แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    โมทนาด้วยครับ....(^_^)..... เมื่อวานผมก็เดินทางไปวัดพนัญเชิงมาครับ....อิ่มบุญจริงๆครับ...


    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • reajkjk.JPG
      reajkjk.JPG
      ขนาดไฟล์:
      399.2 KB
      เปิดดู:
      881
    • aiuiu.jpg
      aiuiu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      297.5 KB
      เปิดดู:
      893
  2. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    สวัสดีครับทุกท่าน

    อาทิตย์ที่ผ่านมาเรื่องบังเอิญเยอะเหลือเกิน ได้รับพระดินเผาหลวงปู่ดู่ที่บูชาทางเน็ต 350 บาท เอาใส่กระเป๋าเสื้อเพราะยังไม่เลี่ยม รู้สึกใจสงบดีครับ ทั้งๆที่กลัวว่าอาจไม่แท้ เลยอยากได้พระหลวงปู่ที่แท้ ทันท่าน ก็อธิษฐานขอท่าน ก็ดูไม่มีแววเลย เลยตัดสินใจว่าไว้มีโอกาสไปบูชาจากวัดสะแกแล้วกัน แต่จะไปเมื่อไรว่ากันอีกที

    เลยสอบถามพี่ข้างๆบ้านที่เป็นคนอยุธยา ซึ่งชอบพอกัน คอยช่วยเหลือกันมาหลายปีแล้ว แกก็บอกว่าจะไปเมื่อไรจะพาไป เลยบอกแกว่าอยากได้พระหลวงปู่ดู่จะเอามาปฏิบัติ แต่เช่าทางเน็ตนี่ไม่แน่ใจว่าทันท่านไหม กลัวปลอมถ้าได้รับจากมือท่านเนี่ยมั่นใจได้ แกก็บอกว่าลองไปดูที่บ้านแกไหมเผื่อมีจะแบ่งให้เป็นพระบูชา ผมก็อยากได้ แต่บอกแกว่าเดือนนี้ไม่มีกำลังแกก็บอกไม่เป็นไร แกก็ถามอีกว่าอยากไปกราบพระไหมแกรู้จักดีหลายองค์ ก็เลยตัดสินใจไปแบบกระทันหันเลย

    คืนวันเสาร์ฝนตกหนักเลยที่แถวบ้าน ก็นึกเหมือนกันไปคงลำบากแฮะ นั่งภาวนาเสร็จก็บอกขอให้ได้กราบพระท่านที่พี่เขาจะพาไป มีหลวงพ่อเอียดวัดไผ่ล้อม หลวงพ่อหวลวัดพุทไธสวรรค์ หลวงปู่สวัสดิ์วัดศาลาปูน พี่แกบอกไว้หลวงปู่สวัสดิ์นี่ไม่น่ามีปัญหาท่านแก่แล้วไม่ค่อยไปไหน แต่หลวงพ่อเอียดกับหลวงพ่อหวลนี่กิจนิมนต์ท่านเยอะมาก

    ตอนเช้าออกจากเมืองชลฯ ตอนสักเกือบ 7 โมงเช้า เมฆครึ้มเลย คิดว่ายังไงเจอฝนแน่นอนแต่ขับรถไปจนถึงอยุธยาไม่มีฝนเลยอากาศดีมาก ไม่มีแดดด้วย ถึงวัดไผ่ล้อมสัก 9 โมง หลวงพ่อไปบวชนาคตอนเช้า แต่คนเขาบอกเดี๋ยวท่านก็มา เลยดูพระที่มีให้บูชาผมบูชามาสององค์ปิดตากับสมเด็จฯ ที่มีเกษาหลวงพ่อเอียดด้วย ส่วนพี่แกบูชาหลายอย่างเลย นั่งเล่นสักพักหลวงพ่อก็มา ท่านสรงน้ำเสร็จท่านก็มา มีคนอีก 5-6 คน มาหาท่านด้วย เอาพระที่บูชาใส่พานท่านก็อธิฐานจิตให้อีกครั้ง ท่านก็บอกเดี๋ยวต้องไปอีกแล้วมีคนนิมนต์ไปฉันท์เพล ช่วงบ่ายก็แขกมาอีกชุดใหญ่เลย พี่ที่พาไปคุยกับท่านสนิทสนมเลยแกบอกทีหลังว่าเมื่อก่อนมาบ่อย มาตั้งแต่รุ่นคุณแม่แก ผมอ้าปากจะถามหลวงพ่อตั้งหลายหนว่าผมอยากปฏิบัติ ทำไงดี แต่งานท่านเยอะเหลือเกินเลยพูดไม่ออก

    จากนั้นก็ไปวัดพุทไธสวรรค์ โหคนเยอะมากมีงานอุปสมบทหมู่ แต่แกก็พาผมไปกราบหลวงพ่อหวลจนได้ ได้พระที่ท่านแจกมาองค์นึง ลูกศิษย์ท่านบอกเดี๋ยวท่านต้องไปสุพรรณฯต่อ อ้อที่วัดนี้บังเอิญได้พบลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ด้วย พี่แกบอกเขาย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่แล้ว ที่มานี่เพราะหลานจะบวช พี่แกบอกคนนี้เป็นสายตรงหลวงปู่ดู่ เมื่อก่อนไปนั่งสมาธิที่วัดสะแกด้วยกันบ่อยบ้านอยู่ใกล้กัน พี่เขาก็ให้เหรียญพระนเศวรมาองค์นึง

    จากนั้นไปวัดศาลาปูน ก็บูชาพระกริ่งหลวงปู่สวัสดิ์องค์นึง ไปกราบท่าน ท่านอธิษฐานจิตให้นานมากๆๆ จนพระที่ดูแลท่านถามว่าเอาอะไรให้หลวงปู่ พี่คนที่พาไปนี่แกคุยกับท่านอย่างสนิทสนม ที่นี่คนน้อยครับผมเลยได้ถามหลวงปู่ว่าอยากปฏิบัติ ทำไงดี ตอนนี้ผมนั่งสมาธิตอนกลางคืนทุกวัน ท่านก็บอกดีแล้วทำต่อไป หลวงปู่ยิ้มคุยมีเมตตามาก จนเหมือนรู้จักท่านมานาน สักพักใหญ่ก็ลากลับครับ

    ที่วัดศาลาปูนนี่คนมาไม่น้อยแต่ก็ไม่เยอะนะครับ แต่ที่แปลกคือมาแบบเป็นทัวร์ไห้วพระ 9 วัดซะงั้น รถจอดเข้าโบสถ์กราบพระประธานเสร็จ ต้องไปขึ้นรถอีกแล้ว แต่ก็คงดีกว่าไปเที่ยวอย่างอื่นนะครับ

    สุดท้ายไปบ้านพี่แก แกพาไปห้องพระ มีพระเยอะเลยครับ แกเอาหลวงปู่ทวดหน้าตักสามนิ้วให้ แล้วแกถาม หรือจะเอารูปเหมือนหลวงปู่ดู่ 5 นิ้ว ผมก็บอกเอาหลวงปู่ทวดนี่แหละแกตั้งใจจะให้แล้วแต่ผมไม่มีตังค์นะ แกบอกแกให้ ผมดีใจมาก ผมไม่เน้นอยู่แล้ว ขอแค่หลวงปู่ดู่อธิษฐานจิตก็เพียงพอครับ แกก็ให้หลวงปู่ทวด แต่สักพักแกดูไปดูมาแกเห็นหลวงปู่ดู่ 5 นิ้วอีกองค์ แกเลยให้มาอีก จริงๆผมเห็นอยู่แล้วว่า แกมีรููปเหมือนหลวงปู่ทวดกับหลวงปู่ดู่อย่างละ 2 องค์ ผมงี้พูดไม่ออกเลย บอกแกว่าองค์เดียวนี่ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว แกก็บอกเอาไปทั้งสององค์ แกเล่าให้ฟังเมื่อก่อนมีเป็น 10 รับจากหลวงปู่เองเลย หลวงปู่ท่านแจกฟรี ใครไปภาวนาที่วัดก็แจก แล้วแกตอนที่อยู่อยุธยาแกไปทุกวันตั้งแต่รุ่นแม่แกแล้ว พอได้มาก็เก็บไว้ แล้วคอยเอาให้คนที่สนใจหรือวันเกิดของผู้ใหญ่

    พอเสร็จธุระทั้งหมดเดินทางกลับ ออกจากบ้านแกสักพักฝนตกหนักมาก แต่สักพักพอเริ่มออกนอกเมืองก็หยุด เดินทางกลับเมืองชลฯ โดยสวัสดิภาพ

    ที่เล่ามาทั้งหมดเพราะอยากเล่าให้ฟังถึงความมีน้ำใจของพี่แกครับ และความบังเอิญอีกมากมาย ใจจริงผมถามทางไปวัดสะแกกับพี่เขา เพราะรู้ว่าพี่แกเป็นคนอยุธยาแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้หวังอะไรเลยกลายเป็นผมได้พระบูชาหลวงปู่ดู่มาสององค์ ซึ่งไม่ต้องมาคิดว่าแท้ไม่แท้ แล้วยังได้กราบพระที่คนเขานับถือกัน อีก 3 รูป แล้วได้พระจากมือท่านเลย ผมโชคดีมากๆครับ
     
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    คำสารภาพ "สาวใจแตก"

    หญิงสาวหน้าใสวัย 26 ปี "เอ๋" เธอกำลังรื่นเริงอยู่กับการซ้อมร้องเพลงประสานเสียง ดูอย่างผิวเผินเธอเป็นสาวสวยสดใส แต่เมื่อเหลือบมองลงไป ขาทั้งสองข้างของเธอถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน เธอถูกจำกัดอาณาบริเวณให้อยู่เพียงแค่ในเรือนจำทัณฑสถานหญิงเท่านั้น แม้เอ๋จะผ่านโลกมาไม่กี่ปี แต่ประสบการณ์ชีวิตของเธอมันช่างมากมายเกินวัยเหลือเกิน

    เอ๋ย้อนเล่าเรื่องเมื่อครั้งที่เธออยู่ในวัย 16-17 ปี ว่า เธอเป็นลูกคนจีน เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ค่อนข้างเข้มงวด เป็นลูกคนที่สองในจำนวนพี่น้องอีก 6 คน เพราะเอ๋เป็นเด็กสาวที่มีหน้าตาสวยงามพ่อแม่จึงหวงลูกสาวคนนี้เป็นพิเศษ พ่อแม่มักดุด่าห้ามปรามไม่ให้เธอไปรู้จักหรือสนิทสนมกับเพื่อนชาย จนสุดท้ายพ่อแม่ออกกฎบังคับไม่ให้เธอออกไปไหนหลังจากเลิกเรียน

    "มันเก็บกด ทำไมพ่อแม่ไม่เป็นเหมือนพ่อแม่คนอื่น เอ๋ยอมรับว่าอยากเที่ยว อยากสนุก อยากมีเพื่อน ตอนนั้นอึดอัดกับการที่พ่อแม่บังคับให้อยู่ในกรอบ อยากหนีออกจากบ้าน อยู่บ้านไม่มีความสุขเลย ทะเลาะกับพ่อแม่ตลอดเวลา"
    เมื่อบ้านไม่ใช่สวรรค์ ซ้ำยังกลับเป็นเหมือนนรก ทางออกของเด็กสาววัย 16 ปี คือการหนีออกจากบ้าน เอ๋เริ่มหาทางออกด้วยการอยู่กับเพื่อน เพื่อนชวนดื่มเหล้า สูบบุหรี่เธอยอมทำตามทุกอย่าง
    "มันเครียดมาก บางวันไปโรงเรียนตอนเช้า ตอนเย็นไม่กลับบ้าน พอเริ่มดึกเริ่มกลัวว่าพ่อแม่จะหาตัวเราเจอ เพื่อนเลยบอกให้คลายเครียดด้วยการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ วันไหนหนีออกมาจากบ้านกลับไปพ่อก็ตี ตอนหลังพอหนีได้ เอ๋ไม่กลับบ้านเลย โรงเรียนก็ไม่ไปเพราะกลัวที่บ้านจะตามเจอ ชีวิตตอนนั้นเลอะเทอะมาก เอ๋หนีไปอยู่กับเพื่อนชาย จนในที่สุดได้เสียกันและมีลูกด้วยกัน 1 คน"

    เอ๋มีลูกตั้งแต่อายุย่างยี่สิบปี เธอกับสามีเริ่มไม่มีเงิน เอ๋ต้องไปหางานทำและเธอก็เป็นได้แค่นักร้องคาเฟ่...
    "ตอนเป็นนักร้องคาฟ่เจอคนหลายรูปแบบ ยอมรับว่ามาเล่นยาอีตอนที่เป็นนักร้องคาเฟ่ เพื่อนชวนให้ลองก็เลยลอง ตอนนั้นมีลูกแล้ว พอมีลูกก็คิดถึงบ้าน แต่ไม่กล้ากลับบ้าน เพราะเราทำตัวไม่ดีเอง ชีวิตมันไม่เหลืออะไร แค่เงินร้องเพลงก็ไม่พอ แฟนเลยบอกให้ช่วยกันหาเงินด้วยการขายยาอี"

    เพียงแค่เริ่มขายได้ไม่นาน เอ๋โชคร้ายโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจซิวขณะมียาบ้าอยู่ในครอบครอง เธอถูกพิพากษา..จำคุก..

    "ต้องโทษประมาณ 4 ปี ต้องมาใช้ชีวิตในคุก ยอมรับว่าหลังจากได้ใช้ชีวิตในคุกแล้วรู้สึกสำนึกผิดมาก คิดถึงครอบครัว ตอนที่โดนจับได้ แฟนเป็นคนเอายามายัดให้เรา แล้วเขาก็หนีไป ไม่มาเยี่ยม ไม่มาดูแลเลย ทั้งที่เอ๋ยอมรับผิดคนเดียวไม่เคยซัดทอดถึงแฟนเลย หลังจากที่ติดคุกเขาหายไปเลย ส่วนลูกต้องส่งให้ไปอยู่กับพ่อแม่ของแฟน"


    4 ปี ในคุกทำให้เอ๋รู้สำนึก รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตมันคือความผิดพลาด เอ๋ตั้งใจว่าถ้าพ้นโทษเธอจะกลับตัวเป็นคนดี พอกันทีกับชีวิตที่เลอะเทอะอย่างที่ผ่านมา เธอนั่งนับวันรอเวลาที่จะพ้นโทษ ในที่สุดมันก็มาถึง พอพ้นโทษสิ่งแรกที่ทำคือกลับไปหาลูก เธอรับลูกมาอยู่ด้วย ลูกก็โตพอที่จะเข้าเรียนได้แล้ว เอ๋ตั้งใจจะไปหางานทำ และยืนยันว่าไม่เอาแล้วสิ่งผิดกฎหมาย ไม่เอาแล้วกับชีวิตกลางคืน

    "เอ๋ไปสมัครเกือบ 10 ที่ อยากมีงานประจำทำ จนงานสุดท้ายที่ไปสมัครคืองานเสมียนโดยเอาวุฒิ ม.6 ไปสมัคร เพราะตอนอยู่ในคุกเอ๋เรียน กศน.จนจบ ม.6 แล้ว แต่พอถึงวันที่สัมภาษณ์ หัวหน้างานเขาถามว่าหางานมากี่ที่แล้ว เราบอกตามจริงว่า 10 ที่แล้ว เขาถามว่ารู้ไหมทำไมไม่มีใครรับ เราบอกไม่รู้ หัวหน้างานเขาถามอีกว่า เคยติดคุกมาหรือ เอ๋ตอบว่าใช่ คำที่ได้ยินจากปากเขาคือ

    "ก็เพราะเธอเคยติดคุกนี่แหละจึงไม่มีใครอยากจะรับ และที่นี่ก็ไม่สามารถรับคนที่เคยติดคุกมาทำงานด้วยได้

    "รู้สึกแย่มาก คนคุกกลับตัวกลับใจไม่ได้เลยหรือ ตอนที่อยู่ในคุกเจ้าหน้าที่บอกเสมอว่า ถ้าเมื่อไรออกจากคุกแล้วกลับตัวเป็นคนดีสังคมจะต้องให้อภัย แต่เมื่อออกมาสู่สังคมจริงๆ มันไม่เป็นเช่นนั้น สังคมไม่ยอมรับคนคุก" เอ๋เล่าน้ำตาคลอ

    เมื่อตกอยู่ในสภาพคนตกงาน เงินไม่มี เอ๋จำใจต้องกลับไปหากินด้วยการขายยาอีอีกครั้ง

    "มันไม่มีงาน ไม่มีเงิน พอสังคมไม่ยอมรับเลยหันไปขายยา คิดอย่างเดียวว่าในเมื่อเป็นคนดีไม่ได้ก็ขอเป็นคนชั่วแล้วกัน เอ๋รับยามาแล้วไปขายให้เพื่อนๆ ขายได้สักพักก็มาโดนเพื่อนหักหลัง เพราะวันที่ถูกตำรวจจับ เพื่อนคนที่ชวนมาขายยานี่แหละเป็นสายให้ตำรวจ หลังจากโดนจับ เพื่อนยอมรับสารภาพกับเอ๋ว่าจำเป็นต้องบอกตำรวจให้มาจับเอ๋ เพราะโดนตำรวจบีบ เนื่องจากเป็นช่วงที่ตำรวจกำลังโชว์ผลงาน ตอนนั้นเอ๋มียาอยู่ที่ตัวประมาณ 90 เม็ด" เธอถูกจับและกลับไปใช้ชีวิตในคุกอีกครั้ง

    วันนี้เอ๋อยู่ในคุก เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในโซ่ตรวนอีก 7 ปี 6 เดือน!!!
    "เอ๋ไม่รู้ว่าจะโทษใคร โทษพ่อแม่ที่เข้มงวด โทษเพื่อนที่พาเราไปในทางที่ผิด โทษชะตาชีวิตที่เล่นตลกกับเรา โทษสังคมที่ไม่เปิดโอกาสให้คนคุก นึกถึงเรื่องราวชีวิตตัวเองแล้วน้ำตาตก เพราะสุดท้ายแล้วมันก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเราเอง เรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเอ๋คงทำให้หลายคนมีสติกับการใช้ชีวิต ชีวิตคนเราควรดำเนินไปด้วยสติ ไม่ใช่ดำเนินชีวิตด้วยอารมณ์ ไม่ควรประชดชีวิต เพราะในที่สุดแล้วคนเจ็บที่สุดก็คือตัวเรา" เธอกล่าวทั้งน้ำตา


    นับจากวันนี้ กว่าเอ๋จะได้กลับมายืนในสังคมอีกครั้ง ก็ประมาณปี 2554 ถ้าถึงวันนั้น...ก็หวังว่าผู้หญิงคนนี้คงได้เจอคนดีๆ ที่ไม่คิดหลอก ไม่คิดเอาเปรียบและพร้อมจะให้โอกาสผู้หญิงคนนี้กลับมายืนในสังคมฐานะคนดีอีกครั้ง เราหวังเช่นนั้น!!!<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    แรงพยาบาทข้ามภพ (ท.เลียงพิบูลย์)<o>

    </o>
    เรื่องราวลี้ลับมหัศจรรย์ในโลกมนุษย์ มีมากมายยิ่งนัก ยากที่จะหยิบยกมาให้ผู้อ่านได้อ่านทั้งหมด แต่ก็เพียงเสี้ยวหนึ่งของบางเหตุการณ์ มาเปิดเผยสู่สายตาของท่านผู้อ่านทั้งหลาย ซึ่ง คุณ ท.เลียงพิบูลย์ ผู้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว ได้เหลือเพียงแค่ผลงาน และคุณความดีที่มีเจตนาจะให้ผู้อ่านละชั่ว ทำดี ดังเรื่องราวที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้

    เมื่อก่อนทุกครั้งที่ข้าพเจ้า (หมายถึง คุณ ท.เลียงพิบูลย์) ได้เรื่องเกี่ยวกับวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อภินิหาร จะเป็นด้วยมีผู้มาเล่าให้ฟังก็ดี หรือเป็นจดหมายฉบับบันทึกส่งมาก็ดี ข้าพเจ้าต้องใช้ความคิดอย่างหนัก เพื่อพิจารณาว่าควรจะเขียนขึ้นหรือไม่ เมื่อเขียนขึ้นแล้ว ผู้อ่านจะมีความรู้สึกอย่างไร บางท่านอาจพูดไปในทางอกุศล แม้ข้าพเจ้าเอง รู้อย่างเต็มอกว่า ทุกสิ่งที่ลี้ลับเกิดขึ้นได้อย่างไม่มีเหตุผลที่จะพิสูจน์ได้ ยังมีอยู่ในโลกอีกมากมาย

    บางเรื่องยังมีผู้เล่าให้ข้าพเจ้าฟัง แล้วย้ำว่า ท่านได้ประสบด้วยตนเอง เมื่อได้ฟังจบแล้ว ข้าพเจ้าต้องใช้ความคิด แล้วตอบท่านได้อย่างเต็มปากว่า “เรื่องนี้สำหรับผมเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย แต่เรื่องเช่นนี้ต้องรอเอาไว้ก่อน ยังไม่ถึงเวลา แม้ในปัจจุบันนี้ วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าในทางวัตถุ แต่ก็ยังเข้าไม่ถึงสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ในยุคนี้ เป็นยุคที่วิทยาศาสตร์เจริญ ฉะนั้น มนุษย์เราจึงมุ่งหน้าหันไปเอาใจใส่ ตื่นเต้นหลงใหลในความเจริญทางวัตถุใหม่ ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

    คนส่วนมากพากันคิดว่า ทุกอยางต้องมีเหตุผล โลกเราอยู่ด้วยเหตุผล และไม่เชื่อว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นลอย ๆ อย่างพิสูจน์ไม่ได้ แต่ข้าพเจ้ายังเชื่อแน่ว่า วันหนึ่งข้างหน้า คงจะมีผู้หันมาสนใจในเรื่องวิญญาณและสิ่งลี้ลับอภินิหารหรือตายแล้วเกิด เมื่อนั้นแหละ สิ่งลี้ลับอย่างนี้ คงจะค่อย ๆ คลี่คลายเผยความจริงออกมา แต่เวลานั้น เห็นจะเป็นอนาคตอันใกล้นี้”

    เรามาพิจารณาสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์กันดูว่า ในโลกนี้ยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย เพื่อจะชี้ให้เห็น “กรรม” ของมนุษย์ที่ได้สร้างขึ้น ไม่ว่าจะยุคอดีตชาติ หรือในยุคปัจจุบัน ย่อมจะเกิดผลเมื่อได้ติดตามมาทัน

    และเพื่อจะชี้แจงให้เห็นว่า มนุษย์เมื่อตายแล้วเกิดนั้น เป็นสิ่งแน่นอน ไม่มีปัญหาอะไรเหลืออยู่ให้สงสัย เราต้องได้กลับมาเกิดอีกแน่เพื่อใช้กรรม เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นก่อน พ.ศ.๒๕๐๐ เพียง ๓ ปี ในเตือนตุลาคม ใน จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเมืองที่เกิดวรรณคดีที่มีชื่อ นับแต่โบราณตลอดมา เป็นที่รู้จักของคนไทยทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ คือเรื่อง “ขุนช้าง ขุนแผน”


    ในครั้งนั้นมีกรมหนึ่งของกระทรวงที่ใหญ่โต ไม่แพ้กระทรวงทั้งหลาย ได้มีการทอดกฐินวัดหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นกฐินพระราชทาน และทอดที่วัดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดนั้น (เข้าใจว่า เป็นวัดป่าเลไลยก์วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท – อ.เล็ก พลูโต)

    งานกฐินพระราชทานครั้งนั้น มีข้าราชการทั้งหญิงและชายในกรมนั้น นับแต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตลอดจนชั้นผู้น้อย และยังมีชาวต่างประเทศที่สังกัดอยู่ในกระทรวงนี้ เดินทางไปร่วมทำบุญด้วย นับว่าเป็นงานกฐินครั้งใหญ่ที่เด่นในสุพรรณบุรีในปีนั้น
    ก่อนวันทอดกฐินในคืนหนึ่ง ทางคณะกรรมการกฐินของกรมได้จัดงานการละเล่น ฉลององค์กฐิน ท่านรองอธิบดีให้ชื่อการแสดงว่า “ว.ส.ม. บันเทิง” เป็นการแสดงเบ็ดเตล็ดของข้าราชการหญิงชายร่วมกันสนุกสนาน มีประชาชนชาวบ้าน อุ้มลูกจูงหลานมาชมการแสดงมากมาย

    การแสดงที่นับว่าแสดงได้ดีเด่นในคืนนั้น ก็ได้แก่ การแสดงลิเก ซึ่งเป็นที่ยกย่องชมเชยว่า แสดงได้ดีมาก ท่ามกลางสายตาของข้าราชการในกรม และญาติมิตรชาวพระนคร ที่ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย พร้อมทั้งชาวสุพรรณ ฯ เป็นจำนวนมากมาย พูดต่อ ๆ กันออกไปว่า ลิเกชุดนี้เขาเล่นดีจริง ๆ แสดงได้ถึงอกถึงใจ โดยเฉพาะนางเอกนั้นสวยมาก กิริยาวาจานิ่มนวลอ่อนหวาน ทั้งแสดงได้ดีเท่าหรือดีกว่าลิเกอาชีพบางคณะเสียอีก ทั้งที่เป็นลิเกบรรดาศักดิ์สมัครเล่น ร้องรำไม่เคอะเขิน
    ต่างก็วิจารณ์กันตามความรู้สึกของตน และชาวชนบทที่ชอบดูลิเกอยู่เสมอ เลยเป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวเมือง กล่าวขวัญถึงแต่เรื่องลิเก ส่วนการแสดงเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ แม้จะแสดงได้ดี ก็ไม่ค่อยสนใจกันมากนัก

    รุ่งขึ้นเป็นวันทอดกฐิน ทางคณะกรรมการทอดกฐินได้ให้เกียรติแก่นางเอก ที่มีผู้ยกย่องกล่าวขวัญถึงว่า แสดงเป็นนางเอกลิเกได้ดีเยี่ยม โดยให้เป็นผู้อุ้มไตรครององค์กฐินเดินแห่รอบโบสถ์ แต่เมื่อขบวนยังเดินไม่ครบ ๓ รอบ หญิงสาวผู้นั้นก็รู้สึกมึนศีรษะและวิงเวียน อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลมเพราะเหน็ดเหนื่อย จึงรีบมอบไตรครององค์กฐินให้ผู้อื่นอุ้มแทน เพื่อแห่รอบโบสถ์ต่อไปให้ครบ ๓ รอบ ตามระเบียบ

    ส่วนหญิงสาวผู้นั้นก็ออกมานั่งพักข้างนอก บริเวณใต้ต้นลำใยเพื่อพักให้หายความวิงเวียนคลื่นเหียน พวกเพื่อนที่ไปด้วยพากันคิดว่า อาจเป็นการกรำงานมากเกินไป ขาดการพักผ่อนนอนไม่พอ เพราะต้องแสดงเป็นตัวนางเอกลิเก และต้องนอนดึก เวลานอนน้อย จึงทำให้เหน็ดเหนื่อยง่ายเป็นธรรมดา

    เมื่อหญิงสาวเข้าไปพักผ่อนใต้ต้นลำใย ทันใดนั้นก็ร้องกรี๊ดดังลั่นสุดเสียง คล้ายกับตกใจกลัวอย่างหนัก และฟุบสลบลงที่ตรงนั้น พวกเพื่อนร่วมงานและที่ไปด้วยพากันตกใจ ต่างเข้าไปช่วยกันแก้ไขตามมีตามเกิด

    แต่แล้วเมื่อหญิงสาวรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา กิริยาท่าทางก็เปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม กลับแสดงกิริยาดุร้ายขึงขังทันที มีกำลังแรงเกินมนุษย์ธรรมดา ซึ่งผิดกับหญิงสาวเอวบางร่างน้อย ท่ามกลางผู้คนที่มาชุมนุมในงานมากมาย หญิงสาวได้แสดงกิริยาท่าทางอาละวาด มีข้าราชการชายเข้าไปช่วยจับ เพื่อให้อยู่ในความสงบ ไม่ให้แสดงกิริยาอาละวาด เพราะในเวลานั้น เป็นเวลางานบุญ แต่ก็ไม่สามารถจะทานแรงได้ ต้องช่วยกันจับหลายคนเพื่อให้อยู่ในอาการสงบ ไม่ให้ดิ้นรนแสดงกิริยาดุร้ายฮึดฮัด เพราะพิธีทอดกฐินยังไม่ได้เริ่มทอด และผู้คนต่างตกตะลึง หันมาสนใจกับหญิงสาวผู้นี้

    ทันใดนั้นเอง เสียงห้าว ๆ ก็พูดออกจากปากของหญิงสาว เป็นเสียงคำรามอย่างน่ากลัวว่า

    “ข้าคอยเอ็งมานานตั้ง ๓๗ ปี แล้ว เพิ่งจะได้มีโอกาสวันนี้ ข้าจะได้แก้แค้นกินเลือดเอ็งให้ได้ ข้าแค้นใจนัก”

    และก็มีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นในคนเดียวกันว่า “อย่าตามมาจองเวรจองกรรมเลย ไปสู่ที่ชอบเถิด”

    แล้วก็มีเสียงผู้ชายห้าว ๆ กัดฟันอย่างโกรธแค้น พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เอ็งทำกับข้า เอ็งไม่คิดเลย ขาดความเมตตาสงสาร ทำให้ข้ายังไม่ได้ไปผุดไปเกิด เพราะยังไม่ได้แก้แค้น กินเลือดของเอ็ง”

    แล้วเสียงผู้หญิงก็พูดอย่างเสียงสั่นเพราะความกลัว พูดว่า “อย่าเอาชีวิตฉันเลย ฉันกลัวแล้ว อโหสิกรรมให้ฉันเถิด ฉันกลัวแล้ว”

    เสียงผู้หญิงอ้อนวอนสะอื้นไห้ต่อไปว่า “อโหสิกรรมให้ฉันเถิด ฉันกลัวแล้ว” เสียงผู้ชายพูดอย่างดุดันว่า “ไม่ได้ ข้าไม่ยอมอโหสิกรรมให้แก่เอ็งเป็นอันขาด ถึงเวลาของข้าแล้ว”

    ทันใดนั้น มีข้าราชการผู้ใหญ่หลายท่านได้เข้าไปพูดขอร้องกับวิญญาณที่แฝงในร่างของหญิงสาวว่า “เจ้าเป็นใคร ทำไมจึงมาแฝงร่างของผู้ที่กำลังจะสร้างบุญสร้างกุศล งานทอดกฐินครั้งนี้”

    เสียงผู้ชายในร่างหญิงสาวก็พูดขึ้นว่า

    “ข้ามีความแค้น เพราะความอาฆาตผู้หญิงคนนี้มาแต่ชาติก่อน ผู้หญิงคนนี้ เมื่อชาติก่อน มันเกิดเป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์สินเงินทองไร่นาสาโทมากมาย เป็นคนมีอิทธิพลมาก ข้าทำผิดหนีมาถึงวัดนี้ แต่มันได้ให้คนติดตามมาตัดแขนของข้าทั้งสองข้างแค่ข้อศอก ทำให้ข้าแค้นใจ ก่อนข้าจะตาย จึงอธิษฐานว่า ข้าจะขอแก้แค้นดื่มเลิอดให้สมกับความแค้นให้จงได้”

    แต่แล้วเสียงผู้หญิงก็พูดขึ้นว่า “ไม่จริง ฉันไม่ได้สั่งไปฆ่าไปแกงตัดตีนตัดมือ ฉันสั่งให้ไปจับตัวพามา อย่าให้หนีไป เพราะแกเป็นบ่าว มีความผิด”

    เสียงวิญญาณนั้นหัวเราะก้อง แล้วคำรามออกมาอย่างน่ากลัวว่า

    “ถ้าเอ็งไม่สั่ง อ้ายพวกไพร่ขี้ข้ามันจะมาทำข้าถึงขนาดนี้เชียวหรือ ถึงกับตัดแขนทั้งสองข้าง เอ็งอย่ามาแก้ตัว ถึงอย่างไรเอ็งก็ไม่พ้นเงื้อมมือข้าไปได้ ถึงเอ็งจะสั่งหรือไม่สั่ง เอ็งเป็นนาย อ้ายพวกนั้นเป็นบ่าวและเป็นขี้ข้า เอ็งก็ต้องรับผิดชอบวันยังค่ำ บัดนี้เอ็งจนมุมแล้วซิ ถึงพยายามแก้ตัว อย่าหวังว่าจะมีใครมาช่วยเอ็งให้พ้นเงื้อมมือข้าได้”

    พูดแล้ววิญญาณก็หัวเราะอย่างแค้น ๆ แม้จะมีข้าราชการผู้ใหญ่ได้ร้องขอให้พักการแก้แค้นไว้ก่อน ขอเวลาให้หญิงสาวได้มีโอกาสสร้างความดี ทอดกฐินให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ค่อยมาเจรจาใหม่ วิญญาณขายผู้แรงด้วยความพยาบาทอาฆาตก็ไม่ยอม แม้จะพูดจาอย่างไรก็ไม่เกิดผล และไม่ยอมออกจากร่างหญิงสาวที่วิญญาณของตนแฝงอยู่


    เสียงโจษจันจากหมู่ชาวบ้านที่มาอนุโมทนา และมาดูงานกฐินวันนั้นมากมาย ต่างก็โจษกันต่อ ๆ ไปว่า ผู้หญิงสวยที่แสดงเป็นนางเอกลิเกเล่นเก่งเมื่อคืนนี้ ได้ถูกผีเข้าเสียแล้ว เวลานี้อาละวาดอยู่ใต้ต้นลำใย พวกที่มาด้วยกันหมดปัญญา กำลังจะเที่ยหาคนที่มีวิชาหรือพวกหมอผีมาจัดการ พวกที่ขวัญอ่อนเมื่อได้ยินว่าผีเข้าก็กลัว ไม่กล้าเข้าใกล้ ถอยห่างออกไปเพราะเป็นคนกลัวผีอยู่แล้ว

    ส่วนพวกที่มีจิตใจเข้มแข็งกล้าหาญ ก็อยากรู้อยากเห็น และพวกที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง และคิดว่าผีไม่มีในโลก ก็ไปคอยจับผิดคิดว่าคงจะแกล้งทำ จึงเข้าไปมุงดูคอยซักถามร่างของหญิงสาว ต่างก็มีความเห็นแตกต่างกันเป้นธรรมดา

    เรื่องโจษขานนี้ได้ยินถึงท่านเจ้าอาวาสซึ่งกำลังครองผ้า จะเข้าโบสถ์รับผ้ากฐิน ท่านจึงรีบตรงไปที่ใต้ต้นลำใยข้างโบสถ์ เมื่อท่านเดินลงมาจากกุฏิ ก็มีโยมมานมัสการท่าน และขอร้องให้ท่านช่วยปราบ ช่วยขับวิญญาณร้ายที่สิงในร่างของหญิงสาว ท่านสมภารหัวเราะ พลางพูดว่า

    “อาตมาเป็นสงฆ์ ไม่มีคาถาอาคมที่จะปราบผี ไล่ผี มีแต่ธรรมของพระพุทธเจ้า อาตมาจะลองขอร้องดู จะได้ผลเพียงไรก็ไม่แน่ใจ”

    เมื่อท่านเดินมาใกล้ต้นลำใย พวกห้อมล้อมหญิงสาวที่ถูกวิญญาณแฝงร่าง เห็นท่านสมภารมาต่างก็ดีใจ พากันก้มลงนมัสการ แล้วต่างก็หลีกทางให้ท่านได้เข้าไปใกล้ พอที่จะโต้ตอบกับร่างของหญิงสาว สิ่งที่แปลก คือ ร่างที่วิญญาณเข้าแฝงนั้น ก้มลงกราบท่านสมภารด้วยความเคารพ แล้วถามว่า

    “ท่านเป็นขีบานาสงฆ์ จะมาจับผมถ่วงน้ำหรือ”
    ท่านสมภารยิ้มอย่างใจดีแล้วพูดว่า

    “อาตมาเป็นสาวกของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีจิตใจเหี้ยมโหดดุร้าย ที่จะไปเที่ยวจับวิญญาณใดถ่วงน้ำหรอก อาตมามีศีล ทำเช่นนั้นไม่ได้ มีแต่ความเมตตา อยากให้สัตว์โลกทั้งหลายอยู่ด้วยความสงบสุข”

    เสียงวิญญาณในร่างหญิงสาวหัวเราะแล้วก็พูดอีกว่า

    “ผมเคารพนับถือท่านหลวงพ่อ แต่จะให้ผมอโหสิกรรมผู้หญิงคนนี้ ผมยอมไม่ได้ ผมได้พยายามเฝ้ารอคอยมาช้านานแล้ว จะต้องขอดื่มเลือดของเขาให้ได้ จึงจะหายแค้น ขอหลวงพ่ออย่าได้มายุ่ง ขออะไรจากผมในเรื่องผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะผู้หญิงคนนี้ ทำให้ผมแค้นพยาบาท เกินที่ผมจะอโหสิกรรมให้”

    เมื่อได้ยินวิญญาณในร่างสาวสวยพูดเช่นนั้น ท่านสมภารก็มิได้โกรธ พูดอย่างผู้มีเมตตาจิต มิได้ใช้อำนาจข่มขู่ แล้วพูดว่า

    “อาตมาเป็นสงฆ์ และปกครองวัดนี้ ก็อยากให้ทุกคนที่ตั้งใจมาทอดกฐินครั้งนี้อยู่เย็นเป็นสุข บัดนี้ ชาวพระนครเขาจะมาทอดกฐินที่วัดอาตมาปกครอง แต่เกิดวิญญาณอาละวาดอาฆาตจองเวรขึ้น ซึ่งเป็นเวลาทีกำลังมีผู้มาประชุมกันหนาแน่น เพื่อจะสร้างความดีเป็นมหากุศล อาตมาอยากจะขอร้องให้พักการอาฆาตไว้ชั่วคราวก่อน เพื่อให้สีกาผู้นี้ได้ทำบุญสร้างกุศลเสียก่อน ภายหลังจะตกลงกันอย่างไร ขอให้หลังงานกฐินเสร็จเรียบร้อย อาตมาขอเพียงแค่นี้ หวังว่าคงจะเห็นแก่อาตมาบ้าง อาตมาขอบิณฑบาตชั่วระยะที่ทอดกฐินให้เสร็จแล้ว ให้ชาวกรุงเทพ ฯ กลับเท่านั้น อาตมาขอบิณฑบาตแค่นี้”

    วิญญาณที่แฝงอยู่ในร่างของหญิงสาวนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ แล้วก็พูดเสียงห้าว ๆ ขึ้นว่า

    “เมื่อท่านเป็นผู้ทรงศีลขอบิณฑบาตยืดเวลาออกไป ผมก็จะให้ แต่จะให้อโหสิกรรมนั้น ผมให้ไม่ได้ มันจะต้องจองเวรกันต่อไปอีกกี่ชาติผมก็ยอม เพราะผมมีความแค้นเกินที่จะนึกอะไรอีก แต่ถ้าหากท่านจะปฏิบัติตามที่ผมต้องการ โดยเอาเลือดผู้หญิงคนนี้ทาใบลำใยสามใบ แล้วเหน็บไว้ที่คบไม้บนต้นลำใยนี้”

    ท่านสมภารสงสัย จึงถามวิญญาณในร่างหญิงสาวว่า

    “ทำไม จะต้องให้อาตมาทำเช่นนั้นล่ะ ทางอื่นไม่มีหรือ อาตมาเป็นสงฆ์ เพียงแต่จะขอร้องให้ออกจากร่างของสีกาเท่านั้นก็ได้นี่นา”

    เสียงวิญญาณพูดว่า “ถ้าท่านไม่จัดการตามข้อเรียกร้องของผมก็จนใจ ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้อีก”

    ท่านสมภาคนั่งนึกครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ถ้าการขอไม่เป็นอันตรายต่อสีกาผู้น่าสงสารนี้แล้ว อาตมาจะบอกเขาให้จัดการให้”

    เสียงวิญญาณพูดอย่างสบายใจว่า “ถ้าท่านให้เขาทำตามผมได้ ขอสัญญาว่าผมจะออกจากร่าง และขอบอกให้ทราบว่า หญิงผู้นี้ที่เหนือเข่าซ้าย จะมีปานขาวเป็นรูปหัวใจ ถ้าได้เอาเข็มแทงลงกลางใจปานขาวรูปหัวใจ แล้วเอาเลือดทาที่ใบลำใย ๓ ใบ ตามที่ผมต้องการ แล้วผมจะออก แต่ผมไม่ยอมอโหสิกรรมให้”

    เมื่อได้ยินเสียงวิญญาณโต้ตอบกับท่านสมภารแล้ว รู้สึกวิญญาณที่ดุร้ายค่อยสงบลง และสุภาพมากขึ้น ไม่ดุดันเหมือนแรก ๆ ที่พูดโต้ตอบกับฆราวาส ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นค่อยสบายใจขึ้น พวกข้าราชการผู้หญิงก็รีบจัดการตามที่วิญญาณต้องการ คือเลิกผ้าเหนือเข่าซ้าย ก็มองเห็นปานขาวอย่างที่ว่า และได้จัดการตามที่วิญญาณบอกทุกประการ

    วิญญาณที่แฝงอยู่ในร่างของหญิงสาวก็ออกไปตามสัญญา ทำให้หญิงสาว กลับฟื้นคืนความรู้สึกเป็นตัวของตัวเองอย่างเดิม และตัวเองรู้สึกว่า วิญญาณในชาติก่อนตามพยาบาท ก็ไม่มีความสบายใจ เมื่อเข้าไปในโบสถ์ถวายผ้าองค์กฐินร่วมกับเพื่อนข้าราชการที่มาพร้อมกัน ก็ตั้งจิตแน่วแน่เพื่ออธิษฐานอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณอาฆาตผู้นั้น เพื่อไถ่ความผิดในครั้งอดีตชาติ

    เมื่อการทอดกฐินได้สุดสิ้นแล้ว พวกข้าราชการทั้งหลายก็กลับพระนครร่วมกัน ด้วยจิตใจเศร้าหมอง เพราะต่างก็สงสารหญิงสาวที่ตกอยู่ในอำนาจพยาบาทของวิญญาณชั่วร้าย ก่อนกลับ สมภาคให้ข้อคิดเตือนใจว่า

    “จงสร้างความดีเพื่อชนะความชั่ว จะได้สิ้นสุดการจองเวร”

    เมื่อสุภาพสตรีสาวสวยกลับมาถึงบ้านในพระนครเรียบร้อยแล้ว ก็รู้ตัวว่าวิญญาณอาฆาตได้ติดตามมาอยู่ในเขตบ้านตลอดเวลา บางครั้งเวลาดึกดื่นค่ำคืน จะได้ยินเสียงสุนัขพากันเห่าหอนอย่างโหยหวน เยือกเย็น น่าขนลุกขนพองอยู่เสมอมิได้เว้น บางครั้งพวกสุนัขก็พากันเห่าหอนเวลากลางวัน เป็นเสียงโหยหวนที่ชาวบ้านไม่อยากได้ยิน

    ภายในบ้าน เหมือนจะปกคลุมด้วยเมฆหมอกแห่งความลี้ลับ บางครั้งจะเห็นภาพชายแขนด้วนเดินอยู่ในบริเวณบ้าน ทำให้ผู้รู้เรื่องและเคยเห็นเมื่อครั้งทอดกฐินที่วัดในจังหวัดสุพรรณบุรี ต่างก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า และหญิงสายแม้จะมีความหวาดกลัวเพียงใด แต่ก็ต้องพยายามทำตัวทำใจให้กล้า ชินต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหลบหนีวิญญาณที่อาฆาตร้ายให้พ้นไปได้ แต่ก็พยายามทำบุญให้ทานสร้างความดี เพื่อจะอุทิศส่วนกุศล กรวดน้ำไปให้ทุกครั้ง เป็นทางเดียวที่จะให้วิญญาณคลายความพยาบาทลงได้

    แม้ระยะหลังนี้วิญญาณอาฆาต จะมิได้แสดงกิริยาดุร้ายเหมือนเมื่อแรก ๆ ที่แฝงอยู่ในตนก็ดี แต่หญิงสาวรู้สึกว่ามีสิ่งลี้ลับเป็นเงาที่คอยติดตามตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้หวาดกลัวและทรมานทางประสาท และจิตใจคอยผวาอยู่เสมอ แต่ก็คิดว่าจะอยู่ที่ไหนก็คงไม่พ้นวิญญาณอาฆาตติดตามไปได้ นึกว่าจะเชิญผู้มีอาคมขลังมาขับไล่ หรือจับใส่หม้อถ่วงน้ำ ก็จะเป็นเวรกรรมต่อไปไม่สิ้นสุด หญิงสาวคิดจะเอาความดี ชนะวิญญาณพยาบาทให้สุดสิ้นเวร สิ้นกรรม สุดสิ้นความพยาบาทต่อไป

    คิดว่ามีทางเดียวเท่านั้นคือ สร้างบุญกุศล ทำความดีทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เช่น ทำสังฆทาน บวชคนให้เป็นพระ สร้างกุศลอื่น ๆ และให้ทาน แล้วอุทิศกุศล และกรวดน้ำแผ่เมตตาไปให้ มิได้คิดโกรธแค้น ตอบแทนวิญญาณอาฆาตด้วยความมุ่งทำลาย แม้จะมีอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมขลัง ขออาสาทำลายล้างวิญญาณอาฆาต หญิงสาวก็ไม่ยอมให้ทำ คิดว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ดังที่ท่านสมภารเตือนไว้ ตั้งหน้าทำความดีชนะความชั่ว จงสร้างแต่กุศล เพื่อจะให้หลุดพ้นกรรมอันนี้ตลอดเวลา

    ต่อมาคืนหนึ่ง หญิงสาวได้ฝันเมื่อจวนรุ่งแจ้งฟ้าสางว่า ชายแขนด้วนได้เดินเข้ามาหาหญิงสาวซึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่คราวนี้ชายแขนด้วน มิได้แสดงกิริยาดุร้ายเหมือนอย่างคราวที่เคยเห็นที่แล้ว ๆ มา แต่กลับแสดงกิริยายิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเอง แล้วพูดว่า

    “เอาล่ะ คราวนี้ฉันเชื่อแล้วว่า เธอไม่ได้จงใจสั่งพวกบ่าวไพร่มาทำร้ายตัดแขนฉัน นับแต่ฉันได้กินเลือดจากใบลำใยแล้ว คำอธิษฐานจองร้ายฉันก็สุดสิ้นลง และทั้งเธอก็อดทนใจเย็น พยายามสร้างกุศลอุทิศให้ฉันมากมายแล้ว บัดนี้ แขนฉันได้ต่อติดอย่างเดิมแล้ว นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เราสิ้นเวรหมดกรรมกันแล้ว ฉันขอขอบใจที่เธออดทนทำความดีชนะได้ ต่อไปนี้ขอให้เธอจงมีความสุข แขนฉันก็ติดต่อกันไปแล้ว ฉันจะมาขอลาเธอไปล่ะ เพื่อจะได้ไปผุดไปเกิดในโลกมนุษย์ต่อไป”

    แต่แล้วหญิงสาวก็มองเห็นแขนทั้งสองข้างของชายผู้นั้น เกิดงอกขึ้นเป็นมือธรรมดาปกติอย่างน่าประหลาดอัศจรรย์ ทันใดนั้น ภาพชายผู้นั้นก็โปร่งแสงหายไปต่อหน้าทันที

    เมื่อหญิงสาวตื่นขึ้นแต่เช้า เป็นวันแรกที่มีจิตใจผ่องใสสดชื่นกว่าทุกวัน เพราะรู้แน่ใจว่า ได้หลุดพ้นจากวิญญาณพยาบาทของชายแขนด้วน เพราะได้อโหสิกรรม ไม่ก่อเวรจองกรรมกันต่อไป

    ภายในบ้านเข้าสู่ความเป็นปกติสุขอีกครั้งหนึ่ง เพราะไม่ต้องคอยหวาดกลัววิญญาณพยาบาท ซึ่งเป็นสิ่งลี้ลับมองไม่เห็นด้วยสายตามนุษย์อีกต่อไป นับแต่เริ่มสร้างความดีด้วยอำนาจกุศลกรรม และทานเป็นบารมี ที่หญิงสาวได้บำเพ็ญความดีตลอดมา ได้ทำให้ความแค้น ความพยาบาท ความอาฆาต ของวิญญาณชายแขนด้วน ได้ค่อยลดน้อยถอยและเบาบางลง

    ทุกครั้งที่หญิงสาวได้แผ่ส่วนกุศล และเมตตาจิตไปให้ด้วยอำนาจของความดี มีศีลธรรม แผ่ไปถึงวิญญาณอาฆาตทุกคืนทุกวัน ที่สุด ความดีก็ชนะความพยาบาทอาฆาต และก็จบลงด้วยการอโหสิกรรม เหตุการณ์ร้ายก็กลายเป็นดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย
    <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  5. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ชอบศาลพระภูมิของคุณ ศิษย์หลวงปู่กวยมากๆครับ ดูทันสมัยมากๆครับ...(^_^)....
     
  6. noi091

    noi091 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +346
    สวัสดีค่ะคุณหนุ่มและทุกๆท่านวันนี้มีเรื่องดีๆอยากมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับโรงพยาบาลและคุณหมอที่โรงพยาบาลพระปิ่นเกล้าเรื่องมีอยู่ว่าพี่สาวของดิฉันไม่สบายตอนแรกที่สังเกตุได้ชัดเจนคือตาเขาค่อยๆโปนออกมาข้างหนึ่งและมองไม่เห็นตอนนั้นก็ไม่คิดว่าเขาเป็นอะไรร้ายแรงมากน้องสาวคนเล็กก็พาไปหาหมอตามาหลายที่ส่วนใหญ่คุณหมอส่องกล้องก็ไม่เห็นอะไรมากจนอาการเริ่มเป็นมากจนเขาป้ำๆเป๋อๆจำอะไรไม่ได้นานก็จะถามคำถามเดิมและปวดกระบอกตามากขึ้นจนน้องสาวต้องพามาที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลพระปิ่นเกล้าคุณหมอตรวจตาส่องกล้องอีกครั้งแต่คราวนี้คุณหมอที่นี่บอกว่าหมอส่องกล้องแล้วหมอเห็นไม่ชัดเหมือนมีอะไรมืดๆทึบๆอยู่หลังข้างในตาคุณหมอเลยแนะนำว่าให้ข้ามไปที่ฝั่งโรงพยาบาลนี้หมอจะเซ็นให้เป็นกรณีพิเศษเร่งด่วนให้เข้าเอ๊กเรทั้งตัวในอุโมงจะได้เห็นถึงในหัวว่ามีอะไรที่หมอเห็นไม่ชัดผลปรากฏว่าพี่สาวดิฉันเป็นเนื้องอกในสมองก้อนใหญ่ัมากๆจนมันดันลูกตาที่โปนออกมาและเป็นมานานมา็กแล้วเป็นสิบปีจนมันแข็งมากตัดออกไม่ได้ต้องใช้วิธีขูดออกแต่ก็ออกไม่หมดแต่หมอบอกว่าที่เหลืออยู่ไม่เป็นไรเพราะมันโตช้าคนไข้จะมีชีวิตปรกติและอาจตายด้วยโรคอื่นไปก่อนที่เนื้อจะโตใหญ่ขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำไปก่อนวันผ่าหนึ่งวันคุณหมอเรียกญาติพบและคุยทำความเข้าใจและตัดสินใจให้แน่ว่าให้ผ่าได้เพราะคุณหมอว่า50-50ที่คนไข้จะรอดหรืออาจเป็นอัมพาจได้เพราะก้อนเนื้อนั้นมันใกล้เส้นเลือดใหญ่มากวันนั้นทุกคนทำใจลำบากมากแต่ตอนนี้ผ่าแล้วผลดีมากๆทุกอย่างสมบูรณ์กลับมาเป็นปรกติมากแล้วในเวลาแค่4-5:วันเองต้องขอขอบคุณคุณหมอมากทั้งๆที่ใช้บัตร30บาทซึ่งไปที่อื่นเขาไม่ใส่ใจอย่างนี้เลย น้องสาวที่พาไปตรวจตาครั้งแรกเล่าให้ฟังว่าหมอที่รับช่วงต่อจากหมอตาที่ตรวจด้านสมองตรวจพี่สาวเสร็จก็ให้ออกมานั่งรอข้างนอกห้องตรวจเพราะมีคนไข้อื่นรอตรวจอีกแต่ตลอดเวลาที่ตรวจคนที่เหลือคุณหมอมองมาตลอดเหมือนครุ่นคิดพอหมดคนไข้คุณหมอเรียกพบและขอยืมฟีมเอ๊กเรอีกครั้งพอหมอดูแป็ปเดียวหมอเอาฟีมเอ๊กเรเดินไปหาหมออีกคนทันทีคุยกันสักพักหมอกลับมาบอกว่าต้องเอาตัวคนไข้มาผ่าทันทีที่หมอจะดูเตียงให้ว่าว่างหรือไม่ ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอทั้งทีมเป็นอย่างสู.งที่ใส่ใจคนไข้ทั้งๆที่ใช้บัตร30บาบ
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    ถูกต้องแล้วครับ บางบ้านสิ่งที่เข้าไปสิงสถิตย์อยู่แทนเจ้าที่คือ วิญญาณเร่ร่อน วิญญาณผีตายโหงที่หิวโซ และมักแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นบ่อยๆ
    หากมีแมวหรือหนูไปนอนอาศัยอยู่ในศาลพระภูมิที่เราตั้งไว้นั้น ท่านไม่อยู่แล้ว ต้องไหว้ให้ถูกวิธีด้วย
     
  8. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    ยินดีด้วยครับ ที่โรงพยาบาลทหารเรือเขาดูแลอย่างดีแบบนั้น
    การทำ MRI จะช่วยได้มากในการตรวจวิเคราะห์รักษา ขอให้หายโดยเร็วนะครับ
    อาจารย์หมอที่นี่มีฝืมือดีๆหลายคน ไปรับงานเอกชนนอกเวลางาน ก็มีมากหลายคน จึงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพในการผ่าตัด ไว้ใจได้ครับ
     
  9. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,602
    ค่าพลัง:
    +8,010
    บ้านผมมีทั้งศาลพระภูมิและศาลตา-ยายเจ้าที่ครับ ตั้งอยู่ใกล้กับกำแพง
    แล้วข้างบ้านก็ชอบเลี้ยงแมว แบบว่าไม้ตั้งใจเลี้ยงแต่ให้ข้าวกิน งงไหมครับ แหะๆ
    ประเดี๋ยวก็ออกลูกมา ทีละครอก ทีละครอก แล้วบ้านผมก็เลยเป็นแหล่งวิ่งเล่นของพวกแมวท่านไป
    พอดีที่บ้านร่มรื่นแม้จะมีที่นิดเดียว แต่ชอบมีนกมาเดินเล่นประจำ
    ทั้งปรอทหน้านวล นกกางเขน นกเขา(ไม่ใช่นกเรา) นกพิราบ กระจิบ กระจอก
    โดยเฉพาะเจ้านกกางเขนนี่มาตั้งตัวเป็นใหญ่ในบ้าน
    เดินไปใกล้ๆแหมมีอาการเบ่ง โดยบินมาโฉบเฉี่ยวใกล้ๆ

    พอนกเยอะ ก็เป็นภาระของท่านแมวทั้งหลาย ไม่มีคนอยู่นี่ เต้นสวนสนามกันใหญ่
    มาคอยดักรอเมื่อไหรเจ้ากางเขนจะพลาดพลั้ง
    พอเรากลับมาก็แตกกระเจิง แล้วทีนี้ทางเสือ(แมว)ผ่านนี่ก็เล่นกระโดดหลังคาศาลเจ้าที่เลยครับ
    ช้าง มา วัว ควาย ตุ๊กตาหญิงชาย ล้มกันระเนระนาด

    ผมก้กราบไหว้ท่านอยู่นะครับ ส่วนใหญ่ถวายดอกไม้เวลาวันพระ
    ไม่รู้ว่าท่านยังอยู่กันดีหรือไม่จะรู้ได้อย่างไรบ้างครับ พี่หนุ่มพอมีวิธีไหมครับ
     
  10. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    โมทนาด้วยครับคุณ Suppasit
    เมื่อวานช่วงสายๆก่อนที่ผมจะเดินทางไปอยุธยาก็รู้สึกว่าวันนี้ฝนต้องตกแน่....ก้ได้ต่ภาวนาในใจว่าอย่าเพิ่งตกเลย..หรือถ้าหากจะตกก็ขอให้ฝนตกช่วงระหว่างเดินทางไปก็ได้ แต่พอเข้าเมืองอยุธยาก็ขอให้หยุดเถิดดดด เพราะวันนี้ตั้งใจจะเดินทางไปกราบสังขารหลวงปู่ทิม วัดพระขาว เป็นครั้งแรก...ปรากฏว่าขับรถออกจากบ้านไปตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนไปถึง วัดพระขาว ผนไม่ตกสักเม็ดเลยครับ ท้องฟ้ามีดครึ้มอย่างตลอดทาง....การไปอ.บางบาลนี้เป็นครั้งแรกที่ผมต้องขับรถงมทางไปเองเพราะส่วนใหญ่เคยเข้าไปในแต่ตัวเมือง แต่สุดท้ายก็สามารถไปถึงวัดได้โดยไม่หลงทางสักนิด...จากนั้นพอมาถึงวัด ผมก็รู้สึกโล่งใจมากที่ฝนไม่ตก..และได้เข้าไปกราบสังขารหลวงปู่ทิมและพระประธาน(หลวงพ่อพระขาว) ในวัด...หลังจากที่ออกเดินทางจากวัดออกไปได้ประมาณ 1กม. ฝนตกทันทีเลยครับ...และไหนๆก็มาถึงอยุธยาแล้วก็เลยไปกราบหลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิงต่อและก็เหมือนเดิมครับ พอเข้าใกล้ตัวเมือง ฝนก็หยุดตกอีก แต่อากาศค่อนข้างอบอ้าวพอสมควร...และคนในวัดพนัญเชิงก็เยอะมากๆในวันอาทิตย์...หากครั้งหน้ามีโอกาศผมจะขับรถไปกราบหลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาลาปูนบ้างครับ จริงๆแล้วอยากจะไปกราบเกจิที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในอยุธยาที่ยังดำรงขันธ์ต่ออีกครับ แต่ไม่มีข้อมูลและไม่รู้จักเลย...ขนาดหลวงปู่ทิม (วัดพระขาว) ที่ดังมากๆผมยังเพิ่งมาได้รู้จักเมื่อต้นเดือนนี้เอง...พออ่านกระทู้ของคุณSuppasit แล้ว.....ต่อไปคราวหน้าก็คงมีเป้าหมายที่ดีกว่านี้ครับ....(^_^)... ... ไม่รู้ว่าคุณ Suppasit เหงื่อท่วมแบบผมรึป่าวครับ เพราะขนาดเมื่อวานที่อยุธยาไม่มีแดด แต่กลับร้อนมากๆเลยอ่ะครับ....แหะๆ..(^_^)...

    คติธรรมจากหลวงปู่ที่ได้กลับมาในวันนี้คือ....
    <TABLE style="WIDTH: 770px; HEIGHT: 290px; TEXT-ALIGN: left" border=0><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">หลวงปู่บอกว่า
    ทรัพย์ที่ได้มา ให้เก็บประหยัดเป็น ๔ ส่วน
    ๑. ให้ทิ้งเหว ๑ ส่วน คือ ตัวเรากินไป ใช้ไป ไม่มีวันเต็ม
    ๒. ให้ใช้หนี้ ๑ ส่วน คือให้พ่อแม่ตอบแทนบุญคุณที่ท่านเลี้ยงดูเรามา
    ๓. ให้เขากู้ ๑ ส่วน คือเลี้ยงดูลูกต่อไป หลังจากที่พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาแล้วเป็นการสงเคราะห์ลูก
    ๔. ฝังฝากไว้ ๑ ส่วน คือทำบุญ ทำทาน ฝากไว้ในบวรพระพุทธศาสนา สืบต่อไป
    การเจริญภาวนา คือการพิจรณาร่างกายสังขาร เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรเป็นของเรา เว้นไว้แต่ ดี-ชั่ว บาป-บุญติดตามตัวเราไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 770px" border=0><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center"><TABLE style="WIDTH: 308px; HEIGHT: 79px; TEXT-ALIGN: center" border=0><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left"> ทาน</TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">ทำให้ </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">รวย</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left"> ศีล </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">ทำให้ </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">สวย</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left"> ภาวนา </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">ทำให้ </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">มีปัญญา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



    [​IMG]

    [​IMG]




    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1aaa22.jpg
      1aaa22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      479.3 KB
      เปิดดู:
      1,244
    • ajyuk.jpg
      ajyuk.jpg
      ขนาดไฟล์:
      295.6 KB
      เปิดดู:
      1,157
    • 11111777f.jpg
      11111777f.jpg
      ขนาดไฟล์:
      166.9 KB
      เปิดดู:
      1,179
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  11. เทวาลัย

    เทวาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,033
    ค่าพลัง:
    +4,901
    พี่หนุ่มครับ
    ผมมีคำถามใน pm ครับ คำตอบของพี่หนุ่มอาจจะให้ข้อคิดกับคนที่เข้ามาอ่านบ้างนะครับ

    ________________
     
  12. ศิษย์หลวงปู่กวย009

    ศิษย์หลวงปู่กวย009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,867
    ค่าพลัง:
    +17,327
    วันที่ตั้งศาลนี้ อากาศตอนสายๆ ก็ มีแดด ร้อน เป็นปกติเหมือนทุกๆวัน พอหลังจากที่ เจ้าหน้าที่ของ พระครูพราหมณ์ มาถึงก็ได้จัดของ บรวงสรวง เป็นผลไม้ ขนมหวาน และสิ่งจำเป็นในการทำพิธี เสร็จ พระครู ท่านก็ มาถึง และได้ จาร แผ่นทองคำแท้ 2 แผ่น และเริ่มพิธี พอทำพิธีไปตามขั้นตอนต่างๆ ตรงโต๊ะ เครื่องบรวงสรวง แล้วก็มาทำพิธี ตรงที่ตั้งศาล ทำไปตามขั้นตอน ของการตั้งศาล ไปเรื่อยๆ แล้วมาถึงช่วงที่ อัญเชิญ องค์พระภูมิ และ ตา ยาย เข้าประดิษฐาน ในศาล ช่วงนั้นท้องฟ้าเริ่มมีเมฆ มาบังพระอาทิตย์ แต่มีช่องวงกลมๆ ส่องลงมายัง บริเวณที่ตั้งศาลขณะ ที่อัญเชิญ องค์พระภูมิ และ ตา ยาย เข้าประดิษฐาน ในศาล และมีฝนโปรยลงมา บางๆ แดด ก็ส่องลงมาเป็นลำ ตลอดเวลา จนพิธีใกล้เสร็จ ก็มี ผีเสื้อ บิน มาวนเวียนบริเวณ ศาล อยู่ 2-3 รอบ แล้วก็บินขึ้นไป ตรงที่ มีแสง ส่องลงมา พิธีก็เสร็จ

    เพื่อน ผมที่มาถ่ายรูปให้ มาพูดให้ฟังหลังเสร็จพิธี เค้าบอกว่าไปมาหลายที่แล้ว ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ แบบนี้ เลย ดีมากๆเลยนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010214.JPG
      P1010214.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.4 MB
      เปิดดู:
      74
    • P1010206.JPG
      P1010206.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.8 MB
      เปิดดู:
      69
    • P1010216.JPG
      P1010216.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.1 MB
      เปิดดู:
      73
    • P1010252.JPG
      P1010252.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      75
    • P1010167.JPG
      P1010167.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.3 MB
      เปิดดู:
      71
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  13. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    มีฝนโปรยลงมา บางๆ แดด ก็ส่องลงมาเป็นลำ ตลอดเวลา จนพิธีใกล้เสร็จ ก็มี ผีเสื้อ บิน มาวนเวียนบริเวณ ศาล อยู่ 2-3 รอบ แล้วก็บินขึ้นไป ตรงที่ มีแสง ส่องลงมา



    เป็นสิริมงคลและนิมิตหมายที่ดีมากๆเลยครับ.....(^_^)....
     
  14. คชสารบูรพา

    คชสารบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +1,107
    สวัสดียามสายครับ เมื่อวานนี้กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อและแม่ ได้ทำพิธีขอขมากรรมต่อท่านทั้งสอง ตามที่ได้อ่านจากกระทู้นี้มา (นำน้ำล้างเท้าของพ่อและแม่มารดหัวและล้างหน้า)รู้สึกตื้นตันมาก ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดี
     
  15. 9046

    9046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +2,503
    ...สวัสดีครับ พี่หนุ่ม และพี่ๆ ในบ้าน ทุกท่าน..
     
  16. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173
    พี่หนุ่มครับ แล้วถ้าผมต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของที่ทำงาน ที่ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว ผมจะต้องทำอย่างไรครับ แถมแถบนั้นรู้สึกว่าเจ้าที่แรงครับ
     
  17. เทพทอง

    เทพทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +1,155

    เป็นนิมิตหมายที่ดียิ่งครับพี่
     
  18. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    อนุโมทนาด้วยครับพี่

    ถ่ายภาพสวยแต๊ๆๆ :cool:
     
  19. IEC

    IEC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,155
    มาแจ้งข่าวว่าได้รับเหรียญมงคลจากพี่หนุ่มแล้วตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน... พอดีผมไปตจว.มา เลยเพิ่งมาแจ้งให้ทราบครับ

    ขอบคุณมากๆ อีกครั้งครับ
     
  20. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CHERO%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CHERO%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CHERO%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:DoNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <w:DontVertAlignCellWithSp/> <w:DontBreakConstrainedForcedTables/> <w:DontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Cordia New"; panose-1:2 11 3 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cambria Math"; panose-1:2 4 5 3 5 4 6 3 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1610611985 1107304683 0 0 159 0;} @font-face {font-family:Calibri; panose-1:2 15 5 2 2 2 4 3 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1610611985 1073750139 0 0 159 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-unhide:no; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; margin-top:0in; margin-right:0in; margin-bottom:10.0pt; margin-left:0in; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:Calibri; mso-fareast-theme-font:minor-latin; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} p.pair20, li.pair20, div.pair20 {mso-style-name:pair20; mso-style-unhide:no; mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0in; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0in; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:"Times New Roman","serif"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; color:#003366;} .MsoChpDefault {mso-style-type:export-only; mso-default-props:yes; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:Calibri; mso-fareast-theme-font:minor-latin; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} .MsoPapDefault {mso-style-type:export-only; margin-bottom:10.0pt; line-height:115%;} @page Section1 {size:8.5in 11.0in; margin:1.0in 1.0in 1.0in 1.0in; mso-header-margin:.5in; mso-footer-margin:.5in; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style>[FONT=&quot]ที่มีคำถามน่าคิดว่า บางคนไม่เข้าวัด ไม่ทำบุญ ไม่ไหว้พระ ไม่สนใจพระ ไม่ปฏิบัติธรรมใดๆ แต่ทำไมถึงประสบความสำเร็จในชีวิต ทำอะไรก็รวยเอาๆ และดูเหมือนจะรวยจะดีกว่าคนเคร่งในการทำบุญมากด้วยซ้ำไป เป็นคำถามที่น่าขบคิดมากครับ[FONT=&quot]<o>

    </o>[/FONT]
    [/FONT] [FONT=&quot]การประสบความสำเร็จในชีวิตหรือการประกอบธุรกิจ ไม่ได้อยู่ที่เพียงว่ามีความรู้ มีความสามารถ หรือว่ามีความเพียรเท่านั้น[FONT=&quot] ซึ่งจริงๆแล้วต้องมีทั้งโอกาส จังหวะชีวิต ช่องทาง กำลังกาย กำลังทรัพย์ ความรู้ ความสามารถ ทีมงาน รวมเข้าด้วยกัน แต่มีองค์ประกอบเบื้องหลังอยู่อีกอย่างหนึ่งก็คือ บุญของเรา โดยเฉพาะบุญเก่า ถ้าไม่มีบุญหนุนนำ ทุ่มเททำงานเข้าไป มันก็ได้บ้างเช่นกัน แต่ไม่ค่อยดีนัก พูดง่าย ๆ ทุนเก่าข้ามชาติไม่ค่อยมี ก็สมหวังยากหน่อย ส่วนมากเราเห็นแต่ทุนในชาตินี้ แต่ทุนเก่าคือบุญข้ามชาติ คนมักจะมองไม่ค่อยเห็น ใครที่สร้างบุญมาน้อย ชาตินี้เหนื่อยหนักหน่อย แต่อย่าท้อ เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้บุญข้ามชาติมีเท่าไร ให้คิดเสียว่าบุญข้ามชาติไม่มี หรือมีน้อยก็แล้วกัน ถ้าหากว่ามีมากก็ถือเป็นของแถม แต่รู้ไว้ด้วยว่าบุญเก่าข้ามชาติ มีผลอย่างมากที่จะช่วยให้เราสมหวังในชีวิตหรือประกอบธุรกิจสำเร็จได้มากน้อยเพียงไหน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [/FONT] [FONT=&quot]
    อย่างที่โบราณว่าเก่งกับเฮงนั่นแหละ เฮงมาจากบุญเก่าที่ทำมาดี แต่บางทีเราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่า เรามีบุญเก่ามามากน้อยขนาดไหน อยากฝากเป็นข้อคิดอย่างนี้ครับ บางคนทำธุรกิจไปได้ดีๆพอถึงจุดหนึ่ง ทำท่าว่าจะได้กำไรเท่านั้นเท่านี้อย่างที่หวังไว้ แล้วต้องมีอันเป็นไป แสดงว่าผลจากบุญของเราน้อยลงไปแล้ว ให้รีบสร้างบุญเพิ่มใหม่เสียแต่วันนี้ แล้วบุญใหม่ที่ได้ทำวันนี้ก็จะกลายเป็นบุญเก่าของเราวันพรุ่งนี้ บุญใหม่ของเราเดือนนี้ จะเป็นบุญเก่าของเราเดือนหน้า บุญใหม่ของเราปีนี้จะเป็นบุญเก่าของเราปีหน้า บุญใหม่ชาตินี้จะเป็นบุญเก่าชาติหน้า พูดง่าย ๆ ทำมาหากินก็ทำไป แต่อย่าลืมทำบุญเท่านั้น
    [/FONT]<o></o>
     

แชร์หน้านี้

Loading...