ประมวลภาพ..คณะตัวแทนชาวเว็บพลังจิต..ร่วมพิธีมหากฐินสามัคคีวัดท่าซุง

สืบเนื่องจากกระทู้
มหากฐินสามัคคีวัดท่าซุง เจ้าภาพในนามเว็บพลังจิตนะครับ

วันนี้วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2549 คณะตัวแทนเืพื่อนๆ พี่ ๆ ชาวเว็บพลังจิตทุกท่าน ได้เดินทางไปร่วมพิธีมหากฐินสามัคคีมาแล้วเรียบร้อยครับ
ผมขออนุญาตประมวลภาพบรรยากาศของงานมหากฐินนี้มาฝากกันนะครับ
---------------------------------------------------------------------
คณะตัวแทนชาวเว็บพลังจิต รายนามมีดังนี้นะครับ

1. tamsak (ตั้ม)
2. Jdin_buddhism (ดร)
3. Carbonato (อ้น)
4. i.sahassa (เอฟ)
5. mayongnes (ปุ๊ก)
6. Fourthman (เอ๊กซ์)
7. ยายผีป่า
8. เอก
9.ต่อ
10.พี่โอภาส
(เนื่องจากผมเพิ่งเข้ามาบอร์ดนี้ไม่นานนัก..ขออภัยด้วยครับที่จำ nickname ในบอร์ดของบางท่านในคณะไม่ได้ครับ)

*************************************************
06.30 ชาวคณะออกเดินทางจากหน้าธนาคาร SCB ซ.พหลฯ46/1
09.30 แวะทานอาหารเช้าที่ปั๊มบางจากก่อนถึง จังหวัด อุทัยธานี
10.00 ถึงวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ต.น้ำซึม จ.อุทัยธานี (ศาลา 12 ไร่)
- ถวายกฐิน (ยอดเงินบริจาค ต้องรบกวนพี่ตั้ม และ น้องอ้น แจ้งอีกทีครับ เนื่องจากมีการรวบรวมและสมทบทุนเพิ่ม ขณะต่อแถวครับ )
10.30 ออกเดินชมวัดครับ (เิดินครับ..เหอ เหอ เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากน้ำท่วม สูง 2.21 เมตร อันนี้ดูจากป้ายหน้าวิหาร 100 เมตร ที่ขีดไว้ให้ดูน่ะครับ)
12.00 กลับไปที่ศาลา 12 ไร่ เพื่อไปจับจองที่ร่วมพิธีมหากฐินครับ+ทานอาหารกลางวัน
13.00 พิธีถวายกฐิน (คนเยอะมากกครับ)
14.00 เสร็จพิธีถวายกฐิน ไปดู+บูชาวัตถุมงคล และ ดูแพปลา (สงสัยว่าน้ำท่วมแล้วจะเหลือมั้ยน่ะครับ)
14.50 เดินทางออกจากวัดท่าซุง (ขากลับรถติดมาก ๆ ๆ ครับ)
18.00 แวะตลาดกลาง ตรงอยุธยานิดหน่อยครับ
19.30 ถึงรังสิตครับ
***********************************************
ต่อไปขอเชิญติดตามชมภาพนะครับ

 

ภาพซ้ายมือ(ของผู้อ่านกระทู้นะครับ) นี่เป็นทางที่เหมือนว่าถ้าน้ำไม่ท่วมเราจะเข้าไปทางนี้น่ะครับแต่ป้ายบอกว่าน้ำท่วมทางเสียหาย ห้ามเข้า คณะของเราจึงต้องอ้อมไปอีกทางครับ

ภาพขวามือ(ของผู้อ่านกระทู้นะครับ) นี้ถ่ายจากหลังรถนะครับ..ทั้งคณะเดินทาง มี 10 คน

 

ไปถึงก็จอดรถกันตรงบริเวณ มณฑปท้าวมหาราช กับมณฑปแก้วครับ ซึ่งก็จะอยู่ตรงบริเวณ ศาลารับแขก ที่มีวัตถุมงคลของวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ให้เช่าบูชากันครับ และ ก็ยังมีแพปลา อยู่บริเวณนี้ด้วยครับ

จอดรถเสร็จ ก็พากันเดินข้ามถนน Lane เดียว ไปฝั่งตรงข้าม เพื่อไปศาลา 12 ไร่ครับ

จะเห็นซุ้มทางเข้าเขียนบอกไว้นะครับ และระหว่างเดินไปก็สังเกตุเห็นร่องรอยของระดับน้ำที่ท่วมวัดท่าซุงนะครับ ลองสังเกตุดูได้..คุณดร(นายแบบจำเป็น) ซึ่งสูงประมาณ 170 (มั้งครับ) ดูจากร่องรอยแล้วระดับน้ำแล้วก็สูงกว่าเห็น ๆ ครับ (ระดับน้ำ ที่วิหารแก้วเขียนบอกไว้ สูงถึง 2.21 เมตรครับ)

ระหว่างเดินเข้าไป (ไม่ไกลครับ ประมาณ 100 เมตร) ก็มีรถรางวิ่งแซงไป เลยถ่ายรูปให้ดูครับ ว่า ถ้ามาวัดท่าซุงแล้วกลัวจะเดินไม่ไหว ก็ขึ้นรถรางเที่ยวชมวัดได้เลยครับ ค่ารถราง 2 บาทเองครับ

 

ภาพบรรยากาศช่วงเช้าครับ ตอนนี้เราเพิ่งไปถึงกัน ก็ร่วมทำบุญกับทางวัด เป็นการส่วนตัว ใส่บาตร ต่าง ๆ ครับ เก็บภาพบรรยากาศ ภายในศาลา 12 ไร่ มาให้ดูครับ

หันหน้าเข้าศาลา 12 ไร่ ซ้ายมือของเรา จะเป็นส่วนให้ซื้อหนังสือ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ครับ ตัดกัน ถัดเข้าไป ก็จะเป็นส่วนของการทำบุญร่วมกับทางวัด ตามกำลังศรัทธาครับ

ถัดเข้าไปในหน่อย ก็จะเป็นน้องๆ นักเรียนโรงเรียน (อ่า...จำชื่อไม่ได้ครับ เป็นโรงเรียนของทางวัดน่ะครับ) มาช่วยกัน ดูแลเรื่องให้ทำบุญชุดสังฆทานครับ น้องๆ ดูไม่เบื่อน่ะครับ ดูร่าเริงกันดีครับ ช่วยกันดูแลผู้ไปทำบุญด้วย หน้าตายิ้มแย้มครับ (อันนี้ยืนมองห่าง ๆ ครับ)

 

เมื่อทำบุญกันพอหอมปากหอมคอแล้วพี่ตั้ม พี่โอภาส และ คุณยายผีป่า ก็ได้เรียกรวมกลุ่มกันเพื่อไปถวายปัจจัย และ ผ้าไตร กฐินให้แก่พระครูปลัดอนันต์ครับ (พี่ตั้มบอกว่า..ทีแรกตั้งใจจะซื้ออย่างอื่นไปเป็นบริวารกฐิน แต่คิดว่า..น้ำเพิ่งท่วมวัด ให้เป็นปัจจัย จะดีกว่าครับ) ไหน ๆ ก็รวมตัวแล้ว ก็เลยเก็บภาพเป็นที่ระลึกหน่อยครับ


ในภาพก็จะเป็นท่านพระครูรับและประกาศชื่อเวบของเราออกไมค์ด้วยครับ
ว่าตัวแทนจากเวบพลังจิตดอทคอม ได้ร่วมกันทำบุญมาเป็นยอดเงิน ....(อันนี้ แหะ แหะ จำไม่ได้ครับผม รอพี่ตั๊ม กับน้องอ้นอีกทีนะครับ)

ถวายปัจจัยเสร็จก็มาถ่ายรูปรวมกันครับ..ก็พอดีได้เจอพี่ร่วมเว็บครับ ใส่เสื้อพลังจิตมาด้วย อีกท่านหนึ่ง (พอดีผมไม่ได้ทันคุยกับพี่เขาครับ..เลยไม่ทราบชื่อ ในคณะ ถ้าใครทราบชื่อพี่ท่านนี้ ช่วยแจ้งอีกทีแล้วกันนะครับ)

 

ผม เอ็กซ์ อ่ะ ใช้ ชื่อ Supernova

 

เริ่มเดินออกจากศาลา 12 ไร่แล้วครับ..ก่อนออก (เวลาหันหน้าออกจากศาลา 12 ไร่ ด้านซ้ายมือนะครับ) ก็จะมีส่วนของวัตถุมงคล ของวัดท่าซุง และ ซีดี เทป ธรรมะ ให้เช่าบูชากันด้วยครับ และ ยังมีเสื้อที่มีตราพัดยศ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วยครับ..สนับสนุนทุนการศึกษาของนักเรียน..เสื้อสวยมาก ๆ ครับ.สวยจริง นะครับ..เนื้อผ้า และ พัดยศที่ปักตรงอกเสื้อ พร้อมลายเซ็น ดูเรียบร้อย และสวยงาม ..แต่พอดีราคาตัวละ 600 บาท..ผมยังไม่สะดวกครับ.หลวงพ่อ..แหะแหะ เลยยังไม่ได้ช่วยน้องๆ นะครับ ก็เลยแวะดูวัตถุมงคลกันซักหน่อย

ทันทีเลยครับ..น้องอ้น ก็ได้บูชาพระพุทธรูปไป 1 องค์ (1200 บาท ) ฝากเจ้าหน้าที่ไว้ก่อน ..แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมารับ

เดินออกจากศาลา 12 ไร่ ไปศาลา 4 ไร่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ว่า ต้องขึ้นสะพานลอยข้ามไปครับ..ข้ามไปฝั่งศาลา 4 ไร่เสร็จ ก็แบบว่ากลิ่นเหม็นอับของน้ำท่วมยังมีอยู่เลยครับ..

ทางลง ศาลา 4 ไร่ก็จะเห็นจากในรูปครับ ไม่มีใครอยู่ (จะไปอยู่ทำอะไรล่ะเนี่ย..อิอิ..ครับ ก็เลยเก็บรูปองค์พระที่ประดิษฐานอยู่ที่ศาลา 4 ไร่ มาให้ชมกันด้วยครับ (ผมชอบองค์ที่ทรงเครื่องมาก ๆ เลย มาก จนเก็บมาฝันระหว่างหลับในรถขากลับเลยครับ..เห็นภาพองค์พระชัดมาก ๆ อิอิ มีความสุขใจครับ)

 

เดินออกมาจากศาลา 4 ไร่ ซ้ายมือเราจะเป็นวิหารครับ..ก็ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดีครับ..แดดแรงมาก...ไหน ๆ ก็มาแล้วครับ ก็เดินเข้าไปดู ก็ยังมืด ๆ ครับ มีแสงสว่างเข้าได้แค่ประตูสองฝั่ง เองครับ..

เท่าที่เห็น ก็มีสาธุชนบางท่าน ท่าทางจะเดินมาหลายที่..ถึงกับนอนเล่นกันกับพื้นเลยครับ เสียงบอกว่าเย็นสบายดี..(แบบว่า..นอนจริงจังเลยนะครับ แผ่ไปกับพื้นเลย..สงสัยจะเย็นสบายจริงๆ แหละครับ.แค่เข้าไปก็รู้สึกว่าเย็นแล้วครับ) ต้องขอโทษเพื่อนๆ ชาวเว็บพลังจิตด้วยครับ..ที่พอดีผมรีบ..เลยไม่ได้ทดลองนอนแผ่..ดูว่าเย็นจริงๆ หรือเปล่านะครับ อิอิ

 

เมื่อชมวิหารเสร็จแล้วก็ออกมา...มองมายังฝั่งตรงข้าม..สุดสายตา..ก็จะเป็น วิหารสมเด็จองค์ปฐมนะครับ...เดินสิครับ..ก็คุย ๆ กันมาเรื่อยๆ (ระหว่างทางด้านซ้ายมือ จะเป็นป่า..ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ป่าธรรมดาครับ..กลายเป็นป่า..ราบบบ ไปแล้วครับ..ก็เพราะน้ำท่วมแหละครับ..

เดินมาสุดสายตาก็จะถึงวิหารสมเด็จองค์ปฐมครับ..สวยยยยยมากกกกก ครับผม...หายร้อนหายเหนื่อยเลยอ่ะครับ...สวยยย..แบบว่า..ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง...รูปจากกล้องผม..แย่มากเลยครับ..โฟกัสแย่มาก ๆ เบลอทุกรูปเลยครับ..เศร้าใจ..และขอโทษเพื่อนๆ พี่ ๆ ทุกท่านด้วยนะครับ.ไม่คมชัดเลย

ด้านซ้ายมือเรา ถ้าเราหันหน้าเข้าตัววิหาร จะเป็นที่บูชา ประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐม
ก็ไปถวายธูปเทียนแพขอขมาองค์ปฐม มีสวดบทแรกเอง..บทสอง บทสาม เนี่ยเจ้าหน้าที่ของทางวัด เิปิดเทปเสียงหลวงพ่อสวดมนต์ให้ครับ..

พอจบก็มีสวดกันเองอีกครั้ง (ผมไม่ค่อยจะได้ยิน น้องต่อนำสวดเลยอ่ะ ..น้องอ้นก็คงเหมือนกันเพราะพยายามขยับเข้าใกล้ ๆ ก็พอดีจบซะก่อนอ่ะ..ยังงี้ผมน้อมจิตตามด้วย.จะได้ผลเท่ากันมัย้ครับ)

ออกมาก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสียหน่อยครับ..ไม่ได้มาบ่อยๆ..ว่าแต่ว่า..ผมว่าเสื้อเว็บพลังจิตนี่...ขาวโอโม่มากเลยนะครับ..ผ่องใส..บริสุทธิ์ยิ่งนัก

 

ออกจากวิหารสมเด็จองค์ปฐมลงมาก็ไปฝั่งตรงข้ามติด ๆ กันนั่นแหละครับ..เป็นมณฑป พระศรีอาริยเมตไตรย ครับ..ก็ถวายธูปเทียนแพขอขมากัน
แล้วก็มีร่วมทำบุญ ซื้อหนังสือประวัติการสร้างพระศรีอาริยเมตไตรย มา 20 บาทครับพร้อมรูปที่ถ่ายสวยงามมาก ๆ (ผมกะว่าจะเอาไปให้ร้านทำกรอบรูปหน้าปากซอยใส่กรอบให้สวยเลยนะเนี่ย..อ้อ..หนังสือประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐม ก็เหมือนกันครับ..ร่วมทำบุญมา 20 บาท ก็แถมรูปสมเด็จองค์ปฐม มาด้วย..สวยงามเหมือนกันครับ..เหมาะกับการใส่กรอบรูปแขวนเลยล่ะครับ ขนาดประมาณ 10*12 นิ้วครับ..)

กราบองค์พระศรีอาริยเมตไตรยกันแล้วก็...แหะ แหะ ถ่ายรูปกันอีกนิดครับ..
ลงจากมณฑปพระศรีอาริยเมตไตรยกันแล้ว..ผม คุณดร และ คุณปุ๊ก ก็เบียดขึ้นรถรางไม่ได้ (ขอบอกครับ.ว่ารถเมล์กรุงเทพฯ นี่ผมบ่ยั่นเลยเด้อ..แต่เจอรถรางช่วงวันทอดกฐินเข้าไป..นี่ผมเบียดไม่ไหวจริงๆ ครับ..แต่ยายผีป่า..พี่ตั้ม พี่โอภาส น้องอ้น ฯลฯ ไปกันได้หมด..เว้นเรา 3 คน 555

ไม่ได้สลดเลยครับ..ที่ไปไม่ทันเพื่อนๆ พี่ ๆ สามคนเรา พากันกลับไปถ่ายรูปกับองค์ปฐม ที่อยู่ด้านล่างข้างๆ มณฑปพระศรีอาริยเมตไตรย กันอีกรอบครับ.ขอขมาองค์ปฐมเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปครับ..

 

ขออนุโมทนา สาธุ..กับทุกๆท่านเลยนะคะ...

มีแต่คน เท่ห์ๆๆๆวุ้ย โดยเฉพาะ อ้น น่ารักสุดๆ ...อิอิอิ

 

เดินกันมาเองเลยครับ..ไม่รอรถรางแล้ว..เดินตามทางมาเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะผ่าน..เหมือนเป็นสระน้ำใหญ่ๆ ด้านซ้ายมือครับ..โอ้โห..เห็นรอยระดับน้ำแล้ว..แบบว่า..มันไม่ใ่ช่น้ำท่วมเล็ก ๆ นะครับ..สองเมตรกว่าแน่ๆ ครับ..ต้นไม้ พื้นดิน โคมไฟ..หญ้า..ทุกอย่าง..เสียหายหมดเลยครับ..

ระหว่างเดิน..ผมก็ได้คุยกับน้องปุ๊ก (mayongnes) และ คุณดร..แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เกี่ยวกับบอร์ด(ความจริง เหมือนผมไม่ได้แลกอ่ะครับ..เนื่องจากยังใหม่กับวัดท่าซุงและบอร์ดอยู่ครับ..เหมือนฟังสองคนนั้นคุยกันครับ..แล้วก็เออ ออ ห่อหมกไปเรื่อยครับ..แล้วก็พยายามถามนู่นนี่ เหมือนเด็ก ๆ เลยครับ..ที่สงสัยไปหมดทุกอย่าง..เล่าอะไรมาก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับผมหมดเลย..ดีจังครับ..

เดินมาจนถึง มณฑปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค..ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับวิหาร ร้อยเมตร..ก็ขึ้นไปนมัสการหลวงปู่ก่อนครับ..(ปกติผมเคยแต่ได้ยินชื่อหลวงปู่ปานครับ..และก็รู้มาว่าเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ..แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร.).แต่วันนี้ผมเล่าให้พี่โอภาสฟังตอนเช้า..ว่าผมถูกจริตกับหนังสือ หลวงพ่อธุดงค์..

พี่โอภาสเลยบอกว่า..เคยอ่านเจอมา รู้สึกว่า..ถ้าใครอ่านหนังสือประวัติหลวงปู่ปาน แล้วเกิดชอบใจ..อาจจะเพราะหลวงปู่เคยอธิษฐานไว้ว่าถ้าใครอ่านหนังสือประวัติของท่านแล้วเกิดชอบใจ..คงเคยเป็นลูกหลานท่านมาก่อน..
(สรุปว่า..ตอนบ่าย ๆ ผมเลยได้หนังสือหลวงปู่ปานติดมาอีกเล่มหนึ่งครับ..เพราะพี่โอภาสบอกว่า..เหมือนๆ กับหนังสือหลวงพ่อธุดงค์เลย..อ่านสนุกครับ)

 

สวยอีกแล้วครับ.วิหารร้อยเมตร...ไม่อยากให้เชื่อที่ผมพูดเลยครับ..เพราะความสวยงาม..ของตามนุษย์กับกล้องถ่ายรูป..มันแทนกันไม่ได้จริงๆ ครับ..เขาถึงว่า..สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นนะครับ..เพื่อนๆ ท่านไหนที่ยังไม่เคยไป..ผมขอแนะนำครับ..ขอเชิญชวน..ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครครับ..ชวนกันไปทั้งครอบครัวก็ยังได้เลยครับ...(อยากให้ไปเห็นด้วยตาตนเอง..มาก ๆ ครับ)

รูปที่ผมถ่ายแล้วเห็นตัวผมด้วยเนี่ย..เชื่อมั้ยครับ..ผมยืนติดกับกระจกริมสุดของวิหาร..แล้วถ่ายออกมา..เพราะมันจะสะท้อนออกมาดูวิหารยิ่งกว้างขึ้นไปอีกครับ

เข้าวิหารเอาธูปเทียนแพไปขอขมาสังขารของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ..แล้วฝั่งตรงข้ามก็รู้สึกว่าจะเป็นองค์พระพุทธชินราช (ไม่แน่ใจนะครับ) ผมก็รบกวนพี่โอภาสถ่ายรูปให้ครับ..สวยยยยยครับ..วิหารสวยจริงๆ แล้วก็มีส่วนของการร่วมทำบุญใส่บาตรร่วมสมทบทำบุญต่างๆ ไว้ให้หยอดด้วยครับ..ใส่บาตรเสร็จก็รีบออกมารอรถรางครับ

บรรยากาศบนรถรางครับ..เบียดเสียดกันสุดชีวิต..อากาศก็ร้อน..(แต่เย็นใจมากครับ) พี่ตั้มจะเป็นญาติกับเครือข่ายมือถืออะไรซักเครือข่ายแน่นอนครับ..ผมมั่นใจว่าอย่างนั้น..เนื่องจากพี่ตั๊มจะคุยโทรศัพท์มือถือได้เกือบตลอดวันเลยครับ..(อิอิ แอบเผาซะงั้น)..โดนยายผีป่าแซวด้วยครับ..

อ้อ..ถ้าใครไม่เคยเห็นยายผีป่า..นี่ดูได้ครับ.แอบถ่ายมาให้ครับ..คุณยายแกโพกผ้าปิดบังตัวตนแล้วครับ..แต่ผมก็ยังแอบเก็บภาพมาฝากกันครับ..อิอิ..นั่งรถราง..ก็ทำมิวสิคได้ครับ.

นั่งรถรางกลับมาถึงศาลา 12 ไร่..ก็ 12.00 โดยประมาณครับ
สรุปว่า เดินทางจากศาลา 12 ไร่ ออกไปเป็นลักษณะวงกลม แล้วก็วนกลับมาศาลา 12 ไร่เหมือนเดิมครับ

 

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 ที่คณะของเราวนกลับมายังศาลา 12 ไร่ ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ..ผิดกันกับตอนที่เราเพิ่งจะมาถึง ตอนประมาณ 10.00 น. เลยครับ..คนเพียบเลย กินพื้นที่ไปประมาณ 75-80% ของศาลา 12 ไร่ เลยครับ..

หาที่นั่งด่วนครับ..พี่โอภาสแนะนำ..ก่อนที่จะไม่มีที่นั่ง
หาที่นั่งได้แล้ว พี่โอภาสก็มีน้ำใจ ช่วยเฝ้ากระเป๋า ให้น้องๆ พี่ ๆ แล้วปล่อยให้เหล่าคณะ น้องๆ ผู้หิวโซ..ไปหาอาหารทานกันครับ..ตอนแรกไปเข้าแถวรอข้าวต้ม..แล้วก็..อื้อหือ..ชามสุดท้าย หมดตรงคนที่อยู่หน้าเราประมาณ 3-4 คนน่ะครับ..แป่ว...

เลยระเห็จกันออกมาด้านหน้าของศาลา 12 ไร่.. ว้าว..คนน้อยกว่าด้านในครับ
มีข้าวราด ถั่วฝักยาวผัดหมู + ไข่เจียว..หมูไม่ใช่วิญญาณหมูนะครับ..หมูแบบว่า..หมูเป็นหมู เลยครับ(เออสิ..แล้วแกจะให้หมูเป็นแมว..เร๊อะ..อิอิ..ชงเองยิงเองครับ)

แต่ว่า..เชื่อมั้ยครับ..พี่ตั้ม วนไปหาข้าวต้มกินจนได้ครับ..เจอพี่ตั้มอีกที (แสดงให้เห็นว่า..แค่ออกไปหาอะไรกินคณะของเรายังพลัดหลงกันจนได้)
..เจอกันอีกที..พี่ตั้มนั่งทานข้าวต้มอยู่ครับ..พี่ตั้มบอกอย่างภูมิใจกับผมว่า..ชามสุดท้ายพอดีเลย..

ทานเสร็จก็ไปหาน้ำทานกันครับ..ชาเย็น+ โอเีลี้ยง มีให้เลือกสองถังครับ..แต่แก้วใบเล็กไปนิด..ผมก็เลยซัดทีเดียวถือมา 2 แก้วเลยครับ..อิอิ.แต่ว่า..ชาร้อนแบบว่า..มีคุณลุงมาชงชาข้าง ๆ ถังชา ถัง โอเลี้ยงร้อนๆ เลยครับ..เปิดก๊อกออกมา..ชายังร้อนจี๋อยู่เลยครับ..

ทานกันเสร็จ ก็ อ่าหห์ หนังท้องตึง หน้าตาก็เริ่มหย่อน (หย่อนน้อยกว่าตอนที่ผมนั่งโพสต์รูปนี่นะครับ..ตอนนี้มันเกือบเที่ยงคืนแล้วอ่ะ..พรุ่งนี้ต้องพาสังขารไปทำงานน่ะครับ ..แต่นึกถึงเพื่อนๆ มากกว่าวันพรุ่งนี้..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา..สังขารไม่เที่ยง..เลยนั่งโพสต์รูปเลยดีกว่า.ผัดวันประกันพรุ่ง(ผมไม่แน่ใจว่า ต้องเขียนว่า ผลัดวันประกันพรุ่ง หรือเปล่านะครับ) น้องเอกช่วยตรวจทานด้วย..ศึกษาศาสตร์ภาษาไทยไม่ใช่เร๊อะ..อิอิ

กลับไปร่วมพิธีเสร็จสรรพ.ก็เดินอืม...ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเดิน หรือควรจะเรียกว่า "ไหล" ตามคลื่นมหาชนออกมาจากศาลา 12 ไร่ดีอ่ะครับ..แต่ถ้าเรียกไหล จะหมายถึงลักษณะการไปเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารล่ะก็..อืม..ที่ศาลา 12 ไร่นี่ยังไม่เรียกว่าไหลครับ..อิอิ (งงกันมัย้เนี่ยครับ..ถนนข้าวสารผมเคยไปเล่นทีเดียวเอง..เดินไปซื้อน้ำล้างหน้าไปครับ..สุดสายถนนก็เสียตังค์เฉพาะน้ำเปล่าล้างแป้งออกจากตาและหน้า ไปประมาณ 3 ขวดน่ะครับ.ส่วนแป้งน่ะ..มันมากับคนที่เบียดเราไหลไปน่ะครับ..นอกเรื่องขอโทษด้วยนะครับ )

ออกมาผมก็มาพร้อมกับพี่ มีท ครับ..พี่มีทนี่นั่งถามคุณยายผีป่า..ว่า." แล้วนี่ยายผีป่าไปไหนอ่ะครับ" คุณยายก็อำซะ..แกไปไหนแล้วก็ไม่รู้ค่ะ..น่าน..!!!
เสร็จจากพิธีถวายกฐิน..ก็เดินข้ามฝั่งกลับมายังที่จอดรถ แล้วผมก็เลยไปดูแพปลาหน่อยครับ..พี่มีทบอกว่า..ไม่รู้ปลาจะยังอยู่หรือเปล่า หลังน้ำท่วม
แล้วจึงย้อนไปซื้อหนังสือหลวงพ่อ..และ เช่าวัตถุมงคลกันครับ

 

เดินออกจากศาลา 12 ไร่ กลับไปตรงที่จอดรถครับ..ย้อนกลับไปตรงบริเวณมณฑปท้าวมหาราชครับ
แล้วก็ไปดูแพปลากันครับ..

ปลายังไม่หนีไปไหนเลยมั้งครับ..เพราะว่า..ปลายังเยอะอยู่มาก..
ผมนะ..ค่อยๆ เทอาหารปลา ให้ไหลเป็นสาย ออกจากถุง..แล้วก็จะเก๊กท่าถ่ายรูปซะหน่อย..แต่พอดีตากล้อง..เล็งนานไปนิด..ปลารุม ๆ กันเข้ามาเยอะ..ตัวที่มาทีหลัง..มันก็เบียด ๆ จนตัวมันขึ้นมาลอยอยู่เหนือปลาตัวอื่นๆ แล้วหางมันก็ตีน้ำ ตูม ๆ ๆ ซ่าส์....เปียกผมทั้งเื้สื้อทั้งกางเกงเลยครับ..ทว่า..รูปอยู่ที่กล้องพี่มีทน่ะครับ..แหะ แหะ เลยไม่มีสภาพเปียก ๆ มาฝากกันครับ

นายแบบจำเป็นในรูปนี่น้องปุ๊ก(มายองเนสนะครับ)

 

บูชาวัตถุมงคล และ ซื้อหนังสือ (ผมได้มาแต่หนังสือครับ..ห้อยองค์ปฐมรุ่นสามองค์เดียวนี่ไปก่อนครับ..แหะ แหะ พูดไปอย่างนั้นแหละครับ..ของหลวงพ่อซะอย่าง.กิเลสผมก็ยังรบกวนจิตใจให้อยากได้ทั้งหมดแหละครับ..

มีองค์ปฐมรุ่นหนึ่งให้บูชากันด้วยนะครับ..เลี่ยมทองเสร็จสรรพ.อยู่ในตู้เลย..ไม่มีหลบซ่อน...องค์ละแค่ 150,000 บาทเอ๊งงง ครับ..อิอิ..แสนห้าหมื่นบาทถ้วนครับ..มีลูกศิษย์ ถวายให้ทางวัด เพื่อนำรายได้เข้าวัดครับ..พอดีช่วงนี้แบตกล้องผมเริ่มหมดแล้วอ่ะครับ..เลยไม่ได้เก็บรูปมาเผื่อกันครับ..สวยดีครับ

หนังสือหลวงพ่อนี่..บ้านสายลมคราวที่แล้ว 290 บาท คราวนี้เจอไปอีก ประมาณ 200-300 บาทแน่ะครับ..คือ..คิดอยู่ว่า..จะเอาเงินมาบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อดีมั้ยน่ะ..

แล้วก็แบบว่า..ถ้าหลวงพ่ออยู่..หลวงพ่อคงอยากให้ลูกหลาน ศึกษาคำสอนท่านให้มาก ๆ น่ะครับ..ผมเลยเปลี่ยนใจมาเช่าหนังสืออ่านน่ะครับ..(นี่พูดจริงๆ เลยนะครับ.คิดกับตัวเองแบบนี้น่ะครับ)

ออกจากวัดมา ประมาณ 14.50 ถึงอยุธยา 18.00 น่ะครับ.. รถติดมาก ๆ ครับ..สุด ๆ นั่งคุยกันนู่นนี่ ในรถตู้สนุกสนานมาก ๆ ครับ..

************************************************
ต่อไปเป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ..รูปหมดกล้องผมแล้วครับ..ไม่ชัดเลย..ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ..ยังไงช่วยอวยพรให้ผมมีเงินซื้อกล้อง canon EOS ซักตัวเร็วๆ ด้วยนะครับ..ผมชอบไปถ่ายรูป..แต่ว่า..งบน้อยก็มีแต่กล้องตัวน้อยๆ แถมฝีมือกระจอกอีก..เลยได้รูปไม่สวยเลย..


พี่ตั้ม..ใจดี..และดูผอมกว่าในรูปในบอร์ดนะครับ


ยายผีป่า..ก่อนไปนี่..ผมนึกว่าจะมาแนวทอมห้าว..กร้าวแกร่ง..จริงๆ แล้วยายผีป่าใจดี..และ ใจบุญ และ คุยสนุก ยิ้มแย้มแจ่มใส ตลอดเลยครับ..มีน้ำใจกับน้อง ๆ เพื่อนๆ


น้องอ้น.. พี่นับถือในความมานะ..มาจากมหาสารคามแล้วก็ต้องรีบนั่งรถกลับไปเรียนต่อในตอนเช้าด้วยนะครับ..นับถือ ๆ


น้องเอก กับน้องต่อ...อายุ 20 ปีเองครับ..แต่สองคนนี้รู้เรื่องวัตถุมงคลมากกว่าผมหลายขุมเลยล่ะครับ..ผมกะประมาณแล้วว่า..อีกไม่นานน้องสองคนนี่เอาของมารวมกันเปิดพิพิธภัณฑ์ได้แล้วอ่ะครับ..อิอิ


คุณ เอกซ์ คุณกับ ผม นี่..มือใหม่เลยครับ..ไม่เคยไปวัดท่าซุงมาก่อน..ดังนั้นเราใสซื่อมือใหม่ทั้งคู่เลยครับ..ผ้าขาวจริงๆ


พี่โอภาส..รู้จักวัดต่าง ๆ ระหว่างทางเยอะเลยครับ คุยตลก ยิ้มแย้ม หามุขตลก มาเล่าให้น้องๆ ฟังคลายเครียดไปตลอดเลยครับ..


น้องปุ๊ก นี่ก็ท่าทางขยันอ่านบอร์ด แล้วก็สนใจเรื่องวัตถุมงคลน่าดูเหมือนกันนะเนี่ย..แถม 05.15 น. ก็ถึงที่นัดหมายแล้วอ่ะ..บ้านอยู่ตั้ง แถวมีนบุรีเลยนะน่ะ..


คุณดร..นี่..ใจดีครับ..เป็นนายแบบจำเป็นให้ดีมาก..แล้วก็สลับกับเป็นตากล้องให้ผมด้วย...


ดีใจที่ได้ไปวัดท่าซุงพร้อม ๆ กันนะครับทุก ๆ ท่าน..เจอกันใหม่..วันเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน 25 พ.ย. 2549 นี้นะครับ..
************************************************

 

อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เถิด

*************************************************
คัดมาจาก หนังสือ "การอุทิศส่วนกุศล" ของพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน

 

ตอนนี้อ่านแบบผ่านๆ เพราะว่าต้องรีบไปเรียน

ไปหล่ะคร๊าบบบ เดี๋ยวมาคุ้ยอะไรให้ฟัง พอหนุกหนานๆๆ

 

ที่รถติดขากลับนี่ เป็นการได้อยู่กับครอบครัวนานๆขึ้นไง ช่วงอ่างทอง ใช่ป่ะ
ผมกว่าจะกลับถึงบ้านก็ ขับรถ 6 ชั่วโมงโดยรวม อิอิ ฝึกความอดทน โมทนาบุญ ด้วยนะครับทุกท่าน