ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ช่วงนี้เฝ้าระวัง พายุที่อาจเริ่มก่อตัวทางภาคใต้ครับ เพราะ หากเกิดพายุรุนแรง อาจส่งผลให้เกิดสตอร์มเสริจจ์ ทั้งสองฝั่งของไทยคือ อ่าวไทยและอันดามันได้

    ในขณะที่ภาคเหนือภาคอีสานและภาคกลางหลายพื้นที่ ได้เกิดปัญหาภัยแล้งตั้งแต่เพิ่งหมดฝนแล้วครับ

    เร่งสำรองน้ำ เร่ง ขุดลอกแหล่งน้ำ สร้างแหล่งน้ำไว้ล่วงหน้าครับ

    โอกาสเกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพงในปีหน้ามีสูงมากทั่วโลก

    มีข่าวว่า ชาวฮ่องกงเดินทางมาสั่งข้าวไว้ล่วงหน้าแล้ว

    หลายประเทศงดส่งออกข้าว เช่นฟิลิปปินน์ เวียดนามลดการส่งออกข้าว

    ไทยเราเองก็ลดการส่งออกข้าวไป 50เปอร์เซนต์

    อย่าประมาทครับ

    --------------------------------------------

    ยิ่งหากสถานการณ์เกิดสงครามเกาหลีเต็มรูปแบบ ราคาน้ำมันและน้ำมันขาดแคลนแน่นอน ถึงเวลา น้ำมันแพง ค่าขนส่งสูง ข้าวปลาอาหารแพง

    ยามนั้น หากไม่เตรียม สร้างความอุดมสมบูรณ์เอาไว้ จะอยู่ยากกัน
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860

    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยปีนี้ นับว่าประหลาดมากกว่าทุกปีในประวัติศาสตร์

    ถือว่าเป็นการเตือนที่รุนแรงมาก แต่มีผู้คนอีกมากมายยังไม่รู้สำนึก

    สงครามที่เริ่มปะทุไปทุกภูมิภาคทั่วโลก จะเป็นตัวเร่งภัยพิบัติให้สั้นเข้ามา

    อาวุธสงครามที่ร้ายแรงของมนุษย์ ไม่มีพลานุภาพเท่ากับทุกภิกภัยหรือความหิวโหยของมนุษย์

    ต่อไปผู้มีปัจจัยสี่สมบูรณ์และได้รับผลกระทบจากธรรมชาติน้อยที่สุดจะเป็นชาติมหาอำนาจ
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** โปรดน้ำจากทางช้างเผือก ****

    น้ำแข็งจากแหล่งน้ำในจักรวาล
    ลำเลียงมาโดยกระแสลมจักรวาล
    เดินทางมาลงสู่โลกที่ไซบีเรีย
    ฝนหิมะตกมากขึ้นไหลลงทะเลมากขึ้น
    น้ำในโลกจะมากขึ้น ๑๖ ส่วน
    มาเติมให้เต็มตามสัดส่วนที่ขาดหายไป
    ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น
    เกาะจะจมหายไปเป็นล้านๆเกาะ
    โลกจะสมบูรณ์ขึ้นเหมือนในอดีต
    ทุกอณูบนโลกจะถูกเติมเต็มด้วยน้ำ
    DNAจะถูกต่อเติมด้วยน้ำ
    โลกจะเข้ายุคใหม่
    โลกอบอุ่นขึ้น
    ระหว่างโลกปรับตัวครั้งนี้
    ห้ามผู้หนึ่งผู้ใดเอาท้องฟ้ามาเป็นสนามรบ
    ถ้าประเทศใดฝ่าฝืน ฟ้าจะต่ำลงมา
    โลกจะระส่ำระสาย หาผู้แพ้ผู้ชนะไปได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สำคัญที่สุด ****

    ในตอนนี้ คือ สัจจะของคนไทย
    ถ้าไม่มี ก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้
    ทางรอด เป็นเรื่องเฉพาะคนที่ทำได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้ำท่วมใต้ยังไม่เลิก ' สุราษฎร์-พัทลุง ' ยังจมบาดาล

    [​IMG]

    หนาวพิบัติ 16 จว. วัดอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศา ด้านน้ำท่วมใต้ยังไม่เลิก ' สุราษฎร์-พัทลุง ' ยังจมบาดาล

    ปภ."เผย 16 จว. เผชิญภัยพิบัติหนาว สั่งผู้ว่าฯวัดอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศา ปภ.สรุปหนาวพิบัติ 16 จว. สั่งผู้ว่าฯวัดอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศา เบิกงบซื้อผ้าห่มช่วยปชช. ด้านน้ำท่วมใต้ยังไม่เลิก ' สุราษฎร์-พัทลุง ' ยังจมบาดาล

    ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์ภัยหนาวกับจังหวัดต่างๆ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. - 7 ธ.ค.มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยหนาว) 16 จังหวัด 197 อำเภอ 1,411 ตำบล 15,990 หมู่บ้าน สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว ปี 2553 - 2554 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับจังหวัด (ยกเว้นภาคใต้) ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว สำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยหนาว เพื่อวางแผนแจกจ่ายเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

    นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ให้จังหวัดใช้รายงานการคาดหมายลักษณะอากาศ 7 วัน เป็นรายจังหวัดของกรมอุตุนิยมวิทยา และมีสภาพอากาศหนาว ( 8.0 - 15.9 องศาเซลเซียส) ถึงหนาวจัด (ต่ำกว่า 8.0 องศาเซลเซียส) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อให้สามารถนำงบประมาณในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวมีความคล่องตัว หากวงเงินจังหวัดไม่เพียงพอ สามารถขอขยายวงเงินทดรองราชการมายังกรม ปภ. ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยหนาวเร่งจัดหาเครื่องห่มกันหนาวและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวตามระเบียบและหลักเกณฑ์ของทางราชการ โดยใช้เงินทดรองราชการในอำนาจจัดหาเครื่องห่มกันหนาวตามความจำเป็นและเหมาะสมในราคาผืนละไม่เกิน 180 บาท ภายในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท

    นายวิบูลย์ กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่ 10 ต.ค.ถึงปัจจุบัน ว่า มีพื้นที่ประสบภัย รวม 51 จังหวัด 558 อำเภอ 3,972 ตำบล 32,423 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,612,472 ครัวเรือน 8,970,653 คน ผู้เสียชีวิต 258 ราย ขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และพัทลุง ใน 10 อำเภอ 42 ตำบล 169 หมู่บ้าน 32,465 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อน 104,001 คน

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2553

    ที่มาhttp://www.bangkokbiznews.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผมก็บอกคุณ wawa แล้วว่าอ่านให้ครบทุกหน้าเสียก่อน แต่นี่คุณอ่านเพียง 2-3 หน้าก็รีบด่วนสรุปเอาเองเสียแล้ว.....พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงตรัสสอนอยู่เสมอให้คนเราใช้สติปัญญา ไตร่ตรองหาเหตุและผลของสิ่งต่างๆ ให้รอบด้านเสียก่อน แล้วค่อยตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งนั้นๆ ครับ

    [​IMG]

    บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเรื่องจักรวาลวิทยา(มี 8 หน้า)

    บทที่ 2 องค์ประกอบของจักรวาล(มี 7 หน้า)

    บทที่ 3 โครงสร้างของจักรวาล(มี 18 หน้า)

    บทที่ 4 การกำเนิดจักรวาล โลก และมนุษย์(มี 9 หน้า)

    บทที่ 5 ความเสื่อมของจักรวาล(มี 13 หน้า)

    บทที่ 6 การแตกทำลายของจักรวาล(มี 8 หน้า)

    บทที่ 7 กรณีศึกษาการเวียนว่ายตายเกิดของสัตวโลก(มี 9 หน้า)

    บทที่ 8 สรุปสาระสำคัญจากการศึกษาจักรวาลวิทยา(มี 9 หน้า)

    Download หนังสือเล่มนี้


    ****************************************************************

    หลักในการพิจารณาก่อนเชื่อ (คัดลอกมาบางส่วนในหนังสือจักรวาลวิทยา)

    การกำเนิดขึ้นของจักรวาล โลก หรือมนุษย์ ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งปวงนี้ เป็นคำสอนหรือความรู้ใน พระพุทธศาสนาดังที่กล่าวมาแล้ว ดังนั้นอาจจะมีบางท่านที่เคยศึกษาแล้วอาจจะไม่เห็นด้วย หรือมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้นในใจ ซึ่งไม่ใช่สิ่งแปลกแต่อย่างใด การที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะรู้สึกปฏิเสธหรือต่อต้านในสิ่งที่ผิดไป จากที่ตนเคยรู้เคยได้ยินมา หรือแม้กระทั่งผิดไปจากสิ่งที่ตนเชื่อมั่นหรือคาดหวัง พระพุทธองค์ทรงทราบดีว่า จะต้องมีผู้ที่ไม่เชื่อหรือไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่ใช่อุปสรรคเลย

    พระพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาที่บังคับใครให้เชื่อในคำสอน ไม่ได้สนใจว่าผู้ใดจะศรัทธาหรือไม่ แต่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของผู้มีปัญญา เป็นศาสนาที่ว่าด้วยหลักเหตุและผล สิ่งที่พระพุทธองค์ ทรงแสดงนั้นเป็นเพราะทรงเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น และคำสอนที่ทรงแสดงนั้นก็ไม่ได้ให้ผู้ฟังเชื่อตามในทันที แต่ทรงให้พิจารณาไตร่ตรองและให้พิสูจน์ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงแสดงนั้นจริงเท็จอย่างไรด้วยตัวของผู้นั้นเอง ดังที่ ทรงแสดงแก่ชนทั้งหลาย ที่บ้านกาลาม ใน กาลามสูตร ว่า

    "ควรแล้วท่านจะสงสัย ความสงสัยของท่านเกิดขึ้นแล้วในเหตุควรสงสัยจริง ท่านอย่าได้ถือโดยได้ฟังตามกันมา อย่าได้ถือโดยลำดับสืบๆ กันมา อย่าได้ถือโดยความตื่นว่าได้ยินอย่างนี้ๆ อย่าได้ถือโดยอ้างตำรา อย่าได้ถือโดย เหตุนึกเดาเอา อย่าได้ถือโดยนัยคือคาดคะเน อย่าได้ถือโดยความตรึกตามอาการ อย่าได้ถือโดยชอบใจว่า ต้องกันกับลัทธิของตน อย่าได้ถือโดยเชื่อว่า ผู้พูด สมควรจะเชื่อได้ อย่าได้ถือโดยความนับถือว่า สมณะผู้นี้เป็นครูของเรา เมื่อใด ท่านรู้ด้วยตนนั่นแลว่า ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ ท่านผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ ใครประพฤติให้เต็มที่แล้ว เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เป็นไปเพื่อทุกข์ ดังนี้ ท่านควรละธรรมเหล่านั้นเสีย เมื่อนั้น"

    ดังนั้น เนื้อหาในเรื่องกำเนิดโลกนี้ หากมีท่านใดท่านหนึ่งอาจจะคัดค้านไม่เห็นด้วยก็คงไม่ใช่เรื่อง แปลก เพราะเป็นทรรศนะในพระพุทธศาสนาซึ่งไม่ปรารถนาจะให้ผู้อ่านเชื่อในทันทีเมื่อมาศึกษา แต่จะเป็นการดีถ้าได้พิสูจน์อย่างถูกวิธีและเห็นตามความเป็นจริงที่ปรากฏด้วยตัวของท่านเอง

    ความรู้เรื่องจักรวาลทางวิทยาศาสตร์

    การค้นพบจักรวาลทางวิทยาศาสตร์นั้น นักดาราศาสตร์ได้นำเสนอทฤษฎีว่าด้วยการกำเนิดโลกที่ ต่างไปจากความเชื่อดั้งเดิมของศาสนาต่างๆ ที่เชื่อว่าเทพเจ้าเป็นผู้สร้างโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์นำเสนอว่า โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลแต่เป็นเพียงดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ แม้ดวงอาทิตย์จะเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ แต่ดวงอาทิตย์เป็นเพียงดาวฤกษ์ดวงหนึ่งในบรรดาดาวฤกษ์อีกนับหลายล้านดวงที่รวมตัวกันเป็นกาแล็กซี หรือดาราจักร ที่เรียกว่า Milky Way หรือที่คนไทยเรียกว่า ทางช้างเผือก ในจักรวาลของเรามีกาแล็กซีประมาณแสนล้านกาแล็กซี

    นักดาราศาสตร์อาจจะแบ่งดวงดาวออกเป็นกาแล็กซี เป็นหมวดหมู่ตามที่เห็นว่าเหมาะสม เท่าที่ค้นพบได้โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และสรุปได้ว่าจักรวาลมีลักษณะเป็นเกลียวเหมือนก้นหอย ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์มองเห็นว่าประกอบไปด้วยหมู่ดาวมากมายละลานตา และที่จุดศูนย์กลางเป็นความ สว่างไสวแผ่ออกไปกว้างไกลมาก โลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในจักรวาลเท่านั้น

    จักรวาลมีจำนวนมากนับประมาณไม่ได้

    ก่อนที่นักศึกษาจะศึกษาโครงสร้างจักรวาลทางพุทธศาสตร์นั้น นักศึกษาควรทราบว่า สรรพสัตว์ สรรพสิ่งทั้งหลายที่อยู่ในโลกใบนี้มีเป็นจำนวนมาก จนดูเหมือนว่าโลกของเรามีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก แต่แท้ที่จริงแล้วโลกเป็นเพียงจุดเล็กๆ จุดหนึ่งในจักรวาลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ และหากเรานำจักรวาลแต่ละจักรวาลมารวมกัน เราจะเห็นเป็นกลุ่มของจักรวาลที่รวมตัวกัน มีขนาดที่ต่างกัน เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าในโลกธาตุนั้นมีจำนวนจักรวาลที่รวมตัวกันมากหรือน้อย ในย่อหน้านี้มีศัพท์ที่ น่าสนใจอยู่คำหนึ่ง คือ คำว่า โลกธาตุ ซึ่งหมายถึง กลุ่มจักรวาล

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบความจริงเรื่องจำนวนของจักรวาลนี้เมื่อ 2,500 กว่าปีแล้วว่าจักรวาลนี้มิได้มีเพียงจักรวาลเดียว แต่มีจักรวาลมากมายนับไม่ถ้วน เรียกว่า อนันตจักรวาล ซึ่งตรงกับ การค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ที่มีการค้นพบเมื่อไม่กี่ 10 ปีที่ผ่านมาว่า จำนวนของจักรวาลมีมากกว่าหนึ่ง จักรวาลเช่นกัน น่าอัศจรรย์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสามารถบอกเราได้อย่างแม่นยำว่า จักรวาลมี จำนวนมากมายมหาศาล ตั้งแต่เมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้ว ทั้งที่ในขณะนั้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ สามารถบอกอะไรแก่เราในเรื่องนี้ได้เลย ซึ่งรายละเอียดจำนวนของจักรวาลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงค้นพบมีกล่าวไว้ในจูฬนีสูตร1 มีใจความโดยสรุปว่า

    สมัยหนึ่ง พระอานนท์เข้าไปทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงเรื่องสาวกของพระสิขีพุทธเจ้าชื่อ พระอภิภู ที่ยืนอยู่บนพรหมโลกแล้วสามารถเปล่งเสียงได้ไกลถึง 1,000 โลกธาตุ พระอานนท์ได้ตรัสถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระองค์สามารถเปล่งพระสุรเสียงได้ไกลเท่าไร พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า จะให้ไกลเท่าไรก็ได้ตามพุทธประสงค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องโลกธาตุขนาดต่างๆ ตั้งแต่ สหัสสีจูฬนิกาโลกธาตุ (โลกธาตุอย่างเล็กมี 1,000 จักรวาล) ทวิสหัสสีมัชฌิมิกาโลกธาตุ (โลกธาตุ ขนาดกลางมีล้านจักรวาล) และติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ (โลกธาตุอย่างใหญ่มีแสนโกฏิจักรวาล) ซึ่ง พระองค์จะเปล่งพระสุรเสียงได้ไกลถึงติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ หรือมากกว่านั้นก็ได้ตามพุทธประสงค์

    จากพระสูตรนี้ทำให้เราทราบว่า จักรวาลไม่ได้มีเพียงจักรวาลที่เราอาศัยอยู่เพียงจักรวาลเดียวเท่านั้น แต่ยังมีจักรวาลอื่นๆ อีกจำนวนมากมหาศาล เป็นแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล นอกจากนี้พระพุทธองค์ ยังจัดกลุ่มของจักรวาลให้ละเอียดออกไปอีก ซึ่งการแบ่งกลุ่มจักรวาลนี้ เราจะใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ หรือความรู้จากการจินตนาการด้วยสมองของมนุษย์ที่มีสติปัญญาจำกัด ไม่สามารถจะไปค้นคว้าหาคำตอบนี้ได้อย่างชัดเจน ต้องอาศัยผู้ที่ฝึกฝนอบรมจิตมาดีแล้วอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่เห็นจริงแล้วจัดกลุ่มจักรวาลออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

    1. กลุ่มจักรวาลขนาดเล็ก มีพันจักรวาล
    2. กลุ่มจักรวาลขนาดกลาง มีล้านจักรวาล
    3. กลุ่มจักรวาลขนาดใหญ่ มีแสนโกฏิจักรวาล

    นอกจากนี้เรายังทราบว่า มนุษย์ไม่ได้อยู่เฉพาะในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ หรือในจักรวาลนี้เท่านั้น แต่เรายังมีเพื่อนที่ต่างโลก ต่างจักรวาลที่มีมนุษย์และสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราอีกมากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2010
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนภัย อากาศหนาวเย็น-ฝนตกหนักภาคใต้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อุตุฯประกาศเตือนภัย อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในภาคใต้


    วันนี้ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในภาคใต้ " ฉบับที่ 7 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาและมีลมแรง

    สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไปมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่ง

    ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในช่วงวันที่ 8-9 ธันวาคม 2553 ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หมูตายระบาด"อุตรดิตถ์" คุมเข้ม 5 พื้นที่เสี่ยงโรค</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สัตวแพทย์หญิงวรรณี นาคบัว รักษาการปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบหมูป่วยตายผิดปกติในพื้นที่ ต.นาอิน กว่า 400 ตัว

    ส่วนใหญ่เป็นลูกหมูแรกเกิดที่กำลังกินนมแม่ไปจนถึงอายุเกือบ 2 เดือน รวมถึงแม่หมู โดยเก็บตัวอย่างการตายส่งเข้าตรวจสอบที่ห้องแล็ป ที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เนื่องจากหวั่นว่าจะระบาดจาก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลกมายังพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ผลตรวจพบว่า หมูที่ตำบลนาอิน ป่วยเป็นโรค PRRS โรคเดียวกับที่เคยระบาดใน จ.หนองคาย และ จ.พิษณุโลก จึงประกาศให้พื้นที่ ต.นาอิน และอีก 5 อำเภอ คือ อ.พิชัย อ.ตรอน อ.ทองแสนขัน อ.ลับแล และ อ.เมืองอุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่สีแดงการระบาดของโรคสุกร พร้อมมีหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ระดับตำบล 30 แห่งในพื้นที่สีแดง ให้มาประชุมวันที่ 9 ธันวาคมนี้ เพื่อแจ้งรายละเอียดโรค และให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ตำบลไปค้นหาโรคในพื้นที่ตนเอง แล้วแจ้งปศุสัตว์จังหวัด เพื่อนำเจ้าหน้าที่ออกควบคุมดูแล


    "ฝากไปยังโรงฆ่าหมูในอุตรดิตถ์ทั้งที่ได้รับมาตรฐาน และไม่ได้รับมาตรฐาน รวมถึงการฆ่าหมูหลังบ้าน ให้ทำความสะอาดโรงฆ่า อุปกรณ์ รถขนหมูด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกวัน และทุกครั้งก่อนฆ่าหมูแล้วส่งไปขาย เพราะรถที่ขนหมูออกจากฟาร์มเข้าสู่โรงฆ่ามีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะการถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ รวมถึงน้ำมูลจากหวัดมีน้ำมูก เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย" สัตวแพทย์หญิงวรรณีกล่าว

    <!--อ่านล่าสุด คน--><TABLE style="MARGIN-TOP: 20px; MARGIN-BOTTOM: 10px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left>
    <!--[​IMG]-->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โสมแดงเตรียมส่งเรือดำน้ำเล็กพร้อมโจมตี </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เกาหลีเหนือ ประจำการเรือดำน้ำขนาดเล็กรุ่นใหม่ เพื่อทำให้การโจมตีเรือรบเกาหลีใต้ เป็นไปง่ายยิ่งขึ้น


    วันนี้ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ จุงอังอิลโบของเกาหลีใต้ รายงานวันนี้ว่า เกาหลีเหนือประจำการเรือดำน้ำขนาดเล็กรุ่นใหม่ ซึ่งติดตั้งปืนยิง ตอร์ปิโด เพื่อทำให้การโจมตีเรือรบเกาหลีใต้เป็นไป ง่ายยิ่งขึ้น รายงานระบุว่า ภาพถ่ายดาวเทียมของฐานทัพเรือแห่งหนึ่ง ในเมืองนัมโป ทาง ตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นภาพของเรือดำน้ำ ความยาว 17 เมตร

    พร้อมโครงสร้างที่มีลักษณะคล้ายท่อติดอยู่ด้านบน ซึ่งท่อดังกล่าวอาจเป็นท่อยิงตอร์ปิโด


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันพุธ ที่ 8 ธันวาคม 2553 เวลา 09:20 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เกาหลีใต้เจ๋ง ขึ้นแท่นประเทศรู้หนังสือมากสุด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผลสำรวจล่าสุดระบุว่า เกาหลีใต้แซงหน้าฟินแลนด์ขึ้นเป็นประเทศที่มีอัตราการรู้หนังสือมากที่สุดในโลกครั้งแรก


    วันนี้ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลสำรวจล่าสุดระบุว่า เกาหลีใต้แซงหน้าฟินแลนด์ขึ้นเป็นประเทศที่มีอัตราการรู้หนังสือมากที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ผลสำรวจของโครงการเพื่อการเข้าถึงนักเรียนนักศึกษาระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) พบว่า ปีนี้เกาหลีใต้มีประชากรรู้หนังสือมากที่สุดในโลก อันดับ 2 เป็นของชาวจีนในพื้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ส่วนฟินแลนด์ ซึ่งครองแชมป์ติดต่อกันมาหลายปี หล่นลงไปอยู่อันดับ 3 โดยรัฐมนตรีศึกษาธิการของฟินแลนด์ ระบุว่า เป็นผลจากการที่ประชากรอ่านหนังสือน้อยลง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นชาย

    การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการใน 33 ประเทศสมาชิกของโออีซีดี และอีก 32 ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของโออีซีดี สำหรับประเทศที่มีประชากรรู้หนังสือน้อยที่สุดในยุโรป ได้แก่ อาเซอร์ไบจาน ตามมาด้วยคีร์กีซสถาน.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หนองคายน้ำโขงลด-พระธาตุกลางน้ำโผล่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปริมาณน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ

    อยู่ที่ 2.70 เมตร ขยับขึ้นจากเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาเพียง 3 ซ.ม. แต่โดยภาพรวมยังเป็นภาวการณ์แปรปรวนขึ้นลงของแม่น้ำโขง หลังจากนี้จะทรงตัวและลดลงต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมปีหน้า

    จากสภาพน้ำโขงที่ลดลงเช่นนี้ทำให้พระธาตุหล้าหนองหรือที่ชาวหนองคายเรียกว่า พระธาตุกลางน้ำ

    เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่เคยตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงแต่ถูกกระแซน้ำโขงกัดเซาะจนทำให้องค์พระธาตุล้มตะแคงอยู่กลางแม่น้ำโขง เมื่อถึงช่วงหน้าแล้ง ปริมาณน้ำโขงลดลงก็จะมองเห็นฐานพระธาตุ ซึ่งปีนี้น้ำโขงลดระดับลงอย่างรวดเร็วทำให้มองเห็นฐานพระธาตุโผล่ขึ้นเหนือผืนน้ำชัดเจน ประมาณ 2 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาที่สามารถมองเห็นฐานพระธาตุชัดเจนเช่นกันแต่ก็ล่วงเข้าเมษายน
    –พฤษภาคมไปแล้ว จึงเห็นได้ชัดว่าปีนี้น้ำโขงลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว เพียงเดือนธันวาคมก็สามารถมองเห็นฐานองค์พระธาตุได้แล้ว.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนภัย อากาศหนาวเย็น-ฝนตกหนักภาคใต้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อุตุฯประกาศเตือนภัย อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในภาคใต้


    วันนี้ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในภาคใต้ " ฉบับที่ 7 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาและมีลมแรง

    สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไปมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่ง

    ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในช่วงวันที่ 8-9 ธันวาคม 2553 ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    หลังประเมินนักเรียนนานาชาติ 65 ประเทศ พบนักเรียนไทยได้บ๊วย
    8 ธ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ดร.สุนีย์ คล้ายนิล ผู้จัดการโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติประเทศไทย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ โดยเป็นโครงการประเมินผลการศึกษาของประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือ และพัฒนาทางเศรษฐกิจนั้น
    ทั้งนี้ การประเมินผลครั้งที่ 4 ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมี 65 ประเทศเข้าร่วม ปรากฏว่าประเทศหรือเขตเศรษฐกิจส่วนมากในภูมิภาคเอเชีย อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มีคะแนนติดอยู่ในกลุ่ม 5 หรือ 10 ประเทศแรกทุกวิชา โดยเฉพาะนักเรียนของประเทศจีน จะมีคะแนนเฉลี่ยเป็นอันดับที่ 1 ทุกวิชา
    ขณะที่นักเรียนไทยมีอันดับอยู่ด้านท้ายของตาราง จากผลประเมินต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติทุกวิชา โดยยังมีแนวโน้มลดต่ำลงทุกวิชาเมื่อเทียบกับการประเมินครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.2000 ยกเว้นกลุ่มโรงเรียนสาธิตที่ยังมีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ
    ดร.สุนีย์ กล่าวต่อว่า นักเรียนไทยเกือบครึ่งมีผลประเมินการอ่านและวิทยาศาสตร์ต่ำกว่าระดับพื้นฐาน กำหนดไว้ที่ระดับ 2 ขณะที่วิชาคณิตศาสตร์มีนักเรียนไทยเกินครึ่งที่มีผลประเมินต่ำกว่าระดับพื้นฐาน สำหรับผู้ที่มีผลประเมินสมรรถนะในระดับสูงพบว่ามีน้อยมาก โดยเฉพาะวิชาการอ่าน ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว
    อย่างไรก็ตาม โครงการประเมินดังกล่าวยังได้วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้โรงเรียนประสบความ สำเร็จ และพบว่าคุณภาพครูเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบสูงกว่าปัจจัยด้านวัตถุ และยังพบว่าทรัพยากรบางอย่าง อาทิ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ(ไอซีที) ไม่ได้ส่งผลทางบวก นอกจากนี้ยังพบว่าการกวดวิชานอกเวลาเรียนมีสหสัมพันธ์เชิงลบกับผลการประเมิน ด้วย
    “ในการประเมินครั้งที่สาม มีการวิเคราะห์พบว่าโรงเรียนของไทยขาดครูที่มีคุณวุฒิมากขึ้น แต่มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่สัดส่วนของนักเรียนที่กวดวิชาก็มีเพิ่มสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามผลประเมินดังกล่าวได้ทำให้หลายประเทศตื่นตัว และยอมรับว่าเป็นนาฬิกาปลุกที่เตือนให้รู้ว่าประเทศในกลุ่มสมาชิกดังกล่าวไม ได้เปรียบเชิงต้นทุนกำลังคนอีกแล้ว เพราะผลประเมินแสดงให้เห็นว่าประเทศทางตะวันออกมีผลประเมินสูงกว่ากลุ่ม ประเทศนี้” ดร.สุนีย์ ย้ำ
    ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวยอมรับว่า ผลสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามาตรฐานของเด็กไทยยังไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับโรงเรียนที่มีมาตรฐานสูงหรือโรงเรียนสาธิตเรายังมีตัวเลขที่น่าพอใจอยู่ โดยแม้ประเทศจีนจะได้เปรียบกว่าเรา ก็ยังเทียบไม่ได้กับการจัดการศึกษาของไทย เนื่องจากไทยมีระบบการจัดการศึกษาที่เสมอภาค และเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาทุกคน และมีการกระจายความรู้ทั่วถึงได้มากกว่าประเทศจีน
    อนึ่ง โครงการประเมินดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความรู้และทักษะการเรียนของ เด็กอายุ 15 ปี เพื่อดูว่าระบบการศึกษาได้เตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิต ซึ่งการมีส่วนร่วมในสังคมอนาคตเพียงพอหรือไม่ และเน้นการประเมินสมรรถนะของนักเรียนที่จะใช้ความรู้ และทักษะเพื่อเผชิญกับโลกในชีวิตจริงมากกว่าการเรียนรู้ตามหลักสูตรใน โรงเรียน โดยโครงการจะประเมินการรู้เรื่องใน 3 ด้าน ได้แก่ การรู้เรื่องการอ่าน การรู้เรื่องคณิตศาสตร์ และการรู้เรื่องวิทยาศาสตร์
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กลับไปอ่านให้ครบทุกหน้า แล้วคุณ wawa จะเข้าใจได้เอง ผมคงบอกได้เพียงเท่านี้ ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของคุณ wawa เองครับ

    [​IMG]

    บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเรื่องจักรวาลวิทยา(มี 8 หน้า)

    บทที่ 2 องค์ประกอบของจักรวาล(มี 7 หน้า)

    บทที่ 3 โครงสร้างของจักรวาล(มี 18 หน้า)

    บทที่ 4 การกำเนิดจักรวาล โลก และมนุษย์(มี 9 หน้า)

    บทที่ 5 ความเสื่อมของจักรวาล(มี 13 หน้า)

    บทที่ 6 การแตกทำลายของจักรวาล(มี 8 หน้า)

    บทที่ 7 กรณีศึกษาการเวียนว่ายตายเกิดของสัตวโลก(มี 9 หน้า)

    บทที่ 8 สรุปสาระสำคัญจากการศึกษาจักรวาลวิทยา(มี 9 หน้า)

    Download หนังสือเล่มนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2010
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำพยากรณ์บทที่ 13 ของนอสตราดามุส

    [​IMG]

    คำพยากรณ์ที่ 13 : ผู้นำลิเบียจะก่อความวุ่นวาย

    Prince Libyque puissant en Occident
    Francais d’Arabe viendra tant enflammer.
    Savant aux lettres sera condescendant
    La langue Arabe en Francais translater. (III,27)

    คำแปล

    เจ้าชาย (ผู้นำ) ลิเบีย จะเป็นผู้มีอิทธิพลมากในประเทศตะวันตก (ยุโรป) เขาจะเป็นผู้สร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนฝรั่งเศสกับอาหรับ เขาจะยิ่งก่อความเดือดร้อนมากขึ้นโดยสร้างความเข้าใจผิดระหว่างฝ่ายอาหรับกับฝรั่งเศส

    ตีความและวิเคราะห์

    นอสตราดามุสพยากรณ์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอาหรับกับฝ่ายตะวันตกที่เสื่อมทรามอยู่แล้วจะเสื่อมทรามและตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เพราะการกระทำของผู้นำลิเบียซึ่งแปลสารสำคัญที่ส่งติดต่อกันระหว่างยุโรปกับอาหรับผิดพลาด ทำให้ชาวอาหรับกับชาวฝรั่งเศสแค้นเคืองและจงเกลียดจงชังกัน

    คำพยากรณ์ที่ 1 2-4 5 6 7 8 9-10 11 12 13 14 15 16 17 18-19 20-21 22 23 24

    วิกิลีกส์เผยผู้นำลิเบียขู่ตอบโต้อังกฤษเรื่องมือระเบิดล็อกเคอร์บี

    [​IMG]

    ลอนดอน 8 ธ.ค.- หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดี้ยนในอังกฤษอ้างข้อมูลการทูตสหรัฐที่เว็บไซต์วิกิลีกส์เผยแพร่ว่า พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ขู่จะตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับอังกฤษและเตือนจะตอบโต้รุนแรงหากมือระเบิดเครื่องบินสหรัฐเหนือน่านฟ้าเมืองล็อกเคอร์บีในสกอตแลนด์เสียชีวิตในเรือนจำ

    นายอับเดล บาสเซ็ท อัล เมกราฮี มือระเบิดเครื่องบินแพนแอมเที่ยวบิน 103 ปี 2531 ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ทางการสกอตแลนด์ได้ปล่อยตัวเขาเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อนเพราะเชื่อว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้ายและเหลือเวลาอยู่ได้อีกไม่กี่เดือน แต่จนถึงขณะนี้เขายังมีชีวิตอยู่ ก่อให้เกิดความสงสัยถึงสาเหตุปล่อยตัวที่แท้จริง

    วิกิลีกส์เผยว่า นายริชาร์ด เลอบารอน อุปทูตสหรัฐประจำอังกฤษส่งบันทึกถึงรัฐบาลสหรัฐเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ว่า ลิเบียได้บอกรัฐบาลอังกฤษว่า จะเกิดผลสะท้อนกลับรุนแรงต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีหากการปล่อยตัวนายเมกราฮี ก่อนกำหนดดำเนินไปไม่ราบรื่น ขณะที่นายจีน เครทซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำลิเบียได้ส่งบันทึกเดือนมกราคม 2552 ว่า ลิเบียได้บอกเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษว่าหากนายเมกราฮีเสียชีวิตในเรือนจำจะเกิดผลร้ายแรงทันทีอย่างยากจะเยียวยา เช่น ลิเบียจะยุติความสัมพันธ์ทางการค้าทั้งหมดกับอังกฤษ ลดหรือตัดความสัมพันธ์ทางการเมือง อีกทั้งไม่รับประกันความปลอดภัยของนักการทูตและพลเรือนอังกฤษในลิเบีย.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา วิกิลีกส์เผยผู้นำลิเบียขู่ตอบโต้อังกฤษเรื่องมือระเบิดล็อกเคอร์บี
    <!--mstheme-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2010
  12. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    พิสูจน์หรือ สมมุติว่ารู้ครับ

    เราไปได้ถึงแค่ไหน
    เป็นแค่สมมุติฐานหรือเปล่าครับ
    มีแค่คลื่น ขนาดดาวอังคารใกล้ๆ เรายังเพิ่งรู้เลยว่ามีน้ำ ม ีต้นไม้
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.1 ริกเตอร์ที่ฟิลิปปินส์

    [​IMG]

    มะนิลา 8 ธ.ค. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์ทางชายฝั่งตอนใต้ของฟิลิปปินส์วันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายและประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

    แผ่นดินไหวในทะเลเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.47 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 13.47 น.ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ห่างไปราว 110 กิโลเมตร จากเมืองดาเวา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่บนเกาะมินดาเนาทางใต้ของประเทศ เจ้าหน้าที่สถาบันศึกษาภูเขาไฟและแผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ รายงานว่า ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายและประกาศเตือนภัยสึนามิ .-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 8 ธ.ค. 2553

    ไฟไหม้เรือนจำในชิลีคลอกนักโทษดับ 81 ราย

    [​IMG]

    ชิลี 8 ธ.ค.- เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในเรือนจำแห่งหนึ่งในกรุงซานติอาโก ประเทศชิลี ระหว่างที่เกิดเหตุจลาจลของนักโทษ ส่งผลให้มีนักโทษเสียชีวิตถึง 81 ศพ

    ภาพจากสถานีโทรทัศน์ของชิลี เผยให้เห็นกลุ่มควันและเปลวเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในเรือนจำซาน มิเกล นอกกรุงซานติอาโก เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 5 นาฬิกา ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 15 นาฬิกา ตามเวลาบ้านเรา หลังจากเกิดเหตุจลาจลจากการปะทะกันของกลุ่มนักโทษสองฝ่าย และมีนักโทษบางส่วนจุดไฟเผาผ้าปูที่นอน ก่อนที่เพลิงจะลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เรือนจำต้องเร่งสกัดเพลิงและอพยพนักโทษหลายร้อยคนออกมา แต่มีนักโทษจำนวนมากติดอยู่ในเรือนจำและหนีออกมาไม่ทัน มีรายงานผู้เสียชีวิต 81 ราย บาดเจ็บสาหัส 14 คน

    ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้ว นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในระบบทัณฑ์สถานของชิลี.- สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 8 ธ.ค. 2553

    เด็ก 5 ขวบถูกโยนออกจากรถไฟในอินเดีย

    [​IMG]

    มุมไบ 8 ธ.ค.-เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดียรายงานวันนี้ว่า เด็กหญิงวัย 5 ขวบถูกโยนออกจากรถไฟที่กำลังวิ่ง ในนครมุมไบ ขณะครอบครัวของเด็กโต้เถียงกับผู้โดยสารอีกคนหนึ่งเกี่ยวกับการแบ่งที่นั่ง

    เด็กหญิงคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเมื่อตกลงไปบนรางรถไฟ หลังรถไฟออกจากสถานีรถไฟฉัตรปาตีชีวจี ผู้บัญชาการตำรวจรถไฟนครมุมไบกล่าวว่า เหตุชุลมุนเริ่มขึ้นจากปัญหาเกี่ยวกับที่นั่งและเด็กผู้หญิงถูกโยนออกไปทางประตู ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที อย่างไรก็ตาม เด็กได้รับการรักษาและฟื้นตัวแล้ว ตำรวจระบุเพิ่มว่า มีชายอายุ 19 ปีถูกจับกุม ขณะที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับของอินเดียระบุว่า ผู้โดยสารในรถไฟเข้าทุบตีชายคนดังกล่าวหลังเกิดเหตุ ส่วนพ่อของเด็กกล่าวต่อหนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทม์สว่า หากรู้ว่าชายคนดังกล่าววิกลจริต คงให้ที่นั่งแทนที่จะทำให้ชีวิตของลูกต้องตกอยู่ในอันตราย

    รถไฟชานเมืองของนครมุมไบ มีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 7 ล้านคนในแต่ละวัน และเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญของเมือง รถไฟมักเปิดประตูค้างไว้ เนื่องจากอากาศร้อนและความชื้น นอกจากนี้ ผู้โดยสารหลายคนมักยืนห้อยออกมาด้านนอกหรือเกาะอยู่ระหว่างตู้รถไฟ.- สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 8 ธ.ค. 2553

    ฮ่องกงลดระดับเตือนภัยโรคไข้หวัดนก

    [​IMG]

    ฮ่องกง 8 ธ.ค. - ทางการฮ่องกงลดระดับการเตือนภัยโรคไข้หวัดนกในวันนี้ หลังประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกรายแรกนับตั้งแต่ปี 2546 เมื่อราวกลางเดือนที่ผ่านมา

    เจ้าหน้าที่ฮ่องกงลดระดับการเตือนภัยโรคไข้หวัดนกจากระดับรุนแรงมาสู่ระดับเฝ้าระวัง เพราะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ นับตั้งแต่ที่มีรายงานพบหญิงอายุ 59 ปี มีเชื้อไข้หวัดนก เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายยอร์ค โจว เลขาธิการสำนักงานอาหารและสุขภาพของฮ่องกงระบุว่า เนื่องจากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รัฐบาลฮ่องกงจึงตัดสินใจลดระดับการรับมือโรคไข้หวัดนกเหลือเพียงขั้นเฝ้าระวัง

    ฮ่องกงเป็นสถานที่ที่พบการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในคนครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกของโลกเมื่อปี 2540 ที่มีประชาชน 6 คนเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่โดยปกติพบในสัตว์ปีก -สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 8 ธ.ค. 2553

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    7 ธ.ค. 53


    นั่งรถเมล์---------รถก็------------ไม่ยอมออก
    คนขับบอก-------ขอขึ้น-----------ค่าโดยสาร
    เดินเข้าหา--------อ๊อฟฟิค---------เพื่อทำงาน
    ต้องปิดตาม------เพราะคนงาน-----ขึ้นค่าแรง



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้จะรุนแรงกว่าปี 1929 !!

    [​IMG]
    ภาพวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปี 1929 (พ.ศ. 2472)

    ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานกรรมการ บริษัท แอ๊ดวานซ์อะโกร จำกัด (มหาชน) อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลก หลังวิกฤตซับไพรม และผลกระทบต่อประเทศไทย" จัดโดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่ง ดร.วีรพงษ์ได้วิเคราะห์การเคลื่อนย้าย "จุดรวมศูนย์โลกใหม่" ว่า

    เป็นที่ทราบดีว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาซับไพรมในสหรัฐอเมริกาลุกลามไปยังยุโรปและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก วิกฤตการณ์ครั้งนี้ใหญ่มากและก็ลึกอย่างมาก อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้จะเทียบกับวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย Recession ปี 1929 วิกฤตการณ์ครั้งนี้อาจจะใหญ่กว่าเสียด้วยซ้ำ ทั้งนี้เพราะสถานการณ์โลกได้เชื่อมต่อกันหมด ทั้งด้านการค้า สินค้าและบริการ และทางด้านการเงิน ดังนั้นเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรปแล้ว สถานการณ์ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก

    อาการของวิกฤตการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินและลุกลามไปที่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ทำให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ เที่ยวนี้เป็นเที่ยวที่แปลกกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งโลกพร้อมใจกันใช้นโยบายอย่างเดียวกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีปรากฏการณ์เช่นนี้ เมื่อก่อนนั้นเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ในประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งจะใช้นโยบายการเงินเฉพาะภูมิภาคนั้น ส่วนที่อื่นที่ไม่เกิดก็จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน

    สถานการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของโลกเป็นอย่างนี้ ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงย้ายมาอยู่ที่เอเชียมากขึ้น อเมริกา ยุโรปจะกลายเป็นปัญหาของโลก ของเรามากขึ้น ต้องจับตาอเมริกาว่าจะถอยกลับไปมีวิกฤตอีกหรือไม่ และยุโรปจะอ่อนแอ ยังป่วยอยู่ เหลือแต่เอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย และประเทศในภูมิภาคเอเชียที่จะเป็นหลักให้กับเศรษฐกิจโลก

    ไทยก็คงจะต้องตามผลกระทบดังกล่าว ปีแรกเศรษฐกิจเราโดนผลกระทบอย่างแรง ทั้งด้านการส่งออกสินค้าและบริการ กระทบการท่องเที่ยว การเดินทาง ทำให้เศรษฐกิจหดตัวในอัตราที่ค่อนข้างมาก ในปี 2553 คงมีการปรับปรุงตัวขึ้น แต่หากดูตามทฤษฎีภาวะเศรษฐกิจตกต่ำคงไม่ได้อยู่ปีเดียว แม้จะฟื้นตัวขึ้นมาก็มาได้ครึ่งทาง เช่น ลงไป 7 ขึ้นมา 3 จากฐานที่เล็กกว่า ตอนตกไปที่ 7 ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องระมัดระวัง ระบบการผลิตยังแพง การว่างงานยังไม่น่าไว้วางใจ นโยบายดอกเบี้ยของทางการยังไว้ในระดับต่ำ แต่ตัวที่ต้องระวังคือ อัตราเงินเฟ้อ หากดูไม่ดี หรือทำไม่ดี อาจจะเกิดภาวะ Stagflation ได้ คือมีเงินเฟ้อแต่ขณะเดียวกันเกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซาด้วย

    อันนี้เป็นภาวะน่าห่วงอย่างยิ่งในยุโรป และในภูมิภาคของเราแสดงอาการที่เวียดนาม ซึ่งเวียดนามพยายามทำอย่างจีน แต่การส่งออกเวียดนามยังไม่ได้ขยายตัวสูงเท่าจีน เวียดนามเริ่มมีปัญหา การลดค่าเงินลดไม่เพียงพอ ค่อย ๆ ลดทีละน้อย ต้องดูต่อไปว่าสถานการณ์เวียดนามจะส่งผลลุกลามมาที่ลาว เขมร และของเราหรือไม่ แต่ที่น่าเบาใจอันหนึ่งคือ ทุนสำรองระหว่างประเทศเรามีสูง โอกาสที่จะมีปัญหาแบบปี 2540 จะไม่ค่อยมี แต่ความฝันที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืนยังน่าสงสัยอยู่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ฟื้นตัวตามตลาดโลกอาจจะสูงสุดแล้ว ข้างหน้าอาจจะอ่อนตัวลงก็ได้
    ก็มีความเห็นเท่านี้ !!!!

    ที่มา http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=10466&

    มหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก (The Great Depression)

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหตุการณ์มหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกหรือ The Great Depression เคยเกิดขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 ปัญหาในครั้งนั้นเริ่มจากสหรัฐฯ และลุกลามจนกลายเป็นวิกฤติของโลก โดยเริ่มจากการทรุดตัวลงอย่างรุนแรงของตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯในปี 1929 (พ.ศ. 2472) ซึ่งในที่สุดดัชนีตลาดหลักทรัพย์ก็ลดลงถึงร้อยละ 80 จากระดับสูงสุด ตามด้วยการหดตัวอย่างรุนแรงของการใช้จ่ายในการบริโภค ขณะเดียวกันก็เกิดภาวะแห้งแล้งทำให้พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์ก็ลดลงไป​

    ด้วยตามสภาวะเศรษฐกิจ ปัจจัยทั้งหมดส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวอย่างรุนแรงและยืดเยื้อจากปี 1930 ต่อเนื่องไปจนเกือบตลอดคริสต์ทศวรรษ 1930 อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ 25 ในปี 1933 เกิดเหตุการณ์ที่ประชาชนแตกตื่นรีบถอนเงินจากธนาคาร (Bank run) จนทำให้ธนาคารล้มละลายมากถึง 9,000 แห่ง ปัญหาทั้งหมดทำให้กว่าที่เศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวก็กลางคริสต์ทศวรรษ 1940​

    ในช่วง The Great Depression ปัญหาเกิดในสหรัฐฯ และลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ผ่านการค้าระหว่างประเทศเป็นหลัก สิ่งสำคัญก็คือ สหรัฐฯ (และต่อมาตามด้วยประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ) ได้หันมาใช้นโยบายการกีดกันการค้า (Protectionist Policy) อย่างรุนแรง โดยออกกฎหมายขึ้นภาษีนำเข้าเรียกว่า Smoot-Hawley Tariff Act ในปี 1930 และใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับคู่ค้าที่มีการกีดกันการค้า จนในที่สุดหลายประเทศใช้มาตรการกีดกันทางการค้าพร้อมๆ กัน ทำให้การค้าระหว่างประเทศทรุดตัวลงมาก และนำไปสู่การหดตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจ ของประเทศที่ต้องพึ่งพิงการค้ากับต่างประเทศ​

    สรุปง่ายๆ ว่า The Great Depression มาจากนโยบายการเงินที่ผิดพลาด โดยเริ่มจากการให้ปริมาณเงินขยายตัวมากเกินไป จนนำไปสู่ปัญหาฟองสบู่ที่รุนแรง ประกอบกับการขาดการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ที่ดี ทำให้มีการให้สินเชื่อแบบ Margin Loan สูงมาก ขณะที่ Fed ได้ใช้มาตรการการเงินผิดซ้ำสอง ด้วยการลดปริมาณเงินลงทำให้ฟองสบู่แตกอย่างรุนแรง และเกิดการล่มสลายของตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ภาครัฐก็ไม่ได้เข้าไปดูแลสถาบันการเงิน ปล่อยให้เกิดการล้มละลายจำนวนมากจนเกิดการตื่นตระหนกและกลายเป็นวิกฤติที่รุนแรง ขณะที่นโยบายการคลังก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาปัญหาโดยการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับวิธีการแก้ปัญหาด้วยการกีดกันทางการค้า ก็นำไปสู่การล่มสลายของการค้าระหว่างประเทศ จึงทำให้วิกฤติรุนแรงยิ่งขึ้น​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนือ-อีสาน อากาศยังหนาวเย็น มีหมอกตอนเช้า ใต้ฝนลดลง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 9 ธันวาคม 2553 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ลักษณะอากาศทั่วไป
    บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และ อุณหภูมิจะสูงขึ้น
    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย
    มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศา
    กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศา
    กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
    อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล

    อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 22 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    <!--อ่านล่าสุด คน--><TABLE style="MARGIN-TOP: 20px; MARGIN-BOTTOM: 10px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left>
    <!--[​IMG]--></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    สำนักข่าวรอยเตอร์รวบรวมภาพข่าวสิ่งแวดล้อมแห่งปี 2010
    [​IMG]
    เด็กชายกำลังจ้องมองการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟเมราปีในอินโดนีเซีย
    [​IMG]
    สภาพรางรถไฟที่เสียหายจากนํ้าท่วมที่ประเทศโปแลนด์
    [​IMG]
    ชาวนากรุงฮานอยยืนอยู่กลางทุ่งดอกพืชกะหล่ำปลีที่กำลังออกในประเทศเวียดนาม
    [​IMG]
    ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือจากรถทหารในเหตุการณ์นํ้าท่วมใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ที่ปากีสถาน
    [​IMG]
    พระทิเบตกำลังเดินอยู่ท่ามกลางพายุทะเลทราย
    [​IMG]
    กลุ่มกรีนพีซติดป้ายข้อความยักษ์ถึง นางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมัน เพื่อต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในประเทศเยอรมันนี มีใจความว่า การใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นทางที่ผิด นางแมร์เคิล
    [​IMG]
    ภาพซากปลาจำนวนมหาศาลในแม่นํ้ามิสซิสซิปปี หลุยส์เซียนา ทางตอนกลางของสหรัฐ ลอยตายเหนือผิวน้ำ จากภาวะออกซิเจนในน้ำมีปริมาณน้อย โดยทางนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะเกิดจากน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่แม่น้ำ
    [​IMG]
    เด็กชายเดินอยู่บนดินที่สไลด์ตัวลงมาทับบ้านเรือนและประชาชนในเมืองหลวงของประเทศอูกานดา
    [​IMG]
    ตี๋น้อยจีนนอนหลับบนโซฟาในเหตุการณ์นํ้าท่วมใหญ่ที่ประเทศจีน
    [​IMG]
    สายฟ้าลำใหญ่ฟาดลงมาใส่คาสิโนในเมืองลาสเวกัสประเทศสหรัฐอเมริกา
    [​IMG]
    ชาวประมงที่บราซิลกำลังช่วยเหลือวาฬตัวใหญ่ให้กลับลงสู่ทะเลหลังมาเกยตื้นที่ชายหาดเมืองริโอเดอจาเนโร
    [​IMG]
    หลุมยักษ์ขนาดมหึมาโผล่กลางกรุงกัวเตมาลาซิตี้ของประเทศกัวเตมาลา
    [​IMG]
    เด็กชายถือขนมปังเดินไปบนลังที่วางไว้ในช่วงนํ้าท่วมใหญ่ที่โคลัมเบีย
    [​IMG]
    เรือใหญ่จอดแน่นิ่งอยู่บนพื้นดินแห่งแล้วที่เคยเป็นทะเลสาบทางตอนเหนือของประเทศบราซิล
    [​IMG]
    ชายหนุ่มดำนํ้าเล่นในตลาดกลางจตุรัสประจำเมืองเวนิสประเทศอิตาลีที่กำลังถูกนํ้าท่วมสูงขึ้นทุกปี
    [​IMG]
    ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในรอบหลายปีที่เมืองมาร์กเซย์ในประเทศฝรั่งเศส
    [​IMG]
    สภาพขยะลอยเกลื่อนทะเลสาบดองดาในประเทศเวียดนาม
    [​IMG]
    ฟ้าผ่าเหนือภูเขาไฟอียาฟโยเอลที่กำลังปะทุรุนแรงในประเทศไอซ์แลนด์
    [​IMG]
    ชาวฮินดูกำลังทำความสะอาดเสื้อผ้าในแม่นํ้ายามูนากรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย
    [​IMG]
    ต้นไม้เปลี่ยนสีในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างฤดูใบไม้ร่วงสู่ฤดูหนาวที่กรุงบูดาเปตส์ประเทศโรมาเนีย
    [​IMG]
    สภาพบ้านที่เต็มไปด้วยเถ้าถ่านหลังการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟเมราปีในประเทศอินโดนีเซีย
    [​IMG]
    ชาวเฮติที่รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติสาศาสตร์พากันยกมือขึ้นฟ้าขอความเมตตาจากพระเจ้า
    [​IMG]
    ทะเลสาบรูปหัวใจในป่าอะเมซอนของประเทศบราซิล
    [​IMG]
    หมวกใบหนึ่งจมอยู่ในชายหาดที่เต็มไปด้วยคราบนํ้ามันของบริษัทบีพีที่รั่วไหลลงสู่แหล่งนํ้าธรรมชาติ ที่มลรัฐหลุยส์เซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
    สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
    สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000
     
  17. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    9 ธ.ค. 53


    เมื่อเช้าวันที่ 7 ในภาพ ผมขึ้นนั่งบนรถเมล์แต่คนขับไม่ยอมออกรถ เขาบอก
    กับผมว่าน้ำมันแพงจะขอขึ้นค่าโดยสาร

    อีกภาพ ผมไปที่ทำงาน คนงานไม่ยอมเข้าทำงาน เขาบอกว่าจะขอขึ้นค่าแรง
    เพราะค่าครองชีพสูงขึ้น

    วันที่ 8 ผมจึงเขียนบทกลอนมาให้อ่าน

    เช้านี้ ข่าวช่อง 3 ออกข่าวว่า น้ำมันจะขึ้นราคาและสินค้าต่างๆจะทะยอย
    ขึ้นราคาตาม


    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สธ.เผยไอคิวเด็กไทยเท่า"บรูไน-เขมร"หวิดตกเกณฑ์มาตรฐาน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการประชุมโครงการสำรวจสถานการณ์สติปัญญาเด็กไทย 2554 ว่า


    กรมสุขภาพจิตเตรียมสำรวจไอคิวเด็กไทยทั่วประเทศ จำนวน 93,923 ราย ตั้งแต่วันที่ 13-24 ธันวาคม ช่วงอายุ 6-17 ปี เป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ และคาดว่าจะเป็นของโลกด้วย จะทำให้ทราบค่าเฉลี่ยระดับไอคิวเด็กในประเทศไทยเป็นอย่างไร ภายในเดือนมกราคม 2554 จะทราบผล

    ข้อมูลการสำรวจระดับสติปัญญาหรือไอคิวเด็กใน 190 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2549 พบว่า ตัวเลขไอคิวเฉลี่ยของเด็กในระดับมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับอยู่ที่ 90-110 จุด โดยมีระดับต่ำที่สุดคือ 59 จุด และสูงที่สุดคือ 108 จุด มีเพียง 66 ประเทศเท่านั้นที่ระดับไอคิวเฉลี่ยได้ตรงตามมาตรฐานสากล ไอคิวเฉลี่ยของเด็กไทยอยู่ที่ระดับ 91 ต้องยอมรับว่าขณะนี้ระดับไอคิวของเด็กไทยยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากเกือบตกเกณฑ์มาตรฐาน และไทยยังอยู่ในลำดับเดียวกันกับประเทศบรูไนและกัมพูชา

    นายจุรินทร์กล่าวว่า ประเทศที่มีระดับไอคิวสูงที่สุดในโลก 10 อันดับแรก ได้แก่ ฮ่องกง และสิงคโปร์ มีระดับไอคิวเฉลี่ย 108 จุด เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ มีระดับไอคิวเฉลี่ย 106 จุด ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน มีระดับไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 105 จุด อิตาลีเฉลี่ยที่ 102 จุด ไอซ์แลนด์ มองโกเลีย และสวิตเซอร์แลนด์ เฉลี่ยที่ 101 จุด ไทยอันดับที่ 53 จาก 190 ประเทศ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>'หลังสวน'วุ่น ภูเขาพังถล่ม!หินยักษ์ร่วงตูม ทับบ้านพังเละ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>'หลังสวน' อลหม่าน ฝนตกติดต่อกันหลายวันจนภูเขาพังถล่มลงมาทับบ้านชาวบ้านหนีตายจ้าละหวั่น

    สาววัย 46 บาดเจ็บล้มหัวกระแทกพื้น หามส่งร.พ. เผยเหตุเกิดเพราะดินสไลด์ถูกฝนตกชะ จึงพาเอาหินก้อนมหึมาลงมาด้วย นอภ.สั่งอพยพออกนอกพื้นที่ด่วน แฉเหตุเกิดจากพวกตัดไม้ทำลายป่า ตัดจนเกลี้ยงแทบไม่มีต้นไม้เหลือไว้พยุงหน้าดิน พอฝนตกดินจึงล่ม

    เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. นายจักรพงศ์ เปี่ยมเมตตา นอภ.หลังสวน จ.ชุมพร

    รับแจ้งเกิดเหตุภูเขาถล่มลงทับบ้านชาวบ้านเสียหาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 43 ม.7 บ้านน้ำตก ม.7 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน สาเหตุเนื่อง จากฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทำให้เกิดดินทรุดตัวก้อนหินถล่มลงมา จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบภูเขาที่ชาวบ้านเรียกว่า "เขาบางมะยัน" ถูกน้ำฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันจนดินทรุดตัว ทำให้ก้อนหินทั้งขนาดใหญ่และเล็กพังถล่มลงมาทับบ้าน จากการตรวจสอบพื้นที่ นายจักรพงศ์ สั่งอพยพคนในบ้านเลขที่ 43 ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยทันที ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่จุดเสี่ยงภัย อีกกว่า 10 หลังคาเรือน สั่งการให้เฝ้าระวังและอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยเช่นกัน พร้อมจัดชุดระวังเหตุตลอด 24 ช.ม.

    นายสุรินทร์ วัฒนถาวร อายุ 56 ปี บ้านอยู่ ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร เล่าถึงนาทีเกิดเหตุว่า เหตุเกิดตอนตี 5 วันเดียวกัน

    ขณะที่ตนนอนหลับพร้อมกับคนในครอบครัว รวม 4 คน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ ทุกคนตกใจวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ทำให้นางสมใจ วัฒนถาวร อายุ 46 ปี ภรรยา ตกใจวิ่งหนีล้มหัวฟาดพื้น ต้องรีบนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหลังสวน เมื่อตั้งสติได้จึงออกไปดูพบก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงมาจากภูเขาหลังบ้าน ถล่มลงมาทับบ้านเสียหาย นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณหลังบ้าน ยังมีก้อนหินถล่มลงมาอีกหลายสิบก้อน ในจำนวนนี้หล่นลงไปในบ่อเลี้ยงกบ ได้รับความเสียหาย 4 บ่อ รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท โชคดีที่ก้อนหินถล่มลงมาตกในบ่อเลี้ยงกบเสียก่อน มิเช่นนี้คงแย่ เพราะหินคงหล่นใส่บ้านตนทั้งหลัง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภูเขาลูกนี้เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกขึ้นไปตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ไม่มีต้นไม้ใหญ่ยึดหน้าดิน

    เมื่อฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทำให้ไหล่เขาถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยร้องเรียนเรื่องการบุกรุกป่าให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับความสนใจ นายจักรพงศ์ กล่าวว่า ฝนหยุดตกมาช่วงหนึ่งแล้ว ทำให้บริเวณที่เคยโดนน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นถนนสายเอเชีย 41 หรือสายหลังสวน-ราชกรูด ระดับน้ำลดลง รถสามารถวิ่งผ่านได้ยกเว้นบริเวณสะพานข้ามคลองปิปังหวาน คอสะพานโดนน้ำพัดขาด ทั้ง 2 ด้าน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซม หากฝนไม่ตกซ้ำลงมาอีก คาดว่าสถานการณ์น่าจะเข้าสู่ปกติได้ในเวลา 3-4 วัน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    10 ธ.ค. 53


    ทุกครั้งที่หน่วยเหนือได้กรุณาส่งสัญญาณภาพมาให้เห็นในนิมิต ผมก็จะลงให้
    อ่านก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดทั้งลงวันที่กำกับไว้จะได้ตรวจสอบได้ว่าสัญญาณ
    จะจริงจะเท็จ ท่านผู้อ่านจะได้นำไปเป็นข้อมูลในการเตรียมการเพื่อความไม่
    ประมาท ส่วนเหตุการณ์บางทีก็ไปเกิดในต่างประเทศ บางทีก็ในประเทศไม่แน่
    นอนเสมอไป

    วันนี้ผมมีโอกาสได้พักจากงานการสร้างบ้านน็อคดาว์นเพราะผู้ช่วยสร้างขอพัก
    เหนื่อย การดำเนินงานขณะนี้ได้ก่อสร้างโครงบ้านขึ้นมาแล้วและกำลังเจาะยึด
    แนวคานพื้นอยู่เมื่อเสร็จก็จะวางแผ่นพื้นชั่วคราวเพื่อทำโครงหลังคาแล้วจะปู
    ด้วยแผ่นเมกก้าชีต จากนั้นก็จะทำผนังเป็นแผ่นๆแล้วนำมาประกอบรวมทั้งประตู
    หน้าต่าง เมื่อขึ้นรูปเสร็จก็จะพ่นสีรองพื้นจะยังไม่ทาสีจริงแล้วทำการถอดออก
    เป็นชิ้นๆเพื่อนำไปประกอบที่ฐานผาแบ่น

    ถ้าสร้างเสร็จก่อนปีใหม่ก็จะขนย้ายช่วงปีใหม่ขึ้นไปประกอบช่วงนั้นเลย แนว
    ร่วมรายใดที่คิดจะซื้อแผ่นพื้นสำเร็จไปปูเพื่อรองรับเต็นท์นอนเวลานั้นก็จะทำ
    พร้อมไปเลยทีเดียว งบประมาณที่ตั้งไว้คือแปดหมื่นบาทรวมค่าขนย้าย ขนาด
    ตัวบ้านคือกว้าง 4เมตร ยาว 5เมตร สูง 3เมตร ตัวบ้าน ยกพื้น 1เมตร มีห้องน้ำ
    ในตัว นอนได้ 5-6คน ราคานี้ยังไม่รวมค่าแรงช่างเพราะสร้างกันเอง ถ้ามีเงิน
    เหลือก็จะทำขาตั้งแท็งค์เพื่อดึงน้ำขึ้นไปกรองแล้วส่งต่อไปยังโอ่งน้ำที่ตั้งไว้
    แล้ว 12ใบ




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนือ-อีสานอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ยังหนาวเย็น ใต้ฝนลด กทม.เย็นสุด 23 องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2553 ดังนี้
    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและอุณหภูมิสูงขึ้น

    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลัง ปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงและคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า

    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา

    ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา

    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัด สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

    อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล

    อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 23 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แผ่นดินไหว 5.1 ริกเตอร์ หมู่เกาะอันดามัน ทะเลอินเดีย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยรายงานว่า เมื่อเวลา 22.46น.ของคืนวันที่9ธันวาคม2553

    ได้เกิดแผ่นดินไหวบริเวณหมู่เกาะอันดามัน ในทะเลอินเดีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้5.1ริกเตอร์ ลึกจากระดับผิวดิน35กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=450><TBODY><TR><TD bgColor=#abcdef height=25 colSpan=2 align=middle>แผ่นดินไหวที่ ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION </TD></TR><TR><TD>ขนาด</TD><TD>: 5.1 ริกเตอร์ </TD></TR><TR><TD>จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว</TD><TD>: ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION </TD></TR><TR><TD>วันที่</TD><TD>: 09 ธันวาคม 2553 22:46 น. </TD></TR><TR><TD>ละติจูด</TD><TD>: 13° 02′ 24′′ เหนือ </TD></TR><TR><TD>ลองจิจูด</TD><TD>: 92° 34′ 12′′ ตะวันออก </TD></TR><TR><TD>ความลึกจากระดับผิวดิน</TD><TD>: 35 กิโลเมตร </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...