สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ฝนตกหนักจากพายุอเล็กซ์ทำชาวMexigoดับ6

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 03-07-2553 | 03:10:23 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย จากเหตุการร์น้ำท่วมในเมืองหลักของประเทศ เม็กซิโก อันเป็นผลพวงจากพายุเฮอริเคนอเล็กซ์ ที่เคลื่อนตัวเข้าพัดถล่ม เม็กซิโก และชายฝั่งตอนใต้ของรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

พายุฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุเฮอริเคนอเล็กซ์ ที่พัดถล่มเมือง มอนเตร์เรย์ เมืองเอกของรัฐนวยโวเลออง และขึ้นชื่อว่ารวยที่สุดของ ประเทศเม็กซิโก ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย นอกจากนี้ น้ำที่เอ่อท่วม ยังกวาดเอา รถยนต์โคลนและหิน ให้กระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ บ้านเรือน ประชาชนนับหมื่นหลัง ไม่มีน้ำและกระแสไฟฟ้าใช้

ตามรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตที่เพศนหญิงรายหนึ่ง เสียชีวตเนื่องจากถูกโคล่น และก้อนหิน จากภูเขาถล่มใส่บนท้องถนนอีกทั้ง พายุที่เคลื่อนตัวอยู่ ในประเทศเม็กซิโก ยังทำให้บางพื้นที่ของเมืองมอนเตร์เรย์ มีฝนตกในปริมาณที่สูงถึง 30 นิ้ว
พายุเฮอริเคนอเล็กซ์ ทวีความแรงเป็นพายุเฮอริเคน ระดับ 2 ด้วยแรงลม 105 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อนที่จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศเม็กซิโก ช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือ ย่างเข้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาในประเทศไทย ทำให้เกิดน้ำท่วมและคลื่นสูง ชาวบ้านที่อาศัย ในหมู่บ้านชาวประมง ตามชายฝั่งได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ให้อพยพ ออกจากพื้นที่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• โรมาเนียอ่วมน้ำท่วมหนัก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 03-07-2553 | 4:06:15 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โรมาเนีย 3 ก.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมในโรมาเนียยังน่าเป็นห่วง หลังพื้นที่กว่า 1 ใน 3 ของประเทศยังคงจมอยู่ใต้น้ำ

ชาวบ้านมากกว่า 2,000 คน ต้องอพยพออกจากหมู่บ้าน ในเมืองซอเซสติ ทางตะวันออก หลังแม่น้ำซีเร็ตเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและท้องถนน ทำให้การสัญจรทั้งทางถนนและทางรถไฟ ในหลายพื้นที่แทบจะเป็นอัมพาต เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเผยว่าตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีชุมชนทั่วประเทศ ได้รัลผลกระทบ จากน้ำท่วมเพิ่มขึ้นกว่า 100 แห่ง ขณะที่พื้นที่กว่า 1 ใน 3 ของประเทศยังคงจมอยู่ใต้น้ำ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินหลายร้อยคน ระดมกำลังวางแนวกระสอบทรายริ่มฝั่งแม่น้ำหลายแห่ง ป้องกันน้ำเข้าท่วม เพิ่มเติม ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในโรมาเนียตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา 24 คน ทั้งจากการจมน้ำ ถูกฟ้าผ่า รวมถึงอุบัติเหตุอื่น ๆ.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สถานการณ์น้ำท่วมในโรมาเนียยังไม่คลี่คลาย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 04-07-2553 | 07:56 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">รัฐบาลโรมาเนียออกมาเปิดเผยว่า สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมสูง ในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ภาวะน้ำท่วมหนัก ได้สร้าง ความเสียหายให้แก่พื้นที่เกินครึ่งประเทศ ระดับน้ำทำให้เขื่อนแตก บ้านเรือน เทือกสวนไร่นาของประชาชน รวมถึงสะพานหลายแห่ง ถูกน้ำทะลักเข้าท่วม ได้รับความเสียหายหลายร้อยแห่ง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม ในขณะนี้ ยังคงอยู่ที่ 22 คน ไร้ที่อยู่อีกหลายพันคน ซึ่งประธานาธิบดีโรมาเนีย ได้ออกให้คำมั่นแล้วว่า จะหาที่อยู่ใหม่ให้แก่เหยื่อประสบภัยน้ำท่วม โดยเร็วที่สุด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยุโรปเจออากาศร้อนจัด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 04-07-2553 | 05:09 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หลายประเทศในแถบยุโรปกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด โดยที่กรุงโรม ของอิตาลี อุณหภูมิพุ่งสูงไปอยู่ที่ 34 องศาเซลเซียส และบางช่วงอาจเพิ่มสูง ไปอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส ประชาชน และนักท่องเที่ยว ต้องออกไป รวมตัวกัน อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยว ที่มีน้ำพุ บ้างก็รับประทานไอศกรีม เพื่อช่วย ให้คลายร้อน เช่นเดียวกับที่เมืองมิวนิค ของเยอรมนี ที่พบว่า เมื่อวานนี้ กลายเป็นวันที่ร้อนที่สุด ในปีนี้ ตามสวนสาธารณะและแม่น้ำ รอบเมือง เต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมา หากิจกรรม ทำคลายร้อน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แผ่นดินไหวญี่ปุ่น 6.3 ริกเตอร์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 05-07-2553 | 07:17:05 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โตเกียว 5 ก.ค.-สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือของประเทศช่วงเช้าวันนี้ แต่ไม่เสี่ยงเกิดสึนามิ

แผ่นดินไหวเกิดขึ้นนอกชายฝั่งจังหวัดอิวาเตะ ห่างจากกรุงโตเกียว ไปทางเหนือ 500 กิโลเมตร เมื่อเวลา 07.08 น.วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 05.08 น.วันนี้ ตามเวลาในไทย ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ลึก ลงไปในทะเล 30 กิโลเมตร ตำรวจท้องที่เผยว่า ไม่มีรายงานความเสียหาย แม้รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน แต่ไม่รุนแรงขนาดทำให้ข้าวของตกจากชั้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในโรมาเนียแล้ว 22 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 04-07-2553 | 13:16:59 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โรมาเนีย 4 ก.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมในโรมาเนียสร้างความเสียหายอย่างหนัก ในหลายพื้นที่ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 คน

ทางการโรมาเนีย ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงจากฝนที่ตกหนัก จนทำให้ แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทางภาคตะวันออก ได้สร้าง ความเสียหาย ให้แก่บ้านเรือนหลายร้อยหลัง สะพานหลายแห่งชำรุด พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ชาวบ้านอีกว่า 2,000 คน ต้องอพยพ ประธานาธิบดีไตรอาน บาเซสกู ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ประสบภัย ได้ให้คำมั่น แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนว่าจะจัดหาวัสดุก่อสร้างบ้านให้ใหม่ ส่วนพื้นที่ ทางเหนือ และภาคกลาง ทางการยังคงเตือนภัยในระดับสีเหลือง ไปจนถึงวันจันทร์นี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่น้ำจะยังคงท่วมต่อไป และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมไปแล้ว 22 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• คลื่นความร้อนเข้าปกคลุมยุโรปส่งผลให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 05-07-2553 | 12:00 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ที่กรุงโรม ของอิตาลี นักท่องเที่ยวพากันไปชุมนุมบริเวณน้ำพุที่มีชื่อเสียง ของเมืองหลวง และพากันเอามือและเท้าจุ่มน้ำเพื่อคลายร้อน ในช่วงเที่ยงวัน ซึ่งมีอุณหภูมิสูงราว 34 องศาเซลเซียส ขณะที่บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ไอศครีมของอิตาลี ซึ่งนับเป็นไอศครีมที่มีชื่อเสียงว่า ความอร่อยที่สุดในโลก ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คาดว่าคลื่นความร้อน จะยังแผ่ ปกคลุมทั่วยุโรปต่อไป จนถึงวันพุธนี้ โดยทางการอิตาลีได้ประกาศเตือน ให้ระมัดระวังสุขภาพของผู้สูงอายุในระยะนี้ด้วย

ส่วนที่เมืองมิวนิค ของเยอรมนี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานับว่าเป็นวันที่ร้อนที่สุด ในรอบปี โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายพันคน พากันมาชุมนุมที่ สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่เรียกว่า "อิงลิช การ์เด้น" เพื่อว่ายน้ำในแม่น้ำ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อเป็นการคลายความร้อน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สหรัฐเจอคลื่นความร้อนจัด บางพื้นที่เตือนภัย "รหัสแดง"

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย เนชั่นทันข่าว [ 06-07-2553 | 08:18 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พื้นที่ทางตะวันออกของสหรัฐกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนจัด ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ ที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิขึ้นไปอยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศระบุว่า สภาพอากาศอบอุ่นในบริเวณพื้นที่ ทางตะวันออกของประเทศ จากรัฐเมนไปยังรัฐเท็กซัส และคาดว่าจะเป็นอย่างนี้อีกราว 2 วัน
ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ เป็นวันหยุดต่อเนื่องจากวันชาติสหรัฐที่ตรงกับวันอาทิตย์ ทำให้ประชาชนจำนวนมากพากันออกไปรับแสงอาทิตย์ ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติออกคำเตือนให้ระวังอากาศร้อนจัด และแนะนำให้ ประชาชนดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการออกไปตากแดด ท่ามกลางอากาศร้อนจัด และออกคำเตือนเป็นพิเศษสำหรับคนที่ปัญหา ด้านระบบทางเดินหายใจ
เจ้าหน้าที่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้ประกาศระดับคุณภาพอากาศให้อยู่ใน "รหัสแดง" และออกคำเตือนในรูปแบบเดียวกัน แม้กระทั่งตอนกลางคืน อุณหภูมิยังอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียส ขณะที่ตามรัฐที่อยู่แถบกลางแอตแลนติก คาดว่าอากาศจะเลวร้ายขึ้น ในวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยอุณหภูมิที่สูงถึง 39 องศาเซลเซียส ส่วนวันพุธ ได้รับการพยากรณ์ว่าเป็นวันที่ร้อนที่สุดด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อิตาลี-อากาศร้อนทั่วประเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 06-07-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">คลื่นความร้อนที่พาดผ่านอิตาลี ทำให้อุณหภูมิทั่วประเทศ พุ่งสูงขึ้นกว่า 35 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่ต้องออกคำเตือนให้ระวังอากาศร้อน ในหลายเมืองใหญ่ ของอิตาลี ซึ่งก็รวมถึงกรุงโรม นครมิลาน และนครเวนิส

แม้อุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้น แต่นักท่องเที่ยวและชาวอิตาลี ที่อยู่ในเมืองต่างๆก็มีวิธีที่จะต่อสู้กับความร้อน

ฟรันเชสโก มาร์เตลโล คนขับแท็กซี่ โชคดีที่มีแอร์ในรถของเขา ช่วยคลายร้อน มิฉะนั้นเขาคงจะต้องทนร้อนต่อไปแน่นอน

นักท่องเที่ยวพากันไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากน้ำพุสาธารณะต่างๆ ที่น้ำในนั้นรับประทานได้

ไอศครีมก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยคลายร้อนให้กับชาวอิตาลี และนักท่องเที่ยว

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ความร้อนคร่าชีวิตคนชราในอิตาลีไป 3 คน ในเขตเวเนโต ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เตือนภัยคลื่นความร้อนหลายประเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 06-07-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน โดยที่แคนาดา ประชาชนแห่ใช้เครื่องปรับอากาศ จนหม้อแปลงระเบิด ขณะที่สหรัฐฯและอิตาลี ทางการประกาศเตือนให้ระวังสุขภาพ

โดยที่นครโตรอนโต้ของแคนาดา ประชาชนได้พร้อมใจเปิดแอร์ เพื่อดับความร้อน หลังจากอุณหภูมิพุ่งทะลุ 30 องศาเซลเซียส ทำให้หม้อแปลงระเบิด และเกิดไฟลุกไหม้ ที่สถานีจ่ายไฟไฮโดรวัน เมื่อเย็นวานนี้ ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วพื้นที่ตะวันตก ของนครโตรอนโต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธนาคารหลายแห่ง ทำให้ต้องหยุดซื้อขายหุ้น เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ยังทำให้ไฟจราจรดับเกือบหมด สร้างความปั่นป่วนไปทั่ว ผู้ขับขี่จำนวนมากต้องลงจากรถ เพื่อกำกับการจราจรกันเอง ขณะที่รถไฟใต้ดิน และรถบัสประจำทาง ต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซม และเริ่มจะมีไฟใช้ได้ในบางพื้นที่แล้ว

ส่วนพื้นที่ตะวันออกของสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐเมนเรื่อยไปจนถึงรัฐเท็กซัส ซึ่งอยู่พื้นที่ตอนกลาง ก็กำลังเผชิญกับอากาศที่ร้อนจัด โดยอุณหภูมิ พุ่งขึ้นไปถึง 32 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ทางการต้องประกาศเตือน ให้ประชาชน ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนานเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหา โรคทางเดินหายใจ ทั้งนี้กรุงวอชิงตัน ได้ประกาศเตือนภัยถึงระดับ Code Red พร้อมเตือนว่าอุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้นถึง 39 องศาเซลเซียสในวันพรุ่งนี้

ขณะที่อิตาลีเตือนภัยคลื่นความร้อนในหลายเมือง รวมทั้งกรุงโรม มิลานและเวนิส หลังจากอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส ทำให้ทั้งชาวอิตาเลี่ยนและนักท่องเที่ยว ต้องหาทางคลายร้อนกันหลายวิธี ทั้งดื่มน้ำและกินไอสครีม ขณะที่พ่อค้าเกาลัด หลายคน ออกมาอ้างว่า เกาลัดมีสรรพคุณช่วยคลายร้อนได้ดี ทั้งนี้อุณหภูมิที่ร้อนจัด ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คนที่เมืองเวเนโต้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 คนล้วนเป็นผู้สูงอายุ

อย่างไรก็ตาม กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลัน หลังจากเกิดฝนตก อย่างหนักนาน 1 ชั่วโมงเมื่อคืนนี้ ทำให้น้ำในแม่น้ำชาคูจิ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็วมากกว่า 35 หลังเป็นระยะทางถึง 400 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งอพยพพนักงาน จากบริษัทแห่งหนึ่ง ออกจากอาคารหลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยยังมีอีก 90 คนติดอยู่ข้างใน ล่าสุดมีรายงานผู้สูญหาย 1 คน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหา

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ทั่วโลกระอุ! เตือนจีนอาจทะลุ55องศา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 07-07-2553 | 11.49 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สื่อรายงานว่า เกิดคลื่นความร้อนลุกลามไปทั่วโลก นักวิชาการคาดที่ประเทศจีน อาจทะลุสูงสุดถึง 55 องศาเซลเซียส

สำนักข่าวรายงานว่า ที่ประเทศจีนคลื่นความร้อนได้พาดผ่าน16มณฑล โดยอากาศร้อน หนักสุด อยู่ที่มณฑลเทียนจินสูงถึง 40.7 องศาเซลเซียส ร้อนสุดของเดือนกรกฎาคม ในรอบ 60 ปี ตั้งแต่วัน 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีคนป่วยถูกส่ง รพ.ที่ปักกิ่งแล้ว 59คน ล่าสุดวานนี้(6ก.ค.)พบชายอายุ27ปี เสียชีวิตที่สถานีรถไฟ เพราะความร้อนจัด

ผลจากอากาศที่ร้อนจัดทำให้การใช้น้ำและไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูง จนทางการจีน ต้องออกมา สั่งบริษัทต่างๆ ที่มียอดใช้พลังงานน้ำ และไฟฟ้าสูงราว 1,000 บริษัท อาทิ บริษัทถลุงเหล็ก และ บริษัทผลิตกระดาษ ลดการผลิตสินค้า 15 วัน เพื่อให้มีไฟฟ้าพอเพียงสำหรับประชาชนทั่วไปได้ใช้

ที่กรุงปักกิ่ง พบรถเมล์เกิดไฟลุกท่วม เพราะอากาศร้อนเกินไป จนเครื่องยนต์ ทำงานหนัก เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ขณะทางด้านสวนสัตว์ปักกิ่ง ก็ได้ดำเนินการติดตั้ง เครื่องปรับอากาศในสวนสัตว์เพื่อคลายร้อน พร้อมทั้งแจกจ่ายอาหารแช่แข็งให้แก่สัตว์ หลังจากพบว่ามีกวางตัวหนึ่งตาย เพราะขาดน้ำอย่างรุนแรง

ที่ไต้หวัน อุณภูมิร้อนทะลุ 37องศาเซลเซียสแล้ว สื่อรายงานว่า มีชายวัย 38 ปี เสียชีวิตในห้องแช่เย็น หลังจากหนีอากาศร้อนไปหลบในตู้แช่ จนเกิดเหตุดังกล่าว

ทางด้านทวีปยุโรปหลายพื้นที่ก็เจอคลื่นความร้อนพาดผ่าน ทำให้มีอุณหภูมิสูงกว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อน ในเมืองมาดริด ประเทศสเปน อุณหภูมิสูงถึง 35 องศา ประชากรต่างพากันออกมาคลายร้อน ที่น้ำพุสาธารณะ ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส อุณหภูมิอยู่ที่ 39 องศา บางพื้นที่ทะลุถึง 42 องศา ถือว่าร้อนสุดในรอบปี ขณะทางประเทศอิตาลี รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย เนื่องจากอากาศร้อน โดยอุณหภูมิสูงที่ 35 องศา

ที่สหรัฐฯ อุหภูมิสูงถึง 37.7 องศา ทางเมืองนิวยอร์คถูกคาดว่า อุณหภูมิ อาจจะขึ้นถึง 40 องศา ประชาชนส่วนใหญ่หลบร้อน ไปอาศัยเครื่องปรับอากาศ ตามสถานที่ต่างๆ บ้างก็ไปที่สวนสาธารณะที่มีน้ำพุ หรือมีแหล่งน้ำเพื่อคลายร้อน
ย่านธุรกิจที่ฟิลาเดลเฟีย เมืองใหญ่ที่สุดในมลรัฐเพนซิลเวเนีย อุหภูมิแตะที่ 35 องศา เป็นเหตุให้บริษัทสาธารณูปโภคขนาดใหญ่อย่าง เฟโกยูทินีตี้ เกิดฟิวขาดพร้อมกัน ส่งผลให้ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ ตลอดช่วงเช้าวานนี้(6ก.ค.)
ณ เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ประชาชนพร้อมใจกันเปิด เครื่องปรับอากาศ ยอดใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงจนหม้อแปลงเกิดระเบิด ส่งผลให้ไฟฟ้าดับกินบริเวณกว้างไปทั่วเมือง กระทบทั้งธนาคาร หน่วยงานราชการ รวมทั้งไฟจราจรดับเกือบทุกพื้นที่ ระบบคมนาคมในเมืองเป็นอัมพาต

ขณะนี้รัฐบาลหลายประเทศ ได้ออกมาเตือนให้ระมัดระวังเหตุร้าย เนื่องจากอากาศร้อน และให้ดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ด้านนักวิชาการคาดว่าคลื่นความร้อนจะกินเวลาต่อไป อีกช่วงหนึ่ง และคาดว่าอุณหภูมิที่จีนอาจทะลุถึง 55 องศาเซลเซียส
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เม็กซิโกอพยพชาวบ้าน 2 หมื่นคนหนีน้ำท่วม

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 07-07-2553 | 13.56 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ทางการเม็กซิโกอพยพประชาชนกว่า 18,000 คน เมื่อวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น ออกจากเมืองทางเหนือ ที่ประสบอุทกภัย ภายหลังเจ้าหน้าที่ ต้องเปิดประตูระบายน้ำ ออกจากเขื่อน เพราะฝนตกหนักจากอิทธิพลของเฮอริเคนอเล็กซ์

ผู้อพยพออกจากเมืองซิวดัด อนาวัก ติดกับชายแดนรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ต้องไปอาศัยอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง มีรถยนต์ต่อแถวยาว ตามท้องถนน และบางคนเดินออกจากเมืองเอง ส่วนทหารเตรียมจัดสรรอาหารให้กับผู้ประสบภัย ขณะที่เขื่อนการ์รันซา ซึ่งมีปริมาณน้ำขึ้นถึงระดับความจุสูงสุด ภายหลังฝนตกหนัก ต่อเนื่องมาหลายวัน จนทำให้ต้องเปิดประตูระบายน้ำกันน้ำล้นทะลักเขื่อน ทั้งนี้ เฮอริเคนอเล็กซ์ ทำให้เกิดอุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่ทางตะวันออก เฉียงเหนือ ของเม็กซิโก และทำให้แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งเป็นแม่น้ำที่เชื่อมต่อกับเขื่อนดังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อุณหภูมิในนครนิวยอร์กของสหรัฐพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังคลื่นความร้อนแผ่เข้าปกคลุมทั่วพื้นที่ทาง ตะวันออกของประเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวแห่งชาติ [ 07-07-2553 | 13.25 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">อุณหภูมิในนครนิวยอร์กของสหรัฐพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังคลื่นความร้อนแผ่เข้าปกคลุมทั่วพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ โดยสำนักงานอากาศแห่งชาติรายงานว่า อุณหภูมิที่สวนสาธารณะ เซ็นทรัลปาร์ค ย่านแมนฮัตตัน วัดได้ 39.45 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมปี 2542 ซึ่งอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 38.33 องศาเซลเซียส พร้อมกันนี้ได้มีการออกประกาศ เตือนให้ประชาชนเลี่ยง การอยู่กลางแจ้ง ดื่มน้ำมากๆหมั่นดูแลสุขภาพญาติมิตร อีกทั้งความร้อนจัด และความชื้นสูง อาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กและผู้สูงอายุได้ แนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำมาก ๆ นอกจากนี้อุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้อัตราการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นด้วย ขณะที่ประชาชนต่างพากันหนีร้อน ไปพักผ่อนตามสวนสาธารณะต่างๆ.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สหรัฐ-แคนาดาร้อนจัด คนตายแล้ว 2

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 08-07-2553 | 05:27:50 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พื้นที่ทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐและแคนาดากำลังเผชิญกับ คลื่นความร้อน ส่งผลให้การใช้ไฟเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน

พื้นที่ตั้งแต่รัฐควิเบกในแคนาดา ไล่ลงมาตามชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐ ไปจนถึงรัฐเวอร์จิเนีย กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน ทำให้หลายพื้นที่ อุณหภูมิพุ่งขึ้นไป สูงถึง 39 องศาเซลเซียส ประชาชนส่วนใหญ่หลบร้อน ไปอาศัยเครื่องปรับอากาศ ตามสถานที่ต่าง ๆ บ้างก็ไปที่สวนสาธารณะที่มีน้ำพุ หรือมีแหล่งน้ำเพื่อคลายร้อน มีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนในสหรัฐแล้ว2 คน เป็นผู้สูงอายุในเมืองฟิลาเดลเฟีย และคนไร้บ้านในนครดีทรอยต์

ส่วนที่นครโทรอนโตของแคนาดา ประชาชนพร้อมใจกันเปิดเครื่องปรับอากาศ ยอดใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงจนหม้อแปลงเกิดระเบิด ส่งผลให้ไฟฟ้าดับกินบริเวณกว้าง ไปทั่วเมือง ขณะที่มีผู้ป่วยถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงออตตาวาเกือบ160 คนในวันเดียว
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ชิลีตอนใต้กำลังเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 07-07-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ชิลี 7 ก.ค. - ผู้คนทางตอนใต้ของชิลีกำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย ขณะที่ยังไม่ฟื้นตัวจากภัยแผ่นดินไหว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เมืองคอนเซปซิออน ทางตอนใต้ของชิลี กำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย ทั้งลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน จากอุบัติเหตุ บนท้องถนน ความรุนแรงของกระแสลมต้นไม้หักโค่น น้ำท่วม และกระแสไฟฟ้าขัดข้อง

ขณะที่ชาวเมืองราว 50,000 คน ยังคงต้องอาศัยอยู่ในที่พักอาศัยชั่วคราว หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว 8.8 ริกเตอร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเมืองคอนเซปซิออนเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนั้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• คลื่นความร้อนที่สหรัฐฯและสเปน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 08-07-2553 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯไปจนถึงแคนาดายังคงร้อนระอุต่อเนื่อง ขณะที่สเปนอุณหภูมิพุ่งขึ้นไปถึง 44 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ตั้งแต่ควิเบค แคนาดา ไปจนถึงรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ต้องตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากการประชาชน ต่างใช้เครื่องปรับอากาศ มีรายงานว่า ทั้งนิวยอร์ก,ฟิลาเดลเฟีย และวอชิงตันดีซี เกิดไฟฟ้าดับ โดยเฉพาะที่ฟิลาเดลเฟียนั้น มีผู้ได้รับความเดือดร้อนถึง 8,000 คน

ที่นิวยอร์กอุณหภูมิพุ่งขึ้นไปแตะที่ 39.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นการทำลายสถิติสูงสุด ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ปี 1999 ที่ 38.3 องศาเซลเซียส ขณะที่ฟิลาเดลเฟีย อุณหภูมิสูงทำลายสถิติที่ 38.9 องศาเซลเซียส ส่วนที่เมืองบัลติมอร์ อุณหภูมิพุ่งแตะ 38 องศาเซลเซียส เป็นวันที่ 3 ต่อเนื่องกันแล้ว ประชาชนจำนวนมากใช้วิธีคลายร้อน ด้วยการไปรวมตัวกันที่โบสถ์และอาคารราชการ ที่เปิดเครื่องปรับอากาศ ขณะที่ผู้ดูแลสวนสัตว์ในกรุงวอชิงตัน ก็ต้องช่วยคลายร้อนให้กับสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะแพนด้าด้วยผลไม้แช่แข็ง

ส่วนที่สเปน หลายพื้นที่ของประเทศอุณหภูมิพุ่งทะยานไปถึง 44 องศาเซลเซียสแล้ว เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูง เกินฤดูร้อนปกติของสเปน ในกรุงมาดริดทั้งประชาชน และนักท่องเที่ยวดูเหมือนจะชื่นชอบ กับอากาศร้อนที่นี่ บางคนคลายร้อน ด้วยการรับประทานไอศกรีม ส่วนเด็กสเปน สนุกสนานกันเต็มที่ในช่วงอากาศร้อนจัดนี้ ด้วยการสาดน้ำเข้าใส่กัน สำหรับพื้นที่ที่อากาศร้อนที่สุดของสเปน จะอยู่ทางตอนกลาง และตะวันตกเฉียงใต้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมทางตอนเหนือของเม็กซิโก ทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 08-07-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">มอนเตร์เรย์ 8 ก.ค. – ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทางตอนเหนือของเม็กซิโก เมื่อวานนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วม ส่งผลให้ทางการต้องสั่งปิดสะพาน ข้ามพรมแดนสหรัฐ และเม็กซิโก รวมทั้งทำให้ประชาชนหลายหมื่นคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
พายุฝนซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อน หลายแห่งของรัฐโกอาวีลา นวยโวเลอองและตาเมาลีปัสเพิ่มสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องสูบน้ำออกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ผู้ประสานงานการคมนาคมเปิดเผยว่า บ้านเรือน 40,000 หลัง ในรัฐโกอาวีลา ได้รับความเสียหาย ขณะที่สะพานข้ามระหว่างประเทศ ซึ่งเชื่อมระหว่างรัฐเท็กซัส และรัฐตาเมาลีปัส ถูกสั่งปิดเมื่อวานนี้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำริโอ แกรนด์ เพิ่มสูงกว่า 10 เมตร อย่างไรก็ตาม สะพานระหว่างประเทศอีก 2 แห่ง ยังคงเปิดให้บริการ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่

ประชาชน 3,500 คน อพยพออกจากบ้านเรือนในรัฐตาเมาลีปัส ขณะที่น้ำจากเขื่อนหลายแห่งเอ่อล้น สร้างความหวาดวิตกว่า อาจทำให้เกิดน้ำท่วมในชุมชนชนบทหลายแห่ง นับจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของทางการได้อพยพประชาชน 22,000 คน ออกจากเมืองแห่งหนึ่ง ในรัฐนวยโวเลอองแล้ว เนื่องจากหวาดกลัวว่า น้ำในเขื่อนแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงจะเอ่อล้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เปิดเผยว่า ประชาชนมากกว่า 100,000 คน ทั่วประเทศยังคงไม่มีน้ำดื่ม หลังเกิดพายุฝนหลายระลอกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วม และวุ่นวายในเมืองมอนเตร์เรย์ เมืองเอกของรัฐนวยโวเลออง

ทั้งนี้ ศูนย์รายงานสภาพอากาศของสหรัฐพยากรณ์ว่า จะเกิดฝนตกหนัก ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ และทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของเม็กซิโกในอีกไม่วันข้างหน้า
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เผยภาพนาทีชีวิตช่วยหญิงโคลอมเบียถูกกระแสน้ำพัด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 08-07-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สำนักข่าวท้องถิ่นในโคลอมเบีย เผยภาพนาทีชีวิตขณะช่วยหญิงโคลอมเบีย 2 คน ที่กำลังถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากพัด หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ภาพกระแสน้ำที่กำลังไหลทะลักเข้าท่วมท้องถนนในเมืองบารันคิลล่า ประเทศโคลอมเบีย เมื่อ 2 วันก่อนหลังจากเกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำไหลทะลัก เข้าท่วมเมืองอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น สามารถจับภาพ การช่วยชีวิตหญิงโคลอมเบีย 2 คน ที่ติดอยู่ในรถ และกำลังจะถูกกระแสน้ำ ที่เชี่ยวกรากพัดพาไปได้ ซึ่งเคราะห์ดีผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ช่วยชีวิตทั้งคู่ได้ทัน ผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง เล่าถึงประสบการณ์ที่น่ากลัวครั้งนี้ว่า เธอสามารถจับเชือกได้ทัน และต้องขอขอบคุณชายคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้น และช่วยเธอไว้ได้

พยากรณ์อากาศโคลอมเบีย คาดว่าอากาศจะร้อนต่อไปอีก และมีความเป็นไปได้ว่า จะเกิดพายุฝนอีกระลอก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• "คลื่นความร้อน" แผ่ขยายไปทั่วยุโรป เตือนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยหอบหืด เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย มติชนออนไลน์ [ 10-07-2553 | 15:41:29 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานถึงสถานการณ์คลื่นความร้อนในทวีปยุโรป ยังไม่มีวี่แววว่าจะผ่อนคลายลง หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้อุณหภูมิในช่วงกลางวันจะพุ่งสูงถึง 31 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิจะไม่ลดลงต่ำกว่า 20 องศาฯ ในเวลากลางคืน ซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้ อาจส่งผลให้ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคปอด และหอบหืดเรื้อรัง ประสบความลำบากมากยิ่งขึ้น

โดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขของยุโรป ได้เปิดเผยข้อมูลว่าพบผู้เสียชีวิต จากเหตุคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังร้อนอยู่อย่างคงที่ และสูงกว่าเฉลี่ยทั่วไป ในช่วงฤดูกาลนี้ของปี โดยเมื่อปี 2003 ที่ผ่านมาพบผู้เสียชีวิตสูงกว่า 30,000 คน ทั่วทั้งทวีปยุโรป จากเหตุการณ์คลื่นความร้อน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในปี ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดปีหนึ่ง โดยในประเทศฝรั่งเศส พบว่าอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาฯ ติดต่อกันเป็นเวลาถึง 7 วันติดต่อกัน และในเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ในเมืองอย่างเบอร์ลิน, วอร์ซอว์, มอสโคว์, เคียฟ และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่เคยมีอากาศหนาวจัดถึงขั้นติดลบในฤดูหนาว อาจมีอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 33- 36 องศาฯ ในขณะที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน พบว่าอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 40 องศาฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

นางอีวอน ดอยล์ ผู้อำนวยการสาธารณสุขแห่งภูมิภาคและที่ปรึกษา ด้านคลื่นความร้อนให้กับรัฐบาลอังกฤษ ได้กล่าวว่า คนหนุ่มสาวมักจะ ไม่ค่อยกังวล ในเรื่องนี้ มากนัก โดยพวกเขาเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้เฉลิมฉลอง หรือออกไปอาบแดด แต่สำหรับผู้สูงอายุแล้ว เป็นสาเหตุให้เกิดการเจ็บป่วย และเสียชีวิตได้ง่ายๆ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยุโรปยังร้อนจัด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 09-07-2553 | 04:59 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เป็นอีกครั้งหนึ่งที่หลายประเทศในแถบยุโรป กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน ที่แผ่เข้าปกคลุม โดยที่กรุงปารีส ของฝรั่งเศส มีอุณหภูมิสูงถึง 34 องศาเซลเซียสประชาชนและนักท่องเที่ยว ต่างรวมตัวกันตามสวนสาธารณะ เพื่อหากิจกรรมทำคลายร้อน ไม่ว่าจะเป็นรับประทานไอศกรีม ,ดื่มน้ำสะอาด ,เล่นน้ำพุ ซึ่งมีรายงานว่าขณะนี้ ปริมาณน้ำพุในเมืองหลวงอาจไม่พอ รองรับประชาชนที่เผชิญอากาศร้อนจัด เช่นเดียวกับที่กรุงโรม ของอิตาลี อุณหภูมิอยู่ที่ 33 องศาเซลเซียส ที่นี่เคยเจออุณหภูมิ สูงถึง 45 องศาเซลเซียสมาแล้ว เมื่อต้นสัปดาห์ และคาดว่าชาวสเปน อาจต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดขนาดนั้น ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• รัสเซียและโปแลนด์เผชิญผลกระทบคลื่นความร้อน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 11-07-2553 | 01:44 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ประชาชนในหลายเมืองของรัสเซียและโปแลนด์ต้องเผชิญกับ สภาพอากาศ ร้อนจัด อันเป็นผลจากภาวะคลื่นความร้อน ที่แผ่ปกคลุมหลายประเทศ ในทวีปยุโรป โดยที่กรุงมอสโกวของรัสเซีย ชาวเมืองพากันไปดับร้อน ที่น้ำพุใจกลางเมือง ขณะที่อุณหภูมิพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 32 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับในหลายพื้นที่ของโปแลนด์ ซึ่งช่วงนี้ถือเป็น ฤดูร้อน ที่ร้อนที่สุด เท่าที่เคยมีมา โดยอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 30 องศาเซลเซียส และคาดว่า ในพื้นที่ภาคตะวันตก อาจเพิ่มสูงถึง 33 องศาเซลเซียส ทางการต้องประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่ในบ้าน และหลีกเลี่ยงการออกไปกลางแดด และดื่มน้ำเยอะๆ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมดินถล่มจีนดับแล้วเกือบ30 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 10-07-2553 | 21:57:59 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ทางตอนใต้ของจีน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว เกือบ 30 คน ทางการเร่งอพยพ ประชาชนหลายหมื่นคน ออกจากพื้นที่เสี่ยง

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ได้เกิดเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม เนื่องจากพายุฝนที่พัดถล่ม พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 27 คน

โดยเมืองฉงชิง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ทางการต้องเร่งอพยพประชาชน ประมาณ 27,000 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย เพราะคาดว่า ยังจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 วัน
ทั้งนี้ 2 เดือนที่ผ่านมา ตอนใต้ของจีน เผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว เกือบ 400 คน มูลค่าความเสียหาย ประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ (ประมาณราว 33,000 ล้านบาท)
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ดินยุบตัวระนองเพิ่มอีก 20 หลุม

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย เนชั่นทันข่าว [ 11-07-2553 | 14:38 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หลังจากที่มีชาวบ้านในเขตพื้นที่ ม. 2 ตำบลในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง พบหลุมดินยุบตัวจำนวน 1 หลุม บริเวณสวนกาแฟของนายนายประสาท ทิพย์จักษุ บ้านคอกช้าง หมู่ที่ 2 ตำบลในวงเหนือ ขนาดหน้ากว้าง 3.5 ม. ลึกประมาณ 5 ม. เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2553 ที่ผ่านมา

ต่อมานายพงศพัศน์ เรืองระพีพรรณ นายอำเภอละอุ่น จ.ระนอง ได้นำผู้สื่อข่าว ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพบว่ายังพบว่า มีชาวบ้านแจ้งพบหลุมดินยุบตัวเพิ่มอีกจำนวน 10 บ่อ โดยทั้งหมดอยู่ในเขตพื้นที่ ม. 2 และ ม. 3 ต.ในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง โดยบางหลุมเป็นหลุมดินยุบตัวเก่า แต่พบว่ามีการยุบตัวเพิ่ม ส่วนบางหลุมพบเป็นหลุมขนาดใหญ่หน้ากว้างกว่า 10 ม.

ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าได้มีการพบหลุมดินยุบตัว ในเขตพื้นที่ ม. 2 ม.3 และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงในเขต อ.กระบุรี รวมอีกจำนวนประมาณ 20 หลุม รวมจนถึงขณะนี้มีการพบหลุมดินยุบตัว ในเขตพื้นที่ จ.ระนองแล้วกว่า 30 หลุม ทั้งหมดอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ละอุ่น กว่า 90% และ อ.กระบุรี โดยหลุมที่พบมีทั้งหลุมขนาดเล็ก,ขนาดกลาง และขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 20 ม. และแทบทั้งหมดเป็นหลุมดินเก่า ที่ยุบตัวมาก่อนหน้านี้ แต่พบว่ามีการยุบตัวเพิ่ม

นายพงศ์พัฒน์ เรืองระพีพรรณ นายอำเภอละอุ่น จ.ระนอง ซึ่งได้เดินทาง เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้ กล่าววิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ มีการยุบตัวของดินในเขตพื้นที่ จ.ระนองว่า โดยเฉพาะ อ.ละอุ่น ตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาหินปูน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ดินยุบตัว เนื่องจากด้านล่างจะเป็นโพรงของภูเขา บางพื้นที่ยังมีลำธารใต้ดิน ในแนวภูเขาไหลผ่าน เพื่อความชัดเจนทางตนได้นำข้อมูลรายงานจังหวัด เพื่อที่จะได้ประสาน ผู้เชี่ยวชาญ และมีความรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยา เข้าไปตรวจสอบ อย่างละเอียดอีกครั้ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>