โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    พี่เค้าฝากถามว่า ภาษาบาลีมีภาษาเขียนดั้งเดิมหรือไม่ มาจากไหน หรือเป็นภาษาพูด เค้าฝากถามมาค่ะ
     
  2. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    แค่นี้หรือคะ ฟังดูง่าย แต่ยากนะคะ
     
  3. สีธรรมราช

    สีธรรมราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +154
    คุณจิ-โปมีอะไรที่พอจะแนะนำได้ก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
     
  4. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    สำหรับทีโอ การฟังเสียงหัวใจเต้นก็ทำได้เหมือนกันใช่มั้ย อันนี้พิจารณาดูเองอ่ะนะคะว่า
    ถ้ากำหนดแสง จนเป็นแสงใช่มั้ย ภายในก็เป็นแสงใช่มั้ย ทีนี้ก็มองเข้าไปสำรวจภายในใช่มั้ย แล้วก็มองไปที่หัวใจใช่มั้ย ก็มองเห็นหัวใจใช่มั้ย ก็อาจจะเห็นอะไรในหัวใจใช่มั้ยที่มันละเอียด แต่มันก็เป็นแสงที่เรากำหนดใช่มั้ย ไม่ใช่การฟังเสียงหัวใจเต้น ซึ่งอันนั้นไม่ใช่การกำหนดแสง หรือเปล่าคะ[/QUOTE]


    มันไม่เหมือนกันนะทีโอ หลวงปู่ฝั้นท่านว่า ให้ฟังเสียงหัวใจอย่างเดียว
    นิ่งฟังอย่ากระดุกกระดิก ท่านไม่ได้บอกให้กำหนดอย่างอื่นเลย เพราะหวังอย่าง
    เดียวว่าจิตเราจะสัมประยุตกับเสียงหัวใจอย่างเดียวไม่งั้นมันจะฟุ้ง และผลของ
    การฟังเสียงหัวใจมันเป็นธรรมชาติและบังคับธรรมชาติแต่แสงมันคือฤทธิ์ทางใจ
    มันคนละอย่าง

    พอทีโอเอาแสงไปดูหัวใจมันก็เหมือนเราเปิดทีวีดูหัวใจเรา ประโยชน์มันเกิด
    ตรงแสงไม่ใช่การเข้าใกล้ธรรมชาติ มันเห็นหัวใจเห็นภายในของหัวใจ แต่การ
    นิ่งฟังมันไม่เห็นแต่"รู้สึก" เกิดสัมผัสรู้ซึ่งต้องรู้ก่อนค่อยมาทำรูปทีหลังจึงเห็น
    แต่ทีโอไปเห็นก่อนและสัมผัสมันเกิดทีหลังจนบางทีหลุดมาก่อนที่จะสัมผัสรู้
    มันคนละอย่าง แต่ถ้าเราจับเคล็ดได้มันทำได้หมดทุกกองนั่นล่ะ
     
  5. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    เฮ้อ! พูดไปก็เดี๋ยวก็บอกว่าทีโอหลายใจอีก ทีโอก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บอกไม่ถูก
     
  6. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    สวัสดีคะ คุณอนันตราช คุณ to2504, คุณจิ-โป วันนี้คึกคักเพื่อนๆมากันแยะ...

     
  7. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    ไม่รู้ครับ ผมไม่เชี่ยวชาญทางภาษาเขียนได้ก็ไม่สวยถนัดทางพูด นี่ดีนะ
    ที่พิมพ์คอมพ์ ไม่งั้นแม้แต่ขอมโบราณก็อ่านลายมือผมยากท่านทั้งหลายต้อง
    เซ็งกับลายมือผมแน่ ใจมันเร็วกว่ามือมันเลยไม่สวย
     
  8. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ต้องมีการคุยกันครับถึงรู้ว่าทำมาอย่างไรต้องทำอย่างไรต่อ แต่อย่าเชื่อผม
    มากนะครับ ส่วนมากกลางวันแค่เข้ามาดูแว๊ปๆ เย็นๆถึงมีเวลาตอบ นอกจาก
    วันไหนขี้เกียจมากๆไม่ได้ทำงานก็มาเดินเล่นตรงนี้ได้นานหน่อย
     
  9. สีธรรมราช

    สีธรรมราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +154

    ส่วนมากจะชอบเพ่งตรงจุดใดจุดหนึ่งไม่รู้ว่าถูกต้องไหมครับ
     
  10. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ขอบคุณครับ
     
  11. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230

    มันไม่เหมือนกันนะทีโอ หลวงปู่ฝั้นท่านว่า ให้ฟังเสียงหัวใจอย่างเดียว
    นิ่งฟังอย่ากระดุกกระดิก ท่านไม่ได้บอกให้กำหนดอย่างอื่นเลย เพราะหวังอย่าง
    เดียวว่าจิตเราจะสัมประยุตกับเสียงหัวใจอย่างเดียวไม่งั้นมันจะฟุ้ง และผลของ
    การฟังเสียงหัวใจมันเป็นธรรมชาติและบังคับธรรมชาติแต่แสงมันคือฤทธิ์ทางใจ
    มันคนละอย่าง

    พอทีโอเอาแสงไปดูหัวใจมันก็เหมือนเราเปิดทีวีดูหัวใจเรา ประโยชน์มันเกิด
    ตรงแสงไม่ใช่การเข้าใกล้ธรรมชาติ มันเห็นหัวใจเห็นภายในของหัวใจ แต่การ
    นิ่งฟังมันไม่เห็นแต่"รู้สึก" เกิดสัมผัสรู้ซึ่งต้องรู้ก่อนค่อยมาทำรูปทีหลังจึงเห็น
    แต่ทีโอไปเห็นก่อนและสัมผัสมันเกิดทีหลังจนบางทีหลุดมาก่อนที่จะสัมผัสรู้
    มันคนละอย่าง แต่ถ้าเราจับเคล็ดได้มันทำได้หมดทุกกองนั่นล่ะ[/QUOTE]

    พูดกับคนโลเลก็แบบนี้แหล่ะค่ะพี่จิ-โป ต้องทำจาย (หนูเองนะที่โลเล)

    ถ้าวันไหนใจเราไม่สงบ เราฟังเสียงหัวใจเต้นก่อนเพื่อให้จิตสงบ แล้วค่อยทำแสงก็ได้ใช่มั้ย

    เอ๊ะ ! เรานี่เห็นคนอื่นเค้าได้นั่นได้นี่ ก็ดูเหมือนจะอยากรู้ไปหมดเลยเนอะเฮ้อ! กลุ้ม :(
     
  12. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    สงสัยมั้ง

    คือคะรุทาก็ฟังเสียงหัวใจตัวเองเหมือนกัน แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า
    มันเจ็บแปล๊บๆๆ ที่ใจ อธิบายไม่ถูกค่ะ ...แต่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจนะคะ
     
  13. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    แบบนี้ก็เป็นการใช้เจโตอย่างหนึ่งครับ ไม่ใช่เป็นการขอร้องแต่เป็นการ
    สะกดจิต คือเอาความคิดเราใส่ลงไปในหัวเขาครับ อย่าทำบ่อยเดี๋ยวเขาเป็น
    โรคอัลไซเมอร์เพราะรอยหยักในสมองหงิกงอครับ

    เหมือนท่านเห็นช้างนาราวิ่งมาก็กำหนดสะกดจิตมันเหมือนศิลามณีทำนี่ล่ะ
    แล้วมันก็เอ๋อ ทำตามที่เราคิด ทางที่ดีอย่าเอาเป็นคำพูดเป็นประโยคใส่เข้าไป
    ให้แผ่เอากระแสเมตตาใส่แทนความต้องการของเราเข้าไปในนั้น
    เช่นอยากต่อรองราคา อย่าเอา 170 ใส่ในหัวเขา ให้แผ่เมตตาใส่แทน ถ้าเขา
    เกิดความเมตตาเขาลดเอง ไม่เป็นอัลไซเมอร์ด้วย ประโยชน์และวิธีใช้มันมีมาก
    มายแต่คนสมัยนี้ไม่ศรัทธา แค่เห็นเราแนะนำให้ฟังเสียงหัวใจเต้นก็หัวเราะเยาะ
    ว่างมงาย ทั้งๆที่เป็นทางลัดที่สุดแล้วเพราะตำราไม่เขียนใว้นั่นเอง[/QUOTE]

    เอาเข้าไป ...ศิลามณี หลงเข้าใจผิดมาตลอดเลยนะคะ คิดว่าเราสื่อสารกันทางจิต ........ ที่ไหนได้ กลับกลายเป็นการสะกดจิตเสียนี่...งั้นไม่ทำบ่อยแล้ว...บาป ทำให้ผู้อื่นเป็นอัลไซเมอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ...ทีนี้จะแผ่เมตตาใส่แทน..

    เมื่อกลางวันตองนั่งพัก ศิลามณี นั่งนิ่ง...ลองฟังเสียงหัวใจ ...มีเสียงเบาเสียงค่อย ...มีบางช่วงที่หัวใจเต้นเร็ว...บางช่วงเต้นช้า..บางครั้งไม่ได้ยินเสียง แต่ได้สัมผัสหัวใจเต้นแผ่วๆ..ช้าๆ ..ลองทำดูแล้วพอจะเข้าใจที่ คุณจิ-โป อธิบายไว้....ขอบคุณคะ
     
  14. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    คิดว่าเกร็งเกินไปครับ การฟังเสียงหัวใจเต้นไม่เหมือนการเพ่งกสิณ
    ถ้าเปรียบการฟังนี้กับหยินหยาง การฟังก็เทียบกับความอ่อน การเพ่งก็คือ
    ความแข็งถ้าเราเพ่งไปข้างหน้ารวมจิตลงเป็นจุดเดียวต้องมีความหน่วง
    ความตึงบริเวณกลางหว่างคิ้วแน่นอนซึ่งเหมือนกับเราเพ่งมองลงไปที่
    หัวใจเราก็จะทำให้เจ็บหัวใจแปล๊บๆ บีบหัวใจอยู่อย่างนั้นเอง

    แต่การฟังที่ดีคือนิ่งสงบ โอบอุ้มหัวใจใว้ด้วยความอ่อนโยนไม่ใช่เพ่งรวม
    เป็นจุดเดียว แต่โอบอุ้มเหมือนแม่อุ้มลูกใว้ในอ้อมอก ใช้ความรู้สึกในการ
    ฟังมากกว่าใช้ใจในการมองเห็น จำใว้ว่าอย่างเพ่งรวมแต่ให้โอบอุ้ม ให้ใช้
    ความรู้สึกมองมากกว่าใช้ใจมองเล็กน้อยเหมือนเรามองตรงๆไปที่มืดหาสิ่ง
    ของย่อมไม่เห็น แต่หากมองตรงๆแต่ใช้ความรู้สึกสังเกตุข้างๆที่เรามองจะเห็น
    ภาพชัดเจนกว่าครับ
     
  15. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    การเพ่งเป็นจุดเดียวมีสองหลักการ คือการทำจุดรวมให้เล็กและการขยายจุด
    รวมจิตนั้นให้ใหญ่ครับ
    อันแรกเมื่อรวมจิตลงแล้วเป็นจุดเล็กๆ ร่างกายจะเสียการควบคุม จิตที่รวมลง
    จะส่ายไปมา ก็คือคนสักยันต์ที่ของขึ้นนั่นล่ะครับ เป็นการรวมลงจุดเล็ก
    ส่วนการรวมลงเป็นจุดใหญ่ คือจิตที่เพ่งจนรวมลงแล้วแต่กายจะสงบเพราะ
    กายนั้นจะเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของจิตที่รวมลงด้วย ได้แก่การทำสมาธิแบบ
    ต่างๆ ที่มีหลักการรวมลงไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งหรืออุปกรณ์ประกอบในการฝึก

    แต่การที่บอกว่าชอบเพ่งตรงจุดใดจุดหนึ่งถ้าความหมายนั้นคือไตรรัตน์
    ให้กำหนดจุดที่อาจารย์เปิดให้ แล้วกำหนดตรงหน้าห่างออกไปซักศอกอีกจุด
    แล้วกำหนดมองที่ใจให้มาก ให้เกิดเส้นแสงโยงกันระหว่างไตรรัตน์ที่เปิดกับจุด
    กลางอากาศที่ใจเรากำหนดขึ้นมา มองจุดแรกในกายเราให้ทะลุไปจุดสองครับ
    ถ้าตึงเกินไปรู้สึกอึดอัดให้มานิ่งฟังเสียงหัวใจเต้นเป็นการรักษาตัวนะครับ พอ
    ใจสงบผ่อนคลายค่อยไปเพ่งใหม่ครับ
     
  16. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    พี่จิ-โป คะ
    เมื่อคืนหนูลองอธิษฐานดูนะคะ คือก็สงสัยเหมือนกันแหล่ะ ว่าหนูจะฝึกโดยฟังเสียงหัวใจเต้น แล้วก็กำหนดแสงต่อจะได้มั้ย
    ก็ฝันค่ะ ว่ามีผลมะม่วงค่ะ มันสุกงอม จนมันเน่าแล้ว หนูก็ปาดเอาเนื้อที่เน่า ๆ ออก จะกินก็กินไม่ได้ ก็ปาดออกไปสุดท้าย ทิ้งดีกว่า เพราะคิดว่ามันเน่าทั้งลูก

    หนูไม่ทราบว่ามันหมายความว่าอะไรค่ะ
     
  17. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ท่าทางคุณทู... จะเป็นคนมัธยัสต์สุดๆเลยนะนี่..:p มะม่วงงอมจนมันเน่าแล้ว ยังกุส่าห์ปอกอีก...ศิลามณี เย้าเล่นนะคะ..คงไม่คิดมากนะ
     
  18. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    คะรุทาลองอธิษฐานแล้วเริ่มนั่งใหม่ตามที่คุณจิโปแนะนำค่ะ คราวนี้มันไม่เจ็บจี๊ดๆตรงหัวใจด้านซ้ายแล้ว แต่มันกลับมาตุ๊บๆๆๆด้านขวาแรงมาก ลักษณะเหมือนมีหัวใจอีกดวงอยู่ตรงนั้นแล้วเป็นเหมือนก้อนเนื้อที่มันตุ๊บๆๆๆจะออกมาเต้นข้างนอกเลยค่ะ
     
  19. สีธรรมราช

    สีธรรมราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +154

    ขอบคุณครับ
    ...................
     
  20. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    คุณศิลามณีอย่าเข้าใจผิด ยายทีโอคนนี้ไม่ได้มัธยัทเลยแต่ "งก" ครับ
    ตอนนั้นก็ได้แสงเข้าฌาณได้ มีอาจารย์มาสอนทางทิพย์สบายไป ตอนนี้ล่ะ??
    ตอนนู้นก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแถมมองเห็นเส้นเลือดที่เหมือนใยบวบในหัวใจ
    แล้วตอนนี้ล่ะ?? ตอนนู๊นนก็แยกจิตออกจากกายด้วยวิชาแยกธาตุสำเร็จออกมา
    ดูกิเลสจากภายนอกได้ แล้วตอนนี้ล่ะ??

    ก็ยายเล่นทำจนสำเร็จแล้วแต่ไม่ทำให้เกิดวสี เห็นผมแนะนำคนนู้นก็วิ่งตาม
    เห็นอาจารย์คนโน้นบอกให้หยุดก่อนเดี๋ยวหลงแกก็หยุดไปทำอย่างอื่น มันถูก
    แล้วที่ท่านทำนิมิตลูกมะม่วงเน่าให้ดู ก็ตอนมันสุกงอมแล้วไม่กินไม่ทำให้เป็น
    วสีให้เกิดความชำนาญกลับปล่อยวางใว้ แล้วตอนนี้จะกลับไปกินมันก็เน่าแล้ว
    ต้องไปหามะม่วงมาบ่มใหม่ อีกเสียเวลา ตัวยายเองจะตายซะก่อนก็ไม่รุ้ ก็แก
    แก่แล้วนี่นา เฮ้ออออ
     

แชร์หน้านี้

Loading...