*_________* บุญบาป ไม่มีจริงนะเกิดใหม่ก็ไม่มีจริง

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย 000000000, 7 มกราคม 2011.

  1. louis18

    louis18 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +21
    ใครอยากเชื่อก็เชื่อไปเถอะครับ ผมไม่อยากเถึยงด้วยหรอก ผมเชื่อ ร้อย เปอร์เซ็นต์ คุณเปลี่ยนตวามเชื่อผมไม่ได้หรอก และผมก็จะไม่เปลี่ยนความเชื่อคุณด้วย ถึงเวลาก็รู้เอง แล้วจะมานั่งเสียใจทีหลัง
     
  2. louis18

    louis18 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +21
    ผมเชื่อว่ามีจริง เหมือนไอน้ำในอากาศ เราไม่เห็นมันโดยตรง แต่มันก็มีอยู่จริง เรื่องนี้ต้องไปอ่าน มิลินทปัญหา ตอบได้หมด
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ ****

    สุข...มีจริง
    ทุกข์....มีจริง
    พอเรื่องสุข...ก็วิ่งไปหา
    พอเรื่องทุกข์....ก็วิ่งหนี
    แล้วใน ดวงอาทิตย์ ...มีอะไร ทำไมถึงส่องสว่างได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ทำไมเชื่อแบคทีเรีย แต่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้ากันนะ ท่านก็ท้าให้เราพิสูจน์อยู่แล้ว ลองปฏิบัติดูซิ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ ปัญญา วิญญาณเป็นเพียงธาตุรู้เท่านั้นเอง ประมวลผลเองไม่ได้(คล้าย เมมโมรี่) ต้องใช้ร่างกายเป็นตัวประมวลผลและแสดงผล(คล้ายคอมพิวเตอร์)
     
  5. Nefertity

    Nefertity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +634
    ผู้รู้ไม่ว่า ผู้ว่าก็ไม่รู้
     
  6. Chanko.8

    Chanko.8 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +88
    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

    เห็นใครกำลังหลงทางหากเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง ก็เข้าไปช่วยเข้าไปบอกทางก็เป็นการดี
    แต่หากบอกทางเขาแล้วเขาไม่เชื่อก็อย่าได้ไปโกรธไปโมโหเขา ไปหาว่าเขาโง่ เพราะหากจิตเราคิดอย่างนั้นแล้ว ก็เท่ากับเราตกหลุมพลางตัวเอง
    หากเราช่วยบอกทางแล้วเขาเชื่อก็พลอยยินดีกับเขาที่เขาเดินถูกทางแล้ว... แต่หากเขาไม่เชื่อแล้วไซร้ จะพูดอย่างไรต่อเขาก็ไม่เชื่อ.. ก็คงต้องปล่อยวาง เพราะมันเป็นทางของเขา
     
  7. นุภาวัฒน์

    นุภาวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    774
    ค่าพลัง:
    +270
    ลงมือปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าดีกว่าสงสัยกินใจจนตายก็ไม่พบความจริง
     
  8. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เดี๋ยวกระทู้นี้จะถูกย้ายไปหลุมดำ
     
  9. วิปัสนะ

    วิปัสนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +647
    เมื่อคุณสิ้นชีวิตไปนั่นแหละคุณจะรู้ว่าผลของบุญและบาปมีจริงหรือเปล่า
    ใคร หรือประเทศไหนจะวิจัยหรือค้นคว้าก็ให้เขาทำกันไป ควรวางเฉยเสีย
    จริงหรือไม่จริงตัวของคุณเองเท่านั้นจึงจะบอกได้
     
  10. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    เรื่องผลแห่งบุญ-บาปมีจริงอย่างแน่นอน และมีหลายระดับ...

    แต่วิธีที่นำมาพิสูจน์กัน เหมาะสมที่จะให้รู้ได้หรือเปล่า? นั่นแหละตัวแปรสำคัญ ซึ่งหากเราต้องการพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ด้วยตาเนื้อแก่สาธารณชนทั่วไป วิธีการดังกล่าวอาจพิสูจน์ได้เพียงระดับเบื้องต้นของผลบุญบาปเท่านั้น เช่น ระดับของจิตใจ-สารในสมอง, ผลแห่งบุญบาปในชาตินี้ เป็นต้น อาจพิสูจน์ได้ เหมือนกับการที่เราตั้งใจสมาธิทุกวัน ย่อมพิสูจน์ได้ว่าสมองดีขึ้น และความจำดีขึ้น การเรียนก็ดีขึ้น ส่งผลให้เราเรียนเก่งได้คะแนนดี ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่หมั่นฝึกสมาธิ ทำจิตให้ฟุ้งซ่านอยู่เสมอๆ ย่อมทำให้สมองไม่ดี ความจำเลวลง การเรียนตกต่ำลง ส่งผลให้เรียนได้คะแนนไม่ดี อย่างนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่นำมาพิสูจน์ว่าผลแห่งบุญบาปมีจริงในระดับเบื้องต้น

    แต่ถ้าเป็นระดับข้ามภพชาติ ตรงนี้วิธีการที่จะพิสูจน์ให้เห็นแก่สาธารณชนทั่วไปเป็นการยาก เนื่องจากสิ่งเหล่านั้นที่รับรู้ได้โดยทางมโนทวาร หรือทางใจ แต่สิ่งที่จะให้ประชาชนทั่วไปรู้ได้เป็นทางประสาทสัมผัสทั้ง ๕ เท่านั้น เรียกว่า เป็นปัจจัตตัง ปรากฏชัดได้ด้วยตนเอง หากใครต้องการพิสูจน์ก็ต้องพิสูจน์ด้วยตนเองเท่านั้น

    ดังนั้นผลแห่งบุญบาปจึงมีจริง ข้ามภพชาติก็มีจริง เพียงแต่วิธีพิสูจน์ความจริงที่นำมาใช้ควรจะเหมาะสมกับระดับความจริงที่ต้องการด้วย

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  11. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ผมก็เคยสงสัยเหมือนคุณ0 นะครับ

    ว่าโลกเราเกิดมามีสิ่งมีชีวิตไม่กี่ชนิด และมนุษย์ก็ไม่ได้มีมากนัก
    (แล้วที่สงสัยว่าจะมีการเกิดใหม่ได้ยังไง)
    แต่ด้วยความสงสัยก็ศึกษาหาเหตุเชื่อมโยงว่ามันเป็นไปได้อย่างไร

    จากสิ่งที่เล็กๆ ก็จะพัฒนาเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่า และเจริญกว่าต่อๆไป
    จนถึงเกิดเป็นมนุษย์ และที่ว่าแต่ก่อนมนุษย์น้อย ไม่เท่าปัจจุบัน
    นั่นก็คงเป็นที่บุญกรรมนั่นเอง คนที่รอเกิดก็ต้องรอไปจนถึงเวลา

    โลกที่เราอยู่นี้เป็นเพียงหนึ่งในโลกที่เคยแตกดับไปจนนับไม่ได้
    วิญญาณเหล่านั้นก็ต้องรอโลกเกิดขึ้นมาใหม่ แล้วค่อยไปเกิด
    เป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อย และเวียนว่ายตายเกิดจนกว่าจะเป็นมนุษย์

    ที่อธิบายมาไม่รู้ว่าคุณ0 จะพอรับได้มั้ยครับ
    ผมเข้าใจคุณ เพราะผมก็เคยสงสัยเช่นกัน
    แต่ด้วยความศรัทธาต่อคำสอน จึงต้องศึกษา ไม่ให้เหตุสงสัยเป็นการหมิ่นคำสอน
    ของพระพุทธเจ้าที่ได้มีเมตตาชี้ทางให้ผู้ที่อยากหลุดพ้นวังวนนี้ไปสู่นิพพาน
     
  12. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    บางทีพวกเราพูดมากไปก็ไม่ดีค่ะ แต่ควรปฎิบัติมากกว่าค่ะ จะได้รู้จริงๆค่ะ เพราะศาสนาพุทธคือความจริง มีหลักการและเหตุผล
     
  13. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294

    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
     
  14. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ผมว่าคนที่มีความสงสัย ดีกว่าคนที่เชื่อโดยไม่สงสัยเลยนะครับ
    เมื่อสงสัยก็ต้องหาคำตอบ เมื่อได้คำตอบโดยหมดข้อสงสัย
    ก็จะเกิดศรัทธาต่อสิ่งนั้นๆ และจะพัฒนาปัญญาต่อไป
     
  15. ๒ อัฐ

    ๒ อัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +140
    " บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี ตายแล้วไม่ศูนย์ ชาตินี้ชาติหน้ามี และบุคคลบางประเภทไปนิพพานได้ "
    เพราะฉนั้น มีเมื่อว่าน มีวันนี้ มีพรุ่งนี้ คิดดูว่าพิสูตรและเห็นได้จริงไหม? แต่ถ้าบุลคลใดไม่รู้ไม่เข้าใจ พูดอย่างไร อธิบายอย่างไรก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ ยิ่งบุลคลนั้นไม่พยายามเข้าใจอีกต่างหาก ผมเองเชื่ออย่างสุดใจในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน และพระอริยะสงฆ์สาวก ไม่มีข้อสงสัย
     
  16. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    ร่างกายมีสังขารหรือเครื่องปรุงแต่งให้จิตอุปมาไปว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มีกลไกของกรรมมาขวาง เช่นเกิดเป็นสัตว์ก็มีสัญชาติญาณเหนือความคิด ระบบประสาทก็ไม่ละเอียดพอไม่เช่นนั้นเราคงจะได้เป็นเพื่อนกับมดหรือพบรักกับแมงสาปไปแล้ว ลองเปรียบเทียบดูกับตอนฝันดูสิ เป็นโอกาสเดียวที่ทำให้รู้ได้เรียนรู้จิตที่ง่ายที่สุดแล้ว ทั้งๆที่มันไม่ได้มีอยู่จริง แต่ดูเหมือนกับเราได้สัมผัส ซึ่งเป็นมายาที่เราไปยึดถือไว้ทั้งสิ้น ละวางจากความยึดมั่นถือมั่นแล้ว จึงจะก้าวพ้นเส้นคั่นที่แบ่งภูมิจิตของสัตว์เอาไว้ได้ วิทยาศาสตร์ปัจจุบันก็ไม่ต่างจากการปรุงแต่ง ยึดสถิติ แลสมมุติฐาน ทดสอบหลายครั้งจึงจะเชื่อ
    แม้แต่ไอนสไตน์ที่คิดค้นทฤษฎีเปลี่ยนโลกก็ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมให้เห็นแล้ว หลังจากได้รางวัลมาทั้งๆที่อายุยังไม่ 30 ถ้ายังนั่งอยู่ในโลกหาคำตอบอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ ก็เหมือนดังปลาที่อยู่ใต้ทะเลลึก มิรู้ว่าเหนือน้ำยังมีแสงสว่างและอากาศอยู่ ทั้งๆที่มันก็แทรกซึม ปนกันไปอยู่ในน้ำนั่นเอง
     
  17. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ฮ่าาๆๆ...โง่กว่านี้ยังมีอีกไหม ?

    บุญ บาป มันไม่ตัวตนเด้อ
    ทุกข์กับสุข ก็ไม่มีตัวตนเหมือนกัน
    แต่ว่ามันมีหรือไม่มี ก็พิจารณากันเอาเองเถอะ

    ความเขลาของคนมีมากกว่าจักรวาลและไกลว่าจะนับหน่วยได้เป็นปีแสงเลยทีเดียว

    ที่แน่ๆเลยนะ หากออกมากล่าวอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นบาปแล้ว
    แต่จะยิ่งบาปกว่านั้นเมื่อมีผู้คล้อยตามดังคำกล่าว

    โชคดีนะ..จ๊ะ ขอให้สนุกกับท่าฟรีสไตล์ในกระทะทองแดงก็แล้วกัน :cool:
     
  18. jedsadaphol

    jedsadaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +102
    5555+ ช่างเขาคับ ปล่อยวาง พระพุทธเจ้าสอนไม่ได้หมดเลย นับประัสาไรกับเราๆละ
     
  19. ธรรมชาติมีพอเพียง

    ธรรมชาติมีพอเพียง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +86
    ต้องขอบคุณที่โยมได้ตั้งกระทู้ให้คนได้คิดนะ คนที่มีปัญญาจะได้คิดว่าการที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้มันจริงหรือไม่ เช่น กาลามสูตร ว่าด้วยความเชื่อ เป็นต้น และที่สำคัญก็คือ สิ่งที่ไม่ควรคิดและไม่ควรคิด เช่น การเกิดของจักรวาล ของโลก การเกิดของพระพุทธเจ้า ฤทธิ์ของพระพุทธเจ้ามีเท่่าใด เป็นต้น ท่านว่าหากไม่เลิกคิดจะถึงความเป็นบ้าแล
    เจริญพร
     
  20. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    โอ้ อนิจจา คนเขลาขนาดนี้ยังมีอยู่ รึ !


    ผู้ที่เข้ามาอ่านทั้งหลายโปรดขอให้พิจารณาตาม

    คำว่า บุญ กับ บาปนี้ คือพลังงานละเอียดรูปแบบหนึ่ง
    1. พลังงาน บุญ เกิดขึ้นได้จาก ตัวของนุษยนี้เอง ที่ทรงอารมณ์ แห่ง ปีติ สุข เป็นการสั่นสะเทือนในระดับย่อยที่สุดในร่างกาย ที่ประกอบมาจากธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่รวมมามาเป็นเนื้อ หนัง เลือด เอ็น กระดูก ฯลฯ
    จึงเป็นเหตุว่า การให้ทาน จึงได้บุญน้อยกว่าการรักษาศีล การรักษาสีลก็ได้บุญน้อยกว่า การเจริญสมาธิ เพราะอารมณ์แห่งปีติ สุข มันมีระดับความอ่อนเข้มที่ต่างกัน หากผู้ใดเคยทำสมาธิแล้วสามารถเข้าถึงสมาธิขึ้นกลาง หรือเข้าถึงสมาธิขั้นสูง อาการปีติ สุข ในสมาธิ นี่แหละ คือพลังงานบุญที่แผ่ออกมาจากกายเนื้อ และสามารถส่งผ่านถึงกันด้วยการแผ่เมตตาจิต
    2. พลังงานบาป ก็แผ่มากจากกายเนื้อเจ้าของเป็นสำคัญ หรือมาจากการแผ่มาจากผู้อื่น จากการสั่นสะเทือนในระดับย่อยสุดในร่างกาย ไปตามอารมณ์ โลภ โกรธ หลง

    และพลังงานพวกนี้แหละที่ห่อหุ้มจิตเดิมแท้ไว้ พามาเวียนเกิด เวียนตายไม่รู้จบ รู้สิ้น

    คนที่คิดว่า บุญ ไม่มี บาป ไม่มี บอกได้คำเดียวว่า น่าสังเวชใจเป็นอย่างยิ่งกับความคิดประเภทนี้

    ขออภัย หากทำให้ท่านผู้ใดไม่พอใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...