*_________* บุญบาป ไม่มีจริงนะเกิดใหม่ก็ไม่มีจริง

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย 000000000, 7 มกราคม 2011.

  1. DanaiT

    DanaiT Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +42
    ถูกแล้ว ยังไง ไม่ถูกแล้วยังไง
    พิมถูก แล้วคนไม่เข้าใจ พิมไปเพื่อ........
    พิมไม่ถูก แต่คนเข้าใจ พิมไปเพื่อ.........

    ตลกดี คนเรา เหอะๆ
     
  2. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    งูขาวแผ่พังพาลจักรวาล รักษาบวรพระพุทธศาสนา

    คาราวะ ท่านจ้าวลัทธิ 55555555
     
  3. nimita

    nimita สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    หนังสือ พุทธธรรม อธิบายไว้ว่า ทุกสิ่งล้วนไม่มีมูลการณ์นะครับ
    จักรวาลก็ไม่เคยเกิดมาก่อน ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดสิ้นสุดนะครับ

    เราเคยชินกับการเห็นการเกิด เช่นเด็กเกิดใหม่แต่จริงๆมาจากร่างกายของพ่อกับแม่
    การสร้างบ้านก็เอาหินเอาทรายจากที่อื่นมาทำครับ

    จักรวาลก็เช่นกันครับ มันมีมวลทุอย่างของมันอยู่แล้วไม่เคยเพิ่มและลดลงเลย
    แต่เปลี่ยนสถานะไปเรื่อยๆครับ
    มนุษย์เองก็ไม่ได้ เพิ่งจะเกิดแต่เราอยู่คู่จักรวาลมาแต่แรก แล้ว แต่อาจจะไม่ใช่ในรูปแบบมนุษย์ครับ
    รวมทั้ง แบคทีเรียที่คุณว่ามี4ตัว เมื่อคุณสืนค้นไปมันก็คงจะมาจากที่อื่นๆที่ไม่ใช่โลกใบนี้ วิญญาณก็มาจากที่นั้นละครับ
    แต่คุณไปสรุปว่าทุกดาวต้องมีแบคทีเรียไม่เกิน4ตัวไม่ได้ครับ มันเป็นการเดาครับไม่มีหลักฐาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2011
  4. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +1,232
    เครื่องมือยังไม่ทันสมัยพอที่จะตรวจสอบเรื่องจิตวิญญานได้เครื่องมือยังตรวจจับไม่ได้เทคโนโลยี่ยังไม่พอ
     
  5. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ทิด ซา ดี นี้

    คิดเหมือน กัน ค่ะ ----------:cool:
     
  6. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    มันก็ประมาณที่น้องเข้าใจนี่แหละค่ะ .. แต่น้องมาตั้งคำถาม ถามคนนู้นคนนี้ .. พี่ว่า .. มันไม่ค่อยจะเกิดประโยชน์ และอีกอย่าง .. ถึงมีคนตอบคำถามของน้อง น้องจะเก็บไป แล้วเลือกที่จะ "เชื่อ" หรือ "ไม่เชื่อ"

    เพราะอะไร ??? ก็เพราะว่า .. มันเป็นแค่ "คำพูด"

    พี่ให้น้องไปทำแบบนี้ดีกว่า..

    ถ้าอยากพิสูจน์เรื่องนี้ .. ให้น้องทำสมาธิ จับลมหายใจ เข้า-ออก แล้วเพ่งไปที่จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว

    ทำแบบนี้ 3 วัน 3 คืน ทั้งกลางวันและก่อนนอน .. ไม่ต้องทำทั้งวันก็ได้ แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็ทำ .. ก่อนนอนก็ทำ

    แล้วพยายามฝันให้มีสติ อย่าปล่อยให้จิตตัวเองไปสร้างโลกความฝันแบบไร้สติ(วิธีฝันให้มีสติ ก็ไปฝึกเอาละกันนะจ้ะ ^^ อิอิ ^^ มันยาว)

    น้องทำสมาธิแล้วเพ่งไปที่จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วนะ ไม่เกิน 3 วัน ..

    ทำแบบนี้ 3 วัน 3 คืน แล้วเดี๋ยวน้องจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า วิญญาณ จิต หรือ โลกหลังความตาย มีจริงหรือไม่ ??? ><

    แล้วน้องจะไม่ต้องมาถามคนนู้นคนนี้ เพราะน้องจะได้รู้ด้วยตัวเอง ^^

    แล้วน้องจะเข้าใจว่า .. ร่างกายมันคือ เครื่องอำพรางชนิดหนึ่ง .. ขนาดดวงจิตที่โดนอำพรางโดยร่างกาย ยังไม่สามารถมองเห็นมิติอื่นๆได้เลย .. ประสาอะไรกับพวกเครื่องมือตรวจจับวิญญาณ(จ้างให้ก็จับไม่ได้ --')

    เอาเครื่องมือ 3 มิติ มาตรวจจับวิญญาณที่มีโครงสร้างหลากมิติเนี่ยนะ --'

    วิญญาณ ไม่ใช่มวล ไม่ใช่พลังงาน ..

    ทุกๆสิ่ง ไม่ว่าจะ วัตถุ สิ่งของ หรือสิ่งมีชีวิต ล้วนมีวิญญาณ เพราะวิญญาณคือ แหล่งข้อมูล ที่บรรจุทุกๆอย่างไว้ตามลักษณะของวัตถุนั้นๆ

    แต่มนุษย์และสัตว์เท่านั้น ที่มีจิต .. จิตก็มีหลายชั้น จิตต้นธาตุ จิตสำนึก จิตไร้สำนึก และจิตใต้สำนึก

    ความรู้พวกนี้ ไปถามคนอื่น เขาก็ตอบกันคนละคำตอบ น้องก็จะพลอย งงๆๆ และสุดท้าย ก็เลือกตัวบุคคล .. บุคคลที่เรียนเก่งที่เป็นdoctor พูดอะไรมาคนก็เชื่อ

    ทั้งๆที่ จริงๆแล้ว คำตอบทั้งหมด อยู่กับตัวน้อง 00000..(zeroes) ทั้งหมด

    คำตอบอยู่ภายในทั้งหมด ลองแยกจิตออกจากกายสิ่ .. เรียนรู้การฝันอย่างมีสติ แล้วน้องจะเข้าใจเรื่องนี้ได้มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปตั้งคำถามให้ใครมาตอบเลยแหละ ^^
     
  7. rossalen

    rossalen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +323
    ว่าประชดได้ใจจริงๆค่ะ :VO
    เอ๊ะหรือว่า ชมจากใจริงเนี่ย :z6
     
  8. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ไม่รู้หรอกนะว่าชาติภพมีจริงหรือไม่ แต่พระธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะมีจริง และมีผู้ปฏิบัติและเห็นจริงมีมากอยู่ คุณน้อง 0 ลองปฏิบัติดูนะแล้วจะรู้เอง อย่าไปเดาอย่าไปเชื่อในสิ่งที่ตัวเองยังไม่ได้พิสูจน์ คุณน้องอาจจะแย้งในข้อความที่พี่บอก แต่น้องต้องลองทำดู ในโลกนี้มีอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้เยอะแยะ พี่เคยอ่านหนังสือของนักจิตวิทยาชาวต่างชาติมาหลายเล่ม เค้าเคยทำการสะกดจิตคนไข้หลายต่อหลายรายแล้วพวกเขาก็ช็อกกับการพิสูจน์ที่คนไข้พูดขึ้นมาว่าตัวเองเป็นผู้ชายแต่งงานมีครอบครัวแต่ในปัจจุบันเค้าเป็นหญิงโสดและมีหลายๆเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเค้าในปัจจบันเลย น้องลองไปหามาอ่านดูนะมันน่าสนใจมาก ในห้องสมุดแห่งชาติน่าจะมี อาจจะมีฉบับแปลในเมืองไทยบ้าง(ไม่แนใจ)จำชื่อหนังสือไม่ได้ แต่เกี่ยวกับ Psychology แล้วที่น้องว่าUsaไปเอาพระมาถกเถียงกันเกี่ยวกับธรรมะหรือเรื่องหลังความตายน่ะ พระท่านที่บรรลุแล้วท่านไม่พูดมากหรอกนะ ท่านไม่ยุ่งเรื่องของทางโลกแล้ว ท่านไม่พูดหรอกท่านอยากให้เรารู้ด้วยตัวเราเอง ถ้ามีใครมาสอนให้เราทำผัดไท เค้าบอกให้เราใส่โน่นใส่นี่มันจะเป็นผัดไท แต่เราไม่เคยทำ ถ้าเราลองทำตามสูตรดูเราก็จะรู้ว่ามันเป็นผัดไท รสชาติแบบไหน เหมือนคำสอนของพระพุทธองค์ ถ้าเราศึกษาให้รู้ให้เข้าใจถ่องแท้ เราก็จะรู้จะเห็นเอง สิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ เราก็จะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเราเอง
    ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ขอให้น้องเจริญในธรรมเทอญ
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เออเนอะ...USA เนี่ยเค้าเก่งนะ เรื่องทดลง...ทดลองเนี่ย อะไรๆ ก็ไม่มี เรื่องใจ...ดิฉันทำมานานแล้ว ทำใจให้เป็นกลางไม่เป็นพวกมงคลตื่นข่าว ไม่จำเป็นสักนิดที่จะต้องคิดตาม ทฤษฎีอย่างเดียวไม่ปฏิบัติ ก็เหมือนกับความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หรือรู้มากเลยยากนาน แล้วคุณเชื่อเค้าหรือเปล่าล่ะ คุณเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือเปล่าล่ะ ถ้าคุณเชื่อว่าไม่มี บาปบุญก็ไม่มี ตายแล้วเกิดก็ไม่มี อย่างที่ USA เค้าว่านั่นแหละ และแล้ว USA ก็เป็นพระเจ้า 555และ5
     
  10. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    น่าสนใจ วิธีพิสูจน์ชีวิตหลังความตาย ตายแล้วเกิด

    ยังรออ่านข้อมูลอ้างอิงจากเจ้าของกระทู้ด้วยความสนใจอยู่นะคะ
    อยากรู้ว่าทีมงานผู้ทำการทดลองมีแนวคิด และวิธีการหาความจริงอย่างไร?

    เท่าที่เคยอ่านเจอ มีความพยายามที่จะพิสูจน์เรื่องทำนองนี้ด้วยการทดลองในรูปแบบต่างๆ อยู่พอสมควรทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศไทยก็มีบางท่านที่สนใจพิสูจน์อย่างจริงจัง เช่น คุณ ธวัชชัย ขำชะยันจะ
    ดิฉันชอบแนวคิดของเขาในการหาความจริงกับเรื่องที่ตนอยากรู้ค่ะ

    เอาข้อมูลบางอย่างมาฝาก ถ้าเคยอ่านกันแล้ว ซ้ำก็ขออภัยนะคะ

    วิธีพิสูจน์ชีวิตหลังความตาย ตายแล้วเกิด

    การพิสูจน์เกี่ยวกับชีวิตภายหลังความตาย ตายแล้วเกิดนี้ เป็นเรื่องที่เป็นอุปสรรคปัญหามาช้านานแล้ว ซึ่งอุปสรรคปัญหาของผู้ที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าชีวิตภายหลังความตายมีอยู่จริงหรือไม่ คนเราตายแล้วเกิดได้อีกจริงหรือไม่ แต่อุปสรรคปัญหาที่ว่าก็คือ การหาพยานหลักฐานที่เป็นรูปธรรม ที่จะนำมาแสดงให้สาธารณชนได้ประจักษ์ และยอมรับว่ามันมีอยู่จริงต่างหาก

    จากอุปสรรคและปัญหาดังกล่าว ผู้เขียนได้ย้อนกลับมาดูตัวเองว่า เพราะเหตุใดตัวของผู้เขียนเองจึงเชื่อและยอมรับว่ามีชีวิตภายหลังความตาย และมีการสืบเกิดในชาติหน้าได้จริง คำตอบก็คือ เพราะผู้เขียนได้ทำการพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทำการพิสูจน์ด้วยใจที่เป็นกลาง ไม่โน้มเอียงไปด้วยความเชื่อส่วนตัว ด้วยคำพูดของผู้อื่น หรือจากในตำราใดๆ ได้เป็นผู้ออกแบบวิธีการพิสูจน์ทดลองด้วยตัวเองอย่างรอบคอบ และได้วิเคราะห์เหตุผลและหลักฐานความสัมพันธ์ต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมอย่างรอบคอบแล้ว จึงทำให้ผู้เขียนเชื่อว่ามันมีอยู่จริง สรุปก็คือ ควรจะต้องพิสูจน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ประจักษ์ด้วยตัวเองจึงจะปลงใจเชื่อได้ ดังนั้นในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนจึงพยายามที่นำเสนอข้อเท็จจริงโดยละเอียด และได้นำเสนอแนวทางวิธีการพิสูจน์ในรูปแบบต่างๆ ให้กับท่านผู้อ่าน ที่สนใจจะทำการพิสูจน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อจะได้มีแนวทางในการศึกษาค้นคว้าและพิสูจน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ ประจักษ์ด้วยตัวของพวกท่านเอง ดีกว่ามานั่งถกเถียงกันให้เสียเวลาผู้เขียนมีตัวอย่างแนวทางที่บุคคลทั่วไปก็สามารถทำการพิสูจน์เชิงประจักษ์ด้วยตัวเองได้หลายวิธี ตัวอย่างเช่น

    พิสูจน์โดยกระบวนการและเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสะกดจิตย้อนอดีตชาติ ในปัจจุบันการสะกดจิตเป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีความก้าวหน้าไปมาก ก้าวหน้าจนถึงขนาดที่สามารถสะกดจิตย้อนอดีตชาติได้ และสามารถใช้การสะกดจิตย้อนอดีตชาติรักษาคนไข้ที่มีอาการหวาดกลัว และวิตกกังวลอย่างเฉียบพลัน(Phobia) ซึ่งเป็นผลมาจากความทรงจำที่ฝังใจมาตั้งแต่อดีตชาติได้แล้ว โดยทางการแพทย์เรียกการรักษาแบบนี้ว่า การรักษาโดยการฟื้นความทรงจำย้อนกลับไปยังอดีตชาติหรือ Past Life Regression Therapy ในประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสะกดจิตที่ผู้เขียนรู้จักสองท่านคือ ท่านนายแพทย์เชียร สิริยานนท์ อดีตอุปนายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย และ อาจารย์ชนาธิป ศิริปัญญาวงศ์ ประธานชมรมนักสะกดจิตแห่งประเทศไทย ในต่างประเทศ เช่นในประเทศอเมริกาก็มีจิตแพทย์หลายท่านสามารถทำการสะกดจิตย้อนอดีตชาติกับ บุคคลได้แล้ว ถึงแม้จะยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นบ้างในบางกรณีก็ตาม แต่บางกรณีก็มีความชัดเจนพิสูจน์ได้และมีพยานหลักฐานแน่นหนาจนน่าทึ่ง การใช้เครื่องตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีการนำมาใช้ในการพิสูจน์การมีอยู่ของวิญญาณบ้างแล้วในประเทศไทย เป็นเครื่องที่ส่งสัญญาณเสียงออกมาเมื่อมันตรวจพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าคุณสมบัติหนึ่งของวิญญาณคือมีพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ด้วย แต่ทั้งนี้สิ่งที่สามารถทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ก็มีอยู่มากมาย เครื่องนี้จึงไม่อาจใช้แสดงผลได้อย่างชัดเจนจนเชื่อถือได้ เครื่องบันทึกเสียง มีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มพยายามใช้เครื่องบันทึกเสียงที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่ออัดเสียงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งก็มีผลงานก้าวหน้าไปอย่างน่าสนใจ เครื่องถ่ายภาพรังสีออร่า ซึ่งมีผู้นำเข้ามาใช้กันบ้างแล้วในประเทศไทย เป็นเครื่องที่สามารถถ่ายภาพรัศมีหรือแสงของพลังงานที่อยู่รอบๆตัวของคนเราได้ และจากการสังเกตรัศมีนั้นสามารถบอกถึงสุขภาพ อาการป่วยหรือความผิดปกติของบุคคลนั้นๆได้ด้วย เชื่อกันว่ารัศมีหรือแสงของพลังงานที่เครื่องถ่ายภาพรังสีออร่าถ่ายได้นั้น คือส่วนที่เรียกว่าวิญญาณของคนเรานั่นเอง แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์ท่านใดออกมายืนยันชัดเจน จึงยังต้องศึกษากันต่อไปว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ กล้องถ่ายรูปทั่วไป มีกรณีภาพถ่ายประหลาดซึ่งเชื่อกันว่าเป็นภาพที่ถ่ายติดวิญญาณของผู้ที่ตายไป แล้วมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งภาพถ่ายที่ผู้เขียนเคยถ่ายเองก็มีภาพประหลาดๆเหมือนกับว่ามีวิญญาณติดมาเหมือนกัน แต่ยังไม่เคยให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ผู้เขียนเองก็เข้าใจว่ายังมีปัจจัยอีกมากที่สามารถทำให้เกิดภาพนั้นๆได้ ที่ผ่านมามีบางภาพที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้ หรือบางภาพก็มีผู้จงใจใช้เทคโนโลยีในการจัดแต่งภาพ แต่บางภาพก็ชัดเจนจนยากที่จะปฏิเสธได้ โดยเฉพาะตัวของผู้ถ่ายภาพเอง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในปัจจุบันกระบวนการและเครื่องมือเหล่านี้จะยังไม่สมบูรณ์พอ แต่อย่างน้อยมันก็นำพาให้นักวิทยาศาสตร์เข้าไปใกล้ความจริงในเรื่องนี้มากขึ้นทุกที และคงจะต้องมีการพัฒนาต่อไปอีกในอนาคตข้างหน้า

    พิสูจน์โดยการปฏิบัติ สมถกัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน จนได้องค์ฌาน หรือการฝึกสมาธิจิตรูปแบบอื่นๆ ในทางพุทธศาสนา มีวิธีการฝึกจิตที่เรียกว่าสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐานโดยละเอียด ซึ่งบุคคลทั่วไปก็สามารถฝึกปฏิบัติได้ มีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านบอกว่า ถ้าอยากเห็นผีหรือวิญญาณใช้เพียงสมาธิขั้นต้นๆคือขณิกสมาธิก็สามารถเห็นผี หรือวิญญาณได้ด้วยตัวเองแล้ว แต่ถ้าจะให้สามารถระลึกชาติได้ต้องเข้าถึงจตุตถฌาน และน้อมจิตไปเพื่อปุพเพนิวาสานุสสติญาณจึงจะทำให้สามารถหยั่งรู้อดีตชาติได้ หรือน้อมจิตไปเพื่อจุตูปปาตญาณ ทำให้มีตาทิพย์สามารถมองเห็นอดีต มองเห็นอนาคต เห็นความเกิดดับของสัตว์ มองเห็นกรรมของสัตว์ และเห็นนรกสวรรค์และภพภูมิอื่นๆนอกเหนือจากโลกมนุษย์ได้ ซึ่งมีตัวอย่างของผู้เข้าถึงแล้ว ได้แก่พระพุทธเจ้า พระอริยสาวก พระอริยสงฆ์ และพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่นับถือของคนไทยหลายรูป หรือแม้แต่นักพรต พราหมณ์ และผู้ฝึกสมาธิจิตในรูปแบบอื่นก็สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน

    พิสูจน์โดยการเชิญวิญญาณหรือโอปปาติกะเข้าทรง หรือศึกษาจากผู้ถูกผีเข้าสิงวิธีการเชิญวิญญาณหรือโอปปาติกะเข้าทรงนี้ก็สามารถพิสูจน์ได้ แต่จะต้องวางแผนการทดลองให้รัดกุมเป็นพิเศษ เนื่องจากมีคนทรงที่เป็นพวกหลอกลวงต้มตุ๋นอยู่จำนวนมากกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ มีตัวอย่างผลงานการศึกษาวิจัยที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ในประเทศไทย เช่น โครงการวิจัยประจักษ์พยานเกี่ยวกับปรโลกโดยการเชิญวิญญาณเข้าทรงของ ดร.บุณย์ นิลเกษ อดีตอาจารย์คณะมนุษย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งจากผลการศึกษาวิจัยของท่านได้ยืนยันการมีอยู่ของวิญญาณและชีวิตหลังความตาย ส่วนการศึกษาจากผู้ถูกผีเข้าสิง(เข้าสิงเองไม่ใช่การเข้าทรง)นั้นยังไม่มี ใครทำการศึกษา เนื่องจากกรณีที่จะศึกษานั้นหาได้ยากมากทั้งมีจำนวนน้อยไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และเป็นเรื่องยากที่ผู้ทำการศึกษาจะได้ประสบเหตุการณ์ขณะมีคนถูกผีเข้าสิง แต่ถ้าหากท่านได้ประสบพบเห็นก็หาโอกาสพิสูจน์สักครั้ง พยายามหารูปแบบการทดลองและพิสูจน์ให้ดีมีความรัดกุมเท่าที่จะสามารถทำได้ ท่านอาจจะพบความจริงที่ทำให้ท่านหายสงสัยในเรื่องนี้ก็เป็นได้

    พิสูจน์โดยให้ผู้ที่มีวิชาเรียกวิญญาณให้ปรากฏตัวให้เห็น ผู้มีวิชาเรียกผีของแท้ในประเทศไทยยังมีเหลืออยู่ไม่มากนักแต่นักหลอกลวงต้ม ตุ๋นมีมากกว่ามาก ดังนั้นการพิสูจน์โดยวิธีนี้จึงต้องระมัดระวังกันพอสมควร หากท่านพบกับผู้มีวิชาจริงๆก็หาโอกาสพิสูจน์สักครั้งจะได้หายสงสัย

    พิสูจน์ตามสถานที่ซึ่งวิญญาณมักปรากฏให้เห็น หรือรอให้วิญญาณปรากฏให้เห็นให้ได้ประจักษ์ด้วยตัวเอง วิธีนี้ก็ต้องอาศัยความกล้าและการป้องกันอันตรายที่ดีพอ ไม่ใช่ไปพิสูจน์ได้ยินเสียงหรือเห็นอะไรนิดหน่อยก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิตโดยไม่สังเกตให้รอบคอบ แล้วบอกว่าผีหลอกเห็นผีแล้วอย่างนี้ก็จะไม่ได้ความจริง ส่วนการรอคอยให้ผีหรือวิญญาณมาปรากฏตัวให้เห็นเองเห็นทีจะยากเพราะที่ผ่านมามีน้อยคนนักที่จะได้เห็น แต่สำหรับผู้ที่ได้ประสบพบเห็นมาด้วยตัวเองก็คงจะไม่ติดใจสงสัยในเรืองนี้อีก

    พิสูจน์จากผู้ที่มีประสบการณ์ใกล้ตาย ตายแล้วฟื้น หรือวิญญาณออกจากร่างชั่วขณะหนึ่ง ที่ผ่านมามีตัวอย่างของผู้ที่มีประสบการณ์เชิงประจักษ์ในลักษณะนี้จำนวนมาก ทั่วโลก มีนักวิทยาศาสตร์หลายคณะกำลังศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังและได้พบกับข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับจิตและสมองว่าเป็นคนละส่วนกันกล่าวคือเมื่อตาปิดสนิทสมองหยุดทำงานโดยสิ้นเชิงผู้ป่วยบางรายสามารถรับรู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งกับตัวเองและผู้อื่นในสถานที่ห่างออกไปได้ และเมื่อเขากลับฟื้นขึ้นมาสมองทำงานอีกครั้งเขาได้บอกเล่าประสบการณ์นั้นให้ฟัง ซึ่งบางเรื่องสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง บางเรื่องก็วิจิตรพิสดารเกินกว่าจะพิสูจน์ได้ แต่สำหรับผู้ที่ได้ประสบมากับตัวเองแล้วก็คงไม่ติดใจสงสัยอีก

    พิสูจน์จากผู้ระลึกชาติได้และผู้จำอดีตชาติได้ การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำกันมาก อีกทั้งกรณีศึกษาก็มีมาก ในหลายประเทศมีผลงานการศึกษาวิจัยออกมามากมายและต่อเนื่อง เช่น ผลงานวิจัยของ ศาสตราจารย์นายแพทย์เอียน สตีเวนสัน(Ian Stevenson) แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียประเทศสหรัฐอเมริกาผลงานวิจัยของ ดร.เอช เอ็น บาเนอร์จี(H.N. Banerjee) แห่งมหาวิทยาลัยราชฐานประเทศอินเดีย และคณะศึกษาวิจัยอีกจำนวนมากทั้งในประเทศอังกฤษเนเธอร์แลนด์ เยอรมัน ออสเตรเลีย พม่า ไทย และประเทศอื่นๆ ซึ่งพบผู้จำอดีตชาติได้จำนวนมากในหลายประเทศทั่วโลก ไม่จำกัดชาติศาสนา และผลของการศึกษาที่ได้ก็ออกมาแนวทางเดียวกันทั้งหมด คือบรรดานักศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันไม่มีอยู่ จริง เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เป็นรูปธรรมให้สามารถพิสูจน์ได้อยู่พอสมควร แต่ก็ยังมีเรื่องราวบางอย่างที่วิจิตรพิสดารจนไม่สามารถใช้เหตุผลทางการ แพทย์หรือหลักเหตุผลทางฟิสิกส์มาอธิบายเรื่องราวเหตุการณ์เหล่านั้นได้

    พิสูจน์โดยการศึกษาผู้ที่มีรอยแผลเป็น รอยตำหนิอื่นๆ หรือผู้ที่มีความผิดปกติพิการทางร่างกายตั้งแต่แรกเกิดอันสืบเนื่องจากอดีตชาติ จากการศึกษาวิจัยผู้ที่จำอดีตชาติได้พบว่า ลักษณะต่างๆดังกล่าวเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันอย่างมีเหตุมีผล และเป็นหลักฐานที่เป็นรูปธรรมที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่ใช้ในการพิสูจน์การ สืบชาติมาเกิดของบุคคล ซึ่งคณะที่ทำการศึกษาวิจัยผู้จำอดีตชาติได้ทุกคณะในหลายประเทศ พบและให้ความสนใจกันมากในขณะนี้ เช่น รอยบาดแผลที่ถูกยิงในอดีตชาติปรากฏเป็นรอยแผลเป็นในปัจจุบันชาติ เป็นต้น โดยปกติแล้วลักษณะต่างๆเหล่านี้จะพบในผู้ที่จำอดีตชาติได้ แต่ที่ผู้เขียนแยกออกจากการศึกษาผู้ที่ระลึกชาติได้และผู้จำอดีตชาติได้ก็ เผื่อว่าจะได้มีผู้ทำการศึกษาเจาะลึกเฉพาะทางต่อไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถสังเกตและ ติดตามศึกษาผู้ที่จำอดีตชาติได้ตั้งแต่แรกเกิดแล้ว โดยการสังเกตและศึกษาจากเด็กที่เกิดมาแล้วมีรอยตำหนิหรือแผลเป็นมาตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากเราพบว่าผู้ที่มีแผลเป็นติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิดส่วนใหญ่จะจำ อดีตชาติได้ด้วย ดังนั้นแทนที่เราจะศึกษาจากผู้ที่จำอดีตชาติได้จนกระทั่งไปพบว่าเด็กที่จำอดีตชาติได้มีรอยแผลเป็น ที่เกิดจากบาดแผลในอดีตชาติ เราก็เริ่มทำการศึกษาจากเด็กที่มีรอยแผลเป็นตั้งแต่แรกเกิด ไปจนกระทั่งเขาเริ่มพูดถึงความทรงจำในอดีตชาติ ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ผู้ที่ทำการศึกษาสามารถควบคุมการพิสูจน์ทดลองได้ ตั้งแต่ต้น นับเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการสืบชาติมาเกิดได้อย่างเป็นรูปธรรมและถูกต้องตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

    พิสูจน์โดยการทดลองตายด้วยตัวเอง นี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนและแน่นอนได้ประจักษ์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องถามใคร แต่หวังว่าจะไม่มีใครลงทุนทำลายชีวิตของตัวเองเพื่อพิสูจน์ด้วยวิธีนี้ เพราะยังมีวิธีที่ดีกว่านี้ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้โดยไม่ต้องแลกด้วยชีวิต

    สำหรับผู้เขียนเองเลือกที่จะทำการพิสูจน์ชีวิตภายหลังความตาย ตายแล้วเกิดของคนเราจากผู้ที่จำอดีตชาติได้ เนื่องจากเคยได้ประสบเหตุการณ์เชิงประจักษ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเด็ก ซึ่งความตั้งใจในตอนแรกของผู้เขียนมีเจตนาเพียงแค่อยากพิสูจน์ความจริงใน เรื่องนี้ให้กับตัวเอง แล้วก็คิดที่จะเขียนหนังสือเพื่อเผยแพร่เรื่องราวความจริงนี้ออกไปเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะศึกษาวิจัยตามหลักวิชาการแต่อย่างใด แต่หลังจากที่ได้พบและสัมภาษณ์ผู้ที่จำอดีตชาติได้จำนวนมาก จึงทำให้เกิดความสนใจที่จะทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง และพยายามเสาะหาผู้ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในประเทศไทยเพื่อจะได้ทราบข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามีความก้าวหน้าไปมากน้อย อย่างไรแล้ว

    เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๔๓ ผู้เขียนมีโอกาสได้พบและรู้จักกับท่าน อาจารย์สุตทยา วัชราภัย วิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการจำอดีตชาติได้ และอาจารย์พิเศษของสถาบันนิด้าซึ่งท่านเคยเป็นล่ามให้กับคณะศึกษาวิจัยผู้ ที่จำอดีตชาติได้จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียสหรัฐอเมริกา เมื่อได้แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ท่านก็ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสัมภาษณ์และวิธีการศึกษาผู้ที่จำอดีตชาติได้ ท่านเคยไปพักที่บ้านเกิดของผู้เขียนเพื่อสังเกตผู้ที่จำอดีตชาติได้ในหมู่ บ้าน และได้ร่วมกันออกค้นหาผู้ที่จำอดีตชาติได้ในหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งก็พบเบาะแสของผู้ที่จำอดีตชาติได้จำนวนหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นต่างคนต่างก็มีงานไม่ว่าง จึงไม่ได้ทำการติดตามศึกษาต่อไป

    ต่อมาผู้เขียนได้พบกับท่าน รศ.ดร.นัยพินิจ คชภักดี หัวหน้าภาควิชาชีวประสาท มหาวิทยาลัยมหิดลและอุปนายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย(ตำแหน่งในขณะ นั้น) ท่านได้ให้ผู้เขียนไปบรรยายเกี่ยวกับการศึกษาผู้ที่จำอดีตชาติได้ ที่สมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย และได้แนะนำให้ผู้เขียนได้รู้จักกับ คุณวิเชียร สิทธิประภาพร นักศึกษาปริญญาเอกลูกศิษย์ของท่านซึ่งเป็นล่ามให้กับคณะศึกษาวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน ต่อจากท่านอาจารย์สุตทยา

    ผู้เขียนได้พบและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันกับคุณวิเชียรหลายครั้ง จนได้ทราบว่าคณะศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียได้เข้ามาเก็บข้อมูลผู้ ที่จำอดีตชาติได้ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๙ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า ๔๐ ปีแล้ว โดยจะเดินทางมาเก็บข้อมูลปีละ ๒ – ๓ ครั้งเพื่อติดตามดูความเปลี่ยนแปลงของผู้ที่จำอดีตชาติได้รายเก่าที่เคยสัมภาษณ์ไว้แล้ว และสัมภาษณ์ผู้ที่จำอดีตชาติได้รายใหม่ โดยมีคนไทยทำหน้าที่เป็นล่ามช่วยแปลคำสัมภาษณ์ให้ และร่วมทำการศึกษาวิจัยมาแล้วหลายท่าน เช่นศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล , อาจารย์เต็ม สุวิกรม , นายแพทย์เชียร สิริยานนท์ , อาจารย์นาซิบ สิโรรส , อาจารย์สุตทยา วัชราภัย เป็นต้น

    ในตอนนั้นผู้เขียนคิดว่าข้อมูลของผู้ที่จำอดีตชาติได้ในหมู่บ้านของผู้เขียน อาจจะมีประโยชน์ต่อการศึกษาวิจัยของคณะศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคณะนี้ จึงได้มอบข้อมูลและเบาะแสของผู้ที่จำอดีตชาติได้ในหมู่บ้านของผู้เขียนและ หมู่บ้านใกล้เคียงให้กับคุณวิเชียรไปทั้งหมด ต่อมาทราบว่าคุณวิเชียรได้พาคณะศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เข้าไปเก็บข้อมูลจากผู้ที่จำอดีตชาติได้ในหมู่บ้านของผู้เขียนแล้วตั้งแต่ เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๔ ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนได้ย้ายมาทำงานที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว จึงไม่ได้ติดต่อกับคุณวิเชียรอีกเลย เนื่องจากต่างคนต่างก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ได้ทราบข่าวจากครอบครัวของผู้ที่จำอดีตชาติได้ ว่าคุณวิเชียรและคณะได้เข้ามาสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลบ้างแล้วเท่านั้น ผู้เขียนหวังว่าถึงตอนนี้คณะของคุณวิเชียรคงจะเก็บข้อมูลไปมากพอสมควรแล้ว และหวังว่าเรื่องราวของผู้ที่จำอดีตชาติได้ในหนังสือเล่มนี้จะไม่กระทบกับการศึกษาวิจัยของคณะศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เนื่องจากเวลาได้ล่วงเลยมาเกือบ ๑๐ ปีแล้ว

    สำหรับการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผู้ที่จำอดีตชาติได้ของคณะศึกษาวิจัยจาก ภาควิชาปรจิตวิทยา(Parapsychology) คณะจิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียประเทศสหรัฐอเมริกา นั้นได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๔ จนถึงปัจจุบันนี้(พ.ศ.๒๕๔๙)เป็นเวลากว่า ๔๕ ปีแล้ว โดยมี ศาสตราจารย์นายแพทย์ เอียน สตีเวนสัน เป็นหัวหน้าคณะ แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ท่านได้ปลดเกษียณไปแล้ว แต่ท่านก็ยังคงทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปโดยปักหลักอยู่ทางแถบ ประเทศอินเดีย และมี ดร.จิม ทักเกอร์(Jim Tucker) ซึ่งร่วมศึกษาวิจัยกับคณะนี้มานานกว่า 40 ปีเป็นหัวหน้าคณะคนใหม่ จากการศึกษาวิจัยผู้ที่จำอดีตชาติได้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก ของคณะศึกษาวิจัยคณะนี้ พวกเขาได้พบผู้ที่จำอดีตชาติได้มากกว่า ๓๐๐๐ ราย และพบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลายประเทศหลายศาสนาและหลายความเชื่อทั่วโลก ซึ่งพวกเขาได้นำผลที่ได้จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในทางการแพทย์บ้างแล้ว เช่น ใช้ในการวิเคราะห์และรักษาอาการทางจิตของเด็กหรือของคนไข้ที่เป็นโรค กลัว(Phobias) เช่น กลัวน้ำ กลัวการนั่งเรือ กลัวที่จะอยู่ในที่แคบๆ เป็นต้น ซึ่งผลจากการศึกษาวิจัยพบว่าบางกรณีเกิดจากความทรงจำที่เลวร้ายในอดีตชาติ ที่ยังฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก เช่น ในอดีตชาติเคยตกน้ำตายหรือตายเพราะเรือล่ม เมื่อเกิดมาในชาตินี้จึงกลัวน้ำกลัวการนั่งเรือ เป็นต้น
    สำหรับในประเทศไทยเราก็มีผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มากพอสมควร แต่ยังไม่มีใครทำการศึกษาวิจัยอย่างจริงจังในเชิงวิชาการ อาจเป็นเพราะไม่มีผู้สนับสนุนทุนให้ทำการศึกษาวิจัย เนื่องจากยังมองไม่เห็นประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมก็เป็นได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเราชอบเป็นผู้ตามมากกว่าที่จะเป็นผู้นำอยู่แล้ว เมื่อก่อนพวกฝรั่งเขาไม่เชื่อเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เลย ไม่มีแม้แต่คำศัพท์ที่จะใช้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ให้เข้าใจได้อย่าง ชัดเจน แต่ในปัจจุบันนี้ฝรั่งเขาสนใจเรื่องนี้มาก เขามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวของจิตที่นอกเหนือจากจิตปกติกันมานาน เช่น โทรจิต(Telepathy) , สัมผัสที่หก(Six Sense) , การรับรู้พิเศษ(Extra Sensory Perception) , การใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของ(Psycho Kinetic) , การกลับชาติมาเกิด(Reincanation) เป็นต้น ซึ่งอยู่ในสาขาวิชาปรจิตวิทยา(Parapsychology) จนถึงขั้นมีศาสตราจารย์และด็อกเตอร์ทางสาขานี้กันแล้ว แต่ในบ้านเรากลับตรงกันข้าม เมื่อก่อนนี้เรามีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเพราะพวกเราส่วนใหญ่เป็น ชาวพุทธ และเราเชื่อถือในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่ในปัจจุบันนี้เรากลับมองเรื่องเหล่านี้ว่าเป็นเรื่องงมงาย ทุกครั้งที่มีการนำเสนอถึงเรื่องเหล่านี้ตามสื่อต่างๆโดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ก็จะได้เห็นคำว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการชม ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการให้เกียรติผู้ที่มีความเชื่อเป็นอย่างอื่น แต่ก็อย่างที่ว่า ความจริงก็คือความจริง ถ้าเราไม่เชื่อและศรัทธาในความเป็นจริงแล้ว เราจะเชื่อถือสิ่งใดได้อีก

    หาเวลามาพิสูจน์กันเถอะครับจะได้หายสงสัยกันเสียที หาโอกาสทำการพิสูจน์ด้วยตัวเองสักครั้งโดยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้ และไม่จำเป็นต้องพยายามทำให้ใครเขาเชื่อตาม ปล่อยให้ผู้ที่ไม่รู้ ไม่พิสูจน์ ไม่เชื่อ เขาสงสัยและถกเถียงกันต่อไปอย่าได้ใส่ใจ สิ่งที่น่าใส่ใจน่าสนใจคือ เมื่อเราทำการพิสูจน์จนรู้ได้ด้วยตัวเองว่าชีวิตภายหลังความตายและการสืบ เกิดในชาติหน้ามีจริงแล้ว จะทำอย่างไรกันต่อไป

    ขอขอบคุณบทความดีๆ จากโดยธวัชชัย ขำชะยันจะ
    เครดิต เว็บบ้านจอมเวทย์ คุณธรรมปุ้ย



     
  11. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ไม่รู้หรอกนะว่าชาติภพมีจริงหรือไม่ แต่พระธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะมีจริง และมีผู้ปฏิบัติและเห็นจริงมีมากอยู่ คุณน้อง 0 ลองปฏิบัติดูนะแล้วจะรู้เอง อย่าไปเดาอย่าไปเชื่อในสิ่งที่ตัวเองยังไม่ได้พิสูจน์ คุณน้องอาจจะแย้งในข้อความที่พี่บอก แต่น้องต้องลองทำดู ในโลกนี้มีอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้เยอะแยะ พี่เคยอ่านหนังสือของนักจิตวิทยาชาวต่างชาติมาหลายเล่ม เค้าเคยทำการสะกดจิตคนไข้หลายต่อหลายรายแล้วพวกเขาก็ช็อกกับการพิสูจน์ที่คนไข้พูดขึ้นมาว่าตัวเองเป็นผู้ชายแต่งงานมีครอบครัวแต่ในปัจจุบันเค้าเป็นหญิงโสดและมีหลายๆเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเค้าในปัจจบันเลย น้องลองไปหามาอ่านดูนะมันน่าสนใจมาก ในห้องสมุดแห่งชาติน่าจะมี อาจจะมีฉบับแปลในเมืองไทยบ้าง(ไม่แนใจ)จำชื่อหนังสือไม่ได้ แต่เกี่ยวกับ Psychology แล้วที่น้องว่าUsaไปเอาพระมาถกเถียงกันเกี่ยวกับธรรมะหรือเรื่องหลังความตายน่ะ พระท่านที่บรรลุแล้วท่านไม่พูดมากหรอกนะ ท่านไม่ยุ่งเรื่องของทางโลกแล้ว ท่านไม่พูดหรอกท่านอยากให้เรารู้ด้วยตัวเราเอง ถ้ามีใครมาสอนให้เราทำผัดไท เค้าบอกให้เราใส่โน่นใส่นี่มันจะเป็นผัดไท แต่เราไม่เคยทำ ถ้าเราลองทำตามสูตรดูเราก็จะรู้ว่ามันเป็นผัดไท รสชาติแบบไหน เหมือนคำสอนของพระพุทธองค์ ถ้าเราศึกษาให้รู้ให้เข้าใจถ่องแท้ เราก็จะรู้จะเห็นเอง สิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ เราก็จะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเราเอง
    ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ขอให้น้องเจริญในธรรมเทอญ
     
  12. Good_speed

    Good_speed Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +47
    คุณ 0000000000000 รบกวนไปศึกษาพระไตรปิฏกให้ละเอียดแล้วจะเข้าใจครับ
     
  13. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    :cool:
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง ยังอดตลกไม่ได้เรื่องแบคทีเรีย สี่ ตัว..........สัตว์ตัวเล็กมันมีเยอะจนเรานับไม่ได้มาหลายหมื่นปีแสงแล้ว
     
  14. sron2006

    sron2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,202
    แล้วคนที่ระลึกชาติได้หล่ะมันคืออะไรหรอ จะเชื่ออเมกา หรือพระพุทธเจ้า
     
  15. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    อ้าววววว อ้าว อ้าวววววววว เบา จ้า เบา เบาลงก่อน

    เบา จ้า เบา--- เเหม่ เเหม่--- ใส่ กัน เต็ม ข้อ เลย นะเจ้าค่ะ --เบาค่ะ เบา เดี๋ยว คุณพี่ เจ้า ของ กระทู้ เเก ขวัญเสีย หมด พอดี ----พัก หายใจ หาย คอ กิน นํ้ากินท่า กัน ก่อน เดี๋ยว เป็น ลม ล้ม ไป ----โดยเฉพาะ ผู้ สูง อายุ ทั้งหลาย ระวัง นิ้ว ล็อค นะค่ะ อย่า โมโห หุ หุ หุ:'(
     
  16. Kit_J

    Kit_J เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +348
    คุณ 000000000 อย่ามาเกรียนแถวนี้ คำว่า ทฤษฎี ยังสะกดผิดเลย
    แล้วไอ้ที่พูดว่า บุญบาปไม่มีจริง เขาทุ่มเงินวิจัยกันมาแล้ว....มีหลักฐานไหม มี paper ไหม (อย่ามาเกรียน บอกว่าฟังเขาพูดมาอีกทีล่ะ)
     
  17. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    เชื่อ ไหมค่ะ

    น้อง เห็น ทีเเรก รู้สึก ได้ ทันที ว่า เดี๋ยว ยาวเเน่ เลย เขียน ดัก ไว้ ก่อน อิ อิ อิ ----เเต่ หาก คุณพี่ มี เวลา ลอง ค่อยๆ อ่าน เเต่ ต้น จน จบ ดู สิค่ะ --สาระ ความรู้ ล้วน ๆ ----นี้ เเหละค่ะ อารมณ์ บน บรอด ที่หา ไม่ได้ ใน ตําราเรียน เพราะ ในโรงเรียน เขา มัก จะไม่ เเย้ง โต้ ตอบ กันไปมา เเบบ นี้ เท่าไร ----ใครรู้ ใครชอบ อะไร ก็ ใส่ๆ ลงไป เขย่า ๆ เชคๆ เติม เกลือ หน่อย บีบมะนาว นิด --------ไม่ชิม ทนไว้ หรือ เจ้า ค่ะ (kiss)
     
  18. DukeSonic

    DukeSonic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +831
    ศาสนาก็ต้องเชื่ออย่างมีสติ วิทยาศาสตร์ก็ต้องเชื่ออย่างมีสติ ทุกสิ่งทุกอย่างยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน มนุษย์ยังหาสัจธรรมที่แท้จริงไม่ได้เลย แล้วจะรีบด่วนตัดสินใจกันได้อย่างไร
     
  19. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    เรื่องที่พูดถึง

    เราไม่เห็นบ้านเมืองจากดาวดวงอื่นและผู้คน

    ก็คงแบบเดียวเรามองไม่็วินญานและเทวดาในชั้นจตุมหาราิชิกา
     
  20. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    ขี้เกียจอ่านหน้าแรกๆ คุณบอกคุณไม่เชื่อในศาสนา

    งั้นผมบอกคุณละ ว่าผมก็ไม่เชื่อวิทยาศาสตร์

    คุณอ้างหลักนู้นมา นี้มา หลมดำโน้น หลุมดำนี้
    ถามจริง คุณเคยเห็นหลุมดำไหม
    วิทยาศาสตร์อ้างว่ามนุษย์ทุกคนมีเซลล์ แ้ลวคุณเคยเห็นเซลล์ไหม
    วิทยาศาสตร์บอกว่าวิญญาณไม่มีจริง กรรมไม่มีจริง
    เพราะอะไร
    เพราะวิทยาศาสตร์ก็ยังหาความจริงไม่ได้ แต่ก็บอกว่ากรรมนั้นไม่มีจริง
    อ้างนู้น อ้างนี้มา แล้วที่เค้าอ้างคุณเคยเห็นไหม

    วิิทยาศาสตร์ บอกว่าไปดวงจันทร์มาแล้ว
    เจอหลุมดำมาแล้ว แล้วคุณเคยเห็นไหม


    วิทยาศาสตร์ไม่ได้รู้ทุกอย่าง แต่แสร้งทำเป็นรู้ทุกอย่าง
    วันนี้ดึกแล้วนอน ถ้ามีไรอีกเดี๋ยวมาคุยอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...