.ดร.นพรัตน์ กล่าวว่า ในขณะนี้มีแนวคิดในการขอความร่วมมือจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามและฟื้นฟูการกัดเซาะชายฝั่ง ความชัดเจนจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการเชิญชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ปัญหา นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ กรมการขนส่งทางน้ำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมพาณิชยนาวี มาร่วมกันแก้ปัญหา โดยการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นำภูมิปัญญาจากชาวบ้านมาใช้ ติดตามศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของกระแสน้ำ ส่วนตะกอนอาจจะมีการแก้ปัญหาโดยการนำทรายมาจากที่อื่นมาถมแล้วปลูกป่าชายเลนหรือดำเนินการอย่างอื่น

"ที่ผ่านมาปัญหาคือการไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเร็วมาก การศึกษาแต่ละครั้งใช้เวลาศึกษา ผลสรุปใช้เวลานับปี แต่เมื่อลงมือทำโครงการ ธรรมชาติก็เปลี่ยนไปแล้ว เวลานี้ทะเลกินผืนดินเข้ามาเร็วมาก ปัญหานี้ใหญ่กว่าสึนามิทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่างเร่งด่วน ส่วนการทำงานของศูนย์แห่งนี้อาจจะอยู่ในรูปของการศึกษาปัญหา วิธีการแก้ไข และเสนอไปยังรัฐเพื่อดำเนินการเท่านั้น" พล.ต.ดร.นพรัตน์กล่าว

นายประยุทธ แก้วประสิทธิ์ นายกอบต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สภาพบรรยากาศของแหลมตะลุมพุกล่าสุดคลี่คลายลง แนวคลื่นลดความรุนแรงลงมีความสูงประมาณ 2-3 เมตรเท่านั้น น้ำทะเลหนุนน้อยลง มีเรือประมงของชาวบ้านเสี่ยงออกไปทำการประมงแล้วบางส่วน เนื่องจากไม่มีรายได้จำเป็นต้องออกไปหาปลาเลี้ยงชีพ และคาดว่าเร็วๆ นี้กองเรือประมงพื้นบ้านชุมชนแหลมตะลุมพุกจะสามารถออกเรือได้ ส่วนสภาพจิตใจชาวบ้านส่วนใหญ่ดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากทุกคนทราบข่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงห่วงใยชาวบ้านในพื้นที่

 

ภัยทั้งหมดก็เกิดจากการกระทำของมนุษย์