โดนขังวิญญาณ

ขอบคุณ คุณจิ-โป และ คุณอัคนีวาต นะคะ เดี๋ยวศิลามณีมาใหม่นะคะ ตอนนี้ขอไปเตรียมตัว ไปบ้านครูบาอาจารย์ท่านก่อนคะ คุณพ่อกลับ กรุงเทพ ศิลามณี เลยได้โอกาสไปหาครูบาอาจารย์ ท่านบ้างนะคะ .....ปกติถ้าคุณพ่ออยู่ด้วย ไปไม่ใคร่สะดวกคะ ต้องรีบๆกลับ และ ศิลามณี ก็อยู่ดึกๆ ไม่ได้...

... ค่อยดูนะวันนี้จะอยู่ดึกๆ เอาแบบสุดโต่ง หลุดโลกไปเลย บายๆๆคะ แล้วเดี๋ยวเข้ามาใหม่นะคะ

 

พระพุทธรูปยุคไหนครับ คุณ จิ-โป สภาพงดงามสมบูรณ์มาก...เต่างอยนี่อยู่ที่ไหนครับ...ขออนุโมทนาครับ..

 

น่าไปเที่ยวจังครับ....อยู่จังหวัดอะไรหรือครับ

 

หวัดดีครับสบายดีไหมครับ

 

พระยุคไหนก็ไม่อาจจะรู้ได้ครับเพราะแกะจากหินทั้งก้อน อายุก็เลยไม่รู้
แต่ไม่ใช่ใม้กลายเป็นหินครับทีโอ ใม้กลายเป็นหินคือก้อนที่อยู่หลังพระ
เป็นบ้างก็ว่าขนุน บ้างก็ว่าใม้ตะเคียน ผมก็ไม่รู้เพราะเป็นหินไปแล้วก็เรียกหิน

เต่างอยอยู่ จว.สกลนครครับ เป็นถ้ำเมืองลับแล ถ้าสนใจอยากเข้าก็ได้ต้อง
มีข้อจำกัด 2 ข้อ คือ 1.กินเจมาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน 2.ต้องตัวเล็กๆค่อนข้างผอม
เพราะไม่งั้นเบี่ยงหัวเข้าหลืบถ้ำไม่ได้ เพราะมันมีช่วงที่ต้องลอดท่าซุบเปอร์แมน
ประมาณ 20 เมตร แต่เข้าไปแล้วอากาศสะดวกดี กว้างขวางใหญ่โต มีบ้านเรือน
หลายร้อยหลัง มองไม่เห็นหลังคาถ้ำหรอก แต่สว่างด้วยอะไรก็ไม่รู้ เย็นๆสบายตา
ในถ้ำมีแม่น้ำต้นใม้มีเหวเหมือนข้างนอกนี่ล่ะ มีการแกะสลักพระใว้บนเหวหัวใหญ่ๆ

ใว้ใกล้ๆ ขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 ถ้าไม่ลืมมาถามทางผมใหม่ ถ้าฤาษีไม่ว่าจะแนะนำให้ไป
เพราะผมต้องถามเขาก่อน ผมมันผู้น้อยคอยก้มพนมกรครับ ตัดสินใจให้เข้าถ้ำเองไม่ได้
พระนี่ท่านทั้งหลายในนั้นเป็นคนสร้างใว้ ไม่ใช่คนธรรมดาทำครับ

 

ขอบคุณมากเลยครับ ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นดีจังเลยครับ

 

แหะ..แหะ..ท่านจิ-โป ข้อ 1. ทำได้ ข้อ 2. พอไหว ท่าซุปเปอร์แมน คงไม่ไหวต้องซุปเปอร์วู้แม่น ดีกว่า...แปลกจังค่ะ ที่มีสถานที่แบบนี้ซ้อนอยู่บนโลกใบเดียวกัน แล้วคุณจิ-โปไปพบมา น่าตื่นตา ตื่นใจมากๆๆค่ะ

 

น่าสนใจ...น่าไปเที่ยวครับ ต้องรบกวนคุณ จิ-โป พาทัวร์ เต่างอย...ซะแล้ว(ชื่อเพราะดีครับ...)

 

เปิดเข้าไปอ่านในหน้าก่อนๆ.. ที่เป็นเรื่องของ คุณจิ-โป ตอน..ผีน้ำนะคะ ที่สวมรอยเป็นพี่สาว คุณจิ-โป .. ศิลามณี สงสัย ผีน้ำ กับภูติน้ำ นี่เหมือนกัน หรือ เปล่าคะ แล้วนางเงือกมีจริงไหมคะ .....จะสวย และ ใจดีเหมือนในหนังการ์ตูน หรือ เปล่า ที่มีหางเป็นปลา ..

 

เหมือนกันเลยคะ คุณคะรุทา ข้อ 2 ศิลามณีไม่ได้แน่ เพราะตัวใหญ่หยั่งกะตึก น้องๆพังแป๋นนะคะ

 

ม่ายยยยยช่ายยยยย คะรุทาสะโอดสะอง งามมากแบบนางในวรรณคดีนะคะ
เออใช่ ที่คุณศิลามณีไปพบครูบาอาจารย์คืือยังไงค่ะ ..แล้วต้องไปบ่อยเหรอค่ะ แหะ แหะ คะรุทาไม่ทราบจริงๆค่ะ

 

คิกๆคักๆ โอเคเข้าใจละว่า คุณคะรุทา หนุ่สวยดังนางงามในวรรณคดี...แต่ของ ศิลามณี นี่ตรงกับข้ามคะ ... ใครเห็นตัวจริงนะ ต้องต๊กกะใจ หงายหลังตึง!ไปเลย ... เพราะรูปร่างของ ศิลามณี ใหญ่โตราวกับนางผีเสื้อสมุทร นะคะ .....ทีนี้นึกภาพออกหรือยังคะ..


อืมร์ ส่วนเรื่องไปหา ครูบาอาจารย์ นี่ ..คงต้องท้าวความกันนิดหน่อย... ....ศิลามณี เป็นลูกศิษย์ที่สำนักปฏิบัติธรรม ... แห่งหนึ่งในจังหวัดที่ ศิลามณี อยู่นะคะ พูดง่ายๆก็คือ คล้ายๆกับตำหนักร่างทรงนะคะ .


....สถานที่ ที่นั้นตั้งออกไปไกล จากตัวเมืองที่ ศิลามณี พักอาศัยอยู่มาก น่าจะเหมือน บ้านอยู่ประชาชื่น แล้ว ขับรถออกไปแถวๆ รังสิตคลองหก คลองเจ็ด ราวๆนั้นนะคะ... ที่นั้นพอถึงเวลาสองทุ่ม จะมีไหว้พระสวดมนต์ หลังจากนั้นก็จะ มีการรักษาผู้ป่วยต่างๆ ที่มีอาการเจ็บป่วย มีทั้งที่เจ็บป่วยทางร่างกาย และ ทางด้านจิตวิณญาณ โดยไม่มีค่าครูรักษา แม้แต่บาทเดียว..


จะมีก็แต่ตู้รับบริจาคที่ว่างเปล่า... มีเงินหย่อดเป็นแบงค์ยี่สิบ เหรียณสิบ.......เหรียณบาท ที่ดูโหวงเหวง ตั้งไว้เฉยๆช่วยค่าไฟฟ้า ตามศัทธาของผู้คนที่เขามาขอให้รักษานะคะ ..และ ที่นั้นจะมีอีกศาลาหนึ่งแยกออกไปต่างหาก สำหรับผู้ที่ต้องการไปนั่งสมาธิ จะมีครูบาอาจารย์ที่ใส่ชุดขาว พานั่งปฏิบัติ และ ให้คำแนะนำอยู่ด้วย..


...ศิลามณี ก็ใส่ชุดขาวคะ เพราะว่าบวชจิต และ ถวายตัวเป็นลูกพระพุทธเจ้าแล้ว แต่ไม่ได้ช่วยรักษาใคร ทำไม่เป็นนะคะ ไปเพียงแค่นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกับ ครูบาอาจารย์ และ ญาติมิตรญาติธรรม ตามแต่เวลาที่จะอำนวยนะคะ


ที่นั้นไม่มีข้อบังคับว่า ต้องไปทุกวัน จะไปหรือไม่ไปก็ได้ และ ถ้าพบที่ที่ดีกว่าและเราจะไป ครูบาอาจารย์ท่านก็ไม่ห้าม สุดแต่ใจเราคะ .... ศิลามณี เองก็มีข้อจำกัด ...ตรงที่คุณพ่อท่านไม่มีความเชื่อมั่น และ ไม่มีประสพการณ์ เกี่ยวกับเรื่องเทพเทวดา เหมือนที่ ศิลามณี เคยประสพ ..ส่วนเรื่องพระพุทธศาสนา ท่านก็เข้าใจว่า เป็นอุบายของคนโบราณ ที่ต้องการให้คนเป็นคนดี พระพุทธเจ้าไม่มีจริง เป็นเพียงแต่นิทานเท่านั้น ท่านจึงกลัว และ เป็นห่วงกลัวว่า ศิลามณี จะหลงไหลงมงาย.. พอท่านกลับกรุงเทพ ศิลามณี ก็ขอไปหาครูบาอาจรย์ท่านบ้าง..แมวไม่อยู่หนูๆบันเทิง ไงคะ

 

555+ อ้อ..เป็นฉะนนี้นี่เอง..
คะรุทาเคยไปตำหนักทรงครั้งเดียวในชีวิต แล้วก็เข็ดจนบัดดี้เลยค่ะ
เรื่องคือว่า..เพื่อนพาไป เข้าทางเลยค่ะ ทักเราเป๊ะๆๆ อึ้ง กิม กี่ กันไป เทียวไปเทียวมาอยุ่หลายรอบ เขาบอกว่าเราต้องรับขันธ์แล้วนะ แล้วองค์จะมาได้เต็มที่ นี่เขามาแล้ว แต่ไม่เต็มเพราะบารมีเราไม่พอ ต้องรับขันธ์ เปิดโอษฐ์ โอ้ว....แฮะ..เข้าท่า ตั้งใจไปรับขันธ์ ไอ้วันจะไปรับ สวดมนต์อยู่ดี นั่งสมาธิ ท่านพ่อมาเลย พูดขึ้นมาว่า ของจริง อยู่กับตัว นั่นของปลอมทั้งนั้น จะไปไหนมาไหนไม่บอก ไม่กล่าวกู กูจะลงโทษมึง สัก2 - 3วัน ให้มึ่งครั่นเนื้อครั่นตัว หลังจากนั้นป่วยสิคะ...ขันธ์ก็ไม่ได้รับ ผ่านมาระยะหนึ่ง คพะรุทายังเชื่ออยู่ว่าเขาจริง วันหนึ่งเขาเดือดร้อนเงินมากๆๆ แบบบนั้นแบบนี้ จึงช่วยไป 50,000 บาท ก่อนโอนให้เขา ไปจุดธูปบอกองค์พ่อที่เรานับถือ บอกกล่าวท่านเล่าหมดเปลือก พร้อมบอกด้วยว่าช่วยด้วยใจจริงแต่ขออย่าให้เขาโกงเงินลูกนะคะ ... 7 วันเขาโอนคืนมาให้ตามคำพูด หลังจากนั้นเรื่องก็แดงมาเยอะแยะ ตอนนี้ตำหนักเขาย่ำแย่มากๆๆๆๆ เราสงสารแต่เข็ดแล้ว ตั้งแต่นั้นตำหนักไหนๆ คะรุทาไม่ไปเลย สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิอย่างเดียว ตอนนี้องค์พ่อก็มาสื่อสารได้ ง่ายขึ้น แล้วดีงาม ไม่ต้องรับขันธ์ใดเลย

 

ของ ศิลามณี ไม่มีรับขันธ์คะ. .แล้วครูบาอาจารย์ท่านก็ไม่ได้ทักอะไรด้วย เพียงแต่บอกให้มานั่งทำสมาธิที่นั้นทุกคืน ตอนนั้น ศิลามณี ไปที่นั้นติดต่อกัน เป็นเวลาเกือบครึ่งเดือน... คิกๆคักๆ ก็น่าแปลกนะคะ ... คุณพ่อ ศิลามณี ท่านก็อนุญาต เพราะบอกท่านว่าไปปฏิบัติธรรม...


หลังจากครึ่งเดือนไปแล้ว ......... ครูบาอาจารย์ ท่านให้เอาดอกไม้ ธูปเทียน ดอกบัวใส่พาน ถวายตัวเป็นลูกพระพุทธเจ้า แล้ว ก็อีกหลายวัน ให้เอาผ้าขาว และ ดอกบัว มาบวชจิต.. และ ก็ทิ้งช่วงไปอีก....ครูบาอาจารย์ท่าน ก็ลงลักขณาที่หน้า และ หลัง จากนั้นก็เปิดพระเวท ...อันนี้ครูบาอาจารย์ท่านว่า ให้ทำทุกครั้งหลังทำสมาธิ แล้ว ค่อยเปิดพระเวท .. เวลาจะเสกน้ำมนต์ หรือ ลงเทียนชัยนะคะ


อืมร์ ศิลามณี ไม่เคยทำให้ใครนะคะ นอกจากทำให้ตัวเอง .. คิกๆๆ ตอนนั่งสมาธิ ศิลามณี ไม่เห็นมีเสด็จพ่อเสด็จแม่มาหาแบบ คุณคะรุทา แต่ที่ทราบว่ามีท่านอยู่ด้วยก็เพราะ เจ้านกแก้วที่บ้านนะคะ ....ทุกเช้าเขาชอบร้องดังๆ เสด็จแม่ .. ข้อนี้ขอยืนยันไม่เคย มีใครสอนเขาให้พูด นานๆๆสักครั้งถึงจะมีร้องว่าเสด็จพ่อ...เจ้าแก้วนี่พูดได้แค่สองคำคือ แก้วๆจ๋า นะคะ จะมีบางครั้งที่ชอบทำเสียงในคอแปลกๆ คล้ายกับคุยกับใครหลายๆคน พอศิลามณีเงี่ยหูฟัง มีการหยุดคุย เหมือนกับรู้ว่าเราแอบฟังนะคะ... พูดถึงนกแก้ว เขามาอยู่กับศิลามณี ไม่ธรรมดาเลย ....

คุณคะรุทา ใจดีมาก และ โชคดีมากนะคะ ที่ได้เงินคืน... ศิลามณี ว่าร่างที่เป็นจริง .... ท่านไม่ทำให้ใครเดือดร้อนมัวหมอง และ ท่านก็ต้องไม่เดือนร้อนมัวหมองด้วยเช่นกันคะ....

 

ใช่ค่ะ...ไอ้ความใจดีนี่ คนอื่นอาจแปลว่า โง่ นะคะ อิอิ

 

คิกๆๆ ทีหลังถ้ามีใครมาขออีก ก็เฉยๆนิ่งๆไว้ก่อน ยังไม่ต้องตกลงไปก็ได้คะ...

 

เออใช่.. แต่ก็น่าแปลกใจว่าทำไมเขารู้วาระจิตเราละคะ แต่หลังๆเขาไม่รู้แล้วค่ะ ตอบไม่ตรงแล้วค่ะ แต่เขารู้ล่วงหน้าเลยนะคะ บอกก่อนเกิดเหตุการณ์จริงตั้งแต่ 3 วัน ยัน 3 เดือนไม่ผิดเลยค่ะ เพียงแต่เขาอาจใช้ผิดทางไป ตอนนี้เขาก็พยายามติดต่อมนะคะ มาทำทักทายเนียนๆไป คะรุทาก็เนียนไป แต่ไม่ไว้ใจแล้วค่ะ คือคะรุทาจะแปลกตรงที่ว่า ใจดี แต่ ใจดำนะคะ ไม่งง ชิมิ ชิมิ...*-*

 

อืมร์ งงสิคะ ทำไมจะไม่งง ใจดีแต่ใจดำ มันยังไง อธิบายได้ไหมคะ

 

*v* อ้าวก็ใจดี ชอบสงสารคน ช่วยได้ทุกคนไม่เสียดาย หรือหวังผลตอบแทน ไม่เลือกชั้นวรรณะไง
แต่ถ้าหลอกลวง หรือทำให้เราไม่ไว้วางใจ แม้เพียงครั้งเดียว ใจดำเลย ไม่แยแสอีกเลย เหมือนคนละคน เลยค่ะ ต่อให้มาตายตรงหน้าก็ไม่ช่วยเหลือเลยค่ะ นี่แหละ ใจดี กับ ใจดำ แบบคะรุทา อิอิ ภูมิใจ จริงจริ๊ง

 

คิกๆๆ โหดจังเลยคะ...ศิลามณี คล้ายๆคุณ คะรุทา ตรงที่จำ....ใครหลอกเราจะจำไว้ และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก ... มีอยู่ครั้ง ศิลามณี เห็นเขาเป็นลูกศิษย์ ของครูอาจารย์ จึงไว้ใจและ ส่งของที่จะเอาไปทำบุญ หาเงินเข้าวัด แต่เอาเข้าจริงเขาไม่ได้ เอาของที่ศิลามณีฝากไปให้ มอบให้กับครูอาจารย์ .... ศิลามณี เลยไปขอของคืน ตอนที่เขาจะส่งของให้ศิลามณี มันมีเหมือนกระแสความเสียดาย ออกมาจากเขานะคะ ก็เลยไม่ไปยุ่งหรือสนใจเขาอีกเลย

ภายหลังมาทราบว่าเขา จะทำงานให้ครูอาจารย์ ศิลามณี ก็ไม่เห็นด้วย เลยอธิฐานไม่ให้เขาเข้ามายุ่ง แต่ก็ยังเห็นครูอาจารย์ท่านยังใช้อยู่ ศิลามณี ก็เลยกำหนดถามไป ว่าทำไมถึงยังให้ คนเลวคนไม่ดีอยู่อีก ได้คำตอบมาว่า ต้องช่วยให้คนเลวกลับตัวเป็นคนดี และนี่คือหน้าที่..ของท่านนะคะ.