คิดนอกรอบ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Siani_3D, 18 ตุลาคม 2010.

  1. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ชีวิตคนเรานั้นแสนแปลก เมื่อวานคิดอีกอย่าง วันนี้คิดอีกอย่าง
    จิตแปรเปลี่ยน เหมือนดั่งสายลม
    ไม่มีสิ่งไหนที่แน่นอน มั่นคง และยั่งยืน....


    ขออนุโมทนา กับ ความคิดเห็นที่นำมาแลกเปลี่ยนกันครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2010
  2. สมใจ แสงทอง

    สมใจ แสงทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +213
    ผมเป็นคนประเพศเดียวนี้เลย พูดอะไรคนมักไม่เชื่อแล้วก้พูดต่ออีกว่า ซักวันจะบ้า
    ผมเห็นในสิ่งที่แปลกประหลาด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเห็นได้ยังไง เหมือนผมจะไปผุดที่ไหนซักที่
    ที่คล้าย ๆ กับคนธรรมดาเรียกว่าสววรค์ ผมไปครอบเศียร ครั้งแรกเกิดความกลัวมหาศาล แล้วคิดกำหนดจิตให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด โดยการสัมผัสลมหายใจเข้าหายใจออกทุกครั้ง
    อยู่ดีดีไปโผล่ตรงไหนก็ไม่รู้ เห็นภาพที่ไปโผล่ อย่างเช็ดเจน ได้ยินเสียง อย่างชัดเจน งง เหมือนกันแต่ผมคิดได้อย่างหนึ่งเลยหล่ะ ก่อนตายควรจับจิตไปไว้ที่ลมหายใจแล้วท่องพุธโทซึ่งเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ไครฟังเค้าก้หาว่าบ้ม่างอะไรม่าง เหมือนน้ำลายคาปากจะกลืนก้ไม่ได้จะคายก็ไม่ออก
     
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    สมองไหล

    คำนี้ ท่านคงจะคุ้นๆกันดีนาคับ

    เด็กหัวกะทิ ไปสร้างความเจริญให้นานาอารยมามากต่อมากแล้ว เพราะเค้าถูกสังคมบีบให้ต้องยืนด้วยลำแข้งของตนเอง

    จึงกลายเป็นนักคิดนักประดิษฐ์อิสระ
     
  4. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    วิทยาการสมัยใหม่ทุกวันนี้ที่เราใช้ๆกัน เช่น หลอดไฟ วิทยุ โทรทัศน์
    เมื่อหลายร้อยปีก่อน คนที่คิดค้นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ายุคสมัยนั้น จะถูกกล่าวหายิ่งกว่าคนบ้า
    เผลอๆมีโดนประหารฐานมีความฉลาดล้ำยุคเกิน....ถ้าไม่มีใครกล้าบอกว่าโลกมันกลม
    คงไม่มีแรงบันดาลใจที่มนุษย์เราจะท่องอวกาศ พิสูจน์สิ่งที่กาลิเลโอพูดว่า โลกมันไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล และมันก็ไมแบนอย่างที่เข้าใจ ในสมัยก่อนก็คิดว่าโลกแบน
    แต่ไฉน กาลิเลโอ จึงแปลกพวก หรือว่าเขาบ้า ทุกวันนี้ กลับยกย่องเขาทั้งที่เมื่อก่อน
    ทำกับเขาไว้แสบ...มีคนบ้าคนหนึ่งคิดว่าต้องประดิษฐแสงสว่างแทนเทียนกับตะเกียง
    โดยใช้พลังงานชนิตหนึ่งไหลผ่านลวดทังสเตน...ในยุคนั้นกล่าวหาว่าชายคนนี้บ้าเสียสติ
    ต่อมาด้วยความมุ่งมั้น เขาก็ทำสำเร็จ เป็นหลอดไฟดวงแรกของโลกและเป็นแรงบันดาลใจแก่นักฟิสิกส์รุ่นหลัง คนเสียสติผู้นี้คือ เอดิสัน...โลกมันไม่แน่ไม่นอนหรอก เพชรก่อนการ
    เจียระไน มันก็แค่ก้อนคาร์บอนอยู่ในตมที่สกปรก..แต่ยังไงมันก็คือเพชร ย่อมมีคุณสมบัติ
    ทีพิเศษกว่าหินธรรมดาๆ คนเราวัดกันที่ภายนอกยิ่งแล้วใหญ่ คนบ้า อัจฉริยะ มีแนวคิด คล้ายๆกันคือ...ไม่ยึดติด และคิดนอกกรอบ..จะแน่ใจได้อย่างไรว่าในกรอบคือจริงทั้งหมด
    หรือทัศนคติในกรอบเดิมๆถูกต้องทั้งหมด ความรู้ก็สำคัญ แต่ จินตนาการนั้นสำคัญกว่า
    แต่จินตนาการที่ไม่ประกอบด้วยความรู้และจริงจังกับมัน ...ก็จะเป็นเพียงความเพ้อฝันเท่านั้น .... อัลเบิรต์ ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ อัจฉริยะ เมื่อก่อนที่จะดัง เขายังถูกมองว่า
    บ้าๆเพี้ยน และ เพ้อฝัน...และคนรุ่นหลังก็ศึกษาขบวนการคิด และใช้ผลงานคนบ้าเหล่านั้น
    ในการต่อยอด จนโลกทุกวันนี้ ทั้งการติดต่อ และเทคโนโลยีต่างๆถูกพัฒนาถึงขีดสุด
    ล้ำสมัยกว่าเจ้าของแนวคิดเสียอีก ... ต้องขอบคุณ เหล่า คนบ้า เช่นพวกท่าน โลกทาง
    กายภาพของเราเล็กลงถนัดตา...
     
  5. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429

    มันก็แค่ความเหง้า ของคน ไม่ใช่ความโง่ หุหุ
     
  6. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
  7. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    vergo shaka<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3932547", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ อัจฉริยะ




    ขออนุญาตแสดงทัศนะต่อคำว่า "อัจฉริยะ" นิดนึง

    เราคิดเห็นว่า "อัจฉริยะ" เป็นสภาวะของเหล่าอริยะชนที่ปราชญ์เปรื่องในการใช้สติปัญญาไปในแนวทางสร้างสรรค์แต่ถ่ายเดียว ไม่ใช้สติปัญญาไปในแนวทางล้างผลาญทำลาย

    สำหรับ "ไอน์สไตน์" เราคิดเห็นว่าก็แค่ฉลาดสุดๆ ไม่ใช่อัจริยะ
    "Mega clever" not "Genius"

    อย่าง "ไอน์สไตน์" เนี่ยนะ... ยังขาดไปอีก step นึงสำหรับคำว่า "อัจฉริยะ"
    คือ ต้องคิดต่อด้วยว่า ความรู้ที่ได้มา ควรจะใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเองและส่วนรวม
    "ไอน์สไตน์" ได้ความรู้ แต่ไม่มีปัญญาระดับสูงในการกำกับใช้ความรู้ที่ได้มานั้น... มันก็เลยเป็นโศกนาฏกรรม ที่ตัว "ไอน์สไตน์" เองก็ต้องหลอนไปตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน
    มันเป็นบทเรียนของเขาอ่ะนะ



    อีกอย่างหนึ่ง... เราคิดเห็นว่ามหาศาสดาทั้งหลายล้วนเป็นบุคคลระดับอัจฉริยะทั้งสิ้น
    สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม ไม่แบ่งแยก กระทำแต่เรื่องสร้างสรรค์ทางปัญญา มุ่งให้เข้าหาความเข้าใจทั้งในตนเองและนอกตนเอง เพื่อเข้าใจชีวิต

    เราเลยไม่ยกเอาบุคคลที่กำลังเรียนรู้ถูกผิดอย่าง "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์" มาขึ้นทำเนียบอัจฉริยะในใจของเรา




    "อัจฉริยะ"... มีเยอะๆก็ดี
    แต่อัจฉริยะแบบ "ไอน์สไตน์" มีเยอะๆ ดูท่าจะวุ่นวาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 ตุลาคม 2010
  8. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    เป็นธรรมดา คนอัจฉริยะมักเข้าใจยาก เพราะ คนธรรมดา ทัศนะและแนวความคิดไม่เท่า
    เขา แต่ความรู้ของไอสไตน์ เป็นประโยชน์ของคนรุ่นหลัง หากแต่ว่า รู้จักคำว่าเฉลียว...
    บางครั้งความฉลาดก็ไม่เพียงพอ...ถ้าจะสมบรูณ์ต้อง....เฉลียวฉลาด...รู้จักใชัปัญญาใน
    ทางสร้างสรร...สมการ สัมพันธภาพ ของเขามีประโยชน์ มากต่อนักฟิสิกส์รุ่นหลัง
    ในแง่ของพลังงาน คาบเวลา มิติ.....และจุดกำเนิดแห่งเอกภพ ว่ามันมีความสัมพันธกัน
    เป็นลูกโซ่...การเข้าใจ คนอัจฉริยะต้องมีแนวคิดแบบอัจฉริยะ ที่สำคัญถ้าอยากรู้จักในสิ่งใดเราต้องศึกษาในสิ่งนั้นและเข้าใจในธรรมชาติในสิ่งที่เราสนใจ หรือ ถ้าอยากเข้าใจ
    คนบ้าเราต้องมีแนวคิดเช่นเดียวกับเขาจึงจะเข้าใจในตัวของเขาเช่นกัน...และสุดท้าย
    การเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้...เป็นสิ่งที่ควรรู้มากที่สุด
     
  9. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    เป็นธรรมดา คนอัจฉริยะมักเข้าใจยาก เพราะ คนธรรมดา ทัศนะและแนวความคิดไม่เท่า
    เขา แต่ความรู้ของไอสไตน์ เป็นประโยชน์ของคนรุ่นหลัง หากแต่ว่า รู้จักคำว่าเฉลียว...
    บางครั้งความฉลาดก็ไม่เพียงพอ...ถ้าจะสมบรูณ์ต้อง....เฉลียวฉลาด...รู้จักใชัปัญญาใน
    ทางสร้างสรร...สมการ สัมพันธภาพ ของเขามีประโยชน์ มากต่อนักฟิสิกส์รุ่นหลัง
    ในแง่ของพลังงาน คาบเวลา มิติ.....และจุดกำเนิดแห่งเอกภพ ว่ามันมีความสัมพันธกัน
    เป็นลูกโซ่...การเข้าใจ คนอัจฉริยะต้องมีแนวคิดแบบอัจฉริยะ ที่สำคัญถ้าอยากรู้จักในสิ่งใดเราต้องศึกษาในสิ่งนั้นและเข้าใจในธรรมชาติในสิ่งที่เราสนใจ หรือ ถ้าอยากเข้าใจ
    คนบ้าเราต้องมีแนวคิดเช่นเดียวกับเขาจึงจะเข้าใจในตัวของเขาเช่นกัน...และสุดท้าย
    การเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้...เป็นสิ่งที่ควรรู้มากที่สุด
     
  10. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    วิทยาศาสตร์ แขนงที่สามารถสร้างประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมนั้น เรียกว่า วิทยาสาสตร์ประยุกต์ต่างหาก

    แต่แท้จริงแล้ววิทยาศาสตร์ไม่ใช่ สิ่งประดิษฐ์ไม่ใช่ เครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกหรอกนะ

    วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แบบนี้ ==
     
  11. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    วิทยาศาสตร์ คือ แนวคิด สมมุติฐาน การวิเคราะห์ และ การทดลอง ให้สอดคล้องกับ
    แนวสมมุติฐานนั้น เพื่อให้ได้ความจริงในสิ่งที่เราต้องการจะรู้
    ส่วน เทคโนโลยี คือ การเอาวิทยาศาสตร์มาต่อยอด เช่น การสร้างเครื่องบินคุณต้องเข้าใจ
    หลักของลม ทิศทาง เทคนิคกลศาสตร์ แรงและเวกเตอร์ และ อาศัยความน่าจะเป็น ข้อ
    สมมุติฐานของแอโรไดนามิค แล้วทดสอบ ทดลอง และจึงประดิษฐมันขึ้นและทดสอบสรุปผล เขียนบันทึกเพื่อวิจัยและพัฒนาต่อ...สิ่งอำนวยความสะดวกต่างเป็นผลพลอยได้จากวิทยาศาสตร์ นั้นคือ เทคโนโลยี ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...