พอใจรูม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย ppojai, 3 ตุลาคม 2010.

  1. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    ขอบคุณสำหรับมิตรภาพแห่งรัก...
    และหวังดีที่มีให้พี่ใจ..จ๊ะนู่พิมพ์...

    และ..กัลยาณมิตรที่เฝ้าปรารถนา ..
    ชีวิตที่มีตนเอง เป็นผู้รู้ใจ
    พลาดผิด เผลอไปย่อมสามารถให้อภัย

    และตักเตือนตนได้ด้วยดี

    .........
    ขอบคุณนะจ๊ะ...

     
  2. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    คงไม่ต้องถึงกับต้องใจถึง ใจเด็ดมาก เพียงเข้าไปรู้สภาวะตามความเป็นของจิตว่าเขามีหน้าที่อย่างไร
    เพียงให้รู้ทัน ถ้ารู้ไม่ทันก็รู้ตาม ฝึกบ่อยๆเดี๋ยวรู้ทัน ธรรมชาติของจิตเขาเป็นตัวรู้เท่านั้น
    แต่ที่ถูกปรุงแต่งคือเจตสิกที่เกิดพร้อมกับจิตเกิดร่วมกับจิตปรุงแต่งจิต
    ที่ให้เกิดเป็นกุศลบ้าง เป็นอกุศลบ้างแล้วแต่เจตสิกฝ่ายไหนปรุงแต่ง ที่เราคิดนั่นคือเจตสิก ที่เรารู้คือจิต

    ก่อนที่เราจะล่วงมาทางกายทางวาจานั่นหมายความว่าเจตสิกปรุงแต่งมาเรียบร้อยแล้ว จึงจะพูดได้จึงจะทำได้
    ถ้าเจตสิกไม่ปรุงแต่งจิต การล่วงมาทางวาจาทางกายก็ไม่ได้เหมือนกัน

    สังเกตุให้ดีนะ การพูดด้วยวาจา การเคลื่อนไหวทางกายเป็นไปด้วยอำนาจของจิตพร้อมด้วยธาตุลม
    เรียกอีกอย่างว่าจิตชวาโยธาตุ เป็นผู้ทำให้เป็นไป ฝึกใหม่ๆอาการดิ้นรนเกิดแน่นอน เหมือนจับสัตว์ป่ามาฝึกๆ นานๆ มันจะเชื่อง
    เมื่อมันเชื่องก็เอามาทำประโยชน์ได้ดังใจที่คิดเหมือนจับลิงป่ามาฝึกละครหาตังค์ใช้ได้


    วิธีนี้เท่ากับเราได้เจริญวิปัสสนา คือ จิตตานุปัสสนา นั่นเอง


    พุทธศาสนสุภาษิตวันละนิด

    ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ.
    ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนได้แล้ว เป็นผู้ประเสริฐสุด.<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]วันนี้วันพระ [​IMG]
     
  4. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    [​IMG]
     
  5. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    เอามาช่วยลุงหมานเลี้ยงหน่อยค่ะพี่ใจ ยั้วเยี้ยเต็มบ้านลุงหมานหมดแล้วนิ.....


     
  6. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044

    วันนี้มาดูเทียนหอมสวยๆกันดีกว่าค่ะ....


    [​IMG][​IMG]


    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG]

    [​IMG][​IMG]


    [​IMG][​IMG]

    [​IMG][​IMG]

    [​IMG][​IMG]


    [​IMG][​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG][​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  7. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    [​IMG]

    สวัสดีค่ะ
    ห้องนี้มีเทียน ทั้งหอม...ทั้งสวย...ค่ะ
     
  8. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    โรแมนติ๊ค...เจง ๆ เยยยยย นู่พิมพ์น้องสาวเฮานี้...
    ชอบเทียนหอมด้วยนิ..พี่ใจเองก็ชอบจ้า ๆ ...

    สวัสดีน้องน่าน..ด้วยนะ หายปายนานเยย คิดถึ้ง..คิดถึ้ง...จุฟ จุฟ ทั้ง 2 คนนะจ๊ะ
     
  9. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    [​IMG]


    [​IMG]




    หัวเราะ.....เมื่ออยากหัวเราะ

    ร้องให้......เมื่ออยากร้องให้

    แต่ต้องหัวเราะให้ได้.........หลังร้องให้ทุกครั้ง

    แอ่ๆๆ(จำเค้ามาอีกที)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2011
  10. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    [​IMG]

    สวัสดีค่ะ....วันนี้ภูมิใจนำเสนอซาลาเปาคร้า....

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  11. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><!--Last Update : 22 สิงหาคม 2552 18:39:47 น.-->Midnight ซาลาเปา ตอน ซาลาเปาไส้หมูสับแคเหลาะ (แครอท)

    <!-- Main -->สวัสดีทุกคนจ้ะ

    วันนี้ป้าแต้ ขอโชว์ห่วย การทำซาลาเปาครั้งแรกในชีวิต ในตอน

    Midnight ซาลาเปา ตอน ซาลาเปา ไส้หมูสับแคเหลาะ (แครอท) ^^

    (ที่ Midnight เพราะ กว่าจะเสร็จ ก็ Midnight จ้ะ )


    [​IMG]

    เนื่องจากวันก่อน ป้าแต้ได้ไปอ่าน วิธีทำซาลาเปา สูตร ม. เกษตร ที่คุณหมาดำปราณบุรี ได้รีวิวไว้อย่างละเอียด (น่ารักมากเลยจ้ะ) ตามลิงค์นี้นะจ๊ะ

    หมาเข้าครัว .................. ทำครั้งแรกกับ ....... ซาลาเปาอร่อยๆ


    ด้วยความที่ตัวเองชอบกินซาลาเปา และประกอบกับ พี่หมา บอกว่า
    สามารถนวดแป้งด้วยมือได้ ง่ายนิดเดียว ป้าแต้ก็เลย เอาวะ ลองดูซักตั้ง (จริง ๆ อยากทำมานานแล้ว แต่ด้วยความกระจอกงอกง่อยของ เครื่องตีแป้ง เลยมิกล้าใช้ทำอย่างอื่นนอกจากตีส่วนผสมเค้ก ^^")
    คราวนี้ นวดมือเล๊ยยยยย

    เมื่อวานเลยได้ฤกษ์ไปซื้อ เครื่องปรุงมา แล้วก็เริ่มเลย

    ตามสูตร (ลอกของพี่หมา มาเลยนะจ๊ะ)

    แป้งส่วนที่ 1 ( ตัวสปันจ์ )
    - แป้งเค้กบัวแดง 190 กรัม ( ประมาณ 2 ถ้วยและตักออก 2 ชต. )
    - ยีสต์ 5 กรัม ( 1/2 ชต. )
    - น้ำตาลทราย 5 กรัม ( 1/2 ชต. )
    - น้ำ 1/2 ถ้วยตวง


    แป้งส่วนที่ 2
    - แป้งเค้กบัวแดง 75 กรัม ( ประมาณเกือบๆ 3/4 ถ้วย ) อันนี้ป้าใช้แป้งพัด
    - ผงฟู 2.5 กรัม ( 1 ชช. )
    - น้ำ 20 กรัม ( 1/8 ถ้วยตวง )
    - น้ำตาลทราย 50 กรัม ( ประมาณ 1/3 ถ้วย+ 1 ชต. )
    - เกลือ 2 กรัม ( 1/2 ชช. )
    - น้ำมันพืช 25 กรัม ( 2 ชต. )


    ส่วนของไส้หมูสับ
    ** แปลงสูตรเล็กน้อย แต่รับรองอร่อยครับ
    - เนื้อหมูสับติดมัน 150 กรัม
    - แครอทหั่นเต๋าเล็กๆ 115 กรัม ( ต้นฉบับใช้มันแกวขูดเส้น แต่เราว่าแครอทอร่อยดี )
    - น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
    - เกลือ 1/4 ช้อนชา
    - ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ ( ต้นฉบับเมื่อลดสูตรแล้วเหลือ 1/2 ชต. แต่เราว่าใส่เยอะๆ หอมอร่อยกว่า )
    - พริกไท 1 ช้อนชา
    - แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนชา
    - ต้นหอมซอย 2 ต้น ( ต้นฉบับเมื่อลดสูตรใช้แค่ 1 ต้น ) (ไม่ได้ใส่จ้ะ)
    - เห็ดหอมหั่นชิ้นเล็ก 1 ดอก

    ** เพิ่มเองนอกสูตรคือ .....
    1.ไข่ขาว ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ (อันนี้ป้าไม่ได้ใส่)
    ไข่ขาวจะช่วยให้ไส้หมูนุ่มนวลไม่แข็งกระด้าง
    หากใครชอบไส้แบบแข็งๆ ก็ไม่ต้องใส่น่ะครับ
    2. ไข่ต้มสุก

    วิธีทำ ตามลิงค์ พี่หมานะจ๊ะ (ป้าไม่ได้ถ่ายรูป เพราะมือเปื้อน )

    สุดท้ายได้ซาลาเปา (ชั่งลูกละ 30 กรัม) มา 20 ลูก

    [​IMG]

    พอจับจีบ (หรือเปล่า) ก็พักไว้ประมาณ 20 นาที แล้วก็นึ่งในลังถึง (น้ำเดือดๆ) ประมาณ 12 นาที (ไอ้ที่ดูเหลือง ๆ เปื้อนทั่วไป คือ ไข่แดงจ้ะ)

    [​IMG]

    ก็ได้ซาลาเปา สุดแสนอร่อย ^^ มาเชยชม

    มาดูไส้กันหน่อย

    [​IMG]

    พอชิมแล้ว ป้าว่า อร่อยดี แต่ กลิ่นน้ำมันงาจะแยะไปหน่อย คราวหลังต้องลด
    ลง แล้วก็ต้องไปหาซื้อมันแกว (ตามสูตรจริง ๆ) มาลองใส่ดู

    ใครไม่เคยลอง ลองทำดูได้เลย ไม่ยาก ... แต่เมื่อยมากกกกก 55555555


    ป้าแต้ ...เองจ้ะ ^^<!-- End main-->

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="50%" colSpan=3>
    โดย...ป้าแต้ แซ่อิ่ม ค่ะ
    </TD></TR><TR><TD width="50%"> </TD><TD></TD><TD align=right></TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD><TD align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- <table width=100% border=0 cellspacing=0> <tr> <td>Counter : <script src='http://fastwebcounter.com/secure.php?s= bloggang1952833 '></script> Pageviews. </td> </tr> </table> --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=2 cellSpacing=0 borderColor=white cellPadding=3 width="100%">
    <TBODY><TR><TD id=1><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    น่าหม่ำเจง ๆ เลยค่ะนู่พิมพ์ ทำเป็นด้วยเหรอคะ ขยัน ๆ เจง ๆ พี่ใจ่ใจ๋ ไม่มีความพยายามหรอกค่ะ งานบ้านนี่ไม่เป็นเลยขอบอก ๆ ๆ นู่พิมพ์สมเป็นแม่บ้านแม่เรือนนะคะนี่ ส่วนพี่ใจเอาแต่ร้องเพลงท้างวาน...
     
  13. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
  14. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    ต้องทิ้งระยะร้องไห้...สักพักนะ นู่พิมพ์ เด่ว..เขาหาว่าสติไม่ดี ร้องไห้เสร็จแล้วหัวเราะเลยนะจ๊ะ...

    ขอบคุณที่ทำให้พี่ใจ่ใจ๋ยิ้มได้...นะจ๊ะ จุฟ จุฟ จุฟ เด็กดี...
     
  15. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    [​IMG]


    สวัสดี...วันครูค่ะ 16 ม.ค.2554


    [​IMG]
     
  16. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    [​IMG]
    ภาพประกอบ : จากอินเทอร์เน็ต​

    ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเดียวกันเมื่อเวลาผ่านไป 15 ปี 20 ปี จะพบว่า เพื่อนร่วมรุ่นบางคนมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่น่าเชื่อ บางคนก็ยังผจญชะตากรรมอันเลวร้าน มีความเป็นอยู่อย่างลำบากยากแค้น อย่างไม่น่าเป็นไปได้


    ถ้าเราจะเอาความประพฤติดีประพฤติชอบเป็นหลัก ก็มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้สงสัย เพราะผู้มีอำนาจวาสนาบางคน ก็มีพฤติกรรมอันเลวทรามต่ำช้า หากจะถือผลงานเป็นข้อพิจารณา ก็ไม่รู้สึกปลอดโปร่งใจ เพราะบางคนก้าวขึ้นสู่ที่สูงโดยไม่มีผลงานที่ดีเด่นแม้แต่ชิ้นเดียว ถ้าจะใช้ผลบุญในอดีตชาติเป็นหลักในการพิจารณา ก็เป็นเรื่องรู้ยาก เห็นยาก เข้าใจยาก


    ผู้มีบุญบารมีใกล้เคียงกัน ประกอบการบุญการกุศลมาในระดับเดียวกัน ก็ควรจะมีสภาพความเป็นอยู่คล้ายคลึงกัน ได้รับความสุขความทุกข์เท่าเทียมกัน แต่ก็มีหลายครั้งหลายกรณีที่สภาพการณ์มิได้เป็นเช่นนั้น สิ่งที่เป็นเหตุสำคัญให้เกิดความแตกต่าง ทางไสยศาสตร์บอกว่า เป็นด้วยเหตุเจตจำนงในการปฏิสนธิ พูดง่ายๆ คือ เกิดมาทำไม?


    1. เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม จะมีความเป็นอยู่ยากแค้นกว่าปกติ

    เมื่อเป็นมนุษย์ในชาติปางก่อน เขาเคยทำบุญทำกุศลไว้มาก ทำบาปไว้บ้าง บาปไม่เกิน 30% ของผลกรรมทั้งหมด เมื่อตายไปจึงได้ขึ้นไปเสวยสุขบนสวรรค์ ครั้งเสวยสุขไปได้ชั่วระยะหนึ่ง เกิดความไม่สบายใจต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ชดใช้กรรมเก่า 30% นั้นอีก จึงตัดสินใจลงมาเกิดก่อนกำหนดผลบุญจะสิ้น ลงมาชั่วคราว เพื่อใช้หนี้กรรม ผู้ที่ลงมาใช้หนี้กรรมในโลกมนุษย์นี้ จะได้รับความทุกข์ทรมาน ถูกบีบคั้นทารุณต่างๆ แต่ความเดือดร้อนนั้นๆ จะไม่มีฤทธิ์หันเหให้เขาไปสู่ความชั่วร้ายเป็นอันขาด ครั้นชดใช้กรรมหมาดสิ้นแล้วก็จะได้กลับไปเสวยสุขบนสวรรค์อีก (กรณีของบิ๊ก ดีทูบี เป็นไปได้ไหม ที่กำลังใช้กรรม)


    2. เกิดมาเพื่อเสวยผลบุญ จะเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

    เมื่อโลกมนุษย์เกิดความระส่ำระสายเดือดร้อน จะมีเทพองค์หนึ่งหรือจำนวนหนึ่งลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยแก้สถานการณ์อันเลวร้ายนั้น เทพผู้เสียสละความสุขในแดนสวรรค์เพื่อสร้างบารมีเช่นนี้ ตลอดชีวิตจะมีการต่อสู้เพื่อสังคม เพื่อความดีงาม เพื่อเสรีภาพ ต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อน ครั้นภาวะแวดล้อมต่างๆ พ้นขีดอันตรายแล้ว เทพในร่างมนุษย์นั้นก็จะละโลกนี้ไป
    ปกติ เทพสร้างบารมีจะไม่ยอมเสวยสุข รับความชื่นใจจากผลงานของตนเอง พอทำภาระกิจของตนเองสำเร็จ ก็จะอำลาโลกทันที กลับไปเสวยสุขในโลกเบื้องสู้งต่อไป


    3. เกิดมาเพื่อสร้างบารมี

    จะไม่สนใจในการสร้างหลักฐาน แต่จะตั้งหน้าตั้งตาประกอบแต่การบุญ การกุศล
    เทพบางองค์บางคณะ ยอมเสียสละความสุข ความบันเทิงใจในสวรรค์ ในขณะที่พวกเทพชั้นเดียวกันส่วนใหญ่ยังคงเสวยสุขอยู่เบื้องบน ตัวเองยอมจุติลงมาเกิดในตระกูลกษัตริย์ ในราชวงศ์ ในตระกูลพราหมณ์ผู้มั่งคั่ง เพื่อเสวยสุข แสวงหาความสำราญในโลกมนุษย์ เป็นผู้นำปวงชน ปกครองคนหมู่มากให้มีความสุข เป็นการสร้างบารมีพร้อมกันไปในตัว


    4. เกิดมาเพื่อเสวยสุขและทุกข์ตามกรรมที่ทำมาในอดีตชาติ

    มนุษย์บางคนไม่สนใจเรื่องบุญเรื่องบาปกเลย ไม่รู้เรื่องนรก สวรรค์ แต่เขาก็ทำบุญไว้มากกว่าทำบาป บุญกุศลนั้นมีไม่ถึง 65% ไม่มากพอ ไม่รุนแรงพอ ที่จะส่งเขาขึ้นสวรรค์ ทำบาปไว้เล็กน้อยไม่เกิน 40% บาปไม่มีอำนาจพอที่จะฉุดเขาลงไปรับความทุกข์ทรมานในโลกเบื้องต่ำ
    มนุษย์พวกนั้นเมื่อตายแล้วจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เสวยผลบุญผลบาปตามกรรมที่ทำไว้ในอดีตชาติ เขาจะใช้ชีวิตเฉกเช่นเดียวกับสามัญชนทั่วไป แสวงหารักแท้ ดิ้นรนเพื่อตำแหน่งหน้าที่การงาน นิยมชมชอบความมีหน้ามีตา ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่นคง หากเขาจะทำความดี เขาก็จะทำความดีด้วยเห็นว่าเป็นหน้าที่ของบุคคลต่อสังคม



    5. เกิดมาเพื่อทำลายล้าง

    มนุษย์บางคนเป็นผู้มากไปด้วยความแค้น ผูกใจเจ็บแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ยอมเสียเปรียบใคร ถือว่าตัวเป็นพระเจ้าผู้สร้าง พระเจ้าผู้บันดาล จะต้องบันดาลให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเป็นไปอย่างมีระเบียบ ตามที่เขาต้องการ
    หากในอดีตชาติ เขาถูกศัตรูกลั่นแกล้งทรมาน ถูกเพื่อนมนุษย์ในทรามบางคนหักหลัง ทรยศ คดโกง เขาจะต้องหาทางตอบแทนล้างแค้นให้สาแก่ใจ ขณะวางแผนงานปฏิบัติการจองเวรอยู่นั้น ศัตรูคู่แค้นของเขาก็มีอันต้องจบชีวิตไปเสียก่อน เขาครุ่นคิดด้วยความเสียดาย เสยใจอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตลอดชีวิต ด้วยอำนาจความแค้น บุคคลนั้นจะเกิดมาร่วมภพร่วมชาติกับศัตรูของเขาในชาติก่อน ทำลายล้างผลาญกันตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น

    - ลูกชาย เจ้าสำราญ ล้างผลาญทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่เก็บออมสะสมไว้เป็นเวลานาน
    - ภรรยา โขกสับสามี จิหัวสามีใช้เยี่ยงทาส
    - อาจารย์ กลั่นแกล้งนักศึกษา โยกโย้ ยึกยัก ทำจนกระทั่งนักศึกษาต้องออกจากสถาบัน โดยไม่ได้รับประกาศนียบัตร



    ทำไมคนบางคนที่มีแต่ความทุกข์ยากลำบาก มีที่มาของการเกิดดังนี้

    1. หนีนรกมาเกิด

    สัตว์นรกบางตนรับใช้กรรมในนรกยังไม่ทันหมดสิ้น ก็หนีมาเกิดในโลกมนุษย์ ครั้นนายนิรยบาลทราบเรื่อง ก็จะให้ยมทูตมารับวิญญาณกลับไปทรมานอีก สัตว์นรกในร่างมนุษย์นี้จะอายุสั้น ตายตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะยมทูตมาคร่าเอาตัวกลับไป


    2. หนีแดนโจรมาเกิด

    สัตว์ในแดนโจรบางคนทนทุกข์ทรมานในแดนโจรยังไม่สิ้นกรรม ก็หลบหนีมาสู่โลกมนุษย์ ด้วยผลกรรมอันยังคงตกค้างอยู่ เกิดมาจะเป็นคนพิการแต่กำเนิด หรือมิฉะนั้น ก็มีอุบัติเหตุทำให้กลายเป็นคนพิการในที่สุด


    3. หนีแดนเปรตมาเกิด

    เปรตที่ยังไม่สิ้นกรรม หนีมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นผู้ที่อดอยากยากไร้ หิวโหย หาได้ไม่พอปากท้อง อดมื้อกินมื้อ หรือกินแต่ของบูดเน่า ของเหลือเดน


    4. หนีแดนปีศาจมาเกิด

    ผู้ที่ชอบรีดนาทาเร้น ใช้เล่ห์เหลี่ยมอุบายวิธีต่างๆ เอาผลประโยชน์ของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ตายแล้วจะต้องไปต่อสู้ฟาดฟันกันเองในแดนปีศาจ บางตนใช้กรรมยังไม่สิ้นก็จะหนีมาเกิดเป็นมนุษย์
    คนพวกนี้เมื่อเกิดมาจะเป็นคนอาภัพ ได้รับการสบประมาทดูถูกเหยียดหยาม ถูกเอารัดเอาเปรียบจากสังคมและคนที่เกี่ยวข้อง


    www.artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=1434
    <!-- google_ad_section_end -->__________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปัญญา เปรียบเสมือนเครื่องประดับแห่งตน<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    คุณร้องไห้กับเรื่องอะไรบ่อยที่สุด

    <SCRIPT src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share" type=text/javascript></SCRIPT>
    [​IMG]


    เวลาที่น้ำใสๆ มันไหลออกจากตา คุณเคยถามตัวเองไหมว่า... เพราะอะไร?
    เพราะอะไร... เราถึงต้องร้องไห้
    เพราะอะไร... เราถึงต้องเสียน้ำตา
    เพราะอะไร... บางทีก็ไม่มีเหตุผล
    เพราะคนบางคน สามารถร้องไห้ได้โดยไม่มีเหตุผลมารองรับ
    อยู่ดีๆ ก็ร้องว่างั้น (พอเพื่อนถามว่าเป็นอะไรถึงร้องไห้ มันก็ตอบว่า "ไม่รู้" ซะงั้น!! แล้วจะรู้ไหม)

    แล้วคุณเคยถามตัวเองไหมว่า... ต้องเสียน้ำตาให้กับเรื่องอะไรบ่อยที่สุด?
    คนบางคน... ร้องไห้เพราะดีใจ มีความสุข
    คนบางคน... ร้องไห้เพราะต้องการระบายความทุกข์ เศร้า เหงา เหนื่อย ท้อแท้ หวังให้ความรู้สึกแย่ๆ จางหายไปพร้อมๆ กับสายน้ำตา
    หลายคน... เสียน้ำตาบ่อยๆ ให้กับเรื่องความรัก เพราะมัก อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน
    หลายคน... เสียน้ำตาให้กับความผิดพลาดของตัวเองที่มักเกิดขึ้นเสมอๆ
    หลายคน... ก็มักเสียน้ำตาบ่อยๆ ให้กับเรื่องเดิมๆ
    ... ฯลฯ
    [​IMG]แล้วคุณล่ะ... เสียน้ำตาให้กับเรื่องอะไรบ่อยที่สุด?

    ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    [​IMG]

    __________________

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ชีวิตไม่ได้มีไว้...ให้ยอมแพ้<!-- google_ad_section_end -->

    ร้องไห้เพราะ หนีไอ้ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่พ้นซะทีrabbit_run_away
    __________________
    นิยามของความรักมันกว้าง ที่ใกล้ๆ ตัวก็ รักพ่อ รักแม่ รักลูก

    รักสามี และก็รักคนที่ดีกับเราค่ะ(f)
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    sun.16-1-54 t.8.05

    (k) อย่าดูหนังแล้วอินบ่อย ๆ นะคะ ไม่ดีเลย..
    ตอนเด็ก..ดูหนังก็สงสาร แม่และเด็ก..โตขึ้นสงสารตัวเอก พระเอก-นางเอก
    ดูไปดูมา คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกเกาหลีเฉยเลย..
    มันสะสมเรื่อย ๆ นะ..จะกลายเป็นคนร้องไห้ง่าย ๆ ...
    แยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนปลอม อินไปเรื่อยเปื่อย ๆ
    กลายเป็นคนอ่อนแอ..ไปในที่สุด..

    (k)ไม่อยากบอกเลยว่าเราเป็นนะ..คิดแล้วก็ขำ ๆ ๆ กว่าจะหลุดออกมาได้
    ครั้งหนึ่งไปปฏิบัติธรรมที่วัดเพราะจิตใจมันอ่อนแอมาก ๆ
    เขาสอนเรื่องใจ ให้ตั้งสติรับ เหมือนลูกบอล ถ้ามีสติ หงายฝ่ามือรับได้ทันที
    ถ้าไม่มีสติ คว่ำมือจ้างให้ก็ไม่มีทางรับลูกบอลได้ทัน

    (k) ช่วงพักออกมาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเรารู้สึกประทับใจ
    เพราะเธอดูมีความตั้งใจฝึกปฏิบัติมาก ๆ ไม่เหมือนเราที่ หยุกหยิก ๆ อยู่ไม่สุข
    ใจมันไม่นิ่งเอาเสียเลย ...มียายยกส้ม ขนมมาให้ช่วยกันจัดใส่ถาด
    เรากับหลานก็ช่วยกัน น้องบีที่เราชมเมื่อกี้เดินเข้ามาช่วย..
    เลยชวนคุยไปมา สักพักเราถามน้องว่า
    พี่ไม่รู้เป็นอะไร..จิตใจมันอ่อนแอคอยแต่จะร้องไห้อยู่เรื่อย ๆ
    ว่าแล้วเราก็ทำน้ำตาคลอ นางเอกเกาหลีมาอีกละ..ขำวุ้ย..
    ปกติ ..เราก็เห็นแต่คนคล้อยตาม เห็นอกเห็นใจ..
    แต่เด็กคนนี้ หันหน้าหนีเราเฉยเลย แถมว่าแดกเราอีกว่า..

    " หนูเห็นพี่ร้อง..หนูไม่ร้องตามพี่หรอกนะ..
    หนูไม่เอาใจพี่มาใส่ใจหนูหรอกนะ.."

    เด็กพูดเพียงแค่นี้..เราก็บรรลุแจ่มแจ้งแย๊วววววว....
    เลิกร้อง..ในบัดดลเยย...น้องเขามีสติอยู่ตลอดเวลา..
    ไม่ไหลตามอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย เล่าแล้วอ๊าย อาย....อาย อาย อาย จัง...ขำตัวเองด้วย

    ตอนนี้..ก็ร้องน้อยลง น้อยมาก ทุกครั้งจะตั้งเตือนตนก่อนร้อง แต่มีเผลออินบ้างบางครั้ง แต่พยายามดึงสติกลับมาให้ทัน...เวลา...

    :z16:z12pig_ballet<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2011
  18. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    พักสายตา - พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1041011/[/MUSIC]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2011
  19. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044
    1. เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม จะมีความเป็นอยู่ยากแค้นกว่าปกติ
    2. เกิดมาเพื่อเสวยผลบุญ จะเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

    3. เกิดมาเพื่อสร้างบารมี
    4. เกิดมาเพื่อเสวยสุขและทุกข์ตามกรรมที่ทำมาในอดีตชาติ

    5. เกิดมาเพื่อทำลายล้าง

    ทำไมคนบางคนที่มีแต่ความทุกข์ยากลำบาก มีที่มาของการเกิดดังนี้

    1. หนีนรกมาเกิด
    2. หนีแดนโจรมาเกิด
    3. หนีแดนเปรตมาเกิด

    4. หนีแดนปีศาจมาเกิด

    จะเลือกเอาข้อใหนดีนะ....


    <TABLE id=post4266602 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4266602 class=alt1>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=post4266602 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4266602 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2011
  20. ppojai

    ppojai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,637
    ค่าพลัง:
    +9,971
    เลือกข้อ 3 เกิดมาเพื่อสร้างบารมี
    กับข้อ 4 เถอะน้องพิมพ์...ค่อยยางชั่วหน่อย
    ม่ะมีครายรู้หรอกว่าเพราะเหตุใด ๆ
    4. เกิดมาเพื่อเสวยสุขและทุกข์ตามกรรมที่ทำมาในอดีตชาติ
    ที่เราประสบทุกข์...อยู่ในปัจจุบันอาจจะเป็นกรรมในอดีตและกรรมปัจจุบันที่เราสร้างขึ้นใหม่ อาจจะโดยรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวนั่นแหละค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...